คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : เรื่องที่ไม่คาดคิด
ตอนที่ 38 เรื่องที่ไม่คาดคิด
ฉินฉินนั่งนิ่ง ๆ มองธรรมชาติสองข้างทาง จะว่าไปนางก็อยู่โลกนี้มาสักพักแล้ว เริ่มชินกับวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของผู้คนในยุคนี้ไปเสียแล้ว
เสียอย่างเดียวคนที่นี่ฆ่ากันง่ายยิ่งกว่าผักปลาเสียอีก ทำผิดนิดหน่อยก็ถูกแขวนคอบ้าง จับร่างใส่กรงหมูถ่วงน้ำบ้าง หวังว่ารายต่อไปจะไม่เป็นนางนะ
หากถูกประหารชีวิตข้อหาสวยเกินหน้าเกินตาคนมีอำนาจเข้าละก็
...ยุ่งละสิงานนี้ อิอิ...
หญิงสาวหันไปมองสหาย ที่ขนาดอยู่ในรถม้าเขายังไม่วายนั่งปักผ้าเช็ดหน้าต่อได้ ไม่เบื่อบ้างหรือ
"นี่จางหมิน เจ้าไม่ปวดตาบ้างหรือ รถม้าโคลงเคลงเช่นนี้จนข้าตาลายไปหมดแล้ว แต่เจ้ายังนั่งปักผ้าต่อได้อีก สุดยอดเลยจริง ๆ”
จางหมินหยุดมือเงยหน้าขึ้นมองสหายก็เห็นนางหน้าซีด จึงเพิ่งนึกได้ว่านางไม่เคยเดินทางไกลเช่นนี้มาก่อน
ฉินฉินเจ้าเมารถเสียแล้ว...
ชายหนุ่มเปิดผ้าม่านหน้าต่างออก แล้วกวักมือเรียกเหยียนซือที่นำทางอยู่หน้าขบวนให้มาหาตน
องครักษ์ที่หูต้าลู่ส่งมาให้ติดตามคอยคุ้มกันน้องสาวสังเกตเห็นเป็นคนแรก เขาเร่งฝีเท้าม้าไปตีคู่คนที่ยังไม่รู้สึกตัวว่าถูกเรียก
"นายท่านขอรับ นายท่านจางหมินเรียกท่านขอรับ"
เหยียนซือหันหลังไปดูก็เห็นมีมือคนโผล่มาจริง ๆ ก่อนหันกลับไปขอบใจคนที่มาเตือน แล้วหันหัวม้าย้อนกลับมายังขบวนรถม้าของสหาย
"มีอะไรอย่างนั้นหรือ"
เหยียนซือสั่งให้หยุดขบวน เขาบังคับม้ามาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าต่าง มองเข้ามาด้านในเห็นหญิงสาวเพียงคนเดียวในขบวนทำหน้าพะอืดพะอม
"เจ้าเป็นอะไรไป หยุดพักก่อนดีหรือไม่"
ฉินฉินส่ายหน้าปฏิเสธทันที
เดินทางมายังไม่ถึงสองชั่วยามก็จะหยุดพักเสียแล้ว นางไม่อยากเป็นตัวถ่วงใครจึงรีบโบกมือปัด ๆ
"ข้ายังไหว เดินทางต่อเถิด"
จางหมินดึงแขนหญิงสาวปากแข็งให้ลุกขึ้น แล้วลากนางลงจากรถม้าพาไปขึ้นม้าตัวเดียวกับเหยียนซือ
"เจ้าขึ้นม้าไปแล้วกันจนกว่าจะดีขึ้น"
ฉินฉินยังมึนงงอยู่รู้ตัวอีกทีก็มานั่งอยู่บนหลังม้าเสียแล้ว จึงได้แต่พยักหน้าเออออตามไปด้วยอีกคน
ขี่ม้าก็ขี่ม้าวะ
เมื่อไม่มีอะไรแล้วทุกคนจึงเริ่มออกเดินทางไปต่อ
ฉินฉินถูกลมตีหน้าก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างเล็กน้อย นางรู้สึกผ่อนคลายจนเผลอเอนตัวพิงอกคนที่นั่งบังคับม้าอยู่ด้านหลัง แล้วเอ่ยชวนเขาคุย
"เหยียนซือเจ้ารู้หรือยังว่าจะไปที่ใด เราจะได้แยกทางกันถูก"
ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่กำลังซบอกตนนอนหลับพักผ่อน ยามนี้นางยังจะหลับลงอีก
"ข้าจะไปส่งเจ้าก่อน แล้วค่อยแยกไปตามทางของข้า หากไม่เห็นกับตาว่าเจ้าปลอดภัยดี ข้าไม่อาจวางใจได้"
