คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : เรา [อสรพิษ] 1/5
เรา
Chapter 1
...บนโลกแห่งความจริง ทุกสิ่งช่างวุ่นวาย
ชั่วดีวกวนให้ต้องพบเจอ...
...แต่โลกแห่งความจริง ยังมีคนที่เข้าใจ
หยัดยืนก้าวไปด้วยกันเสมอ...
[ คลิปหลุดว่อนเน็ต!!นักร้องขาร็อคเปิดศึกชิงนางหน้าผับเชียงใหม่!!! ]
‘ โคตรเหมือนโตโน่เลย ’
‘ นักร้องนักเลง
ทำไมพวกติ่งถึงยังสนับสนุนมันอีก เอาสมองไปอยู่ที่ไหนหมดวะ ’
‘ เขาบอกว่าผู้หญิงยกมืออ้อนวอนให้เลิกซ้อมแฟนตัวเองไม่หยุดแต่นักร้องแม่งอยากได้ไง
ไม่ยอมปล่อย ซ้อมเขาเละ ระยำ! ’
พรึบ!
“ เลิกอ่านได้แล้วโน่
อ่านไปก็บั่นทอนใจตัวเองเปล่าๆ ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้น เธอเป็น AR ที่คอยดูแลโตโน่ ร่างอวบทรุดกายลงนั่งข้างศิลปินหนุ่มพร้อมกับวางโทรศัพท์มือถือของโตโน่ไว้บนโต๊ะยาวของห้องประชุมซึ่งบัดนี้มีเพียงเธอและศิลปินขวัญใจวัยรุ่นอยู่ตามลำพังเท่านั้น
“ มันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด ”
เสียงทุ้มเล็ดลอดออกมาแผ่วเบาราวคนไร้สิ้นเรี่ยวแรง
“ พี่รู้
ทุกคนในบริษัทต่างก็รู้ว่าโน่ไม่ใช่คนแบบนั้น แต่คลิปมันชัดเจนว่าเป็นโน่จนไม่อาจปฏิเสธได้
เราเองก็ไม่มีหลักฐานแก้ต่าง
แล้วคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเขาก็ย่อมเชื่อตามที่เห็น ผลมันจึงเป็นแบบนี้
นี่พี่ก็พยายามตามหาตัวผู้หญิงในคลิปมายืนยันความบริสุทธิ์ให้เราและสืบหาคนปล่อยคลิปด้วยแต่ติดต่อใครไม่ได้เลย
”
“ แล้วที่บริษัท... ”
“ ทุกคนกำลังปรึกษาหาทางแก้กันอยู่ ระหว่างนี้ก็เลยอยากให้โน่เก็บตัวก่อนเพื่อความปลอดภัยของโน่เอง
”
“ ครับ ” ร่างสูงรับคำอย่างยากลำบาก
รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมาจุกที่ลำคอ
...เขากลัว...กลัวความฝันของทุกคนในวงจะพังลงเพราะตัวเอง...
“ วันนี้กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ
เลิกเปิดโซเชียลซะ เข้าใจไหม ”
“ ครับ ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างเชื่องช้าท่ามกลางสายตาที่มองอย่างเป็นห่วงของทีมงานที่ผ่านไปผ่านมา
ร่างสูงเดินลงมายังชั้นล็อบบี้ของตึก
มองซ้ายมองขวาก็ยังไม่เห็นเพื่อนที่บอกว่าจะมารับเขากลับคอนโด
เพราะวันนี้ไม่ได้นำรถคู่ใจมา
เขาโทรตามก่อนจะได้รับคำตอบว่าให้รอสักครู่เนื่องจากรถติด
ร่างสูงจึงเดินไปยังมุมหนึ่งเพื่อหาที่นั่งแต่ยังไม่ทันนั่ง
เสียงใครหลายคนก็เรียกเขาเอาไว้ เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นแฟนคลับของเขานั่นเอง
ร่างสูงเดินตรงไปหาคนที่กำลังส่งยิ้มมาให้
ขอบตาของเขาร้อนผ่าวขึ้นมากะทันหันและเมื่อเอื้อมแขนโอบกอดแฟนคลับของตัวเองได้
น้ำตาลูกผู้ชายที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็ไหลรินรดบ่าของคนในอ้อมกอด
สัมผัสอุ่นและคำปลอบประโลมที่ส่งผ่านมาให้ทำให้เขายิ่งเสียน้ำตา
“ ร้องออกมาให้พอนะ แล้วอย่าร้องอีก
ทุกคนเชื่อโน่ ทุกคนยังอยู่ตรงนี้ ยังอยู่ข้างโน่เสมอ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน
ไม่เป็นไรนะ ”
“ ขอบคุณครับ ”
ไม่มีคำใดที่จะตอบออกไปได้ดีเท่าคำนี้แล้วจริงๆ
...ในวันที่อ่อนแอ
ขอแค่ใครสักคนที่เชื่อมั่นในตัวเรา เข้าใจเรา เท่านั้นพอ...
