ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF: Yaoi The Star) Sassy Love (โน่กัน / อสรพิษ)

    ลำดับตอนที่ #46 : April Fools' Day [NoGun]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 331
      7
      2 เม.ย. 61

    April Fools’ Day


     

    พี่โน่! หยุดก่อน! จะลากกันไปไหนเนี่ย! ’


                เสียงหวานของผู้ชายตัวเล็กร้องถามด้วยความสงสัยหลังจากถูกพี่ชายร่วมวงการที่นับถือเหมือนพี่ชายแท้ๆฉุดดึงให้วิ่งตามมายังมุมลับตาคนหลังจากจบการถ่ายทำละคร 'เรือนแพ' ชายหนุ่มผู้พี่พาน้องชายมาหยุดหลังกำแพงไม่ไกลจากกองถ่ายมากนัก เขารอจนกระทั่งหายหอบเหนื่อยจึงยิ้มให้เจ้าตัวดีที่กำลังทำหน้ามุ่ย


    อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยวหมดอารมณ์หรอก ร่างสูงเอ่ยพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่ม


    อารมณ์อะไร?


    อารมณ์อยากบอกรักกันไง โตโน่พูดโต้งๆ ทำเอาคนฟังมึนไปพักหนึ่งก่อนจะถามย้ำอีกครั้ง


    บอกรักอะไรนะ


    พี่รักกัน


    ฮะ?


    พี่รักกัน พี่อยากได้กันเป็นแฟน คบกับพี่นะ


    หา...


    เลิกงงสักที ตอบตกลงได้แล้ว -*- ’


    พี่จะบ้าเหรอ นี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ


    ก็ไม่ได้ล้อเล่นไง พี่พูดจริงๆ พี่รักกัน สับสนตัวเองมานานเหมือนกัน แต่พอเริ่มรับได้ก็รีบมาบอก กลัวคนอื่นมาซิวไปเสียก่อน


    คิดง่าย ทำง่ายไปไหม


    เลิกถามแล้วตกลงสักทีเถอะ หายไปนานเดี๋ยวก็โดนสงสัยหรอก


    พี่จะไม่ให้เวลากันหน่อยเลยเหรอ


    เอาไปทำไม มองตาก็รู้แล้วว่ากันคิดเหมือนพี่ ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจจนคนฟังอ้าปากค้างอีกรอบ


    มั่นใจเกินไปหรือเปล่าพี่โน่ ใครบอกว่ากันชอบพี่ กันท้วงทันทีที่หาเสียงตัวเองเจอ


    ริท พี่ถามมันมาแล้ว


    ไอ้เตี้ย ไอ้เพื่อนเฮงซวย กันคาดโทษริทไว้ในใจ


    ตกลงเป็นแฟนกันนะ


    ขอกัน....


    ไม่ต้องขอแล้ว ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วนะ กันเป็นของพี่ ห้ามไปมีใครที่ไหน ไม่งั้นพี่จัดหนักแน่ พูดจบปุ๊บ ร่างสูงก็เดินหนีกลับเข้าไปในกองละครทันที ทิ้งให้คนอายุน้อยกว่ายืนงงเป็นไก่ตาแตก


    คนบ้าอะไร เอาแต่ใจชะมัด กันบ่นพึมพำกับตัวเองแต่ถามว่าคบไหม ก็คบกันมาหลายปีแล้วล่ะ


    จนกระทั่ง...


    .


    .


    .


    [ พี่โน่ ทำไรอยู่ ]


    [ ทำงาน ]


    [ ดึกแล้วนะ น่าจะพักบ้าง ]


    [ ยังไม่ง่วง ]


    [ พักมาคุยกับกันสักสิบนาทีไม่ได้เหรอ กันเหงานะ เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย ]


    [ เดี๋ยวก็เจอกันอยู่แล้ว ตอนนี้พี่ทำงาน ]


    [ พี่โน่ กันรู้ว่าพี่งานเยอะ กันก็มีงานเหมือนกัน แต่เราน่าจะมีเวลาให้กันบ้างนะ เราห่างกันไปมากทุกทีแล้ว...จนทุกวันนี้กันแทบไม่แน่ใจแล้วว่าเรายังคบกันอยู่ ]


