ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF: Yaoi The Star) Sassy Love (โน่กัน / อสรพิษ)

    ลำดับตอนที่ #4 : Chocolate Love [AllGun] 4/4

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 58


    =*= 4 =*=

     

     

                    ร่างสูงวิ่งลัดเลาะไปตามทางเดินด้านนอกโรงแรมอย่างยากลำบาก เพราะต้องคอยระวังร่างบางในอ้อมแขนและระวังคนอื่นที่อาจวิ่งตามมาด้วย แขนเล็กโอบรอบลำคอแกร่งแน่นด้วยกลัวตก ทั้งที่ใจก็อยากจะดิ้นหนีเนื่องจากกลัวว่าร่างสูงจะพาเขามาขย้ำมากกว่ามาช่วยเหลือ ขายาวพาวิ่งเข้าซอกนู้นออกเหลือบนี้จนกลับเข้ามาด้านในโรงแรม หลบมุมนู้นทีมุมนี้ทีในที่สุดก็พามาหยุดหน้าห้องๆหนึ่งซึ่งกันจำได้ว่าเป็นห้องพักของพวกเขานั่นเอง  

     

    “ เหวอ... ” กันร้องเบาๆ เมื่อโตโน่ปล่อยให้เขายืนด้วยตัวเองแต่เขากลับเซเกือบล้ม

     

    “ ระวังหน่อยสิกัน เดี๋ยวช้ำหมด รอแป๊บนะ พี่เปิดห้องก่อน ” ร่างตวัดเอวบางมากอดได้ทัน เขาดุเล็กน้อยก่อนจะเริ่มไขประตูอย่างร้อนรน

     

    “ ช้ำเหรอ? ” กันพึมพำ เริ่มหวาดหวั่นพี่ใหญ่แห่งอสรพิษขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่ทันจะคิดหาทางหนี ประตูห้องก็เปิดออกเสียก่อน

     

    “ รีบเข้าไปเถอะ ” โตโน่ดันกันเข้ามาในห้อง ปิดประตูอย่างรวดเร็วและลงกลอนอย่างแน่นหนา

     

                    เขาหมุนตัวกลับมามองกัน ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งโหยง ดวงตาหวานกวาดมองไปรอบห้องก็พบว่าภายในนี้ไม่มีใครเลยนอกจากเขาและโตโน่ ร่างบางพยายามส่งยิ้มเจื่อนๆให้ร่างสูง โตโน่ย่างสามขุมเข้าไปใกล้เรื่อยๆ กันจึงก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆเช่นกัน สมองก็คอยคิดหาทางหลบเลี่ยงไปด้วย แล้วก็นึกถึงเพื่อนร่วมก๊วนสาวอีกสามคนไม่ได้

     

    “ เอ่อ...พี่โน่...กัน...คือ...กันมีเรื่องจะคุยกับพี่แก้ม ขอไปหาพี่แก้มแป๊บนะ ” กันพยายามหาข้ออ้างเพื่อจะให้พ้นจากสถานการณ์แบบนี้ ขาเรียวก้าวไปทางประตูแต่โตโน่รั้งแขนไว้

     

    “ ดึกขนาดนี้จะไปหาผู้หญิงได้ยังไง มันน่าเกลียดนะกัน มีอะไรก็ไว้คุยพรุ่งนี้สิ รีบอะไรมากมาย เรื่องที่จะคุยสำคัญมากหรือไง ”

     

    “ ก็...คือ... ” กันคิดหาข้อแก้ตัวไม่ออก จริงอยู่ว่าการไปหาพี่สาวในยามวิกาลแบบนี้มันไม่เหมาะสม แต่เขาก็กลัวเกินกว่าจะอยู่กับโตโน่ตามลำพัง

     

    “ เอาเป็นว่าเรื่องานนี่ช่างมันไปก่อน พี่ว่ากันไปอาบน้ำดีกว่าจะได้นอนสักที พี่ก็เหนื่อยมากแล้ว พวกนั้นเป็นอะไรกันก็ไม่รู้ วิ่งไปวิ่งมาน่าเวียนหัว แฟนคลับนายก็เหลือเกิน เอาอะไรมาให้กิน พิสดารจริงๆ พวกนั้นก็บ้าอยากลอง กลายเป็นคนเมายาบ้ากันหมด ” โตโน่บ่น เขาทิ้งตัวลงนั่งบนปลายเตียงก่อนจะเอนกายนอนแผ่หลา

     

    “ เอ๋? พี่โน่ไม่ได้กินช็อกโกแลตเหรอ ” กันถามด้วยความสงสัย

     

    “ หือ? ช็อกโกแลตนั่นเหรอ? ไม่ได้กินหรอก ไอ้พวกนั้นแย่งกินกันหมด ดีนะที่พี่แย่งไม่ทัน ไม่งั้นคงเป็นบ้าแบบพวกมัน ” แววตาคมดูไม่แสดงพิรุธอะไรออกมา ทำให้กันวางใจว่าพี่ชายไม่ได้ทานมันจริงๆ

     

    “ นั่นสิ โชคดีจริงๆ ” กันยิ้มกว้าง นั่งลงข้างพี่ชายอย่างสบายใจ

     

    “ ยิ้มอะไร ”

     

    “ เปล่า เออ...แล้วพี่โน่รู้ไหมว่าทำไมทุกคนกลายเป็นแบบนั้น ”

     

    “ รู้สิ ช็อกโกแลตนั่นมันใส่ยาเสน่ห์ไง ไม่ใช่แค่ยาเสน่ห์นะ มีเส้นผมของนายด้วย ”

     

    “ ห๊ะ!!!???? แล้วพี่รู้ได้ไง? ” กันร้องด้วยความตกใจ เขาไม่อยากเชื่อว่ายุคนี้ยังมีเรื่องแบบนี้อีก  

     

    “ ก็หลังกล่องมันเขียนส่วนผสมอยู่ -*- ตอนแรกก็คิดว่าเรื่องเล่นขำๆ พอมาเจอเข้าจริงๆ ขำไม่ออกเลย พวกนั้นหานายกันจ้าละหวั่น ดีนะพี่เจอนายทันเวลา ไม่งั้นหนังสือพิมพ์คงได้ลงข่าวว่านายโดนรุมโทรม ”

     

    “ ตลกแล้ว แต่ไม่อยากจะเชื่อว่ามันยังมีเรื่องแบบนี้อีกนะเนี่ย ” กันพูดพลางนึกเคืองคนให้ว่านอกจากจะทำช็อกโกแลตเป็นลายที่เขาชอบแล้วยังจะอุตส่าห์เขียนส่วนผสมไว้หลังกล่องอีกนะ

     

    ...แม่ม...สงสัยสติไม่สมประกอบ -*-...

