คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : อาเจียน
ตอนที่ 39 อาเจียน
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
ทุกคนต่างพากันเก็บของเตรียมออกเดินทางแต่เช้า ทว่าก่อนจะไปยังจุดหมายปลายทาง ฉินฉินต้องการแวะชมเมืองที่ขึ้นชื่อว่า มีคนรวยอาศัยอยู่มากที่สุดในแคว้นหมิงเสียก่อน
นางอยากไปดูวิถีคนรวยในยุคนี้ว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร จะแตกต่างจากวิถีคนรวยจากโลกเดิมของนางหรือไม่
เมืองที่นางต้องการไปเยือนมีชื่อว่าเมืองซิงฟู่ เป็นเมืองที่มีเหมืองทองหลายแห่งไม่แปลกที่ผู้คนที่นั่นจะร่ำรวย ขนาดคนที่ไปเป็นข้ารับใช้เขายังมีเงินเก็บส่งกลับมาให้ครอบครัวปีละหลายสิบตำลึงเงิน
แต่ใช่ว่าเป็นเมืองที่ใครนึกอยากจะเข้าก็เข้าได้ เพราะเมืองซิงฟู่ตรวจคนเข้าเมืองเข้มมาก หากไม่ใช่ญาติของประชาชนในเมือง ย่อมเข้าไปด้านในไม่ได้เด็ดขาด เกือบจะเป็นเมืองปิดสำหรับคนนอกเลยก็ว่าได้
ฉินฉินที่ได้รับของดีมากจากท่านเจ้าเมืองหลิงหลง ได้หยิบจดหมายแนะนำที่เขาฝากมาให้ออกเปิดดู
เห็นเป็นจดหมายแนะนำตัว พร้อมกับตราประทับของเจ้าเมืองหลิงหลง หากมีจดหมายนี้แม้แต่พระราชวัง นางก็เข้าไปเยือนได้สบาย ๆ
"ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็ออกเดินทางเถิด เราจะไม่หยุดพักระหว่างทาง จะมุ่งหน้าตรงไปยังเมืองซิงฟู่ ใครอยากปลดทุกข์ให้รีบจัดการเสียเดี๋ยวนี้”
"ขอรับ"
เหล่าองครักษ์รับคำหนักแน่น เร่งมือเก็บของใส่หีบของตนก่อนนำไปเก็บบนรถม้า
จางหมินที่อยู่ดี ๆ ก็ป่วยหนักนอนพักอยู่บนรถม้า ส่วนฉินฉินปีนขึ้นไปขี่ม้าตัวเดียวกันกับเหยียนซือเหมือนเดิม
ฉินฉินลืมไปแล้วว่าเมื่อวันก่อนนางได้เจอเรื่องแปลกประหลาด พอตื่นเช้ามาก็พบกับกระโจมที่เหยียนซือสร้างไว้ให้สำหรับอาบน้ำโดยเฉพาะ ทำให้หญิงสาวไม่ต้องลำบากเดินเข้าป่าไปอาบน้ำคนเดียวให้อันตรายอีก
เหยียนซือก้มหน้ามองหญิงสาวที่หันซ้ายหันขวา มองป่าสองข้างทางด้วยความตื่นเต้น เขารู้สึกว่านางช่างน่ารักเสียจริง เหมือนกับเด็กตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งเคยออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านเป็นครั้งแรก
"เจ้าชอบธรรมชาติอย่างนั้นหรือ"
