ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF: Yaoi The Star) Sassy Love (โน่กัน / อสรพิษ)

    ลำดับตอนที่ #1 : Chocolate Love [AllGun] 1/4

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 58


    Chocolate Love

     

    =*= 1 =*=

     

    ท่าอากาศยานภูเก็ต

     

                    เสียงกรีดร้องดังขึ้นทันทีที่คนกลุ่มหนึ่งเดินผ่านช่องทางผู้โดยสารขาเข้าออกมา พวกเขายิ้มแย้มให้กับเหล่าแฟนคลับที่แห่แหนมาต้อนรับ ค่อนข้างแปลกใจไม่น้อยที่พวกเธอรู้ตารางพักผ่อนส่วนตัวของพวกเขา แต่มาคิดอีกทีก็ไม่แปลกหรอก ข่าวของพวกเขากระจายเร็วในหมู่แฟนคลับเสมอ เพราะทีมงานบางคนก็เป็นแฟนคลับของพวกเขาเอง พอรู้งานก็โพสต์บอกแฟนคลับคนอื่นประจำ แต่ครั้งนี้พวกเขาหวังว่าคงไม่มีใครตามไปยังที่พักด้วย

     

    “ โอย...กว่าจะถึง นั่งจนเมื่อยก้นหมด ” เสียงบ่นดังขึ้นทันทีที่พวกเขาขึ้นมานั่งบนรถตู้ซึ่งมาจอดรอรับและจะไปส่งพวกเขาที่ท่าเรือเพื่อไปโรงแรมเปิดใหม่ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆแห่งหนึ่ง

     

    “ อย่าบ่นนะตั้ม เสียบรรยากาศ ” ร่างอวบอ้วนเอ่ยบอกกับคนอายุน้อยกว่าซึ่งนั่งข้างกัน

     

    “ ก็มันเมื่อยจริงๆนี่ ” ก็ยังไม่เลิกบ่น บ่นจนกระทั่งรถเคลื่อนตัวออกนั่นแหละจึงหยุดบ่น

     

                    รถตู้มุ่งหน้าไปยังสถานที่ซึ่งพวกเขาจะมาพักผ่อนตลอดระยะเวลาวันหยุด 4 วัน ความคิดนี้เริ่มมาจากริทที่นึกยังไงไม่รู้อยากไปเที่ยวรำลึกความหลังสมัยโปรโมต The Star 6 จึงไล่ชวนกันไปเที่ยวจนหาวันว่างตรงกันทั้ง 8 คนได้ แต่จะไปชะอำก็ดันถูกค้านจากพี่ใหญ่ที่อยากไปเที่ยวไกลๆมากกว่า สุดท้ายก็ลงตัวที่ภูเก็ต พอแก้ม โดม ตั้ม รู้ก็อยากไปเที่ยวด้วย พวกเขาจึงตัดสินใจไปด้วยกันทั้งหมดโดยมีแก้มจองโรงแรมให้

     

    ทีแรกก็กะจะไปกันแค่นี้ แต่ไปๆมาๆชวนคนนู้นทีคนนี้ที ( ตามมารยาท -*- ) ก็ดันได้เพื่อนร่วมทางเพิ่มอีก คือ อาร์ บี้ ตูมตาม จนคนต้นคิดแอบเซ็งเบาๆ เขาชอบที่มีเพื่อนไปด้วยเยอะแยะ แต่บางครั้งก็อยากใช้เวลาด้วยกันเหมือนตอนอยู่ในบ้าน The Star มากกว่า

     

    “ ถ้าเมื่อยมากก็กลับไปก่อนได้นะตั้ม ” บี้พูดโดยไม่กลัวน้องเสียใจสักนิด

     

    “ ฝันไปเถอะ ถ้าผมกลับ พี่กันต้องกลับด้วย ”

     

    “ อ้าว เกี่ยวไรกัน นี่มันทริปดาวหกไหมครับไอ้คุณตั้ม! ” ริทเสียงดังเล็กน้อยพร้อมเอื้อมมือจะตบหัวน้อง แต่ร่างสูงโยกตัวหลบทัน

     

    “ แขนสั้นๆแบบพี่ตบไม่โดนหรอก โอ๊ย! ” ตั้มหัวเราะร่วนก่อนจะร้องออกมาเมื่อโดนใครบางคนตบหัว

     

    “ แต่แขนแบบพี่ตบโดนนะตั้ม ” อาร์ยิ้มขำทำให้ตั้มมองค้อน

     

