คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Only You [NoGun] 1/3
Only You
# 1 #
ท่ามกลางความวุ่นวาย
แสงไฟหลากสี และ เสียงดนตรีกึกก้องของคลับหรูย่านทองหล่อ
ร่างของคนสองคนกำลังยืนเผชิญหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมหลบหลีก
เด็กหนุ่มร่างเพรียวบางไม่รู้สึกหวาดกลัวแววตาดุดันที่มองมาสักนิดทั้งที่เพิ่งถูกจับได้ว่ากำลังคลอเคลียกับใครอีกคนซึ่งบัดนี้ถูกซ้อมจนยับเยินจนหมดสติ
ร่างสูงกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด
ยิ่งเด็กหนุ่มเมินเฉย เขายิ่งโกรธจนอยากซัดใบหน้าหวานๆนี้สักทีแต่ไม่อาจทำได้ด้วยเสียดายความงดงามของคนตรงหน้า
มือแกร่งกระชากร่างเพรียวบางเข้าหาลำตัวและโอบกอดรอบเอวคอดไว้แน่น แขนเรียวพยายามดันร่างตนเองให้หลุดจากแผ่นอกกว้างของคนที่กำลังรุกล้ำร่างกายของเขา
แรงต่อต้านทำให้ร่างสูงยิ่งกระชับกอดแน่นมากขึ้น
ริมฝีปากร้อนจูบไปตามซอกคอระหงที่หอมยั่วยวนเขาจับใจ
มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนไปยังขอบกางเกงหนังสีดำเพื่อจะปลดตะขอและซิปออก
ส่วนมืออีกข้างเลื่อนต่ำลงบีบสะโพกมนเต็มแรง คนตัวบางเริ่มหวาดหวั่น
เขาพยายามดิ้นรนและดันร่างสูงสุดแรงเกิดจนอีกฝ่ายเซถอยหลังเพราะไม่ทันตั้งตัว กำปั้นเล็กฟาดลงบนเสี้ยวหน้าหล่อเหลาอย่างแรงเมื่อหลุดออกมาได้
ของเหลวสีแดงที่ไหลซิบบริเวณมุมปาก
ทำให้ร่างสูงโกรธมากขึ้น เขาง้างมือสุดแขนเพื่อจะตบดวงหน้าหวานของคนร่างเพรียวบางแต่กลับไม่กล้าลงมือรุนแรง
สุดท้ายร่างสูงก็คว้าขวดแก้วใสที่บรรจุเตกีล่าขึ้นมาเทรดศีรษะคนตรงหน้าจนหมดทุกหยดและปาขวดไปโดนร่างบอบบางก่อนที่ขวดแก้วจะตกลงบนพื้นเบื้องหน้า
จากนั้นจึงเดินออกจากคลับไปอย่างฉุนเฉียว ไม่สนใจร่างบางที่เปียกโชก
ดวงตากลมมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความโกรธระคนอับอาย
แวบหนึ่งดวงตาสวยเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใสแต่ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว
มือเรียวเช็ดน้ำออกจากใบหน้า
เขาหมุนตัวเตรียมจะจ่ายเงินและเดินออกจากคลับ
แต่กลับพบว่ามีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้อง ชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อหนังสีดำกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล
ริมฝีปากหยักยกยิ้มเจ้าเล่ห์
แก้วที่บรรจุของเหลวสีอำพันยกขึ้นราวกับจะเชิญชวนให้เด็กหนุ่มดื่มด้วยกัน
กลับทำให้ร่างเพรียวบางรู้สึกหมั่นไส้และขัดใจ
เขาเดินออกจากคลับด้วยความหงุดหงิดที่เพิ่มมากขึ้น
+_+_+_+_+
O = N = L = Y = Y = O = U +_+_+_+_+
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
มหาวิทยาลัยนานาชาติแฟร์รี่โทเปีย