                กันระบายออกมา น้ำเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือของกันเต็มไปด้วยความน้อยใจ ตั้งแต่แยกย้ายกันไปตามทางเดินของตัวเอง โตโน่ก็ไม่มีเวลาให้เขาเหมือนเก่า ยิ่งรับละครด้วย มีกระแสคู่จิ้นใหม่ ละครก็ดัง มันทำให้พวกเขายิ่งห่างไกลกันไปอีก จากที่เคยเจอหน้ากันก็กลายเป็นคุยกันผ่านโทรศัพท์ ไลน์ก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง บางครั้งโทรหาก็ถามคำตอบคำ ถ้าเขาไม่เริ่มก็ไม่มีใครต่อบทสนทนา ยิ่งนานวัน ยิ่งคุยกันน้อยลง


    [ กัน เราห่างกันสักพักเถอะนะ ]


    ประโยคเดียวที่ได้ยิน ทำให้หัวใจคนฟังแทบหยุดเต้น


    [ พี่...หมายความว่ายังไง ]


    [ ก็...หมายความตามที่บอกนั่นแหละ ]


    [ ทำไม ] เงียบไปนานกว่าที่กันจะหาเสียงตัวเองเจอ


    [ พี่...ขอเวลาทบทวนความรู้สึกตัวเองสักหน่อย ]


    [ ถ้ากัน...ไม่ให้ล่ะ ]


    ถ้ากันเอาแต่ใจเหมือนวันที่พี่บังคับให้เป็นแฟน พี่จะยอมตามใจกันไหม


    [ ตอนนี้ความรู้สึกของพี่มันเปลี่ยนไปแล้วแต่พี่ยังไม่แน่ใจว่าหมดรักหรือแค่...เอาเป็นว่า...ขอเวลาพี่หน่อยเถอะ...ห่างกันสักพัก...เผื่ออะไรจะดีขึ้น ]


    [ แล้ว...ต้องห่างเท่าไรเหรอ ] เสียงที่ถามนั้นสั่นเครือก่อนที่น้ำใสๆจะเอ่อล้นจากดวงตาหวาน


    [ ไม่รู้สิ คง...จนกว่าพี่จะหายเบื่อ ]


    แล้วน้ำตาของกันก็หลั่งรินพร้อมกับเสียงสัญญาณโทรศัพท์ที่ถูกตัดไป...


     

    ………………………………………………………………….

     


    “ กัน ”


    “ ..... ”


    “ กัน ”


    “ ..... ”


    “ ไอ้กันโว้ย!!


    “ โอ๊ย ริท! จะตะโกนทำไม!! ” กันหันมาโวยเพื่อนสนิทที่จู่ๆก็ตะโกนใส่หูทั้งที่นั่งติดกันบนรถตู้ซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  


    “ ก็เรียกตั้งนานไม่ยอมขานเลยนึกว่าไม่ได้ยินไง ”


    “ ได้ยินแต่คิดเรื่องอื่นอยู่เลยไม่อยากตอบมีไรไหมเตี้ย ”


    “ ถุย! มึงสูงตายล่ะ!


    “ สกปรก ” กันทำปากยื่นใส่เพื่อน


    “ กูไม่ได้ถุยจริงๆสักหน่อย แล้วตกลงคิดอะไรอยู่ ทำไมเหม่อขนาดนี้ ” ริทโยนเรื่องของตัวเองทิ้งแล้วถามเรื่องของเพื่อนแทนอย่างห่วงใย


    “ คิดเรื่อยเปื่อย ”


    “ อ๋อ นึกว่าพี่คิดถึงพี่โน่ซะอีก ” ริทยิ้มแซว เขารู้ดีว่าเพื่อนกับพี่ชายกำลังแอบคบกันอยู่ แต่เขายังคงไม่รู้ว่าเมื่อคืนคนเป็นพี่เพิ่งตัดสัมพันธ์กับเพื่อนรักทางโทรศัพท์


    “ ทำไมต้องคิดถึงคนพรรค์นั้นด้วยล่ะ ” กันทำท่าปฏิเสธทั้งที่ในใจยอมรับว่าเขากำลังนึกถึงอดีต นึกถึงทุกเรื่องที่มีโตโน่รวมถึงเรื่องเมื่อคืนด้วย


