ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่ครั้งนี้ขอให้ร่ำรวยเงินทอง (จบแล้ว) มีE-BOOK

    ลำดับตอนที่ #15 : หาเงินเข้าบ้าน

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 66


    บทที่ 11 หาเงินเข้าบ้าน

    ก่อนไปตลาดต้องแวะบ้านใหญ่ก่อน ชายชรานั่งรอบุตรสาวตั้งแต่เช้ามืดจนตอนนี้บ่ายแก่แล้วนางยังมาไม่ถึงเสียที ไหนว่าจะเอาอาหารมาให้ตอนเช้า เขารอกินจนข้าวหมดไปสามหม้อบุตรสาวก็ยังมาไม่ถึงอีก

    “ท่านพ่อข้ามาแล้วเจ้าค่ะ”

    เหลียนฮวาตะโกนมาแต่ไกล นางหยิบอาหารมาหนึ่งกระบอก แล้วกระโดดเข้าไปในบ้านก็เห็นบิดานั่งรออยู่ ส่วนพี่ชายยังไม่กลับสงสัยคงนั่งเล่นไส้เดือนอยู่ที่สวน

    “อาหารแสนอร่อยจากข้ามาส่งแล้ว”

    “เหอะ กว่าจะมาได้” ชายชราทำหน้าตึงแสดงท่าทางให้เห็นว่ากำลังน้อยใจอยู่

    เหลียนฮวายิ้มกว้างวิ่งเข้าไปตักข้าวในครัว แล้วยัดชามข้าวใส่มือบิดาจัดการเทลาบปลาทอดร้อน ๆ โปะลงบนข้าว เนื้อปลายังกรอบอยู่เลย เมื่อเห็นบุตรสาวบริการดีเช่นนี้ชายชราจึงหายโกรธทันที

    “แน่ใจหรือว่านี่ไม่ใช่ยาพิษ” สีเข้ม ๆ ของเครื่องปรุงทำชายชรารู้สึกลังเลไม่น้อย

    “ท่านพ่อลองกินดูก่อนค่อยวิจารณ์เจ้าค่ะ”

    หญิงสาวยัดเยียดให้บิดาลองกิน แล้วนั่งลุ้นอยู่ข้าง ๆ พลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้รอคำชมอย่างใกล้ชิดจนถูกดันออกห่าง ชายชราตักข้าวคำโตเลือกกินปลาชิ้นเล็ก ๆ ดูก่อน เผื่อเกิดอะไรขึ้นอาการจะได้ไม่หนักมาก

    “รสชาติใช้ได้” บิดาว่าพลางค่อย ๆ เคี้ยว อาหารจานนี้รสชาติจัดจ้านชนิดที่ว่าเผ็ดถึงพริกถึงขิง แม้เขาจะชอบมากแต่กลับไม่พูดชมตรง ๆ เพราะกลัวบุตรสาวจะมั่นใจเกินไป นางยังมีเรื่องให้ต้องเรียนรู้อีกมาก

    “ท่านกินได้ก็ดีแล้ว เช่นนั้นข้าไปตลาดก่อนนะเจ้าคะ ท่านพ่อท่านอยากไปด้วยกันหรือไม่ อยู่บ้านคนเดียวหากเกิดล้มหัวฟาดพื้นขึ้นมาจะทำอย่างไร ไม่สู้ไปด้วยกันกับข้าดีกว่า”

    “เจ้าเป็นห่วงหรือกำลังสาปแช่งข้ากันแน่เจ้าลูกคนนี้!”

    เหลียนฮวาเอี้ยวตัวหลบฝ่ามือพิฆาตได้ทันเวลา นางปิดฝากระบอกไม้ไผ่เอาไปตั้งในครัวเก็บไว้ให้พี่ชายกิน ส่วนของบิดากินชิ้นเดียวพอ เพราะอายุเยอะแล้วกินอาหารรสจัดมากจะไม่ดี

    ต่อจากบ้านใหญ่ของบิดาก็ต้องแวะไปหาพี่ชายคนโตด้วย ทว่ายามนี้บ้านกลับปิดเงียบ...

    หยางเหลินเข้าป่าไปล่าสัตว์ อีกสองสามวันถึงจะกลับ นางจึงเก็บส่วนของพี่ชายเอาไว้ให้ลูกค้าชิมแทน ไว้เขากลับมาค่อยทำให้กินใหม่

    “พี่สามข้าเอากับข้าวมาฝาก ส่วนของท่านรสจัดนักตักกินน้อย ๆ ก็พอ ส่วนของหลานรักอาเล็กก็มีให้ สูตรของเด็กน้อยกินให้อร่อยเล่า”

    จุดหมายสุดท้ายคือร้านไม้ของพี่สามห่าวซวน เขามีสีหน้าลังเลเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในกระบอกไม้ไผ่น้องสาวเป็นคนทำ นางเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน ถึงได้กล้าทำอาหารขายด้วยฝีมือชวนตายแบบนั้น