     

    “ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ไปอาบน้ำไปจะได้มานอนสักที ยิ่งไม่ค่อยสบายอยู่ ”

     

    “ ครับๆ ” กันตอบรับ ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูและเดินหายเข้าห้องน้ำไป

     

                    ครึ่งชั่วโมงต่อมา กันก็มาเอนกายนอนลงบนเตียงในสภาพที่สวมชุดนอนเรียบร้อย ส่วนโตโน่กำลังอาบน้ำต่อจากเขา ร่างบางนึกทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แล้วรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งร่าง เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเรื่องนี้มันมีอยู่จริง หากเขาไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง ไม่ถูกคนไล่ปล้ำหนักหนาแบบนี้ล่ะก็...เขาคงจะยังไม่เชื่ออยู่แบบนั้นนั่นแหละ

     

                    ร่างบางนอนคิดไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งความอ่อนล้าจากการเดินทางและการวิ่งรอบโรงแรมเริ่มทำพิษ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้เขาเริ่มเคลิบเคลิ้ม ปากบางหาวหลายหน แม้จะพยายามกระตุ้นตัวเองไม่ให้หลับเพราะต้องการรอโตโน่ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความง่วงและเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด

     

                    กันเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งเพราะมีบางสิ่งรบกวนการนอนของเขา มือบางยกขึ้นหมายจะปัดสิ่งรบกวนออกจากต้นคอแต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมือคลำไปโดนบางสิ่งบางอย่างที่เดาได้ว่าเป็นใบหน้าของใครสักคนและสัมผัสได้ถึงสิ่งอ่อนนุ่มที่ประทับลงบนซอกคอของเขา มือบางดันสิ่งนั้นออกก่อนจะลืมตามองสิ่งรบกวนให้ชัดๆ

     

    “ พะ...พี่โน่... ” กันพึมพำแผ่วเบา รู้สึกหายใจติดขัด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่กำลังรุกรานจะเป็นพี่ชายที่บอกว่าไม่ได้ทานช็อกโกแลตนั่น

     

    ...ไม่ได้ทาน แต่ทำไมลักษณะเหมือนคนคิดจะปล้ำเขาแบบนี้ล่ะ!!!...

     

    ร่างสูงไม่ได้ยี่หระต่อปฏิกิริยาของกันแม้แต่น้อย ดวงตาคมยังคงจ้องมองดวงตากลมราวกับจะสะกดร่างบางให้ต้องมนต์มายา กันเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะกวาดตาสำรวจพี่ชายเผื่อจะหลอกตัวเองได้ว่าอีกฝ่ายแค่ละเมอเฉยๆ (เคยเห็นไหมละเมอเดินอะไรแบบนี้ T^T) แต่สภาพเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของโตโน่มันจะไม่ช่วยให้เขาหลอกตัวเองได้เลย

     

    ...ไม่ใช่เหมือนคนคิดจะปล้ำ แต่มันกำลังปล้ำแล้วเขาตื่นมาขัดจังหวะต่างหาก...!!!

    พะ...พี่จะทำอะไร ร่างบางเอ่ยถามเสียงสั่น สายตาสอดส่ายหาหนทางหนีรอด

    พี่เชื่อว่ากันดูออก เด็กน้อยของพี่ ทำไมวันนี้น่ารักขนาดนี้นะ นิ้วเรียวยาวถูกยกขึ้นมาแตะเบาที่ริมฝีปากบางและไล้ไปบนกลีบปากล่างแผ่วเบา น้ำเสียงนุ่มที่นานครั้งจะได้ยินสักทีและดวงตาคมที่มองมาอย่างหวานเยิ้มทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวแปลกๆ

     

    ...ใช่...สั่นไหว...และขนลุกด้วย...!!!

     

    “ พี่โน่...กะ...กันว่า...อย่าทำหน้าแบบนี้เลยนะ น่ากลัว...ฮ่าๆ ” กันพยายามจะเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ดูท่าว่าจะยาก พี่ชายของเขาไม่มีท่าทีเปลี่ยนไปสักนิด

     

    “ น่ากลัวเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ถ้ากันเป็นเด็กดี รับรองว่าจะไม่เจ็บสักนิด ”

     

    “ กันไม่ใช่เด็กดีหรอก กันดื้อจะตาย ”

     

    “ เป็นเด็กดีสิ กันเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย บอกอะไรก็เชื่อฟัง แล้วก็รับทุกอย่างได้ง่ายเช่นกัน ” โตโน่เน้นเสียงหนัก ชวนให้คนฟังหวั่นใจมากกว่าเดิม

     

    “ บางทีก็รับได้ยากนะ ”

     

    ...โดยเฉพาะไอ้นั่นของพี่...!!!

     

    “ ไม่ยากหรอก พี่จะค่อยๆใส่ ” พูดไม่พอยังเอื้อมมือมาลูบสะโพกของเขาด้วย!!

     

    “ ไม่นะ..อุ๊บ!!!

