ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF: Yaoi The Star) Sassy Love (โน่กัน / อสรพิษ)

    ลำดับตอนที่ #45 : Don't Pout [NoGun]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 444
      4
      13 ม.ค. 61

    Don’t Pout


     

    [ อย่าลืมล้างมือด้วยนะ เชือกมันไม่ค่อยสะอาดเท่าไร แล้วหาครีมทามือด้วยเดี๋ยวมือด้าน ถ้าเชือกบาดก็ใส่ยาซะ แล้วตอนล้มบาดเจ็บไหม ถ้าไม่ไหวพี่จะพากลับไปพักผ่อนที่บ้าน ]

     


                    ดวงตากลมโตอ่านข้อความสั้นๆในไลน์ที่ใครบางคนส่งมาให้ก่อนจะเงยหน้ามองไปทางสแตนด์เชียร์ที่อยู่ติดกันแต่คนละทีมแล้วก็เห็นว่าคนส่งข้อความกำลังมองมาทางเขาอยู่ ดวงหน้าหวานเชิดขึ้นทันทีพร้อมริมฝีปากที่เบะออกจากนั้นก็สะบัดหน้ากลับมาทางเดิมพลางพูดคุยหยอกล้อคนอื่นไปทั่วไม่สนใจคนที่ส่งข้อความมาหาด้วยความเป็นห่วงสักนิด แต่เสียงข้อความเข้าใหม่ก็ทำให้เขาต้องหยิบโทรศัพท์มาดูอีกครั้ง

     


    [ จะให้พี่เดินไปดูมือกันตรงนั้นไหม บอกไว้ก่อนนะว่าถ้ามีแม้แต่รอยแดง พี่พากลับบ้านทันทีเลยนะ กันคงจะรู้ว่าพี่ไม่ได้ขู่ ]

     


    “ ไอ้พี่โน่บ้า ” กันบ่นพึมพำด้วยความขัดใจก่อนจะกดพิมพ์ข้อความตอบกลับไปว่าไม่เป็นอะไร ยังไม่ทันเก็บโทรศัพท์ ข้อความก็เด้งขึ้นมาอีก

     


    [ งอนอะไรพี่ พี่บ่นเพราะพี่ห่วงนะกัน ]


     

    “ หน้าตากูเหมือนคนงอนมากเลยเหรอวะ ” กันพึมพำอีกครั้งแต่คราวนี้ดูเหมือนว่าจะมีคนได้ยิน


    “ ยิ่งกว่าเหมือนอีก หน้างอจนจะเป็นตะขอเกี่ยวหัวหมูตามตลาดแล้ว ” เสียงคุ้นหูที่ดังขึ้นข้างกายทำให้กันหันไปมอง แล้วก็พบเพื่อนร่วมรุ่นที่ใจดีกับเขาตลอดมาอย่างเซน


    “ เปรียบให้มันดีๆหน่อยได้ไหมครับคุณเซนเพื่อนรัก ”


    “ ก็เหมือนจริงนี่ เป็นอะไรล่ะ งอนพี่โน่เหรอ ” ดูท่าเซนจะเดาถูกเพราะว่าสีหน้ากันมันตึงขึ้นไปอีก


    “ ปะ... ”


    “ อย่าปฏิเสธนะ ถึงกูจะไม่ได้อยู่ใกล้มึงบ่อยๆเหมือนพี่โน่หรือริทแต่ก็อยู่ด้วยกันมานานพอที่จะรู้นิสัยมึง คนอย่างมึงน่ะถ้าไม่งอนพี่โน่อยู่ ป่านนี้วิ่งไปนั่งกับสีส้มเป็นระยะๆแล้ว ไม่มานั่งแกว่งขาสั้นๆไปมาแบบนี้หรอก ” คำว่าขาสั้นๆทำให้กันหันมาค้อนขวับ  


    “ กูเกลียดมึงอะ ”


    “ โดนรู้ทันทีไรก็เกลียดไปเรื่อยตลอดแหละมึงอะ ” เซนยิ้มขำพลางส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู(?)เพื่อน


    “ ก็มึงดูพี่โน่สิ จะมางานนี้ด้วยก็ไม่บอก มาถึงก็เอาแต่อยู่กับคนอื่น ซบคนนั้นควงคนนู้นถ่ายรูปกับคนโน้น เห็นกูยืนอยู่ก็ไม่เดินมาหา แข่งกีฬากันก็ไม่ยอมแพ้กู แล้วยังจะส่งไลน์มาจ้ำจี้จ้ำไชกูอีก บ่นเสร็จแล้วก็บอกว่าเป็นห่วง เหอะ! ห่วงอะไรตอนนี้หรือเพิ่งนึกได้ว่ามีน้องอยู่ในงานด้วย! ” กันระบายออกมายาวเหยียด


