คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chocolate Love [AllGun] 4/4
=*= 4 =*=
ร่างสูงวิ่งลัดเลาะไปตามทางเดินด้านนอกโรงแรมอย่างยากลำบาก
เพราะต้องคอยระวังร่างบางในอ้อมแขนและระวังคนอื่นที่อาจวิ่งตามมาด้วย
แขนเล็กโอบรอบลำคอแกร่งแน่นด้วยกลัวตก
ทั้งที่ใจก็อยากจะดิ้นหนีเนื่องจากกลัวว่าร่างสูงจะพาเขามาขย้ำมากกว่ามาช่วยเหลือ
ขายาวพาวิ่งเข้าซอกนู้นออกเหลือบนี้จนกลับเข้ามาด้านในโรงแรม
หลบมุมนู้นทีมุมนี้ทีในที่สุดก็พามาหยุดหน้าห้องๆหนึ่งซึ่งกันจำได้ว่าเป็นห้องพักของพวกเขานั่นเอง
“ เหวอ... ” กันร้องเบาๆ
เมื่อโตโน่ปล่อยให้เขายืนด้วยตัวเองแต่เขากลับเซเกือบล้ม
“ ระวังหน่อยสิกัน เดี๋ยวช้ำหมด รอแป๊บนะ พี่เปิดห้องก่อน ”
ร่างตวัดเอวบางมากอดได้ทัน เขาดุเล็กน้อยก่อนจะเริ่มไขประตูอย่างร้อนรน
“ ช้ำเหรอ? ” กันพึมพำ เริ่มหวาดหวั่นพี่ใหญ่แห่งอสรพิษขึ้นมาบ้าง
แต่ยังไม่ทันจะคิดหาทางหนี ประตูห้องก็เปิดออกเสียก่อน
“ รีบเข้าไปเถอะ ” โตโน่ดันกันเข้ามาในห้อง
ปิดประตูอย่างรวดเร็วและลงกลอนอย่างแน่นหนา
เขาหมุนตัวกลับมามองกัน ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งโหยง
ดวงตาหวานกวาดมองไปรอบห้องก็พบว่าภายในนี้ไม่มีใครเลยนอกจากเขาและโตโน่
ร่างบางพยายามส่งยิ้มเจื่อนๆให้ร่างสูง โตโน่ย่างสามขุมเข้าไปใกล้เรื่อยๆ
กันจึงก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆเช่นกัน สมองก็คอยคิดหาทางหลบเลี่ยงไปด้วย
แล้วก็นึกถึงเพื่อนร่วมก๊วนสาวอีกสามคนไม่ได้
“ เอ่อ...พี่โน่...กัน...คือ...กันมีเรื่องจะคุยกับพี่แก้ม
ขอไปหาพี่แก้มแป๊บนะ ” กันพยายามหาข้ออ้างเพื่อจะให้พ้นจากสถานการณ์แบบนี้
ขาเรียวก้าวไปทางประตูแต่โตโน่รั้งแขนไว้
“ ดึกขนาดนี้จะไปหาผู้หญิงได้ยังไง มันน่าเกลียดนะกัน
มีอะไรก็ไว้คุยพรุ่งนี้สิ รีบอะไรมากมาย เรื่องที่จะคุยสำคัญมากหรือไง ”
“ ก็...คือ... ” กันคิดหาข้อแก้ตัวไม่ออก
จริงอยู่ว่าการไปหาพี่สาวในยามวิกาลแบบนี้มันไม่เหมาะสม
แต่เขาก็กลัวเกินกว่าจะอยู่กับโตโน่ตามลำพัง
“ เอาเป็นว่าเรื่องานนี่ช่างมันไปก่อน
พี่ว่ากันไปอาบน้ำดีกว่าจะได้นอนสักที พี่ก็เหนื่อยมากแล้ว
พวกนั้นเป็นอะไรกันก็ไม่รู้ วิ่งไปวิ่งมาน่าเวียนหัว แฟนคลับนายก็เหลือเกิน
เอาอะไรมาให้กิน พิสดารจริงๆ พวกนั้นก็บ้าอยากลอง กลายเป็นคนเมายาบ้ากันหมด ”
โตโน่บ่น เขาทิ้งตัวลงนั่งบนปลายเตียงก่อนจะเอนกายนอนแผ่หลา
“ เอ๋? พี่โน่ไม่ได้กินช็อกโกแลตเหรอ ” กันถามด้วยความสงสัย
“ หือ? ช็อกโกแลตนั่นเหรอ? ไม่ได้กินหรอก ไอ้พวกนั้นแย่งกินกันหมด
ดีนะที่พี่แย่งไม่ทัน ไม่งั้นคงเป็นบ้าแบบพวกมัน ” แววตาคมดูไม่แสดงพิรุธอะไรออกมา
ทำให้กันวางใจว่าพี่ชายไม่ได้ทานมันจริงๆ
“ นั่นสิ โชคดีจริงๆ ” กันยิ้มกว้าง นั่งลงข้างพี่ชายอย่างสบายใจ
“ ยิ้มอะไร ”
“ เปล่า เออ...แล้วพี่โน่รู้ไหมว่าทำไมทุกคนกลายเป็นแบบนั้น ”
“ รู้สิ ช็อกโกแลตนั่นมันใส่ยาเสน่ห์ไง ไม่ใช่แค่ยาเสน่ห์นะ มีเส้นผมของนายด้วย
”
“ ห๊ะ!!!???? แล้วพี่รู้ได้ไง? ” กันร้องด้วยความตกใจ
เขาไม่อยากเชื่อว่ายุคนี้ยังมีเรื่องแบบนี้อีก
“ ก็หลังกล่องมันเขียนส่วนผสมอยู่ -*- ตอนแรกก็คิดว่าเรื่องเล่นขำๆ
พอมาเจอเข้าจริงๆ ขำไม่ออกเลย พวกนั้นหานายกันจ้าละหวั่น ดีนะพี่เจอนายทันเวลา
ไม่งั้นหนังสือพิมพ์คงได้ลงข่าวว่านายโดนรุมโทรม ”
“ ตลกแล้ว แต่ไม่อยากจะเชื่อว่ามันยังมีเรื่องแบบนี้อีกนะเนี่ย ” กันพูดพลางนึกเคืองคนให้ว่านอกจากจะทำช็อกโกแลตเป็นลายที่เขาชอบแล้วยังจะอุตส่าห์เขียนส่วนผสมไว้หลังกล่องอีกนะ
...แม่ม...สงสัยสติไม่สมประกอบ -*-...
“ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ไปอาบน้ำไปจะได้มานอนสักที
ยิ่งไม่ค่อยสบายอยู่ ”
“ ครับๆ ” กันตอบรับ ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูและเดินหายเข้าห้องน้ำไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
กันก็มาเอนกายนอนลงบนเตียงในสภาพที่สวมชุดนอนเรียบร้อย
ส่วนโตโน่กำลังอาบน้ำต่อจากเขา ร่างบางนึกทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แล้วรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งร่าง
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเรื่องนี้มันมีอยู่จริง หากเขาไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง
ไม่ถูกคนไล่ปล้ำหนักหนาแบบนี้ล่ะก็...เขาคงจะยังไม่เชื่ออยู่แบบนั้นนั่นแหละ
ร่างบางนอนคิดไปเรื่อยเปื่อย
จนกระทั่งความอ่อนล้าจากการเดินทางและการวิ่งรอบโรงแรมเริ่มทำพิษ
ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้เขาเริ่มเคลิบเคลิ้ม ปากบางหาวหลายหน
แม้จะพยายามกระตุ้นตัวเองไม่ให้หลับเพราะต้องการรอโตโน่
แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความง่วงและเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด
กันเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งเพราะมีบางสิ่งรบกวนการนอนของเขา
มือบางยกขึ้นหมายจะปัดสิ่งรบกวนออกจากต้นคอแต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมือคลำไปโดนบางสิ่งบางอย่างที่เดาได้ว่าเป็นใบหน้าของใครสักคนและสัมผัสได้ถึงสิ่งอ่อนนุ่มที่ประทับลงบนซอกคอของเขา
มือบางดันสิ่งนั้นออกก่อนจะลืมตามองสิ่งรบกวนให้ชัดๆ
“ พะ...พี่โน่... ” กันพึมพำแผ่วเบา รู้สึกหายใจติดขัด
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่กำลังรุกรานจะเป็นพี่ชายที่บอกว่าไม่ได้ทานช็อกโกแลตนั่น
...ไม่ได้ทาน แต่ทำไมลักษณะเหมือนคนคิดจะปล้ำเขาแบบนี้ล่ะ!!!...
ร่างสูงไม่ได้ยี่หระต่อปฏิกิริยาของกันแม้แต่น้อย
ดวงตาคมยังคงจ้องมองดวงตากลมราวกับจะสะกดร่างบางให้ต้องมนต์มายา
กันเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะกวาดตาสำรวจพี่ชายเผื่อจะหลอกตัวเองได้ว่าอีกฝ่ายแค่ละเมอเฉยๆ
(เคยเห็นไหมละเมอเดินอะไรแบบนี้ T^T)
แต่สภาพเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของโตโน่มันจะไม่ช่วยให้เขาหลอกตัวเองได้เลย
...ไม่ใช่เหมือนคนคิดจะปล้ำ
แต่มันกำลังปล้ำแล้วเขาตื่นมาขัดจังหวะต่างหาก...!!!
“ พะ...พี่จะทำอะไร ” ร่างบางเอ่ยถามเสียงสั่น
สายตาสอดส่ายหาหนทางหนีรอด
“ พี่เชื่อว่ากันดูออก เด็กน้อยของพี่
ทำไมวันนี้น่ารักขนาดนี้นะ ” นิ้วเรียวยาวถูกยกขึ้นมาแตะเบาที่ริมฝีปากบางและไล้ไปบนกลีบปากล่างแผ่วเบา
น้ำเสียงนุ่มที่นานครั้งจะได้ยินสักทีและดวงตาคมที่มองมาอย่างหวานเยิ้มทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวแปลกๆ
...ใช่...สั่นไหว...และขนลุกด้วย...!!!
“ พี่โน่...กะ...กันว่า...อย่าทำหน้าแบบนี้เลยนะ น่ากลัว...ฮ่าๆ ”
กันพยายามจะเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ดูท่าว่าจะยาก
พี่ชายของเขาไม่มีท่าทีเปลี่ยนไปสักนิด
“ น่ากลัวเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ถ้ากันเป็นเด็กดี
รับรองว่าจะไม่เจ็บสักนิด ”
“ กันไม่ใช่เด็กดีหรอก กันดื้อจะตาย ”
“ เป็นเด็กดีสิ กันเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย บอกอะไรก็เชื่อฟัง แล้วก็รับทุกอย่างได้ง่ายเช่นกัน
” โตโน่เน้นเสียงหนัก ชวนให้คนฟังหวั่นใจมากกว่าเดิม
“ บางทีก็รับได้ยากนะ ”
...โดยเฉพาะไอ้นั่นของพี่...!!!
“ ไม่ยากหรอก พี่จะค่อยๆใส่ ”
พูดไม่พอยังเอื้อมมือมาลูบสะโพกของเขาด้วย!!
