คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ยาแก้ไข้เด็ก
บทที่ 6 ยาแก้ไข้เด็ก
“ระบบอยู่แถวนี้ไหม เอ๊ย ต้องถามอย่างไรล่ะเนี่ย ระบบข้าขอซื้อยาแก้ไข้ชนิดน้ำสำหรับเด็กได้หรือไม่ ขอรสสตรอว์เบอร์รีนะที่กินง่าย ๆ”
นานมากแล้วที่เคยกินยาน้ำสำหรับเด็ก นานจนลืมความรู้สึกนั้นไปแล้ว ฟางเหนียงจึงต้องสั่งยาละเอียดหน่อย แม้เงินจะมีน้อยต้องใช้ให้ประหยัดที่สุด แต่กับยาลูกข้ายอมจ่าย
ไม่ทันไรก็กลายเป็นแม่ที่มีจิตสำนึกแล้วเรา ก็นะเห็นเด็กที่ควรอยู่ในวัยอวบอ้วนวิ่งเล่นมานอนซมเพราะพิษไช้เช่นนี้ ใครจะไปทนดูไหวกัน
หนึ่งร้อยตำลึงทองใครว่าน้อย มันนำไปสร้างบ้านหลังใหญ่สร้างจวนหรู ๆ ก็ยังได้ ซื้อที่ดินได้เป็นร้อยหมู่ ลูกคุณหนูจากโลกอนาคตหารู้ไม่ว่าเงินที่ยืมมา นางต้องทำงานถวายชีวิตถึงจะมีเงินใช้หนี้ได้จนหมด
[เจ้าค่ะนายหญิง]
สิ้นเสียงรับคำสั่ง ก็มีขวดยาลดไข้สำหรับเด็กวาร์ปมาวางไว้ที่หัวเตียง
[ยาไม่เป็นอันตราย ให้คุณชายน้อยกินหมดขวดเลยเจ้าค่ะ หากหมดแล้วขวดจะหายไปเอง เพื่อไม่ให้มีขยะแปลกปลอมหลงเหลือในมิตินี้”
“สุดยอดมาก มีเก็บขยะให้ด้วย”
ฟางเหนียงไม่รอช้า รีบเปิดขวดยาประคองให้เด็กชายตัวน้อยดื่ม
“เด็กน้อยนี่คือน้ำหวาน เธอ...เจ้าดื่มซะนะจะได้หายป่วยเร็ว ๆ พี่ชายของเจ้าจะได้ไม่เป็นห่วง”
ตงหยางน้อยค่อย ๆ ปรือตามอง พยายามสอดส่ายสายตามองหาเจ้าของเสียงหวาน ๆ
เขานึกว่านี่เป็นความฝัน ที่มีเทพธิดาลงมาประทานพรให้แก่เขา
“เจ็บเหลือเกินขอรับ”
เด็กชายตัวน้อยพยายามอธิบาย ถึงอาการเจ็บป่วยให้เทพธิดารับรู้ ตัวเขายามนี้ร้อนรุ่มดั่งไฟ สักพักก็รู้สึกเหมือนถูกคนเอาน้ำเย็นจัดมาสาดใส่จนทรมาน
“ดื่มน้ำหวานเข้าไป นอนหลับหนึ่งตื่น เจ้าจะไม่เป็นอะไรแล้ว”
มืออวบจับขวดยาประคองที่ปากของบุตรชาย เขายอมดื่มมันเข้าไป พอได้สัมผัสรสหวานของยาก็ไม่ปฏิเสธ กลับกระดกดื่มอย่างกระหาย
“ดื่มยาเสร็จแล้วนอนซะนะคนเก่ง อีกไม่นานก็หายแล้วนะลูก ตื่นมาเจ้าจะได้กินข้าวอิ่มท้อง ต่อจากนี้ไปข้าจะเลี้ยงดูพวกเจ้าเอง”
“ท่านแม่ข้าได้น้ำมาแล้ว ขอเข้าไปด้านในได้หรือไม่ขอรับ”
“เข้ามาสิ”
ฟางเหนียงยังคงอุ้มบุตรชายคนเล็กเอาไว้อยู่ ส่วนขวดยาในมือได้หายไปแล้ว หลังสิ้นเสียงคำอนุญาตประตูก็ถูกเปิดออก ด้านหลังเจ้าสามมีพี่ชายของเขาถือถ้วยข้าวต้มอยู่
เสร็จเร็วดีจัง
“เจ้ารองมาก็ดีแล้ว มาช่วยดูแลน้องแทนแม่ทีนะ แม่จะไปทำความสะอาดห้อง แล้วจะไปดูว่าผ้าแห้งรึยัง วันนี้ให้น้อง ๆ ของเจ้ามานอนกับแม่ก่อน ห้องนี้ฝุ่นเยอะเกินไปจะพากันป่วยหนักเอาได้”
“ขอรับท่านแม่”
หลังจากกินยาไปสักพัก อาการของเด็กน้อยก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว สิ่งที่ควรกังวลในตอนนี้ คือจะนอนกันอย่างไรดี ถ้ามัวแต่โอ้เอ้อยู่เช่นนี้ไม่ลงมือทำความสะอาดสักที สุดท้ายจนฟ้ามืดก็ต้องนอนห้องรก ๆ เหมือนเดิม