    “ ถ้าไม่เห็นแก่กล้ามนะ ผมตบคืนเลย ”

     

    “ มาสิ ”

     

    “ อย่าเลยตั้ม โดนพี่อาร์ตบทีนี่โง่ไปหลายปีนะบอกเลย ” ตูมตามเอ่ยบอก

     

    “ เหมือนพี่ตามใช่ไหม? ”

     

    “ ไอ้ตั้ม!! ” 

     

    “ อย่าทะเลาะกันสิ กันหลับอยู่นะ ” เก่งปราม ก่อนจะชี้ไปทางกันที่นั่งหลับคอพับคออ่อนจนคนนั่งข้างกันต้องจับให้หัวทุยพิงไหล่

     

    “ อือ.... ” กันครางเบาๆ ขยับหาท่าที่นอนสบายแล้วจึงหลับสนิทอีกครั้ง

     

    “ นอนซะ เดี๋ยวถึงแล้วพี่จะปลุก ” พี่ใหญ่กระซิบเบาๆ ทำให้ริทเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ นี่ถ้าเขาสูงกว่านี้อีกหน่อยเดียวก็ทำแบบนั้นได้บ้างแล้ว!!

     

    “ น่าสงสารพี่กันนะ ทำงานตลอดเลย ” เกตพูดขึ้นซึ่งทุกคนก็มีความเห็นตรงกัน นี่ก่อนมาก็เพิ่งเสร็จจากงานที่เชียงใหม่และเพิ่งบินมาสมทบกันที่ภูเก็ต

     

    “ เดี๋ยวต้องลงเรือ พี่กันนอนไม่พอแบบนี้จะเมาเรือไหมพี่โน่ ” เกรซถามพี่ใหญ่ของรุ่น

     

    “ ไม่รู้สิ แต่พี่เอาอยู่ ไม่ต้องห่วง ” โตโน่ยิ้มพลางลูบเรือนผมนุ่มเบาๆด้วยความรักและเอ็นดู

     

    “ เรามาหาไรทำระหว่างทางดีกว่า ” เซนเสนอเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

     

    “ เงียบสักทีดีกว่าไหม กันหลับ! ” แก้มดุนิดหน่อย แต่ก็ทำให้ทุกคนยอมเงียบเสียงลง

     

                    พวกเขาหันไปให้ความสนใจกับบรรยากาศข้างทางแทน ไม่นานก็ต้องย้ายตัวเองจากรถตู้มาลงเรือ กันเสียหลักเล็กน้อยเพราะเรือโคลงแต่โตโน่จับไว้ทัน เขาจึงพาเจ้าตัวแสบที่ดูท่าวันนี้จะหมดฤทธิ์ไปนั่งพักอีกฟากหนึ่งของเรือและปล่อยให้ทุกคนดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบกาย

     

    “ อื้อ~...พี่โน่...ไปหาริท... ” กันดิ้นยุกยิกเมื่อพี่ชายจะจับให้นอนหนุนตัก แต่พักเดียวก็ต้องหลับตาลงเพราะอาการเวียนศีรษะ

     

    “ นอนซะ เดี๋ยวก็เพลียมากกว่าเดิม คราวนี้อดเล่นหมดทุกอย่างแน่ ” คนเป็นพี่แกล้งดุ ในใจก็อดเซ็งไม่ได้ ช่วงนี้กันติดริทจนเขาชักน้อยใจแล้วเนี่ย!

     

    “ งื้อ~ ”  กันครางหงุงหงิงก่อนจะยอมหลับตาลงนอนตามที่พี่ชายบอก 

     

    แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบผิวน้ำทะเลจนทอประกายระยิบระยับงดงามจับตา พวกเขาเพลิดเพลินกับกิจกรรมของตัวเองตั้งแต่ถ่ายรูป ค้นของขวัญจากแฟนคลับ จนกระทั่งเรือมาถึงที่หมาย พวกเขานั่งรถต่อมาอีก 20 นาทีก็ถึงโรงแรมซึ่งแก้มจองห้องพักขนาดใหญ่ไว้ 5 ห้อง แต่เมื่อเท้าแตะพื้น ภาพตรงหน้าก็ทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง

     

    “ พะ...พี่แก้ม... ” เกตขยับเข้ามายืนประชิดพี่สาว

     

    “ ว่าไง ” แก้มตอบรับ แต่สายตายังมองไปที่ตัวอาคาร

     