“ ไม่นะ..อุ๊บ!!! ”
ไม่ทันได้โวยวายก็ถูกคนตัวโตกว่าประทับริมฝีปากลงมาปิดกั้นเสียงร้องทันที
กันพยายามเบี่ยงใบหน้าหลบทำให้โตโน่ต้องเอื้อมมือมาคว้าปลายคางเพื่อยึดไว้
คนตัวเล็กกว่าขืนได้ไม่นานก็ถูกความอ่อนโยนของร่างสูงชักนำให้เคลิบเคลิ้มไป
แต่เมื่อลิ้นร้อนพยายามจะแทรกเข้าไปในโพรงปาก
กันก็เบิกตากว้างและยกขาถีบพี่ชายทันที
ร่างสูงผงะหงายหลังตกเตียง
ร่างบางอาศัยจังหวะนั้นกระถดตัวจะหนีออกจากเตียง
แต่ร่างสูงอาศัยความไวกว่าลุกพรวดมาคว้าตัวได้ทัน ปลุกปล้ำอยู่นาน
ในที่สุดร่างบางก็กลับมานั่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา
โตโน่โอบรัดกันจากด้านหลังอย่างแนบแน่น แววตาอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นแววตาของผู้ล่า
น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเย็นเยียบจนกันขนลุกซู่
“ อย่าพยายามขัดขืนเลยน่า กันก็รู้ว่าเอาชนะพี่ไม่ได้
พี่ไม่อยากทำให้กันเจ็บตัวนะ ” สันจมูกสูดดมกลิ่นหอมของเรือนผมนุ่มไล่มาจนถึงต้นคอ
ริมฝีปากกดจูบเบาๆบนไรผมอ่อนที่ระท้ายทอย
“ พี่โน่...อื้อ...ปล่อยกันนะ...ไม่เอา...อ๊ะ... ”
กันสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าฟันคมกำลังขบเม้มตรงซอกคอของเขา
พยายามเบี่ยงคอหลบแต่พอหลบได้ โตโน่ก็จะจู่โจมอีกด้านแทน
“ อย่าหลบสิกัน ” โตโน่พลิกร่างของกันให้หันมาเผชิญหน้ากับตนเอง
รวบร่างบางเข้ามากอดก่อนจะพรมจูบไปตามแก้มนิ่ม ข้อมือเล็กทั้งสองข้างถูกรวบยึดไว้ด้วยมือเดียวและบีบแน่นจนเจ็บ
“ กัน...กันไม่ชอบ...ไม่เอาแบบนี้... ”
ดวงตาหวานเอ่อคลอน้ำสีใสเมื่อรู้สึกว่าหมดทางหนี
“ อย่าร้องนะกัน พี่สัญญาว่ากันจะไม่เจ็บ พี่รักกันมาก
พี่กลัวว่าคนอื่นจะมาแย่งกันไป เพราะฉะนั้น...ให้พี่ได้เป็นคนแรกของกันเถอะนะ ”
ดวงตาคมสบดวงตาหวานเนิ่นนาน
ความต้องการที่สะท้อนผ่านแววตาทำให้ร่างบางประหม่าจนต้องหลบตาเสียเอง
“ อ๊ะ...อย่า...กันกลัว... ”
กันร้องบอกเมื่ออีกฝ่ายดันตนเองลงนอนและตามมาคร่อมทับ
น้ำตาเม็ดสวยไหลกลิ้งจากหางตาช้าๆ
“ อย่ากลัวเลย พี่จะทะนุถนอมนายให้มากๆ ” ร่างสูงปลอบประโลมพร้อมกับเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายแผ่วเบา
ริมฝีปากพยักพรมจูบไปตามรอยน้ำใส
“ อื้อ...ไม่เอา! ”
กันดิ้นแรงขึ้นเมื่อมือหยาบเริ่มร่นเสื้อของเขาขึ้นเรื่อยๆ
“ พี่บอกว่าอย่าดิ้นไงกัน ดิ้นรนยังไงก็ไม่มีประโยชน์
พวกที่เหลือมันรอปล้ำนายทั้งนั้น คิดเอาว่าอยากรับของพี่คนเดียวหรืออยากรับของพวกนั้นด้วย
”
...ไม่เอาสักคนได้ไหมล่ะ...!!!
“ พี่ไม่ลองเสียสละไปให้พวกนั้นปล้ำก่อนล่ะ แค่นี้กันก็รอดแล้ว
รักกันนี่ โดนเสียบแทนสักทีจะเป็นพระคุณยิ่ง! ” กันเบะปาก
พยายามดิ้นอีกครั้งแต่โตโน่ก็โถมทับลงมาทั้งตัว
“ ดิบๆเถื่อนๆผิวหยาบๆอย่างพี่มันจะไปสู้เนื้อนุ่มๆหอมๆของกันได้ยังไง
กันของพี่เซ็กซี่ขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะจริงๆ พี่รอวันนี้แทบทนไม่ไหว ”
ร่างสูงพูดเรียบๆ ไม่หลงกลต่อปากต่อคำกับกัน
“ ถ้ารู้ว่ามาเพื่อถูกปล้ำ กันไม่มาหรอก ปล่อยนะ! ”
“ ไม่เอาน่ากัน อย่าดื้อสิ ”
“ กันกลัวจริงๆนะ ” แล้วร่างบางก็ปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น
“ กัน.... ”
“ กันเหนื่อย ทำงานก็เหนื่อย ปวดหัวก็ปวดไปหมด ไข้ก็เพิ่งลด แล้วก็ต้องมาวิ่งหนีคนนู้นทีคนนี้ทีเหมือนคนบ้า
พอติดว่าจะพึ่งพี่ได้ก็มาทำแบบนี้อีก ทำไมล่ะ กันทำอะไรผิด
ทำไมต้องเจอเรื่องพวกนี้ ทำไมไม่มีใครเข้าข้าง ไม่มีใครคิดจะช่วยบ้างเลย
ทำไมพี่โน่ ” กันสะอื้นตัวโยน
“ กัน...หยุดนะ ไม่ร้อง เด็กดีของพี่ ” โตโน่เช็ดน้ำตาให้กันอย่างอ่อนโยน
“ อย่าทำกันได้ไหม ” กันเว้าวอน
“ พี่ขอโทษนะ พี่รักกัน... ”
“ ..... ”
“ ...มากพอๆกับความต้องการ ”
...เชี่ย!!! บีบน้ำตาเป็นสายยังไม่ใจอ่อนอีก!!!!!!...