หลังจากมีผงซักฟอกกับน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว ผ้าห่มที่ซักไว้ก็ต้องซักใหม่ นี่สินะที่เรียกว่าคนชอบหางานให้ตัวเอง
มีลูกให้เลี้ยงทีเดียวถึงสี่คน แม่เลี้ยงคนนี้ปวดหัวมากนะ
คนที่ส่งข้ามาเนี่ยช่วยดูด้วยว่า สิ่งที่ท่านวาดฝันไว้ อีช้อยคนนี้จะสานต่อไปรอดได้ไหม มัดมือชกขนาดนี้มันกดดันจนทำตัวไม่ถูกแล้วเนี่ย
แม้ปากจะบ่นพึมพำไร้เสียง อย่างไรก็ต้องลุกไปทำความสะอาดอยู่ดี หน้าห้องมีถังน้ำและสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไม้กวาดเตรียมไว้ให้อยู่ก่อนแล้ว
สตรีร่างท้วมถกแขนเสื้อ เตรียมลงมือเก็บของในห้องออกมาวางไว้ที่โถงรับแขกก่อน มีทั้งลังไม้ใส่เสื้อผ้าของบุรุษที่ถูกปิดไว้อย่างดี ข้าวของเครื่องใช้สตรี เก็บไปเก็บมาดันเจอแมลงสาบตัวเท่าฝ่ามือ
แต่ข้าไม่กลัวหรอก วันนี้คือวันตายของเจ้า!
เสียงคนกระทืบเท้าดังปัง! ทำเอาคนที่อยู่ในบ้านสะดุ้งอีกรอบ แมลงสาบเจ้าปัญหาถูกปลิดชีพใต้เท้าของฟางเหนียงเสียแล้ว
ม่านหน้าต่างถูกปลดออกนำไปกองไว้หลังบ้านเตรียมซักพรุ่งนี้
เก็บของออกหมดแล้ว ก็ได้เวลาปัดฝุ่นทุกซอกทุกมุม ใต้เตียงยกไม่ขึ้นก็ต้องยอมมุดเข้าไปเช็ดถู แต่ตัวใหญ่เกินไปจึงเข้าไม่ได้ หันซ้ายหันขวาก็เจอเจ้าหนูซีซวนอยู่ใกล้ ๆ จึงวานให้เขามุดแทน
เด็กน้อยเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี มือน้อย ๆ เช็ดฝุ่นตามร่องไม้ มีผ้าปิดจมูกที่มารดามัดให้กลายเป็นผู้ช่วยชั้นดี
แค่จัดการกับฝุ่นก็ใช้เวลาไปนานมาก กว่าจะได้ถูพื้นที่เปลี่ยนน้ำไปถึงสามรอบเสร็จ เซี่ยเหิงก็เข็นรถลากเข้ามาในบ้าน ยืนเท้าสะเอวมองอยู่ตรงประตูเสียแล้ว
เขามองน้องชายและมารดาช่วยกันทำความสะอาด จนสภาพแต่ละคนแทบดูไม่ได้
“ข้าซื้อของที่ท่านต้องการมาหมดแล้ว จะให้ข้าเอาของไปให้ที่บ้านสกุลเดิมของท่านด้วยหรือไม่”
ปกติแล้วหากมีของดีอะไร ฟางเหนียงจะชอบใช้บุตรชายคนโตให้นำไปให้ที่บ้านสกุลเดิมทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเปลี่ยนไปแล้วน่ะสิ
ก็ภายในร่างอวบอ้วนนี้ ไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของเขาแล้วนี่นา นางไม่สนใจครอบครัวที่เกาะเหมือนปลิงพวกนั้นหรอก
“จะให้ทำไม เอาไว้เลี้ยงพวกเจ้าให้อวบอ้วนเหมือนข้าดีกว่า ถ้ามีใครมันกล้าคัดค้าน ข้าจะใช้ไม้ไล่ตีให้เลือดอาบเลย อยากมีอยากได้ก็ต้องลงมือทำเองสิ มาขอคนอื่นอยู่ได้”
“เจ้าใหญ่ไปพักเหนื่อยเถอะ แล้วแยกเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับกองกันไว้นะ เอาเสื้อผ้าของเจ้ามารวมด้วยก็ได้ พรุ่งนี้มีงานใหญ่รออยู่ เอ๊ะ แล้วนี่เงินทอนเล่า เหลือกลับมาบ้างหรือไม่?”
