คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 ส้มแจ่มแม่ค้าปากแจ๋ว 2
นายทองดีถอดหมวกเดินผ่านลูกสาวเข้าไปในบ้าน สายตาเหลือบมองลานกว้างก่อนตามความเคยชิน ปรกติทุกวันไก่ชนตัวเก่งจะอยู่ในสุ่มไก่ แต่วันนี้เหลือแต่สุ่มกับขน หรือว่าปอบจะเข้าบ้าน แต่ก็ไม่น่าใช่นะ
ปอบที่ไหนจะขยันหากินตอนแดดเปรี้ยงแบบนี้เล่า
ส้มแจ่มเปิดฝากล่องชะโงกหน้าดูไก่ทอดด้านใน ไอร้อนพวยพุ่งปะทะหน้าพร้อมกับกลิ่นหอม ๆ ชวนน้ำลายสอ
วันนี้ไม่ต้องเหนื่อยทำกับข้าวแล้ววุ้ย มีแจ่วปลาร้าอยู่พอดีกินแกล้มกับไก่ทอดเป็นตาแซ่บน่าดู
“ไอ้ส้ม! พ่อถามว่าไก่พ่อไปไหน”
นายทองดีหันมาถามลูกสาวเสียงดัง หัวปวดตุบ ๆ เหมือนใครบางคนสร้างเรื่องอีกแล้ว แต่ส้มแจ่มตอบกลับอย่างไม่รู้สึกรู้สา
“เชือดทำเป็นไก่ย่างแล้ว หนูว่าจะเปิดร้านส้มตำ แต่ยังไม่ทันขายครกก็แตกก่อน พ่อมาก็ดีมาช่วยหนูยกโต๊ะเข้าไปเก็บในบ้านหน่อย มื้อเย็นวันนี้กินไก่ชนย่างของพ่อแล้วกันนะ”
“ไอ้ส้มแจ่ม!”
ด้วยเหตุนี้ส้มแจ่มจึงถูกไล่ให้มาตั้งเพิงหมาแหงนขายส้มตำอยู่หน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน อยู่ติดกับถนนใหญ่ที่ใช้เป็นทางลัดไปจังหวัดอื่นได้
ข้อตกลงระหว่างสองพ่อลูก คือภายในสามเดือนส้มแจ่มต้องหาเงินไปคืนค่าไก่ชนให้เขาเป็นจำนวนเงินสามหมื่นบาท เขาถึงจะยอมให้อภัยเธอ
ร้านส้มตำเปิดใหม่ด้วยเงินของพ่อ ส้มแจ่มกวาดสายตามองร้านในฝัน ภายในร้านมีแค่สามโต๊ะเท่านั้น ใช้แรงงานพ่อสร้างขึ้นมาล้วน ๆ ส่วนเพิงหมาแหงนก็ได้พ่อและเพื่อนพ่อมาช่วยสร้าง ให้ค่าแรงเป็นน้ำอัดลมวันละถุง
ครก ตู้ใส่ของ ตู้เย็น ของทั้งหมดนี้ ได้ทุนจากพ่อไม่มีตรงไหนเลยที่ส้มแจ่มจะไม่ยินดีรับไว้
อันที่จริงส้มแจ่มเป็นคนมีฝีมือในการทำอาหารพอตัว ตั้งแต่เด็กเธอชอบวิ่งไปบ้านนั้นทีบ้านโน้นทีเพื่อดูเขาทำอาหาร ครูพักลักจำมาทำอาหารให้พ่อกินตั้งแต่สี่ขวบ นายทองดีผู้รักลูกสาว ต่อให้เห็นกับตาว่าลูกสาวใส่ปลาร้าไปหนึ่งขวดเต็ม ๆ ในหม้ออ่อมไก่ ก็ยังกินอร่อยแล้วไปจบที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่อ
หญิงสาวผู้ไม่รู้ว่าไก่ชนที่เธอเอาไปทำไก่ย่าง มันมีชื่อเสียงดังไกลไปสิบหมู่บ้าน พอทุกคนรู้ข่าวว่ามีคนเอามันไปย่างกิน ก็ถ่อมาหาถึงที่ร้านเพื่อดูหน้าฆาตกร
“เข้ามานั่งด้านในร้านก่อนจ้ะ ใครกินอะไรสั่งเลยนะ อาหารร้านนี้ราคาดีมาก พกแบงก์แดงมาใบเดียวเตรียมลูบพุงกลับบ้านได้เลย”