“ พี่โน่...อื้อ!! ”
ไม่ทันได้เอ่ยอะไร
ริมฝีปากหยักก็แนบลงบนริมฝีปากบางแผ่วเบาและนุ่มนวล
ไม่มีการรุกล้ำที่ตะกละตะกลามเหมือนคนอื่นๆ
สัมผัสอ่อนโยนทำให้คนไม่เคยเริ่มเคลิบเคลิ้ม
แรงดิ้นรนลดน้อยลงพร้อมกับดวงตาปรือปรอย
เรียวลิ้นร้อนไล้ชิมกลีบปากล่างก่อนจะพยายามแทรกเข้าไปในโพรงปากบาง
กันที่ไม่ได้ตั้งตัวพอถูกดุนดันมากขึ้นจึงยอมเผยอริมฝีปากออกเปิดทางให้ลิ้นชื้นมาลิ้มลองรสหวานด้านใน
กวาดต้อนลิ้นเล็กให้ตอบสนองอย่างไม่ประสีประสา
จุมพิตยาวนานช่วงชิงลมหายใจของกันจนเกือบหมด
เสียงครางประท้วงในลำคอทำให้โตโน่ผละริมฝีปากออกอย่างเสียดาย
ดวงตาเรียวจ้องมองลึกลงไปในดวงตาหวานฉ่ำคู่งามที่ปรือขึ้นช้าๆ
ผิวแก้มนุ่มเกิดสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายอย่างน่าเอ็นดู
“ พะ...พี่โน่...คือ...แค่นี้...ได้ไหม... ” กันถามอุบอิบในลำคอ
“ ได้ยินไม่ชัดเลย ขออีกครั้งได้ไหม ”
ร่างสูงยิ้มยั่วหยอกเย้าก่อนจะฝังปลายจมูกลงบนแก้มนิ่มและซุกไซ้ลงมายังซอกคอระหง
“ อื้อ...พอ...นะ...ได้...อา...ไหม... ” เสียงหวานขาดห้วง
ร่างบางสั่นสะท้านกับสัมผัสแปลกใหม่อันอ่อนโยนที่ไม่เคยได้รับจากใคร ดวงตาคมที่มองมาเหมือนสะกดให้เขาตกอยู่ในภวังค์
“ ไม่ได้ยินเลยที่รักของพี่ ร้อง...ดังๆ...สิ ” โตโน่กระซิบข้างหู
ก่อนจะขบเม้มติ่งหูเบาๆ
“ กวน...กันรู้พี่ดะ...เฮ้ย... ”
กันเบิกตาโพลงเมื่อจู่ๆโตโน่ก็ถอดเสื้อของตัวเองออกจนเผยให้เห็นแผงอกกำยำ
“ อย่าตกใจไปเลย อีกหน่อยก็ต้องเห็นทุกวัน ” โตโน่ยกยิ้ม
อาศัยจังหวะที่กันกำลังตกตะลึงร่นเสื้อของคนใต้ร่างขึ้นจนไปกองเหนือหน้าอก
“ อ๊ะ...! ”
กันร้องพลางสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นชื้นที่ยอดอก
นั่นเรียกสติให้คืนมาอีกครั้ง
“ โอ้ย!!! ”
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเมื่อกันกระแทกเข่าเข้าไปที่จุดศูนย์กลางของผู้รุกรานอย่างแรง
เขายันกายขึ้นจัดเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว อาศัยจังหวะที่อีกคนยังจุกอยู่ขยับลงจากเตียงเตรียมวิ่งไปทางประตูห้องแต่ก็ต้องเสียหลักเมื่อแขนเล็กถูกดึงกระชากกลับมาทางด้านหลังอย่างรุนแรง
กันกลับเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของโตโน่อีกครั้ง เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียงและกระโดดขึ้นคร่อม
“ ก็บอกแล้วว่าอย่าดิ้น ทำไมพี่พูดกันไม่ฟัง ” โตโน่เอ่ยขึ้นอย่างเยียบเย็น
“ กันกลัวจริงๆ หยุดเถอะพี่โน่ ” กันสะอื้นไห้อีกครั้ง
คราวนี้เขากลัวจริงๆ ไม่ได้บีบน้ำตาเหมือนคราวก่อน
“ บอกแล้วไงว่าไม่ต้องกลัว พี่จะอ่อนโยนให้มาก ถ้ากันไม่ดื้อ
มันจะไม่เจ็บ เชื่อพี่เถอะนะ เด็กน้อยของพี่ พี่จะทำเบาๆ พี่สัญญา ”
สองสายตาสบมองกันอีกครั้ง ความอ่อนโยนในดวงตาเรียวเล็กเหมือนเวทย์มนต์ที่สะกดให้กันหยุดดิ้นรนหลีกหนี
หยุดน้ำตาทุกหยาดหยด ตากลมปิดสนิทรับสัมผัสแผ่วเบาที่ทาบทับลงมาบนเปลือกตาบางละเรื่อยมาจนถึงสันจมูกก่อนจะมอบความหวานลึกล้ำที่กลีบนุ่ม
ริมฝีปากดูดดึงกันอย่างถึงใจ ก่อนเรียวลิ้นอุ่นชื้นจะไล้เลียเพื่อเปิดทางเข้าไปแลกเปลี่ยนความหอมหวานภายในอีกครั้ง
จุมพิตยาวนานและอ่อนหวานทำให้กันเคลิบเคลิ้มราวกับตกในมนต์สะกดอีกครั้ง
เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเสื้อนอนตัวโปรดถูกถอดออกตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าถูกประทับตราแสดงความเป็นเจ้าของไปกี่รอย
ไม่รู้ว่าเผลอตัวตอบรับสัมผัสวาบหวามที่อีกฝ่ายมอบให้ไปแค่ไหน
ไม่รู้ว่าสุดท้ายทำไมถึงมานอนตัวเปลือยเปล่าใต้ร่างแกร่งได้
“ กันของพี่สวยจริงๆ ” ดวงตาคมมองร่างบางด้วยความหลงใหล
ริมฝีปากพึมพำราวกับละเมอเพ้อ
สายตาไล่มองไปหยุดยังส่วนสำคัญ
ลิ้นร้อนเลียริมฝีปากด้วยความกระหาย กระถดกายถอยต่ำ
จับขาเรียวให้อ้าออกช้าๆและแทรกตัวไปอยู่ตรงกลาง ประคองมันด้วยมือข้างหนึ่ง
ก่อนจะโน้มศีรษะลงต่ำหมายจะลิ้มรสความหวานของร่างบางเต็มที่
.
