คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : คลั่งรักไม่ไหว
บทที่ 5 คลั่งรักไม่ไหว
เหลียนฮวาดันอกพี่ชายให้รีบกลับบ้านไปได้แล้ว
เขาจะมาทำร้ายสามีข้าทำไมกัน น้ำหนักมือของคนทำงานหนักมาทั้งชีวิต ตบลงบนไหล่อันบอบบางของมู่เฉินจนสั่นไปทั้งตัว ภรรยาผู้หลงรักสามีตั้งแต่แรกพบ จึงรีบเข้าช่วยเขากัดมือพี่ชายไปหนึ่งที
“พูดมากอยู่ได้ รีบกลับไปได้แล้วเจ้าค่ะ ไว้ข้าจะไปหาท่านพรุ่งนี้ บอกท่านพ่อด้วยว่าไม่ต้องเข้าไปในไร่ ให้พี่ห้าเป็นคนทำแทนนะเจ้าคะ”
“โอ้ เจ้าโตแล้ว...น้องสาวข้ารู้จักเป็นห่วงท่านพ่อเสียแล้ว”
หยางเหลินภูมิใจในตัวน้องสาวมาก เขายกมือลูบหัวนางอย่างเอ็นดู แต่เหลียนฮวากลับดึงมือพี่ชายมากัด! เขาปล่อยให้น้องสาวกัดมือด้วยท่าทีสบาย ๆ เพราะกลัวนางเจ็บ ทว่าเห็นพี่ชายยอมง่าย ๆ เช่นนี้ก็ไม่สนุกเอาเสียเลยจึงยอมปล่อยมือเขา แล้วจ้องเขม็งให้เขารีบกลับไปเสียที
“ไปแล้ว ๆ ข้าไม่ขัดจังหวะพวกเจ้าแล้ว น้องเล็กสามีเจ้าร่างกายอ่อนแอ อย่าได้หักโหมนักเล่า”
“ข้ารู้แล้วน่า...”
กว่าจะไล่พี่ชายกลับไปได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกไม่น้อย หญิงสาวหันกลับมามองสามีก็เห็นเขายืนถือไก่อยู่ที่เดิม
ทว่าสายตาที่เขาจ้องมองมา...ดูจะคลั่งรักข้ากว่าเดิมอีก
คนผู้นี้ยังสติดีอยู่หรือไม่ ตัวข้ามีอะไรดีให้เขารักกัน?
“ท่านพี่ช่วยถอนขนไก่ให้ข้าที อ้อ พวกเครื่องในอย่าทิ้งนะเจ้าคะ ของเหล่านั้นมันกินได้ ข้าจะผ่าฟืนไว้ใช้ทำอาหารสักหน่อยฟืนหมดแล้ว”
หลังบ้านมีกองไม้ที่ยังไม่ได้ผ่าวางกองเต็มไปหมด เหลียนฮวารู้ดีว่าสามีป่วยอยู่ เมื่อเช้าก็ฝืนสังขารปีนไปซ่อมหลังคาท่ามกลางแดดร้อน ๆ แล้วคงจะเหนื่อยแย่ ขืนให้เขาเป็นคนออกแรงทำงานหนักต่ออีก ข้าจะกลายเป็นหม้ายเอาน่ะสิ
สองสามีสลับหน้าที่กัน สตรีถือจอบหนัก ๆ ผ่าฟืน ส่วนบุรุษหน้าหวานนั่งดึงขนไก่อยู่ข้างโอ่งทีละเส้น สายตาเหลือบมองภรรยาทำงานหนักจนเหงื่อตกด้วยสายตาเปล่งประกายเป็นระยะ
เหลียนฮวายกมือปาดเหงื่อมองฟืนที่ผ่าเสร็จแล้ว กองใหญ่เช่นนี้ยังต้องเอาไปเก็บในห้องเก็บฟืนอีก ดูจากปริมาณก็พอวางใจได้สักระยะคงใช้ได้เกือบอาทิตย์อยู่ หากข้าเข้าป่าไปล่าสัตว์สามีก็ยังมีฟืนไว้ใช้อยู่บ้าง
ร่างกายนี้แข็งแรงมากเสียจริง ยกขวานจาม ฉับ ฉับ ฉับ ตั้งนานยังไม่เหนื่อยสักนิดแค่หอบน้อย ๆ เท่านั้น หญิงสาวอดชื่นชมร่างกายอันแข็งแกร่งของตัวเองไม่ได้ ดีจริง...ไม่ได้มีดีแค่แข็งแรง แต่ยังอึ๋มสุด ๆ อีกนางชอบตรงส่วนนี้มาก ภูมิใจที่เกิดมาได้แม่เต็ม ๆ คนเดียว
คืนนี้ข้าจะใช้เรือนร่างอันเย้ายวนนี้เผด็จศึกสามี!
