ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท่านพี่เจ้าขา ข้าอยากรวย (จบแล้ว) มีE-BOOK

    ลำดับตอนที่ #5 : ทำอาหารเอาใจลูก

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 66


    บทที่ 5 ทำอาหารเอาใจลูก

    หลังจากตากผ้าเสร็จ ฟางเหนียงก็แบกตะกร้ากลับบ้านโดยมีบุตรชายคนรองเดินนำหน้า ส่วนเจ้าใหญ่ยังคงผ่าฟืนอยู่เหมือนเดิม

    ฟืนที่เขาผ่าไปแล้ว จะมีเจ้าสามคอยวิ่งเอาไปเก็บเรียงไว้ในโรงเก็บฟืน เห็นแล้วก็คิดว่าเป็นภาพพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกันมาก แต่มันจะดีมากกว่านี้ หากเจ้าลูกคนโตมองเธอ ไม่สิ ๆ มองข้าด้วยสายตาเคารพ

     ไม่ใช่จ้องจะกินเลือดกินเนื้อเช่นนี้!

    ฉัน เอ๊ย ข้าก็ไม่ได้อยากมีลูกเหมือนกัน แต่มันเลือกไม่ได้นี่! เอาเป็นว่าถ้าพ่อเธอ ไม่ ๆ พ่อเจ้าหล่อข้าก็จะอยู่ต่อ แต่ถ้าไม่ก็จบกันแค่นี้แหละ

    “มองทำไม เห็นข้างดงามขึ้นจนตกตะลึงไปเลยหรือ?”

    “เหอะ ตัวท่านเองก็น่าจะรู้ดีที่สุด ร่างกายนี้หากเรียกว่างดงาม เช่นนั้นข้ายอมตาบอดไม่มองอะไรอีกเลยดีกว่า”

    ปากร้ายนักนะ ได้ใครมาก็ไม่รู้”

    “ได้ท่านอย่างไรเล่า!”

    “...”

    เออ มันก็จริงอย่างที่เขาพูด เจ้าเด็กคนนี้คงได้นิสัยร้ายกาจมาจากมารดา แต่เขามีความอบอุ่นซ่อนอยู่ลึก ๆ ถึงได้ดูแลน้อง ๆ ดีเช่นนี้

    บ้านช่องไม่ได้รกมาก แม้จะมีฝุ่นเกาะอยู่บ้าง ก็นับว่ายังได้รับการดูแลดีอยู่ เด็ก ๆ คงทำสะอาดแค่พอไม่ให้บ้านกลายเป็นบ้านร้างสินะ

    ฟางเหนียงเหนื่อยจะเถียงกับบุตรชายคนโตแล้ว นางหันมาหาบุตรชายคนรองที่ดูจะเข้าถึงง่ายแทน

    “เจ้าช่วยข้าทำความสะอาดบ้านทีสิ เสื้อผ้าของพวกเจ้าที่ใส่แล้ว ก็ให้เอาไปกองไว้ที่หลังบ้าน แล้วพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาซักตอนเช้าที่มีแดด”

    “ขอรับท่านแม่”

    “เจ้าจะไปช่วยนางทำไมกันเจ้ารอง”

    “โอ๊ย ไอ้เด็กนี่...”

    “ท่าน!”

    “เงียบปากบ้างก็ได้นะ ไม่มีใครหาว่าเจ้าเป็นใบ้หรอก น้องชายจะช่วยมารดาทำงานบ้านแล้วมันผิดตรงไหน หากเจ้าไม่อยากให้เขาทำ เจ้าก็มาช่วยข้าแทนสิ”

    “เหอะ เงียบเช่นนี้คืออะไรเล่า เฮ้อ~ เจ้ารองข้าจะเข้าไปเก็บของในห้องก่อน ตักน้ำใส่ถังไว้รอเลย วันนี้บ้านเราต้องสะอาดทุกซอกทุกมุม”

    แต่จะว่าไปร่างกายนี้อ่อนแอเกินไปแล้ว นี่นางเดินแค่ไม่กี่ก้าวยังเหนื่อยแทบตาย เช่นนั้นแผนเร่งด่วนคงต้องลดความอ้วนให้ได้ ต้องทำให้สุขภาพกายและใจดีขึ้นในเร็ว ๆ นี้!

