คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วิจิตรา
ตอนที่ 1 วิจิตรา
มหา’ลัยชื่อดังในเมืองหลวงของประเทศจีน
ท่ามกลางความวุ่นวายเบื้องหน้าของเหล่าหนุ่มสาวนักล่าปริญญา ร่างเล็ก ๆ ของนักศึกษาปีสุดท้ายคนหนึ่งเธอมีชื่อว่า “วิจิตรา” กำลังจะเดินไปยังโรงจอดรถของคณะที่เธอเรียนอยู่ ทว่าในระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้นกลับมีร่างสูงของลูกน้องบิดาเดินอาด ๆ เข้ามาขวางทางเธอเอาไว้ ใบหน้าสวยตามประสาลูกครึ่งที่มีสายเลือดความเป็นไทยจากฝั่งมารดา ผสมผสานกับความเป็นชาวจีนของบรรพบุรุษฝั่งบิดาอีกครึ่งหนึ่งของเธอติดจะเหวี่ยงเล็กน้อยเมื่อโดนรบกวน
"คุณหนู...นายท่านใหญ่ต้องการเรียกพบคุณหนูครับ"
เสียงทุ้มของบอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยบอกอย่างนอบน้อม ทว่าหญิงสาวกลับทำเป็นไม่สนใจทั้งยังพยายามเดินหนีไปอีกทาง
"กลับไปบอกตาแก่นั่นด้วยว่า ฉันจะไม่กลับไปที่บ้านใหญ่อีก"
"พวกผมคงทำตามที่คุณหนูบอกไม่ได้ครับ เป็นคำสั่งจากนายท่านใหญ่ที่ต้องการให้คุณหนูไปพบท่าน หากคุณหนูไม่ยินยอมคงต้องขอเสียมารยาทตรงนี้แล้ว"
"เอาสิ...ถ้ากล้าก็เข้ามาเลย"
"คุณหนูครับผมไม่อยากใช้กำลังกับเจ้านายเลยสักนิด ให้ความร่วมมือแล้วตามผมกลับไปเถอะครับ"
บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยกับลูกสาวของนายใหญ่อย่างอับจนหนทาง คุณหนูผู้ดื้อดึงคนนี้เป็นถึงลูกสาวของนายท่าน “เซียนหยง” ที่ใคร ๆ ต่างต้องรู้จักชื่อเสียงกันดีในนามเจ้าพ่อมาเฟียอันดับหนึ่งในจีน ด้วยเป็นบุคคลผู้มีอิทธิพลกว้างขวางจากการทำธุรกิจสีเทา
แม้จะถูกลูกน้องของบิดาเกลี้ยกล่อมอย่างไรหญิงสาวก็ยังถือดีไม่ยินยอมตามพวกเขาไป จนพวกเขาเหล่านั้นเริ่มหมดปัญญาจำต้องใช้กำลังกันบ้างกับหญิงสาวที่ดื้อดึงไม่ฟังใคร บอดี้การ์ดหลายคนรุมกันเข้ามาจับตัวและพยายามลากเธอไปยังรถตู้คันหรูที่จอดรออยู่อีกฝั่ง ถึงจะพยายามยื้อยุดฉุดกระชากอย่างไร แต่มีหรือที่คนตัวเล็ก ๆ เพียงคนเดียวจะสู้พวกผู้ชายร่างกำยำเหล่านี้ได้ เธอสู้ไม่ไหวจนต้องยอมตะโกนขอความช่วยเหลือ ทว่าผู้คนละแวกนั้นกลับเดินหนีด้วยรู้ถึงอิทธิพลของมาเฟียจีนอย่างเซียนหยงผู้เป็นบิดาของวิจิตราดี
หลังจากยื้อกันอยู่นานวิจิตราก็ถูกจับยัดเข้าไปในรถตู้ของครอบครัวแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ร่างเล็ก ๆ พยายามดิ้นรนขัดขืนเพื่อให้หลุดจากการถูกจับ จนลูกน้องของบิดาทนไม่ไหวจำต้องยอมสับฝ่ามือไปยังท้ายทอยอย่างแรง จนผู้เป็นนายสลบไป ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงร่างเล็กก็ตื่นขึ้นมาอีกทีบนโซฟาหลังใหญ่ภายในห้องรับแขกของบ้าน โดยที่ฝั่งตรงข้ามกันก็มีบิดาอย่างเซียนหยงกำลังนั่งจิบชารออยู่
"ตื่นได้สักทีนะวิจิตรา"
เสียงทุ้มติดจะดุดันของผู้เป็นบิดาเอ่ยถามขึ้นมาอย่างเรียบ ๆ ใบหน้าของชายสูงวัยนิ่งสนิท เขาปรายตามองลูกสาวที่กำลังลุกขึ้นมานั่งประจันหน้าตัวเองก่อนจะหันไปสนใจอย่างอื่น