.
.
กรอบ!!
“ โอ๊ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ”
ร่างสูงร้องลั่นเมื่อฟันคมขบกัดโดนบางสิ่งที่ค่อนข้างแข็งเต็มๆ
เขาลุกพรวดจากเตียงนอนก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างตื่นตระหนก
ลมหายใจอุ่นร้อนหอบถี่กระชั้น เหงื่อโทรมกาย
เขาพยายามใช้มือลูบแผ่นอกตัวเองจนรู้สึกว่าหัวใจเริ่มเต้นจังหวะปกติ
แล้วเมื่อตั้งสติได้
เขาจึงเริ่มมองสำรวจตัวเองและก็ต้องแปลกใจไม่น้อยที่ยังอยู่ในชุดลำลองเดียวกับตอนที่มาถึงโรงแรม
บนตักมีขวดแบรนด์รังนกหล่นอยู่ เขาหยิบมันมาพิจารณาด้วยความสงสัย
ก่อนจะรู้สึกปวดฟันแปลบๆ
“ จะมองมันอีกนานไหมพี่โน่ ” เสียงหวานที่คุ้นเคยทำให้ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมอง
ก่อนจะพบว่ากัน ริท ไอซ์ กำลังยืนมองเขาอยู่ที่มุมห้อง
“ ไปทำอะไรกันตรงนั้น แล้วที่นี่ที่ไหน ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่
เมื่อกี้ไม่ใช่แบบนี้นี่! ” โตโน่แปลกใจไม่น้อย จำได้ว่าห้องของเขามันสไตล์เรอเนสซองซ์แล้วนี่อะไร
ทำไมกลายเป็นโมเดิร์นไปได้ล่ะ???
“ พี่พูดบ้าอะไร ไม่ใช่แบบนี้แล้วจะให้เป็นแบบไหน ” ริทถามอย่างงุนงง
“ ห้องที่พี่อยู่เมื่อกี้มันไม่ใช่แบบนี้ พวกนายก็ไม่อยู่
มีแค่พี่กับกันแถมเรากำลัง...เอ่อ... ” โตโน่หน้าแดงวาบ
แน่นอนว่าลักษณะของเขาทำให้คนโดนพาดพิงเดาได้เลย
“ พี่กำลังคิดว่าตัวเองทำอะไรกับพี่กัน ” ไอซ์ชิงถามตัดหน้ากัน
“ เอ่อ... ”
“ เราอยู่ในห้องนี้มาตั้งแต่แรก สภาพมันก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่มาถึง
แล้วพี่ก็นะ...บอกใครต่อใครว่ามาเฝ้ากันแต่ตัวเองหลับเฉยเลยแถมยังทำหน้าทำตาแปลกๆ
ส่งเสียงแปลกๆจนกันตื่น! ”
“ ห๊ะ? งั้นเหรอ ” ร่างสูงพยายามทบทวนความทรงจำ
ก่อนจะเริ่มประติดประต่อเรื่องได้
พวกเขามาถึงโรงแรม FAIRYTOPIA
สุดหรูซึ่งเพิ่งเปิดบริการได้เพียงไม่นาน
ตัวอาคารภายนอกซึ่งได้รับการก่อสร้างอย่างแข็งแรงถูกเนรมิตให้คล้ายดินแดนสรวงสรรค์และภายในก็ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามราววิมานของเทวดานางฟ้า
ทั้งอาคารสว่างไสวด้วยแสงไฟจากแชนเดอเลีย
ลูกค้าผู้มาใช้บริการและพนักงานต้อนรับในชุดสูทสีขาวสะอาดตาเดินกันพลุกพล่าน
ดูยังไงก็ไม่เหมือนโรงแรงผีสิงสักนิด แล้วจากนั้น...
...เขาพากันที่เมาเรือมายังห้องที่จองไว้...
...ห้ามกันเล่นน้ำและให้นอนพัก...
...เขาเฝ้ากันอยู่ในห้อง...
...แล้วก็...เผลอหลับ -_-…
“ อะไรวะ นี่ฝันเหรอเนี่ย บ้าเอ๊ย เหมือนจริงชะมัด!!! ” โตโน่พึมพำเบาๆ แต่ดูเหมือนจะไม่รอดพ้นจากคนหูดีเท่าไหร่
...ไอ้ที่เห็นว่ากันหนีผี หนีพวกริท จนมาถึงตอนจะถูกเขาปล้ำ...
...ทั้งหมดนี้มัน คือ ความฝัน!!!...
“ โธ่...เสียดาย ” โตโน่ขยี้หัวอย่างหงุดหงิด
“ เสียดายอะไรพี่โน่!! แสดงว่าที่ส่งเสียงแปลกๆ
ทำท่าแปลกๆ แล้วบอกว่าอยู่กับกันสองคนในห้อง คือพี่ฝันลามกใช่ไหม?
