ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวน้อยผู้มั่งคั่ง (จบแล้ว) มี E-BOOK

    ลำดับตอนที่ #41 : พักก่อน

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 66


    ตอนที่ 41 พักก่อน

    ฉินฉินเดินไปผลักทหารที่กำลังอุ้มเหมยหลินออก เจ้าเมืองซิงฟู่เข้ามาขวางเอาไว้กลัวว่าหญิงสาวที่ไม่ธรรมดาคนนี้จะรังแกบุตรสาวของตน

    "แม่นางท่านจะทำอะไรหรือ"

    "ท่านเจ้าเมืองไม่ต้องห่วง ข้ามีวิชาแพทย์ติดตัว หากปล่อยคุณหนูใหญ่ไว้เช่นนี้ ไม่แน่ว่านางอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย"

    เจ้าเมืองซิงฟู่ตกใจ เขาเห็นบุตรสาวหน้าซีดจนเขียวคล้ำราวกับคนใกล้ตาย เหงื่อก็ไหลเต็มหน้าเกรงว่านางจะเป็นอะไรไปจริง ๆ จึงยอมหลีกทางให้ฉินฉินตรวจอาการให้

    "ถ้าเช่นนั้นฝากแม่นางช่วยดูอาการบุตรสาวของข้าด้วย"

    "อืม..เชื่อใจข้าได้เลย"

    เหยียนซือยกยิ้มมุมปาก เขารู้จักสตรีตัวเล็กที่กำลังทำหน้าเจ้าเล่ห์เตรียมกำลังแกล้งคนดี

    อย่างนางหรือจะเคยเรียนวิชาแพทย์

    ขนาดยามที่นางป่วยยังสวมวิญญาณกระรอกปีนต้นไม้หนี ไม่ยอมให้ท่านหมอตรวจอาการให้เลย

    ว่าที่ฮูหยินของข้าช่างซุกซนเสียจริง

    ฉินฉินสั่งให้สตรีที่อยู่แถวนั้นช่วยจัดท่าทางให้เหมยหลินนอนเหยียดขาราบกับพื้นดินสกปรก โดยไม่มีผ้าปูรองให้นาง

    "ทุกท่านช่วยอยู่ให้ห่างจากคนป่วยสิบก้าว อย่ามามุงดูสิเจ้าคะ นางจะหายใจไม่ออกได้ ไม่แน่ว่าหน้าเขียวคล้ำเช่นนี้ นางอาจจะเป็นโรคติดต่อร้ายแรงก็เป็นได้ ชายใดเข้าใกล้นางจะซวยทั้งชีวิต หึ ข้าตั้งชื่อโรคนี้ว่า..โรคมารยาหญิง"

    เจ้าเมืองซิงฟู่ขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาอยู่มานานเกือบห้าสิบปียังไม่เคยได้ยินโรคที่ว่าผ่านหูเลยสักครั้ง

    แม่นางน้อยผู้นี้เก่งจริง ๆ เขามองนางผิดไปแล้ว

    นางเก่งนักที่ค้นพบโรคร้ายนี้ได้ทันก่อนจะลุกลามมากไปกว่านี้

    "เอ้า..พวกเจ้าถอยออกไปสิ"

    ทหารของท่านเจ้าเมืองเข้ามาล้อมเป็นวงกลม กันไม่ให้ชาวบ้านเข้ามามุงดู ฉินฉินนั่งยอง ๆ ข้างคนหมดสติแล้วใช้มือข้างซ้ายบีบจมูกนางเอาไว้

    เจ้าเมืองซิงฟู่ตกใจจะเข้ามาห้าม แต่ฉินฉินรู้ทันเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขา

    "ไม่ต้องกังวล ข้าแค่จะตรวจดูให้แน่ใจว่านางหายใจขัดข้องตรงไหนหรือไม่ ท่านดูที่ท้องนางสิยังขยับอยู่เลย"

    เหมยหลินที่แกล้งเป็นลมพยายามอดทนไม่ให้ตนตื่นขึ้นมา กลัวจะถูกจับได้ว่าตนโกหก

    ฉินฉินสัมผัสได้ว่าคนที่นอนอยู่ขยับตัวเล็กน้อย จึงยิ้มอย่างพอใจแล้วนำมือออก เหมยหลินรีบหายใจโกยอากาศเข้าปอดเงียบ ๆ

