คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : ถูกไล่ที่
บทที่ 26 ถูกไล่ที่
แค่เริ่มต้นวันก็ถูกคนสาดน้ำไล่ที่เสียแล้ว ฟางเหนียงนิ่งอึ้งก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ เพื่อหาจุดที่น่าจะไปจอดรถเข็นขายของได้แต่ก็ไม่มี
บริเวณที่นางอยู่คือแถว ๆ ประตูทางเข้าอำเภอพอดี ทั้งเจ้าถิ่นยังแรงจึงต้องขยับออกไปหาที่ขายไกลกว่าเดิม
หญิงสาวเข็นรถถามตามร้านรวงต่าง ๆ เพื่อขอเช่าพื้นที่ว่างข้างร้านขายของ ทว่าทุกคนกลับมองด้วยหางตา ไม่มีใครยินยอมปล่อยพื้นที่ให้เช่าแม้แต่คนเดียว
ร่างอวบเดินไปเรื่อย ๆ จนไปเจอร้านค้าหนึ่ง เป็นเพิงไม้ขายสุราของคู่สามีภรรยาที่อายุมากแล้ว ฟางเหนียงตัดสินใจเดินไปถามดู ครั้งนี้หากยังไม่ได้อีกนางก็คงต้องเข็นขายตามหมู่บ้านแทน
เพิงเล็ก ๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง รายล้อมไปด้วยร้านค้าใหญ่ตกแต่งหรูหราดึงดูดสายตาลูกค้า แต่เพิงที่ไม่มีอะไรนี้กลับเป็นที่สะดุดตาของผู้คน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนชนชั้นกลางที่แวะเวียนมาซื้อสุราแล้วก็จากไป
ฟางเหนียงเข็นรถเข็นมาหยุดอยู่ข้างเพิงขายสุรา พยายามไม่ไปบังหน้าร้านที่มีลูกค้ายืนซื้อสุราอยู่
นางเข้าไปถามหญิงชรา ที่กำลังลวกจอกเหล้าในน้ำร้อนอยู่หลังร้าน ด้วยสีหน้าเป็นกังวล กลัวว่าจะไม่ได้ที่ขายอีก
“ท่านยายข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องท่าน ข้าขอใช้พื้นที่เล็ก ๆ ข้างร้านของท่านขายของได้หรือไม่เจ้าคะ ข้ายินดีจ่ายค่าเช่าที่ให้กับท่าน”
หญิงชราท่าทางใจดีมองฟางเหนียงด้วยสายตาเอ็นดู นางอายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ลูกหลานต่างหนีหายไปหมด ทิ้งให้บิดามารดาอยู่กันตามลำพัง
ทันทีที่หญิงชราได้ยินน้ำเสียงใสนอบน้อม ก็ก่อเกิดเป็นความประทับใจแรกจนอดเอ็นดูไม่ได้
“ได้ ๆ ข้าเองจะได้มีเพื่อนคุย เจ้าขายอะไรเล่านังหนู”
“วันนี้ข้าเตรียมแค่โจ๊กทรงเครื่องกับชุดอาหารเช้าง่าย ๆ มาขายเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านยายมากนะเจ้าคะ ที่ให้ข้าใช้พื้นที่ข้างร้าน ข้าถามมาหลายที่แล้ว กลับถูกสาดน้ำไล่ ท้อใจจริง ๆ เจ้าค่ะ”
หญิงชราพูดปลอบประโลม ใช้ชีวิตมานานย่อมรู้ว่า ชีวิตไม่ได้ง่ายเสมอไป มันต้องผ่านความทุกข์ยากกันบ้าง อีกทั้งนางยังสอนให้ฟางเหนียงปล่อยวาง อย่าถือโทษโกรธคนเหล่านั้นอีกด้วย
ได้ที่ขายของแล้ว ฟางเหนียงก็ไม่รอช้า รีบจัดการเตรียมของขายทันที นางเปิดหม้อเติมน้ำซุปใช้กลยุทธ์ให้กลิ่นหอม ๆ เรียกลูกค้า
เหลาอาหารที่อยู่ข้างกันก็ได้กลิ่นหอมชัดเจน หลงจู๊เองยังแอบมาชะโงกหน้าดูแต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะจุดที่ฟางเหนียงขายไม่ใช่ที่ของตน
สองตายายตรงนั้นอยู่มานานก่อนเหลาอาหารจะเปิดเสียอีก เขาไม่อยากมีปัญหากับคนเก่าคนแก่ หากนายท่านรู้เข้าว่าเขารังแกคนแก่ มีหวังถูกไล่ออกจากงานเงินเดือนดีเป็นแน่
“ท่านตาท่านยาย ช่วยลองกินอาหารของข้าดูได้หรือไม่เจ้าคะ ส่วนกระเช้านี้เป็นเครื่องปรุงเติมได้ตามชอบ ท่านชอบรสชาติไหนหรือให้ข้าแนะนำหรือไม่เล่า”
