คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #45 : Don't Pout [NoGun]
Don’t Pout
[ อย่าลืมล้างมือด้วยนะ
เชือกมันไม่ค่อยสะอาดเท่าไร แล้วหาครีมทามือด้วยเดี๋ยวมือด้าน
ถ้าเชือกบาดก็ใส่ยาซะ แล้วตอนล้มบาดเจ็บไหม ถ้าไม่ไหวพี่จะพากลับไปพักผ่อนที่บ้าน ]
ดวงตากลมโตอ่านข้อความสั้นๆในไลน์ที่ใครบางคนส่งมาให้ก่อนจะเงยหน้ามองไปทางสแตนด์เชียร์ที่อยู่ติดกันแต่คนละทีมแล้วก็เห็นว่าคนส่งข้อความกำลังมองมาทางเขาอยู่
ดวงหน้าหวานเชิดขึ้นทันทีพร้อมริมฝีปากที่เบะออกจากนั้นก็สะบัดหน้ากลับมาทางเดิมพลางพูดคุยหยอกล้อคนอื่นไปทั่วไม่สนใจคนที่ส่งข้อความมาหาด้วยความเป็นห่วงสักนิด
แต่เสียงข้อความเข้าใหม่ก็ทำให้เขาต้องหยิบโทรศัพท์มาดูอีกครั้ง
[ จะให้พี่เดินไปดูมือกันตรงนั้นไหม
บอกไว้ก่อนนะว่าถ้ามีแม้แต่รอยแดง พี่พากลับบ้านทันทีเลยนะ
กันคงจะรู้ว่าพี่ไม่ได้ขู่ ]
“ ไอ้พี่โน่บ้า ”
กันบ่นพึมพำด้วยความขัดใจก่อนจะกดพิมพ์ข้อความตอบกลับไปว่าไม่เป็นอะไร
ยังไม่ทันเก็บโทรศัพท์ ข้อความก็เด้งขึ้นมาอีก
[ งอนอะไรพี่
พี่บ่นเพราะพี่ห่วงนะกัน ]
“ หน้าตากูเหมือนคนงอนมากเลยเหรอวะ ”
กันพึมพำอีกครั้งแต่คราวนี้ดูเหมือนว่าจะมีคนได้ยิน
“ ยิ่งกว่าเหมือนอีก
หน้างอจนจะเป็นตะขอเกี่ยวหัวหมูตามตลาดแล้ว ” เสียงคุ้นหูที่ดังขึ้นข้างกายทำให้กันหันไปมอง
แล้วก็พบเพื่อนร่วมรุ่นที่ใจดีกับเขาตลอดมาอย่างเซน
“
เปรียบให้มันดีๆหน่อยได้ไหมครับคุณเซนเพื่อนรัก ”
“ ก็เหมือนจริงนี่ เป็นอะไรล่ะ งอนพี่โน่เหรอ
” ดูท่าเซนจะเดาถูกเพราะว่าสีหน้ากันมันตึงขึ้นไปอีก
“ ปะ... ”
“ อย่าปฏิเสธนะ ถึงกูจะไม่ได้อยู่ใกล้มึงบ่อยๆเหมือนพี่โน่หรือริทแต่ก็อยู่ด้วยกันมานานพอที่จะรู้นิสัยมึง
คนอย่างมึงน่ะถ้าไม่งอนพี่โน่อยู่ ป่านนี้วิ่งไปนั่งกับสีส้มเป็นระยะๆแล้ว
ไม่มานั่งแกว่งขาสั้นๆไปมาแบบนี้หรอก ” คำว่าขาสั้นๆทำให้กันหันมาค้อนขวับ
“ กูเกลียดมึงอะ ”
“ โดนรู้ทันทีไรก็เกลียดไปเรื่อยตลอดแหละมึงอะ
” เซนยิ้มขำพลางส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู(?)เพื่อน
“ ก็มึงดูพี่โน่สิ จะมางานนี้ด้วยก็ไม่บอก
มาถึงก็เอาแต่อยู่กับคนอื่น ซบคนนั้นควงคนนู้นถ่ายรูปกับคนโน้น
เห็นกูยืนอยู่ก็ไม่เดินมาหา แข่งกีฬากันก็ไม่ยอมแพ้กู
แล้วยังจะส่งไลน์มาจ้ำจี้จ้ำไชกูอีก บ่นเสร็จแล้วก็บอกว่าเป็นห่วง เหอะ! ห่วงอะไรตอนนี้หรือเพิ่งนึกได้ว่ามีน้องอยู่ในงานด้วย! ” กันระบายออกมายาวเหยียด
“ น้องหรือแฟน... ”
เซนมองกันด้วยสายตาล้อเลียน
“ จะอะไรก็ช่างเถอะ ”
กันตัดบทด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ ทำให้เซนถูกใจที่นานๆทีจะแกล้งเจ้าตัวดีได้
