คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Only You [NoGun] 3/3
# 3 #
ทันทีที่รถสปอร์ตเปิดประทุนสุดหรูของโตโน่จอดเทียบหน้าบ้านของกัน
สมาชิกทั้งห้าคนที่รอคอยอย่างกระวนกระวายก็รีบวิ่งออกมาหน้าประตูด้วยความเป็นห่วง รินโผเข้ากอดกันแน่น
หยดน้ำสีใสไหลรินอาบแก้มด้วยไม่อาจห้ามความดีใจที่เห็นพี่ชายปลอดภัยได้
“ ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ พวกนายไม่ต้องห่วงขนาดนั้นหรอก ”
กันยืนยันซ้ำอีกครั้ง
เมื่อปรก ปัณณ์ และ รินไม่ยอมเลิกจับเขาหมุนรอบตัวเสียที มึนหัวจะแย่อยู่แล้ว สุดท้ายร่างบางจึงต้องดึงมือรินมากุมไว้แทน
ไม่เช่นนั้นเขาคงถูกจับหมุนไม่เลิกแน่ คิ้วสวยเลิกขึ้นน้อยๆเมื่อเห็นหน้าปรก กำลังจะถามว่ารอดมาได้ยังไงแต่พอเห็นน้องกังวลเรื่องของเขา
ร่างบางก็รู้สึกผิดที่...........ลืมปรกไปซะสนิทเลย -*-
“ นายไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอ แต่หายไปทั้งคืนเลยนะ ”
ยังไม่เลิกกังวล
“ ไม่เป็นอะไรจริงๆ แต่ก็...เกือบแย่เหมือนกัน
ดีที่พี่โน่มาช่วยทัน ” กันหันมายิ้มให้ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างกาย
“ เกือบแย่เหรอ? เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ไอ้พี่อาร์มันทำอะไรนายใช่ไหมกัน!
” ริทถามพลางลากเพื่อนเข้าไปนั่งคุยในห้องนั่งเล่น ปัณณ์ส่ายหัวเบาๆ
ก่อนจะเดินตามคนใจร้อนไป
“ ตอบมาว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น! ”
ทันทีที่นั่งลงบนโซฟาตัวยาว
ริทก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง แม้ปัณณ์จะปรามให้เพื่อนใจเย็นลงบ้างแต่ริทก็ไม่สน
มัวแต่สนใจกันจนไม่ทันสังเกตว่าปัณณ์เริ่มหน้างอมากขึ้นจากที่งอนอยู่แล้วเรื่องที่จับได้ว่าริทหนีเที่ยวเมื่อคืน
กันมองโตโน่เพื่อปรึกษาซึ่งร่างสูงก็ยอมให้กันบอกความจริงทุกอย่าง
เพราะดูท่าทางไม่ใช่แค่ริทที่อยากรู้ ทุกคนรอบตัวพวกเขาต่างก็มีสีหน้าอยากรู้เช่นกัน
เพียงแต่ว่าปัณณ์ดูจะเก็บอาการมากกว่าคนอื่นเท่านั้น
เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงไม่ค่อยยุ่งเรื่องคนอื่นเหมือนพี่น้องสักเท่าไร
ขนาดเรื่องในครอบครัวยังไม่ค่อยแสดงอาการสนใจให้เห็นมากเท่าไร
“ เลวชะมัด ถ้าฉันไม่เผลอกินเหล้าจนเมาพับล่ะก็นะ
คงได้ช่วยพี่โน่อัดมันไปแล้ว ”
ริทพูดด้วยความแค้นเคือง
เมื่อคืนเขากับเพลิงเมาคอพับคออ่อนแทบไม่มีสติ จนยอมรับข้อเสนอของอาร์ให้ไปนอนพักที่ห้องพักของโรงแรม
