คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : ปลอมเปลือก
ตอนที่ 40 ปลอมเปลือก
เจ้าถิ่นต่างพากันรู้สึกไม่พอใจที่ถูกหญิงสาวต่างเมืองหลอกด่าพวกตน คุณหนูคนหนึ่งเดินมาจากรถม้า ทุกคนต่างพากันหลีกทางให้นาง ดูเหมือนหญิงสาวท่านนี้จะไม่ธรรมดาสินะ
ฉินฉินเองลงจากม้ามานานแล้ว นางกำลังยืนกอดอกรอเผชิญหน้ากับคนใหญ่คนโตแห่งเมืองทองคำอยู่พอดี นอกจากเงินทองแล้วคงจะพอมีอย่างอื่นดีอยู่บ้างเช่น ปากดี..อุ๊ยแรงอะ
คุณหนูเหมยหลินเห็นหญิงสาวหน้าตาบ้านนอก ไหนจะการแต่งตัวที่เหมือนชาวนาทั่วไป ไม่ได้ดูร่ำรวยตรงไหน ไม่รู้ทำไมถึงยังมีหน้ากล้าคิดเข้าเมืองซิงฟู่ของนางอีก
"แม่นางเจ้าคงเป็นคนต่างถิ่นที่ไม่รู้อะไร เมืองนี้ไม่ต้อนรับคนนอก หรือหากเป็นคนนอกย่อมต้องคนมีอันจะกินเท่านั้นถึงจะเข้าไปได้ เมืองของข้านั้นแค่ที่พักราคาถูกก็เป็นเงินหนึ่งตำลึงทองแล้ว เจ้ามีเงินพอจ่ายหรือ”
“เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ พวกเจ้าไปนอนที่โรงเก็บฟืนจวนข้าก่อน ถือว่าข้าทำบุญทำทานให้คนยากไร้"
ทุกคนต่างพากันหัวเราะชอบอกชอบใจ
เหมยหลินเป็นถึงบุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านเจ้าเมืองซิงฟู่ นางเป็นคนหยิ่งผยอง ที่มีบิดาคอยหนุนหลัง จึงไม่มีใครกล้าท้าทายนางมาก่อน
ชาวบ้านและแรงงานบางคนที่เป็นคนต่างถิ่นรู้สึกสงสารฉินฉินอยู่บ้าง แต่ไม่กล้ายื่นมือเข้ามาช่วย
เพราะกลัวจะถูกคุณหนูเหมยหลินหมายหัวตนไปด้วย จึงทำเป็นมองไม่เห็นเดินเข้าเมืองไปทำงานของตนต่อ
ฉินฉินยังคงตีหน้านิ่งยืนกอดอกรอให้คนพูดจบ นางยกมือแคะขี้หูต่อหน้าทุกคน ทำเอาคนที่เห็นอึ้งไปตาม ๆ กัน
เหมยหลินเห็นตนเองถูกเมินก็ให้ไม่พอใจ จากสีหน้ายิ้มแย้มสะใจแปรเปลี่ยนเป็นนางยักษ์ นิ้วเล็ก ๆ ยกขึ้นชี้นิ้วด่าฉินฉินยกใหญ่
"นางคนชั้นต่ำ! รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร ข้าจะให้ท่านพ่อประหารชีวิตเจ้า ดูสิยังกล้าอวดดีอยู่หรือไม่ แต่หากเจ้ายอมคุกเข่าขอโทษตอนนี้ ข้าจะลดโทษให้"
เหยียนซือเห็นคนของตนถูกรังแกรีบเดินเข้ามาขวางทันที ใบหน้าคมเข้มหันมาเผชิญหน้าจ้องตาสตรีปากร้าย แล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"คุณหนูท่านนี้โปรดไปตามทางของท่านเถิด พวกเราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ต่างคนต่างอยู่เถิดขอรับ"
เหมยหลินไม่กล้าต่อกรกับชายร่างใหญ่ดูน่ากลัวตรงหน้า นางหันไปสั่งให้ทหารจับตัวหญิงสาวที่ถูกคนผู้นี้ปกป้องมาคุกเข่าต่อหน้าตน
"จับมันมา! ข้าจะสั่งสอนมัน"
องครักษ์ของฉินฉินชักดาบออกมายืนล้อมตัวคุณหนูของตนไว้เช่นกัน
ชาวบ้านเห็นเรื่องบานปลายใหญ่โตถึงขั้นมีอาวุธก็พากันแตกฮือ บางคนตะโกนเสียงดังปานเมียที่บ้านจะคลอดลูก
"ฆ่ากันแล้ว! มีคนจะฆ่าคุณหนูเหมยหลินแล้ว ใครก็ได้ส่งคนไปตามท่านเจ้าเมืองมาที"
ทหารหลวงของเมืองซิงฟู่ชักดาบออกมาเตรียมปกป้องบุตรสาวท่านเจ้าเมืองเช่นกัน ทุกคนต่างพากันคิดว่าหากท่านเจ้าเมืองมาเห็นผลงานนี้อาจจะเลื่อนตำแหน่งให้ก็เป็นได้
"จับตัวสตรีผู้นั้นมา นางสั่งให้คนของนางสังหารคุณหนูใหญ่!"