“ข้าซื้อของมาหมดแล้ว รวมถึงค่ายาของน้องเล็กด้วย”
“อ้อ ไม่เป็นไร ดีแล้ว ๆ ไปพักเถอะไป”
เงินสองร้อยอีแปะคนทั่วไปต้องทำงานเกือบเดือนเพื่อแลกมันมา แต่เซี่ยเหิงใช้มันหมดแล้วในวันเดียว เขาซื้อข้าวมาหนึ่งกระสอบใหญ่ เกลือครึ่งไหเล็ก เนื้อสัตว์อีกหลายชิ้นใหญ่ ๆ ยังมีผักอีกเต็มคันรถ เรียกได้ว่าใช้เงินไปหมดแล้วจริง ๆ
เงินบางส่วนที่เหลือก็นำไปจ่ายค่ายาของน้องเล็กที่ติดไว้ แล้วแวะซื้อยาห่อใหม่มาเพิ่ม เขายอมรับสภาพยืนรอให้มารดาด่า แต่นางไม่สนใจ
“ท่านไม่ด่าข้าหรือ?”
“เจ้าทำผิดอะไรข้าถึงต้องดุเล่า อย่ามาเซ้าซี้เลย ข้าไม่ว่าหรอก แต่จะว่าแล้วถ้ายังไม่มาช่วยทำความสะอาด”
“...”
“ข้าถูพื้นเสร็จ จะเข้าครัวไปทำอาหารให้พวกเจ้ากินสักหน่อย”
เซี่ยเหิงเดินทางกลับมาเหนื่อย ๆ แต่ก็เตรียมรับคำด่าจากมารดาเต็มที่ พอทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ก็ได้แต่ยืนเกาหัวแกรก ๆ ด้วยความมึนงง
ขนาดเดินไปแยกเสื้อผ้าที่ห้องโถงตามคำสั่ง เขาก็ยังรู้สึกแปลกใจไม่เลิกว่าทำไมถึงไม่ถูกด่า
หลังจากทำความสะอาดมาหนึ่งชั่วยามเต็ม ห้องที่โสโครกขนาดหมูยังไม่กล้าอยู่ ก็กลับมาเป็นห้องนอนของคนงามเหมือนเดิมแล้ว
ฟางเหนียงยืนมองผลงานด้วยความพึงพอใจ วันนี้ไม่ได้งานเป็นชิ้นเป็นอันเลยแค่อาบน้ำ ซักผ้า ทำความสะอาดห้อง ก็หมดเวลาไปวันหนึ่งแล้ว แม้แต่บ้านก็ยังไม่ได้สำรวจ เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลาก่อนฟ้ามืด
“เดี๋ยวข้าไปทำอาหารให้กินนะ หิวกันรึยัง?”