ฟางเหนียงกางโต๊ะจัดร้านเสร็จ ก็รอจังหวะที่ร้านสุราไม่มีลูกค้า จึงเดินถือถ้วยข้าวต้มไปหาสองตายายให้พวกท่านช่วยชิม โดยไม่ลืมนำชุดปาท่องโก๋กับโกโก้ร้อน ๆ ไปด้วยอีกสองชุด
“หืม กลิ่นหอมมาก เช่นนี้ไม่ต้องชิมก็รู้ว่าอร่อย”
ชายชราเป็นคนพูดน้อย เขามองภรรยาที่เอ่ยปากชมแม่ค้าหน้าใหม่ไม่หยุด ทั้งที่ยังไม่ได้ลองกินด้วยซ้ำ ว่าแล้วก็ลองหยิบปาท่องโก๋ขึ้นมากัด แป้งด้านนอกกรอบ แต่ด้านในนุ่ม ซ้ำยังมีกลิ่นหอมของงาอ่อน ๆ อีก
“ท่านตาต้องซดน้ำโกโก้ร้อนตามไปด้วยเจ้าค่ะ ข้าตักพักไว้แล้ว กำลังร้อนพอดีกินเชียว”
ชายชราทำตามที่ฟางเหนียงแนะนำ เขายกแก้วไม้ที่มีหูหิ้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด การกระทำของเขาบ่งบอกว่าสองสิ่งนี้อร่อยถูกใจเขามาก
“สงสัยสามีข้าจะชอบเข้าแล้ว ช่วงนี้เขากินอะไรไม่ค่อยได้ ทุกวันนี้กว่าจะกินข้าวได้แต่ละคำ ข้าต้องลุ้นจนแทบกลั้นหายใจเชียว”
หญิงชราปลื้มใจมากที่เห็นสามีกินอะไรได้เกินสามคำ นางจึงลองกินอาหารที่ฟางเหนียงนำมาให้ดู เพียงคำแรกดวงตาก็เปล่งประกายแล้ว
นางพอจะรู้เหตุผลแล้วว่าทำไมสามีถึงกินโจ๊กจนหมดถ้วย ยังมีแป้งทอดกับน้ำรสชาติหวานหอมแปลก ๆ อีก
มันอร่อยมาก!
ฟางเหนียงยืนมองสองผู้เฒ่ากินอาหาร ที่กินอย่างเอร็ดอร่อยก็รู้สึกดีมาก ในใจเผลอกังวลว่าอาหารจะไม่ถูกปากพวกเขา แต่เห็นปฏิกิริยาของทั้งสองแล้ว นางก็ใจชื้นขึ้นมากเลยทีเดียว
“เป็นอย่างไรบ้าง พอกินได้หรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่ใช่แค่พอกินได้ แต่มันอร่อยมากต่างหากเล่า แม่นางเจ้าขายอย่างไรหรือ ข้าจะจ่ายเงินให้”
ฟางเหนียงปฏิเสธไม่รับเงิน เพราะตั้งใจมอบให้พวกท่านได้ลองกินจริง ๆ เป็นเพราะนางซาบซึ้งน้ำใจของหญิงชรา ที่ยอมแบ่งที่ขายของให้
หากไม่มีนางวันนี้ คงต้องเหนื่อยเดินเร่ขายของจนกว่าจะหมด สุดท้ายหญิงชราก็ต้องยอมเป็นฝ่ายยอมแพ้ นางจึงไม่เก็บเงินค่าเช่าที่และขอให้ฟางเหนียงช่วยรับผิดชอบเรื่องอาหารให้ทุกครั้งที่นางมาขาย แน่นอนว่าฟางเหนียงตอบตกลงทันที
“หากเจ้าเดินเข้าไปด้านในจะเจอบ้านของข้า หากต้องการใช้น้ำก็ไปตักในบ่อได้”
ชายชราปลีกตัวไปรับลูกค้า ส่วนหญิงชราว่าแล้วก็ชี้นิ้วไปด้านในตรอกใกล้ ๆ กัน บ้านของนางอยู่ด้านหลังนั่น ฟางเหนียงพยักหน้าขอบคุณ นางต้องการน้ำสักถังไว้ใช้พอดี
“เอ๊ะ กลิ่นอะไรหอม ๆ ท่านยายกลิ่นหอมมาจากร้านท่านหรือ”
คุณชายคนหนึ่งชวนสหายมาเลี้ยงข้าวที่เหลาอาหาร ระหว่างนั่งรออาหารอยู่นั้น จมูกก็ได้กลิ่นหอมหวานลอยมาตามลม
แรก ๆ ก็พอทนได้แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว จึงต้องเดินตามหากลิ่นจนมาหยุดอยู่ที่หม้อข้าวต้มร้อน ๆ อย่างไม่รู้ตัว
“ใช่แล้วพ่อหนุ่ม โจ๊กร้านนี้หอมหวานอร่อยมาก ข้ารับรอง”
หญิงชรายิ้มกว้างไม่ลืมช่วยเรียกลูกค้าให้ฟางเหนียง ในระหว่างที่เจ้าตัวกำลังวิ่งไปตักน้ำมาไว้ใช้ ฟางเหนียงที่หอบถังน้ำอยู่ กลับมาเห็นเด็กหนุ่มหลายคนยืนล้อมร้านของตนอยู่พอดี
“เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ?”
