ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวน้อยผู้มั่งคั่ง (จบแล้ว) มี E-BOOK

    ลำดับตอนที่ #35 : กิจการต่างเมือง

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 66


    ตอนที่ 35 กิจการต่างเมือง

    เวลาล่วงเลยมาหลายวัน

    สองพี่น้องกลับมาสนิทกันเหมือนเดิม ถึงจะรู้สึกมีบางอย่างติดอยู่ในใจเล็กน้อย แต่ต่างคนต่างพยายามเก็บอาการเอาไว้ไม่แสดงออกมา

    ระหว่างที่สามคนพ่อลูกกำลังนั่งกินข้าวด้วยความเรียบง่ายด้านหลังร้านอาหาร ฉินฉินมองหน้าพี่ชายและบิดาสลับกันไปมา ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานของตนต่อไม่ยอมพูดอะไรอีก

    อี้เทียนสังเกตเห็นท่าทางบุตรสาวไม่ปรกติ จึงหันไปส่งสายตาถามบุตรชาย หูต้าลู่ส่ายหน้าว่าเขาไม่รู้เช่นเดียวกัน

    รอจนทุกคนกินข้าวเสร็จ ระหว่างที่สาวใช้นำของหวานมาตั้งโต๊ะ ฉินฉินถูมืออย่างประหม่าแล้วพูดสิ่งที่ต้องการออกมา

    "ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ข้า...ข้าอยากจะไปท่องเที่ยวต่างเมืองเจ้าค่ะ จะเป็นอะไรหรือไม่หากข้าขอฝากให้พวกท่านทั้งสองดูแลงานในเมืองหลิงหลงแทนข้า"

    อี้เทียนแทบจะพ่นชาออกมา เขาจ้องจับผิดบุตรสาวอีกครั้ง

    นางจะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก วันก่อนไม่รู้นางไปได้ยินมาจากไหนว่าเหลาอาหารเซียนซื่อ เบื้องหน้าเปิดกิจการอาหาร ทว่าเบื้องหลังกลับแอบเปิดเป็นซ่องขนาดเล็กขายบริการเด็กอายุต่ำกว่าสิบปี

    เรื่องนั้นเป็นเพราะฉินฉินได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือจากบุคคลปริศนา ที่อาศัยจังหวะทีเผลอสวมใส่ชุดดำนำสหายทั้งสามคนบุกเข้าไปเผาร้านผู้อื่นไหม้วอดทั้งหลัง ดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต

    และดีที่ฉินฉินช่วยเด็กตัวน้อยไว้ได้ทัน ส่วนใหญ่ยังไม่ถูกกระทำอนาจาร และยามนี้ก็ได้ท่านเจ้าเมืองรับเด็กทั้งหมดไปดูแลต่อแล้ว

    สุดท้ายฉินฉินก็ถูกจับได้ เพราะพี่ชายนำเรื่องนี้ไปฟ้องบิดา จนนางถูกเขาบ่นหูชาให้สงบเสงี่ยมไปได้หลายวัน

    อี้เทียนวางจอกชาลงแล้วหยิบผ้ามาเช็ดคราบชาบนหน้าออก ตาคู่คมจ้องตาบุตรสาวถามเสียงเข้ม

    "เจ้าคิดจะก่อเรื่องอะไรอีก เรื่องอันตรายนี่ชอบนัก จนข้านึกว่าตนไม่มีบุตรสาวแต่ได้บุตรชายมาแทนแล้ว"

    ฉินฉินฟังแล้วก็นึกเขิน จึงย้ายมานั่งข้างบิดาแล้วสวมกอดเขาแน่น

    "โถ่..ท่านพ่อ ข้าเป็นสตรีหน้าตางดงามเช่นนี้ จะกลายเป็นบุรุษได้อย่างไรกัน ข้าแค่อยากท่องโลกกว้างไปเปิดกิจการที่ต่างเมืองบ้างเท่านั้น หากเราเอาแต่อยู่ในกรอบเดิม ๆ แล้วเมื่อไหร่จะรวยกับเขาเสียทีเล่า"