    “ แน่ใจนะว่าจองที่นี่ ไม่ผิดที่แน่ๆนะพี่ ” ไอซ์ถามพลางมองไปทางป้ายชื่อโรงแรม

     

    [ THE FAIRYTOPIA HOTEL]

     

    “ ไม่ผิดนะ ชื่อโรงแรมก็ถูก สถานที่ก็ใช่ ”

     

    “ แล้วรูปลักษณ์ล่ะ ” บี้ถามและพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น

     

    “ ลืมดูรูป เห็นชื่อน่ารักและเปิดใหม่เลยเลือก ”

     

    “ พี่แก้ม!! ” ริทแทบจะลงไปนอนชักดิ้นชักงอกับพื้น โรงแรมนี่น่ากลัวจนเขาอยากกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย แต่ติดที่ว่า...รถ...มันไปแล้ว -*-

     

    “ เอาน่า มันคงไม่มีอะไรหรอกอย่าเพิ่งคิดล่วงหน้าสิ ไปๆ เข้าไปกันได้แล้ว ” อาร์ตัดบท ก่อนจะหิ้วข้าวของเข้าไปในปราสาท

     

                    ใช่...ปราสาท...โรงแรมนี้ตั้งอยู่กลางผืนป่า รูปร่างของมันเหมือนปราสาทหินในยุคกลางหรือที่เรียกว่าสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ เมื่อผสมรวมกับบรรยากาศวังเวง ทำให้โรงแรมแห่งนี้ดูน่ากลัวไม่ผิดเพี้ยนไปจากปราสาทผีสิง ทำให้คนที่กลัวผีขึ้นสมองอย่างพวกริทต้องเดินเกาะกลุ่มกันเข้าไปด้วยหัวใจตุ้มๆต่อมๆ

      

    เมื่อจัดการเช็คอินและขนของเข้าที่พักเรียบร้อยโดยผู้หญิงนอนรวมกัน ส่วนผู้ชายก็แบ่งห้องกันไป แต่อสรพิษนอนรวมกันในห้องที่ใหญ่ที่สุด เสร็จแล้วพวกเขาก็มารวมตัวกันที่ห้องของอาร์กับบี้เพื่อวางโปรแกรมเที่ยว แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างทำให้แต่ละวันใช้เวลาส่วนมากในโรงแรมซะมากกว่า หลังจากวางแผนเที่ยวเสร็จก็แยกย้ายกลับห้องไปเตรียมตัว 

     

                    ภายในห้องพักของอสรพิษ พวกเขาแบ่งเตียงนอนเสร็จสรรพก็เริ่มจัดของให้เข้าที่เข้าทาง พวกเขาเทขนมและของเล่นที่ได้จากแฟนคลับมากองไว้บนเตียงของใครของมัน ก่อนจะเริ่มแยกว่าอันไหนควรกินที่นี่ อันไหนสามารถเก็บไปไว้ที่บ้านได้ แต่สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทุกคนหันไปมอง ก่อนจะเกี่ยงกันไปเปิดประตู สุดท้ายกันจึงเดินไปเปิดด้วยความรำคาญเล็กๆ

     

    “ หือ? ไม่เห็นมีใครเลย ”

     

    กันมองซ้ายขวา ก่อนที่สายตาจะปะทะกับกล่องขนมบนพื้นพรมสีเลือดหมูหน้าห้อง มือบางหยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัย ด้านหน้ากล่องเขียนชื่อของเขาแต่ก่อนจะได้พิจารณาต่อ เขาก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งเคลื่อนไหวผ่านหางตา กันหันไปมองแล้วเขาก็พบผู้หญิงผมสีทอง ผิวขาวซีด รูปร่างบอบบาง เธอสวมชุดกระโปรงฟูฟ่องสีดำสนิท ระยะห่างทำให้มองหน้าเธอไม่ชัด เธอยืนมองเขานิ่งอยู่ตรงสุดทางเดิน ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางหนึ่งอย่างเชื่องช้าพร้อมๆกับขนแขนของกันที่พร้อมใจลุกพรึบ!