     

    ไม่ทันได้โวยวายก็ถูกคนตัวโตกว่าประทับริมฝีปากลงมาปิดกั้นเสียงร้องทันที กันพยายามเบี่ยงใบหน้าหลบทำให้โตโน่ต้องเอื้อมมือมาคว้าปลายคางเพื่อยึดไว้ คนตัวเล็กกว่าขืนได้ไม่นานก็ถูกความอ่อนโยนของร่างสูงชักนำให้เคลิบเคลิ้มไป แต่เมื่อลิ้นร้อนพยายามจะแทรกเข้าไปในโพรงปาก กันก็เบิกตากว้างและยกขาถีบพี่ชายทันที    

    ร่างสูงผงะหงายหลังตกเตียง ร่างบางอาศัยจังหวะนั้นกระถดตัวจะหนีออกจากเตียง แต่ร่างสูงอาศัยความไวกว่าลุกพรวดมาคว้าตัวได้ทัน ปลุกปล้ำอยู่นาน ในที่สุดร่างบางก็กลับมานั่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา โตโน่โอบรัดกันจากด้านหลังอย่างแนบแน่น แววตาอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นแววตาของผู้ล่า น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเย็นเยียบจนกันขนลุกซู่

     

    “ อย่าพยายามขัดขืนเลยน่า กันก็รู้ว่าเอาชนะพี่ไม่ได้ พี่ไม่อยากทำให้กันเจ็บตัวนะ ” สันจมูกสูดดมกลิ่นหอมของเรือนผมนุ่มไล่มาจนถึงต้นคอ ริมฝีปากกดจูบเบาๆบนไรผมอ่อนที่ระท้ายทอย

    “ พี่โน่...อื้อ...ปล่อยกันนะ...ไม่เอา...อ๊ะ... ” กันสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าฟันคมกำลังขบเม้มตรงซอกคอของเขา พยายามเบี่ยงคอหลบแต่พอหลบได้ โตโน่ก็จะจู่โจมอีกด้านแทน

    “ อย่าหลบสิกัน ” โตโน่พลิกร่างของกันให้หันมาเผชิญหน้ากับตนเอง รวบร่างบางเข้ามากอดก่อนจะพรมจูบไปตามแก้มนิ่ม ข้อมือเล็กทั้งสองข้างถูกรวบยึดไว้ด้วยมือเดียวและบีบแน่นจนเจ็บ

     

    “ กัน...กันไม่ชอบ...ไม่เอาแบบนี้... ” ดวงตาหวานเอ่อคลอน้ำสีใสเมื่อรู้สึกว่าหมดทางหนี

     

    “ อย่าร้องนะกัน พี่สัญญาว่ากันจะไม่เจ็บ พี่รักกันมาก พี่กลัวว่าคนอื่นจะมาแย่งกันไป เพราะฉะนั้น...ให้พี่ได้เป็นคนแรกของกันเถอะนะ ” ดวงตาคมสบดวงตาหวานเนิ่นนาน ความต้องการที่สะท้อนผ่านแววตาทำให้ร่างบางประหม่าจนต้องหลบตาเสียเอง

     

    “ อ๊ะ...อย่า...กันกลัว... ” กันร้องบอกเมื่ออีกฝ่ายดันตนเองลงนอนและตามมาคร่อมทับ น้ำตาเม็ดสวยไหลกลิ้งจากหางตาช้าๆ

    “ อย่ากลัวเลย พี่จะทะนุถนอมนายให้มากๆ ” ร่างสูงปลอบประโลมพร้อมกับเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายแผ่วเบา ริมฝีปากพยักพรมจูบไปตามรอยน้ำใส

    “ อื้อ...ไม่เอา! ” กันดิ้นแรงขึ้นเมื่อมือหยาบเริ่มร่นเสื้อของเขาขึ้นเรื่อยๆ

     

    “ พี่บอกว่าอย่าดิ้นไงกัน ดิ้นรนยังไงก็ไม่มีประโยชน์ พวกที่เหลือมันรอปล้ำนายทั้งนั้น คิดเอาว่าอยากรับของพี่คนเดียวหรืออยากรับของพวกนั้นด้วย ”

     

    ...ไม่เอาสักคนได้ไหมล่ะ...!!!

     

    “ พี่ไม่ลองเสียสละไปให้พวกนั้นปล้ำก่อนล่ะ แค่นี้กันก็รอดแล้ว รักกันนี่ โดนเสียบแทนสักทีจะเป็นพระคุณยิ่ง! ” กันเบะปาก พยายามดิ้นอีกครั้งแต่โตโน่ก็โถมทับลงมาทั้งตัว

     

    “ ดิบๆเถื่อนๆผิวหยาบๆอย่างพี่มันจะไปสู้เนื้อนุ่มๆหอมๆของกันได้ยังไง กันของพี่เซ็กซี่ขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะจริงๆ พี่รอวันนี้แทบทนไม่ไหว ” ร่างสูงพูดเรียบๆ ไม่หลงกลต่อปากต่อคำกับกัน

     

    “ ถ้ารู้ว่ามาเพื่อถูกปล้ำ กันไม่มาหรอก ปล่อยนะ!

     

    “ ไม่เอาน่ากัน อย่าดื้อสิ ”

     

    “ กันกลัวจริงๆนะ ” แล้วร่างบางก็ปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น

     

    “ กัน.... ”

     

    “ กันเหนื่อย ทำงานก็เหนื่อย ปวดหัวก็ปวดไปหมด ไข้ก็เพิ่งลด แล้วก็ต้องมาวิ่งหนีคนนู้นทีคนนี้ทีเหมือนคนบ้า พอติดว่าจะพึ่งพี่ได้ก็มาทำแบบนี้อีก ทำไมล่ะ กันทำอะไรผิด ทำไมต้องเจอเรื่องพวกนี้ ทำไมไม่มีใครเข้าข้าง ไม่มีใครคิดจะช่วยบ้างเลย ทำไมพี่โน่ ” กันสะอื้นตัวโยน

     

    “ กัน...หยุดนะ ไม่ร้อง เด็กดีของพี่ ” โตโน่เช็ดน้ำตาให้กันอย่างอ่อนโยน

     

    “ อย่าทำกันได้ไหม ” กันเว้าวอน

     

    “ พี่ขอโทษนะ พี่รักกัน... ”

     

    “ ..... ”

     

    “ ...มากพอๆกับความต้องการ ”

     

    ...เชี่ย!!! บีบน้ำตาเป็นสายยังไม่ใจอ่อนอีก!!!!!!...