    “ น้องหรือแฟน... ” เซนมองกันด้วยสายตาล้อเลียน


    “ จะอะไรก็ช่างเถอะ ” กันตัดบทด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ ทำให้เซนถูกใจที่นานๆทีจะแกล้งเจ้าตัวดีได้


    “ มึงบอกว่าพี่โน่ไม่สนใจมึงแล้วมึงล่ะ ”


    “ กูทำไม ”


    “ มึงไปหาพี่โน่บ้างหรือยัง บอกว่าพี่โน่ไม่สนใจมึง มึงสนใจพี่มันมั่งหรือเปล่า มึงเดินไปหาเขาตั้งแต่แรกไหม มึงบอกว่าพี่โน่เห็นมึงก็แสดงว่ามึงเห็นพี่โน่ด้วย มึงเดินไปหาเขาเลยหรือว่ามัวแต่เล่นอยู่กับคนอื่นแล้วพอไม่มีเพื่อนเล่นมึงถึงนึกถึงพี่มัน แล้วพอพี่มันไม่สน มึงก็มานั่งงอนแบบนี้ ”


    “ กู..... ”


    “ กัน..... ” เซนกดเสียงให้ต่ำลงเล็กน้อยเพื่อกดดันเพราะรู้ว่าเพื่อนกำลังจะแถ


    “ ถ้าริทอยู่ด้วย มันจะไม่พูดกับกูแบบนี้เลย ” กันทำหน้างอหนักกว่าเดิมพลางนึกถึงเพื่อนตัวเล็กที่วันนี้ไม่มาเพราะติดงาน ทีแรกว่าจะงอแงใส่เพื่อนแต่พอริทขุดเรื่องไม่ไปงานรับปริญญาขึ้นมาพูด เขาจึงต้องหุบปากฉับห้ามงอแงใส่ไม่งั้นจะเข้าตัว


    “ ก็กูไม่ใช่ไอ้ริทไงที่จะมานั่งตามใจมึงตลอดเวลา ”


    “ มันก็ไม่ได้ตามใจตลอดสักหน่อย บางทีมันก็ขัดกูแล้วกูก็ต้องตามไปง้อมัน ”


    “ พวกมึงมันนิสัยเหมือนกันไงเลยอยู่กันได้นาน -_- กลับมาเรื่องพี่โน่ได้แล้ว มึงอย่างอนพี่มันนักเลยถ้ามึงก็ไม่ได้ใส่ใจเขามากเท่าไรเหมือนกัน บางทีที่เขาไม่ทักมึงเพราะเขาเห็นมึงกำลังเล่นกับคนอื่นเลยไม่อยากกวนก็ได้ ”


    “ กูก็เล่นกับพี่ๆน้องๆเหมือนกันไหม เขาจะมาเล่นด้วยก็ได้นี่ ”


    “ แล้วที่พี่โน่คุยด้วยก็พี่ๆน้องๆเหมือนกันหรือเปล่าวะ พี่โน่มันเล่นกับคนอื่นแต่ก็ยังส่งไลน์มาหามึง แล้วมึงล่ะ ถ้าพี่โน่ไม่ส่งไลน์มา มึงคิดจะส่งไปหาเขาไหม ถ้ากูเป็นมึงนะ กูจะเลิกงอนแล้วเดินไปหาพี่โน่ ไปงอแงให้เขาง้อดีกว่ามานั่งงอนไม่พูดไม่จา กัน...เวลาที่จะเจอกันมันก็น้อยอยู่แล้วนะเว้ย มึงยังจะทำให้เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมันน้อยลงไปอีกเหรอ ”


    “ ..... ” คราวนี้กันพูดไม่ออกแต่ถามว่าเลิกหน้างอไหม...ก็ไม่


    “ มึงโตแล้วนะกัน คิดเองแล้วกันว่าควรทำยังไง ” เซนตบบ่าเพื่อนเบาๆก่อนจะลุกเดินออกไปคุยกับคนอื่น ปล่อยให้กันจมอยู่กับความคิดตัวเองตามลำพัง


    “ โอ๊ย! ทำไมมันต้องยุ่งวุ่นวายขนาดนี้ด้วยวะแทนที่จะได้เล่นกีฬาสนุกๆ พี่โน่แม่ง! ” กันบ่นแต่ก็ยอมลุกจากม้านั่งเพื่อไปเข้าห้องน้ำตามที่พี่ชายซึ่งพ่วงตำแหน่งแฟนสั่งไว้  


     