เห็นคนขี่รถพ่วงข้างมาจอดหน้าร้าน ส้มแจ่มก็รีบโบกมือเรียกลูกค้าเข้ามานั่งด้านใน คนหมู่บ้านอื่นจากที่ตั้งใจแค่มาดูหน้าคนเฉย ๆ ก็ถูกความช่างพูดของส้มแจ่มชักชวนเข้าร้าน รู้ตัวอีกทีอาหารก็มาวางอยู่ตรงหน้าแล้ว
“กินให้อร่อยนะลุง ส่วนไก่ชนตัวนั้นมันยังไม่ตายหรอก อยู่บ้านนั่นแหละ ตัวที่ถูกเอาไปเชือดกินเป็นไก่เลี้ยง หนูแค่แกล้งพ่อเล่นเฉย ๆ ถึงยังไงมันก็ไม่ได้ออกโรงแล้ว บาปหนักอยู่นะเอาไก่ไปสู้กันจนตัวตายน่ะ สู้เลี้ยงให้ดีล้างบาปไม่ดีกว่าเหรอ หนูพูดตรงนี้เลยนะลุง ต่อจากนี้จะไม่มีใครได้เห็นไก่ชนของพ่อหนูลงสนามอีกแล้ว”
ส้มแจ่มสงสารไก่ชนที่ตายไปก่อนหน้า เธอเลี้ยงพวกมันอย่างดี ขุดหาไส้เดือนให้มันกิน พอเห็นพ่อเอาไปชนแล้วเก็บซากของมันกลับมาต้มกินก็เสียใจไม่ยอมพูดกับพ่ออยู่นาน
นายทองดีเห็นลูกสาวหงอย ๆ ก็ใจอ่อนรับปากว่าจะไม่ทำอีก แต่ก็แอบเอาไก่ไปตีบ้างนาน ๆ ครั้ง จนส้มแจ่มวางแผนหลอกเชือดไก่ไถเงินมาสร้างร้าน และเพิ่งเฉลยเมื่อเช้านี้เองว่ามันยังอยู่
ถนนทั้งเส้นมีร้านส้มตำโผล่มาอยู่ร้านเดียว ใครต้องการไปจังหวัดข้างเคียง หากหิวก็หยุดพักรถที่ร้านของส้มแจ่มได้ เปิดร้านได้แค่เจ็ดวันลูกค้าก็เข้าไม่หยุด จนนายทองดีต้องผันตัวมาช่วยลูกสาวขายของอีกแรง กลายเป็นมือฉมังด้านย่างไก่อยู่ข้างร้านไปแล้ว
“ส้มตำอร่อย ๆ จ้า”
ระหว่างมือกำลังตำส้มตำเป็นระวิง ส้มแจ่มก็ชอบชวนลูกค้าคุยไปเรื่อย บางครั้งก็แซวลูกค้าหน้าตาดีที่เดินผ่านร้าน จนถูกมะเหงกพ่ออยู่บ่อย ๆ
แต่ว่าไม่ได้เพราะร้านเธอคนเข้าเยอะ ด้วยราคาอาหารแต่ละอย่างถูกมาก ส้มตำไทยยี่สิบห้าบาท ถ้าครกไหนใส่เครื่องเยอะแบบพวกตำป่าก็สามสิบบาท ไก่ย่างตัวละสี่สิบ อาหารราคาถูกรสชาติดี ลูกค้ารีวิวลงเพจเยอะจนคนเริ่มตามมาเรื่อย ๆ จนเพื่อนของส้มแจ่มที่ไปเรียนอยู่ที่มหา’ลัยกรุงเทพ ถึงขั้นตีรถกลับมาหา เพื่อถ่ายคอนเทนต์ลงช่องป๊อกป๊อกจนยอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้น
“ส้มแจ่มเป็นไงมาไงเนี่ย ทำไมถึงได้ดังขนาดนี้วะ ไม่น่าเชื่อว่าหน้าตาบ้าน ๆ อย่างแก คนเขาจะรู้จักกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองแบบนี้”
เสียงทักทายของเพื่อนที่เคยสนิทดังอยู่หน้าร้าน ส้มแจ่มเงยหน้าดูแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าตำส้มตำปูปลาร้าเตรียมจัดขึ้นโต๊ะให้ลูกค้าต่อ เพราะไม่อยากสนใจพวกคนปากเสียมากนัก
“ฟ้าพูดอะไรของแก ฉันก็ไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้นหรอก ที่ลูกค้าเต็มร้านก็เพราะว่าฝีมือฉันดี แล้วนี่กลับมาเยี่ยมแม่เหรอ?”
