ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุมิติเพื่อความร่ำรวย มีE-BOOK

    ลำดับตอนที่ #7 : สำรวจบ้านและร้านส้มตำ 1

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 66


    ตอนที่ 4 สำรวจบ้านและร้านส้มตำ

    ชาวบ้านคนหนึ่งอาสาพาจูจูไปส่งที่บ้าน นางเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารักอยู่ในวัยใกล้ปักปิ่น ตอนเจอจูจูครั้งแรกนางรู้สึกทึ่งมาก ภาพของสตรีนางหนึ่งวิ่งไล่ตามเกวียนเทียมวัวอย่างเอาเป็นเอาตาย

    ชาวบ้านที่กำลังทำงานอยู่ในไร่ในทุ่งนาต่างชะเง้อคอมองตามนาง พลางหัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง แต่แค่รู้สึกตลกนิดหน่อยเท่านั้น

    “แม่นาง เจ้าเป็นคนจากที่ไหนหรือ บอกข้าได้หรือไม่?”

    “เอ่อ...ข้ามาจากดินแดนอันห่างไกล ไกลเสียจนอยากจะกลับก็กลับไปไม่ได้อีก แล้วนี่คุณ เอ่อ เจ้าชื่ออะไรเหรอ ไม่สิ ๆ เจ้าชื่ออะไรรึยังดูเด็กอยู่เลย”

    “ข้าชื่อมี่กวาง อายุสิบห้าปีแล้ว ข้าไม่เด็กแล้วนะ อีกไม่นานคู่หมั้นของข้าจะพาครอบครัวมาสู่ขอข้าที่บ้าน”

    เด็กสาวพูดด้วยท่าทางเขินอาย นางใกล้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ผิดกับจูจูที่กำลังกลอกตามองบน เหม็นกลิ่นคนมีความรัก

    ฉัน ไม่สิ แทนตัวเองว่าข้าเลยดีกว่าจะได้ชิน อะแฮ่ม ข้าน่ะอายุยี่สิบกว่าแล้วเถอะ แต่แฟนยังไม่เคยมีสักคน ต่างจากเด็กนมเพิ่งตั้งเต้าที่ใกล้จะมีสามีแล้ว

    “อ้อ ๆ เช่นนั้น ฉัน เอ๊ย ข้าขอให้เจ้ามีความสุขมาก ๆ หากเจ้ามีเวลาว่างอีกสักครึ่งชั่วยาม ช่วยมาหาข้าที่บ้านได้หรือไม่ ข้ามีเรื่องอยากจะสอบถามเจ้าอยู่หลายเรื่องเลย”

    ส้มแจ่มก้มมองนาฬิกาข้อมือ ที่นางพกติดตัวอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่โลกเดิม จะให้มองเวลาจากบนฟ้ามีหวังนัดได้ล่มพอดี

    เดินมาจนถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวหมู่บ้านอยู่พอสมควร แต่ยังพอเห็นหลังคาบ้านคนอยู่

    ส้มแจ่มมองหญ้าที่รกชัฏ ดูท่าแล้วจะไม่มีเวลาว่างให้นั่งคิดมากอีก คงต้องรีบจัดการทำความสะอาดบ้านให้เสร็จก่อนที่ฟ้าจะมืด

    นางเห็นว่าที่หน้าบ้านมีดอกเหมยสีขาวขึ้นปกคลุมกลายเป็นรั้ว ไม่มีช่องว่างให้มองลอดเข้าไปด้านใน ต้องสูงสักร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรขึ้นถึงจะมองผ่านรั้วเข้าไปในตัวบ้านได้ ติดแค่ประตูรั้วที่เตี้ยเกินไป ทำให้ไม่มีความเป็นส่วนตัว แต่เรื่องนี้ไม่ยากหรอก ลูกชาวอีสานอยู่แล้วสร้างประตูไม้ไผ่เองได้ง่าย ๆ

    มี่กวางดีใจมากที่จูจูชวนนางมาเที่ยวเล่นที่บ้านด้วย เพราะในหมู่บ้านแห่งนี้เด็กสาวแต่งออกไปอาศัยอยู่บ้านสามีที่หมู่บ้านอื่นกันหมด เหลือเพียงแค่หนุ่มโสดกับสตรีที่ยังไม่ปักปิ่นเท่านั้นที่ยังอยู่

    แต่เดิมมี่กวางไม่มีเพื่อนคุยเล่น พอจูจูเอ่ยปากชวนนางถึงได้ดีใจมากเป็นพิเศษ

    “ข้าว่างอยู่พอดี ให้ข้าอยู่ช่วยเจ้าหรือไม่เล่า คนบ้านเดียวกันต้องช่วยเหลือกันสิ ท่านแม่บอกข้าอยู่เสมอน่ะ”

    “ไม่เป็นไร ๆ ข้าเกรงใจ ไว้เราค่อยเจอกันอีกทีดีกว่า อยู่คนเดียวข้าจะได้คิดทบทวนเรื่องอื่นได้ด้วย อ้อ ๆ ข้าอายุมากกว่า เจ้าเรียกข้าว่าพี่สาวก็ได้นะ”

