คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ซวยแล้ว 1
บทที่ 1 ซวยแล้ว
ปิ๊น! ปิ๊น!
เสียงบีบแตรเร่งให้รถคันที่อยู่ข้างหน้าออกตัว เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่รถคันนั้นยังคงนิ่งไม่ยอมขยับ
โธ่เว้ย! ขยับได้แล้วยังจะแช่อยู่อีก! คนยิ่งรีบ ๆ อยู่หงุดหงิดโว้ย!
นับดาวคิดอย่างอารมณ์เสีย ที่ต้องมาเจอเรื่องอิหยังวะแต่เช้า รู้สึกว่าวันนี้จะดวงไม่ดีเอาเสียเลย เจอแต่เรื่องเฮงซวยตั้งแต่ลืมตาตื่น
วันนี้เธอมีนัดสำคัญแต่ดันตื่นสาย เหตุเพราะนาฬิกาไม่ปลุกตามเวลา ก็รีบรุดไปอาบน้ำจากนั้นก็ตั้งใจต้มไข่กินง่าย ๆ ในช่วงเวลาเร่งรีบ แต่พอจะกินกลับพบว่าไข่ดันเน่าอีก!
ไม่พอ! เมื่อวานก่อนเข้าบ้านเติมน้ำมันรถเต็มถังมาอย่างดี เพราะรู้ว่าวันนี้มีนัดสำคัญที่พลาดไม่ได้ ก่อนจะนอนเพื่อนร่วมงานดันโทรมาขอยืมรถ แต่เอาไปใช้แล้วดันไม่ได้เติมน้ำมันคืนให้ โชคยังดีที่มันเอารถมาคืน
นับดาวยิ่งคิดก็ยิ่งอารมณ์เสียกว่าเดิม
‘วันนี้ทำไมดวงซวยจังวะเนี่ย!’
ปิ๊น! ปิ๊น!
มือเรียวกดแตรรัว ๆ เมื่อเห็นว่ารถติดแหง็กมาจะครึ่งชั่วโมงแล้ว ไม่ขยับแม้แต่เซนติเมตรเดียวซึ่งดูผิดปกติมาก เพราะถนนเส้นนี้มีรถสัญจรไปมามากก็จริง แต่ทุกวันไม่เคยติดแหง็กจนเหมือนแช่แข็งแบบนี้มาก่อน
ถนนหนทางในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเส้นทางไหนก็มีรถติดทุกวัน จนรู้สึกว่าหากวันไหนไม่มีรถติด ทุกคนคงรู้สึกถึงลางร้ายมากกว่าดี เพราะเหตุการณ์วันถนนโล่งคงไม่มีทางเกิดขึ้นจริง
จะว่าอย่างไรดี...กรุงเทพฯ น่ะเป็นสถานที่ที่คนในอยากออก คน นอกอยากเข้าก็ว่าได้ ทุกวันจะมีเด็กรุ่นใหม่หรือนักล่าฝันที่อยากเข้ามาหาประสบการณ์ชีวิตในเมืองหลวง ที่เต็มไปด้วยโอกาสและความก้าวหน้า ทำให้ประชากรเดิมที่มีเยอะอยู่แล้วแน่นขนัดยิ่งกว่าเดิม
ค่าครองชีพก็ใช่ว่าจะถูก ร้านอาหารตามสั่งแถวบ้านเธอตอนนี้ราคาต่อจานก็เริ่มต้นที่เจ็ดสิบบาทแล้ว ซ้ำยังให้น้อยจนต้องสั่งสองกล่องถึงจะอิ่มท้องในหนึ่งมื้อ แต่คงไม่ทุกที่หรอกมั้ง เพราะแถวบ้านเธอมีแต่โครงการบ้านหรู เรียกได้ว่ามีแต่คนรวยรายล้อม อาหารถึงได้มีราคาสูงลิ่ว
เพราะรถติดทำให้นับดาวเริ่มคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา และรู้สึกหวิวในใจแปลก ๆ คล้ายว่ามีบางสิ่งกำลังเตือนว่าเธอต้องไปที่ไหนสักแห่ง
ร้านอาหารตามสั่งที่เธอบ่นให้ตลอดเรื่องราคา แต่รสชาติกลับถูกปากนักธุรกิจสาวผู้เรื่องมากอย่างนับดาวได้ ขนาดไปทำงานต่างจังหวัดแค่สองวันยังคิดถึงฝีมือป้านอมเจ้าของร้านเลย