    หูต้าลู่เหล่มองน้องสาว ใบหน้ามืดครึ้มลงหลายส่วน

    เขาคิดว่านางอยากจะหนีไปจากเขา

    "น้องรองที่เจ้าอยากจะไปเป็นเพราะข้าใช่หรือไม่"

    ฉินฉินหันมองพี่ชาย นางยังกอดบิดาอยู่แต่ยื่นมือไปจับแขนเสื้อเขาไว้

    "พี่ใหญ่ท่านอย่าคิดมากสิ ท่านก็รู้ว่าข้าอยากท่องเที่ยวนานมากแล้ว อีกอย่างยามนี้ข้าโตพอจะดูแลตนเองได้แล้วเช่นกัน ท่านไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าจะลากจางหมินไปเป็นเพื่อนด้วย"

    อี้เทียนถอนหายใจตบหลังบุตรสาวเบา ๆ

    "โตแล้วอะไรกัน อีกอย่างไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะเข้าหน้าหนาวแล้ว อีกทั้งเจ้ายังไม่ทันได้ปักปิ่นอีก อยู่ต่างเมืองไม่คุ้นชินกับผู้คนมันลำบากนะรู้หรือไม่ แต่หากอยากจะซุกซนก็ให้พาพี่ชายเจ้าไปด้วยพ่อถึงจะอนุญาต"

    ฉินฉินส่ายหน้าปฏิเสธ หากมีพี่ชายไปด้วยนางคงหยิบจับสิ่งใดไม่สะดวก เพราะเขาคงห้ามทำโน่นทำนี่ตามเคย มันจะต่างอะไรจากเดิมเล่า

    "ท่านพ่อข้ารู้นะว่าท่านแอบดูใจกับท่านป้าร้านผ้าที่ประตูเมืองอยู่ แล้วท่านยังไปเกี้ยวพาสตรีร้านสุรานอกเมืองอีกด้วย ท่านคบซ้อนเช่นนี้เหมาะแก่การคาบข่าวไปบอกความลับให้พวกนางรู้ยิ่งนัก"

    อี้เทียนสะอึกพลางเบิกตากว้าง นางรู้ได้อย่างไรกัน

    หรือว่านางจะเห็นตอนที่เขาอยู่กับสตรีเหล่านั้น

    หูต้าลู่ส่ายหน้าเอือมระอา ท่านพ่อหนอท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงทำอะไรไม่รอบคอบเช่นนี้เล่า น้องรองนำเรื่องนี้มาเป็นจุดอ่อนของท่านจนได้

    "แล้วอย่างไรพ่อยังโสด หากเจ้าไม่อยากมีแม่ใหม่ พ่อจะเลิกกับพวกนาง เจ้าเอาเรื่องนี้มาขู่พ่อไม่ได้ เลิกคิดไปได้เลย"

    ฉินฉินไม่ยอมแพ้ลุกขึ้นนั่ง แล้วชูนิ้วขึ้นนับรายชื่อของสาว ๆ ที่บิดาเคยควงออกมาทีละคน จนอี้เทียนได้แต่ยกมือกุมขมับ

    นางเล่นงานข้าเสียแล้ว

    สุดท้ายเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่โบกมือปัด ๆ ให้พ้นตัว

    "เอาเถิดเจ้าอยากทำอะไรก็ทำ พ่อยอมแล้ว จะไปวันไหนก็บอกพ่อ พ่อจะได้เตรียมของไว้ให้เจ้า"

    "ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านพ่อ"

    ฉินฉินสวมกอดบิดาแน่น นางดีใจมากในที่สุดบิดาก็อนุญาตเสียที เหลืออีกคนเดียวเท่านั้น