พี่ฝันว่าซั่มกันอยู่สินะ!!! ” กันปรี๊ดแตก
โยนหมอนใกล้ตัวใส่พี่ชายจังๆ
“ โอ๊ย...พี่ขอโทษ ก็บรรยากาศมันเป็นใจนี่ ”
โตโน่ถลาลงจากเตียงจะมาหากัน
“ หยุดอยู่ตรงนั้น!! ห้ามเข้าใกล้กันเกิน 2
เมตร!! ”
“ ตลก!! ตัวเท่าลูกแมวคิดว่าจะทำอะไรพี่ได้ห๊ะ!? แล้วเมื่อกี้ใครเอาขวดแบรนด์ใส่ปากพี่! ”
โตโน่เริ่มไล่เบี้ยเจ้าตัวดีทั้งหลาย เดาไม่ยากว่าเมื่อกี้ที่กัดมันคืออะไร!?
“ พี่ริท! ” ไอซ์ชี้ไปทางริททันที
สายตาเชือดเฉือนของโตโน่ทำให้เขาต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน
“ อ้าว ไอ้งูเห่า ” ริทเตรียมจะเฉ่งน้องเล็ก
“ จริงหรือเปล่าริท ” โตโน่เค้นเสียงถาม
“ อ่า...นิดหน่อย ฮ่าๆ เอาน่า ก็พี่อยากทำเสียงประหลาดทำไม
ริทรำคาญเลยต้องหาอุปกรณ์ช่วยอุด ดีเท่าไหร่ไม่หาเชือกมามัดด้วย
คนบ้าอะไรดิ้นไปทั่วเตียง ”
“ มากัดมันบ้างไหมจะได้รู้ว่านิดหน่อยหรือเปล่า ”
โตโน่เค้นเสียงรอดไรฟัน ย่างสามขุมเข้าหาเจ้าตัวดี จนริทต้องหลบหลังกัน
“ อ้าว ริท ไหนบอกว่าจะปกป้องกัน เพราะริทเป็นพี่ไง ”
กันขมวดคิ้วอย่างไม่ปลื้มเท่าไหร่
“ โยนความเป็นพี่ทิ้งทะเลไป งานนี้รวมกันเราตาย แยกเถอะสหาย คงไม่วายชนม์
” ริทพูดรัวก่อนจะวิ่งอ้าวหลบหลีกโตโน่ไปทางประตูห้องนอน
“ เฮ้ย ไอ้เตี้ย!!!! ”
กันร้องเรียกคนที่เอาตัวรอด แต่ไม่ทันแล้ว ริทออกจากห้องไปเรียบร้อย
“ ผมไม่เกี่ยวนะ พี่เคลียร์กันเองแล้วกัน ”
แล้วไอซ์ก็วิ่งอ้าวตามริทไปติดๆ
“ อะไรเนี่ย!!! ” กันจะคว้าก็ไม่ทันแล้ว
ตอนนี้กลายเป็นว่ากำลังเผชิญหน้ากับพี่ใหญ่ตามลำพัง
“ กัน... ”
“ เอ่อ...กันไม่รู้เรื่องนะพี่โน่ กันยอมให้พี่ฝันว่าเรามีอะไรกันสัก
63 ครั้งเลย แต่อย่าตีกันนะ ” กันเบะปากราวกับจะร้องไห้
พอเห็นโตโน่เงื้อมือขึ้น ดวงตาหวานก็เบิกโพลงก่อนจะหลับตาปี๋ด้วยความกลัว
หมับ!
“ เอ๋? ” ดวงตาหวานลืมขึ้นช้าๆอย่างประหลาดใจ
แทนที่จะรู้สึกเจ็บแต่กลับกลายเป็นสัมผัสอ่อนโยนที่ทาบลงบนหน้าผาก เขามองร่างสูงด้วยความไม่เข้าใจ
“ ไข้ลดแล้วนะกัน หายปวดหัวหรือยัง ”
เสียงทุ้มและสายตาทอดมองร่างเล็กกว่าอย่างอ่อนโยน
ทุกสัมผัสทะนุถนอมราวกับว่าคนตรงหน้าเป็นแก้วใสเปราะบางที่หากรุนแรงเพียงนิดคงแตกสลาย
“ เอ่อ...หายแล้วๆ ” กันรีบถดกายหนี
เขาไม่ชินกับความอ่อนโยนแบบนี้เลยสักครั้ง ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ร่างสูงไม่เคยอ่อนโยนกับเขาหรอกแต่พออยู่ด้วยกันตามลำพัง
การปฏิบัติที่ร่างสูงมีต่อเขาจะเปลี่ยนแปลงไปเสมอ
“ กลัวพี่เหรอ พี่ไม่ตีกันหรอกน่า ” โตโน่ยิ้มอ่อน
ทุกอากัปกิริยาของกันช่างน่าเอ็นดูในความรู้สึกของเขามากนัก
แม้จะชอบอวดเก่งไม่กลัวใครแต่พอเป็นเรื่องหัวใจ กันกลับไร้เดียงสา
...อาจเป็นเพราะไม่เคยเป็นฝ่ายถูกคนรักดูแล...
“ ก็พี่โน่เงื้อมืออย่างกับจะชกเลย ใครมันจะไม่กลัว ” กันพูดงุบงิบ
พยายามหลบสายตาที่มองมา รู้สึกว่ามือเริ่มชื้นเหงื่อ หัวใจเต้นระรัว
ประหม่ากับสถานการณ์นี้
“ อ่า...พี่ผิดสินะ พี่ขอโทษ อย่ากลัวพี่เลย ”
ร่างสูงรั้งร่างบางเข้ามากอด
ปลายจมูกสูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวของกันเข้าเต็มปอด
ถึงจะชอบแกล้งบอกว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กซกมก ไม่ชอบอาบน้ำ
เนื้อตัวมีขี้ไคลหรือเป็นกลากเกลื้อนอะไรก็ตาม เขาก็ยังชอบกลิ่นของกันที่สุด
ชอบทั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ความงดงามในฝันยังไม่ได้ครึ่งของความจริงที่เขาเคยสัมผัสโดยที่เจ้าตัวไม่เคยรับรู้นับครั้งไม่ถ้วน -.,-
...และใครรู้แล้วก็ห้ามบอกกันด้วย ไม่งั้นจะจับโยนทะเลให้หมดเลย -*-...