นึกไม่ถึงว่าการที่เขาตอบตกลงจะเป็นการเปิดช่องให้หมอนั่นมาทำร้ายเพื่อน
พอได้สติก็รีบแยกย้ายกลับบ้านเพราะคิดว่ากันกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว ที่ไหนได้พอมาหาเพื่อนตอนเช้ากลับพบว่ากันไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืน
ดีที่เห็นโตโน่มาส่ง ถ้าเป็นหมอนั่น เขาคงเป็นลมตายแน่....และก็คงถูกปัณณ์โกรธตลอดชีพ
-_-;;
“ มันผ่านไปแล้วก็ปล่อยไปเถอะ ถือว่าฟาดเคราะห์ ต่อไปพี่อาร์คงไม่กล้ากลับมายุ่งกับกันอีกแล้วล่ะ
” รินยิ้มพลางกอดกันเอาไว้
“ อย่าไปเรียกคนสารเลวนั่นว่า ‘พี่’ เลย ฟังแล้วขัดหู ” ปรกเบะปากด้วยความไม่ชอบใจ
“ เขาโตกว่าเรานี่ ก็ต้องเรียก ‘พี่’
สิ ”
“ เหอะ ทีกับฉันไม่เห็นนายกับปัณณ์เรียกว่า ‘พี่’ สักคำ ”
“ นายก็ทำตัวให้น่าเรียกสิ
อีกอย่างเกิดก่อนกันแค่ห้านาที พี่ว่าไม่จำเป็นหรอก ” รุจตอบโต้ปรกแทนริน
รอยยิ้มทะเล้นของร่างสูง ทำให้ปรกหมั่นไส้จนต้องคว้าหมอนอิงมาปาใส่
“ พี่กัน พี่ปรก ” เสียงเรียกเบาๆที่เหมือนเขาราวกับแกะ
ทำให้กันกับปรกหันไปมองต้นเสียงด้วยความรู้สึกประหลาดใจ รินขมวดคิ้วมุ่น
ก่อนจะช้อนตามองพี่ชายสองคน
“ รู้สึกอะไรไหม
” รินถามตาแป๋ว
“ ขนลุก!! ” สองเสียงประสานกันโดยไม่ต้องนัดหมาย
ก่อนจะมองน้องคนเล็กด้วยสีหน้าเซ็งสุดขีด เรียกเสียงหัวเราะให้คนรอบข้างได้อย่างดี
“ แล้วเมื่อคืนพี่โน่ไปช่วย ทำไมไม่กลับบ้านล่ะกัน
ฉันเป็นห่วงแทบแย่ ดีที่พ่อแม่กลับมาดึกและพักผ่อนเลย
ไม่อย่างนั้นพวกท่านต้องร้อนใจมากแน่ที่นายยังไม่กลับบ้าน ” กันหน้าแดงแป๊ดทันทีที่ได้ยินคำถามของปัณณ์
เหตุการณ์เมื่อเช้าทำให้เขาอายแทบแทรกแผ่นดินหนี
“ กันเขากลับไม่ไหวหรอกปัณณ์ โดนพี่โน่ทับทั้งคืน
ไม่มีแรงกลับบ้านหรอก ” ริทแซวพลางหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
แต่คนเล็กกลับขมวดคิ้วมุ่น
“ พี่โน่ทับก็บอกให้ลุกออกไปสิ
แล้วนายก็ลุกขึ้นกลับบ้าน ยากตรงไหน ” รินไม่เข้าใจความหมายแฝงในประโยคเหล่านั้น
เขากลับคิดว่าโตโน่นั่งทับกันจนลุกไม่ได้เพราะหนักเกินไป
“ รินอย่าไปสนใจเลย เอ้อ....ไหนๆก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา
พี่ว่ารินไปตัดเค้กมาให้พวกนี้กินดีกว่าไหม ” รุจชวนเปลี่ยนเรื่อง
เขาไม่อยากตอบคำถามวกวนเข้าใจยากของรินในเวลานี้
...............อันที่จริงคำถามน่ะ ไม่ยาก แต่จนปัญญาที่จะตอบให้รินเข้าใจได้ง่ายๆ
-*-................