“ มึงบอกว่าพี่โน่ไม่สนใจมึงแล้วมึงล่ะ ”
“ กูทำไม ”
“ มึงไปหาพี่โน่บ้างหรือยัง
บอกว่าพี่โน่ไม่สนใจมึง มึงสนใจพี่มันมั่งหรือเปล่า มึงเดินไปหาเขาตั้งแต่แรกไหม
มึงบอกว่าพี่โน่เห็นมึงก็แสดงว่ามึงเห็นพี่โน่ด้วย
มึงเดินไปหาเขาเลยหรือว่ามัวแต่เล่นอยู่กับคนอื่นแล้วพอไม่มีเพื่อนเล่นมึงถึงนึกถึงพี่มัน
แล้วพอพี่มันไม่สน มึงก็มานั่งงอนแบบนี้ ”
“ กู..... ”
“ กัน..... ”
เซนกดเสียงให้ต่ำลงเล็กน้อยเพื่อกดดันเพราะรู้ว่าเพื่อนกำลังจะแถ
“ ถ้าริทอยู่ด้วย มันจะไม่พูดกับกูแบบนี้เลย ”
กันทำหน้างอหนักกว่าเดิมพลางนึกถึงเพื่อนตัวเล็กที่วันนี้ไม่มาเพราะติดงาน
ทีแรกว่าจะงอแงใส่เพื่อนแต่พอริทขุดเรื่องไม่ไปงานรับปริญญาขึ้นมาพูด
เขาจึงต้องหุบปากฉับห้ามงอแงใส่ไม่งั้นจะเข้าตัว
“ ก็กูไม่ใช่ไอ้ริทไงที่จะมานั่งตามใจมึงตลอดเวลา
”
“ มันก็ไม่ได้ตามใจตลอดสักหน่อย
บางทีมันก็ขัดกูแล้วกูก็ต้องตามไปง้อมัน ”
“ พวกมึงมันนิสัยเหมือนกันไงเลยอยู่กันได้นาน -_-
กลับมาเรื่องพี่โน่ได้แล้ว
มึงอย่างอนพี่มันนักเลยถ้ามึงก็ไม่ได้ใส่ใจเขามากเท่าไรเหมือนกัน
บางทีที่เขาไม่ทักมึงเพราะเขาเห็นมึงกำลังเล่นกับคนอื่นเลยไม่อยากกวนก็ได้ ”
“ กูก็เล่นกับพี่ๆน้องๆเหมือนกันไหม เขาจะมาเล่นด้วยก็ได้นี่
”
“
แล้วที่พี่โน่คุยด้วยก็พี่ๆน้องๆเหมือนกันหรือเปล่าวะ
พี่โน่มันเล่นกับคนอื่นแต่ก็ยังส่งไลน์มาหามึง แล้วมึงล่ะ ถ้าพี่โน่ไม่ส่งไลน์มา
มึงคิดจะส่งไปหาเขาไหม ถ้ากูเป็นมึงนะ กูจะเลิกงอนแล้วเดินไปหาพี่โน่
ไปงอแงให้เขาง้อดีกว่ามานั่งงอนไม่พูดไม่จา
กัน...เวลาที่จะเจอกันมันก็น้อยอยู่แล้วนะเว้ย
มึงยังจะทำให้เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมันน้อยลงไปอีกเหรอ ”
“ ..... ”
คราวนี้กันพูดไม่ออกแต่ถามว่าเลิกหน้างอไหม...ก็ไม่
“ มึงโตแล้วนะกัน คิดเองแล้วกันว่าควรทำยังไง ”
เซนตบบ่าเพื่อนเบาๆก่อนจะลุกเดินออกไปคุยกับคนอื่น ปล่อยให้กันจมอยู่กับความคิดตัวเองตามลำพัง
“ โอ๊ย! ทำไมมันต้องยุ่งวุ่นวายขนาดนี้ด้วยวะแทนที่จะได้เล่นกีฬาสนุกๆ
พี่โน่แม่ง! ”
กันบ่นแต่ก็ยอมลุกจากม้านั่งเพื่อไปเข้าห้องน้ำตามที่พี่ชายซึ่งพ่วงตำแหน่งแฟนสั่งไว้
วันนี้บริษัทของเขาจัดงานแข่งกีฬาสีซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปี
เขาไม่ได้มาร่วมหลายปีแล้ว ปีนี้เพิ่งมีเวลาว่างเลยกะจะมาเล่นสนุกเต็มที่แต่กลายเป็นว่าต้องมาเจอเรื่องขัดใจแทน
มันทำให้เจ้าตัวอดคิดไม่ได้ว่าถ้าวันนี้เบี้ยวซะก็ดีหรอก
จะได้ไม่ต้องมาทนดูพี่โน่เล่นกับคนอื่นจนต้องมานั่งงอนอยู่แบบนี้