     

    “ คงไม่ใช่มั้ง สงสัยจะเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน ” กันพยายามปลอบใจตัวเองและรีบเข้าห้องอย่างรวดเร็ว

     

    “ เป็นอะไรกัน ” ริทถามเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเพื่อน

     

    “ เปล่า ไม่มีอะไร แฟนคลับเขาเอาขนมมาให้ ” กันเลี่ยงที่จะเล่าเรื่องนั้นให้ฟัง เพราะรู้ว่าริทกลัวผีขึ้นสมองแค่ไหน

     

                    ริทพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะสาละวนกับของขวัญของฝากจากแฟนคลับต่อ กันเดินกลับมานั่งบนเตียงของตนเอง ห้องนี้มีสองเตียงแต่กว้างพอที่จะนอนได้เตียงละสองคนและเขาเลือกจะนอนกับริท กันก้มลงมองกล่องขนมในมือด้วยความคาใจ แต่พอเห็นหน้าตาขนม ความระแวดระวังก็จางหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน   

     

    “ เฮ้ย!!! มีแบบนี้ด้วย!!! ” กันตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ ในมือโชว์กล่องช็อกโกแลตให้เพื่อนสนิทดู มันเป็นลายซูเปอร์ฮีโร่จากภาพยนตร์หลายๆเรื่องซึ่งกันชอบมาก

     

    “ เจ๋งว่ะ เขาทำเองเหรอ ” ริทรีบกระโจนมานั่งข้างกันโดยมีไอซ์ตามมาดูด้วย

     

    “ คงจะใช่ สุดยอดเลย!!!

     

    “ มีโน้ตด้วยพี่กัน ” ไอซ์บอกพลางชี้ไปยังกระดาษที่แปะอยู่หลังกล่อง กันจึงหยิบมาอ่านออกเสียง

     

    [ ให้น้องกัน...

    ...ทานให้หมดภายในวันนี้ มันอยู่ได้ไม่นาน...

    ...ฉันทำสุดฝีมือเลย...

    ...มันจะอร่อยที่สุดเมื่อเปิดทานตั้งแต่วันแรกที่ได้มาและไม่ควรทิ้งไว้เกิน 1 วัน...

    ...ข้อสำคัญ...ห้ามผู้หญิงทานเด็ดขาด!.... ]

     

    “ ช็อกโกแลตอะไรอยู่ได้วันเดียวแถมคำเตือนก็ประหลาด ” โตโน่พูดออกมาหลังจากกันอ่านจบ

     

    “ นั่นสิ ริทว่ามันแปลกๆ ” ริทเริ่มระแวง แต่มองยังไงก็เป็นเพียงขนมธรรมดาเท่านั้น

     

    “ เขาคงพูดไปอย่างนั้นเองมั้ง ช็อกโกแลตเยอะแยะจะกินหมดได้ยังไง ” ไอซ์หยิบมานับก็พบว่ามันมีเกือบสามสิบชิ้น

     

    “ แต่ถ้ามันเป็นแบบที่เขาบอกก็เสียดายแย่นะ เอาเถอะ...เดี๋ยวแบ่งๆกันคนละอันสองอันก็หมด ” กันตัดบทคว้าขนมคืนมา

     

    “ หวงเหมือนเดิม ” โตโน่ยิ้มขำ

     

    “ ก็ของแฟนคลับให้กันนี่ ต้องดูแลดีๆ ” กันแลบลิ้นเล็กๆใส่พี่ชาย ก่อนจะหยิบของทุกชิ้นเก็บลงกระเป๋าอย่างระมัดระวัง

     

    “ ไปข้างนอกกันเถอะ เราต้องไปเตรียมซื้อของมาทำมื้อเย็นอีกนะ ” โตโน่พูดพลางเดินไปทางประตูห้องและเปิดออกไปเป็นคนแรก

     

    “ ริทจะกินกุ้งให้พุงกางเลย ” ริทดีใจออกนอกหน้า

     

    “ แค่นี้ยังกางไม่พอเหรอริท ใครมาเห็นเขาก็คิดว่าท้องลูกหมดแล้ว ” จนเพื่อนรักอดแขวะไม่ได้

     

    “ เราเลิกเป็นเพื่อนกันเลยไหม ตั้งแต่เริ่มหายมึนนี่กัดจัง ” ริทว่าแต่ไม่จริงจังนัก

     

    “ แล้วแต่ ” กันหัวเราะก่อนจะวิ่งตามโตโน่ออกไปโดยไม่ลืมคว้ากล่องช็อกโกแลตไปด้วย

     

    “ เหวอ ~ ” แต่ยังไม่ทันพ้นประตูดีก็ถูกเกี่ยวเอวจนลอยมาปะทะร่างของใครบางคน กันนิ่วหน้าก่อนจะช้อนตาขึ้นมอง

     

    “ พี่โน่... ” กันงุนงงที่พี่ชายยังไม่ไปไหน แต่กลับยืนกอดเอวเขาพิงกำแพงอยู่

     

    “ อย่าวิ่งสิ พื้นมันไม่เสมอกัน เดี๋ยวล้ม ” เขาปล่อยเอวบาง ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มนิ่มแล้วจึงเดินเลี่ยงไปทางอื่น

     

    ...เท่ห์ซะไม่มี -*- ...