“เปล่า ๆ ว่าจะมาขอถ่ายร้านแกลงช่องป๊อกป๊อกของฉันน่ะ แกรู้ไหมว่าร้านของแกดังมากเลยนะ ฉันเลื่อนไถหน้าฟีดก็เจอแต่หน้าแก เด็กกำพร้าแม่ของเราดังใหญ่แล้ว แม่ที่ตายไปคงจะดีใจแย่”
“เพราะปากแกเสียแบบนี้ไง ส้มแจ่มเลยไม่อยากคบด้วย อย่าคิดว่าพวกฉันไม่รู้นะว่า แกขโมยผลงานส้มแจ่มไปขอทุนเรียนต่อมหา’ลัย ทำเรื่องใหญ่ขนาดนั้นแล้วยังหน้าด้านมาหาส้มแจ่มอีก แกนี่มันหน้าด้านจริง ๆ เลยฟ้า”
หมอกหนาเพื่อนรักเพื่อนตายของส้มแจ่ม ที่ไม่อยากเรียนต่อเหมือนกัน แต่ลงไปหางานทำในตัวเมืองไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านเหมือนเธอ ทุกวันเสาร์มักจะมานอนเล่นกับส้มแจ่มที่บ้านเป็นประจำ จนร้านส้มแจ่มขายดี ถึงได้ชวนมาทำงานด้วยกัน เงินเดือนมากกว่างานในเมืองสองเท่าตัวเลยเชียว
“ช่างเถอะหมอกหนา ถือเสียว่าทำบุญให้เปรตบางตัว ขอเตือนอะไรอย่างหนึ่งนะฟ้า อดีตผ่านไปแล้ว ฉันไม่อยากสนใจอะไรอีก แต่ถ้าแกยังทำตัวต่ำแบบนี้อีก ระวังเจอคนที่เขาเอาจริงนะ แกจะไม่มีที่ยืนอีกเลย”
“นึกถึงหน้าแม่ไว้บ้าง ถึงฉันจะไม่มีแม่ แต่พ่อก็ไม่เคยสอนให้เที่ยวว่าคนอื่นเขาแบบแกนะ ไปเรียนถึงเมืองกรุง แต่นิสัยที่ได้กลับมาแย่จนคนฟังรับไม่ได้ นิสัยแบบแกยังสู้เด็กไม่มีแม่อย่างฉันไม่ได้เลย ละอายใจบ้างนะคนสวย”
ฟ้าใสได้ยินเสียงลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านหัวเราะเยาะ เธออายจนหน้าแดงอยากจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ สุดท้ายทำได้แค่เดินกลับไปที่รถ แล้วขับกลับบ้านไม่อยู่ให้ส้มแจ่มและหมอกหนาด่าว่าเธอไปมากกว่านี้
ส้มแจ่มย้อนนึกถึงอดีต เธอเคยเป็นเพื่อนสนิทกับฟ้าใส แต่อีกฝ่ายเป็นคนปากไม่ดี ชอบเอาเรื่องในบ้านของคนอื่นไปนินทา และสิ่งที่ส้มแจ่มรับไม่ได้เลยก็คือ ฟ้าเอาเรื่องการตายของแม่เธอไปเล่าให้คนอื่นฟัง ทำเหมือนเป็นเรื่องตลก แต่เธอรับไม่ได้เลยขอตัดขาดจากฟ้าใส ไม่อยากคบหากับเพื่อนแบบนี้อีก
ความคิดเห็น