"คุณต้องการอะไรจากฉัน"
"ก็ไม่มีอะไรแค่อยากเจอหน้าลูกสาวก็เท่านั้น"
"หึ...ลูกสาวอย่างนั้นเหรอ คุณอย่าลืมสิว่าคุณทำอะไรไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณแม่ก็คงไม่ตาย"
"เรื่องนี้พ่อผิดเองไม่เกี่ยวอะไรกับยาดา"
"ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะคะ ถ้าพ่อไม่พานังเมียน้อยนั่นเข้ามาในบ้านแม่ก็คงจะไม่ต้องตาย"
เพียะ
"วิจิตราหยุดก้าวร้าวสักที!!"
"หึ...พูดถึงนิดหน่อยก็ไม่ได้เหรอคะ ผู้หญิงคนนั้นต้องการอะไรจากหนูอีกล่ะ สมบัติของคุณแม่เหรอในเมื่อได้ทุกอย่างไปหมดแล้วยังต้องการอะไรจากตัวหนูอีก!"
หญิงสาวตะคอกถามผู้เป็นบิดาจนหน้าแดง ทว่ากลับได้รับเพียงความเฉยชากลับมาเท่านั้น แต่เธอจะไม่สนใจอีกแล้วผู้ชายคนนั้นที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดากลับทำเรื่องเลวร้ายจนเธอไม่อยากจะให้อภัย รวมถึงนังสารเลวคนนั้นด้วยที่ทำให้ครอบครัวของเธอแตกแยก ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่า “ยาดา” เคยเป็นเพื่อนสนิทของคุณแม่ของเธอ ไม่รู้ว่าผีร้ายตัวไหนเข้าสิงถึงได้มีจิตใจต่ำตมคิดไม่ซื่อ เห็นว่าเพื่อนได้มีชีวิตคู่ที่ดีก็รู้สึกอิจฉาจึงใช้วิธีสกปรกแย่งสามีของเพื่อนมา
ทว่าตัวต้นเหตุที่ทำให้คู่พ่อลูกมีปากเสียงกันกลับทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน หญิงสาวแอบฟังอยู่นานก่อนจะเดินนวยนาดเข้ามาในห้องรับแขกแล้วทิ้งตัวลงนั่งลงข้าง ๆ สามีของเพื่อนรัก
"หนูวิจิตราอย่าไปโกรธคุณพ่อเลย เป็นน้าที่ผิดเอง...ถ้าหนูไม่พอใจน้าจะขอออกไปจากบ้านหลังนี้และจะไม่กลับมาให้หนูและคุณเซียนหยงต้องทะเลาะกันอีก"
"ตอแหล...รู้สึกผิดงั้นเหรอ แย่งสามีเพื่อนแล้วยังยุแหย่ให้แม่ของฉันฆ่าตัวตายแบบนี้เหรอที่รู้สึกผิด มีแต่คนโง่แบบตาแก่เท่านั้นแหละที่หลงเชื่อมารยาสาไถยของเธอ"
"หยุดเดี๋ยวนี้นะวิจิตรา ยาดาเขาท้องน้องของลูกอยู่นะ"
"อย่างงั้นเหรอคะ ใครจะไปรู้ล่ะว่าในท้องเป็นลูกของใคร"
เมื่อทนฟังคำพูดตลบตะแลงของหญิงชั่วตรงหน้าไม่ไหว เธอจึงเผลอพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกไป แอบเห็นว่าคนตรงหน้าชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพูดโกหกหน้าตายออกมา
"ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะจ๊ะ น้ามีแค่พ่อของหนูคนเดียวนะ"
วิจิตรากลอกตามองบนไม่สนใจการแสดงนั้น หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปยังสมาร์ตทีวีจอใหญ่กลางห้องรับแขก มือเรียวจัดการกดเชื่อมต่อสมาร์ตทีวีกับโทรศัพท์เพียงครู่ บนภาพหน้าจอก็ปรากฏหลักฐานการคบชู้ของยาดาออกมาให้ทุกคนประจักษ์
...อ๊ะ...อ๊า...เสียงการร่วมรักอย่างถึงพริกถึงขิงดังออกมาจากสมาร์ตทีวี บนนั้นปรากฏร่างของชายหนุ่มที่กำลังเสือกไสกายเข้าหาหญิงสาวตามแรงอารมณ์ กับเสียงแหบแห้งของหญิงสาวที่เอ่ยถามชายหนุ่ม...
