ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF: Yaoi The Star) Sassy Love (โน่กัน / อสรพิษ)

    ลำดับตอนที่ #40 : เรา [อสรพิษ] 4/5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 296
      2
      25 พ.ค. 60

    Chapter 4

     

     

    ...เจ็บปวดมายังไง ไม่เคยจะท้อใจ
    จะเป็นหรือตาย หัวใจยังอยู่
    ...จะถูกใครรังแก ก็ไม่เคยท้อแท้
    จะเดินเรื่อยไป เพราะใจต่างรู้


     

    อุเอโนะ พาร์ค โตเกียว

     

     

    “ ที่อยู่ตรงหน้าเราตอนนี้คือวัดเบนเทนโดะครับ ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะอุเอโนะ จริงๆรอบบริเวณมีวัดเยอะครับแต่ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นมักจะมาขอพรให้มีโชคในด้านต่างๆที่นี่ครับ เพราะที่นี่มีศาลเจ้าของเทพเจ้าแห่งความโชคดีอยู่ครับ ด้านหน้าทางเข้าจะมีบ่อน้ำเพื่อให้เราชำระล้างร่างกายให้สะอาดแต่ไม่ได้ให้อาบน้ำนะครับ แค่ล้างมือล้างปากก็พอครับ ” เสียงใสๆของริทอธิบายเจื้อยแจ้ว

     

    “ วันนี้เราจะยกขบวนมาขอพรกันครับ ปกติที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องชมดอกซากุระมากแต่ว่าตอนนี้กำลังจะเข้าหน้าหนาว ดอกก็ร่วงโรยกันไปบ้างแล้ว ” โดยมีไอซ์คอยเสริมและแพลนกล้องไปรอบๆ

     

    “ เป็นทริปกะทันหัน ไม่ได้กะเวลาอะไรเลย ฮ่าๆๆ  แล้วนี่พี่โน่กับกันไปไหน เราจะเข้าไปด้านในแล้วนะ ” ริทกับไอซ์ชะเง้อมองหากันกับโตโน่

     

    “ นั่นไงพี่ริท! ” ไอซ์ชี้นิ้วไปทางต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งพอริทหันไปมองก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตะลึง

     

    “ นั่นมันอะไรกัน... ”


    “ ไปดูกันเถอะ ” แล้วไอซ์ก็ลากริทตรงไปหากันกับโตโน่

     

    “ พี่โน่ยืนดีๆสิ เดี๋ยวกันตก!

     

    “ กันก็ลงมาดีๆสิมันจะได้ไม่ตก!

     

    “ ลงไปก็ถ่ายนกบนยอดไม้ไม่เห็นน่ะสิ มุมนี้กำลังแสงสวยเลยนะพี่โน่ ” กันพูดพลางกดชัตเตอร์รัวๆ

     

    “ แต่ถ้ามันถ่ายยากจนถึงขนาดที่ต้องขี่คอพี่แบบนี้ กันก็ช่างมันเถอะ! ” โตโน่บ่น ก็จะไม่ให้บ่นได้ยังไงในเมื่อตอนนี้ไอ้ช่างภาพตัวดีมันขี่คอเขาถ่ายรูปอยู่เนี่ย!!

     

    “ พี่ว่ามันแต่พี่ก็ยอมให้มันขี่คอเนี่ยนะ ” ริทพูดพลางเอื้อมมือไปช่วยไอซ์จับโตโน่เพราะกลัวพี่ชายเซหงายหลังแล้วไอ้สิ่งมีชีวิตตัวแสบด้านบนจะร่วงลงมาคอหักตายซะก่อน

     

    “ ไม่อยากให้มันงอน ขี้เกียจง้อ ” คำตอบของโตโน่ทำให้ข้อสงสัยทั้งหมดจางหาย ใครๆก็รู้ว่ากันขี้งอน ถ้าเลี่ยงทำให้งอนได้ก็ควรเลี่ยง ก็คงจะมีแต่โตโน่คนเดียวที่ชอบแกล้งจนงอนนั่นแหละ

     

    “ ลงมาได้แล้วกัน ไม่งั้นริทจะโยนกันทิ้ง ” ริทจับหมับเข้าที่ข้อเท้ากันทั้งสองข้าง

     

    “ จุ๊ๆ ริทไม่กล้าหรอก นี่กันไง~~ ” กันยิ้มทะเล้นใส่เพื่อน

     

    “ เหรอ~ ” ริทยกยิ้มก่อนจะทำท่ายกข้อเท้ากันขึ้น

     

    “ โอ๊ย!!!!!!!!!!!!!!!! ” โตโน่ร้องลั่นตามมาด้วยเสียงกัน

     

    “ เฮ้ยๆๆๆ ริท ไม่เอา ลงแล้วๆๆๆ ” กันรีบบอกเพราะกลัวหงายหลัง มือของเขาจิกเข้าไปในเส้นผมหนาของพี่ชายเต็มแรง นั่นคือสาเหตุที่โตโน่ร้องลั่น

     

    “ ลงมา! ” ริทสั่งเสียงเข้ม

     

    “ เออๆ ลงแล้วๆ พี่โน่ย่อตัวลงสิ ยืนแบบนี้กันจะลงได้ไง! เร็วๆสิ ”

     

    “ ครับๆ ” โตโน่ย่อตัวลงจนกันสามารถยืนบนพื้นได้สำเร็จ เขาจึงยืดตัวยืนเต็มความสูงได้เหมือนเดิม อาการเมื่อยล้าทำให้ต้องบิดตัวไปมา

     

    “ หลังหักไหมพี่โน่ คอจะหลุดหรือเปล่า แบกฮิปโปทั้งตัวเลย ” ไอซ์พูดพลางดูต้นคอให้พี่ชาย

     

    “ ไอ้ไอซ์!! ” แน่นอนว่ากันไม่พอใจ เขาทำปากยื่นก่อนจะเดินไปควงแขนริทแล้วพากันเดินไปทางอื่น

     

    “ อ้าว ไม่ไปไหว้พระแล้วเหรอพี่ริท ” ไอซ์ตะโกนถาม

     

