ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท่านพี่เจ้าขา ข้าอยากรวย (จบแล้ว) มีE-BOOK

    ลำดับตอนที่ #39 : บทที่ 39 ได้เวลาเติบโตแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 66


    บทที่ 39 ได้เวลาเติบโตแล้ว

    ฟางเหนียงออกเดินทางตอนบ่ายแก่ ๆ ครั้งนี้มีแม่สามีและสะใภ้ทั้งสองเดินทางมาด้วย ตามที่ฟางเหนียงได้ขอไว้ก่อนหน้านี้

    พวกนางปรึกษากับสามีตั้งแต่เมื่อคืน หากมีโอกาสมาถึงที่แล้วก็ควรคว้าไว้ จะตายรังอยู่แต่ในหมู่บ้านกลางป่าตลอดก็คงเป็นไปไม่ได้

    บรรดาสามีผู้รักภรรยายิ่งชีพมีหรือจะขัดใจ

    หากพวกนางตัดสินใจดีแล้ว พวกเขาก็ทำได้เพียงสนับสนุน คราวนี้ยอมห่างกันสักพัก แต่หากคิดถึงก็ยังไปมาหาสู่กันได้ตลอด อีกอย่างหากขายผลซีกวาหมดแล้ว ก็จะพาเด็ก ๆ เดินทางตามไปภายหลังด้วย

    สะใภ้รองที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับฟางเหนียง ช่วงนี้ดูสงบขึ้นมากจนผิดหูผิดตา แต่นางคงกลัวไม่ได้รับผลประโยชน์ ถึงได้ยอมญาติดีกัน

    ฟางเหนียงเองก็ไม่ได้ยิ่งนอนใจ เพราะหากอีกฝ่ายเผยธาตุแท้ออกมาหรือหักหลังกัน ก็เตรียมตัวถูกเฉดหัวทิ้งได้เลย

    “ท่านแม่กับพี่สะใภ้ ช่วงนี้ก็อยู่ที่เรือนของเจ้าใหญ่เจ้ารองไปก่อนนะเจ้าคะ อีกสองสามวันข้าจะจ้างคนมาสร้างเรือนเพิ่มให้ ยามนี้ต้องอยู่ด้วยกันไปก่อนก็อบอุ่นดีเจ้าค่ะ อยู่ในที่ดินกว้างขวางเช่นนี้ข้าน่ะเหงานัก”

    ฟางเหนียงจัดแจงทุกอย่างเองเสร็จสรรพ แล้วบังคับให้ทุกคนมาอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ในรั้วเดียวกัน

    นางถึงขั้นอาสาออกเงินสร้างเรือนให้อีกด้วย เพราะคิดว่าอย่างไรครอบครัวก็ต้องเป็นกำลังหลักคอยช่วยงานอยู่แล้ว ต้องเลี้ยงดูพวกเขาให้ดี

    ผลประกอบการขายผลซีกวาวันนี้เป็นที่น่าพอใจ นางได้เงินมาสามตำลึงทองกับอีกหกทองเม็ดถั่ว ก็ถือว่าคุ้มแล้วกับการอดทนรอ

    การสร้างเรือนธรรมดาสักสองสามหลัง ไม่ได้สร้างจวนใหญ่โตคงใช้เงินไม่เกินสิบตำลึงทอง

    นางวางแผนจะสร้างเรือนให้พ่อแม่สามีแยกหนึ่งหลัง และของครอบครัวสะใภ้ใหญ่กับสะใภ้รองอีกคนละหลัง

    เรือนสามหลังนี้พอปลูกในที่ดินได้อยู่ นางกะจะสร้างให้พออยู่ได้ไปก่อน หากกิจการเป็นไปได้ดี ในภายภาคหน้าค่อยเริ่มขยับขยายกันใหม่

    อีกอย่างฟางเหนียงก็ซื้อที่ดินในหมู่บ้านเพิ่มแล้ว และทิ้งบุตรชายคนโตกับบุตรชายคนรอง ให้ไปปลูกผลไม้ชนิดเดียวกับที่ปลูกไว้ในมิติ คาดว่าอีกหนึ่งถึงสองเดือนพวกมันถึงจะออกผลให้เก็บเกี่ยวได้ ถึงตอนนั้นนางคงหาเงินได้หลายพันตำลึงทองแล้ว

    ในคราวเดียวกันก็ไม่คิดจะปลูกแค่ในหมู่บ้านกวางน้ำเท่านั้น นางยังต้องการซื้อที่ดินรอบนอกอำเภอด้วยเช่นเดียวกัน คิดว่าจะนำมาปลูกผลไม้หายากส่งขายเมืองอื่นด้วย