     

    “ พี่โน่...อื้อ!! ” 

                    ไม่ทันได้เอ่ยอะไร ริมฝีปากหยักก็แนบลงบนริมฝีปากบางแผ่วเบาและนุ่มนวล ไม่มีการรุกล้ำที่ตะกละตะกลามเหมือนคนอื่นๆ สัมผัสอ่อนโยนทำให้คนไม่เคยเริ่มเคลิบเคลิ้ม แรงดิ้นรนลดน้อยลงพร้อมกับดวงตาปรือปรอย เรียวลิ้นร้อนไล้ชิมกลีบปากล่างก่อนจะพยายามแทรกเข้าไปในโพรงปากบาง กันที่ไม่ได้ตั้งตัวพอถูกดุนดันมากขึ้นจึงยอมเผยอริมฝีปากออกเปิดทางให้ลิ้นชื้นมาลิ้มลองรสหวานด้านใน กวาดต้อนลิ้นเล็กให้ตอบสนองอย่างไม่ประสีประสา   

     

    จุมพิตยาวนานช่วงชิงลมหายใจของกันจนเกือบหมด เสียงครางประท้วงในลำคอทำให้โตโน่ผละริมฝีปากออกอย่างเสียดาย ดวงตาเรียวจ้องมองลึกลงไปในดวงตาหวานฉ่ำคู่งามที่ปรือขึ้นช้าๆ ผิวแก้มนุ่มเกิดสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายอย่างน่าเอ็นดู

     

    “ พะ...พี่โน่...คือ...แค่นี้...ได้ไหม... ” กันถามอุบอิบในลำคอ

     

    “ ได้ยินไม่ชัดเลย ขออีกครั้งได้ไหม ” ร่างสูงยิ้มยั่วหยอกเย้าก่อนจะฝังปลายจมูกลงบนแก้มนิ่มและซุกไซ้ลงมายังซอกคอระหง

     

    “ อื้อ...พอ...นะ...ได้...อา...ไหม... ” เสียงหวานขาดห้วง ร่างบางสั่นสะท้านกับสัมผัสแปลกใหม่อันอ่อนโยนที่ไม่เคยได้รับจากใคร ดวงตาคมที่มองมาเหมือนสะกดให้เขาตกอยู่ในภวังค์

     

    “ ไม่ได้ยินเลยที่รักของพี่ ร้อง...ดังๆ...สิ ” โตโน่กระซิบข้างหู ก่อนจะขบเม้มติ่งหูเบาๆ

     

    “ กวน...กันรู้พี่ดะ...เฮ้ย... ” กันเบิกตาโพลงเมื่อจู่ๆโตโน่ก็ถอดเสื้อของตัวเองออกจนเผยให้เห็นแผงอกกำยำ

     

    “ อย่าตกใจไปเลย อีกหน่อยก็ต้องเห็นทุกวัน ” โตโน่ยกยิ้ม อาศัยจังหวะที่กันกำลังตกตะลึงร่นเสื้อของคนใต้ร่างขึ้นจนไปกองเหนือหน้าอก

     

    “ อ๊ะ...! ” กันร้องพลางสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นชื้นที่ยอดอก นั่นเรียกสติให้คืนมาอีกครั้ง

    โอ้ย!!!

    เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเมื่อกันกระแทกเข่าเข้าไปที่จุดศูนย์กลางของผู้รุกรานอย่างแรง เขายันกายขึ้นจัดเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว อาศัยจังหวะที่อีกคนยังจุกอยู่ขยับลงจากเตียงเตรียมวิ่งไปทางประตูห้องแต่ก็ต้องเสียหลักเมื่อแขนเล็กถูกดึงกระชากกลับมาทางด้านหลังอย่างรุนแรง กันกลับเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของโตโน่อีกครั้ง เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียงและกระโดดขึ้นคร่อม

    ก็บอกแล้วว่าอย่าดิ้น ทำไมพี่พูดกันไม่ฟัง โตโน่เอ่ยขึ้นอย่างเยียบเย็น

     

    “ กันกลัวจริงๆ หยุดเถอะพี่โน่ ” กันสะอื้นไห้อีกครั้ง คราวนี้เขากลัวจริงๆ ไม่ได้บีบน้ำตาเหมือนคราวก่อน

     

    “ บอกแล้วไงว่าไม่ต้องกลัว พี่จะอ่อนโยนให้มาก ถ้ากันไม่ดื้อ มันจะไม่เจ็บ เชื่อพี่เถอะนะ เด็กน้อยของพี่ พี่จะทำเบาๆ พี่สัญญา ”

    สองสายตาสบมองกันอีกครั้ง ความอ่อนโยนในดวงตาเรียวเล็กเหมือนเวทย์มนต์ที่สะกดให้กันหยุดดิ้นรนหลีกหนี หยุดน้ำตาทุกหยาดหยด ตากลมปิดสนิทรับสัมผัสแผ่วเบาที่ทาบทับลงมาบนเปลือกตาบางละเรื่อยมาจนถึงสันจมูกก่อนจะมอบความหวานลึกล้ำที่กลีบนุ่ม ริมฝีปากดูดดึงกันอย่างถึงใจ ก่อนเรียวลิ้นอุ่นชื้นจะไล้เลียเพื่อเปิดทางเข้าไปแลกเปลี่ยนความหอมหวานภายในอีกครั้ง

    จุมพิตยาวนานและอ่อนหวานทำให้กันเคลิบเคลิ้มราวกับตกในมนต์สะกดอีกครั้ง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเสื้อนอนตัวโปรดถูกถอดออกตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าถูกประทับตราแสดงความเป็นเจ้าของไปกี่รอย ไม่รู้ว่าเผลอตัวตอบรับสัมผัสวาบหวามที่อีกฝ่ายมอบให้ไปแค่ไหน ไม่รู้ว่าสุดท้ายทำไมถึงมานอนตัวเปลือยเปล่าใต้ร่างแกร่งได้

     

    “ กันของพี่สวยจริงๆ ” ดวงตาคมมองร่างบางด้วยความหลงใหล ริมฝีปากพึมพำราวกับละเมอเพ้อ  

    สายตาไล่มองไปหยุดยังส่วนสำคัญ ลิ้นร้อนเลียริมฝีปากด้วยความกระหาย กระถดกายถอยต่ำ จับขาเรียวให้อ้าออกช้าๆและแทรกตัวไปอยู่ตรงกลาง ประคองมันด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนจะโน้มศีรษะลงต่ำหมายจะลิ้มรสความหวานของร่างบางเต็มที่

     

    .