    “ ไป! ” แล้วริทก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายลากกันไปทางวัดแทน

     

    “ เฮ้อ เหมือนพาเด็กอนุบาลมาทัศนศึกษา ”

     

    “ พี่ก็อย่าตามใจลูกให้มันมากนักสิ ” ไอซ์ตบบ่าพี่ชายปุๆก่อนจะเดินตามริทไป

     

    “ อ้าว ไอ้เด็กเวร -*-

     

     

                    หลังจากพวกเขาไหว้พระขอพรกันเสร็จแล้ว ทั้งสี่คนก็ออกมาเดินเล่นกันด้านนอก ระหว่างทางมีการแสดงเปิดหมวกต่างๆให้ผู้คนเข้ามาชมกันเป็นจำนวนมาก แต่ละชนิดสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ทั้งสี่คนเป็นอย่างมาก จนกระทั่งพวกเขาเดินมาถึงสระน้ำที่มีบริหารเรือถีบและเรือพายลำน้อยให้พายเล่นชมธรรมชาติ แน่นอนว่าดวงตาสามคู่หันมามองพี่ชายตาแป๋ว ไม่บอกก็รู้ว่าต้องการอะไร

     

     

    “ พี่ไม่เล่น ”

     

    “ แต่พวกเราอยากเล่น!

     

    “ เฮ้อ งั้นให้เวลา 15 นาที ไม่ขาดและไม่เกิน ”

     

    “ ก็โอเค ดีกว่าไม่ได้เลย~~~

     

    “ พายเล่นเฉยๆนะ ห้ามไปไกล ห้ามซน ห้ามเล่นอะไรโลดโผนเข้าใจไหม ”

     

    “ รับทราบ!

     

                   

                    แล้วเจ้าสามแสบก็วิ่งไปเช่าเรือ ทีแรกจะเช่าคนละลำแต่เพราะมันมีราคาแพงจึงตัดสินใจเช่าสองลำโดยกันกับริทนั่งเรือพายด้วยกันเพราะตัวพอๆกัน ส่วนไอซ์ตัวโตกว่าจึงขอนั่งคนเดียว ทางด้านโตโน่ก็เลือกทำเลใต้ร่มไม้ต้นหนึ่งนั่งลงมองน้องๆพายเรือเล่นกันและเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติเขาจึงก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือไปพลางๆระหว่างรอ มีบ้างในบางครั้งที่ยกกล้องมาอัดคลิปไว้ลงให้แฟนคลับดู 

     

     

                    ทางด้านสามแสบ หลังจากลงเรือได้ พวกเขาก็พายเล่นชมวิวทิวทัศน์ไปรอบๆแต่ก็รักษาระยะไม่ให้ห่างไกลไปจากบริเวณที่โตโน่นั่งอยู่กันมากนัก กันยกกล้องถ่ายรูปมาถ่ายเก็บบรรยากาศบ้างถ่ายพวกเขาเองบ้าง เสียงเฮฮาดังไม่หยุดจนโตโน่ต้องคอยตะโกนบอกให้เงียบเป็นระยะจนสุดท้ายโตโน่ก็ลดเวลาให้เล่นได้อีกแค่ห้านาทีเท่านั้น

     

     

    “ เห็นไหม ไอซ์เสียงดัง พี่โน่เลยไม่ให้เล่นแล้ว ” กันบ่นอุบ

     

    “ ใช่ เพราะไอซ์คนเดียวเลย ดูสิ ตรงนู้นยังไม่ได้ไปเลย ” ริทชี้นิ้วไปมุมหนึ่งของสระน้ำ

     

    “ อ้าว ไหงโทษไอซ์ล่ะ เราก็เล่นด้วยกันนี่ ”

     

    “ ไอซ์เป็นน้องเล็กไง ”

     

    “ ตรรกะอะไรเนี่ย ”

     

    “ ทำไม ก็พี่จะให้ไอซ์ผิดอะ ไม่ได้เหรอ ” ริทเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามระคนหาเรื่อง

     

    “ ได้ก็ได้ ” ไอซ์ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดจึงตัดบทด้วยการรับผิดไปให้จบๆ

     

    “ ดีมาก ไปถ่ายรูปเล่นตรงกลางสระแล้วขึ้นกันเถอะ ใกล้หมดเวลาแล้ว ” ริทชวนไอซ์ไปกลางสระ เขาหยิบไม้พายจะพายแต่ไอ้คนนั่งด้านหน้ากลับไม่ยอมขยับ

     

    “ ไม่ไปเหรอพี่ริท ”

     

    “ ไปไม่ได้ กันพายสิ!

     

    “ ไม่ กันจะเอาเต่า ” กันพูดพร้อมกับยื่นไม้พายออกห่างจนแทบสุดแขน

     

    “ ห๊ะ? ”

     

    “ เต่ามันตัวใหญ่มากเลยริท กันอยากถ่ายรูปเต่า~~~

     

    “ โอ๊ย เต่าที่ไหนมันก็เหมือนกันนั่นแหละ อยากถ่ายก็ไปถ่ายที่เมืองไทย ไปถ่ายรูปตรงนั้นก่อน ” ริทชี้นิ้วไปกลางสระ

     

    “ พี่โน่ไม่ให้ไปตรงนั้น ”

     

    “ ไปแป๊บเดียวมันไม่เป็นไรหรอกน่า ”

     

    “ พี่โน่บอกว่าไม่ให้ดื้อไงริท ”

     

    “ กันก็กำลังดื้อเหมือนกันนั่นแหละ ที่นี่เขาห้ามจับสัตว์ขึ้นมาเล่นไม่รู้หรือไง ”

     

    “ กันไม่ได้จะเล่น แค่ยืมมาถ่ายรูป ”

     

    “ ยืมก็ไม่ได้ มันเป็นการทำร้ายสัตว์เหมือนกัน ถ้าเกิดถ่ายรูปแล้วสัตว์ตาบอดจะทำไง แล้วถ้าเอามันขึ้นมาจากน้ำแล้วมันตาย กันจะรับผิดชอบไหวเหรอ อย่าดื้อสิ เขาพูดอะไรก็ต้องฟังบ้าง!