ฉินฉินพยักหน้ารับ ถึงแม้สองข้างทางจะรายล้อมไปด้วยป่าสีเขียว แต่ยิ่งมองนาน ๆ กลับรู้สึกไม่เบื่อ ราวกับมีมนตร์ขลังบางอย่างในต้นไม้ทุกต้น
"ข้าชอบความเงียบสงบเช่นนี้ ไม่วุ่นวายดี อยากจะมีบ้านอยู่กลางป่าเขา มีน้ำตกใกล้ ๆ เพิ่มอีก หากมีบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ด้วยยิ่งดี ชีวิตที่ข้าใฝ่ฝันอยากจะมีคือความสงบสุขแบบเรียบง่ายกับคนที่ข้ารัก"
"ได้! ข้าจะทำให้ได้ตามที่เจ้าต้องการ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน เจ้าต้องมีลูกให้ข้าหลาย ๆ คน พวกเขาจะได้เลี้ยงดูกันเอง เจ้าจะได้มีเวลาให้ข้ามากขึ้น"
ฉินฉินเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ไม่ยอมหลงกลง่าย ๆ
"ใครบอกว่าข้าจะแต่งงานกับเจ้ากัน บอกไว้ก่อนนะ ข้าไม่คิดจะมีคนรักตอนนี้ ชีวิตของข้านั้นยังอีกยาวไกล อีกทั้งเจ้ายังต้องไปตามทางของเจ้าอีก เราคงไม่ได้เจอกันหลายปี ไม่แน่ตอนเจ้ากลับมาข้าอาจแต่งงานไปแล้วก็ได้"
เหยียนซือกระชับอ้อมแขนที่กอดเอวหญิงสาวเข้าหาตัวมากกว่าเดิม เขาก้มหน้าวางคางเกยไหล่ของนาง แล้วหันหน้าเข้าหากันกระซิบข้างหูเสียงเบา
"เจ้าอย่าแม้แต่จะคิด หากข้ายังไม่ได้ทำคะแนน คนผู้นั้นก็ไม่มีทางได้พบเจอกับเจ้า ได้โปรดรอข้ากลับมาเถิดนะ อย่าเพิ่งคิดหนีข้าไปเลย"
ฉินฉินยกมือดันหน้าเขาออกห่าง หญิงสาวหน้าแดงหูแดงไปหมด ตอนเขาพูดหน้าเขาอยู่ใกล้มากทำให้ปากของเขาชนเข้ากับแก้มของนาง ไหนจะลมหายใจร้อน ๆ นั่นที่รินรดต้นคออีก
"คนบ้า..อยู่ให้ห่างจากข้าเลยนะ เลิกหลอกกินเต้าหู้ข้าได้แล้ว หยุดม้า! ข้าจะไปนั่งกับจางหมิน"
เหยียนซือเห็นนางเขินอายก็รู้สึกพอใจยิ้มหน้าบาน เขาต้องหาโอกาสใกล้ชิดตัวนางบ่อย ๆ ก่อนจะแยกจากกัน นางจะได้นึกถึงสัมผัสที่คุ้นเคย
เมื่ออยู่กับชายอื่นหน้าของข้าต้องโผล่เข้าไปขัดขวางนาง
ชายหนุ่มวางแผนไว้ทุกอย่างแล้ว เรื่องอะไรเขาต้องปล่อยให้นางลงจากม้าด้วย เหยียนซือเร่งฝีเท้าม้าจากเดินเป็นวิ่ง
"ข้าสองคนจะล่วงหน้าไปก่อน พวกเจ้าค่อยตามมาทีหลังแล้วกัน"
ฉินฉินไม่ค่อยชินกับฝีเท้าม้าที่เร็วจนลมปะทะหน้าจนแสบเช่นนี้ นางจึงหันข้างซุกซบใบหน้ากับแขนแกร่งของเหยียนซือ
"ฝากดูจางหมินด้วย...ว้าก! เจ้า..เจ้า..ช้าลงเดี๋ยวนี้!"