หลังจากร้องไห้อยู่พักหนึ่ง
ร่างสูงก็ผละกอดออกและเช็ดน้ำตาก่อนจะส่งยิ้มให้แฟนคลับของตัวเองเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้ว
ไม่ต้องการให้ใครห่วงมากไปกว่านี้ เขาทรุดกายลงนั่งบนที่ว่างแถวนั้นจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายที่ดันมาร้องไห้ต่อหน้าแฟนคลับ
“ เลิกอ่านเถอะโน่ ”
เธอทักขึ้นก่อนจะชำเลืองมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ของศิลปินหนุ่ม
ทีแรกเธอเข้าใจว่าโตโน่กำลังอ่านข่าวของตัวเอง
แต่เมื่อมองดีๆ
สิ่งที่โตโน่กำลังหยุดมองด้วยแววหม่นหมองมันกลับเป็นรูปภาพรูปหนึ่งที่มีแฟนคลับแท็กมาในไอจีของเขา
รูปของผู้ชาย 3 คนที่กำลังยืนกอดกันกลมอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะไล่ดูรูปในไอจีนั้นที่แท็กมาหาไปเรื่อยๆ
ทุกภาพเป็นเรื่องราวตั้งแต่วันแรกที่ ‘อสรพิษ’ ถือกำเนิดไปจนถึงปัจจุบันที่ต่างแยกทางกันเดิน ดวงตากลมมองภาพเหล่านั้นสลับกับศิลปินของเธอที่กำลังยิ้มเศร้าสร้อยอย่างครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่าง...
…………………………………………………………………………………
โรงพยาบาล XYZ
“ อื้อ... ” เสียงครางอือดังขึ้นแผ่วเบา
ก่อนที่เจ้าของดวงตากลมโตจะลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อปรับสภาพสายตาจนชินแสง
เขาก็เห็นเพื่อนหมอยืนยิ้มให้อยู่ข้างเตียง
“ ไง ตื่นได้สักทีนะ ”
ชายหนุ่มพูดพลางส่งแก้วน้ำให้เพื่อนก่อนจะรับคืนมาเมื่อริทดื่มเรียบร้อย
“ ริท...หลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ ”
“ ถ้าเทียบกับอาการโดยรวมก็ถือว่านาน นายเป็นลมหมดสตินานมาก
หลับไป 2
วันเต็มๆ ” ริทยิ้มเจื่อนๆให้เพื่อนก่อนจะเริ่มทบทวนความทรงจำ
...เขากำลังจะกลับบ้าน...แต่ระหว่างทาง...เขาขับรถ...ชน...มอเตอร์ไซค์!!
“ เฮ้ยๆ จะไปไหน ” เพื่อนสนิทรีบห้ามเมื่อเห็นคนตัวเล็กลุกพรวดจากเตียง
“ ไปดูคนไข้ ”
“ เลิกห่วงคนไข้แล้วห่วงตัวเองก่อนเถอะ
คนไข้ของนายถูกส่งให้คนอื่นรักษาแทนหมดแล้วจนกว่านายจะหายเป็นปกติ ”
“ ริทหมายถึงคนไข้ที่ริท...ขับรถชน ”
“ นายมะ... ”
ปัง!!!!