     

    “ แต่ถ้าเราไปกลางสระแล้วไม้พายจมน้ำหรือมีคลื่นใต้น้ำด้านล่างจะทำยังไง ตายได้เลยนะริท ริทไปตรงนั้นทั้งที่พี่โน่ห้าม ริทดื้อกว่ากันอีกนะ!

     

    “ ริทไม่ได้ดื้อ ของริทพี่โน่ห้ามแต่ของกันรัฐบาลห้าม กันเรื่องใหญ่กว่า เพราะฉะนั้นกันดื้อกว่าริท ”

     

    “ ไม่ ริทดื้อกว่า ”

     

    “ กันนั่นแหละดื้อกว่า ”

     

    “ เอ่อ พี่ๆ.... ” ไอซ์พยายามห้าม

     

    “ อย่าเถียงริทสิ ใกล้หมดเวลาแล้วนะกัน มัวแต่เถียงกันแล้วเมื่อไรจะได้ถ่ายรูป ” แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครฟัง

     

    “ ริทก็ช่วยกันจับเต่ามาถ่ายรูปสิ ดูนั่นมันว่ายหนีไปไกลแล้วเห็นไหม รีบตามไปเร็ว ” กันหยิบไม้พายตั้งท่าจะพายเรือตามเต่าไป

     

    “ ไม่ ริทจะไปกลางสระ เวลามีน้อย กันอย่าเยอะได้ป่ะ ” ริทพูดพลางจ้วงไม้พายจะพาไปอีกทางแต่กันไม่ยอม

     

    “ ริทนั่นแหละเยอะ กันบอกว่าจะไปทางนี้ก็คือทางนี้สิ!

     

    “ ก็ริทจะไปทางนั้น! ” ริทก็ไม่ยอมเหมือนกัน

    “ กันจะไปทางนี้!

     

    “ ไม่เอา เอาทางนั้น!

     

    “ ทางนี้ดีกว่า! เอาไม้พายมาเลย กันพายเอง! ” แล้วกันก็โผไปแย่งไม้พายจากริทแต่ริทยื้อไว้ไม่ยอมให้

     

    “ ไม่ให้ ริทจะพายเอง กันห้ามพาย!

     

    “ พวกนายตีกันอีกแล้วเหรอ กัน! ริท! ” โตโน่ตะโกนมาจากบนบก

     

    “ บอกให้เอามาไงริท!

     

    “ กันนั่นแหละเอามา!

     

    “ พี่ริท พี่กัน พอเถอะ เราค่อยๆคุยกันก็ได้ ” ไอซ์พยายามห้ามอีกครั้ง

     

    “ กันจะไปหาเต่า!

     

    “ ริทจะไปถ่ายรูป!

     

    “ กัน ริท หยุดนะ! ” โตโน่ยังพยายามตะโกนห้าม เขาไม่ได้รำคาญที่น้องตีกันเพียงอย่างเดียว เขากลัวกันกับริทตกน้ำด้วย เพราะการยื้อยุดของสองแสบทำให้เรือโคลง

     

    “ ไปกลางสระไม่ได้!

     

    “ จับเต่าไม่ได้เหมือนกัน!

     

    “ พี่ๆหยุดเถอะ เราไปตะ...เฮ้ย!!

     

     

    ตู้ม!!!

     

     

    “ ไอซ์!!! ” สามเสียงประสานกันโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นน้องชายคนเล็กเรือล่มตกน้ำเพราะเอี้ยวตัวหลบไม้พายของริทที่ยื้อยุดอยู่กับกันแล้วกันดันปล่อยมือ มันเลยเด้งไปทางไอซ์ที่อยู่ข้างกัน    

     

    “ ซวยแล้ว... ”

     

     

    ................................................................................................................................

     

     

    อะเมะโยโกะ มาร์เก็ต

     

     

    “ พี่โน่~~ ” เสียงใสๆดังขึ้นหลังจากเดินตามแผ่นหลังของพี่ชายมาพักใหญ่

     

    “ ..... ” แต่เจ้าของชื่อที่กำลังเดินเลือกเสื้อผ้าอยู่ในร้านค้าขนาดใหญ่กลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย

     

    “ พี่โน่คร้าบ~

     

    “ ..... ”

     

    “ พี่โตโน่คร้าบ~~~~~~

     

    “ พี่โน่ พี่กันกับพี่ริทเรียกแน่ะ ” ไอซ์บอกพลางสะกิดพี่ใหญ่ยิกๆ

     

    “ ไอซ์เอาเสื้ออีกตัวไหม พี่ว่าแค่นั้นไม่น่าหายหนาวนะ ” โตโน่พูด ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงแง้วๆของน้องชายตัวแสบอีกสองคน

     

    “ ไม่เป็นไรพี่โน่ ไอซ์ไม่หนาวแล้วจริงๆ ” ไอซ์ตอบกลับ

     

     

    ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ตลาดขึ้นชื่อของอุเอโนะเพื่อมาซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนให้ไอซ์ใหม่ หลังจากตกน้ำแล้วเขาก็ได้เจ้าหน้าที่ของสวนมาช่วยและถูกตำหนิเล็กน้อย พอขอโทษเสร็จจึงรีบเดินออกมาเพื่อหาซื้อเสื้อผ้าให้ไอซ์เปลี่ยนใหม่โดยในระหว่างเดิน โตโน่ก็ลงโทษน้องชายตัวแสบให้ถอดเสื้อมาให้ไอซ์เปลี่ยนคนละชิ้น แต่เพราะขนาดตัวที่แตกต่างกัน ไอซ์จึงสวมได้แค่เสื้อกันหนาวเท่านั้น แน่นอนว่าเจ้าตัวดีอีกสองคนเลยต้องเดินทนหนาวมาตลอดทางและตอนนี้ก็คงได้เวลางอแงแล้วถึงเดินตามพร้อมเสียงเรียกง้องแง้ง

     

     

    “ พี่โน่~~~~ ” ลูกอ้อนเที่ยวใหม่ถูกส่งมาอีกครั้งแต่โตโน่ก็ยังคงทำเป็นไม่สนใจ เขาโกรธที่น้องไม่ฟังคำพูดตัวเองเลยสักนิด