ฉินฉินพยักหน้ายกมือปิดปากหาวหวอด ๆ จนเหยียนซือต้องบังคับม้ามือเดียว อีกมือช่วยประคองร่างหญิงสาวเอาไว้ไม่ให้นางตกลงไป
"หากเจ้าง่วงก็นอนก่อนเถิด ข้าจะปลุกเจ้าเอง"
ฉินฉินไม่ตอบ นางหลับไปเสียแล้ว โดยใช้สองมือกอดแขนข้างหนึ่งของเหยียนซือที่กอดเอวตนไว้แน่น แล้วซบหน้าแนบแขนของเขาหลับไป
ชายหนุ่มลอบยิ้มมุมปากกับภาพตรงหน้า
นางไม่ถือตัวเช่นนี้ดีมากจริง ๆ นางอาจจะติดสัมผัสเพศตรงข้ามมากเกินไป แต่นางก็ไม่ได้ทำกับผู้อื่นไปทั่ว และเลือกทำเฉพาะกับคนที่นางอยู่ด้วยแล้วสบายใจเท่านั้น
เขาชอบที่นางเป็นเช่นนี้ เป็นสตรีที่ไม่สนคำคนและมุ่งหน้าทำสิ่งที่ชอบ แม้มันจะยากลำบากนางก็ไม่ได้ย่อท้อ พยายามอดทนจนประสบความสำเร็จ
สตรีที่เก่งกาจเช่นนี้ เหมาะแก่การเป็นมารดาของบุตรเขายิ่งนัก
องครักษ์ที่ตามมาด้วยเห็นคุณหนูกอดแขนบุรุษหลับบนหลังม้าเช่นนี้ ก็คิดไปว่าช่างดูไม่งาม หากมีคนนอกมาเห็นเข้าคุณหนูของตนจะเสียหายเอาได้
หลงอวี่องครักษ์ของหูต้าลู่ขี่ม้ามาประกบคู่เหยียนซือ เขาต้องการให้คุณหนูมาขี่ม้าตัวเดียวกับตน เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของนาง อีกอย่างเขาเป็นบุรุษที่ภายนอกดูเหมือนสตรี หากมีผู้พบเห็นอาจไม่นำไปติฉินนินทา
"นายท่านโปรดส่งคุณหนูมาให้ข้าเถิดขอรับ"
"ไม่เป็นไร"
เหยียนซือตอบสั้น ๆ แล้วเร่งฝีเท้าม้าหนี
เรื่องอะไรต้องยอมส่งตัวนางให้กับคนที่คอยจ้องแต่จะขัดขวางเขาด้วย
องครักษ์พยายามตื๊อต่อ พวกเขาทำเสียงดังจนฉินฉินสะดุ้งตื่น นางงัวเงียจะลืมตาขึ้นมาดู แต่ถูกมือใหญ่ปิดตาเอาไว้เสียก่อน
"ยังไม่ถึงที่พัก เจ้านอนต่อเถิด"
ฉินฉินได้ยินสหายบอกเช่นนั้นก็หลับตานอนต่อ รู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตนเองนั้นมานอนอยู่ในกระโจมเสียแล้ว
หญิงสาวผุดลุกขึ้นนั่งปรับสายตา ก็พบว่าดวงอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ทว่าฟ้าใกล้จะมืดแล้ว หากไม่รีบลุกตอนนี้คงได้นอนต่อทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำแน่
ฉินฉินลุกเดินออกไปนอกกระโจม ผู้คนต่างพากันกางกระโจมของตนเองบ้างแล้ว ส่วนเหยียนซือกำลังยืนดูความเรียบร้อยอยู่หน้ากระโจม หญิงสาวได้ยินเสียงผ้าเสียดสีจึงเปิดออกหันมาดู
"เจ้าตื่นแล้วหรือ หิวแล้วใช่หรือไม่"
"ข้าไม่คอยหิวเท่าไหร่แต่อยากอาบน้ำ นี่ข้านอนยาวจนถึงเย็นเลยหรือ"
"อืม ข้าปลุกเจ้าเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น จึงสั่งให้หยุดพักแรมกลางป่าก่อน"
ฉินฉินนึกได้ว่าตนเผลอหลับบนหลังม้า ไม่ใช่ว่าเขาประคองนางมาตลอดทางหรอกนะ หญิงสาวจ้องหน้าสหายพลันรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย
"เจ้าคงลำบากมากเข้าไปพักเถิด แล้วแถวนี้มีลำธารหรือไม่ ข้าอยากอาบน้ำชำระกายเสียหน่อย"
เหยียนซืออาสาจะพาไป แต่ฉินฉินส่ายหน้าปฏิเสธ เขาจึงชี้นิ้วบอกทางนางแทน
"ตรงไปทางทิศตะวันตก เดินตรงไปตามทางที่คนทำสัญลักษณ์ไว้ ทางอาจจะไกลหน่อยระวังตัวด้วยเล่า"
"เข้าใจแล้ว"
ฉินฉินเดินแยกจากสหายกลับไปบนรถม้า ก็เห็นจางหมินนอนขดตัวอยู่ในนั้น นางไม่รบกวนเขาจึงจัดการค้นหาเสื้อผ้าและของใช้เสียงเบา จากนั้นเดินดุ่ม ๆ ไปตามทางที่เหยียนซือบอกก่อนหน้านี้
ทุกคนในขบวนรู้ว่าคุณหนูของตนกำลังจะไปอาบน้ำชำระกาย ก็ไม่มีใครไปรบกวนนาง ต่างพากันนั่งรออยู่กับที่ ทำเช่นนี้เป็นผลดีต่อตัวนางเอง เพราะหากใครหายไปจะกลายเป็นผู้ร้ายถ้ำมองทันที
แม้แต่องครักษ์คนสนิทฉินฉินก็ไม่ยอมให้ตามไปด้วย นางต้องการความเป็นส่วนตัวมากเป็นพิเศษ
จะให้แก้ผ้าอาบน้ำต่อหน้าบุรุษมากมายได้อย่างไรเล่า
ข้าก็อายเป็นเช่นกันนะ
ฉินฉินเดินลัดเลาะเดินไปตามทางที่มีคนมาถางหญ้าเปิดทางไว้ให้ นางเดินจนเหนื่อยรู้สึกใช้เวลาเกือบสองเค่อได้ จนได้ยินเสียงน้ำตกดังขึ้นเรื่อย ๆ
"มีน้ำตกด้วยหรือ"
จากเดินเปลี่ยนเป็นวิ่ง หญิงสาวร่างบางหอบของพะรุงพะรังวิ่งออกจากป่า เห็นเป็นน้ำตกขนาดเล็กตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ ภาพนั้นดูงดงามมาก สวยงามราวกับมีคนคอยอยู่ดูแล
ฉินฉินไม่สนใจหาคำตอบ นางหันซ้ายหันขวาถอดเสื้อผ้าออก เหลือแต่ชุดตัวในบาง ๆ จากนั้นก็จัดการกระโดดลงแอ่งน้ำใส ท่ามกลางน้ำตกขนาดเล็กที่มีน้ำใสไหลผ่านลงมาจากหน้าผาสูง น้ำใสแจ๋วจนเห็นปลาตัวเล็กแหวกว่าย
น้ำจะไล่ระดับความลึกลงไปเรื่อย ๆ ส่วนที่ลึกที่สุดคาดว่าน่าจะเป็นใต้น้ำตก อาจจะเป็นเพราะแรงตกกระแทกของน้ำทำให้หินข้างใต้โบ๋เป็นรูลึก
ฉินฉินรู้ตัวดีว่าว่ายน้ำไม่แข็ง นางจึงไม่ไปยังจุดนั้น และเลือกว่ายน้ำเล่นอยู่แถวกลางแอ่งน้ำที่ไม่ลึกมาก แต่ขานางก็ยังหยั่งไม่ถึงพื้นอยู่ดี
"อู้หู น้ำเย็นชื่นใจดีจริง ๆ ไหนลองชิมซิ หือ...รสชาติหวานด้วย"
ฉินฉินกินน้ำเข้าไปหลายอึก พลางแหวกว่ายอยู่กลางแอ่งน้ำราวกับตนเองเป็นนางเงือก เมื่อเห็นว่าชุดตัวในที่ใส่อยู่เกะกะจึงถอดออกแล้วโยนขึ้นฝั่ง
ยามนี้ร่างกายของนางเปลือยเปล่า เผยให้เห็นเรือนร่างสมส่วน ผิวกายขาวผ่องไร้มลทินแหวกว่ายอยู่กลางน้ำสีใส
เมื่อว่ายน้ำไปสักพักก็รู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องมาทางตน ร่างบางหยุดชะงักไปทันที หรือว่าจะมีคนขัดคำสั่งแอบตามมาดู
ไม่ได้การแล้ว! ต่อให้เป็นสตรีนางก็จะไล่คนผู้นั้นกลับเมืองหลิงหลงไป
ฉินฉินว่ายไปบนฝั่งรีบหยิบผ้าผืนใหญ่มาห่มปิดกาย ดวงตากลมโตกวาดสายตามองรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง
"ใครน่ะ! ออกมานะ"
"..."
