คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ขอยืมเงินบิดา
บทที่ 7 ขอยืมเงินบิดา
อากาศเริ่มเย็นแล้ว มู่เฉินกลัวภรรยาจะป่วยจึงบอกให้นางรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า คนตัวเล็กยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ชวนสามีเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกัน
“ท่านพี่เราเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกันดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าว่าจะได้ไม่เสียเวลา...”
“ไม่ดี...”
มู่เฉินมีเสื้อผ้าแค่สองชุด เขารีบเปลี่ยนใส่ชุดใหม่ก่อนจะรีบหนีออกจากห้อง เอาชุดใหม่ไปวางไว้ข้างโอ่งเตรียมซักพร้อมเสื้อผ้าภรรยา
เหลียนฮวาเพิ่งจับเชือกเตรียมกระตุกถอดเสื้อ ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยสามีก็เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว หญิงสาวได้แต่ยืนทำหน้าเหวอ มองไปทางประตูก็เห็นหลังเขาไว ๆ
นี่เขากลัวข้าจับกินถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ถึงได้รีบหนีไปเช่นนั้น?
เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างก็มานั่งเตรียมการ ทว่าที่บ้านไม่มีเครื่องปรุงสำหรับใช้ทำอาหารอยู่เลย เหลียนฮวาจำเป็นต้องขอพึ่งใบบุญของบิดา ด้วยการบากหน้าไปยืมเงินมาตั้งหลักลงทุนก่อน ส่วนเรื่องงอนเขาก็ยังงอนอยู่ จะหายโกรธก็ต่อเมื่อบิดาเอาที่ดินมาแลก!
คนตัวเล็กแต่นมไม่เล็ก สั่งให้สามีขอดเกล็ดปลาและกำจัดไส้ปลาอยู่ที่บ้าน ส่วนนางเดินเท้าไปยังบ้านตระกูลหยาง เพื่อขอยืมเงินบิดาไปซื้อเครื่องปรุงมาทำอาหารขาย นางทำใจไว้แล้วว่าต้องถูกตาแก่พูดเหน็บแนมแน่ แต่เพื่อปากท้องของครอบครัวต่อให้โดนดูถูกก็ต้องยอม
บ้านตระกูลหยางไม่ได้ใหญ่โตขนาดจะเรียกว่าจวน เพียงแต่มีรั้วอิฐรอบบ้านบ่งบอกว่าใช้เงินสร้างไปไม่น้อย พี่ชายคนอื่นแยกไปสร้างบ้านกันเองที่บริเวณใกล้กัน เหลือเพียงบิดาและพี่ชายอีกคนที่ยังอยู่ที่เดิม
พอฟ้ามืดทุกบ้านก็ปิดไฟเข้านอนจนมืดสนิท เหลียนฮวากระชากประตูออกพบว่าถูกขัดกลอนจากด้านใน นางแอบส่องมองในบ้านผ่านรอยแยกตรงประตู บ้านเงียบสงัดทุกคนคงเข้านอนกันหมดแล้ว
“นอนเร็วกันเสียจริง เป็นนกตื่นเช้าสินะ”
หญิงสาวบ่นอุบ แต่ต่อให้บิดาจะเข้านอนแล้วอย่างไร วันนี้ก็ต้องได้เงินไปซื้อเครื่องปรุง นางจึงเดินหามุมอับปีนกำแพงเข้าไปในบ้านเหมือนอย่างที่เคยทำประจำ ตอนที่กลับมาจากล่าสัตว์แล้วเข้าบ้านไม่ได้ก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากนั้นถูกด่าหูชาไปเจ็ดวัน
ฮึบ...ร่างบางปีนขึ้นไปนั่งพักอยู่ด้านบนเตรียมกระโดดลงมา แต่สายตาเหลือบไปเห็นพี่ชายคน ที่ห้านอนตะแคงข้างอยู่ชานระเบียงหน้าบ้านเสียก่อน เขาจ้องมองน้องสาวตัวดีทำตัวเป็นขโมยผ่านความมืด
“ผีหลอก!”