    “ท่านแม่ข้าก็อยากช่วยท่านด้วย”

    ฟางเหนียงก้มมองชายเสื้อที่ถูกกระตุก ก็เห็นเด็กชายตัวเล็กผอมมากจนน่าสงสาร แต่แววตากลับเปล่งประกายไม่ได้ดูอมทุกข์ขนาดนั้น

    มืออวบอ้วนที่สะอาดขึ้นแล้ว วางลงบนหัวกลมอย่างนึกเอ็นดู

    “ได้สิเด็กดี ไว้ทำงานบ้านเสร็จแล้ว แม่คนนี้จะทำของอร่อย ๆ ให้กินนะ”

    ถึงชาติที่แล้วจะมีคนทำให้ทุกอย่าง แต่ใช่ว่าฉัน โอ๊ย สลับสวิตช์ภาษายากชะมัด เอาใหม่ ๆ

    แต่ใช่ว่าข้าจะไม่เคยเรียนรู้อะไรเลย เพราะที่บ้านจะมีแม่นมคอยสอนทุกอย่างให้ เพื่อเตรียมเป็นภรรยาที่ดีพร้อม เรียกได้ว่าทำทุกอย่างเป็นหมดนั่นแหละ

    …แค่ไม่อยากทำ

    แต่มาอยู่ยุคนี้แล้ว ไม่อยากทำก็ต้องกลั้นใจทำ!

    ฟางเหนียงที่มีดวงวิญญาณสาวจากโลกอนาคต ก้มมองเด็กชายแล้วสัญชาตญาณความเป็นแม่ก็ปะทุขึ้นมาทันที ต่างจากลูกคนโตที่อยากตัดหางปล่อยวัดใจจะขาด

    ร่างอ้วนท้วมพาตัวเองกลับเข้ามาในห้องนอนได้ ก็ทรุดลงนั่งด้วยอาการเหนื่อยหอบ ใจสั่นหน้ามืดไปหมด ตอนนี้ไม่สนแล้วว่าพื้นมันจะสกปรกแค่ไหน ขอนอนพักเหนื่อยก่อน อย่างไรก็ต้องอาบน้ำใหม่อยู่แล้ว

    ระหว่างที่นอนพัก สายตาก็เหลือบไปเห็นกล่องไม้ที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงนอน ฟางเหนียงค่อย ๆ กระดึ๊บไปหา แล้วหยิบมันออกมาเปิดดู

    ด้านในมีพวงเหรียญอีแปะอยู่สามพวง กับข้าวสารสองถึงสามกำมือ เนื้อแห้ง และเกลืออีกหยิบมือถูกห่อไว้อย่างดี นอกจากนั้นก็มีสบู่ก้อนดำ ๆ อีกหนึ่งก้อน

    ถึงว่าทำไมเจ้าลูกคนรองไม่สงสัยว่า ข้ามีของแปลกประหลาดพวกนั้นได้อย่างไร เพราะร่างเดิมมีนิสัยชอบซ่อนของเช่นนี้นี่เอง

    เห็นข้าวแค่ไม่กี่กำมือฟางเหนียงคนใหม่ก็ใจชื้นขึ้นมาแล้ว นางยังจำที่ลูก ๆ พูดคุยกันได้ว่า ที่บ้านยังมีเด็กป่วยอีกหนึ่งคน

    เช่นนั้นเอาของพวกนี้ไปทำอาหารให้เขากินก่อนแล้วกัน

    “เจ้ารองห้องครัวอยู่ตรงไหนหรือ”

    ใบหน้ากลมชะโงกหน้าถามบุตรชายผ่านหน้าต่าง พวกเขาคงเห็นหมดแล้วว่านางทำอะไอยู่ในห้อง แต่ไม่ส่งเสียงให้นางรู้ตัวก็เท่านั้น