“ นี่ไง!! เขาขับรถชนพ่อหนูจริงๆด้วย!!
เขาทำให้พ่อหนูตาย!! เขาฆ่าพ่อหนู!! ไอ้ฆาตกร!!! ”
ยังไม่ทันที่เพื่อนของเขาจะได้พูดจบประโยค
ประตูห้องพักฟื้นของริทก็ถูกกระแทกเปิดออกอย่างแรง ก่อนที่เด็กผู้หญิงอายุไม่น่าเกิน
12 ปีจะพุ่งพรวดเข้ามาพร้อมผู้ใหญ่อีกสองสามคนและนางพยาบาล
เธอมีน้ำตานองใบหน้าและต่อว่าต่อขานเขาไม่หยุดพลางเข้ามาทุบตีริทจนทุกคนต้องห้ามกันจ้าละหวั่น
เธออาละวาดกรีดร้องอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะหมดสติไป พยาบาลจึงรีบพาเธอออกไปจากห้อง
ญาติของเธอโค้งศีรษะเป็นเชิงขอโทษก่อนจะตามออกไปจนบัดนี้ทั้งห้องเหลือแค่สองคนเช่นเดิม
“ ริท ”
เพื่อนของเขาหันมามองคนบนเตียงที่นั่งอึ้งไม่ไหวติง
จากนั้นน้ำสีใสจึงไหลรินจากดวงตากลมโต
“
ริท...ริท...ริท...ฆ่าคน...ริท...ฆ่า...คนตาย...ฮือ.... ”
“ ไม่นะเว้ย!
ไม่ใช่แบบนั้น! ฟังนะ มันเป็นอุบัติเหตุ นายจำไม่ได้เหรอ
นายยังลงไปช่วยปฐมพยาบาลคุณลุงอยู่เลยริท! ”
“ แล้วทำไมเขาตาย! ” ริทตวัดเสียงถามทั้งน้ำตา
“ เพราะเขาทนพิษบาดแผลไม่ไหว ”
“ มันก็เพราะริทชนไง!! ริทชนเขา เขามีแผล แล้วเขาก็ตายไง ตายเพราะริท!! ได้ยินไหม
เขาตายเพราะริท!! ”
“ ริท!! กูบอกให้มึงฟัง!!
มึงไม่ได้ชนเขา!! มันไม่ใช่ความผิดของมึง!!
เขาขี่รถย้อนศร เขาไม่สวมหมวกกันน็อค เขาขับเร็วและวิ่งเลนขวา!! เขาตกใจรถมึงที่พุ่งมาทางเขาทำให้ต้องหักหลบ รถมันปัดชนเกาะกลางถนน
ร่างของเขาลอยจากรถตกลงมากระแทกพื้น!! ส่วนมึง...เบรกทัน!! มึงเข้าใจไหม?? รถมึงไม่ได้ชนเขาริท!!! มึงโทรหากูให้ช่วยเรียกรถพยาบาล
เสียงมึงสั่น กูรู้มึงกลัวจึงรีบตามไป กูเห็นมึงพยายามยื้อชีวิตเขาแต่พอเขาตาย
มึงก็ช็อกจนเป็นลมและเพิ่งฟื้นนี่ไง!! ”
“ จะ...จริงเหรอ... ”
“ เออ! เลิกโทษตัวเอง
แล้วก็ทำความเข้าใจซะว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ”
“ แต่ริทก็ผิดอยู่ดี ริทไม่มองทางให้ดี
ริทเป็นหมอ กำลังจะเป็นหมอแต่ริทช่วยเขาไม่ได้ ”
“
มึงอาจจะคิดว่าตัวเองผิดมากแต่สำหรับทุกคนที่รู้เรื่องนี้ มึงทำดีที่สุดแล้วริท
แม้แต่ญาติๆเขาก็เข้าใจ ”
“ แต่เด็กคนเมื่อกี้... ”
เขานึกถึงหน้าเด็กคนนั้นก่อนจะเริ่มจำได้ว่าเธอคือ...แฟนคลับของเขาเอง!