                    วันนี้บริษัทของเขาจัดงานแข่งกีฬาสีซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปี เขาไม่ได้มาร่วมหลายปีแล้ว ปีนี้เพิ่งมีเวลาว่างเลยกะจะมาเล่นสนุกเต็มที่แต่กลายเป็นว่าต้องมาเจอเรื่องขัดใจแทน มันทำให้เจ้าตัวอดคิดไม่ได้ว่าถ้าวันนี้เบี้ยวซะก็ดีหรอก จะได้ไม่ต้องมาทนดูพี่โน่เล่นกับคนอื่นจนต้องมานั่งงอนอยู่แบบนี้


     

    “ นานๆทีจะได้เจอกันแท้ๆ เอาแต่อยู่กับคนอื่นอยู่ได้ แถมมาสั่งให้ทำนู่นทำนี่แล้วมาอ้างว่าห่วง ห่วงนักทำไมไม่มาดูแลเองเลยล่ะ เหอะ! ” กันยังคงบ่นงุบงิบตลอดทางที่เดินไปยังห้องน้ำทำให้เขาไม่รู้ตัวว่ามีใครบางคนเดินตามหลังมา

     


                    หลังจากล้างมือเรียบร้อย กันก็เดินออกมาจากห้องน้ำแต่ยังไม่ทันจะได้กลับเข้าไปในงาน เขาก็โดนมือของใครบางคนฉุดดึงจนตัวปลิวไปตามแรงนั้นจนแผ่นหลังชนกับแผ่นอกของคนตัวสูงกว่า เขาพยายามขืนตัวออกด้วยความตกใจแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ กันจึงตั้งสติหยุดดิ้นและหันไปมองคนที่กอดรัดร่างของเขาอยู่ พอเห็นว่าเป็นใคร เจ้าตัวดีก็หน้างออีกรอบ


     

    “ ทำบ้าอะไรของพี่เนี่ย กันตกใจนะพี่โน่ แล้วก็ปล่อยสักที เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าหรอก ” กันมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวังจนโตโน่อดขำไม่ได้ เขายอมปล่อยอีกคนออกจากอ้อมแขนแต่ยังไม่ปล่อยมือ


    “ เห็นก็ช่างสิ พวกเรากอดกันออกจะบ่อยมันแปลกตรงไหน ”


    “ แต่ไม่ได้กอดกันท่านี้ไง!


    “ อยากเปลี่ยนท่ากอดออกสื่อบ้าง แบบนั้นมันดูธรรมดาเกินไปแล้ว ”


    “ ไม่ต้องมาพูดดีเลย พี่มาทำอะไรตรงนี้ ”


    “ มาง้อเด็กขี้งอนไงแต่ต้องหาที่สงบกว่านี้ ”


    “ ที่ไหน เฮ้ย พี่โน่! จะไปไหน!! ” กันร้องถามเมื่อโดนดึงไปยังประตูทางออกของอาคารอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย


     

                    ไม่นานกันก็ได้คำตอบว่าร่างสูงจะง้อตัวเองที่ไหน เขายืนกอดอกทำหน้ามุ่ยอยู่กับที่ไม่ยอมขึ้นรถตู้ทั้งที่ร่างสูงเปิดประตูให้พร้อมทั้งผายมือเชิญเจ้าเด็กขี้งอนให้ขึ้นไปบนรถด้วย กันทำปากเบะพร้อมกับจะเดินกลับเข้าไปในงานแต่โตโน่ก็เอื้อมมือมารั้งไว้อีกครั้ง

     


    “ จะงอนก็ให้มันมีลิมิตหน่อย เยอะไปก็ไม่น่ารักนะ ”


    “ จะง้อก็พูดให้มันดีๆหน่อยได้ไหม ถ้าไม่น่ารักก็ไปรักคนอื่นเลย ” กันว่าเสียงสะบัดแต่ดวงตากลมนั่นฉายความน้อยใจออกมาชัดเจนจนโตโน่อ่อนใจ

     


    นอกจากจะเอาแต่ใจและขี้งอนแล้ว กันยังขี้น้อยใจเป็นอันดับหนึ่งอีกด้วย

     


    “ ชอบคิดเองเออเองตลอด พี่ก็รักคนนี้คนเดียว รักมากด้วย จะให้ไปรักใครได้เท่านี้อีกล่ะ ขึ้นรถไปดีๆเลย ไม่งั้นพี่จะลากกันไปง้อกลางสนาม เอาให้อายคนทั้งค่ายเลย ”       


    “ พี่ไม่กล้าหรอก ”


    “ กันก็รู้ว่าพี่ไม่เคยขู่และหน้าด้านมาก ” ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนคนตัวเล็กกว่าต้องถอยออกห่าง