นอกจากใบหน้าที่งดงามผิดแปลกจากชาวบ้านแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังไร้ที่ติ ยกเว้นเพียงนิสัยเกียจคร้านไม่ยอมทำงานบ้าน แม้ทำไม่เป็นก็ไม่ยอมเรียนรู้ ยังดีที่ยังมีคนหน้ามืดมาสู่ขอเป็นภรรยาอยู่
อันที่จริงเหลียนฮวาไม่ได้มีนิสัยเกียจคร้าน เพราะหน้าที่ของนางเมื่อครั้งยังไม่แต่งงาน คือการล่าสัตว์กับพี่ชายคนโต นางจะคอยหาเนื้อให้คนในครอบครัวกิน งานบ้านจึงไม่เคยทำ เพราะส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตในป่า
แค่มีวิถีชีวิตแตกต่างจากผู้อื่น ชาวบ้านที่ไม่เข้าใจก็พากันคิดไปเองว่า สตรีจากตระกูลหยางขี้เกียจตัวเป็นขน คิดว่านางหมกตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ออกมาทำงานทำการให้เห็น จึงคิดว่านางขี้เกียจ แต่แท้จริงแล้วนางแค่กำลังทำงานหนักอยู่ในป่าต่างหาก
สาเหตุที่นางไม่พอใจเมื่อถูกบังคับแต่งงาน เป็นเพราะบุรุษในฝันต้องมีร่างกายกำยำ ตัวใหญ่ และแข็งแรงเหมือนหมี แต่สามีที่ได้มากลับอ่อนแอยิ่งกว่าสตรีเสียอีก
อีกอย่างอาหารการกินทุกมื้อของนางต้องมีเนื้อ ทว่ามาอยู่กับสามีคนนี้นางได้กินแต่ผัก! กินจนจะกลายเป็นกระต่ายอยู่แล้ว ฉะนั้นด้วยความคิด ความชอบ และความรู้สึกสวนทางกัน นางจึงอึดอัดและอยากหย่าใจจะขาด ใครใช้ให้บิดายัดเยียดนางให้บุรุษร่างกายอ่อนแอเช่นนี้เล่า!
นายท่านผู้เฒ่าหยางนั่นแหละที่ผิด!
ส่วนมู่เฉินนั้นเขาเป็นคนต่างถิ่น ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน รู้เพียงว่าเขามาอยู่หมู่บ้านนี้ตั้งแต่อายุสิบสี่ ปัจจุบันอายุยี่สิบปีห่างจากภรรยาห้าปี นับว่าอายุยังน้อยกันทั้งคู่ย่อมมีเรื่องให้เรียนรู้กันอีกมาก
สิ่งหนึ่งที่ทุกคนรู้เกี่ยวกับมู่เฉิน คือเขาตกหลุมรักเหลียนฮวาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน วันนั้นเขาร้อนมากจึงไปอาบน้ำที่ลำธาร ชายหนุ่มแก้ผ้าล่อนจ้อนกลางดึก คิดว่าไม่มีคนอยู่เพราะหลบเข้ามาอยู่ในป่าลึก แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีสตรีที่แก้ผ้าล่อนจ้อนเช่นกันโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ทั้งคู่เผชิญหน้ากันสักพักมือของนางก็คว้าจับกล่องดวงใจของเขาไว้แน่นคิดว่าเป็นปลา...
เหตุการณ์ชุลมุนทันทีหลังเข้าใจผิดกัน เหลียนฮวาง้างหมัดชกหน้ามู่เฉินจนตาเขียว เพราะเหตุนี้บิดาของนางจึงบังคับให้บุตรสาวเพียงคนเดียวรับผิดชอบกับการกระทำครั้งนี้ ด้วยการแต่งงานกับมู่เฉิน
เรื่องราวของคนทั้งคู่ผิดแปลกไปจากคู่รักอื่นมากโข วันนั้นหากเหลียนฮวาไม่ไล่จับปลาไหลในน้ำ นางคงไม่ถูกบังคับแต่งงาน และหากมู่เฉินไม่อยากอาบน้ำกลางดึก คงไม่พบภรรยาตัวน้อยเช่นเดียวกัน
เหลียนฮวานึกขำเรื่องราวชีวิตของตัวเอง สักพักก็เพิ่งนึกได้ว่าต้องต้มน้ำแกงบำรุงร่างกายให้สามี ทว่าหันมาหาก็ไม่เจอแล้ว นางจึงเดินตามหาเขาในครัว ก็เห็นเขากำลังตักน้ำแกงขึ้นมาชิมรสชาติอยู่พอดี
“ภรรยาเจ้าหิวแล้วใช่หรือไม่”
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง กวักมือเรียกภรรยามาชิมน้ำแกงรสชาติจืดชืด มีเพียงกลิ่นหอมของไขมันจากตัวไก่ที่ลอยอยู่เหนือน้ำเท่านั้น
“อร่อยใช้ได้แล้วเจ้าค่ะ เรากินข้าวกันเถอะ ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า ข้าหิวจะแย่แล้ว”
นี่ก็ตกบ่ายเข้ายามเว่ยแล้ว (13.00 – 14.59 น.) ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ใช้แรงมาตั้งแต่เช้าไม่แปลกที่จะหิวมาก มู่เฉินดันภรรยาออกจากห้องครัวที่ร้อนระอุ ก่อนจะยกหม้อแกงไก่ร้อน ๆ ตามหลังมา เขาเลือกตักแต่เนื้อใส่ถ้วยยื่นให้ภรรยา ส่วนตัวเองกินเพียงน้ำแกงเท่านั้น
“หืม ท่านไม่กินเนื้อหรือ?”