“ เด็กคนนั้นเสียแม่ไปตั้งแต่เกิด
เขาอยู่กับพ่อตามลำพัง ตอนนี้เขาไม่มีพ่อแล้ว ต้องไปอยู่กับญาติ
เขาเสียใจมากก็เลยเป็นแบบที่นายเห็น ”
“ .... ” ยิ่งได้ฟัง
ริทยิ่งรู้สึกผิดทวีคูณแต่ไม่อาจบอกเพื่อนสนิทได้
เพราะมีแต่ทำให้เพื่อนกังวลเปล่าๆ
“
ริทสงสารเขาได้นะแต่อย่าให้ความสงสารบั่นทอนจิตใจตัวเองมากเกินไป พักผ่อนซะ
ไว้พรุ่งนี้เราค่อยไปงานศพเขาด้วยกัน ”
หลังจากวันนั้นริทก็เริ่มซึมเศร้าลงทุกวัน
ความคิดของเขาวกวนอยู่แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้จะนอนหลับก็ยังรู้สึกเหมือนภาพของชายคนนั้นยังวนเวียนในสมองจนไม่อาจข่มตาหลับได้
เขาไปร่วมงานศพก็ยังต้องเจอคำด่าทอจากเด็กคนนั้นและสายตาหยามเหยียดจากคนร่วมงานที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางแต่ปิดหูปิดตาตัดสินว่าเขาเป็นฆาตกรไปแล้ว
สำนักข่าวก็เริ่มประโคมข่าวของเขาตีคู่กับข่าวของพี่ชายจนทางโรงพยาบาลให้เขาหยุดพัก
1
สัปดาห์เพราะกลัวเขารักษาผิดพลาดเนื่องจากขาดสมาธิ
นั่นยิ่งสร้างความเสียใจให้ริทเท่าทวีคูณ
แม้ว่าครอบครัวและแฟนคลับจะให้กำลังใจอย่างไร
เขาก็ยังคงรู้สึกไม่ดีเช่นเดิม
แย่จนหลายครั้งเขาต้องแอบมากอดเข่านั่งร้องไห้ภายในห้องนอนตามลำพัง
หลายครั้งที่คิดจะติดต่อไปยังพี่ชายและเพื่อนรักเพื่อหวังว่า อสรพิษจะทำให้ความทุกข์ในใจเบาบางลงอีกนิดแต่พอคิดว่าแต่ละคนก็มีปัญหาหนักหนาและงานเยอะมากพออยู่แล้ว
เขาก็ไม่กล้าโทรไป ได้แต่เก็บความเสียใจไว้กับตัวเอง
“ ริท!! ”
เสียงเรียกทำให้ริทสะดุ้ง
เขาหันมองไปทางประตูห้องทั้งที่ใบหน้ายังนองน้ำตาและพบว่าคนเรียกคือ AR สาวหล่อคนสนิทของเขานั่นเอง
เธอเดินเข้ามาใกล้และยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ริท
ร่างเล็กปาดน้ำตาบนใบหน้าก่อนจะรับมาอย่างงุนงง
“ หมดเวลาร้องไห้แล้ว
นี่คือเวลาของการทำงาน งานด่วนที่ปฏิเสธไม่ได้ด้วย! ”
........................................................................................................
หมู่บ้าน NRG
เสียงประตูของตัวบ้านสีครีมขนาดกลางเปิดออกตามด้วยร่างของหญิงสาวคนหนึ่งก้าวเข้ามาด้านใน
ดวงตาเรียวมองไปรอบๆห้องเพื่อหาเด็กในปกครองก่อนจะพบใครคนนั้นนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นและกำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
เธอถอนหายใจเล็กน้อยพลางส่ายหน้าเบาๆที่เจ้าตัวดีดูเหมือนจะไม่รับรู้การมาของเธอเลยแม้ว่าจะเดินเข้ามาประชิดตัวแล้วก็ตาม
...ถ้าเป็นโจรบุกเข้ามา หมอนี่คงตายไม่รู้ตัว -*-...