    “ กันไม่ได้เจอพี่นานจนลืมไปแล้วว่าพี่หน้าหนา ” กันจิกกัดก่อนจะยอมขึ้นรถตู้ไปแต่โดยดี


    “ ก็แค่นี้ ทำไมต้องให้งัดไม้ตายมาปราบทุกที ” โตโน่บ่นพึมพำก่อนจะเข้าไปในรถอีกคนและปิดประตูลงกลอนอย่างดี


    “ มีอะไรก็ว่ามา อยู่บนรถที่ไม่ได้เปิดแอร์นานๆเดี๋ยวได้ขาดใจตายพอดี ”


    “ กันไม่ขาดใจตายง่ายๆหรอก ช่วงนี้อกใหญ่ขึ้น ”


    “ พี่โน่!! ” กันขึ้นเสียงด้วยใบหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าโกรธหรืออายกันแน่


    “ เอามือมาดูสิ ” โตโน่เปลี่ยนเรื่องกะทันหันทำให้กันงุนงงไปพักหนึ่ง


    “ พี่บอกให้ส่งมือมา ” พอร่างสูงย้ำอีกครั้ง กันก็ยอมยื่นมือทั้งสองข้างออกมาให้อีกฝ่ายดู


    “ มันแค่แดงเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรเลย พี่ไม่ต้องห่วงหรอก ”


    “ ไม่ห่วงได้ยังไง กันทั้งคนนะ ” คนอายุมากกว่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นพร้อมทั้งหยิบยามาทาและนวดไปตามมือของกันเบาๆ การกระทำของเขาเรียกริ้วสีแดงบนใบหน้าหวานของคนอายุน้อยกว่าได้อย่างดี


    “ พี่โน่...คือ... ”


    “ เคยบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าเวลาเล่นกีฬาพวกนี้ให้ใส่ถุงมือไว้บ้าง มันจะได้ลดอาการพองที่เกิดจากการเสียดสี ดูสิมือนุ่มๆแดงไปหมดเลย ”


    “ มันจะดีนะถ้าพี่ไม่บ่นเนี่ย! ” กันหมดอารมณ์เขินทันทีที่โดนบ่น


    “ ถ้าไม่บ่นและเอาแต่ตามใจ กันก็จะเหลิง พี่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องเล่นซนหรือดื้อนะ พี่หมายถึงทุกเรื่องเลย หากวันไหนมีคนมาฟ้องว่ากันเอาแต่ใจมากเกินไป พี่จะจัดให้หนักเลยคอยดู ” โตโน่สบตาเจ้าตัวดื้อของเขาด้วยแววตาจริงจัง  


    “ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เอาแต่ใจขนาดนั้นแล้วนะ! ” กันเถียงพลางคาดโทษคนที่คาบเอาเรื่องของเขาไปฟ้องโตโน่ภายในใจ


    “ ก็ดีแล้ว แล้วก้นเป็นไงบ้าง เจ็บไหม เอามาให้พี่ดูสิ ” โตโน่ถามหลังจากนวดมือให้คนสำคัญเสร็จเรียบร้อย


    “ พี่จะบ้าเหรอ ใครเขาจะให้ดูกัน!


    “ อายทำไม ทำอย่างกับว่าพี่ไม่เคยเห็นก้นกันงั้นแหละ ”


    “ กันไม่ได้หน้าด้านแบบพี่นะที่จะมาถอดโชว์ในที่แบบนี้น่ะ!! แล้วก้นกันก็ไม่ได้เป็นอะไรด้วย ไม่ได้ลงแรงขนาดนั้น ไม่ได้หัวทิ่มหัวตำแบบพี่ด้วย!


    “ แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร ”


    “ เออ! แล้วพี่เป็นไงบ้าง ล้มแรงกว่ากันอีกนะ เจ็บตรงไหนไหม ” กันถามขึ้นหลังจากนึกได้ว่าคนตรงหน้าก็ล้มไม่ต่างจากเขา


    “ ไม่เจ็บหรอก พี่เป็นนักมวยนะ ล้มแค่นี้ทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก ”


    “ แต่พี่ก็น่าจะทายาบ้างนะ ”


    “ ไม่ได้เป็นอะไรหรอกน่า ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ยังอยู่ง้อแฟนของพี่ได้อีกนาน ” โตโน่ยิ้มหวานให้กัน เล่นเอาเจ้าตัวแสบหน้าแดงด้วยความเขินอีกรอบ