“ เอาสิ ฉันก็อยากกินเหมือนกัน
ไม่ได้กินเค้กฝีมือนายมาพักใหญ่แล้ว ” กันสนับสนุน เขาออกมาจากโรงแรมแต่เช้า
ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง พอรุจพูดแบบนั้นจึงรีบเห็นด้วยทันที
“ เอางั้นก็ได้ ” รินยิ้มรับ
ก่อนจะลุกเดินไปทางห้องครัวโดยมีรุจคอยเดินโอบเอวบางไม่ยอมห่าง
“ ได้เวลาติวหนังสือแล้ว จะไปเลยไหม ” ริทที่นั่งอยู่บนพนักวางแขนของโซฟามองดูนาฬิกา ก่อนจะก้มมาพูดกับปัณณ์ในระยะประชิด
ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดปลายจมูกโด่ง ทำให้ดวงหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ
“ เอ่อ....เออ จะยื่นหน้ามาใกล้ทำไมวะ
คิดไรกับเพื่อนป่ะเนี่ย ” ปัณณ์แกล้งแซวกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง
ดวงตาหวานไม่กล้าสบตาเพื่อน
“ ตลกแล้ว อย่ามาชวนนอกเรื่อง ไปเรียนกันเถอะ
เสร็จแล้วจะได้มากินเค้กกัน ” ริทจูงมือบางพาเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง
โดยไม่สนใจเสียงแซวของปรกที่รู้ดีว่าสองคนนั้นเป็นเพื่อนสนิท....คิดไม่ซื่อ....
“ ใจตรงกันแท้ๆจะอ้ำอึ้งกันอยู่ทำไมก็ไม่รู้” ปรกพูด ก่อนจะหันกลับมาทางกัน แล้วก็สะดุ้งเมื่อถูกมองด้วยสายตาคาดคั้น
“ อะ...อะไรของนาย ”
“ เล่าเรื่องเมื่อคืนมาเดี๋ยวนี้ หมอนั่นทำอะไร!!
”
ปรกรู้สึกฝืดคอขึ้นมาทันทีที่เห็นสายตาจ้องเขม็งของกัน
ตั้งแต่เกิดมายี่สิบกว่าปี เขาเพิ่งรู้สึกวันนี้แหละว่ากันเป็นพี่ชาย
ทำให้จากที่คิดจะชิ่งหลบหนีไปอยู่ในห้อง ปรกจึงต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้กันฟัง
ตั้งแต่สืบตารางงาน ตารางเที่ยว ที่อยู่ สะเดาะกุญแจ ค้นห้อง จนกระทั่งถูกจับได้และปล่อยตัวกลับมาตอนเกือบรุ่งสาง
พอเล่าจบปุ๊บ เสียงโทรศัพท์ของปรกก็ดังขึ้นขัดจังหวะการซักถามของกัน ปรกเลี่ยงไปคุยอีกด้าน
ก่อนจะเดินหน้าบึ้งกลับมา
“ ไอ้บ้านั่นมันโทรมาตามฉันให้ไปหาที่คอนโดเดี๋ยวนี้
น่ารำคาญที่สุดเลย ”
“ นายแลกเบอร์กันแล้วเหรอ ”
“ แลกบ้าอะไรล่ะ มันขโมยไปเอง
แล้วก็ขู่ว่าถ้าฉันไม่รับสายจะแจ้งตำรวจจับ โธ่เอ๊ย คิดว่ากลัวหรือไง ”
“ งั้นนายก็จะไม่ไปหา ”
“ ไปสิ! เจอกันตอนเย็นนะกัน ”
ปรกคว้ากุญแจรถ ก่อนจะวิ่งออกจากบ้านไป
“ เหอะ! ไม่กลัว
วิ่งซะหางจุกตูดเลย ปากเก่ง ฟอร์มจัด ท่ามาก ”
“ เหมือนนายไง ”คนข้างกายแทรกขึ้นมาทันควัน
“ พี่โน่! ”
“ หึ พี่อยากเข้าห้องน้ำจังเลยกัน ”
“ ก็ไปสิ มาบอกทำไม ” ....ทำอย่างกับว่ายืมใช้กันได้อย่างนั้นแหละ....
