คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : บทที่ 38 สตรีก็รวยได้
บทที่ 38 สตรีก็รวยได้
ถ้าจะง้อก็ไปตามง้อที่อำเภอแล้วกัน หากเขาทำผิดจริงข้าจะขอหย่าทันที แต่หากมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านั้น และอยู่ในจุดที่ยอมรับได้ ภรรยาที่แสนใจกว้างผู้นี้ก็พร้อมให้อภัยเสมอ
อย่างไรเขาก็เป็นพ่อของลูกนี่เนอะ
ฟางเหนียงโยนเรื่องชวนปวดหัวทิ้งไป หันกลับมาสนใจเม็ดเงินที่กำลังจะได้มากกว่า ตอนนี้มีพ่อค้าเร่เริ่มเดินทางมากันแล้ว ใครมาถึงก่อนก็ได้เปรียบไป สงสัยสายสืบที่ทิ้งไว้คงรายงานกลับไปแล้วว่า สตรีที่เป็นคนตัดสินใจเรื่องทุกอย่างได้กลับมาแล้ว
หญิงชราอยู่ช่วยสะใภ้สามรับมือกับพ่อค้าเจ้าเล่ห์ ดูจากสีหน้าของเขาแล้วคงเตรียมตัวมากดราคาเต็มที่ เพื่อให้ตนได้กำไรมากขึ้น
ยิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นสตรี ก็คิดไปเองว่าเรื่องทุกอย่างจะง่ายขึ้น
ผู้ชายยุคนี้ย่อมยกตัวเองเป็นใหญ่ คิดว่าตนนั้นฉลาด จะกดขี่เพศแม่อย่างไรก็ได้ อีกฝ่ายคงไม่กล้าสู้อยู่แล้ว
แต่คนอย่างฟางเหนียงไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ใครง่าย ๆ นางคิดเสมอว่าการค้าที่ดีคือต่างฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์ และหากหาหนทางร่วมกันได้ ก็อาจได้เป็นคู่ค้ากันในระยะยาว
แต่หากคิดว่าตนเป็นใหญ่เชิดหน้าสูงเสียดฟ้า พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมไม่ยอมรับฟังใคร ก็อย่ามาเจรจากันเลยดีกว่า เสียเวลาเปล่า!
“ไม่ต้องพูดให้มากความ ข้าพอใจจะขายเป็นลูกตามขนาด หากอยากซื้อขายกันก็ต้องเคารพกฎของข้า”
“ขนาดของผลซีกวาที่สวนข้ามีสามระดับ คือหนึ่ง ลูกที่กลมสวยมีลายต่อกันชัดเจนดูน่ากิน ข้าขายลูกละสิบตำลึงเงิน และจะยอมอนุญาตให้ท่านนำไปขายต่อได้ ในราคาไม่เกินสองเท่าจากราคาที่ซื้อไป”
“ไม่ต้องห่วง...กฎนี้คู่ค้าของข้าต้องยึดถือเหมือนกันทุกคน เหตุที่ต้องทำเช่นนี้เพราะข้าไม่อยากให้มีการขายตัดราคากัน และหากจับได้ว่ามีการนำไปขายต่อในราคาเกินที่ข้าตั้งไว้ ข้าจะยกเลิกสัญญาทุกอย่าง เข้าใจหรือไม่เจ้าคะ?”
ฟางเหนียงมองพ่อค้าเร่ตัวอ้วนกลม แม้หน้าตาจะดูไม่มีพิษมีภัย ตาตี่ ๆ แลดูซื่อ ๆ ทว่าคนเช่นนี้แหละเจ้าเล่ห์ขั้นสุด อย่าได้เผลอตัวตอบรับข้อเสนอของเขาเด็ดขาด
“แม่นางทำการค้าต้องมีกำไร เจ้ามากำหนดราคาขายให้เองเช่นนี้ เกรงว่าข้าจะขาดทุนแย่”
เห็นหรือไม่เจ้าเล่ห์จริง ๆ ด้วย
“ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ต้องซื้อ ข้าไม่ขายแล้ว ได้กำไรต่อลูกก็ห้าตำลึงเงินแล้ว กำไรมหาศาลเช่นนี้จะขาดทุนได้อย่างไร”
“อีกอย่างข้าเชื่อว่าท่านคงไม่รับซื้อไปขายต่อแค่ลูกเดียวแน่ อย่าคิดว่าข้าเป็นสตรีแล้วจะทำการค้าไม่เป็นเล่า เรื่องเงินทองข้าถนัดนัก หากท่านอยากได้กำไรมาก จะซื้อไปขายต่อสักสองสามร้อยลูกก็ได้ไม่ใช่หรือ?”