ทันทีที่อาจารย์เอ่ยเลิกคลาสเรียน
บรรดานักศึกษาต่างรีบกรูออกจากห้อง บางคนรีบไปเรียนวิชาต่อไป
บางคนก็รีบกลับบ้านหรือไปเที่ยวต่อกับเพื่อนฝูง
แตกต่างจากร่างเพรียวบางที่เก็บของและเดินออกจากห้องอย่างเอื่อยเฉื่อย
ดวงตากลมมองบรรดาคู่รักที่เดินจูงมือกันตลอดทางด้วยแววตาเบื่อหน่ายระคนอิจฉา
หากเป็นเมื่อก่อน ทุกคนคงต้องอิจฉาเขามากกว่าที่เขาต้องเป็นฝ่ายอิจฉาความรักของใคร
เด็กหนุ่มเดินมาหยุดที่โต๊ะหินอ่อนภายในสวนหย่อมของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นโต๊ะประจำของกลุ่มเขา
โชคดีที่สวนอยู่ไม่ห่างจากตึกคณะ ไม่งั้นเขาคงหงุดหงิดกว่านี้
ร่างเพรียวบางวางหนังสือลงบนโต๊ะด้วยเสียงอันดัง แต่ไม่มีใครหันมาสนใจเลยสักคน
เขากระแทกตัวลงนั่งด้วยใบหน้าบึ้งตึงก่อนจะกระแทกหนังสือกับโต๊ะแรงๆอีกหลายครั้ง
จนกระทั่งคนที่นั่งอ่านหนังสือเริ่มรำคาญ
“ หยุดทำเสียงน่ารำคาญได้แล้ว กัน ” ริทปรายตามองเพื่อนและกลับมาสนใจหนังสืออีกครั้ง
“ พวกนายก็เลิกอ่าน เลิกนอนหลับ เลิกวาดรูป เลิกเล่นโน้ตบุ๊ค
เลิกฟังเพลง แล้วหันมาสนใจฉันบ้างสิ ”
“ ไปหงุดหงิดอะไรมาอีกล่ะ ” เพลิงที่นอนฟุบกับโต๊ะเงยหน้าขึ้นมาถามพลางมองดูนาฬิกาแล้วหาวหวอด
อีกไม่กี่นาทีเขาต้องขึ้นเรียน แตกต่างจากกันที่บัดนี้ไม่มีเรียนต่อ
“ ก็หงุดหงิดพวกนักศึกษาแถวนี้น่ะสิ
เดินหวานกันไม่อายฟ้าอายดิน ” ประโยคหลังเด็กหนุ่มพึมพำเสียงแผ่วเบา
แต่เพื่อนรักอย่างเพลิงก็ยังได้ยิน
“ อิจฉาเขาสินะ ตอนนี้ไม่มีคนให้ควงนี่ ”
“ เหอะ คนอย่างฉันเนี่ยนะ ไม่มีคนให้ควง
แค่กระดิกนิ้วก็ตามมาเป็นพรวนแล้ว ”
“ หึ แต่ก็ไม่ถูกใจ ”
กันเงียบเมื่อเพื่อนพูดแทงใจดำ
สองสามอาทิตย์ที่ผ่านมานี่ เขาเปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า
แต่ไม่มีใครถูกใจเลยสักคนเดียว บางคนก็โอเวอร์อวดรวย บางคนก็น่าเบื่อ
บางคนก็จ้องแต่จะฟันเขาอย่างเดียว
พอทำอะไรที่ขัดใจไม่พอใจก็พาลทำร้ายเขาเสียดื้อๆหรือไม่ก็พูดจาว่าร้ายอย่างเจ็บแสบ
“ คนที่เคยถูกใจดันไม่ยอมควงต่อ ไอ้ที่ควงก็ไม่โดนใจ
เฮ้อ..ฉันขอแนะนำว่า....กลับไปที่เดิมดีกว่า ” เด็กหนุ่มที่กำลังวาดรูปเอ่ยขึ้น
“ ไม่! ฉันเบื่อ ” กันเบะปากใส่คนที่หน้าตาเหมือนเขาเป็นพิมพ์เดียวกัน
“ นายมันดื้อ อวดเก่ง ”
ริทว่าเข้าให้พร้อมกับผลักหัวกลมๆของเพื่อนด้วยความหมั่นไส้
“ หัดยอมๆเขาบ้างเถอะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเบื่อนั่งหงุดหงิดอย่างนี้
อีกอย่างจะได้เลิกควงคนนั้นควงคนนี้สักที ฉันไม่ชอบเลยที่นายควงไม่เลือกแบบนี้ ”
เด็กหนุ่มที่กำลังนั่งเล่นคอมพูดโดยไม่เงยหน้ามาสบตากัน
“ ฉันก็ไม่ชอบที่นายทำเรื่องพวกนี้เหมือนกัน
