คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ปีศาจ
ตอนที่ 5 ปีศาจ
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในป่า มนตราก็จูงมือพาน้องชายเดินออกมาจากป่ามุ่งหน้าตรงไปในยังหมู่บ้าน และด้วยการเดินเท้าไหนจะมีเด็กเล็กอยู่ด้วยทำให้ต้องใช้เวลาเดินทางถึงสามเค่อ
ถามว่าเหนื่อยหรือไม่บอกเลยว่ามาก! คนปรกติทั่วไปเดินเกือบชั่วโมงต้องมียืนหอบกันบ้าง แต่กับเด็กสาวที่ทั้งตัวเล็กและผอมแห้งขาดสารอาหาร อีกทั้งร่างกายบาดเจ็บ ไหนจะต้องอุ้มน้องชายตัวน้อยเดิน ยิ่งทวีคูณความเหนื่อยเพิ่มไปอีกหลายเท่า
หญิงสาวตั้งใจจะไปปักหลักในเมืองก่อน ทว่าเธอยังคงต้องการพักอาศัยที่เรือนร้างตามเดิม
เธอมีเงินพอจะสร้างบ้านได้หนึ่งหลัง แต่ตอนนี้ที่ดินยังไม่เป็นชื่อของหญิงสาวและมันยากมากเพราะเธอไม่รู้ระบบราชการของที่นี่ คงต้องไปหาอะไรกินเอาแรงก่อนแล้วค่อยกลับมาสู้ต่อ
อันที่จริงหญิงสาวมีเงินมากพอจะพาน้องชายไปหาหมู่บ้านใหม่อยู่ก็ได้ แต่เธอต้องการให้คนในหมู่บ้านอิจฉาเล่น ๆ เท่านั้น
เด็กสาวที่พวกเขาเคยดูถูก ตอนนี้มีเงินมากกว่าชาวบ้านพวกนั้นลงขันรวมเงินกันเสียอีก
อาเยี่ยนนอนหลับหน้าฟุบกับไหล่บอบบางของพี่สาว เด็กชายตัวน้อยวิ่งไล่จับกระต่ายจนเหนื่อย
จากที่ได้ฟังสิ่งที่น้องชายเล่าให้ฟัง เธอเดาว่าแม่กระต่ายคงจะถูกพรานป่าจับตัวไปแล้ว มิเช่นนั้นมันคงไม่ทิ้งให้ลูก ๆ อดอยากหลายวันเช่นนี้หรอก สัตว์ป่ามันก็รักลูกของมันเช่นกัน
หญิงสาวนึกสงสารเพราะน้องชายออดอ้อนขอเลี้ยงกระต่ายเหล่านี้ไว้ และเธอทนความน่ารักของน้องชายไม่ไหว จึงอนุญาตให้เขาเลี้ยงเจ้าพวกนี้ได้
ตอนนี้กระต่ายทั้งสามตัวนอนรออยู่ในเรือนร้าง ตอนนี้คงกำลังหาหญ้าหน้าเรือนกินประทังไปก่อน
ยังเดินไม่ทันจะถึงท้ายหมู่บ้าน มนตราในร่างของฉินฉินก็มองเห็นร่างหญิงอ้วนกำลังยืนถือไม้ไผ่เหลาจนเรียวเล็กรออยู่กลางถนน หญิงสาวยิ้มเย็นคาดว่าไม้ที่นางเฉียนผู้นั้นถืออยู่คงจะเอามาตีพวกเขาสองพี่น้องสินะ
หญิงสาวเดินช้าลง เธอไม่รีบและกำลังรอให้นางเฉียนทนไม่ไหวเป็นฝ่ายวิ่งมาหาก่อน
เรื่องอะไรเธอต้องรีบไปคุกเข่าขอร้องผู้หญิงคนนั้นเหมือนที่เจ้าของร่างคนเก่าทำมาตลอดเล่า
คนที่ต้องคุกเข่าอ้อนวอนขอร้อง ต้องเป็นสองแม่ลูกน่ารังเกียจนั่น
นางเฉียนมายืนรอสองพี่น้องตั้งแต่เช้ามืดแล้ว นางคิดว่าลูกเลี้ยงของตนจะต้องตื่นแต่เช้ามืด เพื่อเดินเท้าไปหางานทำในเมืองแน่ ไม่คาดคิดว่าตนจะต้องรอจนฟ้าสางดวงอาทิตย์ลอยอยู่เหนือหัวเช่นนี้