    “ตกลงเจ้าค่ะพี่สาว บ้านของข้าอยู่หลังนั้น ที่มีขวานผูกไว้ด้านหน้า ท่านพ่อข้าเป็นช่างตีเหล็กประจำหมู่บ้าน ไม่อยากจะบอกว่าเป็นเจ้าเดียวในละแวกนี้ที่รับตีเหล็ก หากต้องการความช่วยเหลือ ก็ไปตามข้าได้เลยเจ้าค่ะ”

    มี่กวางพยักหน้ารับเข้าใจว่า จูจูต้องการความเป็นส่วนตัว นางโบกมือลาจะกลับมาอีกทีตามเวลาที่ได้นัดไว้ เหมยฮวาโบกมือกลับตั้งใจจะผูกมิตรกับเด็กคนนี้ไว้

    ช่างตีเหล็กอย่างนั้นหรือ...นางเป็นลูกคนรวยสินะ

    รอจนหญิงสาวเดินเข้าไปในบ้านแล้ว จูจูถอนหายใจเฮือกใหญ่เปิดประตูรั้วเก่าเก็บเดินเข้าไปในตัวบ้าน

    บ้านของนางเป็นบ้านไม้ที่มีลานหน้าบ้านเล็ก ๆ พร้อมกับแคร่ไม้ไผ่ตั้งไว้ให้นั่งเล่น ทางหลังบ้านเป็นลานกว้างที่มีบ่อน้ำอยู่ในตัวและห้องครัวโล่ง ๆ แยกกับตัวบ้าน ยังไม่มีเครื่องครัวสงสัยต้องจัดเตรียมเอง

    หญิงสาวเดินผ่านดงหญ้าสำรวจรอบบ้าน หากทำความสะอาดเสร็จแล้วคงจะน่าอยู่ไม่น้อย บรรยากาศรอบข้างร่มรื่นมาก มีกลิ่นอายของธรรมชาติ

    ถ้าอย่างนั้นก็ถือซะว่ามาเที่ยวพักผ่อนจิตใจก็แล้วกัน เงินแค่สามล้านสามแสนตำลึง ใช้เวลาสามปีก็หมดแล้ว

    จูจูหารู้ไม่ว่าก้อนเงินตำลึงทองที่นางพูดถึง คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านนี้ยังไม่เคยได้จับเลยสักครั้ง งานนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้ว

    แต่ก่อนบ้านของส้มแจ่มก็อยู่บ้านนอก ความเจริญเข้าไม่ค่อยถึงอยู่แล้ว พอมาใช้ชีวิตเป็นจูจูอยู่ที่นี่ทำให้ปรับตัวไม่ยากเท่าไหร่นัก

    ภาษาก็พอถูไถไปได้บ้าง ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดจีนได้ตอนไหน แต่การอ่านเขียนนี่สิเป็นเรื่องยาก ขนาดลองนึกถึงตัวอักษรจีนที่เคยเห็นผ่านตาตามทีวียังแปลไม่ออกเลย แสดงว่าเราพูดได้อย่างเดียวแต่อ่านเขียนไม่ได้สินะ

    ช่างมันเถอะ เรื่องพวกนี้เรียนรู้กันได้ ก่อนอื่นเข้าไปสำรวจด้านในบ้านก่อนดีกว่า

    บ้านไม้ไผ่ที่ดูเก่าแต่ก็ยังแข็งแรง เป็นบ้านที่ยกพื้นสูงเล็กน้อย เหมาะแก่การให้งูมาอยู่อาศัยเป็นเพื่อนบ้านกันยิ่งนัก

    หญิงสาวเปิดประตูเข้าไป ด้านในตัวบ้านมีโถงโล่ง ๆ ขนาดพอ ๆ กับห้องนอนใหญ่หนึ่งห้อง มีเตียงไม้ไผ่ให้ มุ้ง หมอน ผ้าห่ม ที่ว่ามานั้น...

    ไม่มีเลยสักอย่าง...มีแต่เครื่องเรือนไม้เปล่า ๆ

    “ไหนของที่ฉัน...ไม่สิ ๆ ...ไหนของที่ข้าขอไปเล่า มันอยู่ไหนกัน เดินสำรวจรอบบ้านแล้วไม่เห็นเจออะไรสักอย่าง โอ๊ย! อะไรอีกเนี่ย”

    จูจูกำลังบ่นจู่ ๆ ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ปลายนิ้ว นางเพิ่งเห็นว่าตรงนิ้วชี้มีรอยสักดอกเหมยสีขาวเล็ก ๆ ประทับอยู่ มันเปล่งแสงรับกับพื้นไม้ข้างเตียง

    หรือว่าจะเป็นห้องลับ...หญิงสาวเดินไปนั่งเคาะ ๆ อยู่ที่พื้น สักพักพื้นก็เด้งเปิดขึ้นเป็นทางเข้าลงไปยังห้องใต้ดินจริง ๆ ด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×