คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ห่าวซวน
บทที่ 9 ห่าวซวน
กว่าเหลียนฮวาจะฟื้นตัวเวลาล่วงเลยเข้าเที่ยงวันแล้ว อย่างไรวันนี้นางก็อยากขายอาหารหาเงินอยู่ดี ร่างกายรู้สึกดีขึ้นมากอาจเป็นเพราะนางแข็งแรงกว่าสตรีทั่วไปร่างกายจึงฟื้นตัวได้เร็ว
มู่เฉินตื่นแต่เช้ามืดเหมือนทุกวัน เขาลุกขึ้นมาทำงานบ้าน ทำงานที่ค้างไว้เมื่อวานจนแล้วเสร็จ ถึงได้บากหน้าไปโรงหมอเพื่อขอยามาทาให้ภรรยา ให้คำมั่นว่าหากมีเงินแล้วจะรีบไปจ่ายคืนให้ภายหลัง
บ้านหลังเล็กถึงแม้จะคับแคบไปบ้างแต่อยู่แล้วอบอุ่นดี หญิงสาวนั่งซดน้ำแกงปลาอันแสนจืดชืดอย่างเอร็ดอร่อย เพราะสามีเป็นคนทำให้ นางเป็นคนชอบกินอาหารรสจัดจ้าน แม้แต่ย่างเนื้อยังต้องโรยเกลือกับผงพริกเป็นกำมือทุกครั้ง
“ท่านพี่บ้านเราไม่มีรถไว้เข็นของขาย หลังกินข้าวเสร็จข้าจะแวะไปหาพี่สามสักหน่อย จะได้ซื้อของกลับมาทำอาหารด้วย”
“ภรรยาร่างกายเจ้าดีขึ้นแล้วหรือ ข้าไปคนเดียวก็ได้”
ชายหนุ่มเป็นห่วงภรรยา เพราะเห็นนางดูเพลียไม่น้อย
“ออกแรงสักหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ท่านจะไปด้วยก็ได้ ข้าจะนั่งบนรถให้ท่านเป็นคนเข็น เท่านี้ข้าก็ไม่เหนื่อยแล้วดีหรือไม่”
มู่เฉินพยักหน้าเห็นด้วย ต่อให้ไม่มีรถเข็น เขาก็อยากอุ้มนางเดินไปตามสถานที่ที่นางต้องการอย่างไม่รู้สึกเขินอายสักนิด
เหลียนฮวายกน้ำแดงขึ้นซด พลางจ้องหน้าสามีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามไปด้วย ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่ ภายนอกดูท่าทางอ่อนแอ ทว่าเรื่องเมื่อคืนก็พิสูจน์ได้แล้วว่า สามีข้าน่ะแข็งแรงมาก!
เอาเถอะ หากเขาอยากบอกก็คงพูดออกมาเอง อย่าไปเซ้าซี้ดีกว่า ชีวิตคู่ตอนนี้กำลังไปได้ดี
สองสามีภรรยาเดินมาที่ร้านช่างไม้ ซึ่งเป็นร้านของพี่ชายคนที่สามของเหลียนฮวา เขาเคยเปิดร้านอยู่ในตัวเมือง กิจการไปได้ดีแต่สุดท้ายก็มีเหตุให้ต้องหย่าร้างกับภรรยา เขาจึงยกร้านนั้นให้นาง แล้วกลับมาเปิดร้านเล็ก ๆ ในหมู่บ้านเลี้ยงดูบุตรชายฝาแฝดตามลำพัง
“หลานรักของอา พวกเจ้ากำลังเล่นอะไรกันอยู่หรือ?”