    .

    .

     

     

    กรอบ!!

     

    “ โอ๊ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    ร่างสูงร้องลั่นเมื่อฟันคมขบกัดโดนบางสิ่งที่ค่อนข้างแข็งเต็มๆ เขาลุกพรวดจากเตียงนอนก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างตื่นตระหนก ลมหายใจอุ่นร้อนหอบถี่กระชั้น เหงื่อโทรมกาย เขาพยายามใช้มือลูบแผ่นอกตัวเองจนรู้สึกว่าหัวใจเริ่มเต้นจังหวะปกติ

     

    แล้วเมื่อตั้งสติได้ เขาจึงเริ่มมองสำรวจตัวเองและก็ต้องแปลกใจไม่น้อยที่ยังอยู่ในชุดลำลองเดียวกับตอนที่มาถึงโรงแรม บนตักมีขวดแบรนด์รังนกหล่นอยู่ เขาหยิบมันมาพิจารณาด้วยความสงสัย ก่อนจะรู้สึกปวดฟันแปลบๆ

     

    “ จะมองมันอีกนานไหมพี่โน่ ” เสียงหวานที่คุ้นเคยทำให้ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบว่ากัน ริท ไอซ์ กำลังยืนมองเขาอยู่ที่มุมห้อง

     

    “ ไปทำอะไรกันตรงนั้น แล้วที่นี่ที่ไหน ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่ เมื่อกี้ไม่ใช่แบบนี้นี่! ” โตโน่แปลกใจไม่น้อย จำได้ว่าห้องของเขามันสไตล์เรอเนสซองซ์แล้วนี่อะไร ทำไมกลายเป็นโมเดิร์นไปได้ล่ะ???    

     

    “ พี่พูดบ้าอะไร ไม่ใช่แบบนี้แล้วจะให้เป็นแบบไหน ” ริทถามอย่างงุนงง

     

    “ ห้องที่พี่อยู่เมื่อกี้มันไม่ใช่แบบนี้ พวกนายก็ไม่อยู่ มีแค่พี่กับกันแถมเรากำลัง...เอ่อ... ” โตโน่หน้าแดงวาบ แน่นอนว่าลักษณะของเขาทำให้คนโดนพาดพิงเดาได้เลย

     

    “ พี่กำลังคิดว่าตัวเองทำอะไรกับพี่กัน ” ไอซ์ชิงถามตัดหน้ากัน

     

    “ เอ่อ... ”

     

    “ เราอยู่ในห้องนี้มาตั้งแต่แรก สภาพมันก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่มาถึง แล้วพี่ก็นะ...บอกใครต่อใครว่ามาเฝ้ากันแต่ตัวเองหลับเฉยเลยแถมยังทำหน้าทำตาแปลกๆ ส่งเสียงแปลกๆจนกันตื่น!

     

    “ ห๊ะ? งั้นเหรอ ” ร่างสูงพยายามทบทวนความทรงจำ ก่อนจะเริ่มประติดประต่อเรื่องได้

     

    พวกเขามาถึงโรงแรม FAIRYTOPIA สุดหรูซึ่งเพิ่งเปิดบริการได้เพียงไม่นาน ตัวอาคารภายนอกซึ่งได้รับการก่อสร้างอย่างแข็งแรงถูกเนรมิตให้คล้ายดินแดนสรวงสรรค์และภายในก็ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามราววิมานของเทวดานางฟ้า ทั้งอาคารสว่างไสวด้วยแสงไฟจากแชนเดอเลีย ลูกค้าผู้มาใช้บริการและพนักงานต้อนรับในชุดสูทสีขาวสะอาดตาเดินกันพลุกพล่าน ดูยังไงก็ไม่เหมือนโรงแรงผีสิงสักนิด แล้วจากนั้น...   

     

    ...เขาพากันที่เมาเรือมายังห้องที่จองไว้...

     

    ...ห้ามกันเล่นน้ำและให้นอนพัก...

     

    ...เขาเฝ้ากันอยู่ในห้อง...

     

    ...แล้วก็...เผลอหลับ -_-…   

     

    “ อะไรวะ นี่ฝันเหรอเนี่ย บ้าเอ๊ย เหมือนจริงชะมัด!!! ” โตโน่พึมพำเบาๆ แต่ดูเหมือนจะไม่รอดพ้นจากคนหูดีเท่าไหร่ 

     

    ...ไอ้ที่เห็นว่ากันหนีผี หนีพวกริท จนมาถึงตอนจะถูกเขาปล้ำ...

     

    ...ทั้งหมดนี้มัน คือ ความฝัน!!!...

     

    “ โธ่...เสียดาย ” โตโน่ขยี้หัวอย่างหงุดหงิด

     

    “ เสียดายอะไรพี่โน่!! แสดงว่าที่ส่งเสียงแปลกๆ ทำท่าแปลกๆ แล้วบอกว่าอยู่กับกันสองคนในห้อง คือพี่ฝันลามกใช่ไหม? พี่ฝันว่าซั่มกันอยู่สินะ!!! ” กันปรี๊ดแตก โยนหมอนใกล้ตัวใส่พี่ชายจังๆ

     

    “ โอ๊ย...พี่ขอโทษ ก็บรรยากาศมันเป็นใจนี่ ” โตโน่ถลาลงจากเตียงจะมาหากัน

     

    “ หยุดอยู่ตรงนั้น!! ห้ามเข้าใกล้กันเกิน 2 เมตร!!