    “ น้ำเสียงอย่างนี้แสดงว่างอนพี่โน่อีกแน่ มึงอย่างอนมากสิวะ เดี๋ยวพี่มันก็เบื่อหรอก ” คำว่าเบื่อของริทเหมือนคมมีดที่แทงเข้ามาในใจกันจนมิดด้าม


    “ พี่โน่ก็คงเบื่อจริงๆแหละ ” กันแค่นยิ้มสมเพชตัวเอง


    “ เฮ้ยๆ กูพูดเฉยๆ อย่าเก็บเอาไปคิดมากสิ มันไม่มีอะไรหรอกน่า ลิ้นกับฟันมันก็ต้องมีกระทบกันบ้าง เดี๋ยวก็ดีเองแหละ แล้วนี่อีกไม่กี่นาทีก็ถึงกองถ่ายแล้ว ยิ้มหน่อยน่า เดี๋ยวคนที่กองก็ตกใจคิดว่าคนร้องเพลงประกอบละครเรื่องนี้ไปกินรังแตนมาหรอก ” ริทเอื้อมมือมาดึงแก้มกัน กันจึงฝืนยิ้มตามเพื่อให้เพื่อนสบายใจก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่างเหมือนเดิม


                ตลกร้ายของวันนี้ คือ การที่เขาต้องไปถ่ายเส้นภาพประกอบเพลงละครในวันเดียวกับที่โตโน่มีถ่ายละครพอดี ละครเรื่องใหม่ของโตโน่เป็นแนวพีเรียด ร่างสูงแสดงประกบคู่กับนางเอกคู่จิ้นคนดังโดยมีเขาเป็นคนร้องเพลงประกอบละคร จากที่เคยดีใจและเฝ้ารอให้ถึงวันนี้กลับกลายเป็นว่าเขาอยากยืดเวลาออกไปไม่อยากให้ถึงวันนี้เลย ไม่อยากให้ถึงวันที่เราต้องเลิกกัน อยากหยุดเวลาไว้แค่วันเก่า วันที่เรายังรักกันเหมือนเดิม


    “ ไอ้กัน ” เสียงเรียกของริททำให้กันหันไปมอง


    “ อะไร ”


    “ กูรู้ว่ามึงยังไม่พร้อมจะเล่า กูจึงไม่บังคับ แต่จำไว้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตมึง กูจะไม่ทิ้งมึงไปไหน มึงยังมีกูอยู่นะกัน ”


    วันนี้เป็นวันหยุดของริทแต่พอกันโทรไปชวนให้มาเป็นเพื่อน เขาก็ไม่ลังเลที่จะตอบตกลง ไม่ใช่เพราะคิดถึงมากแต่เพราะน้ำเสียงของกันตอนนั้นน่าเป็นห่วงจนเขาไม่อยากทิ้งเพื่อนให้ไปทำงานคนเดียว กันเป็นคนที่ชอบคิดมาก เก็บทุกอย่างมาคิดจนเขากับพี่โน่เป็นห่วงบ่อยๆ


    “ ขอบใจนะริท ” กันยิ้มอ่อนๆให้เพื่อน ไม่ว่าเมื่อไร ริทก็ไม่เคยทิ้งเขาไปไหนจริงๆ


    .


    .


    .


    “ เข้าไปในห้อง ” เสียงเข้มเอ่ยออกมาจากร่างสูงในชุดไทยย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 5 เขากำลังมองคนที่ตัวเล็กกว่าตนเองนิดเดียวแต่แต่งกายไม่ต่างกันด้วยใบหน้าขึงขัง มือเรียวชี้ไปทางห้องว่างห้องหนึ่งที่ไม่ใช้งาน


    “ ไม่ ” เสียงหวานปฏิเสธทันควัน เรื่องอะไรเขาจะต้องเข้าไปอยู่ในห้องเงียบๆทั้งที่เขาก็มาทำงานเหมือนกันแม้จะเสร็จงานแล้วก็ตาม  

    “ เอ่อ...ริทว่าใจเย็นๆก่อนนะ ”