“ข้าช่วยขอรับท่านแม่”
“หืม ไม่เหนื่อยหรือ เจ้าช่วยทำความสะอาดไปแล้วนะ เด็กเล็กไม่ควรอยู่ใกล้ไฟรู้หรือไม่ เจ้าใหญ่วางงานในมือ แล้วเข้าไปช่วยในครัวเถอะ ของที่อยู่ในรถเข็น ทำไมไม่หาที่เก็บให้เรียบร้อย”
เซี่ยเหิงเพิ่งนึกได้ว่า ยังไม่ได้เอาของที่ซื้อมาไปเก็บให้เรียบร้อยดี เพราะมัวแต่อึ้งที่ไม่ถูกมารดาด่า สมองก็เลยเบลอไปหน่อย
“จุดไฟรอไว้เลย ข้าล้างมือก่อน”
อาหารมื้อเย็นวันนี้ ฟางเหนียงตั้งใจทำมื้ออาหารง่าย ๆ อย่างไข่เจียวทอดกรอบ ๆ ผัดผักรวม แล้วก็หมูผัดซอสหอยนางรม ยังมีต้มยำหมูก้อนไม่เผ็ดให้ซดร้อน ๆ อีก
เครื่องปรุงก็แอบซื้อเก็บไว้ในลังไม้ ที่ตั้งอยู่ที่ห้องโถงก่อนทำความสะอาดห้อง แอบซ่อนไว้ตอนที่ลูก ๆ ไม่สังเกตเห็น ล้างมือเสร็จก็ถือหีบเครื่องปรุงเดินเข้าครัว ทำเหมือนว่ามีของพวกนี้อยู่ก่อนแล้ว
“เจ้าหุงข้าวนะ ที่เหลือเดี๋ยวข้าทำเอง”
เซี่ยเหิงนั่งจุดไฟไม่พูดอะไร ส่วนมารดาก็เดินถือหม้อดินไปที่ห้องเก็บของข้างห้องเก็บฟืน ซึ่งเป็นที่ใช้เก็บอาหารแห้งอย่างข้าวสาร เพราะหากนำไปเก็บไว้ที่ชั้นใต้ดินที่ชื้นมากเกินไป ข้าวจะกลายเป็นเชื้อราได้
เครื่องปรุงพร้อม ผู้ช่วยพร้อม ร่างอวบจึงเริ่มลงมือทำอาหาร
เริ่มทำอาหารง่าย ๆ อย่างไข่เจียวก่อน ในครัวมีหม้อดินอยู่สองใบ ลูกเอาไปหุงข้าวหนึ่งใบ เหลืออีกหนึ่งใบไว้ใช้ทำอาหาร
ห้องครัวไม่ได้เล็กหรือใหญ่มาก มีเตาฟืนสองเตา มีชั้นไว้ให้เก็บของ ภายในชั้นว่างเปล่า เดาว่าที่ผ่านมาเด็ก ๆ คงไปอาศัยขอข้าวที่บ้านปู่ย่าในหมู่บ้านเพื่อประทังชีวิต
แต่การไปรบกวนบ้านใหญ่มากก็ไม่ดี ท่านพ่อของพวกเขาแยกบ้านแยกครอบครัวออกมาแล้ว ดังนั้นสองสามวันเด็ก ๆ ถึงไปขอฝากท้องที วันอื่น ๆ ก็กินผักต้มที่เก็บมาจากในป่าเอา
“ท่านทำอะไรน่ะ!!”
เซี่ยเหิงหันมาเห็นมารดาเทน้ำมันใส่หม้อไม่ยั้งมือ ก็ร้องเสียงหลงจนฟางเหนียงเกือบทำไหน้ำมันตก
“อะไร ทำไม มีอะไรเกิดขึ้น!”
“ท่านใช้น้ำมันเยอะเกินไปแล้ว”
“ข้าเทนิดเดียวเองนะ ทอดไข่ใส่น้ำมันน้อยมันก็ไม่กรอบน่ะสิ”
“ท่านจะทำไข่ทอด?”
“ใช่”
สองแม่ลูกยืนมองหน้ากัน คนลูกกลัวมารดาใช้ของสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ส่วนคนแม่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด คิดแต่เพียงว่า...
ถ้าหวงเครื่องแล้วอาหารมันจะอร่อยได้อย่างไร!
“ข้าไม่เคยได้ยินว่าเคยมีใครเอาไข่มาทอด อีกอย่างน้ำมันไหนี้ข้าซื้อมาตั้งห้าสิบอีแปะเชียวนะขอรับ”
“เก็บไว้ก็เอาไปสู่ขอเมียให้เจ้าไม่ได้หรอก อย่าบ่นมากไปเลย รอกินดีกว่า เรื่องเงินไม่ต้องห่วงหรอกน่า ถ้าสุขภาพข้าดีขึ้นแล้ว ข้าจะพาพวกเจ้าไปขายในเมือง”
เซี่ยเหิงฟังคำมารดาก็นึกโกรธจนหน้ามืด
ใครว่านางเปลี่ยนไป นางยังคงร้ายกาจเหมือนเดิม! ถึงขั้นคิดจะเอาพวกข้าไปขายในเมืองอีกแล้วหรือ
“ถ้าท่านกล้าก็ลองดู!”
ความคิดเห็น