    “อยู่ข้างบ้านขอรับ ติดกับห้องพี่ใหญ่”

    “อ้อ เจ้าน่ะไปต้มน้ำทำโจ๊กให้น้องชายกินซะนะ ใส่เนื้อแห้งลงไปต้มด้วย เกลือก็ใส่ทั้งหมดนี่แหละ ไม่ต้องห่วง ข้าวมีนิดเดียวก็ใส่ให้มันหมด แล้วนี่ข้าจะไปหาซื้อของเพิ่มได้จากที่ไหนอีก”

    “ที่หมู่บ้านข้าง ๆ มีร้านขายของอยู่ขอรับ แต่ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว ท่านแม่ให้เงินพี่ใหญ่ไปซื้อเถอะขอรับ อย่าไปเองเลยมันอันตราย”

    “ได้สิลูกรัก แม่เห็นด้วยกับเจ้า”

    มีลูกให้ความร่วมมือดีเช่นนี้ ข้าก็ขอยกตำแหน่งลูกรักให้เลย 

    ฟางเหนียงไม่รู้ต้องใช้เงินเท่าไหร่ จึงให้พวงอีแปะกับบุตรชายคนโตไปสองพวง แล้วเก็บไว้เองหนึ่งพวง ยังมีปิ่นเงินในกล่องไม้แกะสลักอีก

    ตามที่รู้มาร่างเดิมมักจะเอาของดีกลับไปให้สกุลเดิม เช่นนั้นปิ่นอันนี้คงเตรียมเอาไว้ให้เหมือนกัน แต่ตัวเองดันมาตายก่อน

    สมน้ำหน้า! แต่เดี๋ยวข้าช่วยใช้เอง ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะฟางเหนียง

    “ซื้อหมู ข้าว แล้วก็เกลือมานะ ถ้ามีน้ำมันก็ให้เอามาด้วย ผักเลือกมาหลาย ๆ อย่างหน่อย ไข่ไก่ ถ้ามีแม่มันก็ซื้อมาด้วยเลย ลูกเจี๊ยบไม่เอาไม่ทันกิน เงินเท่านี้น่าจะพอนะ”

    “อ่า แต่ถ้าไม่พอเดี๋ยวข้าเอาปิ่นไปแลกเป็นเงินในเมืองให้”

    “หมูเช่นท่านเดินเข้าเมืองไม่ไหวหรอก อย่าฝันไกลไปหน่อยเลย”

    พวงอีแปะในมือถูกกระชากไปแล้ว ฟางเหนียงมองตามหลังบุตรชายคนโต ในใจนึกอยากปีนหน้าต่างวิ่งไล่ตีเขาให้ตายกันไปข้าง 

    ทว่าสิ่งที่ฟางเหนียงไม่รู้เลย คือใบหน้าของเซี่ยเหิงดูดีขึ้นมาก เขาพอมีความหวังว่ามารดาอาจจะความจำเสื่อม แล้วเปลี่ยนเป็นคนละคน อาจมีจิตสำนึกของความเป็นแม่มากขึ้น

    แต่ข้าจะจับตาดูท่านไว้อย่างดีเลย...ท่านแม่

    เอาละ พี่ชายของเจ้าทั้งสองต่างมีธุระต้องทำ ต้องวานเจ้าให้พาข้าเดินสำรวจรอบบ้านเสียหน่อยแล้วเจ้าตัวเล็ก”

    ฟางเหนียงหันไปถามเจ้าเด็กน่ารัก ที่แอบชะโงกหน้ามองนางผ่านขอบประตูอยู่หลายรอบแล้ว

    เขายังกล้าไม่พอที่จะชวนคุย จึงได้แต่แอบยืนดูอยู่ห่าง ๆ

    เด็กชายถูกจับได้แต่ก็ไม่วิ่งหนี เขาแค่สะดุ้งก้มหน้ามองมือตัวเอง

    “ท่านแม่อยากดูน้องเล็กหรือไม่”

    “เอาสิ นำทางไปได้เลย”