    “ เงียบไปเลยริท ถ้าจะมาแล้วชวนกันเล่นซนแบบนี้ วันหลังไม่ต้องมา ”


    “ ริทไม่ได้ซน! ” ริทหันมาเถียงพี่ชายบ้าง


    “ กันก็แค่เดินถ่ายรูประหว่างรอรถกลับบ้าน งานกันเสร็จแล้ว กันจะทำอะไรก็ได้ ”


    “ ด้วยการปีนป่ายสารพัดและวิ่งไปมานั่นน่ะเหรอ นี่มันเรือนไทยนะ ต้นไม้ใบหญ้าก็ปลูกมาหลายร้อยปีทั้งนั้น แล้วไอ้เรื่องที่เที่ยวชวนไอ้เจษไปถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้หรือชวนคุยสองต่อสองนี่ก็เลิกสักที หมอนั่นต้องแสดงละคร ต้องใช้สมาธิในการจำบท ห้ามไปเข้าใกล้...ห้ามกวนมัน...  ” โตโน่กระแอมสองสามครั้งก่อนจะเสสายตามองไปทางอื่น


    “ กันไม่ได้กวน แล้วเจษก็เข้ามาคุยกับกันเองด้วย กันไม่ได้กวนเจษสักหน่อย ”


    “ แต่มันกวนพี่!


    “ กวนอะไร ” กันเริ่มเสียงดังเมื่อโตโน่ขึ้นเสียงใส่


    ตอนนี้คนในกองกำลังหยุดพักเพื่อเตรียมถ่ายทำฉากต่อไป บางคนที่อยู่บนเรือนก็เงี่ยหูฟังสามพี่น้องคุยกันไปด้วย ไม่มีใครกล้าห้ามเพราะกลัวโดนลูกหลงแถมผู้จัดการสาวของโตโน่ยังบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ พวกเขาจึงปล่อยไป


    “ กวนสายตา มันทำให้พี่หงุดหงิด กันก็รู้ว่าพี่ไม่ชอบ ทำไมถึงดื้อแบบนี้ ” โตโน่พยายามปรับน้ำเสียงให้อ่อนลง เพราะรู้ว่าถ้าใช้ไม้แข็ง กันจะยิ่งไม่เชื่อฟัง


    “ พี่จะชอบหรือไม่ชอบ มันก็เรื่องของพี่ กันจะคุยกับใครมันไม่เกี่ยวกับพี่ ลืมไปแล้วเหรอว่าเรา...ไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว ” ประโยคหลังกันพูดให้ได้ยินเพียงแค่สามคนเท่านั้น พูดไปก็เจ็บที่ใจไป ยิ่งเห็นที่โตโน่หยอกล้อนางเอกของเรื่องวันนี้ ยิ่งเข้าใจได้ดีว่าอะไรที่ทำให้เรื่องของเรามาถึงทางตัน แต่จะให้เขาลุกไปแย่งคืนก็ใช่ที่


    ในเมื่อไม่รัก...ก็ต้องปล่อยไป...มันถูกแล้ว


    “ พี่แค่บอกว่าให้เราห่างกันสักพัก เรายังไม่ได้เลิกกัน แล้วในเมื่อเรายังไม่เลิกกัน ทุกเรื่องของกัน พี่ต้องเกี่ยวได้ทั้งนั้น ”


    “ เห็นแก่ตัว ” กันพูดลอดไรฟันด้วยความโกรธ


    “ เข้าไปในห้อง ไม่อย่างนั้นพี่จะอาละวาดให้งานพังไปเลย กันคงไม่อยากให้งานของคนอื่นพังเพราะกันเป็นต้นเหตุใช่ไหม ” โตโน่ขู่ ทำให้กันกำมือแน่นและโกรธมากขึ้นแต่ไม่ทันต่อปากต่อคำ ริทก็ห้ามทัพ


    “ กัน เข้าไปในห้องก่อนเถอะนะ ไว้อารมณ์เย็นกว่านี้แล้วค่อยมาคุยกันใหม่ จริงๆเราก็เล่นสนุกกันมาทั้งวันแล้ว ตอนนี้ก็ใกล้ค่ำด้วย เข้าห้องพักผ่อนสักหน่อยก็ดีนะ กัน~~ ” ริทอ้อน กันเห็นแก่เพื่อนจึงยอมทำตาม


    “ กันไปรอในห้องก็ได้ แต่จำไว้ว่ากันไปเพราะริทขอไม่ใช่เพราะพี่ ” พูดจบกันก็เดินตามริทเข้าไปในห้องที่โตโน่บอก


    “ เฮ้อ... ” ร่างสูงถอนหายใจทันทีที่อีกฝ่ายลับสายตาไป ก่อนจะเดินถือบทไปนั่งอ่านเพื่อถ่ายทำฉากต่อไป


     

    ………………………………………………………………….


