ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่ครั้งนี้ขอให้ร่ำรวยเงินทอง (จบแล้ว) มีE-BOOK

    ลำดับตอนที่ #3 : ซวยแล้ว 2

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 66


    เมื่อได้ฟังสิ่งที่เจ้าหน้าที่บอกเล่า คนตัวเล็กก็ทำหน้าไม่เชื่อว่าจะมีมนุษย์ป้าหัวโบราณคร่ำครึแบบนี้อยู่อีก ผู้หญิงไม่ใช่คนรึไง นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ไม่มีแล้วมั้งผู้หญิงที่ต้องถูกกดขี่อยู่ใต้ปีกของผู้ชายน่ะ

    “สงสัยยัยป้าคงถูกผัวทิ้งแล้วหนีไปกับเมียน้อยแน่ ถึงได้มาพาลใส่ผู้หญิงด้วยกันเองแบบนี้”

    อ้าว แล้วแบบนี้ฉันต้องทำไงอะคะ? ทิ้งรถไว้ตรงนี้ได้ไหมอะ”

    ดูท่าแล้วเรื่องคงไม่จบง่าย ๆ นับดาวจึงคิดหาทางออกไปจากตรงนี้ก่อน ต่อให้ต้องทิ้งรถราคาแพงไว้ข้างทาง แล้วต้องนั่งแกร็บไบค์ไปก็ยอม

    “ไม่ได้ครับ”

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยปฏิเสธ เขามีหน้าที่แค่แจ้งเหตุให้ทุกคนรู้เท่านั้นว่าสาเหตุของรถติดคืออะไร

    “อ้อ ขอบคุณค่ะ พี่คะเอามะม่วงน้ำปลาหวานไว้กินนะคะ หนูให้” มือเรียวคว้าถุงผลไม้ที่ยังไม่ได้แกะยื่นส่งให้เจ้าหน้าที่ ตามประสาคนสวยมีน้ำใจ แม้เขาจะช่วยหาทางออกให้เธอไม่ได้ก็ตาม

    นับดาวจึงลองหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน อย่างไรตอนนี้ก็ไม่มีเวลาแล้ว ถ้าไม่รีบออกเดินทางตอนนี้มีหวังไปไม่ทันนัดแน่

    ร่างเพรียวเปิดประตูรถออกมาชะโงกหน้ายืนดูสถานการณ์ ก่อนจะก้าวฉับ ๆ เปลี่ยนฟุตพาทที่ชวนสะดุดล้มได้ทุกเมื่อให้เป็นเวทีแฟชั่นโชว์ สะบัดก้นที่ออกกำลังกายปั้นมาอย่างหนักไปเผือกเรื่องของชาวบ้าน

    ขอดูหน้ามนุษย์ป้าชัด ๆ หน่อยสิว่าเป็นคนยังไงกัน ถึงได้กล้าแผลงฤทธิ์จนคนเขาเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดวงตากลมโตสอดส่ายมองหาจุดเกิดเหตุก็เห็นว่าตรงหน้าร้านสะดวกซื้อมีคนมุงมากแค่ไหน

    ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็ยิ่งได้ยินเสียงดังแสบแก้วหูชัดขึ้น นอกจากเสียงมนุษย์ป้าแล้ว ยังมีเสียงก่นด่าจากคนที่เดือดร้อนกำลังด่ายัยป้ากลับได้ดุเดือดมาก

    โอ๊ยป้า! คนเขาต้องรีบไปทำงานนะจะยืนขวางอีกนานไหม ถ้าป่วยก็ไปรักษาค่า อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเนาะ”

    “กูมีปืน! ปากดีแบบนี้อยากตายรึไง”

    “กะเทยยอมตายเพื่อกอบกู้ชาติ แต่สัญญาเลยว่าหนูจะเป็นผีมาตามหักคอมนุษย์ป้า เหอะ ก็น่าสะใจดีเหมือนกัน ยิงสิ! อะยิงตรงนี้เลย”

    สาวสองคนหนึ่งทำท่าบีบคอตัวเอง พลางแลบลิ้นปลิ้นตาทั้งยังเหลือกตาใส่มนุษย์ป้า สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้คนที่อยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดให้ผ่อนคลายลง

    ไม่มีใครคิดว่าปืนของป้าแกจะเป็นของจริง ดูอย่างไรก็ปืนปลอมไม่น่าทำให้คนตายได้จริง ๆ ทุกคนจึงไม่เกรงกลัว แล้วช่วยกันกดดันให้ยัยป้ายอมหลีกทางไปได้แล้ว

    นับดาวที่กำลังคิดว่าทำไม ‘พลมุง’ ทั้งหลายถึงไม่อุ้มยัยป้าไปทิ้งไว้ข้างฟุตพาท ปล่อยให้อาละวาดข้างทางแทนกลางถนนยังดีกว่า ทว่าโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว กลับมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด และโชคร้ายนัก...