    โอ้...นางดูชำนาญไม่เบา หากให้เดานางน่าจะมีชายที่พึงใจและแกล้งสลบเมื่ออยู่ใกล้เขาเพื่อเรียกร้องความสนใจบ่อย ๆ สินะ

    ใครว่าสตรีโบราณเป็นคนเรียบร้อย บอกเลยจากที่ข้าประสบพบเจอมา..ร้ายเงียบทุกคน

    ฉินฉินขยับตัวลุกขึ้นยืน แล้วใช้เท้าเหยียบไปที่มือของเหมยหลิน กดย้ำลงไปจนมือของนางแทบจะจมดินอยู่แล้ว

    เจ้าเมืองซิงฟู่ไม่สงสัยอีก เขาปล่อยให้หญิงสาวตรวจอาการบุตรสาวจนกว่านางจะพอใจ ขอแค่บุตรสาวตนเองไม่เป็นอะไรมากก็พอ

    ฉินฉินหัวเราะในลำคอ มองดูสีหน้าที่เริ่มเขียวอมม่วงแล้ว นางคงใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วสินะ

    เหมยหลินกัดฟันกรอด นางเจ็บจนทนไม่ไหวลุกพรวดขึ้นนั่ง หันมองฉินฉินตาเขียวแล้วแหกปากโวยวายทันที

    "โอ๊ยเจ็บ! นางบ้า! เจ้ากล้าเหยียบข้าหรือ หมอที่ไหนทำเช่นนี้กัน เจ้าเป็นบ้าอะไรถึงมาทำร้ายข้าอีกแล้ว"

    ฉินฉินแสร้งทำเป็นตกใจวิ่งไปหลบด้านหลังเหยียนซือ แล้วตะโกนเสียงดังกว่าเหมยหลินหลายเท่าตัว

    "ตายแล้ว! ทุกคนรีบหนีไป คุณหนูเหมยหลินเป็นโรคติดต่อร้ายแรง พวกเจ้าเห็นเต็มตากันใช่หรือไม่ เมื่อครู่นางสลบไปเมื่อฟื้นขึ้นมากลับมีกำลังวังชาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โรคติดต่อชนิดนี้เรียกว่าโรคมารยาหญิงจะแพร่ระบาดเฉพาะสตรีเท่านั้น”

    “ใครติดโรคเข้าไปจะมีกำลังวังชามากกว่าบุรุษหลายเท่าตัว หากใครแต่งงานด้วยต้องรับให้ได้ว่าภรรยานั้นแข็งแรงกว่าตน นางมีแรงมากขนาดที่อุ้มวัวทั้งตัวได้ด้วยมือเดียวเชียว"

    ฉินฉินแสร้งทำหน้าตาตื่นแล้วเล่าเรื่องเท็จใส่ไข่ไปสิบฟอง ทำเอาชาวบ้านหลงเชื่อพากันแตกฮือเป็นฝูงมดเจอน้ำฝน

    เหมยหลินอับอายมาก ไม่คิดว่าจะถูกเล่นงานเช่นนี้ นางกวาดสายตาไปทั่วจนสบตาเข้ากับบุรุษที่นางแอบชอบ

    เขาสบตากับนางก่อนจะหันหน้าหนี แล้วขี่ม้าจากไปไม่เข้ามาถามไถ่ว่านางบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่แม้แต่ครึ่งคำ

    เหมยหลินเห็นดังนั้นนางกลายเป็นคนเสียสติไปชั่วขณะ ลุกขึ้นวิ่งเข้าใส่ฉินฉินที่ยืนหลบอยู่หลังชายหนุ่ม

    "เจ้ากล้าใส่ร้ายข้า! วันนี้เป็นวันตายของเจ้า"

    เหยียนซือเองก็ป้องกันหญิงสาวที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังตนอย่างดี เขาใช้เท้าถีบที่ท้องเหมยหลินอย่างแรงก่อนที่นางจะเข้ามาใกล้

    ร่างของเหมยหลินล้มหงายหลังก้นกระแทกพื้น นางยกมือกุมท้องรู้สึกจุกจนลุกไม่ขึ้น

    เจ้าเมืองซิงฟู่เชื่อสนิทใจว่าสิ่งที่ฉินฉินพูดเป็นความจริง เขาเห็นเต็มสองตาว่าบุตรสาวมีอาการอย่างที่หญิงสาวพูดทุกอย่าง จะไม่เชื่อคงไม่ได้