“ กัน ”
“ ..... ”
เจ้าของชื่อหันมาสบตาช้าๆโดยไม่พูดอะไร
ทำให้หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของอีกฝ่าย
“ ตัวร้อนนะ จะไปทำงานไหวไหมเนี่ย ”
“ ไหวสิ กันเก่ง ” กันยิ้มบางๆ
“ จ้า~ บอกแล้วว่าช่วงนี้งานเยอะไม่ควรนอนดึกก็ไม่ฟัง
เป็นไงล่ะ...ไข้จัดเต็ม! ”
“ ก็มันนอนไม่หลับนี่ ”
กันพูดเสียงอ่อยก่อนจะลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า
รู้สึกปวดหัวจี๊ดแต่ต้องปกปิดอาการเพื่อไม่ให้โดนดุมากไปกว่านี้และที่สำคัญไม่อยากเสียงานด้วย
“ นอนไม่หลับก็ต้องพยายามนอน ”
“ กันก็อยากนอนแต่มันทำไม่ได้ ” คราวนี้นอกจากน้ำเสียงจะอ่อนลง
แววตาและสีหน้ายังเศร้าหมองอีกด้วย
“..... ”
“ พอหลับตา มันก็มีแค่ภาพเขา
กันไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะลบหน้าเขาออกไปยังไง ”
“ กัน... ” คราวนี้เธอเริ่มเป็นห่วงคนตรงหน้า
จากการตามดูแลมาหลายปีทำให้เธอค่อนข้างรู้จักกันพอสมควรและพอเดาได้ว่า...อาการ ‘อกหักครั้งแรก’ ของศิลปินจอมนอยด์แห่งบ้านดาวมันจะหนักหนาแค่ไหน
ยิ่งรวมกับภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้รอยยิ้มสดใสไม่สวยงามเหมือนก่อน
“ ไปทำงานกันเถอะพี่ สายแล้ว ”
กันปรับอารมณ์พร้อมกับส่งยิ้มน้อยๆให้เออาร์สาวจากนั้นจึงเดินนำออกไปจากบ้าน
หลังจากรถเคลื่อนออกห่างจากตัวบ้าน
กันก็นั่งฟังลิสต์งานของเขาในวันนี้ซึ่งยังคงหนักเช่นเคย งานแรกเป็น Event
จัดกลางแจ้ง
เขาไม่เข้าใจเลยว่าผู้จัดต้องการอะไรจากแสงแดดยามสายเช่นนี้
แล้วเมื่อเสร็จงานนั้นเขาต้องไปยังกองถ่ายละครที่รับเอาไว้ต่อ
ปกติเขาไม่ค่อยรับงานชนกับวันถ่ายละครเท่าไรนัก
แต่เพราะต้องการทำงานให้ลืมความเจ็บปวดในใจจึงรับงานโดยไม่เกี่ยงงอน
โหมงานหนักจนคนรอบข้างเป็นห่วงแต่ด้วยความดื้อเฉพาะตัวทำให้เขาไม่ฟังใคร
การแสดงมินิคอนเสิร์ตท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวและพื้นที่คับแคบจบลงเกือบเที่ยง
เขานัดกองถ่ายไว้ตอนบ่ายโมงจึงต้องรีบทำเวลา
หลังจากโบกมือทักทายและพยายามส่งยิ้มหวานให้แฟนคลับเสร็จเรียบร้อย
เขาก็ปิดหน้าต่างรถและเริ่มลงมือจัดการกับขนมที่ได้รับจากแฟนคลับเพื่อรองท้องไปพลางๆ
กันมาถึงกองถ่ายสายตามคาด เขายกมือไหว้ขอโทษทุกคนก่อนจะเดินไปทางโซนที่จัดไว้สำหรับแต่งตัวนักแสดง
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเข้าไป