    "พี่ใหญ่ถึงแม้ว่าท่านจะห้าม ข้าก็จะไปเจ้าค่ะ ท่านเปิดการค้าลึกลับอะไรนั่นอยู่ใช่หรือไม่ คงมีคนเก่ง ๆ อยู่ในมือเยอะ เช่นนั้นช่วยแบ่งมาให้ข้าสักสิบคนสิเจ้าคะ ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง"

    หูต้าลู่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ

    แม้แต่เรื่องนี้นางก็รู้หรือนางคงมีไพ่ลับซ่อนอยู่สินะ

    แท้จริงแล้วฉินฉินไม่ได้มีไพ่ลับอะไรทั้งนั้น แต่เพราะนางเคยเข้าไปซื้อข่าวกับร้านลับของพี่ชาย แค่นางได้ยินเสียงก็จำได้แล้วว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเป็นคนในครอบครัวของตน

    ทว่าหูต้าลู่ยังไม่ยอมแพ้ กลับอ้อนน้องสาวคืนบ้าง

    "ให้ข้าไปด้วยไม่ได้จริง ๆ หรือ"

    ฉินฉินจ้องตาพี่ชายแล้วเอ่ยปฏิเสธหนักแน่น

    "ไม่ได้เจ้าค่ะ หลังฤดูหนาวสิ้นสุดลงข้าจะกลับมาแน่นอน อีกอย่างเมืองที่ข้าจะไปใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งเดือนก็ถึงแล้ว หากพวกท่านคิดถึงข้าก็ไปเยี่ยมได้ แต่ห้ามแอบตามเด็ดขาด หากข้าจับได้ก็เตรียมตัดขาดกันเถิดเจ้าค่ะ"

    ฉินฉินกอดอกให้ชายต่างวัยทั้งสองคนรู้ว่านางพูดจริงไม่ได้พูดเล่น ๆ

    สุดท้ายหูต้าลู่ก็ยอมใจอ่อน แล้วอนุญาตให้น้องสาวเดินทางได้โดยมีข้อแม้ว่า นางต้องเขียนจดหมายรายงานสถานการณ์ส่งมาให้ทุกวัน

    ฉินฉินพยักหน้าตกลง เรื่องส่งจดหมายไม่ใช่เรื่องยากอะไรอยู่แล้ว เพราะที่จวนของนางมีนกพิราบสื่อสารอยู่ ให้มันบินกลับไปกลับมาระหว่างสองเมือง ใช้เวลาเพียงสองวันก็คงถึงแล้ว

    แต่ถ้าอยากสื่อสารได้เร็วมากกว่านี้ คงต้องรอให้มีคนคิดค้นสัญญาณอินเทอร์เน็ตในยุคนี้ให้ได้ก่อน วันนั้นชีวิตคงง่ายขึ้นเยอะ

    แต่อีกสามพันปีข้างหน้านะถึงจะสำเร็จ

    เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ฉินฉินต้องการออกเดินทางให้เร็วที่สุด นางรีบขี่ม้าไปที่ร้านขายผ้าของสหายทันที

    หลงจู๊เห็นหญิงสาวก็เชิญให้นางเข้าไปด้านในทันที จางหมินเคยสั่งเอาไว้ว่าอย่าไปขวางทางนาง ต่อให้นางจะไม่จ่ายเงินซื้อของก็ปล่อยไป ขออย่าเอาไปหมดร้านก็พอ

    ฉินฉินมาหยุดอยู่บนชั้นสอง ที่เป็นบริเวณทำงานของสหายรัก นางรักษามารยาท เคาะประตูส่งเสียงเตือนคนด้านในให้รู้ตัวก่อนว่านางมาแล้ว

    "จางหมิน...สหายสาวสุดที่รักสวยเลิศในปฐพีของเจ้ามาแล้ว ขอข้าเข้าไปได้หรือไม่"

    แต่ก่อนฉินฉินไม่เคยเคาะประตู มาทีไรก็ผลักประตูเข้าไปเองทุกที เป็นสหายกันจะมีอะไรมากมายเล่า จางหมินเวลาไปหานางถึงที่ทำงานก็ทำเช่นกัน