“นึกแล้วก็หิวแฮะ...ป้านอมจ๊ะ! เอากะเพราหมูกรอบสี่กล่องจ้า ชั่วโมงเร่งด่วนทำให้ทันนะป้า ถ้าเสร็จไม่ทัน รอถนนโล่งเดี๋ยวหนูวนมาเอา”
เมื่อท้องร้องก็เริ่มหิว นับดาวจึงอาศัยจังหวะรถติดเปิดกระจกรถ แล้วตะโกนสั่งข้าวกับร้านประจำ ที่อยู่ติดถนนตรงปากทางเข้าโครงการหมู่บ้าน และด้วยความที่รถกับร้านอยู่ห่างกันแค่ยี่สิบเมตรจึงยังพอได้ยิน
ป้านอมจำลูกค้าประจำที่มากินอาหารที่ร้านทุกวันได้ ก็รีบพยักหน้ารับคำแล้วลัดคิวมาทำเมนูโปรดให้ก่อน
นับดาวนั่งหัวเราะอยู่ในรถ ที่พูดแหย่ไปแบบนั้นแค่อยากแกล้งป้าเล่น เพราะถ้าป้าทำไม่ทันจริงก็ว่าจะให้ป้าเอาไปแจกพี่ยาม แล้วเธอค่อยวนรถกลับมาจ่ายเงินให้
แต่ป้าดันทำเร็วผิดมนุษย์ เพียงแค่ห้านาทีข้าวสี่กล่องก็มาส่งถึงข้างประตูรถ นับดาวให้แบงก์สีม่วงกับลูกจ้างร้านป้าไปหนึ่งใบ แล้วย้ำว่าไม่ต้องทอน ก่อนจะปิดกระจกเปิดข้าวกินไม่สนเรื่องกลิ่นเอาอิ่มท้องไว้ก่อน
“เผ็ดแสบตูดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน หมูก็กรอบ!!!”
ตักข้าวเข้าปากคำแรกความอร่อยก็ทำให้อารมณ์ขุ่นเคืองใจมลายหายไปทันที ระหว่างรอให้รถคันหน้าขยับนับดาวก็กินข้าวรอเรื่อย ๆ ซ้ำยังมีเวลาสั่งผลไม้และน้ำปั่นให้มาส่งที่รถอีกด้วย
วันนี้นับดาวมีนัดเจรจาธุรกิจมูลค่าหลายร้อยล้าน เป็นดีลสำคัญเรื่องการสร้างธุรกิจใหม่ในจังหวัดที่เปิดน่านน้ำให้เรือขนส่งสินค้ามาจอดเทียบท่าได้
เธออุตส่าห์เผื่อเวลาก่อนออกจากบ้านตั้งสองชั่วโมง ไม่คิดว่าต้องมาติดแหง็กอยู่หน้าทางเข้าออกหน้าโครงการบ้านของตัวเอง จะเดินหน้าก็ไม่ได้ จะถอยหลังก็ไม่ได้ รีบร้อนไปก็หงุดหงิดใจเปล่า ๆ คิดถูกแล้วที่เลือกสั่งข้าวมากินให้มันจบ ๆ จะได้ไม่โมโหหิวจนฟุ้งซ่าน
ปิ๊น! ปิ๊น!
รถคันด้านหลังบีบแตรกันระงม นักธุรกิจสาวเริ่มชินแล้วจึงปล่อยใจหยิบมะม่วงจิ้มพริกเกลือกินหน้าตาเฉย ส่งข้อความไปบอกลูกทีมที่ถึงหน้างานแล้ว ให้พาคู่ค้าคนสำคัญไปเดินสำรวจพื้นที่โกดังก่อน ไม่ลืมกำชับว่าต้องถ่วงเวลาให้นานที่สุด เธอต้องปิดดีลนี้ให้ได้เพื่อความก้าวหน้า!
นับดาวไม่รู้ว่าข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น จนมีคนมาเคาะกระจกบอกสถานการณ์ว่ามีมนุษย์ป้าคนหนึ่งทะเลาะกับลูกชายในรถ แล้วทั้งรถทั้งคนดันขวางทางอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อที่ห่างจากโครงการไปห้าร้อยเมตร
มนุษย์ป้าออกมายืนอยู่กลางถนน ไม่ยอมให้รถคันไหนได้ไปต่อ รถติดยาวเป็นกิโลเมตรก็ไม่สนใจ จนกว่าลูกชายเพียงคนเดียวจะหย่ากับสะใภ้ ที่ไม่ยอมก้มหัวรับใช้คนในตระกูลเยี่ยงทาสตามที่ยัยป้าต้องการ
ความคิดเห็น