พ่อค้าเร่ต่างอำเภอเห็นฟางเหนียงไม่หลงเชื่อตน ก็เปลี่ยนจากท่าทีคุกคามเป็นยอมจำนนทันที ขอแค่ให้นางยอมขายผลซีกวาให้ก็พอ
ทั้งเมืองตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดปลูกผลซีกวาได้ เมืองข้างเคียงก็ไม่มีใครสามารถปลูกได้เช่นเดียวกัน มีแค่ฟางเหนียงคนเดียวเท่านั้น
หากตั้งตนเป็นศัตรูกับนางตอนนี้ ไม่เท่ากับทิ้งเงินลงแม่น้ำหรือ เช่นนั้นก็อย่าทำให้นางขุ่นเคืองใจดีกว่า เห็นใส่ชุดธรรมดาหน้าตาซื่อ ๆ ไม่คิดว่าจะดูมีอำนาจน่ากลัวถึงเพียงนี้
“อะ...เอ่อ แม่นาง เรื่องซื้อขายข้าไม่นึกห่วงแล้ว วันนี้ข้าเตรียมเงินมาพร้อม แต่ขอดูผลผลิตของเจ้าก่อนได้หรือไม่”
“ไม่มีปัญหา ของข้าดีอยู่แล้ว เชิญ...”
ฟางเหนียงใจป้ำ ขอให้แม่สามีผ่าผลซีกวาให้แขกที่มาเยือนถึงที่ได้ลองชิม ทุกสายตาจับจ้องไปยังราชาผลไม้คลายร้อน จดจ้องปลายมีดแหลมผ่าลงตรงกลาง แล้วแหวกมันออกเผยให้เห็นเนื้อสีแดงฉ่ำน้ำดูน่ากิน
นับเป็นผลซีกวาที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ทุกคนเคยเห็นมา เนื้อเยอะเช่นนี้ต่อให้ขายลูกละหนึ่งตำลึงทอง ก็ยังมีคนยอมควักเงินจ่าย!
“ผลซีกวาที่แม่สามีข้าผ่าให้ดู มันคือระดับที่ดีที่สุดในที่นี่ ราคาถึงได้สูงตั้งแต่ออกจากสวน ท่านคิดว่าราคานี้เหมาะสมหรือไม่เจ้าคะ”
พ่อค้าเร่พยักหน้าหงึกหงักไม่ต้องคิดให้เหนื่อย เขารับผลซีกวาชิ้นเล็ก ๆ ไปกัดกิน เนื้อที่แตกในปาก น้ำหวานฉ่ำจนไม่อยากกลืน ทำให้พ่อค้าเร่สั่งผลซีกวาอย่างละสองร้อยลูกทันที
“ข้ายังมีอีกสองระดับให้เลือกอีกเจ้าค่ะ ขนาดจะลดหลั่นกันลงมาหน่อย แต่ลูกกลมสวยเหมือนกัน ขายห้าตำลึงเงินและสามตำลึงเงิน”
ผลไม้ที่ส่งออกขายให้กับพ่อค้าเร่เป็นระดับที่ดีที่สุด ส่วนจำพวกลูกบิดเบี้ยวไม่กลมสวย ฟางเหนียงตั้งใจไว้ให้พี่น้องตระกูลซ่ง นำไปขายต่อให้กับชาวบ้านในราคาถูก
ไม่ว่าจะชนชั้นไหน ฟางเหนียงก็อยากให้ทุกคนได้กินเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้าก็กินได้ แต่ที่ขายให้กับชาวบ้านไม่ได้ขายเป็นลูก แต่คิดว่าคงจะแบ่งขายเป็นซีก ซีกละสามถึงห้าอีแปะเท่านั้น
นางตั้งราคาไว้สูงแค่ช่วงนี้ ปีหน้าหากชาวบ้านลองปลูกมันสำเร็จ ราคาคงต่ำลงมาอีก
พ่อค้าเร่เจ้าแรกสั่งซื้อไปเกือบยกสวน เขาสั่งอย่างละสองร้อยลูก ถ้าเหมาได้คงทำไปแล้ว แต่ผลซีกวาบางลูกยังไม่พร้อมเก็บเกี่ยว ต้องรออีกสองถึงสามวันถึงจะได้
ฟางเหนียงบอกวิธีเก็บ และคัดแยกระดับให้สมาชิกตระกูลซ่งฟัง เพราะทุกคนต้องเรียนรู้ไว้ และช่วยกันเก็บผลผลิตส่งต่อให้พ่อค้าเร่
ผลซีกวาทุกลูกรับประกันว่าเนื้อแดงฉ่ำกินได้ ใช้เวลาอยู่สองชั่วยามกว่าจะเก็บผลซีกวาครบตามที่ลูกค้าสั่ง