    ปีนี้นางจะถือว่าเป็นปีทองของผลไม้ จึงอยากค่อย ๆ เติบโตไปทีละก้าว ไม่คิดเร่งรีบเพราะหากก้าวพลาดขึ้นมาจะได้ไม่เจ็บหนัก

    หญิงชรากับสะใภ้ทั้งสองได้แต่ฟังฟางเหนียงพูด พวกนางไม่รู้ว่าจะแสดงความคิดเห็นอะไรดี เพราะทุกสิ่งที่ฟางเหนียงพูดมา ก็ออกจะเกินจินตนาการของชาวบ้านที่อยู่กับความจนมาทั้งชีวิตไปสักนิด

    “ขอแค่ทุกคนเชื่อใจข้า ชีวิตของพวกท่านจะดีขึ้นแน่นอนเจ้าค่ะ”

    เดินทางมาถึงอำเภอลี่สุ่ยช่วงเย็นพอดี ฟางเหนียงพาทุกคนไปส่งที่จวนของตนเองก่อนจะได้พักผ่อน

    ในตอนที่ทุกคนเห็นที่ดินของสะใภ้สามครั้งแรกก็พากันอุทาน ไม่คาดคิดว่านางจะมีที่ดินจำนวนมากเช่นนี้ ถึงขั้นมีลำธารตัดผ่านด้วย เรื่องราคาคงไม่ต้องพูดถึง

    ฟางเหนียงบอกให้ซีซวนน้อยพาทุกคนไปเดินสำรวจรอบ ๆ จวน ส่วนนางจะไปที่ร้านขายสุรา เพื่อขอให้ผู้อาวุโสช่วยหาสถานที่ตั้งร้านให้

    หากได้ร้านที่อยู่ในตรอกเดิมก็จะดีมาก

    หญิงชราชมฟางเหนียงไม่หยุดปาก ที่นางเติบโตเร็วขึ้นด้วยกำลังของตัวเอง ทั้งยังรับปากว่าจะดูสถานที่ตั้งร้านให้ เพราะช่วงนี้พ่อค้าแม่ค้าเริ่มทยอยย้ายไปอยู่ต่างอำเภอกันแล้ว

    เป็นเพราะเศรษฐกิจที่อำเภอนี้เริ่มซบเซา ร้านค้าหลายร้านเริ่มขาดทุนกันถ้วนหน้า ขืนฝืนทนต่อไปแม้แต่ข้าวสารก็คงไม่มีปัญญาซื้อ

    เมื่อบอกความต้องการกับเจ้าถิ่นเรียบร้อยแล้ว ฟางเหนียงก็กลับจวนพร้อมของเต็มรถม้า ล้วนแต่เป็นของที่ใช้ขายในวันพรุ่งนี้ทั้งสิ้น

    อาหารเช้าก็คงขายข้าวต้มทรงเครื่องตามเดิม ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นข้าวขาหมูกับข้าวมันไก่ให้ดูหลากหลายสักหน่อย

    มีคนมาช่วยขายเช่นนี้ ฟางเหนียงก็กล้าลงทุนเพิ่มขึ้นแล้ว

     

    เช้าวันต่อมา

    เช้านี้บรรดาสตรีทั้งหลายตื่นก่อนเจ้าของบ้าน รีบลุกมาหุงข้าวเตรียมของทุกอย่างก่อนที่ฟางเหนียงจะตื่น

    พวกเขามองไม่เห็นดวงวิญญาณ แต่รับรู้ถึงสายลมชวนขนลุกพัดผ่านกายเท่านั้น

    สูตรอาหารทั้งหมดฟางเหนียงได้เขียนแปะไว้ที่กลางห้องครัวแล้ว แต่นางไม่รู้เลยว่ากระดาษแผ่นนี้ ไม่มีใครอ่านออกเลยแม้แต่คนเดียว

    แม่สามีที่กลัวทำอาหารผิดสูตร จึงสั่งให้สะใภ้ทั้งสองไปหั่นผัก และเตรียมวัตถุดิบไว้รอก็พอ ส่วนเรื่องปรุงรสจะให้ฟางเหนียงมาทำเอง

    ฟางเหนียงตื่นสายกว่าทุกวัน พอตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าของทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้แล้ว

    นางยิ้มแก้มปริที่ตัดสินใจไม่ผิด กล้าชวนทุกคนมาทำงานด้วย เพราะนี่ก็ช่วยทุ่นแรงไปได้เยอะ ไม่ต้องเหนื่อยเตรียมของคนเดียวอีกแล้ว

    เวลานี้เสี่ยวไป่ไม่อยู่ชั่วคราว มันกลับขึ้นสวรรค์เพื่อไปทำธุระบางอย่าง ช่วงนี้ฟางเหนียงจึงไม่ค่อยได้เข้าไปในมิติเท่าไหร่นัก แต่ยังคงซื้อของกับระบบอยู่เหมือนเคย

