คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : สื่อสารกับสัตว์ได้
ตอนที่ 4 สื่อสารกับสัตว์ได้
มนตราในร่างฉินฉินจูงมือน้องชายเดินไปตามทาง ทั้งสองต้องเดินเท้าเปล่าเพราะร่างเดิมถูกไล่ออกมา แม้แต่รองเท้าก็ไม่ทันได้สวมใส่ให้ดี
เอาเถอะ..รอให้เธอมีเงินก่อนนะจะซื้อมาใส่สักสิบคู่!
หญิงสาวพาน้องชายไปหาหลุมที่ซ่อนถุงเงินไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังเรือนร้าง ตามความทรงจำเดิมมันถูกฝังไว้ตามแนวหญ้าที่ถูกคนเหยียบย่ำ
เรือนร้างก็ร้างสมชื่อ ป่ารกชัฏต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด ด้านในเรือนเป็นโถงโล่ง ๆ เหมืองห้องเก็บของเสียมากกว่า ไม่มีพื้นไม้ ไม่มีห้องกั้นแยก
ไม่อยู่มันแล้วโว้ย!
โสมป่าหายากที่เจ้าของร่างเดิมเจอเป็นเพียงต้นเล็ก ๆ เท่านั้น ทำให้เธอถูกกดราคาต่ำกว่าราคาจริงไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่ยังดีที่ยังต่อรองเป็นและขายได้เป็นจำนวนเงินหนึ่งร้อยตำลึงทองกับอีกห้าสิบตำลึงเงิน
หญิงสาวใช้เงินซื้อซาลาเปาไปเพียงห้าอีแปะเท่านั้น นอกจากนั้นไม่ได้ใช้อะไรอีก ดันมาตายจากไปเสียก่อนที่จะได้ใช้เงิน
มนตราตั้งใจจะใช้เงินก้อนแรกที่เจ้าของร่างเดิมสละชีวิตแลกมาให้คุ้มค่าที่สุด เธอคิดว่าจะเอาไปลงทุนต่อยอดให้งอกเงยตามประสานักธุรกิจ
ใครเคยทำไม่ดีกับเจ้าของร่างคนเดิมเอาไว้ มันผู้นั้นจะได้ของขวัญตอบแทนที่สาสมกลับคืนไปแน่นอน
มนตราเดินลัดเลาะพุ่มหญ้าที่สูงเลยหัวเข้าไปให้ถึงลำต้นไม้ใหญ่ เมื่อเห็นรอยดินใหม่ที่ถูกขุดก็นั่งลงหากิ่งไม้แถวนั้นมาเขี่ย ๆ ไม่นานก็เจอถุงเงิน
"เฮ้อ..ดีนะที่ฉันมาเข้าร่างเธอเร็ว ฝังไว้ตื้นขนาดนี้ไก่มาหาหนอนกินก็เจอแล้วไม่ระวังจริง ๆ เลยเด็กคนนี้"
อาเยี่ยนนั่งยอง ๆ ใช้กิ่งไม้เล็ก ๆ ที่พี่สาวยื่นให้วาดรูปรอ เหมือนเขาจะได้ยินเสียงบางอย่างจึงลุกขึ้นวิ่งตามเสียงนั้นไปทันที
มนตราที่กำลังปัดดินที่ติดถุงเงินออกอยู่ รีบวิ่งไปอุ้มน้องชายไว้ไม่ให้เขาวิ่งเข้าไปในป่าอันตรายคนเดียว หากเกิดพลัดหลงขึ้นมาจะยุ่งเอาได้
จับตัวน้องชายได้หญิงสาวก็ขึ้นเสียงใส่เขาด้วยความเป็นห่วง
"ทำอะไรของเธอ..เจ้า! ฉัน..พี่ใหญ่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้รอเงียบ ๆ"
อาเยี่ยนน้อยตกใจที่ถูกพี่สาวดุ เขาก้มหน้ากำมือเข้าหากันแน่นพลางพูดเสียงเบา
"ข้าแค่จะไปหากระต่ายน้อยเท่านั้น..แม่กระต่ายน้อยไม่อยู่"
มนตราขมวดคิ้วไม่เข้าใจที่น้องชายพูด เธอรู้ว่าเขาสติไม่สมประกอบมักจะจินตนาการไปเรื่อย แต่เขาพูดอะไรทำนองนี้มาสองรอบแล้วนะ
"ไหนกระต่ายที่เธอ..เจ้าว่า มันอยู่ตรงไหน..พี่ใหญ่จะพาไปเอง หากไม่เจอกระต่ายที่เจ้าพูดถึงพี่ใหญ่จะดุเจ้านะ..เข้าใจหรือไม่"
อาเยี่ยนมั่นใจว่าเสียงที่ตนเองได้ยินเป็นเสียงลูกกระต่ายจริง ๆ เขารู้ว่าตนเองจะไม่ถูกดุแน่นอน จึงรีบชี้ทางให้พี่สาวเดินต่อ
"อยู่ตรงนั้นขอรับ"
หญิงสาวมองตามมือน้องชายชี้ไป ก่อนจะถอนหายใจออกมายาว ๆ ทางข้างหน้ามีแต่หญ้าและวัชพืช ให้ฝืนเดินต่อไปจะเจองูหรือเปล่าก็ไม่รู้
ไม่ไปก็ไม่ได้อีก เพราะเธอต้องสอนให้น้องชายรู้ถึงสิ่งอันตรายที่ซ่อนอยู่ในป่า หากเขาเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า นอกจากไม่เจอกระต่ายแล้ว ชีวิตน้อย ๆ ของตนก็คงจะไม่รอดเช่นเดียวกัน
มนตราในร่างฉินฉินพยายามข่มความกลัว เธอใช้อีกมือที่ว่างแหวกพงหญ้าแล้วเดินเท้าต่อด้วยความระมัดระวัง อาเยี่ยนน้อยก็รีบชี้บอกทางเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ตีนเขา
เมื่อเห็นว่าแถวนี้เป็นที่โล่งหญิงสาวจึงวางน้องชายลงให้เขาเดินต่อเอง
"เธอ..เจ้านำทางพี่ใหญ่ไปสิ.."