คืนนี้จะไปขโมยอะไรอีกล่ะ ” กันแย่งโน้ตบุ๊คมาจากอีกฝ่าย หน้าจอปรากฎข้อความจ้างวานให้ขโมยผ้าเช็ดหน้าของนายแบบคนหนึ่งในราคาสูงลิบ
“ ผ้าเช็ดหน้าสีขาวปักข้อความ SY สีดำ และ รูปสิงโตสีน้ำตาลหนึ่งตัว ของสน ยุกต์....... นี่มันดาราขี้เก๊กที่นายไม่ชอบขี้หน้านี่นา
ปรก ” กันไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรับงานนี้หรอก แต่ราคาขนาดนี้ น่าเสียดายถ้าไม่ทำ
“ ก็ใช่น่ะสิ แต่เขาจ้างตั้ง 10,000 บาท ไม่ทำก็น่าเสียดายแย่ ” ปรกบ่นพลางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
ก่อนตัดสินใจตอบรับยินยอมทำงานและนัดสถานที่จ่ายเงินสำหรับรับสินค้า
ทำให้คนที่หน้าเหมือนเขาซึ่งนั่งฟังเพลงมาตลอดขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ ดาราระดับนี้ นายจะเข้าถึงตัวเขาได้ยังไง ” รินถามขึ้น
รินไม่ได้อยากจะยุ่งหรอก
แต่เขาทำงานวงการเดียวกัน รู้ดีว่าสนเป็นดาราที่ดุแค่ไหน
ฉายาเจ้าชายน้ำแข็งนี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสักนิด
ขนาดเขาเป็นนักร้องแถวหน้าของบริษัทยักษ์ใหญ่และมีรางวัลการันตีเพียบยังต้องยอมแพ้สายตาเย็นชานั่นเลย
แค่ยืนใกล้ๆก็หนาว ดังนั้นไม่ต้องหวังว่าบทสนทนาจะเกิดขึ้นเลย สนปรายตามองนิดเดียว
คำพูดของเขาก็ถูกกลืนลงคอจนหมดสิ้น
“ มันต้องมีวิธีสิ เอาเถอะ ถือเป็นการคลายเครียดจากโปรเจ็คจบ ”
“ เมื่อไรนายจะเลิกทำงานเสี่ยงๆพวกนี้สักที
บ้านก็รวยจะเอาเงินไปทำอะไรนักหนา งานพิเศษดีๆไม่เสี่ยงคุกมีเยอะแยะไม่ยอมทำ ”
ริทมองเพื่อนอย่างเหนื่อยใจ จบไปก็ทำงานเป็นนักออกแบบตกแต่งภายใน
เงินเดือนดีจะตาย ทำไมต้องเสี่ยงทำงานบ้าๆนี่ก็ไม่รู้
“ ฉันชอบเงินนี่นาและงานนี้ก็เงินดี ไม่ต้องใช้สมองมาก
อาศัยศิลปะป้องกันตัวที่เรียนมาตั้งแต่เด็กก็ทำได้แล้วและฉันก็แค่ขโมยของใช้ส่วนตัวดารามาให้แฟนคลับที่คลั่งมากๆเท่านั้นเอง
ไม่ได้ไปทำอะไรผิดกฎหมายร้ายแรงสักหน่อย แล้วนี่มันเป็นของใช้เล็กๆน้อยๆ
พวกนั้นไม่เดือดร้อนหรอก ”
“ ตามใจ โดนจับได้เมื่อไรก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน ”
รินเอ่ยด้วยความเอือมระอา ไม่อยากคัดค้านอะไร
เพราะรู้ดีว่าไม่เคยฟัง ไม่ใช่แค่ปรก
แต่เป็นพี่ๆทุกคนที่ไม่เคยฟังน้องเล็กอย่างเขาเลย -*-
“ ถึงไม่พูดออกมา ฉันก็ไม่ขอให้ใครช่วยหรอก ”
“ อวดเก่งเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง ” เพลิงส่ายหัวเบาๆ
“ ยุ่ง!! ” กันกับปรกประสานเสียงกันว่าเพลิงด้วยความไม่พอใจ
“ กัน!! ” เสียงทุ้มที่ตะโกนเรียกมาแต่ไกล
ทำให้เจ้าของชื่อหันไปมองและเมื่อเห็นว่าเป็นใคร กันก็รีบเก็บของเดินหนีไปที่อื่นทันที
ทำให้บี้ต้องรีบตามไป
“ ครูบี้ตื้อชะมัด ” ริทมองตามแผ่นหลังร่างสูงของคนที่เพิ่งแยกทางกับกันไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