    "พวกเจ้ารีบจับคุณหนูใหญ่ไว้เร็วเข้า"

    ทหารหลวงกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้เหมยหลินเลยสักคน

    ฉินฉินเห็นชายชาติทหารกลัวเรื่องไม่เป็นเรื่องจึงพูดเตือนสติอีกครั้ง

    "ข้าบอกแล้วว่าโรคนี้ติดต่อกันเฉพาะในหมู่สตรีเท่านั้น บุรุษเช่นพวกท่านปลอดภัยหายห่วง รีบจับตัวนางไปสิ ก่อนที่โรคของนางจะกำเริบมากกว่านี้"

    ได้ยินดังนั้นทหารก็พากันกรูเข้าไปจับเหมยหลิน นางพยายามดิ้นขัดขืนให้หลุดสุดแรงเกิด จนหลุดมือจากทหารนายหนึ่ง

    อีกคนก็รีบเข้าไปตะครุบตัวนางไว้แล้วกดหน้านางให้แนบกับพื้นดินร้อน ๆ ก่อนจะกวักมือให้คนน้ำเชือกมามัดแขนเรียวเล็ก

    ชาวบ้านที่เห็นบุตรสาวเจ้าเมืองของพวกตนคลั่งเช่นนี้ ต่างพากันยกมือปิดปากเอาไว้ เรื่องนี้ต้องนำกลับไปเล่าให้คนในหมู่บ้านตนฟัง จะได้ระวังตัวได้ทันไม่เช่นนั้นอาจติดโรคเอาได้

    เจ้าเมืองซิงฟู่มองบุตรสาวที่ถูกมัดมือมัดเท้าถูกยัดเข้าไปขังในรถม้า เมื่อเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้ามาหาฉินฉินเพื่อขอคำปรึกษา

    "แม่นางมีวิธีรักษาโรคนี้หรือไม่"

    ฉินฉินก้าวมายืนข้าง ๆ เหยียนซือแล้วยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

    "มีสิ แต่ก่อนที่ข้าจะบอกวิธีรักษา ท่านต้องทวงความยุติธรรมให้ข้าก่อนเจ้าค่ะ ท่านคงเห็นแล้วว่าข้าถูกบุตรสาวและชาวบ้านหลายคนรุมใส่ร้ายว่าข้าเป็นคนผิด ท่านต้องให้พวกเขาชดใช้ให้ข้าคนละหนึ่งตำลึงทอง!”

    “หากใครกล้าหนีข้าขอให้ติดโรคแบบคุณหนูท่านนั้นไปตลอดชีวิต หากเป็นบุรุษก็ขอให้ได้ภรรยาม้าพยศเช่นนาง ว่าอย่างไรเงินเล็กน้อยแค่นี้คนรวยเช่นพวกท่านคงมีปัญญาจ่ายใช่หรือไม่"

    ไหน ๆ นางก็เสียเวลามามากแล้ว ขอค่าเสียเวลาเป็นเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ หน่อยแล้วกัน

    เจ้าเมืองซิงฟู่ตอบตกลงทันที เขาสั่งให้ทหารเรี่ยไรเก็บเงินคนที่ใส่ร้ายแม่นางน้อยท่านนี้

    มีชาวบ้านหลายคนไม่ยอมจ่ายแต่ถูกคนข้าง ๆ เปิดโปงชี้ความผิด เมื่อมีพยานก็ต้องจำใจหยิบก้อนทองในถุงเงินออกมาอย่างไม่เต็มใจ

    รอไม่นานทหารหลายนายก็ถือถุงเงินหนัก ๆ ส่งให้หญิงสาว ฉินฉินไม่เสียเวลานับ นางเพียงหยิบมากะน้ำหนักด้วยมือก่อนจะยื่นให้เหยียนซือช่วยถือ

    "ทุกคนกลับไปได้แล้ว ข้ายกโทษให้! แล้วอย่าทำผิดซ้ำสองอีกเล่า"

    ชาวบ้านเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรให้ดูแล้ว ก็แยกบ้านกันไปทำงานของตนต่อ มีแต่เหล่าสตรีที่ยังยืนรอฟังวิธีรักษาโรคประหลาด เผื่อคนที่จวนของตนติดโรคไปแล้วจะได้แก้ไขทัน

    "มา ๆ ทุกคนฟังให้ดี วิธีรักษาไม่ยากเพียงแค่นำคนป่วยไปขังไว้ในห้องที่มีแสงอาทิตย์เข้า แต่ต้องมีรูไว้ให้ลมพัดเข้าไปในห้อง ระหว่างนี้คนป่วยต้องคัดบทธรรมะบริจาคให้อารามสามพันจบ!”