    ชายหนุ่มสายตาใส่บิดาที่ตามมาด้วยว่า ไม่มีใครคิดห้ามนางหน่อยหรือ ทุกคนก็รู้ดีว่าน้องสาวทำอาหารได้แย่เพียงใด ถึงบ้านเราจะมีเงินมาก แต่ก็ไม่ควรเอาออกมาใช้จ่ายเป็นค่าทำขวัญให้มันสิ้นเปลืองไม่ใช่หรือ

    “ทำหน้าเช่นนั้นหมายความว่าอย่างไร ข้าทำอร่อยนะเจ้าคะ ทั้งท่านพ่อและสามีข้าทดลองกินดูแล้วยังปกติดี หากท่านไม่กินก็เอาคืนมา ของในมือท่านขายได้ตั้งสี่สิบอีแปะเชียวนะ”

    “เพ่ย! เจ้าเด็กคนนี้มีอย่างที่ไหนให้แล้วมาขอคืน”

    ห่าวซวนจับกระบอกไม้ไผ่ไว้แน่น! นี่คือของที่น้องสาวมอบให้ในรอบหลายปี ต่อให้เป็นยาพิษเขาก็ยังจะกินอยู่ดี!

    เหลียนฮวาทำหน้าเบื่อโลก แล้วบอกลาพี่ชายก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปตลาดไม่แวะที่ใดอีก ส่วนพี่น้องอีกสามคนที่อาศัยอยู่ในเมือง ไว้พวกเขากลับมาข้าค่อยทำให้กินภายหลังก็ยังไม่สาย

    ทว่าเด็กแฝดกลับขอตามอาเล็กไปเที่ยวเล่นที่ตลาดด้วย ห่าวซวนยังมีงานต้องทำเขารีบฝากลูก ๆ ไว้กับน้องเขยทันที สมาชิกในขบวนวันนี้จึงเพิ่มขึ้น กว่าจะเดินไปถึงตลาดที่ดี ๆ ก็ถูกจับจองหมดแล้ว

    เหลียนฮวาได้ที่ขายของอยู่ด้านในสุดตรงมุมอับข้าง ๆ ร้านขายขนมแป้งทอด ชายชราควักเงินซื้อให้หลานชายคนละชิ้น ทั้งบุตรสาวยังร้องอยากกินด้วยจนได้มาแบ่งกินกับสามีคนละครึ่ง

    “ขี้งก!”

    คนตัวเล็กน้อยใจบิดาที่รักหลานมากกว่า เด็กตัวเล็กนิดเดียวได้กินตั้งคนละชิ้น ส่วนนางได้มาชิ้นเดียวซ้ำยังต้องแบ่งกินกับสามีอีก ความน้อยใจปะทุขึ้นมาจนเกิดอาการงอน

    “ภรรยาไม่เป็นไร ข้าไม่กิน เจ้ากินเถอะ”

    มู่เฉินยื่นส่วนของตัวเองคืนให้ภรรยาแต่นางไม่รับคืน กลิ่นหอมเช่นนี้จะไม่อยากกินได้อย่างไร ดูก็รู้ว่าเขายอมเป็นฝ่ายอดเพื่อให้ภรรยาตัวน้อยอิ่มท้อง

    “เจ้าอย่าตามใจนางนักเลย นางอ้วนขึ้นเช่นนี้เจ้าสิต้องกินเยอะ ๆ มา ๆ ข้าซื้อให้เจ้าเพิ่มเองลูกเขย อยากกินกี่ชิ้นข้าจะจ่ายให้เอง!”

    ผู้เฒ่าหยางบอกกับลูกเขยให้กินอีกเยอะ ๆ ร่างกายจะได้แข็งแรง ดูท่าแล้วเขาคงรักลูกเขยมากกว่าบุตรสาวในไส้เสียอีก

    เหลียนฮวาเหล่ตามองบิดา แล้วหันมาจัดร้านเตรียมขายของ นางพกโต๊ะมาเองจากบ้านหยิบกระบอกไม้ไผ่มาตั้งเรียงกันในตะกร้า ป้องกันไม่ให้อาหารล้มจนเสียหาย ส่วนกระบอกไม้ไผ่ที่แบ่งไว้ให้ชิม ก็เทลงบนจานตักแบ่งเป็นชิ้นพอดีคำให้สามีถือไว้

    “อะแฮ่ม เร่เข้ามาเจ้าค่า~ เข้ามาดูด้านในก่อน ร้านของข้ามีอาหารรสเด็ดมาขาย รสชาติไม่เหมือนใคร แต่กินแล้วติดใจแน่นอน!”