พ่อค้าเร่ให้ลูกน้องไปเอารถม้ามาเพิ่ม เพื่อขนผลซีกวากลับไปพร้อมกัน และเตรียมตัวส่งต่อให้ลูกน้องนำไปขายที่ร้าน
ฟางเหนียงได้สอบถามไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่า พวกเขาจะนำไปขายที่ไหนบ้าง จะได้แนะนำพ่อค้าคนอื่น ๆ ว่าอย่าไปขายทับที่กัน ให้เกาะกลุ่มเป็นพันธมิตรกันไว้ดีกว่า จะได้รวยไปพร้อมกัน
“ขอบใจแม่นางมากที่ทำธุรกิจร่วมกับข้า หากเจ้ามีของน่าสนใจเช่นนี้อีกก็ให้ติดต่อข้าทันที ข้ายินดีรับซื้อเอง และหากแม่นางต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อข้าได้เสมอ ข้ายินดี”
“ข้าเองก็ขอบคุณท่านมากเช่นเดียวกันเจ้าค่ะ”
เมื่อได้คู่ค้ารายใหญ่เช่นนี้ใครเล่าจะไม่รับไว้ วันนี้ฟางเหนียงจึงยอมรับลูกค้าแค่เจ้าเดียวเท่านั้น ส่วนผลซีกวาที่เหลือก็เก็บไว้ขายพรุ่งนี้
พ่อค้าคนอื่น ๆ ที่เพิ่งเดินทางมาถึง ต่างต้องคอตกกลับไป สาบานกับตัวเองว่าพรุ่งนี้ต้องมาให้เร็วกว่าเดิม
“ท่านพ่อไม่เป็นอะไรแล้วหรือเจ้าคะ ข้าว่าท่านควรพักผ่อนก่อนดีกว่า ทางนี้พี่ใหญ่จัดการได้เจ้าค่ะ”
ฟางเหนียงเอ่ยทักพ่อสามีที่กำลังเดินมาหา สีหน้าของเขายังซีดเซียวจนน่าเป็นห่วง สงสัยจะเสียใจหนักมากที่บุตรชายคนที่สามทำเช่นนั้น
“สะใภ้สาม ข้าขอโทษเจ้าด้วยที่สอนลูกได้ไม่ดีพอ”
“โธ่ ท่านพ่อสามี ข้าว่าเราอย่าไปคิดเรื่องนั้นอีกดีกว่า อย่างไรข้าก็เป็นลูกสาวของพวกท่านตามเดิม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าไม่มีวันทอดทิ้งพวกท่านเจ้าค่ะ”
“จริงสิ! ท่านพ่อข้ามีเรื่องรบกวนให้ท่านช่วยเล็กน้อยเจ้าค่ะ”
ฟางเหนียงขอให้พ่อสามีช่วยดูแลงานทางนี้ต่อ นางสอนการคัดระดับผลซีกวาให้พี่ชายของสามีทั้งสองฟังจนเข้าใจแล้ว และเน้นย้ำว่าหากถูกกดราคาก็ให้ปฏิเสธไปไม่ต้องขาย สู้เก็บไว้ขายเองดีกว่า
เพราะหากเรายอมหนึ่งครั้ง ก็อาจต้องยอมอีกตลอดไป
ชายชรายืนยันหนักแน่นว่าไม่มีวันลดราคาให้แน่นอน แม้ว่าในตอนแรกเขาจะไม่อยากรับหน้าที่นี้ไว้ก็ตาม แต่เห็นว่าลูกสะใภ้ยังมีเรื่องให้ต้องทำอีกมาก หากช่วยได้ก็อยากช่วย
ปล่อยให้นางไปเติบโตเถอะ อย่าฉุดรั้งนางไว้ดีกว่า
ก่อนกลับอำเภอลี่สุ่ยฟางเหนียงก็ไม่ลืมที่ลั่นวาจาไว้ นางตัดแบ่งต้นซีกวาให้ชาวบ้านบางส่วนนำไปปลูก แต่จะรอดหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ความสามารถของแต่ละคน
ทว่านางก็ไม่ใจร้ายเกินไปยังแอบพรมน้ำวิเศษไว้ให้ คิดว่าอย่างไรต้นซีกวาเหล่านี้ต้องติดผลแน่นอน
แต่ระยะเวลาในการเติบโต จะช้ากว่าผลซีกวาที่ไร่ของฟางเหนียง ผลก็ไม่ใหญ่เท่าและเนื้อที่ได้ก็ไม่แดงเต็มลูก อย่างน้อยก็ยังมีดีที่รสชาติหวานฉ่ำ มีกลิ่นหอมเหมือนน้ำผึ้งป่านิด ๆ
ความคิดเห็น