ยิ่งเห็นลูกเลี้ยงเดินช้าเหมือนวัวกินหญ้า นางเฉียนก็ยิ่งไม่พอใจจึงรีบวิ่งพุงกระเพื่อมเข้าใส่สองพี่น้องราวกับคนเสียสติ
ไม่รอให้นางเฉียนลงมือ มนตรากลับหยุดฝีเท้าแล้วตะโกนเสียงดัง
"หยุดอยู่ตรงนั้นนะนางปีศาจหมู"
นางเฉียนหยุดชะงัก ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวที่ยอมตนมาตลอดจะกล้าขึ้นเสียงด่าตนเองเช่นนี้
"เจ้าว่าอย่างไรนะ..พูดใหม่อีกครั้งสิ"
นางเฉียนหน้าตาดุดันสมชายาที่มนตราตั้งให้ ใบหน้าของสตรีใจร้ายจ้องเขม็งจนลูกตาดำแทบถลนออกมาอยู่แล้ว
ร่างของฉินฉินที่มีดวงวิญญาณของมนตราไม่กลัวใครอีกต่อไป เธอสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ และหยุดยืนตรงหน้านางเฉียน หญิงสาวส่งยิ้มเย็นให้นาง
"นางปีศาจหมูแก่..ได้ยินชัดหรือไม่เล่า"
นางเฉียนได้ยินเต็มสองหู ก็พลันกรีดร้องสุดเสียงเหมือนหมูถูกเชือด จนชาวบ้านที่พากันนั่งล้อมวงกินข้าวสำลักข้าวติดคอ พากันเดินออกมาดูเรื่องสนุกอยู่หน้าเรือนของตนเอง
"นาง..นาง..บ้า..เจ้าถูกข้าตีน้อยไปใช่หรือไม่ ถึงไม่เคารพกันเช่นนี้..ดี..วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้หลาบจำ"
นางเฉียนเงื้อมือจะใช้ไม้ไผ่เหลาจนเรียวในมือตีหญิงสาว
"ท่านกล้าก็เอาสิ! ดีเหมือนกัน ข้ากำลังจะเข้าเมืองไปแจ้งทางการอยู่พอดีว่า ถูกหญิงบ้าทำร้ายร่างกายจนเจ็บหนัก อีกทั้งหญิงบ้าคนนั้นยังบุกรุกยึดบ้านของมารดาข้าไปครอบครองเป็นของตนเองอีก"
นางเฉียนหยุดชะงักรู้สึกว่าเรื่องดำมืดที่ตนปิดบังมาตลอดกำลังจะถูกเปิดเผย นางรีบปฏิเสธทันที
"เจ้าพูดเรื่องอะไรข้าไม่เข้าใจ..บ้านหลังนี้เป็นของบิดาเจ้า ข้าที่เป็นภรรยาเขาย่อมมีสิทธิ์ที่จะอยู่ต่อ ถึงแม้ว่าเขาจะตายไปแล้วก็ตาม"
มนตราหัวเราะเสียงเย็นเยียบ แขนเล็กกระชับร่างน้องชายให้แน่นขึ้น
"ท่านความจำเสื่อมสินะ..ท่านกล้าพูดเต็มปากว่าท่านเป็นภรรยาของบิดาข้า แท้จริงแล้วท่านกับบิดาข้ายังไม่ได้แต่งงานกันเสียด้วยซ้ำ พิธีไหว้ฟ้าดินก็ยังไม่ได้ทำ หากท่านมั่นใจว่าบ้านหลังนั้นเป็นของบิดาข้า เช่นนั้นโฉนดที่ดินเล่าตอนนี้อยู่ไหนเอาออกมาสิ"
นางเฉียนสายตาลอกแลกหันไปมองกลุ่มชาวบ้านที่ยืนอยู่ด้านหลัง
"มันหายไปแล้ว หลังบิดาเจ้าถูกฆ่าตายมันก็หายไปแล้ว"
"นางเด็กอัปมงคลเช่นเจ้า ยังกล้าพูดถึงบิดาที่เจ้าพรากชีวิตไปอีกรึ.."