เงียบกริบ..ไร้เสียงตอบรับ ได้ยินเพียงเสียงลมพัดผ่านต้นไม้เท่านั้น
ฉินฉินเก็บของหามุมลับตาคนหลบใส่เสื้อผ้า ไม่สนผมเผ้าที่เปียกชื้น
เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาหยุดอยู่กลางทุ่งดอกไม้หลากสี
นางต้องการหาคนร้ายให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบเสียที
"เจ้าคนขี้ขลาด! กล้ามาดูข้าอาบน้ำแต่ไม่กล้ารับอย่างนั้นหรือ”
"หึหึหึ แม่นางช่างปากกล้ายิ่งนัก"
เสียงหัวเราะดังมาจากด้านบน ฉินฉินเงยหน้าขึ้นดูก็เห็นเงาราง ๆ นอนอยู่บนต้นไม้ใหญ่ข้างน้ำตก
ให้ตายเถิด...นางไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นเป็นเงาคนหรือผีกันแน่!
"ท่านเป็นใคร!"
"เหตุใดข้าต้องตอบเจ้าด้วยเล่าแม่นางน้อย"
ฉินฉินกำลังจะตะโกนถามอีกรอบ แต่นางดันได้ยินเสียงคนกำลังเดินมาจากทางด้านหลังพอดีจึงหันไปดู
"ฉินฉินเจ้าอาบน้ำเสร็จหรือยัง ข้าจะเข้าไปแล้วนะ"
เสียงของเหยียนซือดังมาจากอีกฝั่ง เขาหยุดฝีเท้าลงรอฟังคำตอบ หากบุ่มบ่ามเข้าไปตอนนี้มีหวังนางโกรธเขาแน่
ฉินฉินหันกลับไปมองสิ่งที่อยู่บนต้นไม้ พบว่าเงานั้นได้หายไปเสียแล้ว
"นี่ข้าเจอผีหรือ ผีที่นี่หื่นยิ่งนัก! มาแอบถ้ำมองดูคนสวยเช่นข้าอาบน้ำด้วย เฮ้อ..ช่างเถิดถือว่าทำบุญให้แก่ผู้วายชนม์ไปก็แล้วกัน"
ฉินฉินบ่นเบา ๆ เดินคอตกกลับไปหาเหยียนซือ
นางหารู้ไม่ว่าคนที่แอบซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้กำลังมุมปากกระตุก
เขาได้ยินที่นางพูดทุกคำ
"นางกล้าด่าว่าข้าเป็นผีหื่นกามอย่างนั้นหรือ ข้ามาก่อนเจ้าแท้ ๆ ยังมาปรักปรำกันอีก หากเจอกันครั้งหน้า ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่..แม่นางน้อย"
เหยียนซือเห็นฉินฉินเดินเข้ามาทั้งที่ผมยังเปียกอยู่ เขาพานางไปนั่งบนตอไม้ใหญ่ แล้วเอื้อมมือไปหยิบผ้าในมือนางมาเช็ดผมให้
"เจ้าเป็นเด็กน้อยหรืออย่างไร แม้แต่ผมยังเช็ดเองไม่ได้"
ฉินฉินนั่งนิ่ง ๆ ฟังสหายบ่นไป
นางเลือกที่จะไม่เล่าเรื่องประหลาดที่พบเจอมาให้เขาฟัง กลัวว่าพรุ่งนี้เช้าเขาจะไม่ปล่อยให้นางมาอาบน้ำคนเดียวอีก
ความคิดเห็น