แต่ก็ยังตามง้องอนไม่เลิกรา ทั้งที่เป็นฝ่ายทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงแท้ๆ
“ คราวนี้เขาไม่จำผิดคว้าพวกนายไปจูบแล้วล่ะ ปัณณ์ ปรก
ริน ” เพลิงหัวเราะคิกคัก เมื่อนึกไปถึงหลายๆครั้งที่พบบี้แล้วชายหนุ่มดึงพี่น้องของกันไปจูบซะงั้น
“ ฉันไม่ได้ชอบเขา ไม่ได้หวั่นไหวกับจูบของผู้ชายด้วย
ไม่ขนลุกกันหรือไง โดนผู้ชายด้วยกันจูบน่ะ ” ปรกทำหน้าขยะแขยงเต็มที
“ อ๋อ เหรอ แต่เขาว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้นนะ ”
“ ไม่มีทาง! ”
+_+_+_+_+
O = N = L = Y = Y = O = U +_+_+_+_+
“ กัน เดี๋ยวสิ ฟังพี่ก่อน ” บี้รั้งแขนบางเอาไว้
ก่อนจะอ้อมมาอยู่ด้านหน้า
“ เลิกยุ่งกับผมสักทีเถอะ ” สรรพนามที่เปลี่ยนไป
ทำให้ร่างสูงไม่พอใจเล็กน้อย
“ ไม่ พี่ไม่ยอมปล่อยเราไปหรอก ”
“ เรื่องของเรามันจบไปแล้วนะพี่บี้
แล้วคนที่ทำให้มันจบก็คือพี่! ถ้าวันนั้นพี่ไม่สาดเหล้าใส่ผม
ไม่ทำให้ผมอับอายขายขี้หน้าคนอื่นกลางคลับนั่น ผมอาจจะยกโทษให้
แต่ในเมื่อพี่ทำมันลงไป ก็อย่ามายุ่งกับผมอีกเลย
กลับไปสอนหนังสือเหมือนอาจารย์คนอื่นๆเถอะ อย่ามายุ่งกับลูกศิษย์อย่างผมเลย! ”
“ ถ้านายไม่มั่วกับคนอื่น พี่ก็ไม่โกรธขนาดนั้นหรอก ”
“ มั่วเหรอ? หึ.........งั้นพี่ก็อย่ามายุ่งกับคนมั่วๆเลย
”
“ แต่พี่ต้องการกันนะ ” บี้รั้งกันเข้ามาไว้ในอ้อมแขน
ริมฝีปากหยักพยายามกดจูบไปตามซอกคอหอมแต่กันพยายามหลบหลีกตลอด
“ ปล่อยนะ ผมไม่ต้องการพี่แล้ว
ผมไม่ได้ชอบไม่ได้รักพี่ คนที่ผมรักเป็นใครพี่ก็รู้นี่ ” มือบางทั้งผลักทั้งดันร่างหนาที่พยายามบดเบียดเข้าใกล้
“ นายกับหมอนั่นเลิกกันแล้ว ”
“ ถ้าทางพฤตินัยล่ะก็.........ใช่!........แต่ในอีกความหมายหนึ่ง ผมกับเขาเรายังเป็นแฟนกัน ”
“ แล้วพี่ล่ะ ที่นายมาคบกับพี่เพื่ออะไร ”
“ แก้เบื่อไง แค่อยากมีอะไรตื่นเต้น
อยากหนีจากความซ้ำซาก อยากเจอคนที่ตอบสนองผมได้ทุกเรื่อง
ไม่ใช่เดี๋ยวยอมเดี๋ยวห้าม มันน่าหงุดหงิด
ผมแค่อยากหาคนที่มีดีมากกว่าเขาเท่านั้นเอง ”
“ ก็พี่นี่ไง ”
“ เหตุการณ์เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
มันพิสูจน์ได้ว่าพี่ไม่มีทางดีกว่าเขาหรอก เลิกยุ่งกับผมสักที! ”
“ ได้ เลิกก็เลิก! พี่ไม่ได้อยากยุ่งกับนายนักหรอก
ก็แค่.......เสียดายเรือนร่างสวยๆของนายเท่านั้นเอง!! ”
บี้มองกันด้วยสายตาดูถูกก่อนจะเดินจากไป
ทิ้งให้กันมองตามอย่างโกรธแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาเคยคิดว่าบี้คงจะดีกว่าใครบางคน
คงเหมือนเจ้าชายในฝันของเขาที่เพียบพร้อมและยอมให้ทุกอย่างที่เขาต้องการ แต่สุดท้ายก็ไม่ต่างจากคนอื่น
หวังแต่เรื่องใต้สะดือ ไม่ได้รักเขาอย่างจริงจังเลยสักคน..........