“ พี่ใช้ห้องน้ำไม่เป็น เราไปเข้าด้วยกันเถอะนะ ”
โตโน่ตาวาววับ
“ บ้า ทะลึ่ง ไปทำหน้าหล่อไกลๆเลย ”
กันผลักหน้าโตโน่
ร่างสูงหัวเราะ ก่อนจะเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกมุมหนึ่งของตัวบ้าน
ลับหลังร่างสูง กันก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข เขาดีใจที่โตโน่ไม่ถือโทษโกรธที่เขากั้นระยะห่างอย่างไร้เหตุผล
ดีใจที่กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ร่างบางลุกออกจากห้องนั่งเล่นเดินออกไปจากตัวบ้าน
โตโน่กลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นอีกครั้งก็ไม่พบกันแล้ว
ร่างสูงเดินตามหาคนน่ารักทั่วบริเวณด้วยความเป็นห่วง ลึกๆเอาก็แอบกลัวอาร์ย้อนกลับมา
เมื่อพบว่ากันนั่งเล่นอยู่ที่สระว่ายน้ำ เขาก็หัวเราะขำตัวเองที่ห่วงเกินเหตุ
บ้านหลังนี้มีเวรยามแน่นหนา ใครจะมาทำอันตรายคุณหนูตระกูลนี้ได้
ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ร่างบางที่กำลังหย่อนขาลงไปในน้ำและทรุดกายลงนั่งชันเข่าด้านหลังพร้อมกับโอบกอดร่างเพรียวบางเอาไว้
กันจึงเอนกายพิงแผ่นอกแกร่ง รอยยิ้มบางๆปรากฎอยู่บนดวงหน้าหวานไม่จางหาย
แต่สายตายังคงทอดไปยังผืนน้ำเบื้องล่าง
“ นั่งตากแดด ระวังจะไม่สบายนะ ” ถึงแม้จะยังไม่เที่ยงวัน แต่แสงแดดยามสายก็แรงไม่ใช่เล่น
“ ดีสิ พี่จะได้คอยดูแล คอยมาอยู่ใกล้กันตลอดเวลา ”
“ ต่อให้กันสบายดี พี่ก็ไม่หนีห่างไปไหนหรอก จะอยู่จนกันเบื่อพี่ไปอีกรอบเลย
”
“ ไม่มีวันนั้นแล้วล่ะ ไป....เข้าบ้านดีกว่า ” กันพยายามจะลุกขึ้น แต่โตโน่กลับกอดไม่ยอมปล่อย
“ จะรีบไปไหนล่ะ นานๆทีเราจะได้อยู่ด้วยกันตามลำพังนะ ”
“ ก็พี่ไม่อยากให้กันตากแดดนี่ ”
“ ไม่เป็นไรหรอก รับรองว่าพี่จะไม่ให้กันโดนแดด ”
“ พี่จะทำยังไงล่ะ ร่มก็ไม่มี
หมวกก็ไม่ได้หยิบมาสักหน่อย ” กันพยายามมองรอบตัวโตโน่แต่ก็ไม่พบอุปกรณ์กันแดดเลยสักอย่าง
แล้วร่างสูงจะทำยังไงไม่ให้เขาโดนแดดล่ะ
“ ก็อย่างนี้ไง ” โตโน่ดันร่างกันให้เอนลงนอนกับพื้น
ก่อนจะรีบยกตัวขึ้นคร่อมเอาไว้ทันที สองแขนถูกตรึงเหนือศีรษะ
“ พี่จะทำอะไร อย่านะ นี่มันกลางวันแสกๆเลยนะ
กลางแจ้งด้วย ปล่อย!! ” เด็กหนุ่มดิ้นพล่าน
สองขายกขึ้นจากผืนน้ำเพื่อจะถีบคนลามกสักป๊าบ แต่กลับทำไม่ถนัดนัก
“ กลางแจ้งไม่ได้ งั้นแสดงว่าในร่มได้น่ะสิ ”
“ บ้า พี่มันหื่นชะมัด ปล่อยเลยนะ ” กันโวยวายหน้าแดง นึกอยากให้พ่อแม่ตัดเงินเดือนคนสวน
ตะโกนดังขนาดนี้ยังตั้งหน้าตั้งตาตัดกิ่งไม้อยู่ได้
ไม่เห็นหรือไงว่าคุณหนูจะโดนปล้ำโว้ยยยยยยย!!!!