"เมื่อไหร่ตาแก่นั่นจะตายไปสักที ยาดาทนอยู่กับตาแก่นั่นไม่ไหวแล้ว ไทไทต้องหาทางฆ่าตาแก่นั่นให้ยาดานะคะ"
"ทนอีกนิดนะที่รัก ตอนนี้ตาแก่นั่นกำลังวางมือยกทุกอย่างให้ผมดูแล อีกไม่นานเราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อีกต่อไป"
ชู้รักของยาดาใครเล่าจะรู้ว่าเป็นคนใกล้ชิดอย่างมือขวาของเซียนหยงนั่นเอง ทั้งสองคนคบชู้กันมานานถึงห้าปีที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือการที่ทั้งคู่พากันวางแผนยึดอำนาจของเซียนหยง และคิดจะชุบมือเปิดฮุบสมบัติของมาเฟียใหญ่ไป
เซียนหยงที่ทนเห็นภาพบาดตาไม่ไหวเบือนหน้าหนี ก่อนจะตบโต๊ะเสียงดังหันมาบีบคอหญิงสาวที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้างกาย
"นี่มันอะไรกัน ทำไมเธอถึงไปนอนกับไทไทได้ ยาดาตอบฉันมา"
"คุณคะ อย่าไปเชื่อนะคะ นั่นมันเป็นคลิปตัดต่อ ฉันไม่เคยนอกใจคุณเลยนะคะ"
"เอาล่ะ ๆ...ฉันไม่อยากมาดูละครสดหรอกนะ อีกอย่างที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ฉันไม่สงสารใครสักนิด คุณสวมเขาให้คุณแม่ก่อนกรรมเลยตามสนองคุณไงล่ะคะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วถ้าไม่มีเรื่องอะไรจะพูดกับฉันอีก ก็เชิญคุยกันตามสบายเลยนะฉันขอตัวกลับก่อน ไม่อยากอยู่นาน ๆ เท่าไหร่สะอิดสะเอียนจะแย่แล้ว"
วิจิตรามองคนชั่วสองคนที่คุณแม่ของเธอเคยมอบให้ทั้งความรักและความเชื่อใจอย่างเหยียดหยาม แม้จะสะใจอยู่เล็ก ๆ แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ด้วยไม่อยากเสวนาพาทีด้วยสักเท่าไหร่ แต่ก็อดสมน้ำหน้าอยู่ในใจไม่ได้...กรรมได้ตามสนองแล้ว
...คุณแม่คะหนูแก้แค้นให้คุณแม่แล้วนะ ที่ผ่านมาหนูไม่เคยทำอะไรเพื่อคุณแม่เลยหนูขอโทษนะคะ ตอนนี้คุณแม่วางใจได้แล้วนะคะต่อจากนี้ไปหนูจะดูแลตัวเองให้ดี...
ร่างเล็กเดินออกมาจากบ้านเฮงซวยอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง เธอถูกพวกลูกน้องของบิดาลากขึ้นรถมาจนต้องยอมทิ้งรถไว้ที่มหา’ลัย วิจิตราเดินไปเรื่อย ๆ จนมาถึงร้านดูดวงเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ข้างถนน แต่วิจิตราไม่สนใจเลยคิดจะเดินผ่านไป
"แม่หนูเข้ามาก่อนสิ..."
วิจิตราหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียก เธอสองจิตสองใจว่าจะเดินเข้าไปในร้านนั้นตามคำชวนที่ได้ยินดีหรือเปล่า ทว่ายืนอยู่สักพักยังไม่ทันจะตัดสินใจได้ก็มีเสียงพูดสมทบขึ้นมาอีก
"แม่ของหนูไปสบายแล้ว อย่าได้เป็นห่วงอีกเลยนะ สิ่งที่หนูควรจะกังวลในตอนนี้คือเรื่องของตัวแม่หนูเองต่างหาก"
ได้ยินดังนั้นวิจิตราก็รีบเปิดผ้าเดินเข้าไปในร้านทันที ด้านในของร้านมีหญิงชรานั่งอยู่คนเดียวท่ามกลางแสงสลัว ๆ บริเวณฉากกั้นมีผ้าปิดไว้ครึ่งหนึ่งทำให้มองไม่เห็นใบหน้าเต็ม ๆ เห็นเพียงแค่ดวงตาเท่านั้น
"คุณรู้ได้ไงว่าแม่ของฉันไปสบายแล้ว"
"แม่ของหนูฝากฉันมาบอก...อีกอย่างแม่หนูรู้ไหมว่าตัวเองกำลังดวงตกนะ จะคิดทำสิ่งใดก็จงระวังตนไว้ให้ดี จำเอาไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจงตั้งมั่นตั้งสติเอาไว้อยู่เสมอ"
หญิงสาวที่ไม่เชื่อเรื่องงมงายทำท่าจะลุกขึ้นหนีทันทีที่หญิงชราเอ่ยจบ ที่เธอยอมเดินเข้ามาในร้านเล็ก ๆ ที่แสนพิศวงนี้ก็เพราะอีกฝ่ายเอ่ยถึงคุณแม่ของเธอ แต่นี่มันเรื่องอะไรก็ไม่รู้...คุณแม่ฝากมาบอก...จะฝากมาบอกได้อย่างไรก็ในเมื่อคุณแม่นั้นเสียไปหลายปี
"ต้มตุ๋นชัด ๆ ไม่เชื่อหรอก ฉันอยู่มานานจนจะแต่งงานมีลูกได้แล้วจะมาเชื่อเรื่องผีสางวิญญาณพวกนี้ไปทำไมกัน"
วิจิตราเดินออกมาจากร้านนั้นอย่างอารมณ์เสีย กะว่าจะหันกลับไปต่อว่ายายแก่คนนั้นอีกเสียหน่อยที่พูดจาเพ้อเจ้อ ทว่าเมื่อหันกลับไปมองข้างหลังอีกทีก็ไม่เจอทั้งคนและร้านที่ตั้งอยู่เลย
"เฮ้ย...อะไรกัน เมื่อกี้ยังมีร้านตั้งอยู่เลย หายไปไหนแล้ว"
ด้วยความเป็นคนที่เป็นคนไม่งมงายและไม่เชื่อในสิ่งลี้ลับเหนือจินตนาการ เธอจึงเดินวนดูรอบ ๆ พื้นที่แถวนั้นอีกครั้งทว่าสุดท้ายก็หาไม่เจอจึงคิดว่าตัวเองคงจะเพ้อไปเอง ก่อนจะเดินจากมาแล้วโบกแท็กซี่ให้ไปส่งที่มหา’ลัยทันที เมื่อมาถึงแล้วเธอก็เตรียมขับรถกลับคอนโดทันที ทว่าระหว่างที่ขับรถอยู่นั้นกลับมีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับมาตีคู่ทางฝั่งคนขับ เพียงเสี้ยววินาทีที่ปลายกระบอกปืนจ่อมาในระยะประชิด ร่างเล็กที่ไม่ทันระวังกลับกลายเป็นผู้โชคร้ายในค่ำคืนนี้
ปัง ปัง ปัง...
กระสุนปืนสามนัดเจาะทะลุกระจกรถคันหรูและร่างของวิจิตราที่หลบไม่ทันและเสียชีวิตทันที รถที่เสียการควบคุมพลิกคว่ำหลายตลบจนระเบิด เป็นการปิดฉากช่วงชีวิตที่น่าอนาถของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด
ความคิดเห็น