“ นานๆทีจะได้เจอกันแท้ๆ
เอาแต่อยู่กับคนอื่นอยู่ได้ แถมมาสั่งให้ทำนู่นทำนี่แล้วมาอ้างว่าห่วง
ห่วงนักทำไมไม่มาดูแลเองเลยล่ะ เหอะ! ”
กันยังคงบ่นงุบงิบตลอดทางที่เดินไปยังห้องน้ำทำให้เขาไม่รู้ตัวว่ามีใครบางคนเดินตามหลังมา
หลังจากล้างมือเรียบร้อย
กันก็เดินออกมาจากห้องน้ำแต่ยังไม่ทันจะได้กลับเข้าไปในงาน
เขาก็โดนมือของใครบางคนฉุดดึงจนตัวปลิวไปตามแรงนั้นจนแผ่นหลังชนกับแผ่นอกของคนตัวสูงกว่า
เขาพยายามขืนตัวออกด้วยความตกใจแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
กันจึงตั้งสติหยุดดิ้นและหันไปมองคนที่กอดรัดร่างของเขาอยู่ พอเห็นว่าเป็นใคร เจ้าตัวดีก็หน้างออีกรอบ
“ ทำบ้าอะไรของพี่เนี่ย กันตกใจนะพี่โน่
แล้วก็ปล่อยสักที เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าหรอก ”
กันมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวังจนโตโน่อดขำไม่ได้
เขายอมปล่อยอีกคนออกจากอ้อมแขนแต่ยังไม่ปล่อยมือ
“ เห็นก็ช่างสิ
พวกเรากอดกันออกจะบ่อยมันแปลกตรงไหน ”
“ แต่ไม่ได้กอดกันท่านี้ไง! ”
“ อยากเปลี่ยนท่ากอดออกสื่อบ้าง
แบบนั้นมันดูธรรมดาเกินไปแล้ว ”
“ ไม่ต้องมาพูดดีเลย พี่มาทำอะไรตรงนี้ ”
“ มาง้อเด็กขี้งอนไงแต่ต้องหาที่สงบกว่านี้ ”
“ ที่ไหน เฮ้ย พี่โน่! จะไปไหน!! ”
กันร้องถามเมื่อโดนดึงไปยังประตูทางออกของอาคารอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ไม่นานกันก็ได้คำตอบว่าร่างสูงจะง้อตัวเองที่ไหน
เขายืนกอดอกทำหน้ามุ่ยอยู่กับที่ไม่ยอมขึ้นรถตู้ทั้งที่ร่างสูงเปิดประตูให้พร้อมทั้งผายมือเชิญเจ้าเด็กขี้งอนให้ขึ้นไปบนรถด้วย
กันทำปากเบะพร้อมกับจะเดินกลับเข้าไปในงานแต่โตโน่ก็เอื้อมมือมารั้งไว้อีกครั้ง
“ จะงอนก็ให้มันมีลิมิตหน่อย
เยอะไปก็ไม่น่ารักนะ ”
“ จะง้อก็พูดให้มันดีๆหน่อยได้ไหม
ถ้าไม่น่ารักก็ไปรักคนอื่นเลย ”
กันว่าเสียงสะบัดแต่ดวงตากลมนั่นฉายความน้อยใจออกมาชัดเจนจนโตโน่อ่อนใจ
นอกจากจะเอาแต่ใจและขี้งอนแล้ว กันยังขี้น้อยใจเป็นอันดับหนึ่งอีกด้วย
“ ชอบคิดเองเออเองตลอด พี่ก็รักคนนี้คนเดียว
รักมากด้วย จะให้ไปรักใครได้เท่านี้อีกล่ะ ขึ้นรถไปดีๆเลย
ไม่งั้นพี่จะลากกันไปง้อกลางสนาม เอาให้อายคนทั้งค่ายเลย ”
“ พี่ไม่กล้าหรอก ”
“ กันก็รู้ว่าพี่ไม่เคยขู่และหน้าด้านมาก ”
ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนคนตัวเล็กกว่าต้องถอยออกห่าง
“ กันไม่ได้เจอพี่นานจนลืมไปแล้วว่าพี่หน้าหนา
” กันจิกกัดก่อนจะยอมขึ้นรถตู้ไปแต่โดยดี
“ ก็แค่นี้ ทำไมต้องให้งัดไม้ตายมาปราบทุกที ”