“ หน้าแดงแบบนี้แสดงว่ากำลังกลบเกลื่อนความต้องการที่แท้จริง
โอเค.....เราขึ้นไปทำกันที่ห้องดีกว่าเนอะ ” โตโน่ช้อนร่างบางขึ้นอุ้มพาดบ่าทันที
เสียงโวยวายที่ดังแสบแก้วหู เขาก็คิดซะว่าเป็นเสียงอันไพเราะของนกไนติงเกล
“ ปล่อยนะพี่โน่ ห้องกันซ่อมอยู่ หลังคารั่ว
กันนอนห้องปรก ” ร่างบางพยายามหาข้ออ้าง
“ งั้นห้องของปรกแล้วกัน ปรกไม่อยู่นี่นา
อย่าพยายามเลยกัน นายไม่รอดหรอก ห่างหายไปเกือบเดือน พี่ต้องตักตวงให้คุ้มหน่อยแล้ว
”
กันส่งเสียงโวยวายมาตลอดทาง
มือเรียวพยายามยื้อยุดทุกอย่างที่คว้าเอาไว้ได้ แต่ก็ถูกโตโน่กระชากออกทุกครั้งไป
บรรดาแม่บ้านหรือสาวใช้ต่างทำเพียงแค่ออกมามองดูด้วยความสงสัยเท่านั้น
พอเห็นเขาถูกโตโน่อุ้มก็พากันเดินจากไป ไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วยเลยสักคน กันยิ่งพาลอยากไล่ออกให้หมด
เห็นการเสียเวอร์จิ้น(ยังมีอยู่อีกเหรอ?)ของเขาเป็นเรื่องปกติหรือไงถึงได้เมินกันแบบนี้!!!
โตโน่เปิดประตูห้องของปรกและลงกลอนอย่างแน่นหนา
ก่อนจะวางร่างกันลงบนที่นอนสีขาวสะอาดตา ทันทีที่หลุดจากแขนของโตโน่ได้ กันก็ชันตัวลุกขึ้นเตรียมจะวิ่งหนี
แต่กลับถูกโตโน่กระชากลงมานอนกลางเตียงตามเดิม ร่างสูงขึ้นคร่อมพร้อมทั้งใช้หน้าขากดทับขาของคนรักเอาไว้
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาประชิดจนปลายจมูกชนกัน ลมหายใจอุ่นของโตโน่ ทำให้กันหยุดโวยวายและรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งผิวหน้า
“ พี่รักกันจังเลย ”
“ ระ...รู้แล้ว จะพูดทำไมหลายๆรอบ ” มันเขินนะ
“ พี่อยากบอกนี่ อยากให้รู้ว่าทุกลมหายใจของพี่มีแต่คำว่า...รักกัน
”
“ แหวะ ” กันแลบลิ้นเล็กๆ
ก่อนจะเสมองไปทางอื่น แต่ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มเขินอายได้
“ เลี่ยนแต่ก็ชอบไม่ใช่เหรอ ”
“ มากๆเลย ฮ่าๆ แต่พี่ไม่เคยพูดแบบนี้กับกันสักที
ขอแค่อาทิตย์ละครั้งก็พอแล้ว ”
“ หึ....ต่อไปจะพูดให้ฟังทุกวันเลย ดีไหม? ”
“ พี่เป็นตัวของตัวเองเถอะ กันจะไม่บังคับให้พี่เป็นอย่างที่กันต้องการอีกแล้ว
ขอแค่พี่เป็นโตโน่ที่รักกันมากที่สุด กันก็พอใจแล้วล่ะ ”
“ อันที่จริงพี่ก็พอใจนะที่กันเป็นแบบนี้ ถึงจะเอาแต่ใจ
ดื้อรั้น ปากจัด อวดเก่ง ฟอร์มเยอะ ซ่ามากแค่ไหน พี่ก็รับได้นะ อะไรที่เป็นกัน
พี่ยอมรับได้เสมอ เพราะพี่รักกันเพียงคนเดียว ”