    “ลาบปลาทอด ปลาตัวใหญ่จับมาสด ๆ จากแม่น้ำ ทุกคนคงรู้ดีว่าพวกมันว่ายเร็วเพียงใด เจ้าปลานี่เนื้อแน่นยิ่งนัก นำมาทอดกรอบปรุงรสอย่างดี ข้าขายชุดละยี่สิบอีแปะอิ่มท้องได้ทั้งครอบครัว”

    “โธ่ อย่าเพิ่งไปสิเจ้าคะ เข้ามาชิมดูก่อนได้ ไม่อร่อย ไม่ถูกใจ ไม่ต้องซื้อ ร้านข้าไม่บังคับขาย หยิบชิมก่อนได้คนละชิ้นเจ้าค่ะ”

    เหลียนฮวาตะโกนโบกมือเรียกลูกค้า ที่ยืนเลือกซื้อของอยู่หน้าตลาดให้เข้ามาด้านใน ชาวบ้านแปลกใจว่า เหตุใดสตรีที่ถูกลือว่าเป็นสตรีจอมเกียจคร้านถึงมาขายของอยู่ในตลาดได้

    แต่เหลียนฮวาต้องขอบคุณเหล่าแม่บ้านว่างงานพวกนั้น เพราะสิ่งที่พวกนางลือกันทำให้มีลูกค้าเดินเข้ามาหาตามเสียงเรียกไม่ขาดสาย

    “กินได้จริงหรือ?” บุรุษผู้หนึ่งอุ้มบุตรสาวมาหยุดอยู่ตรงหน้ามู่เฉิน ที่ยืนถือจานใส่ลาบปลาทอด เขาเห็นสีของมันแล้วไม่ค่อยกล้ากินเท่าไหร่

    “กินได้ขอรับ ภรรยาข้านางทำอาหารอร่อย”

    มู่เฉินไม่ลืมอวยภรรยา เขายื่นจานพร้อมไม้แหลมให้ลูกค้าลองชิมดู พ่อบ้านที่มาเดินตลาดกับบุตรสาวได้กลิ่นหอม ๆ ก็ทำใจกล้าลองชิมหนึ่งชิ้น ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ที่รอคอยคำตอบของเขาอยู่

    “หืม~ รสชาติเข้มข้นนัก เป็นรสชาติที่บอกไม่ถูกแต่ข้าชอบ กินกับข้าวร้อน ๆ คงอร่อยน่าดูแม่นางขายอย่างไรหรือ?”

    “กระบอกละยี่สิบอีแปะเท่านั้น หนึ่งชุดข้าให้ผักลวกเพิ่มอีกไม่คิดเงินเพิ่มเจ้าค่ะ พี่ชายท่านรับกี่ชุดดีเจ้าคะ?”

    “ราคาสูงไม่น้อยแต่ข้าเข้าใจ เจ้าคงใช้เครื่องปรุงปริมาณมากกว่าจะทำให้รสเลิศได้ เนื้อสัมผัสด้านนอกกรอบใช้น้ำมันทอดด้วยใช่หรือไม่”

    “เจ้าค่ะ ข้ายังกลัวอยู่เลยว่าจะไม่มีคนซื้อเพราะตั้งราคาสูง”

    “เหตุใดจะไม่มีคนซื้อเล่า อย่างน้อยก็มีข้าคนหนึ่ง ข้าเอาสามชุด”

    “ได้เลยเจ้าค่ะ”

    เหลียนฮวารีบจัดของใส่ตะกร้า ที่ลูกค้าถือมาด้วยความรวดเร็ว พ่อบ้านอุ้มลูกมาจ่ายตลาดเองเช่นนี้เป็นภาพที่น่ารักไม่น้อย

    “หกสิบอีแปะเจ้าค่ะ แต่ข้าลดให้คิดห้าสิบห้าอีแปะพอ”

    นางใจดีแต่พ่อบ้านบอกว่าไม่ต้องลดให้ จ่ายราคานี้เขารู้สึกคุ้มค่าแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาทำอาหาร กินเองจ่ายเงินแค่หกสิบอีแปะ ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งร่วงหรอก

    ลูกค้าคนแรกยื่นพวงอีแปะให้แม่ค้าสาวนับ นางก็รับมานับต่อหน้าเขาไม่มีการคดโกงแล้วยื่นส่วนที่เหลือคืน

    “ขอบคุณที่อุดหนุนนะเจ้าคะ พรุ่งนี้มีไก่เสียบไม้ทอดเป็นอาหารกินเล่น หรือจะนำไปกินกับข้าวร้อน ๆ ก็ได้ ข้าขายสองรสชาติ มีทั้งรสผงกะหรี่และรสธรรมดา เด็ก ๆ กินได้เจ้าค่ะ อย่าลืมมาอุดหนุนใหม่นะเจ้าคะ”

    เหลียนฮวาไม่ลืมป้ายยาอีกรอบ จู่ ๆ นางก็คิดรายการอาหารที่จะทำขายในวันพรุ่งนี้ได้อีกหนึ่งอย่าง คือข้าวเหนียวไก่เสียบไม้ทอดเหมือนที่เคยกินสมัยเรียน ทุกครั้งที่ซื้อไม่เคยหยุดแค่หนึ่งไม้กินเพิ่มได้เรื่อย ๆ รับรองว่าพรุ่งนี้กำไรอู้ฟู่แน่นอน!

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×