     

    “ ง่วงจะตายอยู่แล้ว ทำไมงานยังไม่เสร็จอีกนะ ” ริทบ่นพลางหาวหวอด ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว กินข้าวก็แล้ว หลับไปตื่นหนึ่งก็แล้ว ยังไม่มีทีท่าว่างานจะเสร็จเลย รถตู้ที่พวกเขานั่งขามาก็ดันเสีย กลับไม่ได้ ต้องรอให้กองถ่ายเลิกและกลับพร้อมเขาอีก น้ำตาจะไหล T^T


    “ อีกสักพักคงเสร็จแล้วมั้ง มึงเล่นเกมรอไปก่อนสิ ” กันที่ยืนชะเง้อมองกองถ่ายด้านนอกอยู่ตรงหน้าต่างหันมาบอกริท


    “ เล่นจนแบตจะหมดแล้วเนี่ย จะชาร์ตก็เกรงใจเจ้าของบ้าน เขาอุตส่าห์ให้ยืมบ้านยังจะใช้ไฟบ้านเขาอีก ”


    “ พี่ริท! ” จู่ๆเจษก็เปิดประตูพรวดพราดเข้ามา ทำให้กันกับริทสะดุ้งด้วยความตกใจ


    “ อะ..อะไร ”


    “ มีคนบาดเจ็บ พี่ไปช่วยผมดูหน่อยได้ไหม ไม่รู้ว่าต้องปฐมพยาบาลยังไง ”


    “ เออๆ ได้ๆ กันมึงรออยู่ในนี้ก่อนนะ เดี๋ยวกูมา ” ริทลุกอย่างรีบร้อนก่อนจะตามเจษไปโดยที่กันยังไม่ทันพูดอะไร


    “ ทิ้งให้เราอยู่คนเดียวเฉยเลย อุตส่าห์จะตามไปด้วยเผื่อได้เดินดูบรรยากาศด้านนอกบ้างแท้ๆเชียว ” กันถอนหายใจก่อนจะหันกลับไปมองด้านนอกห้องเหมือนเดิม คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง สวยงามจับตาก็จริงแต่พอได้เห็นมันกลับทำให้เขาเหงาจับใจเช่นกัน


    “ ถ้าพี่ยังอยู่ตรงนี้ จับมือกัน ยิ้มให้กัน กันคงรู้สึกดีกว่านี้ ”


    .


    .


    .


                นานหลายนาทีเลยทีเดียวที่ริทหายไปและกันยังคงยืนชมจันทร์อยู่ตรงหน้าต่างห้องคนเดียวแบบนั้น เขามัวแต่เหม่อลอยจนไม่ทันรู้สึกตัวว่ามีใครลอบเข้ามาในห้อง กว่าจะรู้ตัวก็ถูกคว้าเอวบางเข้าไปกอดเสียแล้ว กันสะดุ้งด้วยความตกใจ ยิ่งพอรู้ว่าเป็นใครก็ยิ่งพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนแต่ยิ่งดิ้น แขนแกร่งกลับยิ่งกอดรัดแน่นมากขึ้น


    “ ปล่อยนะพี่โน่!


    “ ไม่ปล่อย ” ร่างสูงกระซิบข้างใบหูบาง หากกันหันมามองสักนิดคงได้เห็นรอยยิ้มที่เขาคิดถึง


    “ ปล่อยสิ!