“ ไม่เห็นเหมือนคำชมตรงไหนเลย ”
“ กันจะน่ารักมากขึ้นอีกนะ
ถ้าลดนิสัยพวกนั้นลงมาสักครึ่งนึง -*-”
“ ไหนว่ารับได้ไง ”
“ ก็รับได้ แต่ที่อยากให้ลดเพราะเป็นห่วง ”
“ กันรู้ เอาเป็นว่าจะยอมลดให้ก็แล้วกัน รักนะเนี่ยถึงได้ยอมลดให้ครึ่งนึง
ถ้าไม่รักนะ ป่านนี้อย่าหวังเลยว่าจะรอดพ้นจากหมัดกัน วิจารณ์ซะเสื่อมเสียหมด ”
“ หึ.........พี่รักกันที่สุดเลย เจ้าตัวแสบ ”
กันหลับตาพริ้ม
เมื่อริมฝีปากหยักโน้มต่ำลงมาสัมผัสบนกลีบปากบางของเขา รสจุมพิตแสนหวานและนุ่มนวล
ปราศจากรสชาติขมฝาดของแอลกอฮอล์
แตกต่างจากสัมผัสเมื่อคืนที่มีเพียงความร้อนแรงจากไฟราคะเท่านั้น
ร่างบางปล่อยให้ร่างสูงตักตวงความหอมหวานอย่างเต็มที่ โตโน่ถอนริมฝีปากออก เมื่อกันครางประท้วง
จากนั้นเขาจึงโน้มใบหน้าซุกไซ้ซอกคอระหง แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรมากไปกว่านั้น กันก็ผลักร่างของโตโน่ลงไปนอนด้านล่างและเป็นฝ่ายอยู่ด้านบนแทน
“ หือ? วันนี้อยากอยู่ด้านบนหรือไง ”
“ ให้กันทำให้พี่นะ ” กันกระซิบเสียงสั่นพร่าข้างใบหูของคนรัก
“ อืม.............. ”
ริมฝีปากบางประกบจูบริมฝีปากหยักอย่างดูดดื่ม
มือเรียวไล้สัมผัสวาบหวามผ่านเนื้อผ้าชั้นดี ก่อนจะแทรกเข้าไปภายใน ไล้สัมผัสไปตามแผ่นอกแน่นและหน้าท้องที่มีซิกแพคสวยงาม
นิ้วเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของร่างสูงออกทีละเม็ดๆอย่างเชื่องช้าจนหมดรังดุม
เสื้อเนื้อดีถูกถอดออกและโยนทิ้งไปทางอื่น
ร่างบางยกยิ้มอ่อนหวาน
นัยน์ตาหวานเชื่อมจนคนถูกมองรู้สึกปั่นป่วน ดวงหน้าหวานโน้มลงซุกไซ้ซอกคอขาว
รอยสีแดงปรากฎขึ้นในทุกพื้นที่ที่ลากผ่าน
นิ้วเรียวลากไล้ไปตามร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของชายหนุ่มให้พวยพุ่งมากขึ้น
ลิ้นอุ่นไล้สัมผัสจนมาถึงหน้าท้องแกร่งและวนเวียนไปมา
ร่างบางหยัดกายนั่งตัวตรง
สะโพกกลมบดเบียดส่วนสำคัญภายใต้ร่มผ้าอย่างวาบหวาม การกระทำที่ไม่เคยได้รับจากคนรัก
ทำให้ร่างสูงแทบคลั่ง เสียงครางดังขึ้นในลำคอด้วยความพึงพอใจ
มือสั่นเทาเอื้อมมาสัมผัสสะโพกมนเพื่อควบคุมจังหวะ
แต่ร่างบางกลับปัดมือของเขาออกและหยุดเคลื่อนไหวร่างกาย
ร่างสูงปรือตาขึ้นมองด้วยความสงสัยว่าเหตุใดบทรักที่ชะงัก
แล้วเขาก็อมยิ้ม เมื่อเห็นคนรักถดถอยออกห่างไปนั่งที่หน้าขา