    “ พี่ไปกินทองหยอดมาเหรอ ทำไมหยอดได้หยอดดีขนาดนี้ ” กันถามกลบความเขิน


    “ ไม่ได้กินทองหยอดแต่กินขนมจีบมา ” โตโน่ตั้งใจจะหยอดอีกรอบแต่คราวนี้ดูจะผิดคาดไปนิดเพราะกันหันมามองเขาตาเขียวเลย ร่างสูงจึงต้องหุบยิ้มทันควัน


    “ งั้นก็ไปจีบคู่จิ้นคนใหม่ของพี่เลยไป ไม่ต้องมายุ่งกับกัน! ” กันลุกขึ้นจะเดินผ่านโตโน่ลงจากรถแต่ก็โดนคนตัวสูงกว่าดันให้กลับไปนั่งเหมือนเดิมแถมคราวนี้ดันขึ้นคร่อมกักตัวเขาไว้กับเก้าอี้อีกด้วย


    “ พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย กับน้องเขามันเป็นเรื่องงาน กันก็รู้นี่ อย่าเอาเรื่องพวกนี้มาทำให้เราผิดใจกันเลยนะ ”


    “ กันรู้ว่ามันเป็นเรื่องงานแต่บางอย่างมันก็มากไปนะพี่โน่ พี่ทำงานจนกันรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญกับพี่เลย มันมากจนกันกลัว กลัวว่ามันจะกลับไปเป็นเหมือนตอนนั้น ” แม้กันจะไม่พูดออกมาว่าตอนนั้นคืออะไรแต่โตโน่ก็รู้ดี มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่สั่นคลอนพวกเขาจนกลายเป็นความทรงจำฝังใจทั้งกันและริท


    “ คิดมากไปแล้วกัน พี่สัญญาแล้วไงว่าจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ดังนั้นเชื่อพี่เถอะว่าประวัติศาสตร์มันจะไม่ซ้ำรอย ตอนนี้คนที่สำคัญสำหรับพี่ที่สุดคือกันและพี่ก็ยังหวังให้มันเป็นแบบนี้ไปจนถึงอนาคต หมดหัวใจของพี่มันมีแค่กันจริงๆนะ ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจังจนคนน้อยใจต้องเสหลบตาและมีท่าทีอ่อนลง


    “ กันเชื่อพี่ได้ใช่ไหม ”

     

    “ กันเชื่อพี่ได้เสมอ ”


    “ กันจะพยายามเชื่อพี่ไปเรื่อยๆแล้วกัน ” ในที่สุดกันก็ยอมเชื่อ มันทำให้โตโน่ยิ้มออกมาได้อีกครั้ง


    “ แล้วสรุปวันนี้เรางอนอะไรพี่ ” โตโน่ย้อนกลับมาถามเรื่องที่คาใจเขาอยู่


    “ ก็พี่ไม่สนใจกันเลยนี่ มางานนี้ก็ไม่บอก มาถึงงานก็ไม่มาหากัน เอาแต่อยู่กับคนอื่น แข่งชักคะเย่อก็ไม่ยอมแพ้กันอีก กันต้องดึงแทบตาย อ่อนให้หน่อยมันจะตายเหรอ ทำไมต้องเอาชนะขนาดนั้นด้วย ทำไมไม่เห็นใจกันบ้าง แล้วแทนที่จะเดินมาดูกันดีๆ พี่กลับส่งไลน์มาเนี่ยนะ! แล้วมาบอกว่าเป็นห่วง คนเป็นห่วงมันต้องมาดูแลสิ ไม่ใช่ส่งไลน์มาถามเฉยๆทั้งที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้!! ”  โตโน่อ้าปากค้างหลังจากนั่งฟังกันสาธยายสาเหตุของอาการงอน พอตั้งสติได้เขาก็เอื้อมมือไปผลักหัวกลมๆเบาๆหนึ่งครั้ง


    “ งอนไร้สาระอีกแล้วไอ้ตัวแสบ ”


    “ ไร้สาระตรงไหน!


    “ ทุกตรงเลย!


    “ พี่โน่! ” กันแหวใส่


    “ กัน ” แต่น้ำเสียงอ่อนโยนของโตโน่ทำให้กันหยุดเหวี่ยง


    “ อะ...อะไร... ”