    ซีซวนวัยสิบขวบปียิ้มร่า เดินนำมารดาตรงไปยังห้องที่อยู่ติดกัน

    ฟางเหนียงจึงได้โอกาสสังเกตภายในบ้าน จะว่าไปแล้วสภาพมันเหมือนห้องแถวที่เคยเห็นเลย มีห้องเรียงกันอยู่สามสี่ห้อง ห้องของเธอคือห้องแรก ห้องที่สองเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ไม่มีประตูปิดกั้น ไว้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง

    เดินตรงไปอีกนิดจะเจอห้องของซีซวน ที่นอนอยู่กับน้องชายคนเล็ก ถัดจากเขาก็เป็นห้องของตงซิ่ว ห้องสุดท้ายเป็นห้องของเจ้าลูกปากดี

    “นี่คือห้องของข้าขอรับ ท่านแม่ต้องเบาเสียงลงหน่อย น้องเล็กกำลังนอนหลับอยู่ขอรับ”

    ท่าทางของบุตรชายคนที่สาม ทำเอาฟางเหนียงใจอ่อนอีกครั้ง นางจึงรีบยกนิ้วปิดปากพยักหน้าบอกว่าเข้าใจแล้ว

    เมื่อเห็นมารดายอมให้ความร่วมมือ เด็กชายจึงเปิดประตูออก เผยให้เห็นห้องที่มีเตียงเพียงหลังเดียวตั้งอยู่ติดหน้าต่าง ขนาดห้องไม่ได้ใหญ่เหมือนกับห้องของเธอ เดินสองสามก้าวก็ถึงเตียงนอนแล้ว

    บนเตียงนอนมีร่างเล็กกำลังขดตัวนอนหลับอยู่ใต้ผ้าห่มผืนบาง ใบหน้าแดงก่ำจากพิษไข้

    อาการหนักจริง ๆ คงต้องซื้อยาแก้ไข้เด็กให้เขากินสักหน่อยแล้ว

    “แล้วเจ้าเล่าชื่ออะไร”

    ร่างอวบหย่อนก้นนั่งขอบเตียงหันมาถามเด็กขี้อาย

    “ข้าชื่อซีซวน อายุสิบขวบปีขอรับ”

    เขาตัวเล็กกว่าเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเสียอีก น่าจะเป็นผลมาจากการขาดสารอาหารตั้งแต่เด็ก ต่างจากพวกพี่ ๆ ที่มีรูปร่างสูงใหญ่

    ไม่ใช่ว่าเจ้าเด็กสองคนนั้นแย่งอาหารน้องกินนะ น้องถึงได้ตัวเล็กเช่นนี้

    “เช่นนั้นซีซวนคนเก่งตักน้ำให้น้องดื่มได้หรือไม่ลูก เหมือนว่าน้องจะหิวน้ำนะ”

    “ได้ขอรับท่านแม่”

    คาดว่าการสำรวจบ้านคงต้องเลื่อนไปก่อน วันนี้คงทำได้แค่ทำความสะอาดห้องของซีซวนกับห้องของตนเองไปพลาง ๆ กว่าจะเสร็จฟ้าคงมืดแล้ว อีกอย่างที่นี่ไม่มีไฟฟ้าด้วยสิ ให้นอนตั้งแต่หัววันต้องบ้าตายแน่ ๆ

    ฟางเหนียงจัดการเอาผ้าห่มสกปรกที่มีกลิ่นตุ ๆ ออกจากเตียงของบุตรชาย แล้วอุ้มบุตรชายคนเล็กเอาไว้ในอ้อมแขน เขาตัวเล็กมากเหมือนเด็กสองถึงสามขวบเท่านั้น

    เฮ้อ ข้าต้องดูแลเด็กพวกนี้ให้ดี พวกเขาน่าสงสารจริง ๆ ที่ผ่านมาอาจจะเจออะไรที่หนักหนากว่าที่รับรู้มาก็เป็นได้

    แม้ว่าการเป็นแม่คนจะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากเกินความสามารถสักหน่อย สู้เขาสิหญิง!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×