เดินมาถึงยังไม่ทันเจอพี่ชาย เหลียนฮวาก็เจอหลานชายที่หน้าตาเหมือนกันทุกระเบียบนิ้ว กำลังนั่งเล่นม้าไม้อยู่หน้าร้านกับสหายของเขา
“ท่านอาเล็ก!” เด็ก ๆ เห็นท่านอาเล็กมาหา ก็รีบวิ่งเข้ามากอดขานางทันทีพลางร้องขอขนม เมื่อก่อนเหลียนฮวามีเงินใช้ไม่ขาดมือ นางมักจะพกลูกกวาดไว้ในกระเป๋ากางเกงไว้แจกหลาน ๆ
“พี่ใหญ่ วันนี้ท่านอาเล็กใส่กระโปรง ดูแปลกตาจริง ๆ”
ใช่แล้ว ตั้งแต่เด็กจนโตเหลียนฮวาไม่เคยใส่ชุดกระโปรงสักครั้ง นางชอบใส่เสื้อผ้าเหมือนบุรุษ จนถูกคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน จึงมักเข้ามากอดคอชวนดื่มอยู่บ่อย ๆ แต่นางก็ไม่ถือตัวกลับตามน้ำไป คิดในใจว่าการเป็นบุรุษนั้นช่างมีอิสระมากกว่าสตรีเสียจริง
ทว่าก่อนแต่งงานบิดาได้ยึดเสื้อผ้าตัวเดิมทั้งหมดของบุตรสาวไปทิ้ง แล้วควักเงินก้อนใหญ่ซื้อชุดกระโปรงเป็นสินเดิมให้นางไปหลายหีบ เหลียนฮวาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใส่ในสิ่งที่มีไปก่อน
“เด็ก ๆ ขอโทษนะ วันนี้อาเล็กไม่ได้พกขนมติดตัวมา ไว้พรุ่งนี้อาเล็กจะเอามาฝากนะ แล้วนี่ท่านพ่อของพวกเจ้าอยู่ไหนเล่า?”
“ท่านพ่อนอนหลับอยู่ในร้านขอรับ”
“เข้าใจแล้ว พวกเจ้าเล่นกันต่อเถอะ อาเล็กไม่กวนแล้ว”
เด็ก ๆ ปล่อยมือจากขาอาเล็กแล้วกลับไปเล่นต่อ เหลียนฮวาเดินเข้าไปในร้านก็เห็นพี่ชายนั่งหลับอยู่ที่เก้าอี้โยก สภาพเขายามนี้ดูไม่เหมือนพ่อคน แต่กลับเลี้ยงดูบุตรชายทั้งสองได้เป็นอย่างดี
“พี่สามสภาพเหมือนขอทานนี่มันอะไรกัน! ผมเผ้าชี้ฟูไม่คิดจะมัดหน่อยหรือ หนวดเคราก็ไม่ยอมโกน เสื้อผ้าอะไรจะขาดได้ถึงเพียงนั้น โธ่ เสื้อผ้าดี ๆ มีไม่ใส่ ช่วงนี้กิจการไม่ดีถึงขั้นเอาของในบ้านไปขายหาเงินมาใช้จ่ายหรือ ถึงได้อยู่ในสภาพน่าอนาถเช่นนี้!”
ห่าวซวนแค่พักสายตาไม่ได้นอนหลับ เพราะต้องคอยระวังความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ที่เล่นอยู่หน้าร้าน บุรุษวัยยี่สิบห้าปีลืมตาขึ้นข้างหนึ่งมองน้องสาว เขามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เจ้าเป็นใคร? น้องสาวข้าไม่งดงามเช่นนี้หรอก อย่างนางเหมือนบุรุษเสเพลมากกว่า ผมก็มัดลวก ๆ หาความเป็นสตรีไม่ได้สักนิด นางไม่มีวันถักเปียสองข้างเช่นนี้แน่ น้องสาวข้าน่ะถึงขั้นเคยป่าวประกาศเอาไว้ หากนางใส่กระโปรงเมื่อไหร่ขอยอมตายยังดีกว่า น้องเขยนี่เจ้ามีชู้หรือ?”