    “ ที่พี่ไม่บอกว่าพี่จะมางานนี้ก็เพราะว่าพี่อยากเซอร์ไพรส์กัน ที่พี่ไม่เข้ามาทักกันก็เพราะพี่เห็นกันกำลังเล่นสนุกอยู่กับคนอื่น พี่ไม่อยากกวน พี่อยากให้กันได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง นานๆทีเราจะเจอกันพร้อมหน้าแบบนี้ พี่คิดว่ากันคงอยากใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆพี่น้องคนอื่นบ้างเท่านั้น พี่ไม่ขัดเพราะพี่คิดว่ายังไงวันนี้พี่ก็จะกลับบ้านกับกันอยู่แล้ว เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน ” มือหนาลูบแก้มนิ่มเบาๆด้วยความเอ็นดูที่เห็นคนพยศยอมอยู่นิ่งฟังเขาพูดอธิบาย อดภูมิใจไม่ได้ที่กันเริ่มโตขึ้นบ้างแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนกว่าจะได้คุยกันดีๆ เขาต้องใช้กำลังบังคับตลอด


    “ ..... ”


    “ ส่วนเรื่องชักคะเย่อ มันเล่นเป็นทีม กันจะให้พี่ทำยังไง ต่อให้พี่ยอมแพ้กัน คนอื่นก็ไม่ยอมอยู่ดีนั่นแหละ อีกอย่างกันจะภูมิใจเหรอที่ชนะด้วยการยอมแพ้ของคนอื่นไม่ได้มาจากความสามารถของตัวเองน่ะฮะ ” โตโน่บีบปลายจมูกโด่งของกันด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะโน้มลงมาจูบเบาๆบนริมฝีปากบาง


    “ รู้แล้วน่า ก็แค่ล้อเล่นเฉยๆเท่านั้นเอง ” กันเบือนหน้าไปทางอื่น ไม่กล้าสบตาคนตัวโตกว่า ไม่รู้ทำไมวันนี้อีกฝ่ายถึงดูหวานแปลกๆ ทั้งการกระทำและคำพูด หวานจนเขาร้อนไปหมดทั้งหน้าแล้ว


    “ หึ แล้วตกลงหายงอนพี่หรือยัง ”


    “ ทำไม ขี้เกียจง้อแล้วเหรอ เบื่อแล้วใช่ไหม ” กันกลับมาทำหน้างออีกครั้งจนได้


    “ ไม่ใช่ พี่ไม่เคยเบื่อกันเลย พี่ง้อกันได้ตลอดเวลาอยู่แล้วแต่มันต้องขึ้นอยู่กับว่าเรื่องที่งอนมันสมเหตุสมผลหรือเปล่า แล้วเรื่องวันนี้พี่ว่าพี่ไม่ได้ทำอะไรผิดมาก ที่สำคัญกันเองก็ไม่ได้สนใจพี่เท่าไรนี่ พี่เห็นกันเอาแต่เล่นกับคนนั้นคนนี้จนพี่แทบเข้าหากันไม่ได้เลย ” โตโน่บ่นคืนบ้าง


    “ กันเล่นกับคนอื่นเพราะพี่ไม่มาเล่นกับกันไง!


    “ โอเคๆ พี่ผิดก็ได้ หายงอนได้หรือยัง พี่ยอมรับผิดแล้วนี่ไง ”


    “ พี่จำใจรับผิดเพราะอยากให้กันหายงอนต่างหาก พี่ไม่จริงใจ! ” เจ้าตัวแสบหน้ามุ่ยหนักกว่าเดิม


    “ กัน....เยอะไปแล้วนะ -_-


    “ เออๆ หายงอนแล้ว ลุกออกไปสักทีสิ คร่อมอยู่ได้ ท่านี้มันล่อแหลมไม่รู้หรือไง ”


    “ แค่นี้ไม่ล่อแหลมหรอก มันต้องแบบนี้ต่างหาก ”

     


    เมื่อพูดจบร่างสูงก็โน้มใบหน้าลงซุกไซ้ซอกคอสวยของเด็กในปกครองทันที กันพยายามผลักคนฉวยโอกาสออกแต่แรงที่มีน้อยนิดของตัวเองช่างไม่เป็นใจ ไม่ว่าจะดันเท่าไรอีกฝ่ายก็ไม่ขยับเลย มือหนาเริ่มลูบคลำไปตามร่างกายของคนอายุน้อยกว่า นั่นทำให้กันยิ่งดิ้นมากขึ้นไปอีก


     

    “ หยุดนะพี่โน่! ไม่เอาที่นี่นะ! เดี๋ยวมีคนมาเห็น หยุดสิ!!