     

    “ ตลก!! ตัวเท่าลูกแมวคิดว่าจะทำอะไรพี่ได้ห๊ะ!? แล้วเมื่อกี้ใครเอาขวดแบรนด์ใส่ปากพี่! ” โตโน่เริ่มไล่เบี้ยเจ้าตัวดีทั้งหลาย เดาไม่ยากว่าเมื่อกี้ที่กัดมันคืออะไร!?

     

    “ พี่ริท! ” ไอซ์ชี้ไปทางริททันที สายตาเชือดเฉือนของโตโน่ทำให้เขาต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน

     

    “ อ้าว ไอ้งูเห่า ” ริทเตรียมจะเฉ่งน้องเล็ก

     

    “ จริงหรือเปล่าริท ” โตโน่เค้นเสียงถาม

     

    “ อ่า...นิดหน่อย ฮ่าๆ เอาน่า ก็พี่อยากทำเสียงประหลาดทำไม ริทรำคาญเลยต้องหาอุปกรณ์ช่วยอุด ดีเท่าไหร่ไม่หาเชือกมามัดด้วย คนบ้าอะไรดิ้นไปทั่วเตียง ”

     

    “ มากัดมันบ้างไหมจะได้รู้ว่านิดหน่อยหรือเปล่า ” โตโน่เค้นเสียงรอดไรฟัน ย่างสามขุมเข้าหาเจ้าตัวดี จนริทต้องหลบหลังกัน

     

    “ อ้าว ริท ไหนบอกว่าจะปกป้องกัน เพราะริทเป็นพี่ไง ” กันขมวดคิ้วอย่างไม่ปลื้มเท่าไหร่

     

    “ โยนความเป็นพี่ทิ้งทะเลไป งานนี้รวมกันเราตาย แยกเถอะสหาย คงไม่วายชนม์ ” ริทพูดรัวก่อนจะวิ่งอ้าวหลบหลีกโตโน่ไปทางประตูห้องนอน

     

    “ เฮ้ย ไอ้เตี้ย!!!! ” กันร้องเรียกคนที่เอาตัวรอด แต่ไม่ทันแล้ว ริทออกจากห้องไปเรียบร้อย

     

    “ ผมไม่เกี่ยวนะ พี่เคลียร์กันเองแล้วกัน ” แล้วไอซ์ก็วิ่งอ้าวตามริทไปติดๆ

     

    “ อะไรเนี่ย!!! ” กันจะคว้าก็ไม่ทันแล้ว ตอนนี้กลายเป็นว่ากำลังเผชิญหน้ากับพี่ใหญ่ตามลำพัง

     

    “ กัน... ”

     

    “ เอ่อ...กันไม่รู้เรื่องนะพี่โน่ กันยอมให้พี่ฝันว่าเรามีอะไรกันสัก 63 ครั้งเลย แต่อย่าตีกันนะ ” กันเบะปากราวกับจะร้องไห้ พอเห็นโตโน่เงื้อมือขึ้น ดวงตาหวานก็เบิกโพลงก่อนจะหลับตาปี๋ด้วยความกลัว

     

    หมับ!

     

    “ เอ๋? ” ดวงตาหวานลืมขึ้นช้าๆอย่างประหลาดใจ แทนที่จะรู้สึกเจ็บแต่กลับกลายเป็นสัมผัสอ่อนโยนที่ทาบลงบนหน้าผาก เขามองร่างสูงด้วยความไม่เข้าใจ

     

    “ ไข้ลดแล้วนะกัน หายปวดหัวหรือยัง ” เสียงทุ้มและสายตาทอดมองร่างเล็กกว่าอย่างอ่อนโยน ทุกสัมผัสทะนุถนอมราวกับว่าคนตรงหน้าเป็นแก้วใสเปราะบางที่หากรุนแรงเพียงนิดคงแตกสลาย

     

    “ เอ่อ...หายแล้วๆ ” กันรีบถดกายหนี เขาไม่ชินกับความอ่อนโยนแบบนี้เลยสักครั้ง ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ร่างสูงไม่เคยอ่อนโยนกับเขาหรอกแต่พออยู่ด้วยกันตามลำพัง การปฏิบัติที่ร่างสูงมีต่อเขาจะเปลี่ยนแปลงไปเสมอ

     

    “ กลัวพี่เหรอ พี่ไม่ตีกันหรอกน่า ” โตโน่ยิ้มอ่อน ทุกอากัปกิริยาของกันช่างน่าเอ็นดูในความรู้สึกของเขามากนัก แม้จะชอบอวดเก่งไม่กลัวใครแต่พอเป็นเรื่องหัวใจ กันกลับไร้เดียงสา

     

    ...อาจเป็นเพราะไม่เคยเป็นฝ่ายถูกคนรักดูแล...

     

    “ ก็พี่โน่เงื้อมืออย่างกับจะชกเลย ใครมันจะไม่กลัว ” กันพูดงุบงิบ พยายามหลบสายตาที่มองมา รู้สึกว่ามือเริ่มชื้นเหงื่อ หัวใจเต้นระรัว ประหม่ากับสถานการณ์นี้

     

    “ อ่า...พี่ผิดสินะ พี่ขอโทษ อย่ากลัวพี่เลย ”

     

    ร่างสูงรั้งร่างบางเข้ามากอด ปลายจมูกสูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวของกันเข้าเต็มปอด ถึงจะชอบแกล้งบอกว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กซกมก ไม่ชอบอาบน้ำ เนื้อตัวมีขี้ไคลหรือเป็นกลากเกลื้อนอะไรก็ตาม เขาก็ยังชอบกลิ่นของกันที่สุด ชอบทั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ความงดงามในฝันยังไม่ได้ครึ่งของความจริงที่เขาเคยสัมผัสโดยที่เจ้าตัวไม่เคยรับรู้นับครั้งไม่ถ้วน -.,-

     

    ...และใครรู้แล้วก็ห้ามบอกกันด้วย ไม่งั้นจะจับโยนทะเลให้หมดเลย -*-...

