คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : มิติร้านค้า 2
คนบังคับเกวียนสะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นสตรีแปลกประหลาดพุ่งพรวดออกมาจากป่า มานั่งอยู่กลางถนนแล้วร้องโอดโอยอย่างน่ากลัว เขากลัวว่าสิ่งที่เห็นจะไม่ใช่มนุษย์ ก็เลยเปิดผ้าม่านถามภรรยาที่กำลังนั่งป้อนนมบุตรอยู่ในเกวียนว่า เห็นเหมือนกันหรือไม่
“เซียนเออร์ ข้าเห็นสตรีนั่งอยู่กลางถนน แต่นางแต่งกายแปลกประหลาดยิ่งนัก ถึงแม้จะมิดชิดแต่ก็รัดเสียจนเห็นสัดส่วนร่างกาย ข้าไม่มั่นใจว่านางใช่คนหรือไม่ เจ้าช่วยดูให้ข้าทีว่าเห็นเหมือนกันหรือไม่?”
เซียนเออร์แม่ลูกสามวัยยี่สิบแปดปี ได้ยินที่สามีพูดนางจึงชะโงกหน้าออกมาดู ก็เห็นเหมือนกันจริง ๆ แต่นางไม่คิดว่าสตรีผู้นั้นจะเป็นผี
“นางน่าจะหนีอันตรายมา ท่านพี่มองดูรอบ ๆ สิมืดมิดเช่นนี้ หากไม่เจอคนก็ช่วยนางขึ้นมาก่อน”
“มันไม่อันตรายไปหน่อยหรือ ข้าว่ามันแปลก ๆ นะ”
เซียนเออร์ไม่พอใจกับความขี้ขลาดของสามี ลูกเต็มบ้านแล้วยังกลัวเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่ได้
อีกอย่างสตรีนางนั้นก็หน้าตางดงามยิ่งนัก แต่เขาไม่หลงใหลกับความงามของนาง เช่นนั้นข้าให้อภัยท่านก็แล้วกัน
“จะปล่อยให้นางอยู่คนเดียวได้อย่างไร ท่านรับนางขึ้นมาเถอะ”
“ไม่ได้”
มู๋เฉินกลัวมาก เขาจะตายตอนนี้ไม่ได้ ยังมีบิดามารดาที่แก่ชรา รวมถึงลูกเมียที่ต้องดูแล ต่อให้ต้องเป็นคนเห็นแก่ตัวเขาก็ยอม
ชายวัยกลางคนบังคับให้วัวเร่งฝีเท้า จากเดินเปลี่ยนเป็นวิ่งผ่านตัวส้มแจ่มมุ่งตรงกลับหมู่บ้าน
ส้มแจ่มตกใจกลิ้งตัวหลบ สักพักกลับฉุกคิดได้ว่า ระบบให้ตามวัวหรือม้าเนี่ยแหละไป ถึงจะเจอกับบ้านของนาง
“รอก่อนค่ะ โอ๊ย! จะรีบหนีไปไหนเนี่ย นี่คนนะไม่ใช่ผี”
หญิงสาวบ่นอุบ สุดท้ายเห็นว่าวัววิ่งเร็วเหมือนหนีผี เรียกอย่างไรก็ไม่หยุด จึงตัดสินใจสวมวิญญาณนักวิ่งสี่คูณร้อยตามหลังไป
มู๋เฉินเหลียวหลังหันมาดู เมื่อเห็นคนวิ่งตามฉับ ๆ เข้ามาก็ตกใจกลัวสุดขีด จึงทั้งบังคับทั้งออกปากสั่งให้วัวหนุ่มวิ่งหนีสุดชีวิตให้ขาหักไปเลย
“เสี่ยวไป่อดทนหน่อยนะ หากสกัดผีร้ายให้หลุดพ้นได้แล้ว ข้าจะเก็บผลไม้ป่ามาให้เจ้ากินทุกวันเลย”
วัวหนุ่มร้องรับตั้งหน้าวิ่งต่อ ส้มแจ่มเริ่มเหนื่อยแต่ไม่ท้อ สองข้างทางมีแต่ป่าหากพลัดหลงกับคนข้างหน้า อาจจะกลับบ้านไม่ถูกหรือไม่ก็หลงไปหมู่บ้านอื่น กลายเป็นคนไร้บ้านของจริงแน่ทีนี้!
หากอยากอยู่รอด คนเราก็ต้องสู้ชีวิต นั่นเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันดี แต่ให้คนขาสั้นมาวิ่งตามวัวอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนี้มันสู้ชีวิตไปไหม
นี่เบื้องบนเขาสนุกเหรอที่เห็นเราดิ้นรนเอาชีวิตรอดแบบนี้อะ
เอาเถอะ ใครก็ตามที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพนี้ ขอให้สำลักน้ำ ขอให้ข้าวติดคอไปสามปีเจ็ดเดือน!