     

    “ ฉวยโอกาสตลอดเลย ” กันทำหน้ายู่ ก่อนจะเดินไปเรียกริทกับไอซ์ที่ยังคงเก็บของอยู่ในห้องแล้วจึงเดินตามโตโน่ไป

     

     

    @ ====================================== @

     

     

                    หลังจากเช่ารถและออกไปเที่ยวรอบเกาะหลายชั่วโมง พวกเขาก็กลับมารวมตัวเตรียมบาร์บีคิวปาร์ตี้กันที่ศาลาไม้สีขาวซึ่งถูกตกแต่งอยู่ท่ามกลางดอกไม้นานาพันธุ์ของสวนสวยข้างโรงแรม รู้สึกโชคดีไม่น้อยที่เจ้าของโรงแรมยินยอมให้พวกเขาจัดปาร์ตี้แทนการเข้าไปรับประทานมื้อเย็นในห้องอาหารของโรงแรมได้ ทั้งยังจัดสรรให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวอีกด้วย ทำให้พวกเขาเริ่มถูกใจที่นี่จนลืมเลือนเรื่องบรรยากาศน่ากลัวไป

     

                    ท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนานครื้นเครง ดูเหมือนจะมีบางคนที่ไม่ค่อยสนุกตามคนอื่นสักเท่าไร ทั้งที่นานๆพวกเขาจะกลับมารวมตัวกันครบ 8 คน แทนที่จะได้สนุกสุดเหวี่ยงแบบเพื่อนๆ เขากลับต้องมานั่งทานข้าวต้ม เพราะอาการเวียนศีรษะ อยากทานแบบคนอื่นก็โดนห้ามเนื่องจากกลัวเป็นหนักกว่าเดิมแล้วจะหมดสนุกทั้งทริป ขนมที่แฟนคลับให้มาก็ทานไม่ได้ TOT

     

    “ กันๆ เอาขนมมาแบ่งได้แล้ว เดี๋ยวไม่อร่อย ” ริทเดินมาหาเพื่อนสนิทที่นั่งหน้างอง้ำอยู่บนเก้าอี้เหล็กดัดสีสนิม  

     

    “ ไม่ให้ จะกินคนเดียวให้หมดนี่แหละ ” กันเตรียมจะแกะขนม แต่ริทดึงหนีซะก่อน

     

    “ หยุดเลย พี่เก่งสั่งอะไรก็เชื่อบ้าง เขาเป็นหมอนะ!

     

    “ อยากกินอ่ะ!! ”  

     

    “ อย่าดื้อนะกัน เดี๋ยวหายแล้วค่อยกิน ” โตโน่ที่เดินตามมาสมทบพูดขึ้น เขากอดคอคนงอแงก่อนจะโยกตัวไปมาเบาๆ 

     

    “ กว่าจะหาย ขนมก็วายหมด ”

     

    “ โอ้ย มีเยอะแยะ จะอะไรนักหนากับช็อกโกแลตนี่ ”

     

    “ พี่โน่~

     

    “ ไม่ต้องอ้อน พี่ไม่ให้กิน ริทเอาไปแจกไป ”

     

    “ ง่ะ! โป้งพี่โน่~ ” กันหน้าบึ้งหนักเมื่อเห็นริททำตามที่โตโน่บอกจริงๆ แล้วไม่ลืมด้วยว่าห้ามผู้หญิงทานจึงเกิดเสียงโวยวายของสามสาวเป็นระยะ

     

    “ กันจะไปไหน ” โตโน่ถามเมื่อเห็นเจ้าตัวดีลุกพรวด

     

    “ ไปห้องน้ำ จะไปดมตดไหม ” กันตอบเสียงกระเง้ากระงอด                

     

    “ พี่รอไปดมตัวกันในห้องนอนดีกว่า ฟินกว่าเยอะ ”

     

    “ ทะลึ่ง!! ” กันว่าหน้าแดง ก่อนจะรีบเดินหนี ทำให้โตโน่หัวเราะด้วยความชอบใจ

     

    ...ก็น่ารักแบบนี้ไง ใกล้ใครไม่พ้นมีคนตกหลุมรักเด็กของเขาหมด...