     

    “ พี่โน่ พี่กันกับพี่ริทขอโทษและสำนึกผิดแล้ว พี่ก็หายโกรธเถอะนะ อีกอย่างให้ใส่เสื้อยืดตัวเดียวเดินท่ามกลางอากาศหนาวแบบนี้ ไอซ์กลัวพี่เขาจะเป็นปอดบวมตายไม่ได้กลับบ้านนะพี่ ”

     

    “ ไอซ์! ไม่แช่งสักวันมันจะตายไหม -*- ” กันมองค้อนน้องชาย

     

    “ แล้วคิดบ้างไหมว่าถ้าไอซ์มันจมน้ำตายจะทำยังไง ” โตโน่สวนขึ้นมาพร้อมกับมองหน้ากันกับริทด้วยสายตานิ่งเฉย

     

    “ ไอซ์ว่ายน้ำเป็น ไม่จมหรอกพี่โน่ ” ริทพูดพลางยิ้มเจื่อนๆ

     

    “ ถ้าเกิดตะคริวกินขาล่ะ ”

     

    “ กันลงไปช่วยได้ กันว่ายเป็น ” กันรีบบอก

     

    “ แล้วถ้ากันจมล่ะ ”

     

    “ ริทก็ลงไปช่วย ”

     

    “ แล้วริทจะหิ้วขึ้นมาสองคนไหวเหรอ ช่วยทีละคนไม่ได้นะ ” โตโน่พูดทำให้น้องๆนิ่งคิด

     

    “ นั่นสิ ” ก่อนจะประสานเสียงตอบออกมาอย่างจ๋อยๆ

     

    “ พี่เคยบอกตั้งหลายรอบแล้ว อะไรที่มันอันตรายก็ห้ามประมาท พวกนายไม่เคยฟังพี่เลย ยิ่งห้ามยิ่งทำ ตกลงอายุกี่ขวบแล้ว ไม่ใช่เด็กอนุบาลที่พอพ่อบอกว่าอย่าก็เอานิ้วจิ้มปั๊บนะ อากาศมันเย็น ในน้ำก็เย็น ถ้าเกิดป่วยไข้ขึ้นมาจะทำยังไง นี่ไม่ใช่บ้านเรานะ ทำอะไรก็ระวังกันบ้าง ถ้าพวกนายเป็นอะไรขึ้นมา พี่จะตอบกับพ่อแม่พวกนายยังไง แล้วที่สำคัญ...เราไม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้มากนะ มันเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้ว พี่อยากใช้เวลานี้ให้คุ้มก่อนกลับไปเจอเรื่องหนักๆ ช่วยหยุดก่อเรื่องสักทีเถอะ แค่ที่เจออยู่ทุกวัน พี่ก็เหนื่อยมากแล้ว ” คราวนี้ไม่ใช่แค่กันกับริทที่สลด ไอซ์ก็สลดไปด้วย พวกเขามัวแต่เล่นสนุกและมีพี่ใหญ่คอยแก้ปัญหาคอยปลอบใจจนลืมนึกไปว่าอีกฝ่ายก็มีเรื่องเดือดร้อนใจหอบหิ้วมาจากเมืองไทยเช่นกัน

     

    “ พี่โน่ พวกเราขอโทษ ” ริทพูดพลางยกมือไหว้พี่โดยมีกันกับไอซ์ไหว้ตาม  

     

    “ ช่างมันเถอะ มันผ่านไปแล้ว อย่าซนอีกก็พอ ”

     

    “ ครับ ”

     

    “ แล้วเมื่อกี้จะอ้อนเอาอะไร ” โตโน่ถามริทกับกัน เป็นคำถามที่เปลี่ยนให้หน้าหงอยๆกลายเป็นหน้าบานได้ทันที

     

    “ กันอยากกินไอศกรีม~~

     

    “ ตรงนั้นมีร้านเกม ริทจะเอาเกม~~

     

    “ ไปกินข้าวกันเถอะ ไอซ์เอาเสื้อกันหนาวคืนพี่ชายนายด้วย ” โตโน่บอกหลังจากก้มมองนาฬิกาเสร็จและเดินออกจากร้านทันที

     

    “ อ้าว พี่โน่ คำตอบล่ะ พี่โน่คร้าบ~~~ ” ริทหยิบเสื้อกันหนาวมาสวมก่อนจะรีบวิ่งตามโตโน่กับกันที่วิ่งนำไปก่อนแล้ว

     

    “ พี่โน่ไอศกรีมล่ะ~~~ ” กันคว้าแขนพี่ชายพลางถามด้วยแววตาแป๋วแหวว

     

    “ พี่กัน เสื้อพี่นี่จะให้ทิ้งใช่ไหม ” ไอซ์ถามเมื่อวิ่งมาถึงตัวพี่ชาย

     

    “ ไม่ทิ้ง มันแพงนะไอซ์!

     

    “ ไม่ทิ้งก็ใส่เสื้อ ถ้าไม่ใส่ พี่จะทิ้งกันแทน ” โตโน่พูดเรียบๆ กันรีบคว้าเสื้อกันหนาวมาใส่อย่างรวดเร็ว

     

    “ ใส่แล้ว ไอศกรีมล่ะ~ ” กันถามต่อจนโตโน่นึกสงสัยว่าไอ้เด็กหงอยๆเมื่อกี้มันหายไปไหนแล้ว

     

    “ เกมด้วย!

     

    “ เฮ้อ ไปทานข้าวก่อน ทานเสร็จแล้วจะไปซื้อไอศกรีมหรือซื้อเกมก็แล้วแต่พวกนายเลย!

