คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : บทที่ 39 ได้เวลาเติบโตแล้ว
บทที่ 39 ได้เวลาเติบโตแล้ว
ฟางเหนียงออกเดินทางตอนบ่ายแก่ ๆ ครั้งนี้มีแม่สามีและสะใภ้ทั้งสองเดินทางมาด้วย ตามที่ฟางเหนียงได้ขอไว้ก่อนหน้านี้
พวกนางปรึกษากับสามีตั้งแต่เมื่อคืน หากมีโอกาสมาถึงที่แล้วก็ควรคว้าไว้ จะตายรังอยู่แต่ในหมู่บ้านกลางป่าตลอดก็คงเป็นไปไม่ได้
บรรดาสามีผู้รักภรรยายิ่งชีพมีหรือจะขัดใจ
หากพวกนางตัดสินใจดีแล้ว พวกเขาก็ทำได้เพียงสนับสนุน คราวนี้ยอมห่างกันสักพัก แต่หากคิดถึงก็ยังไปมาหาสู่กันได้ตลอด อีกอย่างหากขายผลซีกวาหมดแล้ว ก็จะพาเด็ก ๆ เดินทางตามไปภายหลังด้วย
สะใภ้รองที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับฟางเหนียง ช่วงนี้ดูสงบขึ้นมากจนผิดหูผิดตา แต่นางคงกลัวไม่ได้รับผลประโยชน์ ถึงได้ยอมญาติดีกัน
ฟางเหนียงเองก็ไม่ได้ยิ่งนอนใจ เพราะหากอีกฝ่ายเผยธาตุแท้ออกมาหรือหักหลังกัน ก็เตรียมตัวถูกเฉดหัวทิ้งได้เลย
“ท่านแม่กับพี่สะใภ้ ช่วงนี้ก็อยู่ที่เรือนของเจ้าใหญ่เจ้ารองไปก่อนนะเจ้าคะ อีกสองสามวันข้าจะจ้างคนมาสร้างเรือนเพิ่มให้ ยามนี้ต้องอยู่ด้วยกันไปก่อนก็อบอุ่นดีเจ้าค่ะ อยู่ในที่ดินกว้างขวางเช่นนี้ข้าน่ะเหงานัก”
ฟางเหนียงจัดแจงทุกอย่างเองเสร็จสรรพ แล้วบังคับให้ทุกคนมาอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ในรั้วเดียวกัน
นางถึงขั้นอาสาออกเงินสร้างเรือนให้อีกด้วย เพราะคิดว่าอย่างไรครอบครัวก็ต้องเป็นกำลังหลักคอยช่วยงานอยู่แล้ว ต้องเลี้ยงดูพวกเขาให้ดี
ผลประกอบการขายผลซีกวาวันนี้เป็นที่น่าพอใจ นางได้เงินมาสามตำลึงทองกับอีกหกทองเม็ดถั่ว ก็ถือว่าคุ้มแล้วกับการอดทนรอ
การสร้างเรือนธรรมดาสักสองสามหลัง ไม่ได้สร้างจวนใหญ่โตคงใช้เงินไม่เกินสิบตำลึงทอง
นางวางแผนจะสร้างเรือนให้พ่อแม่สามีแยกหนึ่งหลัง และของครอบครัวสะใภ้ใหญ่กับสะใภ้รองอีกคนละหลัง
เรือนสามหลังนี้พอปลูกในที่ดินได้อยู่ นางกะจะสร้างให้พออยู่ได้ไปก่อน หากกิจการเป็นไปได้ดี ในภายภาคหน้าค่อยเริ่มขยับขยายกันใหม่
อีกอย่างฟางเหนียงก็ซื้อที่ดินในหมู่บ้านเพิ่มแล้ว และทิ้งบุตรชายคนโตกับบุตรชายคนรอง ให้ไปปลูกผลไม้ชนิดเดียวกับที่ปลูกไว้ในมิติ คาดว่าอีกหนึ่งถึงสองเดือนพวกมันถึงจะออกผลให้เก็บเกี่ยวได้ ถึงตอนนั้นนางคงหาเงินได้หลายพันตำลึงทองแล้ว
ในคราวเดียวกันก็ไม่คิดจะปลูกแค่ในหมู่บ้านกวางน้ำเท่านั้น นางยังต้องการซื้อที่ดินรอบนอกอำเภอด้วยเช่นเดียวกัน คิดว่าจะนำมาปลูกผลไม้หายากส่งขายเมืองอื่นด้วย
ปีนี้นางจะถือว่าเป็นปีทองของผลไม้ จึงอยากค่อย ๆ เติบโตไปทีละก้าว ไม่คิดเร่งรีบเพราะหากก้าวพลาดขึ้นมาจะได้ไม่เจ็บหนัก