    แต่ไม่รู้วันนั้นใส่เสื้อมาผิดสีหรือก้าวเท้าออกจากบ้านผิดข้าง หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปเจอสหายกำลัง...กับผู้ชายชั่วคราวของเขาอยู่

    ตั้งแต่นั้นมานางจึงต้องเคาะประตูทุกครั้งก่อนเข้าไปด้านใน

    "เข้ามาได้เลยข้าไม่ได้ลงกลอนไว้"

    เมื่อเจ้าของห้องอนุญาตแล้ว ฉินฉินก็เปิดประตูเดินเข้าไปด้านใน สิ่งแรกที่นางทำคือสำรวจทุกซอกทุกมุม กลัวสหายจะตกใจแอบพาผู้ชายไปซ่อน เพราะครั้งนี้นางต้องการความเป็นส่วนตัว

    จางหมินกำลังออกแบบชุดใหม่ที่จะวางขายในเร็ว ๆ นี้ จึงไม่สนใจความบ้าบอของสหาย นางอยากทำอะไรปล่อยให้นางทำไปจนกว่าจะพอใจ

    ฉินฉินเห็นว่าไม่ใครแอบซ่อนอยู่ ก็เดินไปนั่งบนตั่งสำหรับใช้เอนหลังพักผ่อนที่ตั้งอยู่ข้างหน้าต่าง

    "จางหมินข้ามีเรื่องจะขอให้เจ้าช่วย"

    จางหมินมือยังคงวาดแบบของตนเอง แต่ปากขยับตอบโต้ไม่ขาดสาย

    "ว่ามามีอะไร"

    "ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวเมืองฉินเทียนสักสามเดือน ไม่สิ...อาจจะมากกว่านั้น เอาเป็นว่าจะไปจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูหนาวถึงจะกลับมา"

    จางหมินฟังแล้วไม่ค้านกลับพยักหน้าตอบตกลงง่ายดาย

    "เอาสิ ไปก็ไป"

    ฉินฉินแปลกใจนัก ที่นางคาดการณ์ไว้จางหมินต้องลุกขึ้นมาบ่นจนหูชา ต่อด้วยสั่งสอนอีกสามยกถึงจะยอม

    วันนี้เขาย่อมง่ายมากจนนางกลัวแล้วนะเนี่ย

    "เจ้าไม่ปฏิเสธหน่อยหรือ"

    จางหมินวางงานในมือลง แล้วหันไปมองสหายที่ทำหน้างงอยู่

    "หากข้าปฏิเสธ สุดท้ายเจ้าก็ลากข้าไปเป็นเพื่อนอยู่ดีใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าขอเวลาสามวันจัดการงานที่ร้าน เสร็จแล้วเราค่อยออกเดินทาง"

    "เอ่อ..ได้สิ สามวันนะ เช่นนั้นข้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะสหายรัก คนที่แอบอยู่บนหลังคาจะได้ไม่เมื่อย"

    จางหมินสะดุ้งไม่คิดว่านางจะจับได้ เขาว่าแสดงเนียนแล้วนะ ยังไม่พ้นสายตาเหยี่ยวของสตรีตัวเล็ก ๆ คนนี้อีกหรือ

    ฉินฉินแกล้งสหายพอหอมปากหอมคอ นางจะไม่รู้ได้อย่างไรเล่าก็มีชายเสื้อห้อยลงมาจากหลังคา หลักฐานคาตาเสียถึงเพียงนั้น

    นี่ก็ลงทุนเกินไปหรือไม่ ถึงขั้นปีนไปแอบบนหลังคาเลยหรือ แค่เดินออกจากห้องไปรอที่ชั้นล่างไม่ง่ายกว่าหรือไรนะคนเรา

    หญิงสาวหัวเราะทิ้งท้ายเบา ๆ เดินออกจากห้องทำงานของสหาย แล้วมุ่งหน้ากลับมาจัดการงานของตนเองให้เสร็จเรียบร้อย จะได้ออกเดินทางเสียที..


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×