เสียงหญิงสาวกรีดร้องไปตามทาง จากดังกลายเป็นเบาลงเรื่อย ๆ พร้อมกับฝุ่นที่ฟุ้งกระจายไปตลอดทาง
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนทุกคนตั้งตัวไม่ทัน
องครักษ์แบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเร่งฝีเท้าม้าตามหลังเจ้านายไป ส่วนอีกกลุ่มอยู่ในขบวนเดินทางต่อ
เหยียนซือเห็นหญิงสาวที่ตนแอบชอบเข้าใกล้มากขึ้น ยิ่งชอบใจมากขึ้นไปอีก จึงบังคับม้าคู่ใจให้เร่งฝีเท้าเร็วกว่าเดิม
ม้าตัวใหญ่สีนิลร้องรับคำสั่ง มันชอบความท้าทายเหมือนกับเจ้าของ จึงเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิมพุ่งตรงไปตามทางไร้ทีท่าอ่อนแรง
ฉินฉินกระเด้งกระดอนไปมา นางจุกไปหมดรู้สึกว่าไส้ไหลลงไปรวมกันอยู่ปลายนิ้วโป้งหมดแล้ว
"เหยียนซือช้าลงหน่อย..ข้าเวียนหัว"
เหยียนซือก้มลงมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนตน ก็เห็นนางหน้าเขียวคล้ำทำท่าขย้อนเอาอาหารเช้าที่กินไปออกมาอยู่รอมร่อ จึงรีบหยุดม้าแล้วกระโดดลงไปรออุ้มนางลงจากม้า
เท้าแตะพื้นได้ฉินฉินก็วิ่งเข้ามาหยุดที่ใต้ต้นไม้ นางขออนุญาตเจ้าป่าเจ้าเขาในใจ แล้วอาเจียนออกมาเป็นสายรุ้ง
เหยียนซือที่ตามมาทีหลังนั่งยอง ๆ ลูบหลังให้นาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสำนึกผิดที่ตนคึกคะนองเกินไป จนลืมใส่ใจหญิงสาวที่ร่วมเดินทางมาด้วย
"อ้วก..แหวะ"
"เอ่อ..ข้าขอโทษนะ..เจ้าอย่าโกรธข้าเลย"
ฉินฉินหันมามองค้อนคนตัวโต
พอเห็นหน้าเขานางก็อาเจียนหนักกว่าเดิม
เหยียนซือรู้สึกผิดแต่ยังอยากแกล้งหญิงสาวอยู่ จึงพูดหยอกนางยิ้ม ๆ
"เจ้ากำลังท้องลูกของข้าอยู่หรือ ข้ากำลังจะเป็นพ่อคนแล้วสินะ ขอบใจเจ้ามากฮูหยินของข้า"
ฉินฉินสะดุ้งเผลอกลืนทุกอย่างลงท้อง ลุกพรวดขึ้นเดินอาด ๆ กลับไปที่ม้า แล้วหยิบกระบอกน้ำที่ห้อยอยู่ข้างตัวม้ามากลั้วคอล้างปาก
"อี๋...ท้องบ้านเจ้าสิ เห็นข้าเป็นปลากัดหรือแค่จ้องตาก็ท้องได้น่ะ ข้าไม่อยากขี่ม้ากับเจ้าแล้ว! ข้าจะรอทุกคนที่นี่"
เมื่อเห็นหญิงสาวโกรธตนมากกว่าเดิม เหยียนซือก็เดินเข้าไปใกล้นาง พลางทำหน้าสำนึกผิด แล้วยื่นมือไปจับแขนเสื้อหญิงสาวแกว่งไปมา
"เจ้าโกรธข้าหรือ ข้าขอโทษ"
ฉินฉินมองคนตัวโตที่พยายามทำหน้าตาน่ารักเอาใจตน นางหลุดขำออกมา ท่าทางเขาเหมือนลูกหมาอ้อนขอขนมเลย
"ฮ่า ๆ ๆ เจ้าเป็นบุรุษนะ จะมาพูดขอโทษบ่อย ๆ ทำไม ข้ายอมไปต่อกับเจ้าก็ได้ แต่ไม่ต้องรีบมาก ข้าไม่ไหวแล้วจริง ๆ”
"ได้ขอรับฮูหยิน เชิญขึ้นม้าได้เลยขอรับ"
"ยังจะมาพูดเล่นอีก!"