หญิงชรากับสะใภ้ทั้งสองได้แต่ฟังฟางเหนียงพูด พวกนางไม่รู้ว่าจะแสดงความคิดเห็นอะไรดี เพราะทุกสิ่งที่ฟางเหนียงพูดมา ก็ออกจะเกินจินตนาการของชาวบ้านที่อยู่กับความจนมาทั้งชีวิตไปสักนิด
“ขอแค่ทุกคนเชื่อใจข้า ชีวิตของพวกท่านจะดีขึ้นแน่นอนเจ้าค่ะ”
เดินทางมาถึงอำเภอลี่สุ่ยช่วงเย็นพอดี ฟางเหนียงพาทุกคนไปส่งที่จวนของตนเองก่อนจะได้พักผ่อน
ในตอนที่ทุกคนเห็นที่ดินของสะใภ้สามครั้งแรกก็พากันอุทาน ไม่คาดคิดว่านางจะมีที่ดินจำนวนมากเช่นนี้ ถึงขั้นมีลำธารตัดผ่านด้วย เรื่องราคาคงไม่ต้องพูดถึง
ฟางเหนียงบอกให้ซีซวนน้อยพาทุกคนไปเดินสำรวจรอบ ๆ จวน ส่วนนางจะไปที่ร้านขายสุรา เพื่อขอให้ผู้อาวุโสช่วยหาสถานที่ตั้งร้านให้
หากได้ร้านที่อยู่ในตรอกเดิมก็จะดีมาก
หญิงชราชมฟางเหนียงไม่หยุดปาก ที่นางเติบโตเร็วขึ้นด้วยกำลังของตัวเอง ทั้งยังรับปากว่าจะดูสถานที่ตั้งร้านให้ เพราะช่วงนี้พ่อค้าแม่ค้าเริ่มทยอยย้ายไปอยู่ต่างอำเภอกันแล้ว
เป็นเพราะเศรษฐกิจที่อำเภอนี้เริ่มซบเซา ร้านค้าหลายร้านเริ่มขาดทุนกันถ้วนหน้า ขืนฝืนทนต่อไปแม้แต่ข้าวสารก็คงไม่มีปัญญาซื้อ
เมื่อบอกความต้องการกับเจ้าถิ่นเรียบร้อยแล้ว ฟางเหนียงก็กลับจวนพร้อมของเต็มรถม้า ล้วนแต่เป็นของที่ใช้ขายในวันพรุ่งนี้ทั้งสิ้น
อาหารเช้าก็คงขายข้าวต้มทรงเครื่องตามเดิม ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นข้าวขาหมูกับข้าวมันไก่ให้ดูหลากหลายสักหน่อย
มีคนมาช่วยขายเช่นนี้ ฟางเหนียงก็กล้าลงทุนเพิ่มขึ้นแล้ว
เช้าวันต่อมา
เช้านี้บรรดาสตรีทั้งหลายตื่นก่อนเจ้าของบ้าน รีบลุกมาหุงข้าวเตรียมของทุกอย่างก่อนที่ฟางเหนียงจะตื่น
พวกเขามองไม่เห็นดวงวิญญาณ แต่รับรู้ถึงสายลมชวนขนลุกพัดผ่านกายเท่านั้น
สูตรอาหารทั้งหมดฟางเหนียงได้เขียนแปะไว้ที่กลางห้องครัวแล้ว แต่นางไม่รู้เลยว่ากระดาษแผ่นนี้ ไม่มีใครอ่านออกเลยแม้แต่คนเดียว
แม่สามีที่กลัวทำอาหารผิดสูตร จึงสั่งให้สะใภ้ทั้งสองไปหั่นผัก และเตรียมวัตถุดิบไว้รอก็พอ ส่วนเรื่องปรุงรสจะให้ฟางเหนียงมาทำเอง
ฟางเหนียงตื่นสายกว่าทุกวัน พอตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าของทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้แล้ว
นางยิ้มแก้มปริที่ตัดสินใจไม่ผิด กล้าชวนทุกคนมาทำงานด้วย เพราะนี่ก็ช่วยทุ่นแรงไปได้เยอะ ไม่ต้องเหนื่อยเตรียมของคนเดียวอีกแล้ว
เวลานี้เสี่ยวไป่ไม่อยู่ชั่วคราว มันกลับขึ้นสวรรค์เพื่อไปทำธุระบางอย่าง ช่วงนี้ฟางเหนียงจึงไม่ค่อยได้เข้าไปในมิติเท่าไหร่นัก แต่ยังคงซื้อของกับระบบอยู่เหมือนเคย
วัตถุดิบทั้งหลายถูกจัดเตรียมเสร็จเร็ว จึงได้ตั้งร้านไวกว่าทุกวัน ยามนี้ดวงอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น ทว่าร้านของฟางเหนียงกลับพร้อมขายแล้ว
เช้าขนาดที่ว่าเจ้าเด็กดื้อทั้งสองยังหลับไม่ยอมตื่นเลยน่ะสิ