......................ไม่มีใครรักเขาสักคนเลยอย่างนั้นเหรอ?
กันสะดุ้งด้วยความตกใจ
ในระหว่างที่เขากำลังเดินผ่านห้องเก็บของแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัยเพื่อกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนและชวนพี่น้องกลับบ้าน
แต่กลับถูกใครบางคนกระชากเขาเข้ามาภายในห้องที่มีเพียงแสงสว่างจากดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาเล็กน้อยเท่านั้น
ประตูถูกลงกลอนอย่างแน่นหนา
ร่างบางถูกผลักติดผนัง
ริมฝีปากหยักโน้มลงมาประกบปิดริมฝีปากบางอย่างรวดเร็ว แรงขัดขืนเกิดขึ้นเพียงครู่เดียวก่อนจะเปลี่ยนเป็นการตอบสนองรสจุมพิตรุนแรงนั่น
ลิ้นหนาเกี่ยวตวัดรัดลิ้นเล็กอย่างดูดดื่ม
ตักตวงความหอมหวานอย่างตะกละตะกลามด้วยแรงปรารถนาที่ซุกซ่อนไว้มาเนิ่นนาน
จนกระทั่งมีเสียงครางหวานจากริมฝีปากบางเพื่อทักท้วงว่าหายใจไม่ออก ริมฝีปากหนาจึงถอนออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
ดวงหน้าหวานแดงระเรื่อ
“ กัน........น้องกัน.......อืม......... ”
มือหนาไล้ไปตามดวงหน้าหวานอย่างแผ่วเบา
ยิ่งมอง ยิ่งทำให้เขาแทบคลั่ง อยากอยู่ใกล้ชิด อยากครอบครองตลอดไป
แต่คงไม่อาจทำได้ในตอนนี้ ริมฝีปากหยักมอบจุมพิตลึกล้ำให้ร่างบางอีกครั้ง
ความหอมหวานที่ตักตวงเท่าไรก็ไม่เคยเพียงพอ หากเปรียบเทียบ กันคงเปรียบกับเฮโรอีนที่เมื่อเสพแล้วไม่อาจหยุดยั้งได้
เมื่อไม่ได้เสพก็แทบคลั่งด้วยความโหยหา
“ อือ.....ปล่อยนะ...... ”
“ อย่าเสียเวลาพูดเลย กันก็รู้ว่าเปล่าประโยชน์ ”
สิ้นคำพูดของร่างสูง บทรักร้อนแรงก็เริ่มขึ้น
ร่างสูงไล้สัมผัสไปตามเรือนร่างบอบบางที่เขาทั้งโหยหา ทั้งลุ่มหลง และ
รักคนๆนี้ยิ่งกว่าใคร
แขนเรียวโอบกอดรอบลำคอแกร่งของร่างที่กำลังคลอเคลียเขาอยู่ไม่ห่าง
ทั้งที่พยายามผลักไส แต่ก็ต้องยอมแพ้ต่อความต้องการในส่วนลึกของหัวใจ ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่ต้องการสัมผัสจากคนๆนี้...