โตโน่บ่นพึมพำก่อนจะเข้าไปในรถอีกคนและปิดประตูลงกลอนอย่างดี
“ มีอะไรก็ว่ามา
อยู่บนรถที่ไม่ได้เปิดแอร์นานๆเดี๋ยวได้ขาดใจตายพอดี ”
“ กันไม่ขาดใจตายง่ายๆหรอก ช่วงนี้อกใหญ่ขึ้น
”
“ พี่โน่!! ”
กันขึ้นเสียงด้วยใบหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าโกรธหรืออายกันแน่
“ เอามือมาดูสิ ”
โตโน่เปลี่ยนเรื่องกะทันหันทำให้กันงุนงงไปพักหนึ่ง
“ พี่บอกให้ส่งมือมา ” พอร่างสูงย้ำอีกครั้ง
กันก็ยอมยื่นมือทั้งสองข้างออกมาให้อีกฝ่ายดู
“ มันแค่แดงเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรเลย
พี่ไม่ต้องห่วงหรอก ”
“ ไม่ห่วงได้ยังไง กันทั้งคนนะ ”
คนอายุมากกว่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นพร้อมทั้งหยิบยามาทาและนวดไปตามมือของกันเบาๆ
การกระทำของเขาเรียกริ้วสีแดงบนใบหน้าหวานของคนอายุน้อยกว่าได้อย่างดี
“ พี่โน่...คือ... ”
“
เคยบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าเวลาเล่นกีฬาพวกนี้ให้ใส่ถุงมือไว้บ้าง
มันจะได้ลดอาการพองที่เกิดจากการเสียดสี ดูสิมือนุ่มๆแดงไปหมดเลย ”
“ มันจะดีนะถ้าพี่ไม่บ่นเนี่ย! ” กันหมดอารมณ์เขินทันทีที่โดนบ่น
“ ถ้าไม่บ่นและเอาแต่ตามใจ กันก็จะเหลิง
พี่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องเล่นซนหรือดื้อนะ
พี่หมายถึงทุกเรื่องเลย หากวันไหนมีคนมาฟ้องว่ากันเอาแต่ใจมากเกินไป
พี่จะจัดให้หนักเลยคอยดู ” โตโน่สบตาเจ้าตัวดื้อของเขาด้วยแววตาจริงจัง
“ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เอาแต่ใจขนาดนั้นแล้วนะ! ” กันเถียงพลางคาดโทษคนที่คาบเอาเรื่องของเขาไปฟ้องโตโน่ภายในใจ
“ ก็ดีแล้ว แล้วก้นเป็นไงบ้าง เจ็บไหม
เอามาให้พี่ดูสิ ” โตโน่ถามหลังจากนวดมือให้คนสำคัญเสร็จเรียบร้อย
“ พี่จะบ้าเหรอ ใครเขาจะให้ดูกัน! ”
“ อายทำไม
ทำอย่างกับว่าพี่ไม่เคยเห็นก้นกันงั้นแหละ ”
“
กันไม่ได้หน้าด้านแบบพี่นะที่จะมาถอดโชว์ในที่แบบนี้น่ะ!! แล้วก้นกันก็ไม่ได้เป็นอะไรด้วย ไม่ได้ลงแรงขนาดนั้น
ไม่ได้หัวทิ่มหัวตำแบบพี่ด้วย! ”
“ แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร ”
“ เออ! แล้วพี่เป็นไงบ้าง
ล้มแรงกว่ากันอีกนะ เจ็บตรงไหนไหม ” กันถามขึ้นหลังจากนึกได้ว่าคนตรงหน้าก็ล้มไม่ต่างจากเขา
“ ไม่เจ็บหรอก พี่เป็นนักมวยนะ
ล้มแค่นี้ทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก ”
“ แต่พี่ก็น่าจะทายาบ้างนะ ”
“ ไม่ได้เป็นอะไรหรอกน่า ไม่ต้องห่วงหรอก
พี่ยังอยู่ง้อแฟนของพี่ได้อีกนาน ” โตโน่ยิ้มหวานให้กัน
เล่นเอาเจ้าตัวแสบหน้าแดงด้วยความเขินอีกรอบ
“ พี่ไปกินทองหยอดมาเหรอ