    กระสุนเจาะเข้าหัวของนับดาวพอดี ร่างของหญิงสาวล้มฟุบลงไปนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นทันที

    ปัง!

    กรี๊ด!! ปืนจริงชายแท้วิ่งก่อนเลยค่า”

    สาวสองชี้ไปที่เพื่อนชายที่มาด้วยกัน ก็เห็นอีกฝ่ายอุ้มเมียวิ่งหนีไม่ทิ้งฝุ่นทันทีที่เห็นว่ามันคือปืนจริง! ไม่ใช่ปืนของเล่นอย่างที่ทุกคนคิด

    นับดาวผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่หมดสติกลางอากาศไม่รู้สึกตัวอีกเลย ภาพสุดท้ายที่เห็นคือสีหน้าตกใจของพลมุงที่จ้องมองมาที่เธอ

    “แม่ง! คนมุงตั้งเยอะกระสุนมันมาได้ไง?”

     

    …ฟังคำของหลวงพ่อไว้หนา ชีวิตของเจ้าในโลกนี้ช่างสั้นนัก เพราะคนทางโน้นเขารอไม่ไหวแล้ว อยากให้เอ็งกลับไปยังถิ่นที่เอ็งสมควรเกิด จากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจงตั้งสติให้ดี หลวงพ่อมาส่งเอ็งได้แค่นี้…

    เสียงของหลวงพ่อที่นับดาวนับถือดังก้องอยู่ในหัว ก่อนที่สติของเธอจะดับวูบและจากโลกใบนี้ไปตลอดกาล

    นับดาวเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่จำความได้ตัวเธอก็อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เด็กหญิงตัวน้อยโศกเศร้า หรือน้อยใจในโชคชะตา เธอกลับตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ว่าจะต้องรวยให้ได้

    และนับดาวก็ทำตามที่วาดฝันไว้ได้จริง เธอเริ่มจากการขายของออนไลน์ตั้งแต่อายุสิบสี่ ทำงานทุกอย่างที่ได้เงินไม่เคยหยุดพัก พออายุสิบห้าก็มีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นธุรกิจของตัวเอง

    รายได้ปีแรกพุ่งสูงถึงสองร้อยกว่าล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้นทุกปีจนกลายเป็นอายุน้อยพันล้าน ได้ไปออกรายการชื่อดังมากมาย จนมีโอกาสขยายกิจการไปยังต่างประเทศภายในระยะเวลาไม่กี่ปี

    นับดาวไม่ใช่คนใช้เงินฟุ่มเฟือย ของใช้แบรนด์เนมไม่เคยซื้อ ยอมเสียเงินก้อนใหญ่ซื้อแค่บ้านกับรถเท่านั้น และเมื่อมีโอกาสหญิงสาวก็ไม่ลืมสร้างบุญ ส่งเงินกลับไปให้บ้านเด็กกำพร้าที่เลี้ยงดูตัวเองมา ช่วยส่งน้อง ๆ เรียนจบไปหลายคน จนทุกวันนี้เป้าหมายอีกหนึ่งอย่างของเธอ คือการหาเงินให้มากเพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสให้มีโอกาสเรียนจบสูง ๆ

    งานบุญที่ใดหากมีคนมาขอให้ร่วมบุญเธอไม่เคยคิดมาก จะวัดเล็กวัดใหญ่เธอจะควักเงินมอบให้ทันที ต่อให้ตัวอยู่เมืองนอกมือก็ยังกดโอนทำบุญเร็วเหมือนเดิม

    นับดาวนับถือหลวงพ่อที่วัดใกล้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือนพ่อแท้ ๆ คนหนึ่ง ตั้งแต่เด็กเธอชอบเข้าวัดไปขอให้ท่านอ่านหนังสือธรรมะให้ฟังอยู่บ่อย ๆ

    ช่วงชีวิตสุดท้ายในหัวก็มีเสียงของหลวงพ่อดังขึ้น เตือนสติให้เธอระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยเชื่อว่าหากจิตสุดท้ายนึกถึงสามสิ่งนี้ อย่างไรชีวิตในโลกความตายย่อมสุขสบาย

    ‘นี่เราต้องมาตายแบบนี้น่ะเหรอ แต่ก็ดีเหมือนกันนะตายแบบไม่ทรมาน ยังดีที่เขียนพินัยกรรมมอบทรัพย์สมบัติให้หลวงพ่อช่วยดูแลต่อไว้ก่อนแล้ว น้อง ๆ เองจะได้ไม่ลำบาก ถ้างั้นคงต้องลาก่อนนะทุกคน’

    หญิงสาวหลับตาลงระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ปล่อยวางทุกสิ่งอย่าง ไม่ยึดติดกับทรัพย์สมบัติภายนอก ยอมรับความตายด้วยจิตสงบนิ่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×