“จะอะไรกันเล่า พวกเขามารอซื้ออาหารร้านเจ้าน่ะสิ”
หญิงชรารีบไล่ให้ฟางเหนียงไปรับลูกค้า สักพักก็ได้รับสัญญาณจากสามี ให้มาช่วยแม่ค้ามือใหม่รับมือกับลูกค้าหนุ่มทั้งหลาย
ฟางเหนียงเช็ดมือบนกระโปรง ส่งยิ้มหวานให้กับเด็กหนุ่มที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกับบุตรชายคนโตของตน
“รับอะไรดีเจ้าคะ วันนี้ข้ามีโจ๊กหมูทรงเครื่อง และชุดแป้งทอดกับโกโก้ร้อนเจ้าค่ะ”
“ท่านป้าข้าเอาโจ๊กสามถ้วยขอรับ”
อึก! ถูกเรียกว่าป้าฟางเหนียงก็รู้สึกเจ็บจี๊ดอยู่ในอก ชาติที่แล้วข้าก็ตายตอนอายุยี่สิบต้น ๆ มาเรียกป้าได้อย่างไร อุตส่าห์ตั้งใจจะแถมไข่ให้
ไม่แถมมันแล้ว!
“เอาไข่ลวกด้วยหรือไม่ ฟองละสองอีแปะ”
“เอาเพิ่มสองฟองขอรับ”
“ได้ ๆ ไปนั่งรอที่โต๊ะเถอะ พวกเจ้าเล่าเอาเหมือนกันหรือไม่”
“ข้าเอาด้วยขอรับ แล้วที่อยู่ในจานมันคืออะไรหรือท่านป้า”
เด็กหนุ่มในกลุ่มเห็นชุดปาท่องโก๋ ที่ฟางเหนียงจัดไว้เรียกลูกค้าหน้าร้าน
“เป็นชุดรองท้องกินระหว่างรอโจ๊ก รับด้วยหรือไม่เล่า จานละสิบอีแปะเท่านั้น”
“เอาขอรับท่านป้า”
เน้นจังเลยนะ! หน้าข้าแก่ขนาดนั้นเชียว เหตุใดถึงเอาแต่เรียก ท่านป้า ๆ ๆ ๆ ไม่หยุด ข้าไม่อยากขายให้แล้วเจ็บใจยิ่งนัก
ฟางเหนียงสั่งให้เด็ก ๆ ลูกคนมีเงินนั่งรอไปก่อน นางจัดการตักโจ๊กใส่ถ้วย ใส่หมูสับ ใส่เครื่องทุกอย่าง แล้วเรียกให้พวกเขามารับไปเอง
จากนั้นก็เริ่มทอดปาท่องโก๋ต่อ ของเช่นนี้ต้องกินตอนทอดร้อน ๆ ถึงจะอร่อย ที่สำคัญนางยังมีเครื่องปั่นรีดน้ำมันแบบมือด้วย
รับรองความอร่อย ถูกหลักอนามัยแน่นอน
หญิงชรายืนดูอยู่ห่าง ๆ กำลังหาโอกาสเข้าไปช่วย แต่พอเห็นว่าฟางเหนียงรับมือคนเดียวได้ก็วางใจไปเปลาะหนึ่ง แล้วเดินไปนั่งรอในร้านข้าง ๆ สามีคอยมองดูฟางเหนียงขายของ
ความคิดเห็น