    “จนกว่าผู้ป่วยเหล่านั้นจะคัดครบ ห้ามปล่อยออกมาเด็ดขาด บางครั้งหากคนป่วยได้ยินอะไรไม่เข้าหู นางอาจจะอาละวาดเอาได้ ฉะนั้นจะส่งอาหารต้องส่งผ่านช่องลม กักตัวครบสามสิบวันก็หายขาดแล้ว ง่าย ๆ ใช่หรือไม่เล่า"

    ฉินฉินแต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ พูดด้วยท่าทางมั่นใจจนองครักษ์ของนางแอบปิดปากหัวเราะ ไม่คาดคิดว่าจะมีคนเชื่อเรื่องเช่นนี้ด้วย

    เจ้าเมืองซิงฟู่ตั้งใจฟังตั้งแต่ต้นจนจบ เขาสั่งให้คนพาบุตรสาวกลับจวน โดยไม่ลืมกำชับสั่งให้พ่อบ้านทำตามวิธีที่ฉินฉินบอกทุกอย่างไม่ให้มีข้อบกพร่อง

    "เจ้าพาคุณหนูใหญ่กลับไปได้ เตรียมหมึกและกระดาษให้พร้อม ข้าจะรักษาให้นางเริ่มต้นคัดบทธรรมะตั้งแต่วันนี้"

    "ขอรับ"

    รองเจ้าเมืองเป็นคนรับคำสั่ง เขาอาสานำตัวคุณหนูใหญ่ไปส่งที่จวนท่านเจ้าเมือง แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อที่ฉินฉินพูดและคิดว่านางต้องโกหกแน่

    แต่เขามีบุตรสาวที่ชอบพอบุรุษคนเดียวกับคุณหนูใหญ่พอดี จึงปิดหูปิดตาแกล้งเชื่อเรื่องงมงายไปด้วยอีกคน

    เพียงเท่านี้บุตรสาวของเขาก็ไม่มีศัตรูหัวใจมาขวางเส้นทางรักอีก

    ฉินฉินเห็นเจ้าเมืองเฒ่าหัวงูเอาแต่ยืนถูมือจ้องหน้าอกของตนตาเป็นมัน ก็นึกไม่พอใจจนต้องชักสีหน้าใส่ แล้วถามด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร

    "ท่านมีเรื่องอะไรจะถามอีกหรือไม่เจ้าคะ"

    เจ้าเมืองซิงฟู่รู้สึกตัว เขารู้สึกเหมือนถูกสายตานับสิบจ้องมาที่ตนด้วยความไม่พอใจ จึงรีบเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นเป็นกลุ่มคนของฉินฉินจ้องมองมาทางตน ด้วยท่าทางพร้อมตีคนเต็มที่ รอแค่เจ้านายตัวน้อยสั่งการเท่านั้น

    "แม่นางข้าแค่อยากจะถามว่า ท่านต้องการพักที่จวนข้าก่อนหรือไม่"

    เหยียนซือหันไปอุ้มฉินฉินขึ้นไปนั่งบนม้า แล้วหันมาเผชิญหน้ากับเฒ่าหัวงูแทน

    "ไม่ต้อง! อีกไม่นานจะมีกลุ่มของข้าเดินทางมา พวกท่านแค่ช่วยเปิดทางให้พวกเขาเข้าไปในเมืองก็พอ ที่เหลือพวกข้าจะจัดการเอง ข้าอยู่ไม่นานก็จะไปแล้ว อีกอย่างข้าไม่ต้องการเห็นหน้าท่านอีก..ขอตัวขอรับ"

    พูดจบเหยียนซือก็ค้อมหัวเล็กน้อยเป็นการบอกลา ก่อนจะกระโดดขึ้นม้าพุ่งทะยานเข้าตัวเมืองทันที

    ฉินฉินกอดถุงเงินที่อัดแน่นไปด้วยก้อนทองเล็ก ๆ ด้วยรอยยิ้มกว้าง

    ดูเหมือนการเดินทางครั้งนี้จะคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก

    ทำเอานางอยากแวะทุกเมืองที่เดินทางผ่าน เผื่อเจอเรื่องดี ๆ เช่นนี้อีก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×