สองเท้าก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงที่เล็ดลอดออกมากำลังคุยเรื่องของเขาอยู่
“
มาสายขนาดนี้สงสัยนอนซดน้ำใบบัวบกเพลินมั้งแก ไม่รู้ผู้หญิงมีดีอะไรเปลี่ยนผู้ชายดีๆให้กลายเป็นคนเหลวไหลได้
”
“ แก...เบาๆสิ เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหรอก ”
“ โอ๊ย จะได้ยินอะไรล่ะ
เวลาป่านนี้คุณชายยังไม่โผล่มาเลย ”
“ เขามีงานก่อนหน้านี้ไม่ใช่เหรอ
อาจมีเหตุติดขัดเลยมาสาย ”
“ ให้มันจริงเถอะ
ไม่ใช่ยกเลิกงานนั้นเพราะยังตรอมใจไม่หายหรอกนะ ”
“ ฉันว่าน่าสงสารเขาเหมือนกันนะ เห็นว่าโดนผู้หญิงทิ้งไปคบกับน้องชายร่วมค่ายทำให้จนป่านนี้ยังเข้าหน้ากันไม่ติดเลย
เขาบอกว่าที่รับละครเรื่องนี้ก็เพื่อจะหลบหน้าสองคนนั้น ”
“ ก็น่าหลบหรอก
โดนหักหลังแบบนี้จะทนคบเป็นพี่เป็นน้องกันต่อไปได้ยังไง ”
“ เห็นแบบนี้ฉันนึกถึงโตโน่เลยนะ รายนั้นก็โดนผู้หญิงเทเหมือนกัน
โชคดีที่ลุกขึ้นใหม่ได้ อยากให้กันทำได้แบบนั้นบ้างจัง
ฉันชอบเวลาเขาหัวเราะเล่นมากกว่าเงียบๆหม่นๆแบบนี้ ไม่ชินเลยแก ”
แล้วทั้งสองก็พูดคุยไปเรื่อยเปื่อยแต่คำพูดเก่าๆนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวคนฟัง
กันกำมือแน่น สองขาเปลี่ยนทิศทางจากเดินเข้าไปเป็นเดินห่างออกมา
เขาทิ้งตัวลงนั่งใต้ต้นไม้ สายตากวาดมองไปรอบๆก่อนจะนึกถึงถ้อยคำที่ได้ยิน
เขาขบริมฝีปากแน่นเพื่อสะกดความเสียใจให้กลับเข้าไปด้านใน ไม่อยากอ่อนแอให้ใครเห็น
มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
ในไอจียังคงมีข้อความให้กำลังใจปะปนไปกับการตัดพ้อต่อว่าอย่างต่อเนื่อง
เขาเลือกจะกดเข้าไปในไลน์
ปลายนิ้วเลื่อนไปเรื่อยๆจนเจอกับสิ่งที่กำลังอยู่ในห้วงความคิดของเขา
กันกดเข้าไปในกลุ่มที่มีเพียงแค่สามคนก่อนจะไล่อ่านบทสนทนาที่มีสาระบ้างไร้สาระบ้างแต่มันกลับทำให้กันยิ้มออกมาได้บ้างแต่ยิ้มได้ไม่นานน้ำตาสีใสก็เอ่อล้นไหลริน
หัวทุยซบลงบนเข่าตัวเองก่อนจะสะอื้นไห้ตัวโยนด้วยความคิดถึงคนคุ้นเคยที่เคยเคียงข้างและแน่นอนว่าปฏิกิริยาของเขาอยู่ในสายตาของคนที่มายืนมองด้านหลังนานแล้ว
เธอมองกันสลับกับโทรศัพท์ก่อนจะครุ่นคิดไปถึงสิ่งที่เธอได้รู้มาจากผู้ใหญ่
จากที่คิดว่าไม่น่าสนใจ บัดนี้เธอคงต้องสนใจ ‘โปรเจคพิเศษ’ นั่นเสียแล้ว
...ถ้ารักในรูปแบบหนึ่งมันทำร้ายก็ลองให้รักในอีกรูปแบบหนึ่งช่วยรักษาแล้วกัน...
..................................................................................................