    “ อยากให้พี่หยุดก็สัญญามาก่อนสิว่าจะไม่งอนพี่แล้ว ” โตโน่กระซิบข้างใบหูก่อนจะกดริมฝีปากลงบนแก้มชื้นเหงื่อเบาๆ เขาขยับตัวนั่งท่าเดิมแต่ก็ไม่ลืมที่จะดึงเจ้าตัวดื้อให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด  


    “ ก็ไม่งอนแล้วไง หายงอนแล้ว ปล่อยสิ~~~ ” กันพยายามจะผละออกอีกรอบแต่โตโน่กลับยิ่งกอดแน่นขึ้น


    “ กัน ” จู่ๆคนตัวสูงกว่าก็ทำน้ำเสียงจริงจัง ทำให้กันหยุดดิ้นและขยับออกมามองสบตาคนเรียกซึ่งร่างสูงก็ยอมคลายอ้อมแขนออกแต่โดยดี


    “ เรียกทำไม ”


    “ พี่น่ะ ง้อกันได้ตลอดนะ ถึงบางครั้งจะเมินเฉยไม่ยอมง้อแต่พี่ก็แคร์กันนะ พี่แค่คิดว่าถ้าพี่ยอมง้อกันตลอดเวลา มันจะทำให้กันเคยตัวและเอาแต่ใจมากขึ้น พี่ไม่กลัวว่ากันจะงอแงใส่พี่หรอกแต่พี่กลัวว่ากันจะเผลอทำแบบนั้นกับคนอื่น ถ้าคนนั้นทนได้แบบพี่ก็ดีไป แต่ถ้าเขาทนไม่ได้ขึ้นมา เขาจะมองกันไม่ดีนะ ”


    “ ..... ”


    “ พี่รักกัน พี่ก็อยากให้ทุกคนรักกันเหมือนที่พี่รัก อย่างอนมาก อย่าเอาแต่ใจเยอะ ต้องพยายามใจเย็นและมีเหตุผลรู้ไหม พี่อยู่กับกันตลอดเวลาไม่ได้แต่พี่พร้อมจะรับฟังกันเสมอ เพราะฉะนั้นถ้าไม่พอใจอะไร กันเก็บเอาไว้ในใจแล้วมาระบายให้พี่ฟังแทนก็ได้ มางอนพี่แทน ให้พี่ง้อกันเองนะ ”


    “ พี่จะง้อทุกเรื่อง? ”


    “ เปล่า พี่จะง้อเป็นบางเรื่องเหมือนเดิมนั่นแหละ ” โตโน่ปฏิเสธทันควัน ทำให้กันตั้งท่าจะท้วงติง


    “ พี่มัน.... ”


    “ แต่จะฟังกันระบาย พี่จะหาทางทำให้กันอารมณ์ดีขึ้น แล้วพี่ก็จะสอนกันจนกว่ากันจะเข้าใจเหตุผลของเรื่องราวต่างๆที่มันเกิดขึ้น ”


    “ ..... ”  


    “ การที่พี่ไม่ง้อ มันไม่ใช่ว่าพี่ไม่รักกัน แต่เพราะว่าพี่รัก พี่ถึงต้องแข็งกับกันบ้าง แต่ขอให้กันเชื่อเถอะว่าพี่จะอยู่เคียงข้างกันไม่ไปไหน ” นิ้วเรียวไล้ไปตามผิวแก้มนุ่มก่อนจะรั้งอีกคนมากอดอีกครั้งโดยมีกันกอดตอบรอบเอวสอบ


    “ พูดแล้วนะ ห้ามผิดคำพูดด้วย ” กันพูดเสียงกระเง้ากระงอดอยู่บนไหล่แกร่งทำให้โตโน่อมยิ้มก่อนจะตอบยืนยัน


    “ แน่นอนอยู่แล้ว ”


    “ กันจะพยายามงอนคนอื่นให้น้อยลงแต่จะมางี่เง่าใส่พี่ให้บ่อยขึ้นแล้วกัน ” คำพูดของกันทำให้โตโน่ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะส่ายหัวน้อยๆอย่างอ่อนใจ


    “ ลดลงบ้างก็ดี แต่ถ้าเลิกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ”


    “ งั้นกันจะงอนแบบมีเหตุผลแล้วกัน จะพยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาอ้าง ”


    “ กัน.... ” โตโน่กดเสียงต่ำพลางมองหน้าเจ้าตัวดีด้วยสายตาดุๆ


    “ ล้อเล่นน่า~~ กันจะพยายามมีเหตุผลให้มากขึ้น จะงอนให้น้อยลง โอเคไหม ”


    “ พี่จะรอดู ” ร่างสูงยกยิ้มเจ้าเล่ห์


    “ คอยจับตาดูดีๆก็แล้วกัน ” กันเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจว่าตัวเองจะทำตามคำพูดได้แน่นอน มันทำให้โตโน่หมั่นเขี้ยว เขาคว้าต้นคอของอีกฝ่ายและดึงให้เข้ามาใกล้


    “ อื้อ~~~~


     