    .

     

    .

     

    .

     

    ภายในห้องน้ำของล็อบบี้โรงแรม

     

    “ น่าเบื่อชะมัด กินอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง ”

     

                    กันบ่นพึมพำ แต่จะโทษใครได้ในเมื่อเขาทำตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่างานหนักและกำลังจะมาเที่ยว เวลาพักผ่อนน้อยอยู่แล้วยังจะทำให้มันน้อยลงด้วยการดูหนังฟังเพลง เล่นของเล่น กินของไร้สาระ แล้วแบบนี้จะไม่ให้ป่วยยังไงไหว ดีนะที่ไม่มีไข้จึงสามารถมาเที่ยวได้ แต่ก็ถูกเก่งคุมเข้มอยู่ดี

     

                    หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ กันจึงเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ตอนนี้ดึกมากแล้ว บรรยากาศก็เริ่มหนาวเหน็บขึ้น ไม่ใช่เพราะเครื่องปรับอากาศ แต่กลับเป็นสภาพแวดล้อมเงียบสงัดและไฟสลัวสีส้มที่เสริมให้ความกลัวของเขาเพิ่มขึ้น เขาไม่ใช่คนที่กลัวเรื่องพวกนี้เท่าไร แต่บรรยากาศของที่นี่ทำให้เขากลัวอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ ดังนั้นจึงก้มหน้าก้มตาสาวเท้าอย่างว่องไวเพื่อให้พ้นจากบริเวณนี้เสียที 

     

    “ อ๊ะ! ” กันร้องออกมาเบาๆด้วยความตกใจ เมื่อรู้สึกเหมือนมีบางอย่างตัดหน้า เขาเซไปด้านหลังเล็กน้อย แต่พอตั้งหลักได้จึงเงยหน้ามอง

     

    ...ว่างเปล่า...

     

                    ร่างบางขมวดคิ้วมุ่น มองซ้ายขวาก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ มันยังคงเงียบเชียบวังเวงจนน่าขนลุกเหมือนเดิม แต่แล้วเขาก็ต้องยืนตัวแข็งทื่อเมื่อรู้สึกถึงไอเย็นแผ่วเบาลอยมาปะทะหลังต้นคอ หัวใจเต้นรัว มันแตกต่างจากเวลาที่อยู่กับโตโน่อย่างสิ้นเชิง คราวนี้มันชวนหวาดหวั่นเสียมากกว่า ขาทั้งสองพยายามจะก้าวเดินหน้า แต่กลับไม่สามารถขยับได้ มันสั่นไม่ต่างตัวของเขาเลย

     

    ...เอาวะ! ไม่มีอะไรหรอก แค่ลมเฉยๆ...

     

                    กันปลอบใจตัวเองเบาๆหลังจากตัดสินใจที่หันหลังกลับไปมอง เขานับหนึ่งถึงสามในใจก่อนจะสูดหายใจลึกๆและหันหลังไปทางที่เพิ่งเดินจากมาอย่างรวดเร็ว แล้วการกระทำนั้นก็ทำให้เขาเบิกตาโพลงด้วยความตื่นตระหนก เหงื่อกาฬแตกพลั่ก ขาสั่นระริกจนทรงกายไว้ไม่ได้ ร่างบางเซถอยหลังก่อนจะเสียหลักล้มลงบนพื้น

     

    เบื้องหน้าของเขาปรากฏร่างหญิงสาวคนเดิมที่เขาเคยเห็น ต่างกันตรงที่คราวนี้เธออยู่ในระยะประชิดจนเขาเห็นใบหน้าของเธอชัดเจน ใบหน้าขาวของเธอซีดเซียวไร้สีเลือดฝาดอย่างที่อิสตรีพึงจะมี รอบดวงตาลึกสีดำคล้ำหากแต่นัยน์ตาขาวของเธอกลับเป็นสีแดงฉาน แก้มทั้งสองข้างซูบตอบ จมูกโด่งแต่ส่วยปลายกลับงองุ้มเต็มไปด้วยตะปุ่มตะป่ำน่ากลัว ริมฝีปากสีซีดแตกระแหงขยับเบาๆ

     

    “ ทำไม...ไม่กิน...ขนม... ” เสียงกระท่อนกระแท่นนั้นเยือกเย็นจนน่าขนลุก

     