เหลียนฮวาตกใจเกือบหงายหลังกลับที่เดิม โชคดีที่ทรงตัวอยู่จึงเพ่งสายตามองเงาตะคุ่ม ๆ ตรงชานระเบียงบ้าน
ไอ้พี่คนนี้นี่ออกมานอนรับลมเงียบ ๆ อีกแล้ว..
“พี่ห้าเองหรอกหรือ ข้าตกใจหมด”
“เจ้ามาทำอะไรกลางดึก?”
ชายหนุ่มจุดตะเกียงเดินมาส่องไฟให้น้องสาวกระโดดลงมา เหลียนฮวาพูดขอบคุณพี่ชายเบา ๆ นางยิ้มให้เขาแล้วแบมือออกสองข้าง
“มาขอยืมเงินเจ้าค่ะ น้องสาวของท่านต้องการเงินทุนไปขายของวันพรุ่งนี้”
“…”
“นะ ๆ ท่านพี่ชายสุดหล่อ ช่วยน้องสาวคนนี้ที ข้าอยากทำอาหารไปขายที่ตลาดเช้าพรุ่งนี้ วัตถุดิบหลักมีแล้ว ผักก็ค่อยไปเก็บในไร่ของท่านพ่อเอา ขาดก็แต่เครื่องปรุงที่ต้องใช้เงินซื้อ แต่ข้าดันไม่มีเงินสักอีแปะ”
“…”
ไม่ว่าน้องสาวจะพูดอะไรห้าวอู่ก็ไม่ยอมตอบ เขาเป็นคนพูดน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หลังแต่งงานได้สองวันเจ้าสาวก็หนีไปกับบุรุษอื่น เหลียนฮวาสงสารพี่ชายมาก ตอนนั้นจึงทำอาหารปลอบใจพี่ชายมื้อใหญ่
ห้าวอู่นึกถึงอาหารที่น้องสาวทำให้กินในวันนั้น เขาจ้องมองหน้านางนิ่ง ไม่แน่ใจว่าควรพูดตามความจริงหรือไม่ว่า รสมือของนางนั้นไม่ต่างจากยาพิษสักนิด
เหลียนฮวาไม่รู้ว่าอาหารที่ตนทำนั้น ถูกคนในครอบครัวกวาดทิ้งใส่ไหใต้โต๊ะ อาศัยจังหวะที่นางเข้านอนแล้วเอาไปฝังไว้กลางป่าลึก ซ้ำยังทับด้วยก้อนหินอีกหลายชั้นกันสัตว์ป่ามากิน ทว่าภาพจำที่นางจำได้ คือทุกคนกินกันอร่อยมากจนอาหารหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ
ห้าวอู่ไม่รู้เช่นกันว่าน้องสาวได้ตายไปหลายภพหลายชาติ ฝีมือที่ไม่ได้เรื่องในวันนั้นพัฒนาขึ้นมากแล้ว แต่เขาก็ไม่อยากพูดให้น้องสาวเสียใจ ทว่าก็ไม่อยากฆ่าคนทางอ้อมเช่นกัน
“น้องเล็ก...”
“ใครมา ไอ้ลูกไม่รักดี!”
ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบ บิดาที่เปิดประตูออกมาดู ก็เห็นบุตรสาวที่แง่งอนไม่ยอมโผล่หน้ามาให้เห็นถึงสองเดือนเต็ม กำลังยืนแบมืออยู่หน้าบุตรชายคนที่ห้า
ฝีปากของชายชราวัยห้าสิบห้าปีไม่มีใครสู้ได้ ต่อให้เป็นสตรีเขาก็ด่าหมดไม่สนลูกใคร หากคนผู้นั้นทำไม่ดีก่อน ถึงแม้จะเป็นตาแก่ปากร้ายแต่ก็รักลูกทุกคนมาก ยิ่งกับบุตรสาวเพียงคนเดียวไม่ต้องพูดถึง เขารักนางมากกว่าใคร แต่ก็ด่านางมากกว่าลูก ๆ ทุกคนเช่นกัน
เหลียนฮวาโกรธที่ถูกบิดาบังคับแต่งงาน จึงหลบหน้าไม่ยอมออกมาพบบิดาอีก ไม่แปลกที่เจอหน้ากันอีกครั้งจะถูกด่าว่าอกตัญญูทันที
“ท่านพ่อ! ข้าเป็นบุตรสาวของท่าน จะมาให้ร้ายกันได้อย่างไร ข้าทำอะไรที่ว่าอกตัญญูอย่างนั้นหรือ ตั้งแต่เด็กข้าก็เข้าป่าล่าสัตว์หาเนื้อให้ท่านกิน ต้องเรียกว่าอภิชาตบุตรสิถึงจะถูก”
คนตัวเล็กไม่ยอมแพ้เถียงกลับข้าง ๆ คู ๆ ไม่ยอมรับความผิดที่หลบหน้าบิดา แสร้งทำเป็นลืมไม่รู้ไม่ชี้ใด ๆ ทั้งสิ้น
ชายชรานึกปวดหัวนั่งลงขวางประตูทันที แม้จะดีใจที่เห็นหน้าบุตรสาวแต่ก็แสร้งทำเป็นเข้มใส่นาง เหลียนฮวาชินแล้วจึงเป็นฝ่ายเดินไปหาเขาแล้วล้มตัวลงนอนบนตักบิดา ปากก็คอยออดอ้อนขอเงินเขาตามบทที่พูดกับพี่ชายทุกคำ
“เจ้าน่ะหรือจะทำอาหารขาย หากทำคนตายข้าไม่ประกันตัวออกจากคุกหรอกนะ เสียดายเงิน!”
“ท่านพ่อ! ข้าทำอาหารอร่อยแล้ว ท่านเชื่อข้าสิเจ้าคะ จะไม่มีใครตายเพราะกินอาหารที่ข้าทำแน่ บุตรสาวของท่านเพียงอยากหารายได้ ท่านพ่อก็ควรสนับสนุนนะเจ้าคะ”
“จะเอาเท่าไหร่?”
“ไม่รู้เจ้าค่ะ เอาอย่างนี้ ข้าจะไปซื้อของแล้วขอติดเงินไว้ก่อน พรุ่งนี้ท่านพ่อค่อยตามไปใช้คืนให้ ป้าจางร้านขายของรู้จักบ้านเราดี นางย่อมให้ติดเงินไว้ก่อนอยู่แล้ว”
นางจางที่ว่าเปิดร้านขายของชำอยู่ไม่ไกล ร้านของนางมีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องปรุงยันเมล็ดพันธุ์การเกษตร ตั้งแต่เด็กเหลียนฮวาชอบติดเงินร้านค้าไว้อยู่บ่อย ๆ ทุก ๆ เจ็ดวันชายชราจะไปจ่ายค่าของคืนให้
เฮ้อ~ ใครใช้ให้นางเป็นบุตรสาวของเขาเล่า ทำขึ้นเองก็ต้องตามเช็ดล้างกันไป
“ตามนี้นะเจ้าคะ เช่นนั้นข้าจะรีบไปซื้อของก่อน ต้องรีบไปรีบกลับเดี๋ยวสามีข้าจะเหงา เชิญท่านพ่อนอนต่อตามสบาย พรุ่งนี้ข้าจะเอากับข้าวที่ทำขายมาให้ท่านลองชิม!”
หญิงสาวพูดเองเออเองทุกคำ นางลุกขึ้นทำความเคารพบิดา แล้ววิ่งกระโดดปีนข้ามกำแพงหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
ชายชรายังรู้สึกถึงความอบอุ่นบริเวณที่บุตรสาวตัวแสบนอนหนุนตักเมื่อครู่อยู่เลย
ห้าวอู่เห็นน้องสาวไปแล้ว เขาล้มตัวลงนอนที่เดิมไม่สนใจบิดาที่นั่งเหม่ออยู่ตรงประตู ชายชราเหล่ตามองบุตรชายที่ชิงหลับไปก่อน
ไม่ได้เรื่องเลยสักคน
เห็นบุตรสาวกลับมาสดใสร่าเริง ชายชราก็นอนหลับฝันถึงภรรยาที่ตายจากไป เขาเล่าเรื่องลูก ๆ ให้นางฟังอย่างภาคภูมิใจ แต่ละคนต่างเติบโตมาอย่างดี มีเพียงบุตรสาวคนเล็กที่ออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง ทว่าเหมือนนางจะรู้แล้วว่าควรใช้ชีวิตคู่อย่างไรต่อถึงจะมีความสุข
ความคิดเห็น