คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : บทที่ 37 ไอ้ผัวเฮงซวย!
บทที่ 37 ไอ้ผัวเฮงซวย!
ตอนนี้ใครอยากจะอยู่ อยากทำอะไรก็เชิญแต่ข้าไม่อยู่แล้ว!
โว้ย! อุตส่าห์ดีใจที่มีผัวหน้าตาดีไว้อวดชาวบ้านกับเขาบ้าง ก่อนตายชาติที่แล้วหาสามีไม่ได้ มาชาตินี้หลงดีใจเก้อที่พ่อของลูกหล่อ แต่ดันกินไม่ได้เสียอย่างนั้น
ข้าเฝ้ารอดูหน้าเขามาตลอดหนึ่งเดือน ดูแลลูก ดูแลครอบครัวเขาอย่างดี อดทนใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย หวังว่าสามีกลับมาจะเห็นใจรักภรรยาคนนี้บ้าง
ที่ไหนได้สามีกลับมาก็จริง แต่ดันมีลูกมีเมียอีกคนกลับมาด้วย จะหยามกันเกินไปแล้วนะ เช่นนั้นอย่าหวังว่าข้าจะง้อ!
เป็นหม้ายแล้วอย่างไรเล่า ข้าทั้งสวย รวย หาเงินเก่ง ใครเล่าจะไม่สนใจ ดูจากลูกที่ยังเล็กเหมือนเพิ่งคลอดได้ไม่เกินครึ่งปี แสดงว่าที่ผ่านมาเขามีชู้ลับมาตลอดสินะ งามไส้!
ฟางเหนียงโกรธมาก ต่อให้เอาช้างสิบเชือกมาฉุด นางก็ไม่มีวันหันหลังกลับไปหาสามีตัวดีแน่!
ร่างอวบอ้วนแบกพุงสามชั้นของตัวเองหนี สะบัดหน้าจนเหนียงกระเพื่อมขึ้นลง เดินปั้นปึ่งออกจากบ้านที่ไม่ใช่ของตนอีกต่อไป
ดีนะที่ข้ายังไม่ลงเงินซ่อมแซมบ้าน ไม่เช่นนั้นคงเจ็บใจมากกว่านี้
ถึงแม้ว่าข้าจะอ้วนตุ้ยนุ้ย แต่เครื่องหน้าข้ามั่นใจว่างดงามไม่แพ้ใคร หากข้าลดน้ำหนักอีกสักนิด ฉายาสตรีที่งามที่สุดในแคว้นคงหนีไม่พ้นข้าคนนี้แน่
ขอบคุณท่านมากที่ทำให้ข้ามีแรงบันดาลใจลดน้ำหนัก ข้าจะเอาความงามมาโยนใส่หน้าท่านคอยดูเถอะ
“ข้าผิดหวังในตัวท่านพ่อมากขอรับ ข้าจะไปอยู่กับท่านแม่ เจ้ารองไปเก็บของกับข้า”
เซี่ยเหิงอยากชกหน้าบิดาหนัก ๆ สักทีสองที เขารู้สึกเหมือนถูกหักหลัง และสงสารมารดาที่ต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้โดยไม่ทันตั้งตัว
ต่อให้เป็นท่านพ่อก็ไม่มีสิทธิ์ทำให้ท่านแม่เสียใจ ท่านแม่จะต้องมีเพียงความสุขเท่านั้น
สองพี่น้องคิดเห็นตรงกันคือเลือกอยู่กับมารดา จึงชวนกันเข้าไปในบ้านเก็บของที่จำเป็นเดินตามหลังมารดาไป
ทางด้านเฟยหลงก็ไม่พูดอะไร ทำเพียงมองตามลูกและภรรยาเดินลับไป ไม่มีใครรู้ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ชายหนุ่มก้มลงหยิบตะกร้ายื่นส่งให้พี่ชายทั้งสอง สีหน้าของเขานิ่งสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูไม่เสียใจเลยที่ภรรยาพูดเรื่องหย่า เหมือนเขารอคอยสิ่งนี้มานานเช่นกัน
“ข้าล่าสัตว์ได้มาเยอะ พวกท่านเอาไปแบ่งกันเถอะ”
“ไอ้เจ้าลูกคนนี้ ใครสอนให้เจ้ามีนิสัยชาติชั่ว เลวทราม สารเลวไม่มีใครเกิน เจ้าทิ้งสะใภ้สามได้ลงคอจริงหรือ!”
“ยามนี้นางเปลี่ยนไปแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองปรับความเข้าใจพูดคุยกับนางก่อน ทำไมถึงคิดสั้นพาสตรีอื่นเข้าบ้าน ซ้ำยังมีลูกติดกลับมาอีก!”
“เจ้า…เจ้า! อย่างไรข้าก็ไม่มีวันยอมรับสตรีนางนี้ และเจ้าต้องเสียใจที่เลือกคนผิดเฟยหลง!”