+_+_+_+_+
O = N = L = Y = Y = O = U +_+_+_+_+
ด้านหน้าคฤหาสน์อินทร์ใจเอื้อ
“ ขอบคุณนะครับ พี่รุจที่ช่วยอยู่เป็นเพื่อนปัณณ์กับริน
แล้วพวกกันจะรีบกลับ ”
กันกล่าวกับรุจ...ครูสอนร้องเพลงของรินที่อาสาอยู่ดูแลน้องชายสองคนของเขาให้
เนื่องจากวันนี้พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน เขากับปรกก็มีนัดจึงต้องปล่อยให้น้องชายอยู่ตามลำพัง
ด้วยความเป็นห่วง(กลัวจะก่อเรื่อง)เลยต้องขอร้องให้รุจมาคอยอยู่เป็นเพื่อน
“ อืม ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วงนะ
พี่จะดูแลสองคนนี้ให้ ” รุจยิ้มพลางโยกศีรษะเด็กหนุ่มสองคนที่ยืนขนาบข้างเขาอย่างอ่อนโยน
“ อย่าดูแลรินเพลินจนลืมปัณณ์นะครับ ถ้าปัณณ์เป็นอะไรไป
พ่อจะต้องไล่ฆ่าพี่แน่นอน ” กันยิ้มทะเล้น เสียงแซวของพี่ชายฝาแฝดทำให้รินอายหน้าแดง
“ ไปได้แล้ว ไม่ต้องมาแซว ระวังตัวด้วยล่ะ สนไม่ใช่คนที่นายจะเล่นด้วยได้ง่ายๆ
หมอนั่นมันโหดเอาเรื่อง แล้วอย่าลืมว่านายกับรินหน้าตาเหมือนกัน ถ้าหมอนั่นจับได้
ไม่ใช่แค่นายที่ซวย แต่น้องนายก็จะเดือดร้อนด้วย ” รุจเตือนเจ้าตัวแสบ
“ รู้แล้วๆ พี่อย่าขู่นักสิ เสียขวัญเสียกำลังใจหมด ” ปรกบ่น
กันกับปรกลาทั้งสามคน
ก่อนจะขับรถออกจากบ้านไป กันส่งปรกที่คอนโดของสน
ส่วนตนเองนั้นก็ขับรถไปตามถนนที่เริ่มคล่องตัวเพราะบัดนี้เวลาล่วงเลยมาถึงห้าทุ่มแล้ว
รถยนต์สีขาวจอดข้างฟุตบาทหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง สถานที่ที่กันนัดกับเพื่อนสนิทเอาไว้เพื่อจะออกเที่ยวราตรีกันในคืนนี้
เพลิงและริทรีบก้าวเข้ามานั่งในรถ กันเหยียบคันเร่งเกือบมิดวิ่งไปตามถนนกว้างตรงสู่ผับแห่งใหม่ที่เพิ่งได้นามบัตรจากชายหนุ่มคนหนึ่งเมื่อวันก่อน
“ นายไปรู้จักพี่เขาได้ยังไง ” ริทถามด้วยความสงสัย
ชื่อบนนามบัตรคือลูกชายเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวซึ่งมีชื่อเสียงติดท็อปไฟท์ของประเทศไทย
“ อืม............หน้ามหาวิทยาลัยน่ะ
ตอนฉันยืนรอรถที่บ้านมารับ พี่เขามาจอดแล้วก็ส่งนามบัตรให้ บอกว่าถ้าอยากมาเที่ยว
ให้โทรไปบอกพี่เขาแล้วจะได้กินฟรี น่าสนใจใช่ไหมล่ะ ”
“ กัน.........ฉันว่ามันไม่น่าไว้ใจเลยนะ
นายรับนามบัตรเขามาทำไม ” ...ทำตัวเป็นโฮสต์ข้างถนนไปได้...
“ เอาน่า มีพวกนายอยู่ด้วย ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย
อีกอย่างฉันไม่ได้มาเจอเขาเป็นครั้งแรกสักหน่อย เมื่อวานก็มากินข้าวกับเขา
ไม่เห็นมีอะไรน่าระแวงสักนิด เขาเป็นสุภาพบุรุษมากเลยล่ะ ”
“ เหอะ เสือซ่อนเล็บล่ะสิ ”
“ นายอคติกับพี่เขามากเกินไปแล้ว
เลิกพูดเรื่องนี้สักทีเถอะ ”
กันไม่สนใจคำพูดของเพื่อนอีก
ไม่นานรถของพวกเขาก็มาจอดหน้าโรงแรมตามนามบัตร
ร่างบางส่งกุญแจรถให้พนักงานขับรถไปจอด ส่วนเขาและเพื่อนก็เดินตรงไปนั่งที่ล็อบบี้เพื่อรอชายหนุ่มที่กันติดต่อไปหาก่อนจะลงมาจากรถ
ไม่นานนัก ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มทายาทเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ก็ตรงเข้ามาทักทายพวกเขา
“ รอพี่นานหรือเปล่ากัน ”
“ ไม่หรอกครับ นี่พวกนาย....นี่คือพี่อาร์ ส่วนนั่นเพื่อนสนิทกันครับ
ริทกับเพลิง ”
“ สวัสดีครับ ” อาร์ยิ้มและมองริทด้วยสายตาที่ทำให้เด็กหนุ่มขนลุก
...เจ้าชู้ตัวพ่อเลยอะ กัน....นายไปยุ่งกับมันได้ยังงายยยยยย...