มือเรียวบางเอื้อมมือปลดกระดุมกางเกงและซิบของร่างสูงด้วยรอยยิ้มยั่วยวน
เด็กหนุ่มลุกไปยืนที่ปลายเตียง แล้วเริ่มร่นกางเกงของร่างสูงลงอย่างอ้อยอิ่ง มือเรียวป่ายปัดไปตามหน้าขาแกร่ง
ร่างสูงหลับตาพริ้มอีกครั้ง ไม่บอกก็รู้ว่าคนตัวโตกำลังรู้สึกเคลิบเคลิ้มเพียงใด
แต่กันกลับถอดกางเกงมากองไว้ที่หน้าแข้งของโตโน่เพียงเท่านั้น
ร่างบางหยุดการเล้าโลมทุกสิ่ง
มองร่างสูงที่เริ่มตื่นตัวอย่างชัดเจนด้วยรอยยิ้มขบขัน
เสียงหัวเราะคิกคักของกัน
ทำให้ร่างสูงลืมตามอง เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจว่ากันกำลังขบขันในเรื่องใด
มีเรื่องอะไรที่น่าตลกในเวลานี้ ....เวลาที่เขากำลังต้องการครอบครองคนรักอย่างถึงที่สุด....
ร่างบางเดินนวยนาดเข้ามาใกล้ร่างสูงที่กำลังนอนมองมาทางเขาด้วยความงุนงง
ริมฝีปากเล็กกระซิบเสียงแผ่วข้างใบหูของคนรัก น้ำเสียงหวานที่เขาแสนหลงใหลกระซิบถ้อยคำที่ทำให้โตโน่ตกตะลึง
“ ทรมานใช่ไหมพี่โน่...........งั้น..............ช่วยตัวเองไปแล้วกัน!!
”
กันวิ่งออกจากห้องของปรกไปด้วยความเร็วเหนือแสง
เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสะใจ ทำให้โตโน่ได้สติ หลังจากหายอึ้ง
เขาก็รีบลุกจากเตียง แต่ด้วยความรีบร้อนและการแต่งตัวที่ไม่เรียบร้อย
กางเกงที่ถูกสวมใส่เพียงแค่หน้าแข้ง ทำให้ทันทีที่ลุกจากเตียง
ร่างสูงก็ล้มลงหน้าคว่ำกับพื้นพรมสีกาแฟ
โตโน่ลุกขึ้นนั่งอยากยากลำบาก
จะให้ใส่กางเกงแล้ววิ่งตามกันก็ไม่ไหว
เพราะบัดนี้อารมณ์ของเขาพุ่งพล่านเกินกว่าจะทำสิ่งใดได้
ดวงตาคมมองไปยังห้องน้ำซึ่งอยู่ห่างไม่มากนัก เขาจึงค่อยๆกระเถิบตัวไปกับพื้นเพื่อเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำแทน
“ ไอ้เด็กบ้า นายกลับมารับผิดชอบพี่เลยนะ กันนนนนน..........................T^T
”
=+=+=+=+=+= The End =+=+=+=+=+=
:::Writer Talk:::
จบแล้วววว มีใครอยากอ่านคู่ไหนจากเรื่องนี้เพิ่มเติมไหมคะ บอกกันได้น้าาา
แต่อย่าบอกว่าแล้วแต่เรา เพราะเราจะนึกไม่ออกและแต่งเรื่องอื่นแทน 555555
มีคนขอธันปัณณ์ เราก็อยากแต่งนะ แต่เรานึกพลอตไม่ออกเลย ไว้นึกออกจะแต่งให้นะคะ
วันนี้พี่โน่ไม่ได้ไปฟิวเจอร์ อดฟินโน่กันเลยอ่ะ แต่ไม่เป็นไร เข้าใจว่าพี่ไม่สบาย โอกาสหน้ายังมี ^-^
ไว้พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นเลยค่ะ ^O^
ความคิดเห็น