    “ ไม่ปล่อย พี่เคยบอกแล้วไง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะไม่ปล่อยกันไปอีก ”


    “ เมื่อคืนพี่ก็ปล่อยแล้ว จำไม่ได้หรือไง ”


    “ เมื่อคืนเหรอ จำไม่ได้แฮะ จำได้แค่ว่าพี่คิดถึงกัน ”


    “ โกหก กันไม่เชื่อพี่หรอก ปล่อยนะ!


    “ ไม่ปล่อยครับ...ที่รักของพี่ ”


    “ พี่โน่ กันบอก... ”


    ยังพูดไม่ทันจบ เสียงดนตรีจากที่ไหนไม่รู้ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ มันเป็นทำนองที่กันคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะช่วงนี้ติดเพลงนี้ไม่น้อย ติดจนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อมาร้องตามงานอีเวนท์ให้แฟนคลับได้ฟัง กันหยุดดิ้นแล้วหันไปมองใบหน้าคนที่ยืนกอดเอวเขาอยู่ด้านหลัง รอยยิ้มหวานของโตโน่ทำให้กันหันกลับไปทางเดิมด้วยความสับสน ไม่เข้าใจว่าโตโน่ต้องการจะทำอะไรกันแน่ พอจะเอ่ยปากถาม เสียงทุ้มต่ำของโตโน่ก็ขัดขึ้นด้วยการขับขานบทเพลงเสียก่อน

     

    ออเจ้าเอย เคยรู้หรือไม่ ตรงนี้ยังมีใคร ฤทัยห่วงหา
    ออเจ้าเอย งามประกายนภา ขอมองไม่ยอมนิทรา ขอชื่นตาให้พี่ชื่นใจ


    กลัวฉันกลัวว่าจันทร์จะลาจากฟ้าไกล กลัวฉันกลัวว่าใจจะขาดเมื่อร้างลา
    กลัวฉันกลัวออเจ้าจะไกลไม่เห็นหน้า กลัวชะตาจะมาพรากเรา

    เพียงลับตากระวนกระวายและร้อนรน เพียงมืดมนพี่จะทานทนได้รึเปล่า
    เพียงยิ้มมาหัวใจเบิกบานคลายทุกข์เศร้า เราหนอเรา คะนึงถึงออเจ้าเอย

    กลัวฉันกลัวว่าจันทร์จะลาจากฟ้าไกล กลัวฉันกลัวว่าใจจะขาดเมื่อร้างลา
    กลัวฉันกลัวออเจ้าจะไกลไม่เห็นหน้า กลัวชะตาจะมาพรากเรา

    เพียงลับตากระวนกระวายและร้อนรน เพียงมืดมนพี่จะทานทนได้รึเปล่า
    เพียงยิ้มมาหัวใจเบิกบานคลายทุกข์เศร้า เราหนอเรา คะนึงถึงออเจ้าเอย

    เราหนอเรา

    .

    .

    คะนึงถึงออเจ้าเอย

     

    “ พี่คิดถึงกันนะ เมื่อก่อนเคยรักอย่างไร วันนี้พี่ก็ยังรักกันอย่างนั้น มันไม่เคยเปลี่ยน ”


    “ นี่มัน...อะไรกัน? ” กันถามเสียงสั่นพร่า ดวงตากลมโตมีน้ำตาเอ่อคลอ เขาไม่เข้าใจ สับสนและงุนงงไปหมด เมื่อคืนบอกเลิก ตอนนี้กลับมาร้องเพลงนี้ให้ มันหมายความว่ายังไง?


    “ ขอโทษที่บอกว่าให้เราห่างกันจนกันเข้าใจว่าพี่บอกเลิก ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้ ถึงแม้ว่าพี่จะตั้งใจแต่พอเห็นกันร้องไห้จริงๆ พี่ก็เจ็บปวดไม่ต่างจากกันเลย ”


    “ พี่ตั้งใจ? หมายความว่ายังไงพี่โน่ ” กันปาดน้ำตาออกด้วยตัวเองและหันกลับมาเผชิญหน้ากับโตโน่ นัยน์ตาหวานเปลี่ยนจากสายตาหงอยเหงาเป็นคาดคั้นเอาเรื่อง


    “ กันรู้ไหม พี่รอวันนี้มานานแค่ไหน เราไม่ได้เจอกันเลย พอจะได้เจอกันที พี่ก็อยากจะ...เซอร์ไพรส์กันบ้าง แหะๆ ” โตโน่ยิ้มเจื่อนๆ