“ สวัสดีครับ พี่อาร์ ” เพลิงทักทายกลับพลางเอื้อมมือไปโอบเอวของริทและกันไว้
ทำไมเขาจะมองไม่ออกว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไร หากเผลอเมื่อไร
เพื่อนทั้งสองคนของเขาคงเสร็จมัน -*-
“ เข้าไปข้างในกันเลยดีไหม ” อาร์ถือวิสาสะไปคว้าเอวกันมาโอบไว้หลวมๆเหมือนไม่ได้คิดอะไร
แต่ลึกๆเขารู้สึกเสียดายริทนิดหน่อย ถ้าหากไม่มีเพลิงมาด้วย
เขาคงได้ควงคนน่ารักทั้งสองแน่นอน แต่สำหรับคืนนี้ แค่ตัวหอมๆของกันคนเดียวก็เกินพอแล้ว
“ ดีครับ ”
กันปล่อยให้อาร์พาเข้าไปในส่วนของผับ
ริทมองด้วยความไม่พอใจ เขาอยากกระชากมือปลาหมึกนั่นออกจากเอวเพื่อน แต่ก็ถูกเพลิงห้ามปรามเอาไว้
เพราะอาร์ยังไม่โผล่หาง ขืนทำอะไรตอนนี้ กันต้องโกรธพวกเขาแน่นอนแล้วจะพาลไล่พวกเขากลับ
ทีนี้ล่ะ...หมอนั่นได้กินกันสะดวกโยธินแน่ๆ
เพียงแค่ประตูผับถูกเปิด
เสียงเพลงก็ดังกระหึ่มออกมาจนริทต้องเอานิ้วอุดหูไว้พักหนึ่งด้วยความไม่เคยชินกับเสียงดังหนวกหูพวกนี้มากนัก
เหล่านักท่องราตรีไฮโซกำลังเต้นสุดเหวี่ยงไปตามจังหวะเพลงและดื่มด่ำกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ถูกสั่งไม่ขาดสาย
อาร์พาทั้งสามคนไปนั่งบริเวณโต๊ะวีไอพีมุมหนึ่งของผับ
เพียงเวลาไม่นานริทก็ลุกออกจากโต๊ะไปรวมกลุ่มเต้นกับผู้คนมากหน้าหลายตาจนเพลิงต้องตามไปประกบแม้ว่าในใจจะยังห่วงกันแต่จะปล่อยริทก็ไม่ได้อีก
สุดท้ายจึงตามริทไปเพราะเห็นว่ากันยังไม่เมา
เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของกันลุกออกจากโต๊ะไปหมดแล้ว
ร่างสูงซึ่งรอคอยโอกาสนี้มานานจึงยิ้มกริ่มเพราะได้อยู่กับกันตามลำพัง
เขารู้สึกผิดคาดเล็กน้อยที่กันไม่มีอาการมึนเมาทั้งที่ดื่มไปหลายแก้วแล้วแท้ๆ
ร่างสูงจึงแอบผสมเครื่องดื่มให้เข้มขึ้นอีกนิดก่อนจะส่งแก้วใหม่ให้กันโดยป้อนถึงปาก
คนที่มีสติไม่ครบร้อยจึงเผลอดื่มตามแรงดึงดัน
“ กัน ”
“ ครับ ” เด็กหนุ่มหันมาสบตาคนข้างกาย
ดวงหน้าหวานแดงระเรื่อเล็กน้อยจากฤทธิ์แอลกอฮอล์
“ วันนี้กันน่ารักมากเลยรู้ไหม
เมื่อวานใส่ชุดนักศึกษาก็น่ารักแล้ว แต่วันนี้น่ารักยิ่งกว่า ” ชายหนุ่มรั้งเอวคอดเข้ามาแนบชิดกาย ก่อนจะโอบกอดกันไว้ทั้งตัว
กลิ่นหอมของกันทำให้เขาแทบคลั่ง อยากคว้ามาบดขยี้เสียเดี๋ยวนี้ แต่ต้องอดใจไว้ก่อน
“ กันรู้ว่ากันน่ารัก แต่ไม่ต้องกอดแน่นขนาดนี้ก็ได้ กันอึดอัดนะ
” ร่างบางออกแรงขัดขืนด้วยความอึดอัด
“ เกรงว่าจะไม่ได้ ตัวกันนิ่มจัง หอมด้วย ” ชายหนุ่มฉวยโอกาสเก็บเกี่ยวกลิ่นหอมจากแก้มนวล
“ เอ่อ.....อย่านะครับ ปล่อยเถอะ ” กันออกแรงผลักอาร์มากขึ้น เขาอดตกใจไม่ได้ที่อาร์รุกเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