เรื่องราวกลับใหญ่โตมากขึ้น เมื่อทหารคนอื่นพากันกรูเข้ามา
ฉินฉินหงุดหงิดแล้วเช่นกันจึงตะโกนออกมาเสียงดัง
"ทุกคนหยุด! แล้วหุบปากให้หมด!"
ฉินฉินก้าวออกมาจากวงล้อมขององครักษ์ เหยียนซือดึงแขนนางให้หยุดแต่ฉินฉินแกะมือเขาออกอย่างไร้เยื่อใย
เหยียนซือกลัวนางตกอยู่ในอันตรายจึงเดินตามหลังนางไม่ห่าง
ฉินฉินเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าทหารหลวงที่ปกป้องสตรีปากร้าย ต่อให้อีกฝ่ายเอาดาบมาจ่อคอ แต่นางจะไม่ยอมลดศักดิ์ศรีคุกเข่าขอร้องใครง่าย ๆ
"ข้าถามหน่อยเถิด ข้าทำสิ่งใดผิดถึงต้องคุกเข่าขอโทษท่าน ผิดที่ข้ามาเยือนเมืองของบิดาท่านหรือ”
“หึ อย่าลืมว่าบิดาท่านเป็นแค่เจ้าเมืองไม่ใช่เจ้าแผ่นดิน จะโดนปลดเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย เจ้าเป็นสตรีตัวเล็ก ๆ แต่กลับวางท่าใหญ่โตปานตนเองมีตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองเสียเอง เหอะ”
“ข้าถามหน่อยเถิด คุณหนูท่านมีตำแหน่งใดหรือ ถึงได้สั่งการทหารเหล่านี้ให้จับคนบริสุทธิ์มาลงโทษตามใจชอบได้ ขนาดเชื้อพระวงศ์ยังไม่ทำแล้วเจ้าเป็นใครเล่า อย่าสำคัญตัวเองผิดนักเลย นางบ้า!"
ฉินฉินสั่งสอนคนรัว ๆ และพูดจบปิดท้ายด้วยคำด่าสุดเจ็บปวดไปถึงหัวใจ เล่นเอาคนที่ถูกเล่นงานทั้งโกรธทั้งอับอาย จนแทบจะกระอักเลือดออกมา
อันที่จริงฉินฉินอยากด่าแรงกว่านี้อีก แต่กลัวจะทำให้คนโกรธจนแค้นใจตาย นางไม่อยากเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนด้วยคำพูดไม่กี่คำ...มันไม่คุ้มค่า
แต่สำหรับคุณหนูที่โดนตามใจมาตั้งแต่เด็ก และเป็นที่รักของคนในครอบครัว ไปไหนมาไหนย่อมมีคนก้มหัวให้ตลอด ถูกด่าเท่านี้ถือว่าเจ็บมากแล้ว
เหมยหลินหมดทางสู้ได้แต่จิกทึ้งผมตนเอง พลางกรีดร้องออกมาเสียงดัง กลายเป็นบ้าดังคำที่ฉินฉินพูด
"กรี๊ด นางบ้านนอก เจ้า..เจ้ากล้าด่าข้าหรือ วันนี้เจ้าต้องตายคามือข้า!"