ทำไมหยอดได้หยอดดีขนาดนี้ ” กันถามกลบความเขิน
“ ไม่ได้กินทองหยอดแต่กินขนมจีบมา ” โตโน่ตั้งใจจะหยอดอีกรอบแต่คราวนี้ดูจะผิดคาดไปนิดเพราะกันหันมามองเขาตาเขียวเลย
ร่างสูงจึงต้องหุบยิ้มทันควัน
“ งั้นก็ไปจีบคู่จิ้นคนใหม่ของพี่เลยไป
ไม่ต้องมายุ่งกับกัน! ”
กันลุกขึ้นจะเดินผ่านโตโน่ลงจากรถแต่ก็โดนคนตัวสูงกว่าดันให้กลับไปนั่งเหมือนเดิมแถมคราวนี้ดันขึ้นคร่อมกักตัวเขาไว้กับเก้าอี้อีกด้วย
“ พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย
กับน้องเขามันเป็นเรื่องงาน กันก็รู้นี่
อย่าเอาเรื่องพวกนี้มาทำให้เราผิดใจกันเลยนะ ”
“
กันรู้ว่ามันเป็นเรื่องงานแต่บางอย่างมันก็มากไปนะพี่โน่
พี่ทำงานจนกันรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญกับพี่เลย มันมากจนกันกลัว
กลัวว่ามันจะกลับไปเป็นเหมือนตอนนั้น ” แม้กันจะไม่พูดออกมาว่าตอนนั้นคืออะไรแต่โตโน่ก็รู้ดี
มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่สั่นคลอนพวกเขาจนกลายเป็นความทรงจำฝังใจทั้งกันและริท
“ คิดมากไปแล้วกัน
พี่สัญญาแล้วไงว่าจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
ดังนั้นเชื่อพี่เถอะว่าประวัติศาสตร์มันจะไม่ซ้ำรอย
ตอนนี้คนที่สำคัญสำหรับพี่ที่สุดคือกันและพี่ก็ยังหวังให้มันเป็นแบบนี้ไปจนถึงอนาคต
หมดหัวใจของพี่มันมีแค่กันจริงๆนะ ”
ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจังจนคนน้อยใจต้องเสหลบตาและมีท่าทีอ่อนลง
“ กันเชื่อพี่ได้ใช่ไหม ”
“ กันเชื่อพี่ได้เสมอ ”
“ กันจะพยายามเชื่อพี่ไปเรื่อยๆแล้วกัน ”
ในที่สุดกันก็ยอมเชื่อ มันทำให้โตโน่ยิ้มออกมาได้อีกครั้ง
“ แล้วสรุปวันนี้เรางอนอะไรพี่ ” โตโน่ย้อนกลับมาถามเรื่องที่คาใจเขาอยู่
“ ก็พี่ไม่สนใจกันเลยนี่ มางานนี้ก็ไม่บอก
มาถึงงานก็ไม่มาหากัน เอาแต่อยู่กับคนอื่น แข่งชักคะเย่อก็ไม่ยอมแพ้กันอีก
กันต้องดึงแทบตาย อ่อนให้หน่อยมันจะตายเหรอ ทำไมต้องเอาชนะขนาดนั้นด้วย
ทำไมไม่เห็นใจกันบ้าง แล้วแทนที่จะเดินมาดูกันดีๆ พี่กลับส่งไลน์มาเนี่ยนะ! แล้วมาบอกว่าเป็นห่วง คนเป็นห่วงมันต้องมาดูแลสิ
ไม่ใช่ส่งไลน์มาถามเฉยๆทั้งที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้!! ” โตโน่อ้าปากค้างหลังจากนั่งฟังกันสาธยายสาเหตุของอาการงอน
พอตั้งสติได้เขาก็เอื้อมมือไปผลักหัวกลมๆเบาๆหนึ่งครั้ง
“ งอนไร้สาระอีกแล้วไอ้ตัวแสบ ”
“ ไร้สาระตรงไหน! ”
“ ทุกตรงเลย! ”
“ พี่โน่! ” กันแหวใส่
“ กัน ” แต่น้ำเสียงอ่อนโยนของโตโน่ทำให้กันหยุดเหวี่ยง
“ อะ...อะไร... ”
“ ที่พี่ไม่บอกว่าพี่จะมางานนี้ก็เพราะว่าพี่อยากเซอร์ไพรส์กัน