     

    “ โอเค! งั้นไปกันเลย! ”  กันคว้าแขนริทจะเดินทางหนึ่ง

     

    “ กันรู้เหรอว่าร้านข้าวอยู่ตรงไหน ” ริทถาม

     

    “ ไม่รู้หรอก แต่ตรงนั้นมีคนไง มันก็น่าจะมีร้านข้าว ”

     

    “ นี่มันตลาด มันก็ต้องมีคนอยู่แล้วไหม เดินมั่วๆก็หลงพอดี ริทว่าไปตรงนั้นดีกว่า ” ริทชี้ไปทิศทางตรงข้ามกับที่กันจะไป

     

    “ ริทไม่เชื่อเหรอว่าตรงนั้นมีข้าว ”

     

    “ ตรงนู้นต่างหากที่มีร้านข้าว ”

     

    “ ไม่ ตรงนั้นต่างหาก ”

     

    “ ตรงนู้น ”

     

    “ อะแฮ่ม!! ” โตโน่กระแอมขึ้นมาเมื่อเห็นว่าน้องเริ่มจะตีกันอีกแล้ว

     

    “ กันว่าฝั่งตรงข้ามเราก็น่าสนนะ ริทว่าไหม ” แล้วคนจะโดนดุก็คงรู้ตัวดีจึงรีบเนียนชวนกันไปทางอื่นแทน

     

    “ ริทก็ว่างั้นแหละ คนไม่เยอะเท่าไร น่าจะมีร้านข้าวให้นั่งกินชิลๆ แล้วคงได้ข้าวไวด้วย เราจะได้ไปซื้อของที่เราอยากได้ไง ”

     

    “ ใช่ๆ งั้นไปตรงนั้นดีกว่าเนาะ ”

     

    “ อือ ไปกันเถอะ พี่โน่ ไอซ์ ” ริทหันมาชวนพี่ชายกับน้องชายพลางส่งยิ้มหวานไปด้วย

     

    “ พวกนายนี่มันกวน-จริงๆ ” โตโน่ส่ายหัวก่อนจะเดินนำน้องชายไปตามทิศทางที่ริทกับกันบอก

     

     

                    หลังจากทานข้าวและไปช็อปปิ้งซื้อของฝากรวมไปถึงหามื้อเย็นทานกันที่ย่านชิบุย่าแล้ว  พวกเขาก็กลับมาโรงแรม หลังจากแยกย้ายกันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว กันกับริทก็ลากกระเป๋าเสื้อผ้ามารวมกันที่ห้องพักของโตโน่กับไอซ์เพื่อจัดกระเป๋าเตรียมตัวกลับในวันพรุ่งนี้ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วที่พวกเขาจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้

     

     

    “ ไอซ์ เรียนเป็นยังไงบ้าง ” ริทถามขึ้นในขณะที่กำลังจัดของลงกระเป๋า

    “ ยากแต่ไม่ถึงกลับแย่ เวลาไม่ค่อยจะมี นอนก็ไม่ค่อยได้นอน ใกล้สอบทีนี่เหมือนชีวิตจะดับสิ้น ” ไอซ์ที่กำลังอัพรูปของวันนี้อยู่นั้นวางมือถือลงและเริ่มเม้ากับพี่ๆ

     

    “ มันก็แบบนี้แหละ พยายามหน่อยแล้วกัน พวกพี่เอาใจช่วย ” โตโน่พูดพลางตบบ่าน้องสองสามทีเป็นการให้กำลังใจ

     

    “ ไอซ์ก็คอยเอาใจช่วยพวกพี่เหมือนกันนะ ถึงจะไม่ค่อยมีเวลาแต่พอว่างก็ไปส่องพวกพี่บ่อยๆ ”

     

    “ ส่องด้วยเหรอ ไหนเอามือถือนายมาให้พี่ส่องบ้างเลย ” ริทคว้ามือถือไปจากตักไอซ์

     

    “ เฮ้ย พี่! ไม่ได้นะ เขาห้ามไม่ให้พวกพี่เล่นมือถือ!! ” ไอซ์จะแย่งคืนแต่ริทก็เอี้ยวตัวหลบ

     

    “ ไม่ดูอย่างอื่นหรอกน่า จะดูไอจีไอซ์อย่างเดียว ”

     

    “ แน่นะ ”

     

    “ แน่สิ ในเมื่อเราตัดสินใจจะทิ้งเรื่องพวกนั้นให้เป็นเรื่องของอนาคตและเราตั้งใจจะให้สิ่งดีๆจากที่นี่เยียวยาหัวใจเรา เราก็ต้องโฟกัสที่ที่นี่สิ เพราะฉะนั้นวางใจได้พี่ไม่เข้าไปดูไอจีตัวเองแน่ๆ ”

     

    “ โอเค ” ไอซ์ตอบตกลงและปล่อยให้ริทส่องไอจีของเขาไปโดยมีกันชะโงกหน้ามาดูด้วย

     

    “ แล้วทำไมนายมาโผล่ในทริปนี้ได้ มีเรื่องร้อนใจอะไรหรือเปล่า ” โตโน่ถามหลังจากนึกขึ้นมาได้ว่าสาเหตุที่เกิดทริปนี้เพราะอะไร

     

    “ แฟนคลับเขาโทรไปถามตารางไอซ์ว่าว่างไหม ตอนนั้นกำลังงอนแม่อยู่ก็เลยตอบว่าว่าง จากนั้นก็มาโผล่ในสนามบินแบบที่พี่เห็นนั่นแหละ ”

     

    “ งอนแม่เรื่องอะไรวะ ”

     

    “ ก็แม่ไม่ให้ไอซ์กินขนมตอนดึก ”

     

    “ โว๊ะ! เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ!

     

    “ มันเรื่องใหญ่นะพี่ ถ้าท้องมันหิว มันจะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ”

     

    “ นายก็ดื่มนมแทนไง พวกขนมมันไม่มีประโยชน์ ”

     

    “ นมมันไม่อิ่ม อีกอย่างกลัวสูงนำหน้าพี่ริทกับพี่กันมากเกินไป กลัวพี่เขาเครียด ” จบคำเสื้อตัวหนึ่งก็ลอยมากระทบหน้าไอซ์จังๆ 

     

    “ พี่อยู่เฉยๆยังจะแว้งมากัดอีกนะไอ้งูเห่า เดี๋ยวจะโดนเอาคืนบ้าง ” กันชี้หน้าคาดโทษ ทำให้ไอซ์หัวร่วน

     

    “ ไอซ์ นายฟอลอะไรเยอะแยะตั้งสองพันกว่าคน ” ริทขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

     

    “ ก็ตอนนั้นไอซ์เล่นไม่เป็นไง พอใครแอดมาไอซ์ก็รับหมดเลย ”

     

    “ โห พี่ก็คิดว่าพี่โลว์เทคอยู่คนเดียวนะเนี่ย! ” โตโน่แกล้งพูดตั้งใจจะทับถมน้อง

     

    “ แต่หลังๆไอซ์ไม่ได้รับมั่วแล้วนะ!