หญิงวัยกลางคนถือถาดแตงคั่วยืนดูเรื่องสนุกตะโกนแทรกขึ้นมา
มนตราได้ยินดังนั้นก็ชะโงกหน้ามองผ่านร่างนางเฉียนไปมองคนพูด
"ใครอนุญาตให้ท่านพูดสอดขึ้นมา...จัดการเรื่องในบ้านของตนเองให้ได้ก่อนเถอะ อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน..ข้า ไม่กลัวข้านำโชคร้ายไปให้ท่านหรือ"
สตรีผู้นั้นมีนามว่าม่านหลัว เป็นชาวบ้านที่ชอบสอดเรื่องผู้อื่น เมื่อถูกเด็กคราวลูกว่าเข้าให้ ก็โยนถาดแตงทิ้งก้าวดุ่ม ๆ เดินมาเอาเรื่องหญิงสาว
"อ้อ..มีอีกเรื่อง ฉัน..ข้าสามารถแจ้งจับท่านได้นะข้อหาหมิ่นประมาท ท่านต้องจ่ายค่าเสียหายให้ข้าสองพี่น้องอย่างน้อยห้าตำลึงเงิน จะพูดอะไรออกมารบกวนแหกถุงเงินดูด้วยว่ามีจ่ายรึเปล่าท่านป้า"
"เจ้า!"
แม้จะไม่รู้ว่าโลกนี้จะแจ้งจับคนได้ตามที่เธอพูดหรือเปล่า แต่ใครจะไปยอมให้ตนเองตกเป็นรองเล่า ดูจากที่ชาวบ้านพวกนี้มีท่าทีตื่นกลัว ยุคนี้คงมีการฟ้องร้องโดยให้ทางการตัดสินแล้วสินะ
"อ๊ะ ๆ ๆ อย่านะ ข้าไม่ได้พูดเล่น ๆ ข้าตั้งใจจะเข้าเมืองไปจัดการเรื่องทุกอย่างให้มันจบ ๆ ไป บ้านของมารดาข้าต้องได้คืน...เรื่องที่พวกท่านใส่ร้ายข้ามาตลอดสิบสามปีมานี้จะถูกรื้อขึ้นมาใหม่ ข้าจะให้ทางการเป็นคนตัดสิน...พวกท่านทั้งหลายอยากจะไปเที่ยวเล่นกินข้าวแดงในคุกหรือไม่เล่า"
นางเฉียนมีสีหน้าชั่วร้าย เอ่ยพูดเสียงเรียบด้วยท่าทางคุกคามเด็กสาว
"เจ้าแน่ใจหรือว่าจะออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ไปได้ เด็กอกตัญญูเช่นเจ้าหายไปสักคนคงไม่มีใครรู้"
ฉินฉินแลบลิ้นปลิ้นตาบิดตัวไปมา..