    วัตถุดิบทั้งหลายถูกจัดเตรียมเสร็จเร็ว จึงได้ตั้งร้านไวกว่าทุกวัน ยามนี้ดวงอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น ทว่าร้านของฟางเหนียงกลับพร้อมขายแล้ว

    เช้าขนาดที่ว่าเจ้าเด็กดื้อทั้งสองยังหลับไม่ยอมตื่นเลยน่ะสิ

    ฟางเหนียงบังคับรถม้าไปกลับอยู่สองสามรอบ ทยอยขนของที่จะขายวันนี้มาไว้ที่ร้าน รอบสุดท้ายก็พาลูกน้อยทั้งสองติดรถม้ามาด้วย

    พอมีคนมาช่วยงานจะให้เก็บของไว้ในมิติ แล้วมารอบเดียวก็คงจะไม่ได้ อย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ควรเปิดเผยให้คนนอกรับรู้

    เวลานี้ร้านสุราของท่านยายยังไม่เปิด อีกทั้งช่วงนี้ทั้งอำเภอเงียบเหงาอย่างที่หญิงชราพูดไว้จริง ๆ ฟางเหนียงเห็นแม่สามีทำหน้าเครียด ก็คิดว่านางคงกลัวของที่เตรียมไว้จะขายไม่หมด

    ร่างอวบอ้วนจึงเดินเข้าไปพูดปลอบแม่สามีว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในอำเภอมีเป็นพัน ๆ คน อย่างไรของก็ขายหมดอยู่แล้ว

    นางอยากให้ทุกคนวางใจ จึงต้องคอยบอกว่าตอนนี้ฟ้ายังมืดอยู่คนยังไม่ออกมาทำงานกัน อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไป

    ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะทันทีที่ฟ้าสว่าง คนงานเริ่มเข้ามาในอำเภอแล้ว ร้านของฟางเหนียงก็ยังวุ่นวายเหมือนเคย ภาพเหตุการณ์เช่นนี้จื่อหมิ่งเผชิญมาแล้ว เขาได้แต่ส่งกำลังใจมาให้ผ่านทางสายลม

    วันนี้มีคนช่วยงานในร้านถึงสามคน ฟางเหนียงจึงมีเวลาว่างปลีกตัวมาดูร้านที่ต้องการขายกับเถ้าแก่เนี้ย

    คนที่ต้องการขายร้านนี้ แต่ก่อนเคยเปิดเป็นเหลาอาหาร แต่เลิกขายไปเป็นปีแล้ว ร้านของเขามีอาคารติดกันทั้งหมดสามหลัง ถือว่าใหญ่พอสมควร

    ฟางเหนียงเห็นแล้วก็ถูกใจทันที ที่ผ่านมานางมองข้ามมันตลอด เพราะตัวร้านอยู่ห่างจากร้านเดิมเพียงอาคารห้าหลังกั้นเท่านั้น หากเดินไปสุดตรอกก็จะเจอสำนักศึกษาของอำเภอ ทำเลดีเช่นนี้ต้องรีบคว้าไว้ก่อน

    หลังจากตกลงซื้อขาย ฟางเหนียงก็ขอแบ่งจ่ายเงินเป็นสามงวดจนถึงสิ้นปีหน้า เจ้าของที่คนเก่าก็รับข้อเสนอ เพราะไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน จึงยอมขายร้านให้ฟางเหนียงในราคาถูก

    เมื่อได้รับโฉนดมาแล้ว ฟางเหนียงก็ไม่รอช้ารีบติดต่อหาช่างมาปรับปรุงร้านให้เสร็จภายในหนึ่งวันทันที

    นายช่างใหญ่พาลูกน้องมากว่าสามสิบคน มารุมทำร้านให้กับฟางเหนียง ทำงานทั้งวันทั้งคืนร้านก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดอย่างรวดเร็ว

    แต่ฟางเหนียงยังต้องการตกแต่งร้านให้โดดเด่นอีก จึงเขียนแบบแปลนในหัวออกมาให้นายช่างใหญ่ดู เขามองดูแล้วก็ขอเวลาห้าวัน รับรองเสร็จทันใจแน่นอน

    การปรับปรุงร้านในครั้งนี้สูญเงินไปมากพอสมควร อีกอย่างฟางเหนียงก็ดันถังแตกมีเงินไม่พอจ่าย จึงแอบเช่าโรงนานอกอำเภอ แล้วนำผลซีกวาที่อยู่ในมิติมาขายให้กับพ่อค้าเร่ ที่เคยค้าขายกันเมื่อหลายวันก่อน เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าจ้างให้กับนายช่างใหญ่

    เพียงเท่านี้ร้านอาหารก็พร้อมเปิดแล้ว

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×