     

    “ ใช่ ไอซ์ไม่ได้รับมั่ว ไม่เหมือนบางคนฟอลน้อยก็จริงแต่โลว์เทคหนักมากยังจะไปว่าคนอื่นอีก ” ริทแขวะพี่ชาย

     

    “ อ้าว ย้อนมาหาพี่ซะงั้นเลยนะ ” โตโน่โยนเสื้อใส่ริท ริทคว้าได้ก็ปาคืนพร้อมทำหน้ายู่ยี่

     

    “ เหม็น!

     

    “ ตัวนี้ยังไม่ได้ใส่จะเหม็นได้ยังไง ” โตโน่โวยวายพลางหยิบเสื้อตัวเองมาดมทีละตัว การกระทำนั้นทำให้น้องๆหัวเราะด้วยความชอบใจ

     

    “ แกล้งพี่ๆ เดี๋ยวจะโดนเรียงคิว จัดกระเป๋าไป เดี๋ยวก็นอนดึกหรอก ”

     

     

                    แล้วทั้งห้องก็กลับมาสงบอีกครั้งเมื่อต่างฝ่ายต่างก้มหน้าก้มตาจัดของๆตัวเองลงกระเป๋า อันไหนเก็บไม่ได้ก็ไปฝากกระเป๋าคนอื่นที่ยังพอมีที่ว่างมั่งจนกระทั่งเสร็จไปส่วนหนึ่งเหลือแค่ของที่ต้องใช้ในวันพรุ่งนี้ที่ยังไม่ได้เก็บใส่กระเป๋า กันกับริทลากกระเป๋าไปเก็บที่ห้องก่อนจะกลับมาหาโตโน่กับไอซ์อีกครั้ง ริททิ้งตัวนอนแผ่กับกันบนเตียงหนึ่ง ส่วนไอซ์กับโตโน่ก็จองอีกเตียงหนึ่ง ต่างคนต่างนอนเงียบๆจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ก่อนที่ริทจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาเป็นคนแรก

     

     

    “ พี่โน่ ” ริทลุกขึ้นนั่งจะมองไปยังพี่ชายที่นอนอยู่ฝั่งตรงข้ามบนเตียงอีกเตียง

     

    “ หือ? ” โตโน่ขานรับในลำคอ

     

    “ ขอถามได้ไหม ” แม้คำพูดจะกำกวมแต่โตโน่ก็รู้ดีว่าน้องอยากรู้เรื่องอะไร เขานิ่งไปชั่วอึดใจเพราะลังเล ไม่รู้ว่าควรจะเล่าดีไหม 

     

    “ พี่โน่ พี่เล่าได้นะ ไม่ต้องเก็บเอาไว้ในใจทุกอย่างหรอก เวลาพวกเรามีปัญหา พี่คอยรับฟังเราเสมอ ตอนนี้ปัญหาของพี่ ให้พวกเราช่วยแบ่งเบาได้ไหม ” กันพูดขึ้นหลังจากลุกมานั่งคู่ริทเมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่ยอมตอบอะไร

     

    “ ถึงพวกเราจะช่วยอะไรไม่ได้มากแต่อย่างน้อยพวกเราก็เป็นผู้ฟังที่ดีนะพี่ มันอาจจะเยียวยาไม่ได้มาก แต่การที่ได้พูดสิ่งที่อัดอั้นในใจออกมามันก็ทำให้สบายใจขึ้นได้นะ ” ไอซ์เอ่ยออกมาก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งตามพี่ชายที่ยอมลุกมานั่งคุยกัน แววตาของโตโน่เฉยชาแปรเปลี่ยนไปจากเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง

     

    “ พี่เจอเรื่องร้ายๆมาเยอะจนชินแล้วล่ะ มันทำอะไรพี่ไม่ได้มากกว่านี้หรอก พี่ผิดเองด้วยที่ดึงตัวเองเข้าไปอยู่ในวังวนพวกนั้น ”

     

    “ พี่โน่ ” ไอซ์เอื้อมมือไปบีบไหล่ให้กำลังใจพี่ชาย

     

    “ วันนั้นพี่ไปทำงาน พอเลิกงานก็นั่งทานข้าวกันจนกระทั่งผับปิดสักพัก พี่แยกไปเข้าห้องน้ำและพวกซันไปรอที่รถก่อน เข้าห้องน้ำเสร็จพี่ก็โทรให้พวกนั้นมารับด้านหน้า พี่ออกมายืนรอรถ ตอนนั้นพี่เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังโดนทำร้าย พี่ก็เลยเข้าไปช่วยผู้หญิงคนนั้น ผู้ชายทำร้ายพี่ พี่จึงต้องสู้เพื่อป้องกันตัว แต่พอรถพี่มาจอดผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาผลักพี่ออกและเข้าไปประคองผู้ชายคนนั้นจากนั้นก็พากันหนีไป พี่งงมากแต่ก็ไม่ติดใจอะไรจนกระทั่ง...เป็นข่าว ”

     

    “ แล้วเราตามผู้หญิงในคลิปมายืนยันเหตุการณ์วันนั้นได้ไหม ” ริทถาม

     

    “ บริษัทพยายามตามหาแล้วแต่ก็ไม่พบ ”

     

    “ พบแล้ว ” ไอซ์พูดขึ้นพร้อมกับยกมือถือขึ้นมาโชว์

     

    “ ห๊ะ พบแล้วเหรอ ” กันทำตาโตพลางกระโดดมานั่งข้างไอซ์

     

    “ พี่เมย์เขาส่งไลน์มาบอกไอซ์เมื่อวานแต่ไอซ์เห็นว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร พี่จะไม่สบายใจเปล่าๆก็เลยไม่เล่า ”

     

    “ เอ้า! มันต้องบอกสิไอซ์!