พี่สามของเหลียนฮวาวิจารณ์กลับอย่างเจ็บแสบ เขาขายอดีตของน้องสาวต่อหน้าน้องเขยไม่ยั้งปาก แต่คนเป็นน้องก็ไม่นึกโกรธ ปกติที่บ้านมีคนปากหวานเสียเมื่อไหร่กัน
“พี่สามข้าจะทำอาหารขาย วันนี้ขอยืมรถเข็นของท่านได้หรือไม่ แต่ว่าขอยืมแบบไม่คืนและไม่มีเงินจ่ายนะเจ้าคะ”
ห่าวซวนเห็นท่าทางมั่นใจของน้องสาวแล้วถึงกับพูดไม่ออก แต่ก็ใจใหญ่บอกให้นางเลือกรถเข็นเองได้เลย รถเข็นสำหรับคนในหมู่บ้านล้วนเป็นที่ต้องการมาก ชาวบ้านนิยมนำไปใช้เข็นลากผลไม้ในไร่ ชายหนุ่มจึงทำไว้มากหน่อย แล้วนำไปจอดเรียงอยู่หลังร้าน
เหลียนฮวาไม่เกรงใจ นางเดินผ่านพี่ชายไปเลือกรถเข็นคันใหญ่สุดแล้วเตรียมบอกลา เพราะต้องรีบกลับไปทำอาหาร ของก็ยังไม่ซื้อกลัวว่าจะทำไม่ทัน
“น้องเล็ก...เครื่องเรือนไม้สินเดิมที่ท่านพ่อเตรียมไว้ให้ยังอยู่ที่ห้องเก็บของ หากว่างก็พาสามีเจ้ามาขนไปเสียมันรกร้านข้า”
“หือ นอกจากชุดกระโปรงแล้ว ท่านพ่อไม่เห็นบอกข้าว่ามีอย่างอื่นด้วย?”
“แล้วใครใช้ให้เจ้าดื้อรั้นไม่เชื่อฟังกันเล่า ที่จริงแล้วท่านพ่อเตรียมสินเดิมไว้ให้ทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องเรือนยันของใช้ในครัว ที่ดินรกร้างรอบบ้านเจ้า ท่านพ่อก็กว้านซื้อไว้ให้หมดแล้ว”
ห่าวซวนลุกขึ้นพาน้องสาวไปดูที่ห้องเก็บของ ก็เห็นว่ามีเครื่องเรือนทุกอย่างที่ทำมาจากไม้เนื้อดีวางอยู่ ชุดหนึ่งคงขายได้สักสองถึงสามพันตำลึงทองราคาไม่ใช่ถูก ๆ
เหลียนฮวาตาลุกวาว แต่ก็ออกปากขอฝากพี่ชายไว้ก่อน เพราะบ้านของนางหลังเล็กเกินไป หากให้เอาของกลับไปตอนนี้ คนคงได้ขึ้นไปนอนบนหลังคาแน่
“พี่สามก็รู้ว่าน้องสาวท่านยากจน ข้าไม่ได้เข้าป่าล่าสัตว์ตั้งสองเดือนเงินติดตัวก็ไม่มี เช่นนั้นคงต้องขอกันอย่างหน้าด้าน ๆ แล้ว พี่สามเจ้าขาท่านช่วยสร้างบ้านให้ข้าใหม่ได้หรือไม่”
“อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันรวมตัวแล้ว ถึงวันนั้นพี่ชายที่ข้ารักทุกคนต้องช่วยกันสร้างบ้านให้ข้า ถือเป็นคำขอของน้องสาวผู้น่ารักคนนี้ก็ได้”
“ระหว่างนี้พี่สามช่วยเตรียมไม้ไว้สร้างบ้านให้ข้าที จะไม้อะไรก็ได้เจ้าค่ะข้าขอหลังไม่ใหญ่มาก มีแค่ห้องโถง ห้องนอนสักสามห้อง ห้องเก็บของ ห้องเก็บฟืนและห้องครัวสร้างแยกจากตัวบ้าน อ้อ พี่สามที่สำคัญข้าขอห้องอาบน้ำด้วยเจ้าค่ะ”
“เหอะ ๆ ไม่เกรงใจจริงด้วย ได้! ข้ารับคำขอ ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานที่ยังไม่ได้ให้ก็แล้วกัน หึ สีหน้าดูดีขึ้นเชียวน้องสาวข้า”
ชายหนุ่มลูบหัวน้องสาวด้วยความเอ็นดู นางหัวเราะเบา ๆ อย่างเขินอายแล้วรีบขอตัวไปซื้อของต่อทันที กลัวว่าถ้าอยู่นานกว่านี้น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้มันจะไหลออกมาเสียก่อน
ความคิดเห็น