ยามนี้เบื้องบนน่าจะต้องการยาแก้เจ็บคอโดยด่วน เมื่อเจอคำสาปแช่งของส้มแจ่มเข้าไป
เซียนเออร์เห็นคนวิ่งตามเกวียนวัวมา นางตกใจแต่ก็หยุดหัวเราะไม่ได้
ฮ่า ๆ ๆ
นางทำอะไรกันล่ะนั่น ข้าไม่เคยเห็นสตรีเช่นนางมาก่อน ขนาดนางยังดิ้นรนเอาชีวิตรอด ข้าที่เพิ่งกลับจากฝังศพบิดามารดามา ก็ควรเดินหน้าต่อเหมือนกันสินะ
ข้าไม่ได้เป็นแค่บุตรที่ต้องกตัญญูอย่างเดียวเท่านั้น แต่ข้าเป็นแม่คนและเป็นภรรยาของสามีด้วย
จู่ ๆ การสู้ชีวิตของส้มแจ่ม ก็ดันทำให้ใครบางคนมีกำลังใจฮึดสู้ขึ้นมา
โชคดีที่หมู่บ้านอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ครอบครัวมู่เจอส้มแจ่ม วิ่งไล่กันไม่ถึงหนึ่งเค่อก็มาถึงหมู่บ้านแล้ว สองข้างทางจากป่าแปรเปลี่ยนเป็นทุ่งนาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ส้มแจ่มหยุดพักเหนื่อยอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ สักพักก็มีผู้คนมากมายเดินมามุงดูเธอ
“นังหนูมาจากที่ไหนกัน การแต่งตัวแปลกประหลาดยิ่งนัก ทำไมถึงปล่อยผมเช่นนั้นเล่า มันไม่งามนะรู้หรือไม่ เอ้า ๆ พักดื่มน้ำดื่มท่าเสียก่อนไปเจออะไรมา เหตุใดถึงได้วิ่งหน้าตาตื่นมาเช่นนี้เล่า”
หญิงนางหนึ่งยื่นกระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำเย็น ๆ ยื่นส่งให้ส้มแจ่มทั้งยังหาใบไม้มาช่วยพัดให้เธออีกด้วย ส้มแจ่มก้มหน้าก้มตาพักเหนื่อย เห็นมีมือยื่นน้ำมาตรงหน้าเธอก็คว้าหมับยกขึ้นกระดกรวดเดียวหมด
“ขอบใจจ้ะ ขอถามหน่อยได้ไหมจ๊ะ ที่นี่คือที่ไหนหรือจ๊ะ เห็นมีแต่ป่ามีแต่ทุ่งนา กว่าจะเจอหมู่บ้านก็ผ่านทางเปลี่ยวใช่ย่อย”
“คำพูดคำจาช่างแปลกประหลาดนัก แต่ก็พอฟังเข้าใจอยู่ ที่นี่คือหมู่บ้านเหมยฮวา อยู่ห่างจากตัวเมืองครึ่งชั่วยาม เจ้าเป็นใครมาจากที่ไหนกัน เหตุใดถึงได้วิ่งไล่เกวียนคนบ้านมู่อย่างเอาเป็นเอาตายมาเช่นนี้?”
ชาวบ้านคนหนึ่งช่วยตอบคำถาม แต่ก็ถามกลับเช่นเดียวกัน พวกเขาสงสัยว่าทำไมสตรีแปลกประหลาดถึงมาอยู่ที่นี่ได้
นางดูไม่เหมือนคนแถวนี้เลยทั้งการแต่งตัว ทั้งการพูด รวมถึงหน้าตาที่สวยคม ส้มแจ่มกวาดสายตามองชาวบ้านที่ยืนอยู่ล้อมรอบ พวกเขาดูผอมมาก เสื้อผ้าที่ใส่มีแต่รอยปะชุน แต่ทุกคนดูเป็นคนจิตใจดี
เบื้องบนคงไม่ส่งเรามาที่หมู่บ้านกินคนหรอกมั้ง
“หนู...เอ่อ ไม่สิ...ข้าน้อยชื่อ เอ่อ ชื่อ จู...ชื่อจูจูเจ้าค่ะ บ้านของหนู เอ่อ หมายถึง บ้านของข้าอยู่ท้ายหมู่บ้าน ใช่ ๆ แหะ ๆ ข้าเพิ่งเจอเรื่องไม่ดีมา ท่านลุงเลยให้ข้ามาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ก่อนเจ้าค่ะ แหะ ๆ”
“บ้านร้างท้ายหมู่บ้านนั่นน่ะหรือ เอา ๆ ช่างมันก่อนเถอะ เจ้ากลับบ้านไปพักผ่อนก่อน แล้วข้าจะไปเยี่ยมเจ้าใหม่ มีคนหนุ่มสาวมาอยู่ที่หมู่บ้านเพิ่มนับเป็นเรื่องที่ดี ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเจออะไรมานะ แต่เจ้าดูเป็นคนดีไม่น้อย ที่หมู่บ้านนี้ยินดีต้อนรับเจ้านะนังหนู”
ส้มแจ่มก้มหัวขอบคุณไม่หยุด รู้สึกดีที่อย่างน้อยก็เจอเพื่อนบ้านที่มีจิตใจเมตตา ต่อให้ตัวเราดูแปลกประหลาด แต่พวกเขาก็ไม่กลัว กลับอ้าแขนยินดีต้อนรับ
หนู เอ๊ย...ข้าจะต้องตอบแทนพวกท่านอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
ความคิดเห็น