เหยียนซือยกมือทั้งสองข้างปิดหูให้คนตัวเล็กตรงหน้า เสียงหมูกำลังถูกเชือดร้องดังมาก เขากลัวว่าสตรีของตนจะปวดหูเอาได้
ฉินฉินเห็นคนดิ้นพล่านพยายามจะออกมาจากวงล้อมของทหารหลวงเพื่อพุ่งเข้าใส่ตนปานกระทิงคลั่ง ก็ให้รู้สึกพอใจเล็กน้อย
"นี่หรือบุตรสาวของเจ้าเมืองซิงฟู่ กิริยามารยาทไม่ต่างจากพวกตลาดล่างเลย ท่านช่วยเปิดหูเปิดตาให้ข้าได้จริง ๆ”
ดูเหมือนคำพูดแทงใจของฉินฉินจะทำให้คนคลั่งมากกว่าเดิม แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้แกล้งคนมากกว่านี้ เพราะมีคนกลุ่มใหญ่กำลังขี่ม้ามาทางนี้
เจ้าเมืองซิงฟู่ได้รับรายงานจากคนของตนว่าบุตรสาวถูกคนนอกรังแก จึงรีบเข้ามาช่วยทันที
เขาขี่ม้ามาถึงก็เห็นบุตรสาวผมเผ้ารุงรัง กำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ไม่ถามอะไรให้มากความ รีบกระโดดจากหลังม้าวิ่งไปดูนางทันที
"เหมยหลินใครทำให้เจ้ามีสภาพเช่นนี้บอกพ่อมา พ่อจะจับมันประหารให้หมดทั้งตระกูล"
เหมยหลินแสร้งทำเป็นว่าตนเป็นผู้ถูกกระทำ นางร้องห่มร้องไห้ซบอกบิดา ชี้นิ้วมาทางหญิงสาวที่ยืนกอดอกจ้องมองตนอยู่
"มันรังแกลูก ลูกแค่หวังดีเห็นว่าเป็นคนยากจนไม่มีที่ไป จึงชวนให้มาพักแรมที่จวนของเรา แต่นางเป็นบ้าอะไรขึ้นมาไม่รู้ จู่ ๆ ก็เข้ามาทำร้ายลูกจนอยู่ในสภาพเช่นนี้เจ้าค่ะ"
เจ้าเมืองซิงฟู่หันมามองคนที่ทำร้ายบุตรสาวของตน เขาตั้งใจจะตวาดนาง แต่พอเห็นใบหน้าคนที่ทำร้ายบุตรสาวตนชัด ๆ พลันคอแห้งขึ้นมากะทันหัน
แววตาของชายสูงวัยจ้องมองฉินฉินด้วยความหื่นกระหาย
"จับบุรุษไปขังคุกให้หมด! ส่วนนางผู้นั้นพาไปที่จวนของข้า ข้าจะสั่งสอนนางด้วยตนเอง"
เหยียนซือเป็นบุรุษเช่นกันมีหรือจะไม่รู้ว่า สายตาของไอ้หมูตอนนั่นกำลังสื่อถึงอะไร
เขาดึงฉินฉินเข้าไปกอดปกป้อง ต่อให้ต้องตายก็จะไม่ยอมปล่อยมือ
องครักษ์ฝ่ายของฉินฉินต่างเตรียมท่าพร้อมสู้เช่นกัน พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากคุณหนูมามาก วันนี้ขอตอบแทนด้วยชีวิต!
ทว่าฉินฉินกลับพูดแทรกได้ทันก่อนทุกคนจะลงมือ
"เจ้าบอกว่าข้าทำร้ายเจ้าหรือ! ไหนเล่าพยาน ท่านเจ้าเมือง...ท่านยังไม่ทันถามไถ่ผู้ใดก็ปักใจเชื่อเสียแล้ว คนนอกเช่นข้าได้เปิดหูเปิดตากับความยุติธรรมของเมืองนี้แล้ว”
“หึ วันหน้าข้าจะไปเล่าสู่กันฟังให้ผู้คนเมืองอื่นรู้ว่า ผู้คนที่เมืองซิงฟู่นี้..ตอแหลตลบตะแลงกันเก่งเหลือเกิน"
เหมยหลินเห็นว่าตนเป็นฝ่ายเสียเปรียบจึงชี้นิ้วด่าไปทั่ว
"ทุกคนเป็นพยาน! เจ้ายังกล้าโกหกตีหน้าซื่ออีกหรือ ใช่หรือไม่...นางเป็นคนทำร้ายข้า"
ทั้งชาวบ้านบางกลุ่มและทหารที่ต้องการทำความดีเอาหน้า ต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย
"ใช่ขอรับ ข้าเห็นกับตาว่าแม่นางท่านนี้ทำร้ายคุณหนูใหญ่ นางทั้งตบทั้งตีจนคุณหนูใหญ่ของพวกเราบอบช้ำไปทั้งตัว"
ฉินฉินเลิกคิ้วมองหน้าคนพูด