                    ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนริมฝีปากบางโดยที่คนโดนกระทำไม่ทันได้ตั้งตัว แรงต่อต้านเกิดขึ้นครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆจางหายเมื่อเจ้าของริมฝีปากนุ่มเริ่มเคลิบเคลิ้มไปกับจุมพิตหวานที่แสนนุ่มนวลอ่อนโยน เมื่อเห็นว่ากันไม่ขัดขืน ร่างสูงจึงถือโอกาสตักตวงน้ำหวานที่หิวกระหายมาเป็นเวลานานอย่างเต็มที่ มือหนาลูบไล้ไปตามลำตัวก่อนจะสอดเข้าไปภายในเสื้อกีฬาและนั่นทำให้กันต่อต้านอีกครั้ง โตโน่จึงเร่งตักตวงน้ำหวานด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะหลุดออกจากอ้อมแขนจนกระทั่งได้ยินเสียงร้องประท้วงในลำคอของคนที่กำลังต้องการอากาศหายใจ เขาจึงถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย

     


    “ พี่...! ทำบ้าอะไรเนี่ย! กันบอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้! ” กันโวยวายด้วยใบหน้าแดงก่ำและรีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยตามเดิม ดวงตาหวานมองค้อนคนที่กำลังตีหน้าเป็นไม่หยุด


    “ ก็กันอยากน่ารักเอง มันช่วยไม่ได้ อีกอย่างเราอยู่บนรถกันสองคน ใครจะมาเห็นล่ะ ”


    “ ก็คนที่เอะใจว่าเราหายไปไหนไงที่จะมาเห็น ”


    “ ใครจะหาเราเจอ พี่ไม่ได้บอกใครสักหน่อยว่าจะมาที่รถ ซ้ำกุญแจรถพี่ก็แอบหยิบมา ไม่มีใครรู้หรอกน่า ”


    “ ไม่เอา ต่อให้ไม่มีใครมาเห็นก็ห้ามทำที่นี่!


    “ ไม่ให้ทำที่นี่ งั้นทำที่บ้านได้สินะ ” โตโน่มองกันด้วยสายตาแพรวพราวจนกันด่าไม่ออก


    “ ไอ้พี่บ้า! ” ค้นหาเสียงตัวเองมาได้แค่นี้แหละ  


    “ แฟนครับไม่ใช่พี่ แล้วก็เป็นแฟนที่อยากเลื่อนขั้นเป็นสามีแล้วด้วย ”


    “ ฝันไปก่อนเถอะ ” กันดันโตโน่ให้หลบจนพ้นทางก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป


    “ กัน~~ ” โตโน่ร้องเรียก กันหันหลังกลับมามองคนตัวสูงในรถก่อนจะยกยิ้มกวนๆและเอ่ยออกมาไม่เบานัก


    “ จนกว่าสีกันจะชนะเกม ”


     

    เมื่อพูดจบกันก็เดินหนีทันทีด้วยใบหน้าร้อนจนกลัวว่าจะระเบิด ทำให้เขาไม่ทันเห็นรอยยิ้มกว้างและท่าทางดีใจจนแทบกระโดดตัวลอยของโตโน่ เขาไม่ได้สนใจว่าจะแพ้หรือชนะ เพราะต่อให้กันแพ้ เขาก็บังคับเอาจนได้อยู่ดีนั่นแหละ เปิดทางขนาดนี้อย่าหวังว่าจะหนีพ้นเงื้อมมือปีศาจอย่างเขาไปได้เลย มือหนาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะพิมพ์ข้อความลงไปในไลน์แล้วกดส่งอย่างรวดเร็ว

     


                    เสียงไลน์ที่ดังขึ้นทำให้กันหยุดเดินและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดอ่าน ข้อความสั้นๆไม่กี่คำทำให้หัวใจของเขาพองโต


     

    [ พี่รักกันนะ ]


     

    ร่างบางหันกลับไปยังทิศทางของรถตู้แล้วจึงเห็นว่าโตโน่กำลังมองมาที่เขาและส่งยิ้มกว้างที่สัมผัสได้ถึงความสุขเต็มเปี่ยมมาให้ กันก้มหน้าก้มตาส่งข้อความตอบกลับก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองโตโน่ที่กำลังอ่านข้อความที่เขาส่งไปจากนั้นอีกฝ่ายจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทั้งสองคนอยู่นานก่อนที่กันจะเป็นฝ่ายถอนสายตาและหมุนตัวเดินกลับไปทางเดิม โตโน่เองก็ลงจากรถและเดินตามกันไป...โดยที่รอยยิ้มยังคงไม่เลือนหายไปจากใบหน้าของทั้งสองคน

     


    [ กันก็รักพี่โน่นะ ]   


     

    The End

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×