     

    “ ก็เขาไม่ยอมพูดความจริงนี่แถมยังต่อรองว่าจะพูดก็ต่อเมื่อพี่ยอมจ่ายเงินให้เขา 10 ล้าน ”

     

    10 ล้าน!!! ” คราวนี้โตโน่ ริท กันประสานเสียงกันจนไอซ์สะดุ้ง

     

    “ แล้วเขายังบอกด้วยนะว่าถ้าไม่จ่าย เดือนหน้าเขาจะแจ้งความจับพี่ข้อหาทำร้ายร่างกาย ”

     

    “ เลวชิบเลย! ” ริทสบถ

     

    “ นี่มันปล้นกันชัดๆ ” กันทำหน้าบึ้ง โกรธแทนพี่ชาย

     

    “ ช่วยเพราะหวังดีแท้ๆกลับเจอพวกต้มตุ๋นซะงั้น ” ริทมองพี่ชายที่นั่งกุมขมับ เครียดกว่าเดิม

     

    “ พี่เมย์บอกว่าคงต้องภาวนาให้มีคนถ่ายคลิปวันนั้นได้ตั้งแต่ต้นแล้วออกมาแฉ พี่จะพ้นผิดแล้วยังแจ้งความกลับได้ด้วย ”

     

    “ วันนั้นดึกมากนะ มันหาคลิปแก้ต่างเจอยาก ” โตโน่ถอนหายใจ ใบหน้าเครียดและเศร้าหมองมากขึ้นกว่าเดิม

     

    “ พี่โน่ พี่เชื่อในความดีที่เราทำไหม ” จู่ๆริทก็ถามขึ้น โตโน่นิ่งคิดก่อนจะพยักหน้า

     

    “ เชื่อสิ ”

     

    “ ความดีจะปกป้องคุ้มครองพี่ เพราะฉะนั้นค่อยๆคิด ค่อยๆแก้ อย่าเครียด อย่าจมกับมันมาก ริทเชื่อว่าพี่จะผ่านมันไปได้เหมือนที่แล้วๆมา ” ริทเอื้อมมือไปกุมมือพี่ชายเอาไว้

     

    “ แต่คราวนี้มันหนัก ”

     

    “ แต่มันไม่เกินกำลังเรานะพี่โน่ กันเชื่อว่าถ้าเราสู้กับมัน เราจะผ่านมันไปได้ อย่าท้อ อย่าหมดหวังสิ เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในบ้าน พี่ปลอบกันว่าอะไรจำได้ไหม พี่บอกว่ากันจะไม่ได้ออกจากบ้าน กันจะได้ไปต่อเป็นคนสุดท้ายบนเวทีที่กันฝัน วันนี้กันก็อยากจะบอกพี่แบบนั้นเหมือนกัน กันเชื่อว่ามันจะไม่เป็นไร พี่จะผ่านมันไปได้ พี่จะเป็นคนสุดท้ายที่ยืนอยู่บนเวทีแห่งความดี คนชั่วมันต้องแพ้ภัยตัวเองสักวัน ” กันยิ้มให้พี่ชายพลางบีบมือหนาเบาๆอย่างให้กำลังใจ

     

    “ พี่ไม่ต้องห่วงนะพี่โน่ ทุกคนกำลังช่วยพี่ แม้กระทั่งแฟนคลับเองก็พยายามหาทางช่วยพี่อยู่ พวกเราเองก็จะช่วยพี่เหมือนกัน เดี๋ยวเรากลับไปถึงเมืองไทย เราจะตามหาพยานให้พี่ มันต้องมีสิ มันไม่มีทางที่คนดีจะแพ้คนไม่ดีหรอก ” ไอซ์ปลอบพี่ชาย

     

    “ พวกนายมีงานหนักอยู่แล้ว อย่าเอาเรื่องของพี่ไปใส่ใจเลย ”

     

    “ งานเยอะแล้วไง เรามีเวลาช่วยพี่เสมอนั่นแหละ อสรพิษไม่ได้มีไว้แค่ไร้สาระนะ มีสาระเราก็ทำได้ ให้เป็นนักร้องก็ทำได้ ให้เป็นนักแสดงก็ทำได้ ให้เป็นพิธีกรก็ทำได้ ให้เป็นตัวตลกก็ทำได้ แม้แต่ตอนนี้จะต้องเป็นนักสืบก็ทำได้เหมือนกัน ” ริทยิ้มแฉ่ง

     

    “ เราจะไม่ทิ้งกันไงพี่โน่ พวกเราเคยบอกกันไว้ไงว่าตอนที่คนใดคนหนึ่งมีความสุข ตอนนั้นเราไม่ต้องมีอสรพิษก็ได้ แต่ในวันที่ใครคนนั้นไม่มีใคร เราจะมีอสรพิษ เราผ่านความสุขมาด้วยกันมากเท่าไร ในวันที่เราทุกข์ เราก็จะผ่านมันไปด้วยกันเหมือนเดิม ” กันยิ้มให้พี่ชาย

     

    “ ชีวิตพี่ไม่ได้อยู่ตามลำพังนะ พี่ยังมี เรามี อสรพิษอยู่กับพี่เสมอ ” ไอซ์กุมมือทับไปบนมือกันที่วางอยู่บนมือริทกับโตโน่ก่อนหน้านั้นแล้ว

     

    “ พวกนาย... ” โตโน่มองน้องๆด้วยดวงตาเอ่อคลอน้ำตา ความทุกข์มันไม่ได้จางหายแต่รอยยิ้มและกำลังใจจากคนสำคัญมันทำให้เขาอบอุ่นไปทั้งใจ

     

     

    ...น้องชายที่แสนแสบของเขากำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆ...