คนผู้นี้คือทหารที่มายืนขวางทาง และเป็นคนไล่ให้ตนกลับไปด้วยสายตารังเกียจก่อนหน้านี้นี่เอง
"เจ้าเห็นเช่นนั้นจริงหรือ แต่น่าแปลกนัก คนมากมายที่ว่าเห็นกับตาตั้งหลายคู่ แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยคุณหนูท่านนี้แม้แต่คนเดียว มันเป็นไปได้หรือ"
ฉินฉินพูดขึ้นลอย ๆ กวาดสายตามองผู้คนที่ทำเป็นรู้เห็นปลอม ๆ ขึ้นมา พวกเขาต่างพากันแกล้งหลบตา บ้างก็เงยหน้าชมก้อนเมฆนับนกไปเรื่อย
ฉินฉินหยิบกระดาษที่พกติดตัวไว้ตลอดออกมากางให้เจ้าเมืองซิงฟู่ดู นางไม่ลืมชี้ย้ำไปยังตราประทับของเจ้าเมืองหลิงหลง
"นี่ ๆ ท่านดูนี่สิ เห็นอะไรหรือไม่ มันคือจดหมายแนะนำตัวอย่างไรเล่า ข้าแค่อยากจะมาแวะเยี่ยมชมเมืองคนรวยเสียหน่อย ไม่คาดคิดเลยว่าจะมาเจอการต้อนรับที่อบอุ่นเช่นนี้"
เจ้าเมืองซิงฟู่เห็นดังนั้นก็รู้ทันทีว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่คนธรรมดา จดหมายแนะนำตัวจะให้เฉพาะบุคคลสำคัญของแต่ละเมืองเท่านั้น
หนึ่งเมืองต่อหนึ่งคน จะพูดว่าผู้ที่มีจดหมายนี้ติดตัวเป็นผู้มีฐานะเทียบเท่าเจ้าเมืองนั้น ๆ ก็ว่าได้
เหมยหลินเห็นบิดาชะงักไปแต่นางไม่อยากขายหน้า จึงแสร้งทำเป็นเจ็บขอให้บิดาลงโทษคนให้ได้
"ท่านพ่อข้าเจ็บขาเหลือเกิน ท่านต้องลงโทษคนผิดให้ลูกนะเจ้าคะ"
เจ้าเมืองซิงฟู่สองจิตสองใจ แต่ด้วยความรักบุตรสาวยิ่งชีพ เขาแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นกระดาษในมือของฉินฉิน
"แม่นาง..ถึงท่านจะเป็นคนใหญ่คนโต แต่มารังแกคนเช่นนี้ไม่ได้ ข้าคงต้องลงโทษท่านตามกฎบ้านเมืองแล้ว มีชาวบ้านเห็นเป็นพยานมากมายเช่นนี้ท่านยังจะแก้ตัวอีกหรือ"
ฉินฉินหัวเราะเสียงดังสบตากับคุณหนูใหญ่คนงาม
"ท่านกล้าสาบานหรือไม่เล่าคุณหนู หากข้าทำร้ายท่านจริงขอให้ข้ามีอันเป็นไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่หากท่านโกหกขอให้ท่านเป็นหญิงม่ายไปตลอดชีวิต
รวมถึงคนที่เห็นเหตุการณ์ด้วย ใครพูดโกหกก็ขอให้ชีวิตล่มจม อยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็นจนกว่าจะสิ้นอายุขัย ว่าอย่างไรเล่า! หากท่านไม่ได้โกหกกล้าสาบานกับข้าหรือไม่"
แน่นอนว่าเหมยหลินไม่กล้า นางก้มหน้าไม่ตอบรับใด ๆ ทั้งสิ้น เจ้าเมืองซิงฟู่รู้ว่าบุตรสาวโกหกก็พลันหน้าเสียขึ้นมาทันควัน
คนยุคนี้เชื่อเรื่องปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติและคำสาบานมากว่า มันจะเป็นจริงดั่งที่พูดออกไป จึงไม่มีใครกล้าพูดสาบานออกมาโต้ง ๆ เหมือนที่ฉินฉินทำ
เจ้าเมืองซิงฟู่ผลักบุตรสาวออกจากตัวจนนางล้มกระแทกพื้นสลบไป ไม่รู้ว่าสลบจริงหรือแกล้งหนีอายกันแน่
"พาคุณหนูใหญ่กลับจวนเสีย แล้วกักบริเวณนางหนึ่งเดือน!"
ฉินฉินกลอกตามองบน
ช่างเป็นโทษที่ร้ายแรงมากจนข้ากลัวไปด้วยเลย
เหอะ จะแสดงละครให้ใครดูกัน รอก่อนเถิดคิดว่าจะหนีไปง่าย ๆ หรือ
ความคิดเห็น