อาเยี่ยนน้อยเดินมาจับมือพี่สาวเอาไว้ แล้วจูงไปยังโพรงดินเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกล มันเป็นรูอยู่ระหว่างก้อนหินกับดินมีหญ้าแห้งปกคลุม ถึงหญิงสาวจะไม่เคยเห็นรังกระต่ายของจริงมาก่อน เธอก็รับรู้ได้ว่าโพรงข้างหน้ามีสิ่งมีชีวิตซ่อนตัวอยู่ด้านใน
ด้วยความที่กลัวว่าด้านในจะมีงูอาศัยอยู่ มนตราจึงพาน้องชายออกไปยืนให้ห่างอยู่ในระยะปลอดภัย เธอหักกิ่งไม้เป็นกิ่งเล็ก ๆ ยาวสองเมตรมาเขี่ยหญ้าออก ก็เห็นปุยนุ่นสีขาวกลม ๆ นอนหลับอยู่ด้านใน
อาเยี่ยนอาศัยจังหวะที่พี่สาวเผลอ รีบวิ่งไปทางโพรงนั้นแล้วเข้าไปอุ้มลูกกระต่ายสีขาวตัวน้อยออกมา
"พี่ใหญ่นี่ไงกระต่าย..อาเยี่ยนไม่ถูกดุแล้ว"
หญิงสาวยืนแข็งเป็นก้อนหิน เลือกไม่ได้ระหว่างต้องโกรธที่น้องชายไม่เชื่อฟังวิ่งเข้าหาสิ่งอันตราย หรือต้องตกใจที่น้องชายฟังและพูดคุยกับสัตว์รู้เรื่องก่อนดี
พระเจ้าช่วย..การที่เราย้อนยุคมาสิงร่างคนตายแล้วเกิดใหม่ก็ว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากแล้วนะ นี่ยังมีเรื่องให้ตกใจยิ่งกว่า คือมีคนฟังภาษาสัตว์เข้าใจอยู่ด้วย
อาเยี่ยนเห็นพี่สาวเหม่อลอยอีกแล้ว เขาวางลูกกระต่ายกลับไปคืนที่บ้านของมัน แล้ววิ่งกลับมาจับมือพี่สาวแกว่งไปมา
"พี่ใหญ่เป็นอะไรไป..ท่านไม่เห็นกระต่ายหรือ"
หญิงสาวได้สติขึ้นมาก็นั่งยอง ๆ เผชิญหน้าคุยกับน้องชาย หากผู้อื่นรู้ว่าน้องชายคุยกับสัตว์ป่าได้ พวกเขาต้องส่งคนมาลักพาตัวไปทำเรื่องไม่ดีแน่
กลับกันหากชาวบ้านที่เชื่อเรื่องภูตผีเข้าเส้นเลือดรู้เข้า ก็อาจจะพาน้องชายเธอไปบูชายันต์เทพเจ้าส้มโอแน่นอน
หญิงสาวจ้องตาน้องชายพลางกุมไหล่ทั้งสองข้างของเขาเอาไว้
"อาเยี่ยนฟังสิ่งที่พี่ใหญ่พูดต่อไปนี้ให้ดี เจ้าห้ามบอกเรื่องที่เจ้าฟังภาษาสัตว์ได้ให้ใครรู้เด็ดขาด มีอะไรให้มากระซิบข้างหูพี่ใหญ่ หากผู้อื่นรู้เข้าพวกเขาจะจับเราสองพี่น้องแยกจากกัน..อาเยี่ยนคงไม่อยากอยู่ห่างจากพี่ใหญ่ใช่หรือไม่"
อาเยี่ยนน้อยไม่เคยรู้มาก่อนว่าการกระทำของตนจะนำพาเรื่องใหญ่มาให้ เมื่อได้ฟังว่าจะต้องแยกจากกันเขาก็เบะปากร้องไห้สวมกอดพี่สาวแน่น
"ฮือ ๆ ๆ อาเยี่ยนจะอยู่กับพี่ใหญ่..อาเยี่ยนจะเป็นเด็กดีขอรับ"
เห็นน้องชายตระหนักถึงสิ่งสำคัญได้มนตราก็ดีใจ เธอยิ้มให้เขาแล้วกอดปลอบน้องชายไม่ให้ร้อง
"พี่ใหญ่รู้ว่าอาเยี่ยนเป็นเด็กดี..ไม่ร้องนะคนเก่ง พี่ใหญ่จะพาไปกินก๋วยเตี๋ยวหอม ๆ ในเมืองดีหรือไม่"
เด็กชายตัวน้อยยิ้มดีใจหยุดร้องไห้ทันควัน
"อาเยี่ยนเป็นผู้ชาย..ผู้ชายไม่ร้องไห้..เด็กดีต้องได้รางวัล..อาเยี่ยนอยากกินก๋วยเตี๋ยวเส้นเหลือง"
เด็กชายเคยเดินผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวในเมืองมาก่อน ตอนที่ไปหางานทำกับพี่สาวในเมือง ทว่าเขาทำได้เพียงยืนดูเท่านั้นเพราะพี่สาวไม่มีเงินซื้อให้กิน
เย้ ๆ ๆ วันนี้แหละอาเยี่ยนจะได้กินก๋วยเตี๋ยวหอม ๆ แล้ว..
ความคิดเห็น