ฉินฉินตีไหล่เขาเบา ๆ แต่ก็ยอมให้เขาช่วยอุ้มขึ้นไปนั่งบนหลังม้า
เหยียนซือยิ้มกว้างมากกว่าเดิม เขาแย่งกระบอกน้ำไปถือไว้เอง แล้วจัดท่าทางอุ้มนางขึ้นไปนั่งบนม้า เมื่อเก็บของเรียบร้อยแล้วก็กระโดดขึ้นหลังม้าออกเดินทางต่อทันที
องครักษ์ของฉินฉินตามมาทันพอดี จึงขี่ม้าตีคู่ไปพร้อมกัน สร้างความรำคาญใจให้แก่เหยียนซือที่อยากอยู่กับนางสองต่อสอง
เหตุใดพวกเขาต้องมาคอยขัดขวางข้าอยู่เรื่อย จะเร่งเท้าม้าให้เร็วขึ้นทิ้งห่างก็กลัวเมียดุ เฮ้ย..ไม่ใช่...สหายที่ใกล้จะเป็นมากกว่าเพื่อนเอ็ดเอา
ใช้เวลาสามชั่วยามในการเดินทาง เพราะระหว่างทางต้องหยุดให้ม้าได้พักถึงสามรอบ ฉินฉินกวาดตามองเส้นทางเข้าเมืองซิงฟู่ เห็นผู้คนที่นั่งรถม้าเข้าออกเมืองก็รู้ได้ทันทีว่าทุกคนรวยมาก
ใครดูไม่ออกก็คงตาบอดเสียแล้ว รถม้าของพวกเขาล้วนประดับด้วยอักษรแกะสลักที่ทำมาจากแผ่นทองคำ แม้แต่คนขับรถม้ายังใส่ชุดผ้าไหม บ่งบอกถึงความร่ำรวยของเจ้านายเป็นอย่างดี
ผู้คนที่เห็นกลุ่มของฉินฉินขี่ม้าผ่านก็มองเหยียดอย่างดูถูกดูแคลน
"เจ้าดูนั่น มีคนไม่รู้จักประมาณตนผ่านมาอีกแล้ว คิดว่าเมืองของเราเป็นที่พักพิงคนยากไร้อย่างนั้นหรือ ถึงได้คิดจะเข้าไปง่าย ๆ เช่นนี้"
"ดูเสื้อผ้าที่พวกเขาใส่สิธรรมดานัก สาวใช้จวนข้ายังแต่งตัวดีกว่านี้อีก"
เสียงคุณหนูทั้งหลายที่พากันชวนไปเที่ยวเล่นนอกเมืองส่งเสียงคุยกันดังมาจนถึงหูคนที่นั่งอยู่บนม้า ฉินฉินไม่อยากมีเรื่องกับใคร นางอยากจะเข้าไปดูผู้คนในเมืองใจจะขาดอยู่แล้ว
แต่ดูเหมือนเรื่องจะไม่จบง่าย ๆ เมื่อทหารทางเข้าเมืองมายืนขวางทางไม่ให้กลุ่มของฉินฉินเข้าไปด้านใน
"พวกเจ้าหยุดอยู่ตรงนั้น! หากไม่ใช่คนในเมือง ไม่สามารถเข้าไปได้"
ฉินฉินกวาดสายตามองผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ก็พบว่าพวกเขากำลังมองมายังกลุ่มของนาง หญิงสาวจึงแสร้งพูดลอย ๆ ขึ้นมา
"อุ๊ย..เหยียนซือดูสิ..มีพวกสอดรู้สอดเห็นมองมาทางเราเต็มไปหมด พวกคนมีเงินนี่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านจริง ๆ เลยเนอะ น่าเสียดายรวยแต่ภายนอก ในสมองมีแต่น้ำ..ฮึฮึฮึ..มองอะไร! ไม่เคยเห็นคนจนหรือ"
เอาสิใครอยากจะพูดอะไรก็เชิญเลย นางรอตอกกลับทีเดียว จะเอาให้เละตั้งแต่เจ้านายยันลูกน้องเลย ยิ่งไอ้คนที่มาขวางทางนางต้องเอาให้หนัก
แรงมาแรงกลับโว้ย...หึหึ
ความคิดเห็น