“ข้ากินแค่นี้ก็อิ่มแล้ว ที่บ้านไม่มีอาหารอีกแล้ว เนื้อในหม้อเก็บไว้ให้เจ้ากิน”
เหลียนฮวารู้ว่าสามีรักตนมาก และนางก็ไม่อยากเอาเปรียบ จึงตักเนื้อใส่ถ้วยเขาด้วย ยืนกรานว่าหากเขาไม่กินนางก็จะไม่กิน มีขู่ด้วยว่าถ้าไม่กินคืนนี้เขาต้องนอนด้านนอกเหมือนเดิม ไม่ต้องกินมันแล้วเนื้อเนี่ย!
มู่เฉินหน้าแดงอีกแล้ว เขาเข้าใจผิดคิดว่าภรรยากำลังกลัวว่าเขาจะไม่มีแรงเข้าหอคืนแรกกับนาง ถึงได้ยอมแบ่งเนื้อที่หวงยิ่งกว่าชีวิตให้เขาเสียหลายชิ้น
หญิงสาวกินข้าวโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์ นางใช้มือหยิบน่องไก่ขึ้นมากัดเต็มปาก มืออีกข้างยกถ้วยน้ำแกงซดตาม นับว่าเขามีฝีมือไม่น้อย ใช้เวลาเข้าครัวไม่นานแต่กลับต้มไก่ป่าที่เหนียวติดฟัน! ให้เปื่อยนุ่มได้
ข้ายกหน้าที่พ่อครัวประจำบ้านให้ท่านก็แล้วกัน
“กินเสร็จแล้วข้าจะไปตกปลาสักหน่อย อย่างไรตอนนี้ท่านต้องกินไก่ให้หมดไม่ต้องเหลือเอาไว้ให้ข้า หากค้างทิ้งไว้มันจะไม่อร่อย มื้อดึกไว้กินน้ำแกงปลาก็แล้วกัน”
“พรุ่งนี้ข้าจะลองเข้าป่าดู เผื่อได้สัตว์เล็กมาขายแลกข้าว ท่านพี่ไม่ต้องห่วง อยู่กับข้าท่านไม่มีวันอดตายแน่นอน เรื่องปากท้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า ส่วนท่านรับผิดชอบเรื่องงานบ้านไป ข้าทำไม่เป็นเจ้าค่ะ”
เหลียนฮวาบอกแผนการของวันนี้ให้สามีรับรู้
“ข้าไปด้วย...” มู่เฉินขอตามไปด้วย เหลียนฮวาเองก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว มีคนคอยอยู่ข้าง ๆ จะได้ไม่เหงา
หลังจากกินข้าวเสร็จ เหลียนฮวาก็ช่วยสามีเก็บจานไปล้าง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดถ้วยดินถึงได้แตกหักเป็นสองท่อนคามือ ข้าออกแรงเบามาก สงสัยต้องเปลี่ยนเครื่องครัวใหม่มันเก่าเกินไปแล้ว
หญิงสาวไม่โทษตัวเอง แต่กลับโยนความผิดให้เครื่องครัวที่เก่าแล้วรับผิดแทน มู่เฉินถือหม้อตามมาทีหลัง เหลียนฮวาก็รีบโยนหลักฐานทิ้ง จะให้สามีเห็นไม่ได้ว่าขนาดแค่ล้างจานนางยังทำไม่ได้!
“ข้าล้างเอง เจ้าไปนั่งพักผ่อนเถอะ”
“ช่วยกันดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านอย่าแบ่งแยกสิเจ้าคะ”
เหลียนฮวามีหน้าที่หยิบถ้วยชามที่ล้างแล้วไปเก็บ สองสามีภรรยาช่วยกันเช็ดโต๊ะทำความสะอาดบ้านอีกรอบ และด้วยพื้นที่บ้านมีน้อยมาก ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ทำความสะอาดเสร็จแล้ว
ยังมีเวลาเหลืออีกมากกว่าฟ้าจะมืด หญิงสาวจึงชวนสามีไปนอนพักกลางวัน จัดแจงที่นอนได้นางก็หันข้างพลิกตัวไปกอดก่ายเขา
“ขอนอนพักกลางวันสักหน่อย แล้วค่อยไปตกปลานะเจ้าคะ” ภรรยาตัวเล็กขยับใบหน้ามุดหาที่นอนสบาย ๆ พูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“อืม...นอนเถอะ”
มู่เฉินลูบหลังภรรยากล่อมนางนอน ความใกล้ชิดและท่าทางของคนทั้งคู่ดูเป็นธรรมชาติมาก ไม่เหมือนคนนอนด้วยกันครั้งแรก คงรู้สึกสนิทกันมากขึ้นตั้งแต่จูบเมื่อตอนกลางวันสินะ...
ความคิดเห็น