ชายชราหาคำด่าสารพัดที่คิดได้ หยิบยกขึ้นมาด่าเจ้าบุตรชายหัวดื้อ ที่ทำอะไรไม่ปรึกษาผู้ใหญ่ ผลสุดท้ายเป็นอย่างไรเล่า ถูกภรรยาขอหย่า มิหนำซ้ำบุตรชายยังทอดทิ้งไม่ให้ความเคารพ
ผู้เป็นพ่อโกรธจนความดันขึ้น เขาชี้หน้าบุตรชายที่เอาแต่ทำหน้านิ่ง ก็นึกโกรธจนแทบเป็นลม
ข้าพูดเช่นนี้แล้ว เจ้ายังไม่รีบไปตามสะใภ้สามกลับบ้านอีก!
“ท่านพ่อ! เจ้ารองประคองท่านพ่อไว้ก่อน เจ้าสามเจ้าทำเช่นนี้มันก็ไม่ถูก รู้หรือไม่ว่าสะใภ้สามต้องเจอเรื่องหนักหนาเพียงใดตอนเจ้าไม่อยู่”
“นางต้องต่อสู้กับบ้านสกุลเดิมเพียงลำพัง เพื่อเอาที่ดินทำกินกลับคืนมา ซ้ำยังต้องหอบลูกเข้าเมือง ทั้งที่มีเงินติดตัวเพียงน้อยนิด”
“นางหวังสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกของเจ้า นางต้องตื่นแต่เช้ามาขายของ ทำงานทั้งวันไม่ได้หยุดพัก รับมือกับลูกค้าสารพัดอย่าง”
“น้องสามขนาดข้าที่ไปช่วยงานนางแค่ครึ่งวันยังเหนื่อย แล้วนางที่ทำงานทั้งวันเล่าจะเหนื่อยเพียงใด บอกตามตรงข้าผิดหวังในตัวเจ้ามาก”
ตอนนี้ฟางเหนียงได้ใจคนตระกูลซ่งไปมาก ไม่ว่านางจะทำอะไรพวกเขาก็พร้อมสนับสนุนเสมอ ถือเป็นสะใภ้ที่มีน้ำหนักในใจทุกคนไม่น้อย เผลอ ๆ อาจมากกว่าเฟยหลงที่เป็นสายเลือดของตระกูลซ่งเสียอีก
จื่อหมิ่งนึกเป็นห่วงความรู้สึกน้องสะใภ้ เพราะคนทำผิดต่อนางก็เป็นน้องชายแท้ ๆ ที่คลานตามกันมา เขาถึงได้หนักใจยิ่งนัก
ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะแยกย้ายไปมีครอบครัวแล้ว แต่สายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องก็ยังแน่นแฟ้นคงเดิม แต่ดูท่าคงจะขาดสะบั้นก็คราวนี้
ก็ใครใช้ให้น้องชายตัวดีไปมีสตรีอื่นเล่า เขาทำผิดต่อภรรยาอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้ นอกจากบรรพบุรุษจะโกรธแล้ว ญาติพี่น้องยังนึกเคืองอีก
คนในตระกูลซ่งแยกย้ายกันกลับบ้านแล้ว ส่วนสตรีผู้นี้ที่ดันโผล่มากลางวงครอบครัวอื่นกะทันหัน ก็ได้แต่ยืนก้มหน้ากอดปลอบลูกน้อยไม่กล้าสบตากับใคร
เฟยหลงบอกให้นางวางใจ คิดว่าเดี๋ยวเรื่องทุกอย่างจะดีขึ้นเอง แล้วบอกให้นางอยู่ที่บ้านกับลูกตามลำพัง ก่อนจะเดินตามหลังภรรยาไปเพื่อพูดคุยกันให้รู้เรื่อง
ฟางเหนียงหิวข้าวมาก นางเอาของในมิติออกมาให้ลูก ๆ กินรองท้องไปก่อน หลังจากทำงานทางนี้เสร็จค่อยกลับไปอำเภอหาอะไรกินต่อ
การกลับไปครั้งนี้เป้าหมายใหญ่นอกจากลดน้ำหนักแล้ว นางคิดว่าจะทำตัวให้งดงาม จนใครบางคนต้องเหลียวหลังมองอย่างเสียดาย
และวางแผนการอนาคตใหม่ กะจะหาเช่าพื้นที่สักแห่ง แล้วเปิดร้านอาหารอย่างเต็มรูปแบบ หากเป็นไปได้ก็อยากชวนแม่สามีกับสะใภ้ใหญ่ไปอยู่ด้วยกัน
“ท่านพ่ออย่าเข้ามานะขอรับ”
ฟางเหนียงกำลังนั่งรอพ่อค้าเร่ มารับซื้อผลซีกวาอยู่ในกระท่อมหลังน้อย ส่วนบุตรชายทั้งสองยืนเฝ้าประตูอยู่ที่ด้านนอกกำแพง กีดกันไม่ให้บิดาเข้ามาด้านใน
