ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท่านพี่เจ้าขา ข้าอยากรวย (จบแล้ว) มีE-BOOK

    ลำดับตอนที่ #18 : กลโกงของฟางเหนียง

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 66


    บทที่ 18 กลโกงของฟางเหนียง

    ตอนนี้ฟางเหนียงเข้ามาอยู่ด้านในมิติแล้ว ลูกน้อยของนางกำลังนอนหลับอยู่ที่กระท่อมตีนเขาที่มีอยู่ก่อนแล้ว

    ด้านในมิติมีเครื่องครัวครบครัน ล้วนแล้วแต่เป็นของที่มาจากโลกอนาคตทั้งสิ้น หญิงสาวตั้งใจใช้พวกมันทำอาหารขาย เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ทำเสร็จแล้วค่อยเอาออกมาอุ่นร้อนบนเตาอั้งโล่ด้านนอก จะได้ไม่เป็นที่สงสัยของชาวบ้าน

    ที่ดินบางส่วนถูกไถปรับหน้าดินเรียบร้อยแล้ว จากที่ตอนแรกจะเริ่มปลูกตั้งแต่เพาะเมล็ด แต่พอมาคิดดูดี ๆ แล้ว เอาเป็นต้นมาปลูกเลยคงดีกว่าจะได้เก็บเกี่ยวเร็วขึ้น

    จะหาว่าข้าโกงไม่ได้นะระบบ เพราะข้าต้องรีบใช้เงินน่ะสิ

    “เสี่ยวไป่ ช่วยหาซื้อต้นส้มที่พร้อมเก็บเกี่ยวในอีกเจ็ดวันข้างหน้า มาให้สักห้าสิบต้นได้หรือไม่ ขอต้นเชอร์รี ต้นองุ่นไร้เมล็ดด้วย ข้าขออย่างละห้าสิบต้น”

    [ได้เจ้าค่ะ แต่ข้าน้อยขอเวลาเสาะหาสองวันตามเดิม รายการสั่งซื้อนี้ไม่คิดเงินเจ้าค่ะ]

    “ขอบใจเจ้ามาก”

    “ว่าแต่เสี่ยวไป่ แตงโมยุคนี้เขาเรียกว่าอะไรหรือ?”

    [แจ้งนายหญิง แตงโม คือ ซีกวา, ส้ม คือ เฉิงจื่อ, เชอร์รี คือ อิงเถา และองุ่น คือ ผูเถาเจ้าค่ะ]

    “เรียกยากจังแฮะ”

    [ผลไม้ที่โลกนี้ปลูกยากและหากินยากมากเจ้าค่ะ ผลไม้ที่ขึ้นอยู่ในป่าลึก ส่วนใหญ่จะมีรสชาติเปรี้ยวโดดไม่อร่อย นายหญิงตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกปลูกผลไม้ก่อน มันจะนำเงินมหาศาลมาให้นายหญิงเจ้าค่ะ]

    “ข้าตั้งใจขายหลายราคาให้คนทุกชนชั้นเอื้อมถึง มีเงินแค่ยี่สิบอีแปะก็สามารถมาขอซื้อผลไม้กับข้าได้”

    “ส่วนของที่ขายให้คนมีเงิน คงต้องคัดคุณภาพดี ๆ หน่อย เรียกราคาสูงหลายเท่าให้กลายเป็นสินค้าพิเศษ”

    [ความคิดของนายหญิง เสี่ยวไป่จะช่วยให้มันเกิดขึ้นเอง]

    เอาละ ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว ไปนอนเถอะ ฝันดีนะ”

    ฟางเหนียงยกมือปิดปากหาวหวอด ๆ ไล่ให้เจ้าระบบไปนอนพร้อมตนเอง เพราะนั่งเกวียนมาทั้งวันจนปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด

    สงสัยพรุ่งนี้คงต้องสลับให้เจ้าใหญ่กับเจ้ารองมาเฝ้าด้านนอก ส่วนเจ้าสามกับเจ้าสี่ให้มาอยู่ในมิติแทน จะได้ไม่ต้องทนนั่งเกวียนที่ผจญภัยยิ่งกว่ารถไฟเหาะ

    อ้อ ไม่ต้องมาคอยลุ้นระทึกด้วยว่า ตัวเกวียนจะพังเมื่อไหร่

    อยากให้ถึงเมืองเร็ว ๆ จัง

     

    เช้าวันต่อมา

    ฟางเหนียงนอนหลับเพลิน กว่านางจะตื่นด้านนอกดวงอาทิตย์ก็ขึ้นจนจะตกอีกรอบแล้ว นางนอนนานมากจนลูก ๆ คิดว่ามารดาไหลตายไปแล้ว

    เซี่ยเหิงดูแลน้อง ๆ อยู่ในมิติ สลับกับแวะเวียนเอานิ้วมาอังจมูกมารดาว่านางยังหายใจอยู่หรือไม่

    จะปลุกก็ไม่กล้า เขาอยากให้นางได้พักผ่อนเต็มอิ่ม โชคดีที่คนบังคับเกวียนไม่สงสัยอะไรมากนัก

    ระหว่างที่พักกินข้าวกลางวัน ทุกคนออกไปนอกเกวียนหมด เขาก็อ้างว่าท่านแม่นอนพักอยู่ไม่จำเป็นต้องไปปลุกนาง แต่ก็กันเหนียวด้วยการนำผ้ามากองกันไว้ แล้วคลุมด้วยผ้าห่มให้ดูเหมือนมีคนนอนอยู่จริง ๆ