แต่ยิ่งเขาดิ้นมากเท่าไร อาร์ก็ยิ่งกอดรัดแน่นเพิ่มขึ้น
“ กันรู้ไหม พี่หลงกันตั้งแต่แรกเห็นเลยนะ ทุกอย่างที่กันทำมันสะกดสายตาพี่จนถอนสายตาไม่ได้
พี่ดีใจมากนะที่วันนี้กันมาอยู่ข้างกายพี่สักที ” อาร์ไล้ปลายจมูกขึ้นมายังดวงหน้าหวานพลางพยายามจะจุมพิตริมฝีปากบาง
แต่กันก็พยายามหลบหลีก
“ เราเพิ่งรู้จักกันนะครับ พี่ไม่ควรทำแบบนี้ ”
“ กันไม่ได้ชอบพี่เหรอ ”
“ คือ..... ” อยากตอบไปชัดๆว่าใช่
แต่เขาก็ไม่กล้าหักหาญน้ำใจคนที่ดูแลเขาดีมาตลอดเวลาที่รู้จักกัน
“ ตอบให้พี่ชื่นใจหน่อยได้ไหมว่ากันก็ชอบพี่เหมือนกัน ”
“ มันเร็วเกินไป กันคงตอบพี่อาร์ทันทีไม่ได้
เราค่อยๆศึกษากันไปเรื่อยๆดีกว่าไหมครับ ”
กันยิ้มจางๆพร้อมทั้งขยับตัวออกห่างแต่อาร์ก็ดึงเขามาแนบชิดอีกครั้งพร้อมทั้งบีบเอวแน่นจนกันรู้สึกเจ็บ
“ ค่อยๆศึกษาเหรอ? มันก็ดีนะ งั้นให้พี่ไปเจอกันทุกวันได้หรือเปล่า
เราจะได้ศึกษากันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ” ร่างสูงกระซิบข้างใบหูบางจนกันขนลุกซู่
“ ละ...แล้วแต่เลยครับ ”
กันพยายามยิ้มสู้พลางสอดสายตามองหาเพื่อนสนิท
เขาเริ่มรู้สึกตัวว่าไม่ควรใกล้อาร์มากกว่านี้ เห็นทีจบจากคืนนี้คงต้องหาทางตัดสัมพันธ์
“ พี่ชอบกันสุดๆเลย ”
มือหนากระชับดวงหน้าหวานไว้แน่น
ก่อนจะโน้มลงเพื่อประกบจูบริมฝีปากบาง
แต่แรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดการกระทำทั้งหมด อาร์มองเบอร์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
ก่อนจะเดินออกจากผับไปรับโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด
กันถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เด็กหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบผับ
ก่อนจะสะดุดที่ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนั่งมองหญิงสาวชายหนุ่มหลายคนเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกอยู่บนฟลอร์ด้วยนัยน์ตาวาววับ
เด็กหนุ่มมุ่ยหน้าอย่างขัดใจ ก่อนจะยกยิ้มเมื่อนึกออกว่าจะทำอะไรดี
...อยากจะรู้นักว่าคนพวกนั้นน่าสนใจมากกว่าเขาตรงไหนกัน!?...
=+=+=+=+=+=
To Be Continue =+=+=+=+=+=
::: Writer Talk :::
ตอนใหม่มาแล้วววว ทีแรกว่าจะแต่งหลายคู่ แต่ไปๆมาๆ ไม่ชินจริงๆ ไม่เคยเรียกกันด้วยชื่ออื่นเลย พิมพ์ๆไปเป็นกันตลอด
ดังนั้น.......เราจะแต่งแค่โน่กันนะคะ 555555555555
ส่วนคู่อื่นถ้าอยากได้จะแต่งให้ค่ะ แต่คงเป็น ริทกัน สนกัน รุจกัน คงไม่ใช่ ปัณณ์ ปรก ริน
ถ้าอยากอ่านก็ลองเสนอมานะคะ เราจะไว้แต่งในเรื่องถัดไป
ส่วนเรื่องนี้ ไม่เคยแต่งน้องกันแนวนี้เลย หากไม่ดียังไงต้องขอโทษด้วยนะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นค่ะ ^^
ความคิดเห็น