ฟางเหนียงบังคับรถม้าไปกลับอยู่สองสามรอบ ทยอยขนของที่จะขายวันนี้มาไว้ที่ร้าน รอบสุดท้ายก็พาลูกน้อยทั้งสองติดรถม้ามาด้วย
พอมีคนมาช่วยงานจะให้เก็บของไว้ในมิติ แล้วมารอบเดียวก็คงจะไม่ได้ อย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ควรเปิดเผยให้คนนอกรับรู้
เวลานี้ร้านสุราของท่านยายยังไม่เปิด อีกทั้งช่วงนี้ทั้งอำเภอเงียบเหงาอย่างที่หญิงชราพูดไว้จริง ๆ ฟางเหนียงเห็นแม่สามีทำหน้าเครียด ก็คิดว่านางคงกลัวของที่เตรียมไว้จะขายไม่หมด
ร่างอวบอ้วนจึงเดินเข้าไปพูดปลอบแม่สามีว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในอำเภอมีเป็นพัน ๆ คน อย่างไรของก็ขายหมดอยู่แล้ว
นางอยากให้ทุกคนวางใจ จึงต้องคอยบอกว่าตอนนี้ฟ้ายังมืดอยู่คนยังไม่ออกมาทำงานกัน อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไป
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะทันทีที่ฟ้าสว่าง คนงานเริ่มเข้ามาในอำเภอแล้ว ร้านของฟางเหนียงก็ยังวุ่นวายเหมือนเคย ภาพเหตุการณ์เช่นนี้จื่อหมิ่งเผชิญมาแล้ว เขาได้แต่ส่งกำลังใจมาให้ผ่านทางสายลม
วันนี้มีคนช่วยงานในร้านถึงสามคน ฟางเหนียงจึงมีเวลาว่างปลีกตัวมาดูร้านที่ต้องการขายกับเถ้าแก่เนี้ย
คนที่ต้องการขายร้านนี้ แต่ก่อนเคยเปิดเป็นเหลาอาหาร แต่เลิกขายไปเป็นปีแล้ว ร้านของเขามีอาคารติดกันทั้งหมดสามหลัง ถือว่าใหญ่พอสมควร
ฟางเหนียงเห็นแล้วก็ถูกใจทันที ที่ผ่านมานางมองข้ามมันตลอด เพราะตัวร้านอยู่ห่างจากร้านเดิมเพียงอาคารห้าหลังกั้นเท่านั้น หากเดินไปสุดตรอกก็จะเจอสำนักศึกษาของอำเภอ ทำเลดีเช่นนี้ต้องรีบคว้าไว้ก่อน
หลังจากตกลงซื้อขาย ฟางเหนียงก็ขอแบ่งจ่ายเงินเป็นสามงวดจนถึงสิ้นปีหน้า เจ้าของที่คนเก่าก็รับข้อเสนอ เพราะไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน จึงยอมขายร้านให้ฟางเหนียงในราคาถูก
เมื่อได้รับโฉนดมาแล้ว ฟางเหนียงก็ไม่รอช้ารีบติดต่อหาช่างมาปรับปรุงร้านให้เสร็จภายในหนึ่งวันทันที
นายช่างใหญ่พาลูกน้องมากว่าสามสิบคน มารุมทำร้านให้กับฟางเหนียง ทำงานทั้งวันทั้งคืนร้านก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดอย่างรวดเร็ว
แต่ฟางเหนียงยังต้องการตกแต่งร้านให้โดดเด่นอีก จึงเขียนแบบแปลนในหัวออกมาให้นายช่างใหญ่ดู เขามองดูแล้วก็ขอเวลาห้าวัน รับรองเสร็จทันใจแน่นอน
การปรับปรุงร้านในครั้งนี้สูญเงินไปมากพอสมควร อีกอย่างฟางเหนียงก็ดันถังแตกมีเงินไม่พอจ่าย จึงแอบเช่าโรงนานอกอำเภอ แล้วนำผลซีกวาที่อยู่ในมิติมาขายให้กับพ่อค้าเร่ ที่เคยค้าขายกันเมื่อหลายวันก่อน เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าจ้างให้กับนายช่างใหญ่
เพียงเท่านี้ร้านอาหารก็พร้อมเปิดแล้ว
ความคิดเห็น