ที่พี่ไม่เข้ามาทักกันก็เพราะพี่เห็นกันกำลังเล่นสนุกอยู่กับคนอื่น พี่ไม่อยากกวน
พี่อยากให้กันได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง นานๆทีเราจะเจอกันพร้อมหน้าแบบนี้
พี่คิดว่ากันคงอยากใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆพี่น้องคนอื่นบ้างเท่านั้น
พี่ไม่ขัดเพราะพี่คิดว่ายังไงวันนี้พี่ก็จะกลับบ้านกับกันอยู่แล้ว
เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน ”
มือหนาลูบแก้มนิ่มเบาๆด้วยความเอ็นดูที่เห็นคนพยศยอมอยู่นิ่งฟังเขาพูดอธิบาย
อดภูมิใจไม่ได้ที่กันเริ่มโตขึ้นบ้างแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนกว่าจะได้คุยกันดีๆ
เขาต้องใช้กำลังบังคับตลอด
“ ..... ”
“ ส่วนเรื่องชักคะเย่อ มันเล่นเป็นทีม
กันจะให้พี่ทำยังไง ต่อให้พี่ยอมแพ้กัน คนอื่นก็ไม่ยอมอยู่ดีนั่นแหละ
อีกอย่างกันจะภูมิใจเหรอที่ชนะด้วยการยอมแพ้ของคนอื่นไม่ได้มาจากความสามารถของตัวเองน่ะฮะ
” โตโน่บีบปลายจมูกโด่งของกันด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะโน้มลงมาจูบเบาๆบนริมฝีปากบาง
“ รู้แล้วน่า ก็แค่ล้อเล่นเฉยๆเท่านั้นเอง ” กันเบือนหน้าไปทางอื่น
ไม่กล้าสบตาคนตัวโตกว่า ไม่รู้ทำไมวันนี้อีกฝ่ายถึงดูหวานแปลกๆ
ทั้งการกระทำและคำพูด หวานจนเขาร้อนไปหมดทั้งหน้าแล้ว
“ หึ แล้วตกลงหายงอนพี่หรือยัง ”
“ ทำไม ขี้เกียจง้อแล้วเหรอ เบื่อแล้วใช่ไหม ”
กันกลับมาทำหน้างออีกครั้งจนได้
“ ไม่ใช่ พี่ไม่เคยเบื่อกันเลย พี่ง้อกันได้ตลอดเวลาอยู่แล้วแต่มันต้องขึ้นอยู่กับว่าเรื่องที่งอนมันสมเหตุสมผลหรือเปล่า
แล้วเรื่องวันนี้พี่ว่าพี่ไม่ได้ทำอะไรผิดมาก
ที่สำคัญกันเองก็ไม่ได้สนใจพี่เท่าไรนี่ พี่เห็นกันเอาแต่เล่นกับคนนั้นคนนี้จนพี่แทบเข้าหากันไม่ได้เลย
” โตโน่บ่นคืนบ้าง
“ กันเล่นกับคนอื่นเพราะพี่ไม่มาเล่นกับกันไง! ”
“ โอเคๆ พี่ผิดก็ได้ หายงอนได้หรือยัง
พี่ยอมรับผิดแล้วนี่ไง ”
“ พี่จำใจรับผิดเพราะอยากให้กันหายงอนต่างหาก
พี่ไม่จริงใจ! ” เจ้าตัวแสบหน้ามุ่ยหนักกว่าเดิม
“ กัน....เยอะไปแล้วนะ -_-
”
“ เออๆ หายงอนแล้ว ลุกออกไปสักทีสิ
คร่อมอยู่ได้ ท่านี้มันล่อแหลมไม่รู้หรือไง ”
“ แค่นี้ไม่ล่อแหลมหรอก มันต้องแบบนี้ต่างหาก
”
เมื่อพูดจบร่างสูงก็โน้มใบหน้าลงซุกไซ้ซอกคอสวยของเด็กในปกครองทันที
กันพยายามผลักคนฉวยโอกาสออกแต่แรงที่มีน้อยนิดของตัวเองช่างไม่เป็นใจ
ไม่ว่าจะดันเท่าไรอีกฝ่ายก็ไม่ขยับเลย มือหนาเริ่มลูบคลำไปตามร่างกายของคนอายุน้อยกว่า
นั่นทำให้กันยิ่งดิ้นมากขึ้นไปอีก
“ หยุดนะพี่โน่! ไม่เอาที่นี่นะ!