“ เอ่อ...พี่โน่ กันไม่กลัวแล้ว ปล่อยเถอะ ” กันพยายามดันตัวออก
“ เดี๋ยวนี้หวงตัวหรือไง พี่กอดนิดกอดหน่อยไม่ได้เลย ”
โตโน่เอ่ยแซวพลางอมยิ้มขำ เขายอมปล่อยเด็กแสบให้เป็นอิสระ
“ ไม่ได้หวงสักหน่อย
แต่พี่โน่กอดทีไรชอบแกล้งเอาจมูกมาดันคออยู่เรื่อยเลย =^= ”
“ ถ้าคิดว่าที่ทำไปเพราะพี่แกล้งแล้วสบายใจก็เอาตามที่กันเข้าใจเลย ”
โตโน่บอก เขาซุกเพื่อไซ้ซอกคอเลยนะ ในหัวมีแต่ความหื่นล้วนๆเลย~
คิดได้ยังไงว่าเขาแกล้งดันเฉยๆ
“ อ่า.... ” กันรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวมากขึ้น
อันที่จริงก็รู้หรอกว่าทุกครั้งที่ถูกกอดมักจะถูกลวนลามเสมอ ไม่ใช่แค่โตโน่
แต่รวมถึงริทด้วย -_-
“ ไปนั่งเล่นที่โซฟากันเถอะ พี่ว่าเรายืนนานแล้วนะ เดี๋ยวกันมึนหัว ”
คำพูดของเขาทำให้กันรีบพยักหน้ารัวๆ โตโน่จึงยิ้มขำออกมาก่อนจะพากันมานั่งที่โซฟากำมะหยี่สีครีม
ดันร่างบางให้เอนมาซบแผ่นอก สองแขนโอบกอดร่างบางเอาไว้
“ พี่โน่ กันนั่งเองได้ ไม่ต้องพิงไหล่พิงอกแบบนี้หรอก ”
“ ขออยู่แบบนี้ไม่ได้เหรอ พี่คิดถึงกันจะแย่แล้วนะ เราไม่เจอกันมานานมาก
” น้ำเสียงเหงาๆของโตโน่ ทำให้กันหยุดดิ้นและยอมให้กอดนิ่งๆ
“ พี่โน่เหงาก็มาหากันบ่อยๆได้ ”
“ เรางานเยอะนี่นา พี่ไม่อยากกวน
พี่ไม่อยู่ใกล้ๆก็ดูแลตัวเองดีๆนะกัน ”
“ อื้อ ” กันตอบรับเบาๆ ก่อนจะนิ่งงันกันอยู่อย่างนั้น
ร่างสูงกระชับกอดร่างบางที่เขาแสนรักแน่น
นึกถึงวันแรกที่เราสองคนได้เจอกัน ผู้ชายบ้านๆกับเด็กกะโปโล 2 คน พวกเราอยู่ด้วยกัน 3 คน
สนิทกันจนเกิดกระแสคู่จิ้นของเขากับริท
ทีแรกเขาไม่คิดอะไรเห็นมันเป็นเรื่องขำๆด้วยซ้ำ
แปลกใจเล็กน้อยว่าเขาดูไม่สนิทกับน้องชายอีกคนเหรอแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ
จนกระทั่งออกจากบ้านและมีงานด้วยกันบ่อยขึ้น ความผูกพันมันยิ่งแน่นแฟ้นจนกลายเป็นความรักไปโดยไม่รู้ตัว
เขามีความสุขที่ได้อยู่กับกันจนวันหนึ่งเราต้องแยกกันเพราะงานที่รัดตัวและทางเดินที่แตกต่างกัน
...แต่ไม่มีวันไหนที่ไม่รัก ‘กัน’...
“ ถ้าเหนื่อยนักก็พักบ้างนะ แล้วก็จำไว้ว่ากันมีพี่เสมอ ”
ร่างสูงกระซิบบอกพลางกดจูบเบาๆบนขมับบาง
อยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลาเหล่านี้ให้ลึกสุดในความทรงจำ
“ งั้นพี่โน่ก็ต้องรู้เหมือนกันว่า หากวันใดที่ไม่มีใคร พี่จะมีกันอยู่ข้างหลังพี่เสมอ
แล้วก็จะรอจนกว่าเราจะมายืนคู่กันอีกครั้ง ”
กันยิ้มหวานแต่ดวงตาหวานกลับมีน้ำตาเอ่อคลอจางๆ
“ อย่าร้องสิ เรามีเวลาอยู่ด้วยกันตั้งหลายวัน ไปเที่ยวกันดีกว่านะ ”
โตโน่ประคองดวงหน้าหวานก่อนจะหอมแก้มนิ่มอย่างอ่อนโยน
“ อื้อ พี่โน่ก็ยิ้มกว้างๆสิ ” มือบางดึงแก้มพี่ชายพลางโยกไปมา
“ แก้มพี่จะเหี่ยวหมดแล้วเนี่ย ไปๆ ไปตามพวกนั้นกันดีกว่า
เราต้องซื้อของมาปาร์ตี้เย็นนี้ ”
ร่างสูงลุกขึ้นพลางดึงร่างบางให้ลุกขึ้นตาม
โตโน่เดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ ส่วนกันก็เดินไปใส่รองเท้า แต่ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ทั้งสองคนหันไปมอง ก่อนที่กันจะเป็นฝ่ายเปิดประตูออก
“ หือ? ไม่เห็นมีใครเลย ”
กันมองซ้ายขวา
ก่อนที่สายตาจะปะทะกับกล่องขนมบนพื้นพรมสีแดงหน้าห้อง
มือบางหยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัย
ด้านหน้ากล่องเขียนชื่อของเขาแต่ก่อนจะได้พิจารณาต่อ เขาก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งเคลื่อนไหวผ่านหางตา
กันหันไปมองแล้วเขาก็พบผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันในชุดกระโปรงสีชมพูหวานกำลังแอบมองเขาอยู่มุมหนึ่ง
พอเห็นเขามองมาเธอก็มีท่าทีเขินอาย โค้งให้เขาเล็กน้อยก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินจากไป
“ แฟนคลับเราขี้อายตั้งแต่เมื่อไหร่ ” กันพึมพำก่อนจะหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ
“ ใครมาเหรอกัน ”
“ แฟนคลับเขาเอาขนมมาให้ ” กันพูดพลางเดินกลับมาในห้องและแกะห่อขนมออก
“ เฮ้ย!!! มีแบบนี้ด้วย!!! ”
กันตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ ในมือโชว์กล่องช็อกโกแลตให้โตโน่ดู
มันเป็นลายซูเปอร์ฮีโร่จากภาพยนตร์หลายๆเรื่องซึ่งกันชอบมาก
“ เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!! ” โตโน่ตาเหลือกเมื่อเห็นมัน
...ช็อกโกแลตนั่นมันมายังไงวะ...!!!!