     

    “ เอ่อ...พี่โน่ กันไม่กลัวแล้ว ปล่อยเถอะ ” กันพยายามดันตัวออก

     

    “ เดี๋ยวนี้หวงตัวหรือไง พี่กอดนิดกอดหน่อยไม่ได้เลย ” โตโน่เอ่ยแซวพลางอมยิ้มขำ เขายอมปล่อยเด็กแสบให้เป็นอิสระ

     

    “ ไม่ได้หวงสักหน่อย แต่พี่โน่กอดทีไรชอบแกล้งเอาจมูกมาดันคออยู่เรื่อยเลย =^=

     

    “ ถ้าคิดว่าที่ทำไปเพราะพี่แกล้งแล้วสบายใจก็เอาตามที่กันเข้าใจเลย ” โตโน่บอก เขาซุกเพื่อไซ้ซอกคอเลยนะ ในหัวมีแต่ความหื่นล้วนๆเลย~ คิดได้ยังไงว่าเขาแกล้งดันเฉยๆ

     

    “ อ่า.... ” กันรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวมากขึ้น อันที่จริงก็รู้หรอกว่าทุกครั้งที่ถูกกอดมักจะถูกลวนลามเสมอ ไม่ใช่แค่โตโน่ แต่รวมถึงริทด้วย -_-  

     

    “ ไปนั่งเล่นที่โซฟากันเถอะ พี่ว่าเรายืนนานแล้วนะ เดี๋ยวกันมึนหัว ” คำพูดของเขาทำให้กันรีบพยักหน้ารัวๆ โตโน่จึงยิ้มขำออกมาก่อนจะพากันมานั่งที่โซฟากำมะหยี่สีครีม ดันร่างบางให้เอนมาซบแผ่นอก สองแขนโอบกอดร่างบางเอาไว้

                
    “ พี่โน่ กันนั่งเองได้ ไม่ต้องพิงไหล่พิงอกแบบนี้หรอก ”

     

    “ ขออยู่แบบนี้ไม่ได้เหรอ พี่คิดถึงกันจะแย่แล้วนะ เราไม่เจอกันมานานมาก ” น้ำเสียงเหงาๆของโตโน่ ทำให้กันหยุดดิ้นและยอมให้กอดนิ่งๆ

     

    “ พี่โน่เหงาก็มาหากันบ่อยๆได้ ”

     

    “ เรางานเยอะนี่นา พี่ไม่อยากกวน พี่ไม่อยู่ใกล้ๆก็ดูแลตัวเองดีๆนะกัน ”

     

    “ อื้อ ” กันตอบรับเบาๆ ก่อนจะนิ่งงันกันอยู่อย่างนั้น

     

                    ร่างสูงกระชับกอดร่างบางที่เขาแสนรักแน่น นึกถึงวันแรกที่เราสองคนได้เจอกัน ผู้ชายบ้านๆกับเด็กกะโปโล 2 คน พวกเราอยู่ด้วยกัน 3 คน สนิทกันจนเกิดกระแสคู่จิ้นของเขากับริท ทีแรกเขาไม่คิดอะไรเห็นมันเป็นเรื่องขำๆด้วยซ้ำ แปลกใจเล็กน้อยว่าเขาดูไม่สนิทกับน้องชายอีกคนเหรอแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ จนกระทั่งออกจากบ้านและมีงานด้วยกันบ่อยขึ้น ความผูกพันมันยิ่งแน่นแฟ้นจนกลายเป็นความรักไปโดยไม่รู้ตัว เขามีความสุขที่ได้อยู่กับกันจนวันหนึ่งเราต้องแยกกันเพราะงานที่รัดตัวและทางเดินที่แตกต่างกัน

     

    ...แต่ไม่มีวันไหนที่ไม่รัก กัน...

     

    “ ถ้าเหนื่อยนักก็พักบ้างนะ แล้วก็จำไว้ว่ากันมีพี่เสมอ ” ร่างสูงกระซิบบอกพลางกดจูบเบาๆบนขมับบาง อยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลาเหล่านี้ให้ลึกสุดในความทรงจำ  

     

    “ งั้นพี่โน่ก็ต้องรู้เหมือนกันว่า หากวันใดที่ไม่มีใคร พี่จะมีกันอยู่ข้างหลังพี่เสมอ แล้วก็จะรอจนกว่าเราจะมายืนคู่กันอีกครั้ง ” กันยิ้มหวานแต่ดวงตาหวานกลับมีน้ำตาเอ่อคลอจางๆ

     

    “ อย่าร้องสิ เรามีเวลาอยู่ด้วยกันตั้งหลายวัน ไปเที่ยวกันดีกว่านะ ” โตโน่ประคองดวงหน้าหวานก่อนจะหอมแก้มนิ่มอย่างอ่อนโยน

     

    “ อื้อ พี่โน่ก็ยิ้มกว้างๆสิ ” มือบางดึงแก้มพี่ชายพลางโยกไปมา

     

    “ แก้มพี่จะเหี่ยวหมดแล้วเนี่ย ไปๆ ไปตามพวกนั้นกันดีกว่า เราต้องซื้อของมาปาร์ตี้เย็นนี้ ”

     

    ร่างสูงลุกขึ้นพลางดึงร่างบางให้ลุกขึ้นตาม โตโน่เดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ ส่วนกันก็เดินไปใส่รองเท้า แต่ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทั้งสองคนหันไปมอง ก่อนที่กันจะเป็นฝ่ายเปิดประตูออก

     

    “ หือ? ไม่เห็นมีใครเลย ”

     

    กันมองซ้ายขวา ก่อนที่สายตาจะปะทะกับกล่องขนมบนพื้นพรมสีแดงหน้าห้อง มือบางหยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัย ด้านหน้ากล่องเขียนชื่อของเขาแต่ก่อนจะได้พิจารณาต่อ เขาก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งเคลื่อนไหวผ่านหางตา กันหันไปมองแล้วเขาก็พบผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันในชุดกระโปรงสีชมพูหวานกำลังแอบมองเขาอยู่มุมหนึ่ง พอเห็นเขามองมาเธอก็มีท่าทีเขินอาย โค้งให้เขาเล็กน้อยก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินจากไป

     

    “ แฟนคลับเราขี้อายตั้งแต่เมื่อไหร่ ” กันพึมพำก่อนจะหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ

     

    “ ใครมาเหรอกัน ”

     

    “ แฟนคลับเขาเอาขนมมาให้ ” กันพูดพลางเดินกลับมาในห้องและแกะห่อขนมออก

     

    “ เฮ้ย!!! มีแบบนี้ด้วย!!! ” กันตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ ในมือโชว์กล่องช็อกโกแลตให้โตโน่ดู มันเป็นลายซูเปอร์ฮีโร่จากภาพยนตร์หลายๆเรื่องซึ่งกันชอบมาก

     

    “ เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!! ” โตโน่ตาเหลือกเมื่อเห็นมัน

     

    ...ช็อกโกแลตนั่นมันมายังไงวะ...!!!!