    “ เซอร์ไพรส์? อย่าบอกนะว่า... ”


    “ อือ เรื่องทั้งหมด มันเป็นเรื่องโกหก พี่ไม่ได้คิดจะห่างหรือเลิกกับกันจริงๆหรอก พี่แค่อยากทำให้กันประหลาดใจเฉยๆ ”


    “ .... ”


    “ กัน~~


    “ ..... ”


    “ กันครับ ”


    “ ..... ”


    “ กัน...โอ๊ยๆๆ ” โตโน่ร้องลั่นเมื่อกันระดมมือใส่ตามร่างกาย ทั้งหยิกทั้งทุบจนเอนตัวหลบแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือจากเอวบาง


    “ เล่นบ้าอะไรของพี่ รู้ไหมว่ากันเสียใจแค่ไหน มันไม่มีอะไรทำหรือไงถึงต้องเล่นแบบนี้ ไอ้พี่โน่เฮงซวย ไอ้กุ๊ย ไอ้บ้า!!


    “ โอ๊ยๆๆ กันๆๆ พอได้แล้ว พี่เจ็บนะ ” ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น กันจึงหยุดตีแต่ไม่วายเมินไม่ยอมสบตา


    “ พี่ขอโทษ ก็วันนี้วันที่ 1 เมษา มันก็ต้องทำแบบนี้ถึงจะพีคสิ ”


    1 เมษาเหรอ ” กันนิ่งคิดไปสักพักก่อนจะนึกออกว่ามันเป็นวัน April Fools’ Day!!!


    “ หน้ากันมันโง่เหรอพี่โน่!!! ” กันวีนอีกรอบ


    “ ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่แบบนั้น พี่แค่อยากตามเทรนด์บ้างเท่านั้นเอง จริงๆพี่แค่อยากเซอร์ไพรส์ด้วยการร้องเพลงออเจ้าเอยที่กันชอบให้ฟัง แต่ริทมันบอกว่าเชย กันจะเบื่อเอา พี่เลยทำตามแผนที่ริทบอก ”


    “ ริทเหรอ ”


    “ ใช่ ”


    “ เจษด้วยสินะ ”


    “ ใช่ ”


    “ หนอย! ไอ้ริท!! ไอ้เจษ!!


    “ กูขอโทษ! / ผมขอโทษ! ” เสียงตะโกนของริทกับเจษดังมาจากหน้าห้อง ทำให้กันโผจะไปเอาเรื่องแต่โตโน่ไม่ยอมให้ไป


    “ ช่างเขาเถอะน่า อย่าเสียเวลาไปเอาเรื่องในวันนี้เลย เสียเวลาอยู่กับพี่นานๆจะดีซะกว่า ” โตโน่ยิ้มกริ่มก่อนจะก้มลงหอมแก้มนิ่มของคนในอ้อมกอดไปฟอดใหญ่


    “ วันหลังอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ มันไม่สนุกนะพี่โน่ จะเล่นก็หามุขอื่น กันร้องไห้แทบตายเลยรู้ไหม ”


    “ ครับ ต่อไปจะไม่เล่นแบบนี้อีกแล้ว ขอโทษนะ ”


    “ อือ ” กันพยักหน้ารับก่อนจะร้อนไปทั้งดวงหน้าอีกรอบเมื่อโตโน่โน้มมาหอมแก้มอีกฟอด


    “ สุขสันต์วันโกหกนะ ”


    “ .... ”


    “ ถึงวันนี้หรือวันต่อๆไป พี่จะมีเรื่องโกหกหรือปิดบังเยอะแยะไปหมด แต่มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่พี่จะไม่มีวันโกหก ”


    “ .... ”


    “ เรื่องที่พี่รักกัน มันจะเป็นความจริงเสมอและตลอดไป ”


    “ พี่โน่... ”


    “ พี่รักกันนะ ดวงใจของพี่ ” ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนริมฝีปากบางเบาๆซึมซับความหอมหวานให้สมกับความคิดถึงก่อนจะถอนริมฝีปากออก