    “ กะ...กัน...กันไม่สบาย...ตะ...แต่...เดี๋ยว...กัน...กันจะกลับไปกินให้หมดเลย! ” พยายามบอกตัวเองว่านี่คือมนุษย์และเป็นหนึ่งในแฟนคลับของเขา แต่เธอช่างน่ากลัวเกินกว่าจะทำให้เชื่อหมดใจได้

     

    “ กินซะ... ” ริมฝีปากนั้นแสยะยิ้มจนเห็นฟันแหลมคมเรียงตัวอย่างไม่เป็นระเบียบ

     

    “ คะ...ครับ... ” กันตอบรับเสียงสั่น

     

    “ หึหึ... ” หญิงสาวหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป แต่มันก็เร็วเกินกว่าจะเป็นลักษณะการเดินของหญิงสูงอายุทั่วไป

     

    “ เฮ้ย.... ”

     

                    กันอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง หัวใจเต้นถี่กระชั้น ลมหายใจเริ่มสะดุด เขาไม่เคยกลัว เพราะไม่เคยเจอกับตัวไม่เห็นกับตา แต่จู่ๆการที่คนๆหนึ่งจะล่องหนได้ มันไม่มีทางเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงที่เขาพบนั้นเดินไปถึงชานบันไดและเลือนหายไปต่อหน้าต่อตา!!!  

     

    “ ผะ...ผะ...ผี.... ” ร่างบางเอ่ยได้แค่นั้น ก่อนจะเป็นลมหมดสติไปด้วยความกลัวสุดขีด!  

     

     

    @ ====================================== @

     

     

    “ อือ.... ”

     

                    ร่างบางส่งเสียงครางเบาๆเมื่อเริ่มรู้สึกตัว เขาปรือตาขึ้นอย่างเชื่องช้าเพื่อให้สายตาปรับสภาพจนชินกับแสงสว่าง ดวงตาหวานกวาดมองไปรอบกายก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงกว้างภายในห้องพักของใครสักคน เสียงเปิดประตูห้องน้ำดึงให้เขาหันไปมอง ก่อนจะพบร่างอวบอ้วนของน้องชายร่วมก๊วนสี่โพดำเดินออกมาในสภาพสวมเพียงเสื้อคลุมสีขาวตัวเดียว

     

    “ โดม... ” ตอนนี้เขาคงอยู่ในห้องพักของโดม ตูมตาม และ ตั้ม

     

    “ ฟื้นแล้วเหรอพี่กัน ผมรอตั้งนาน ”

     

    “ ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่...? ” ร่างบางถามพลางยันตัวลุกขึ้นนั่ง

     

    “ ผมเห็นพี่หมดสติตรงทางเดินเลยพามาที่นี่ ” โดมนั่งลงข้างเตียงและมองมาทางร่างบางด้วยสายตาแปลกประหลาดที่กันไม่เข้าใจ แต่ก็สัมผัสได้ว่าน้องชายเปลี่ยนไป

     

    “ งะ...งั้นเหรอ แล้วคนอื่นล่ะ ” กันเขยิบตัวออกห่างเมื่อโดมขยับเข้ามาใกล้ เขาไม่ได้รังเกียจ แค่รู้สึกเหมือนถูกคุมคาม

     

    “ ยังอยู่ในงานอยู่เลย ”

     

    “ เหรอ เออ...เราไปในงานดีกว่านะ โดมไปแต่งตัวสิ ร้อนหรือไงถึงมาอาบน้ำ ”

     

    “ ครับ ร้อน...ยิ่งเห็นหน้าพี่...ยิ่งร้อน... ”

     

    “ หา? ” เขา...ได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า

     

    “ พี่กัน... วันนี้พี่เปลี่ยนไปนะรู้ตัวไหม ” ร่างอวบขยับตัวมาอยู่บนเตียง

     

    “ เหรอ...พี่ว่าโดมก็เปลี่ยนไปเหมือนกันนะ ” ร่างบางยิ้มเจื่อนๆก่อนจะขยับไปอีกฝั่งของเตียง แต่โดมกลับรั้งแขนเอาไว้

     

    “ ผมเปลี่ยนยังไงเหรอ ผมว่าผมไม่เปลี่ยนนะ รักพี่อย่างไรก็รักอย่างนั้น ”

     

    “ เอ่อ...พี่ว่ามันแปลกแล้ว พี่...ไปที่งานดีกว่า....อ๊ะ... ” ยังไม่ทันจะลงจากเตียง ร่างบางก็ถูกดึงกลับและดันให้นอนลงบนเตียงกว้างโดยมีร่างอวบเหวี่ยงตัวขึ้นคร่อม!!