     

    “ เอาทิ้งไปกัน! ” โตโน่ถลาจะไปคว้าขนมแต่กันกลับเบี่ยงตัวหลบ

     

    “ จะบ้าเหรอพี่โน่!!

     

    “ มันเป็นช็อกโกแลตใส่ยาเสน่ห์!!

     

    “ ไร้สาระ! พี่ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน ”

     

    “ ก็พี่ฝัน! ” แล้วโตโน่ก็เล่าเรื่องที่ตนเองฝันให้กันฟังอย่างละเอียดยิบ!

     

    “ พี่น่าจะไปแต่งนิยายนะ จะบ้าเหรอใครมันจะมาปล้ำกัน ไม่ได้น่ารักอะไรขนาดนั้นสักหน่อย ” กันทำหน้ายู่ ก่อนจะหยิบขนมไปแช่ตู้เย็น

     

    “ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะกัน ”

     

    “ ไม่ได้ลบหลู่ แต่พี่ดูนี่ กล่องมันไม่มีส่วนผสมอะไรแบบที่พี่บอกสักนิด!!! ” กันหยิบมาให้โตโน่ดู ร่างสูงรับมาพิจารณาและพบว่ามันปกติดีทุกอย่าง

     

    “ เอ่อ...พี่คงคิดมากไป ฮ่าๆ ” โตโน่หัวเราะเจื่อนๆ นอกจากจะไม่มีสรรพคุณยาเสน่ห์แล้ว มันยังเป็นช็อกโกแลตสั่งทำจากร้านดังด้วย ร้านนี้เขาก็รู้จักดีเพราะมีสาขาทั่วกรุงเทพเลยทีเดียว

     

    “ ไปกันได้แล้วพี่โน่ ไปๆๆ ” กันนำช็อกโกแลตไปเก็บในตู้เย็นเหมือนเดิมก่อนจะเดินไปจูงมือหนาพากันออกจากห้องพัก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าควรจะเอาไปอวดริทและชวนคนอื่นทานด้วยกัน เขาจึงกลับมาหยิบมันอีกรอบแล้วจึงเดินนำโตโน่ไป

     

    “ กัน ” จู่ๆร่างสูงก็หยุดเดินและเรียกคนตัวเล็กที่กำลังเปิดประตูห้อง

     

    “ หืม? ” กันหันมาตามเสียงเรียก

     

    จุ๊บ!!

     

    “ หวานที่สุด~ ” โตโน่จุ๊บที่ปากบางและผละออกอย่างรวดเร็ว เขายิ้มเจ้าเล่ห์

     

    “ อะ...ไอ้พี่โน่!!! บอกแล้วไงว่าห้ามทำแบบนี้ในที่สาธารณะ!! ” กันทำหน้างอ

     

    “ โธ่...ขอออกสื่อบ้างสิ หลังกล้องตลอดเลย แต่จะว่าไปหลังกล้องก็ดีนะ เพราะนอกจากจูบแล้วยังได้....................... ” โตโน่ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินเบียดกันออกจากห้องไป

     

    “ เดี๋ยวสิพี่โน่ มาพูดให้จบก่อนนะ!! ” กันวิ่งตามร่างสูงไปติดๆ จิตใจจดจ่อกับถ้อยคำชวนสงสัย ทำให้ไม่ได้สังเกตบางสิ่งหน้าห้อง   

     

                    กระดาษโน้ตสีเขียวอ่อนลอยขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อยตามแรงลมจากการวิ่งผ่านของร่างบางก่อนจะปลิวลงไปนอนนิ่งบนพื้นหน้าห้องเช่นเดิม ตัวอักษรสวยงามเรียงร้อยเป็นถ้อยคำที่คนเขียนตั้งใจมอบให้เจ้าของช็อกโกแลต เพียงแต่ว่ามันหลุดออกและอีกฝ่ายไม่ได้สังเกตเห็นจึงไม่ทราบถึงข้อความที่แนบมา...

     

    ...และคงไม่มีวันรับรู้คำเตือนนี้อีกต่อไป...!

     

    [ ให้น้องกัน...

    ...จงทานให้หมดภายในวันนี้...

    ...ฉันทำสุดฝีมือและใส่ส่วนผสมพิเศษเพื่อกันโดยเฉพาะ...

    ...มันจะเห็นผลดีมากหากทานรวมกันหลายๆคน...

    ...ข้อสำคัญ...ห้ามผู้หญิงทานเด็ดขาด!.... ]

     



    THE END



    จบแล้ววววววววว ในที่สุดมันก็ผ่านไปแบบมึนๆ 
    ตอนแรกจะแต่ง NC แต่เกรงว่าจะยาวไป สงสารน้องด้วย โดนมาเยอะแล้ว 555555
    ฉากต่อไปหลังจากนี้ก็กลับไปอ่านตอนแรกใหม่นะคะ มันตามนั้นแหละ กร๊ากกกกก
    ยาเสน่ห์มันทำยังไงเราไม่รู้ ใครรู้ก็บอกบ้างนะจะทดลองไปใช้ในคอน 7 มหัศจรรย์ 55555 (ยังอยากรู้ว่าใครคิดชื่อนี้) 

    พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ
    ว่าแต่อยากอ่านดราม่าหรือเบาสมองแบบนี้ดี???
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×