"อุ๊ยตาย..กลัวจังเลย..เฮอะ!..ท่านคิดว่าข้าโง่หรือ เมื่อวานข้าได้ไหว้วานให้สหายที่อยู่ในเมืองหลวงแจ้งทางการให้มาตรวจสอบแล้ว หากข้าหายตัวไป เอาสิ..นี่ใกล้จะได้เวลาที่นัดหมายแล้ว อีกไม่กี่ชั่วยามทหารจะมาค้นหมู่บ้านแห่งนี้ หากข้าสองพี่น้องยังไม่เหยียบเข้าประตูเมืองเสียที"
มนตราในร่างเด็กน้อยฉินฉินหยุดพูด พลางมองหน้านางเฉียนก่อนจะหันข้างไปมองชาวบ้านที่ยืนดูอยู่ หญิงสาวยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"ทั้งผู้ที่ลงมือฆาตกรรมเช่นท่าน และชาวบ้านผู้ร่วมสมคบคิดทั้งหลาย จะถูกจับเข้าไปนอนอยู่ในคุกใต้ดินตลอดชีวิต..."
นางเฉียนยืนนิ่งนางรู้สึกแปลก ๆ กับคำขู่นั้น อีกทั้งหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าต้องไม่ใช่ลูกเลี้ยงของตนแน่ ๆ เด็กขี้ขลาดตาขาวคนนั้นไม่มีทางกล้ายืนเถียงนางฉอด ๆ แบบนี้ได้
"ข้าให้เวลาท่านก่อนฟ้ามืด เชิญท่านและบุตรสาวของท่านออกไปจากบ้านของข้า”
“มิเช่นนั้นข้าจะเรียกทางการมาลากตัวพวกท่านออกไป..โฉนดที่ดินอยู่กับข้าเอง หากท่านอยากจะพิสูจน์สิทธิ์ที่ท่านพึงมี ก็เชิญที่ศาลทางการให้ใต้เท้าเป็นคนตัดสินได้..ข้าพร้อมทุกเมื่อเจ้าค่ะ"
พูดขู่จบหญิงสาวก็หัวเราะร่าเดินชนไหล่นางเฉียน แล้วตรงไปขึ้นเกวียนวัวที่รอรับผู้โดยสารอยู่หน้าหมู่บ้าน ระหว่างที่เดินผ่านชาวบ้านเธอก็ไม่ลืมจ้องตาทุกคน
"พวกท่านจะยืนดูอีกนานหรือไม่..วัน ๆ ไม่ทำงานทำการยุ่งแต่เรื่องชาวบ้าน ระวังบรรพบุรุษจะลุกจากหลุมมาบีบคอพวกท่านตายเอาเล่า"
"นางเด็กปีศาจ เจ้ากล้าแช่งข้าหรือ!"
"อุ๊ย พวกท่านช่างสรรหาสารพัดชื่อมาเรียกข้าจังเลยนะ นางเด็กปีศาจหรือ..ข้าชอบชื่อนี้นะเจ้าคะ ดูเป็นนางร้ายในละครหลังข่าวดี..หุหุหุ"
ชาวบ้านต่างพากันมองตาค้าง หญิงสาวผู้นี้เปลี่ยนไปแล้ว นางไม่ยอมให้ใครมาดูถูกตนเองง่าย ๆ อีกต่อไป
หลังจากที่ร่างของฉินฉินเดินจากไปไกลแล้ว ชาวบ้านก็รวมตัวกันปรึกษาหารือเรื่องบางอย่าง คนที่ยิ้มสะใจมากที่สุดดูเหมือนจะเป็นนางเฉียน
"ดี! เอาตามนี้ ข้าจะไปตามแม่หมอมา ส่วนพวกเจ้าเตรียมตัวเข้าเมืองไปพร้อมกับข้า"
ชาวบ้านพากันวางแผนไม่ดีต่อหญิงสาว ทว่าพวกเขาหารู้ไม่ว่าแผนการที่พวกเขารวมหัวกันคิดนั้น จะนำภัยพิบัติครั้งใหญ่พัดกลับเข้าตัว
ความคิดเห็น