“ เอาทิ้งไปกัน! ”
โตโน่ถลาจะไปคว้าขนมแต่กันกลับเบี่ยงตัวหลบ
“ จะบ้าเหรอพี่โน่!! ”
“ มันเป็นช็อกโกแลตใส่ยาเสน่ห์!! ”
“ ไร้สาระ! พี่ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน ”
“ ก็พี่ฝัน! ”
แล้วโตโน่ก็เล่าเรื่องที่ตนเองฝันให้กันฟังอย่างละเอียดยิบ!
“ พี่น่าจะไปแต่งนิยายนะ จะบ้าเหรอใครมันจะมาปล้ำกัน
ไม่ได้น่ารักอะไรขนาดนั้นสักหน่อย ” กันทำหน้ายู่ ก่อนจะหยิบขนมไปแช่ตู้เย็น
“ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะกัน ”
“ ไม่ได้ลบหลู่ แต่พี่ดูนี่ กล่องมันไม่มีส่วนผสมอะไรแบบที่พี่บอกสักนิด!!! ” กันหยิบมาให้โตโน่ดู ร่างสูงรับมาพิจารณาและพบว่ามันปกติดีทุกอย่าง
“ เอ่อ...พี่คงคิดมากไป ฮ่าๆ ” โตโน่หัวเราะเจื่อนๆ
นอกจากจะไม่มีสรรพคุณยาเสน่ห์แล้ว มันยังเป็นช็อกโกแลตสั่งทำจากร้านดังด้วย
ร้านนี้เขาก็รู้จักดีเพราะมีสาขาทั่วกรุงเทพเลยทีเดียว
“ ไปกันได้แล้วพี่โน่ ไปๆๆ ”
กันนำช็อกโกแลตไปเก็บในตู้เย็นเหมือนเดิมก่อนจะเดินไปจูงมือหนาพากันออกจากห้องพัก
แต่พอนึกขึ้นได้ว่าควรจะเอาไปอวดริทและชวนคนอื่นทานด้วยกัน
เขาจึงกลับมาหยิบมันอีกรอบแล้วจึงเดินนำโตโน่ไป
“ กัน ” จู่ๆร่างสูงก็หยุดเดินและเรียกคนตัวเล็กที่กำลังเปิดประตูห้อง
“ หืม? ” กันหันมาตามเสียงเรียก
จุ๊บ!!
“ หวานที่สุด~ ” โตโน่จุ๊บที่ปากบางและผละออกอย่างรวดเร็ว
เขายิ้มเจ้าเล่ห์
“ อะ...ไอ้พี่โน่!!! บอกแล้วไงว่าห้ามทำแบบนี้ในที่สาธารณะ!! ” กันทำหน้างอ
“ โธ่...ขอออกสื่อบ้างสิ หลังกล้องตลอดเลย แต่จะว่าไปหลังกล้องก็ดีนะ
เพราะนอกจากจูบแล้วยังได้....................... ”
โตโน่ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินเบียดกันออกจากห้องไป
“ เดี๋ยวสิพี่โน่ มาพูดให้จบก่อนนะ!! ”
กันวิ่งตามร่างสูงไปติดๆ จิตใจจดจ่อกับถ้อยคำชวนสงสัย
ทำให้ไม่ได้สังเกตบางสิ่งหน้าห้อง
กระดาษโน้ตสีเขียวอ่อนลอยขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อยตามแรงลมจากการวิ่งผ่านของร่างบางก่อนจะปลิวลงไปนอนนิ่งบนพื้นหน้าห้องเช่นเดิม
ตัวอักษรสวยงามเรียงร้อยเป็นถ้อยคำที่คนเขียนตั้งใจมอบให้เจ้าของช็อกโกแลต
เพียงแต่ว่ามันหลุดออกและอีกฝ่ายไม่ได้สังเกตเห็นจึงไม่ทราบถึงข้อความที่แนบมา...
...และคงไม่มีวันรับรู้คำเตือนนี้อีกต่อไป...!
[ ให้น้องกัน...
...จงทานให้หมดภายในวันนี้...
...ฉันทำสุดฝีมือและใส่ส่วนผสมพิเศษเพื่อกันโดยเฉพาะ...
...มันจะเห็นผลดีมากหากทานรวมกันหลายๆคน...
...ข้อสำคัญ...ห้ามผู้หญิงทานเด็ดขาด!.... ]
ความคิดเห็น