เดี๋ยวมีคนมาเห็น หยุดสิ!! ”
“
อยากให้พี่หยุดก็สัญญามาก่อนสิว่าจะไม่งอนพี่แล้ว ”
โตโน่กระซิบข้างใบหูก่อนจะกดริมฝีปากลงบนแก้มชื้นเหงื่อเบาๆ
เขาขยับตัวนั่งท่าเดิมแต่ก็ไม่ลืมที่จะดึงเจ้าตัวดื้อให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
“ ก็ไม่งอนแล้วไง หายงอนแล้ว ปล่อยสิ~~~ ” กันพยายามจะผละออกอีกรอบแต่โตโน่กลับยิ่งกอดแน่นขึ้น
“ กัน ” จู่ๆคนตัวสูงกว่าก็ทำน้ำเสียงจริงจัง
ทำให้กันหยุดดิ้นและขยับออกมามองสบตาคนเรียกซึ่งร่างสูงก็ยอมคลายอ้อมแขนออกแต่โดยดี
“ เรียกทำไม ”
“ พี่น่ะ ง้อกันได้ตลอดนะ
ถึงบางครั้งจะเมินเฉยไม่ยอมง้อแต่พี่ก็แคร์กันนะ
พี่แค่คิดว่าถ้าพี่ยอมง้อกันตลอดเวลา มันจะทำให้กันเคยตัวและเอาแต่ใจมากขึ้น
พี่ไม่กลัวว่ากันจะงอแงใส่พี่หรอกแต่พี่กลัวว่ากันจะเผลอทำแบบนั้นกับคนอื่น
ถ้าคนนั้นทนได้แบบพี่ก็ดีไป แต่ถ้าเขาทนไม่ได้ขึ้นมา เขาจะมองกันไม่ดีนะ ”
“ ..... ”
“ พี่รักกัน
พี่ก็อยากให้ทุกคนรักกันเหมือนที่พี่รัก อย่างอนมาก อย่าเอาแต่ใจเยอะ
ต้องพยายามใจเย็นและมีเหตุผลรู้ไหม พี่อยู่กับกันตลอดเวลาไม่ได้แต่พี่พร้อมจะรับฟังกันเสมอ
เพราะฉะนั้นถ้าไม่พอใจอะไร กันเก็บเอาไว้ในใจแล้วมาระบายให้พี่ฟังแทนก็ได้
มางอนพี่แทน ให้พี่ง้อกันเองนะ ”
“ พี่จะง้อทุกเรื่อง? ”
“ เปล่า
พี่จะง้อเป็นบางเรื่องเหมือนเดิมนั่นแหละ ” โตโน่ปฏิเสธทันควัน
ทำให้กันตั้งท่าจะท้วงติง
“ พี่มัน.... ”
“ แต่จะฟังกันระบาย พี่จะหาทางทำให้กันอารมณ์ดีขึ้น
แล้วพี่ก็จะสอนกันจนกว่ากันจะเข้าใจเหตุผลของเรื่องราวต่างๆที่มันเกิดขึ้น ”
“ ..... ”
“ การที่พี่ไม่ง้อ มันไม่ใช่ว่าพี่ไม่รักกัน
แต่เพราะว่าพี่รัก พี่ถึงต้องแข็งกับกันบ้าง แต่ขอให้กันเชื่อเถอะว่าพี่จะอยู่เคียงข้างกันไม่ไปไหน
” นิ้วเรียวไล้ไปตามผิวแก้มนุ่มก่อนจะรั้งอีกคนมากอดอีกครั้งโดยมีกันกอดตอบรอบเอวสอบ
“ พูดแล้วนะ ห้ามผิดคำพูดด้วย ” กันพูดเสียงกระเง้ากระงอดอยู่บนไหล่แกร่งทำให้โตโน่อมยิ้มก่อนจะตอบยืนยัน
“ แน่นอนอยู่แล้ว ”
“
กันจะพยายามงอนคนอื่นให้น้อยลงแต่จะมางี่เง่าใส่พี่ให้บ่อยขึ้นแล้วกัน ” คำพูดของกันทำให้โตโน่ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะส่ายหัวน้อยๆอย่างอ่อนใจ
“ ลดลงบ้างก็ดี แต่ถ้าเลิกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ”
“ งั้นกันจะงอนแบบมีเหตุผลแล้วกัน
จะพยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาอ้าง ”
“ กัน.... ” โตโน่กดเสียงต่ำพลางมองหน้าเจ้าตัวดีด้วยสายตาดุๆ
“ ล้อเล่นน่า~~
กันจะพยายามมีเหตุผลให้มากขึ้น จะงอนให้น้อยลง โอเคไหม ”
“ พี่จะรอดู ” ร่างสูงยกยิ้มเจ้าเล่ห์
“ คอยจับตาดูดีๆก็แล้วกัน ”
กันเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจว่าตัวเองจะทำตามคำพูดได้แน่นอน
มันทำให้โตโน่หมั่นเขี้ยว เขาคว้าต้นคอของอีกฝ่ายและดึงให้เข้ามาใกล้
“ อื้อ~~~~ ”
ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนริมฝีปากบางโดยที่คนโดนกระทำไม่ทันได้ตั้งตัว
แรงต่อต้านเกิดขึ้นครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆจางหายเมื่อเจ้าของริมฝีปากนุ่มเริ่มเคลิบเคลิ้มไปกับจุมพิตหวานที่แสนนุ่มนวลอ่อนโยน
เมื่อเห็นว่ากันไม่ขัดขืน ร่างสูงจึงถือโอกาสตักตวงน้ำหวานที่หิวกระหายมาเป็นเวลานานอย่างเต็มที่
มือหนาลูบไล้ไปตามลำตัวก่อนจะสอดเข้าไปภายในเสื้อกีฬาและนั่นทำให้กันต่อต้านอีกครั้ง
โตโน่จึงเร่งตักตวงน้ำหวานด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะหลุดออกจากอ้อมแขนจนกระทั่งได้ยินเสียงร้องประท้วงในลำคอของคนที่กำลังต้องการอากาศหายใจ
เขาจึงถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย
“ พี่...! ทำบ้าอะไรเนี่ย!
กันบอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้! ”
กันโวยวายด้วยใบหน้าแดงก่ำและรีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยตามเดิม
ดวงตาหวานมองค้อนคนที่กำลังตีหน้าเป็นไม่หยุด
“ ก็กันอยากน่ารักเอง มันช่วยไม่ได้
อีกอย่างเราอยู่บนรถกันสองคน ใครจะมาเห็นล่ะ ”
“ ก็คนที่เอะใจว่าเราหายไปไหนไงที่จะมาเห็น ”
“ ใครจะหาเราเจอ
พี่ไม่ได้บอกใครสักหน่อยว่าจะมาที่รถ ซ้ำกุญแจรถพี่ก็แอบหยิบมา ไม่มีใครรู้หรอกน่า
”
“ ไม่เอา ต่อให้ไม่มีใครมาเห็นก็ห้ามทำที่นี่! ”
“ ไม่ให้ทำที่นี่ งั้นทำที่บ้านได้สินะ ” โตโน่มองกันด้วยสายตาแพรวพราวจนกันด่าไม่ออก
“ ไอ้พี่บ้า! ”
ค้นหาเสียงตัวเองมาได้แค่นี้แหละ
“ แฟนครับไม่ใช่พี่
แล้วก็เป็นแฟนที่อยากเลื่อนขั้นเป็นสามีแล้วด้วย ”
“ ฝันไปก่อนเถอะ ”
กันดันโตโน่ให้หลบจนพ้นทางก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป
“ กัน~~ ” โตโน่ร้องเรียก
กันหันหลังกลับมามองคนตัวสูงในรถก่อนจะยกยิ้มกวนๆและเอ่ยออกมาไม่เบานัก
“ จนกว่าสีกันจะชนะเกม ”
เมื่อพูดจบกันก็เดินหนีทันทีด้วยใบหน้าร้อนจนกลัวว่าจะระเบิด
ทำให้เขาไม่ทันเห็นรอยยิ้มกว้างและท่าทางดีใจจนแทบกระโดดตัวลอยของโตโน่
เขาไม่ได้สนใจว่าจะแพ้หรือชนะ เพราะต่อให้กันแพ้ เขาก็บังคับเอาจนได้อยู่ดีนั่นแหละ
เปิดทางขนาดนี้อย่าหวังว่าจะหนีพ้นเงื้อมมือปีศาจอย่างเขาไปได้เลย มือหนาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะพิมพ์ข้อความลงไปในไลน์แล้วกดส่งอย่างรวดเร็ว
เสียงไลน์ที่ดังขึ้นทำให้กันหยุดเดินและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดอ่าน
ข้อความสั้นๆไม่กี่คำทำให้หัวใจของเขาพองโต
[ พี่รักกันนะ ]
ร่างบางหันกลับไปยังทิศทางของรถตู้แล้วจึงเห็นว่าโตโน่กำลังมองมาที่เขาและส่งยิ้มกว้างที่สัมผัสได้ถึงความสุขเต็มเปี่ยมมาให้
กันก้มหน้าก้มตาส่งข้อความตอบกลับก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองโตโน่ที่กำลังอ่านข้อความที่เขาส่งไปจากนั้นอีกฝ่ายจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา
รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทั้งสองคนอยู่นานก่อนที่กันจะเป็นฝ่ายถอนสายตาและหมุนตัวเดินกลับไปทางเดิม
โตโน่เองก็ลงจากรถและเดินตามกันไป...โดยที่รอยยิ้มยังคงไม่เลือนหายไปจากใบหน้าของทั้งสองคน
[ กันก็รักพี่โน่นะ ]
The
End
ความคิดเห็น