     

    “ ตะ...โดม...!

     

    “ พี่กันน่ารักมากเลยนะวันนี้ น่ารักจนผมอดใจไม่ไหวจริงๆ ” ร่างอวบเอ่ยพลางพิศดวงหน้าหวานใสด้วยความหลงใหล

     

    “ ขะ...ขอบใจนะ เอ่อ...พี่ว่าโดมขยับออกไปก่อนดีไหม ท่านี้มันล่อแหลมแปลกๆ ” กันหลบสายตาของโดมพลางใช้มือยันแผ่นอกของคนที่โน้มใบหน้าเข้าใกล้เขาเรื่อยๆ

     

    “ ไม่ล่ะ เดี๋ยวพี่หนี ”

     

    “ เฮ้ย...โดม...อย่านะ... ” กันเบี่ยงหน้าหลบคนที่โน้มใบหน้าเข้าใกล้เรื่อยๆ

     

    “ ไม่ต้องกลัวนะพี่ ผมจะทำเบาๆ ” ร่างอวบพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

     

    “ ยะ...อย่า...อุ๊บ! ” กันพยายามจะห้าม แต่แรงที่โถมลงมาเล่นซะเขาจุกจนพูดไม่ออก ตอนนี้ไม่กลัวโดนปล้ำแล้ว เขากลัวกระดูกหักมากกว่า

     

    “ ทำไมผมได้กลิ่นหอมของพี่ชัดเจนขนาดนี้นะ ทั้งที่ยังไม่ทันได้หอมเลย ” ลมหายใจหนักของร่างอวบทำให้กันหวาดหวั่น

     

    “ อย่านะโดม... ” กันน้ำตาคลอ เริ่มกลัวจริงๆ เขาไม่เคยเห็นน้องในมุมนี้เลย

     

    “ อย่าดิ้นสิพี่ มันเหนื่อยเปล่า ”   

     

    “ อย่า...อื้อ!! ” กันเบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากหนา ทำให้คนร่างอวบตัดสินใจซุกไซ้ซอกคอหอมแทน

     

    “ อืม....พี่กัน....ทำไมหอมขนาดนี้นะ... ”

     

    “ โว้ย!! บอกให้หยุด!! ” กันรวบแรงพลังเท่าที่มีทั้งหมดผลักร่างอวบออกไป

     

    “ โอ๊ย! ” และเพราะกำลังเคลิบเคลิ้มทำให้ไม่ทันป้องกันตัวจนร่วงลงจากเตียงอย่างง่ายดาย

     

    “ พี่ไม่ได้รังเกียจนะโดม แต่เล่นแบบนี้มันไม่ขำเฟ้ย! ” กันลุกพรวดกลิ้งลงจากเตียงอย่างว่องไว เขามองน้องชายด้วยความรู้สึกผิดเล็กๆ

     

    “ เจ็บนะพี่กัน ”

     

    “ อย่าเล่นแบบนี้อีกนะ แล้วก็ขอโทษด้วยจริงๆที่ทำให้เจ็บหลังนะโดม ”

     

                    กันพูดก่อนจะวิ่งออกจากห้องด้วยความเร็วสูงพร้อมทั้งจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ขาทั้งสองข้างปวดแปลบเล็กน้อยเพราะถูกกดทับ แต่แล้วในขณะที่กำลังวิ่งมาถึงทางแยกไปล็อบบี้ ร่างบางก็ถูกกระชากแขนอย่างแรงจนเซถลามาอยู่ในอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ร่างบางพยายามทรงกายและหมายจะวีนคนทำ แต่ร่างสูงตรงหน้ากลับทำให้รู้สึกหวั่นใจแปลกๆ

     

    “ พี่อาร์... ”

     

    “ หนีอะไรหน้าตาตื่นเชียวกัน ” อาร์ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่า

     

     

    =============== To Be Continue ==============



    เปิดเรื่องใหม่ คืออยากแต่งมาก 55555555
    ขอบคุณพลอตงามๆจากน้องที่น่ารักและหื่นมากด้วย กร๊ากกกกก
    เป็นมหากาพย์ที่รั่วที่สุดในโลกหล้าาา >O<
    แต่พอมาทำเป็นฟิค จะให้ป่วนมากคงไม่ดี 
    หากพลาดตรงไหนติชมได้เลยนะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×