    “ ฉวยโอกาสหลายรอบแล้วนะ ” กันบ่นงุบงิบกับแผ่นอกแกร่ง โตโน่หัวเราะขำก่อนจะเชยปลายคางอีกคนให้เงยขึ้นสบตา


    “ พี่บอกรักแล้ว กันจะไม่บอกให้พี่ชื่นใจบ้างเลยเหรอ ” ได้ยินดังนั้น กันก็เสหลบสายตา ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างชั่งใจ แต่พอโตโน่โน้มใบหน้าเข้าหาอีกครั้ง เขาก็เอนตัวหลบก่อนจะเอ่ยออกมา


    “ กันก็รักพี่โน่เหมือนเดิมนั่นแหละ ถ้าไม่รักจะนั่งร้องไห้เป็นชั่วโมงๆทำไม ”


    “ ชื่นใจพี่จริงเชียว ” แล้วแก้มใสก็โดนขโมยหอมอีกฟอด


    “ พี่โน่พอได้แล้ว ช้ำหมดแล้วเนี่ย ” กันแกล้งทำหน้างอแต่เมื่อโตโน่หอมอีกก็ไม่ได้หลบ


    “ แล้วเพลงเมื่อกี้เพราะไหม ” ร่างสูงเอ่ยถามถึงเรื่องเพลงที่เฝ้าฝึกเป็นอาทิตย์ๆ


    “ ก็...พอได้อยู่ ไม่ได้เพราะมากแต่เป็นเวอร์ชั่นที่กันชอบที่สุด ขอบคุณนะพี่โน่ที่ทำเพื่อกัน ” กันยิ้มหวาน ทำให้ร่างสูงยิ้มออกมาเช่นกัน ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะประทับจุมพิตอีกครั้งอย่างอ่อนหวาน

     


    ...ไม่ว่านานแค่ไหน ความรักของพวกเขาจะมั่นคงเรื่อยไป...


    .


    .


    .


    .


    .


    บทส่งท้าย

     

    “ ไอ้กัน กูขอโทษ ปล่อยกูไปเถอะ!! ” ริทอ้อนวอนพลางยื้อตัวเองไม่ให้ไปตามแรงฉุดกระชากของเพื่อนสนิทที่มัดข้อมือของเขาทั้งสองข้างด้วยเชือก ย้ำว่า...มัด ด้วย - เชือก!!

     

    แม่ง...ซาดิสต์!!

     

    “ ไม่!


    “ ไอ้กัน! มึงจะพากูไปไหนเนี่ย! ” ริทร้องถาม จู่ๆเพื่อนก็ลากเขาออกจากคอนโดมายังสถานที่มืดๆน่ากลัว ใจของริทเต้นถี่ด้วยความกลัว


    “ กูจะพามึงไปโยนลงบ่อตัวเงินตัวทองไง ให้มันสมกับแผนการของมึงอะ ”


    “ ไอ้บ้า! กูไม่ไป ปล่อยนะเว้ย!!


    “ กูไม่ปล่อย!


    “ ไอ้กันนนนน กูไม่อาววววววววววว กูให้มึงเป็นการะเกดเลยนะเว้ย กูไม่ได้ให้มึงเป็นมธุสร ไอ้บ้ากัน ปล่อยกู!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


    “ วันนี้จะเป็นวันพบญาติของมึง ไอ้เพื่อนเลว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ”


    “ ไอ้กันนนน มึงบ้าไปแล้วเหรอ ไม่เอา ปล่อยยยยยย ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย ”


     

    THE END


    :::Writer Talk:::

    เล่นคอมมาทั้งวัน ลืมลงฟิคซะงั้น 55555555 อย่างน้อยก็พ้นวันมาหน่อยเดียวเองเนาะ แหะๆ 

    สุขสันต์วันโกหกย้อนหลังสองนาทีนะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามยังรอยังเม้นกันอยู่นะคะ

    ช่วงนี้เรางานเยอะมาก เวลาจะไปติ่งก็ไม่มีเลย 55555 ขอโทษที่ช้าจริงๆค่ะ 

    ขอบคุณที่ยังรอฟิคเรานะคะ ไว้พบกันใหม่คราวหน้าค่ะ จะไปแต่งฟิคให้จบแล้วลงทีเดียว >< 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×