เฟยหลงก็หน้ามึนไม่มีใครเกิน เขาไม่สนใจผลซีกวาที่ขึ้นดกจนไม่มีทางให้เดินแม้แต่น้อย กลับพุ่งความสนใจไปที่ภรรยาเท่านั้น แม้ว่าภรรยาจะไม่สนใจแม้แต่จะมองมาว่า เหตุการณ์ด้านนอกเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ตาม
ไม่ว่าจะพูดหว่านล้อมอย่างไร กำแพงมนุษย์ก็ไม่มีทางยอมแพ้ พวกเขาปกป้องมารดาสุดชีวิต บิดาพูดอะไรมาก็ทำเพียงฟังทะลุผ่านหู ทำทีเป็นมองชมนกชมไม้ไปเรื่อยเปื่อย
ท่าทางกวนประสาทนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าได้มาจากผู้เป็นมารดา และหากอยากรู้ว่าสองหนุ่มหวงมารดาหรือไม่ ก็ขอให้ดูจากวิธีจัดการที่ถึงขั้นปิดประตูไม่ให้บิดามองมารดาของตนได้
ไม่ต้องพูดว่ารักแค่การกระทำก็บ่งบอกชัดเจนแล้ว พวกเขารวมพลังกันปกป้องมารดาเต็มที่
ภาพที่ฟางเหนียงเห็นจึงเหมือนมีลูกนก กำลังกางปีกปกป้องแม่ของมันจากราชสีห์อยู่ก็ไม่ปาน
เฟยหลงไม่รู้จะทำอย่างไรต่อดี จะใช้กำลังฝ่าเข้าไปก็ไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายดันเป็นบุตรชาย หากเผลอใช้กำลังทำลูกบาดเจ็บขึ้นมา คนที่นั่งกินข้าวอยู่ด้านในมีหวังโกรธมากกว่าเดิมเป็นแน่
ทางด้านหญิงชราที่เห็นบุตรชายช่วยกันหามสามีกลับมาบ้าน นางก็ตกใจเอ่ยถามสาเหตุกับบุตรชายเป็นพัลวัน
พอรู้ว่าบุตรชายคนที่สามกลับมาก็ยิ้มกว้างอยากไปหาเขา แต่พอได้ฟังสิ่งที่บุตรชายคนโตเล่า นางก็โกรธมากจึงรีบพาสะใภ้ใหญ่ไปปลอบใจสะใภ้สาม แล้วออกปากไล่เจ้าลูกตัวดีให้กลับเข้าป่าไป
จะมายืนจ้องหน้าเมียกับลูกทำไมอีก!
“ข้าจะตัดเจ้าออกจากตระกูล แล้วยกสะใภ้สามให้เป็นใหญ่แทนเจ้า!”
ถึงอีกฝ่ายจะเป็นบุตรชายสุดรักที่นางคลอดมาเอง แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นธาตุอากาศไปแล้ว ลูกสะใภ้ต่างหากเล่าที่มีตัวตนในสายตา
กำแพงที่ต้องฝ่าฟันมีมากเกินไป เฟยหลงจึงถอยกลับไปตั้งหลักก่อน ตอนนี้คงพูดคุยอะไรไม่ได้อีกแล้ว ต้องรอให้ทุกคนใจเย็นกว่านี้
ชายหนุ่มยอมรามือกลับบ้านไปแต่โดยดี
ฟางเหนียงแอบมองสถานการณ์ด้านนอกผ่านช่องเล็ก ๆ ก็รู้สึกอุ่นใจที่มีคนปกป้องนางมากถึงเพียงนี้
เมื่อมีสติก็กลับมาคิดวว่า เรื่องทั้งหมดอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ อีกฝ่ายก็ยังไม่ได้พูดอะไร แต่การที่เขาเอาแต่เงียบ มันก็เหมือนยอมรับไปกลาย ๆ แล้วว่าเขาทำผิดต่อลูกเมียจริง ๆ
แวบแรกนางโกรธเพราะคิดไปเองว่าสามีนอกใจ แต่หลังจากได้มีเวลาคิดหลายตลบ ก็มองว่าสามีอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
คนที่ร้ายคือสตรีผู้นั้น!
ฟางเหนียงมองสายตาของนางออก สายตาที่จ้องแต่จะงาบสามีข้าไปกินให้ได้นั่นน่ะ!
ส่วนสามีก็ผิดที่เอาใครที่ไหนไม่รู้เข้าบ้าน ลำบากข้าต้องเล่นใหญ่อีก รีบ ๆ จัดการสตรีผู้นั้นก็แล้วกัน ก่อนที่ข้าจะเลิกสนใจท่านน่ะสามี...
ความคิดเห็น