     

     

    “ แม้ว่าอสรพิษจะไม่เคยอยู่กับไอซ์ในเวลาที่ไอซ์อ่อนแอก็ตามทีเถอะ! ” ไอซ์บ่นอุบ

     

    “ ไอ้ไอซ์!! ” กันแหวใส่น้องชายตัวดี

     

    “ กำลังจะซึ้งแล้วเชียว! ” ริทกลอกตามองบน

     

    “ ไอ้แสบเอ๊ย! ” โตโน่เอื้อมมือไปโยกหัวไอซ์พร้อมกับยิ้มกว้างๆออกมา

     

    “ มีปัญหาก็โทรมา คิดถึงก็มาหา อยากเจอก็นัดมา บอกแล้วไงว่าเวลามีเรื่องไม่สบายใจ พวกเราพร้อมอยู่ข้างๆกันเสมอ ” ริทพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้ไอซ์

     

    “ ขอบใจนะ พี่สบายใจขึ้นบ้างแล้วล่ะ ” โตโน่เอ่ยขึ้น

     

    “ กี่เปอร์เซ็นต์ ” ริทถาม

     

    2368% ” โตโน่ตอบ

     

    “ เลขสวย โอเค ยอมรับได้~~~ ” กันยิ้มหวานก่อนจะหันกลับไปสนใจกล้องถ่ายรูปที่ตัวเองถือติดมือมาด้วย

     

    “ ดึกแล้ว พี่ว่าพวกนายไปนอนเถอะ ” โตโน่บอกเมื่อเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว

     

    “ เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งนอน เรายังไม่ได้ส่งท้ายทริปนี้เลย ” ริทท้วงขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมอง

     

    “ ส่งท้ายอะไร ”

     

    “ เราลงรูปให้แฟนคลับดูแต่เรายังไม่ได้ทำอะไรให้แฟนคลับฟังเลยนะ ”

     

    “ ก็คลิปไงพี่ ” ไอซ์พูดขึ้นเพราะคิดว่าพี่อาจจะลืมไปแล้ว

     

    “ อันนั้นเสียเงินไง ไอ้ที่ไม่เสียเงินเรายังไม่ได้ทำเลย ”

     

    “ ริทหมายถึง...ร้องเพลงเหรอ? ” กันถาม

     

    “ ใช่ เราจะร้องเพลงให้แฟนคลับฟังผ่านไลฟ์~ ” คำพูดของริททำให้ทุกคนนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักตามอย่างเห็นด้วย

     

    “ ไลฟ์ผ่านเฟสไอซ์แล้วกันแต่ไอซ์ต้องลงไอจีบอกแฟนคลับล่วงหน้าสักชั่วโมงนะ ” กันบอกเพราะที่ผ่านมาเวลาไลฟ์ เขาไม่เคยบอก ทำให้แฟนคลับนกหลายคนจนบางครั้งโดนตัดพ้อเล็กๆน้อยๆ

     

    “ งั้นเรามาเลือกเพลงก่อน เร่งมือหน่อยเพราะถ้าไม่คุ้น เราต้องฝึกร้องอีก ” โตโน่เอ่ยขึ้น

     

    “ แฟนคลับน่าจะชินกับการมั่วเนื้อของเราแล้ว ”

     

    “ บางทีเราก็ควรจริงจังบ้างนะ ”

     

     

                    พวกเขาช่วยกันเลือกเพลงและลงตัวที่เพลงหนึ่งของพี่ชายคนโต ทีแรกกะร้องธรรมดาแต่ริทเสนอว่าอยากทำลงแผ่นให้พวกเขาและแฟนคลับเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย ดังนั้นจึงต้องเลือกเพลงของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ พวกเขาใช้เวลาซ้อมอยู่ครู่หนึ่งโดยเปิดดนตรีจากไอแพดก่อนจะเริ่มไลฟ์ให้แฟนคลับได้ชม

     

     

    “ วันนี้พวกเรามีเพลงมาฝาก เป็นเพลงที่พวกเราเลือกแล้วว่าเหมาะสมกับพวกคุณมากที่สุด มันอาจไม่ใช่เพลงที่ดีที่สุดแต่มันสื่อความรู้สึกของพวกเราที่มีต่อพวกคุณได้เป็นอย่างดี เป็นคำๆหนึ่งที่พวกเราอยากบอกกับทุกคนเสมอมา ...ขอบคุณ ”

     

     

    คงมีใครที่ดูแคลนฉัน ว่ามันจะไปได้สักเท่าไร จะดีจะเลวได้สักแค่ไหน เหมือนเป็นได้แค่ตัวปัญหา
    จะมีใครใส่ใจตัวฉัน มีเธอที่ห่วงใยกันเรื่อยมา และเธอคนเดียวที่คอยเยียวยา หัวใจคนที่ไม่รักดี

    ขอบคุณเธอนะที่กล้าจะอดทนรอ ไม่เคยท้อแท้ แม้ฉันไม่เอาไหน
    ขอบคุณเธอนะที่ไม่เคยหมดแรงใจให้กับฉัน

    ขอบคุณเธอนะที่ช่วยคนที่เหลวไหล ด้วยหัวใจดีดีที่ยังอยู่ข้างกัน
    ฉันจะขอตอบแทนรักนั้น ฉันสัญญา จะไม่ให้เธอเสียใจ

    เธอเป็นคนให้โอกาสฉัน เป็นแรงบันดาลใจให้เริ่มใหม่ ลำพังคนเดียวอาจจะไม่ไหว
    ฉันไม่ลืมว่าเป็นเพราะเธอ


    ขอบคุณเธอนะที่กล้าจะอดทนรอ ไม่เคยท้อแท้ แม้ฉันไม่เอาไหน
    ขอบคุณเธอนะที่ไม่เคยหมดแรงใจให้กับฉัน

    ขอบคุณเธอนะที่ช่วยคนที่เหลวไหล ด้วยหัวใจดีดีที่ยังอยู่ข้างกัน
    ฉันจะขอตอบแทนรักนั้น ฉันสัญญา จะไม่ให้เธอเสียใจ
    .

    .

    .
    คำสัญญาจากฉัน.. จะไม่ให้เธอเสียใจ

     

     

    “ ขอบคุณที่ยังรักและรอพวกเรา...รออสรพิษเสมอนะครับ ”

     

     

     

     

    To Be Continue


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×