    พอผ่านไปสามหมู่บ้าน สองข้างทางก็กลายเป็นป่ารก นาน ๆ ทีถึงจะเจอหมู่บ้านให้แวะเวียนเข้าไปพัก บางวันต้องหาที่นอนกลางป่าอย่างเลี่ยงไม่ได้

    บางวันคนบังคับเกวียนยังนึกอิจฉา ที่แม่ลูกบ้านนี้มีเนื้อให้กินทุกมื้อ แม้แต่ตอนเข้าป่าไปปลดทุกข์ นางยังโชคดีได้ไก่มาหนึ่งตัวอีก

    เป็นเขาที่เริ่มอับอายเสียเอง เมื่อต้องมาอาศัยข้าวนางกิน เขาเคยหลงเชื่อข่าวลืออันฉาวโฉ่ของนาง จนนึกอคติไปเองแม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม

     ที่ผ่านมาเขาทำงานอยู่ในเมืองหลวง เคยเป็นคนงานก่อสร้างอยู่ที่นั่น แต่เพราะเกิดอุบัติเหตุจึงทำให้ขาเป๋ข้างหนึ่ง ซ้ำยังถูกนายจ้างไล่ออกพร้อมกับเงินก้อนหนึ่ง

    เขาถึงได้ตัดสินใจกลับมายังบ้านเกิด และนำเงินก้อนนั้นมาซื้อเกวียนเทียมวัวรับจ้างไปทั่ว

    ฟางเหนียงที่กำลังตักต้มไก่แบ่งให้ลูก ๆ รู้สึกตัวว่าถูกคนจ้องมอง แม้จะไม่สนใจใครอยากมองก็มองไป แต่ก็มีแอบระแวงอยู่บ้าง

    ข้ามีบุตรชายที่แข็งแรงถึงสองคน หากมีคนคิดไม่ดีกับข้า แน่นอนว่านางจะร้องให้เสียงดังที่สุด แล้วรอให้พวกเขาจับคนร้ายเอาไว้ จากนั้นก็จะกระโดดทับโจรให้แบนเลย!

    เดินทางมาจนเข้าวันที่สาม ครั้งนี้ไม่มีหยุดพักระหว่างทางอีกแล้ว

    ฟางเหนียงอัดหญ้าที่พรมด้วยน้ำวิเศษให้เจ้าวัวกินกระบุงใหญ่ ก่อนจะให้ซีซวนสื่อสารกับมันว่า ถ้าถึงเมืองก่อนเที่ยง จะให้กินน้ำวิเศษอีกหนึ่งถ้วยใหญ่เป็นการตอบแทน

    วัวแก่กลับมาหนุ่มอีกครั้ง ออกแรงวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ทุกคนเข้าไปหลบอยู่ด้านในมิติหมด เหลือแต่คนบังคับเกวียนที่หาที่เกาะไม่ให้ตกลงไป เขาหลับตาปี๋ไม่มีเวลามาสนใจว่า คนด้านหลังจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร นาทีนี้เขาต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน!

    ตัดภาพมาที่แม่ลูกสี่ในมิติ นางกำลังนั่งล้อมวงทดลองปั้นขนมไข่เต่าของโปรดอยู่ แน่นอนว่าอยู่กลางป่ากลางเขาเช่นนี้ จะหาซื้อของจากที่ไหนได้อีก ถ้าไม่ใช่ซื้อวัตถุดิบทั้งหมดกับเสี่ยวไป่

    ดีนะที่ข้ามีระบบร้านค้าติดตัว ราคาไม่ถูกแต่ก็พอแก้ขัดกันได้

    “ท่านแม่เคยทำขนมไข่เต่าหรือขอรับ”

    “เคยกินอย่างเดียว แต่ไม่เคยทำน่ะสิ”

    หญิงสาวตอบเสียงเรียบ แล้วหันไปหยิบแผ่นกระดาษ ที่เบิกมาจากเสี่ยวไป่มาดูสูตรอีกครั้ง ก็เห็นว่าขั้นตอนอื่นมันง่าย

    แต่ขั้นตอนทอดนั้นยากสะบัด...

    จะทอดอย่างไรให้ด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่มหนึบ ซ้ำยังต้องคอยคำนึงว่ารสชาติต้องอร่อย แป้งต้องพองตัวไม่ยุบอีก

    อ้อ แต่ยังโชคดีที่มีผงฟูช่วยให้ขนมกรอบฟูนาน

    ตงหยางน้อยก็มีส่วนช่วยด้วย เขามีหน้าที่เรียงแป้งที่ปั้นไว้ให้เป็นระเบียบ เจ้าตัวน้อยตั้งใจมาก เวลาที่พี่ ๆ วางแป้งผิดจุด เด็กชายก็จะเงยหน้าขึ้นจ้องมอง ก่อนจะหยิบแป้งไปเรียงต่อแถวตามลำดับ

    เอาละ แม่จะเอาถาดนี้ไปทอดก่อน พวกเจ้าก็ปั้นไปพลาง ๆ ถ้าโชคดีทำสำเร็จ ไม่แน่วันนี้เราจะได้เริ่มขายกันเลย”

    ฟางเหนียงถือถาดที่พร้อมลงทอดแล้ว เดินหายกลับเข้าครัวไป นางกด ๆ คลึง ๆ ตามคำแนะนำ คอยลุ้นว่าทุกอย่างจะออกมาดีหรือไม่

    ตอนอยู่ในกระทะต่อให้ออกแรงกดอย่างไร มันก็กลับมาพองสวยตามเดิม หลังจากทอดจนแป้งลอย ก็ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน รอให้หายร้อนสักนิด จะเห็นว่ามันยังพองตัวสวยอยู่

    ใบหน้าอวบอ้วนปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจกับผลงานของตัวเอง

    “ข้ามีของขายแล้ววันนี้”

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×