บ้านธนนนท์กิตติยศ
“ ไอซ์!! ” เสียงเรียกคุ้นแสนคุ้นที่ดังจากด้านหลังทำให้คนที่กำลังมุดตู้เย็นสะดุ้งตกใจอย่างแรงจนขนมที่ถือในมือหล่นตุบลงบนพื้น
“ โห่ แม่ ตกใจหมด ”
ไอซ์ลูบหน้าอกตัวเองสามทีเพื่อปลอบใจตัวเองแต่ดูน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
“ ไม่ต้องมาทำเป็นขวัญอ่อน
แอบลงมากินขนมตอนดึกอีกแล้วนะ อ้วนตัวจะแตกแล้ว! ”
“ เขาไม่ได้เรียกอ้วนแม่ เขาเรียกวัยกำลังโต
ผมต้องใช้สมองท่องหนังสือ ถ้าท้องไม่อิ่ม สมองมันไม่แล่น ”
“ ปิดเทอมแล้วไม่ใช่เหรอ ”
“ อ่า...สงสัยยังไม่ชินน่ะแม่
วันนี้เพิ่งสอบเสร็จวันแรกไง มันก็หลงๆลืมๆบ้าง ”
“ ลืมว่าปิดเทอมแล้ว? ”
“ ใช่ๆ ลืมไปด้วยว่าแอบกินขนมตอนกลางคืนแบบช่วงสอบไม่ได้แล้ว
แหะๆ ”
“ ไอ้กะล่อน! กี่ปีๆก็ลื่นเหมือนเดิมเด๊ะ!
”
“ ชาติอสรพิษไม่ทิ้งลายง่ายๆหรอกแม่ ”
“ ไม่ต้องมาพูด ขึ้นไปนอนได้แล้วครับฮิปโป ”
“ แม่! ทำไมแม่ว่าลูกชายสุดหล่อแบบนี้ล่ะ
เสียใจอย่างแรง T^T ”
“ ไม่ต้องมาบีบน้ำตา ขึ้นไปนอนนะลูกรัก
ขนมพวกนี้เอาไว้กินพรุ่งนี้เช้านะจ๊ะ ” ผู้เป็นแม่ชี้ไปยังกองขนมที่หล่นอยู่บนพื้น
“ ถ้ากินพรุ่งนี้ มันจะบูดนะแม่ ”
“ ยังอีก -*- ”
“ ขนมมันจะเสียใจ ค่ำคืนมันนอนอยู่เดียวดาย
เหลียวมองรอบกาย มิวายจะหวาดกลัว ”
“ เกิดทันเพลงนี้เหรอ ”
“ ทันพี่กันร้อง ”
“ เลิกออกนอกเรื่องแล้วขึ้นห้องไปซะ ถ้าลูกไม่นอน
แม่จะเอาขนมไปบริจาคให้หมดเลย ”
“ ถ้าแม่ทำแบบนั้น ผมจะหนีออกจากบ้าน
จะหนีไปเที่ยวไกลๆไม่ให้ใครตามเจอเลย ”
“ ตามสบาย ”
“ แม่!!~~~~~~ T^T
”
“ จะเอาไง ”
“ ไปนอนก็ได้ งอนแล้ว ”
ร่างสูงเดินกลับเข้ามาในห้องนอน
ปากก็บ่นขมุบขมิบไม่หยุดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้าง
มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเข้าไปในไลน์ เขาส่งคำทักทายไปยังกลุ่มแฟนคลับตัวเอง
กะอ้อนเต็มที่ คิดว่าถ้าแฟนคลับช่วยพูด แม่จะใจอ่อนแต่ก็ไม่ได้ผล
ไม่มีใจอ่อนสักนิด! ริมฝีปากเบะออกเล็กน้อย
เตรียมจะวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมแต่เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นเสียก่อน
เขาเปิดข้อความอ่าน มันเป็นข้อความจากพี่สาวคนสนิท
“ ไอซ์นอนรึยัง ”
“ ยังคับ พี่เกดมีไรป่าว ”
“ ช่วงนี้มีโปรแกรมไปไหนป่าว ”
“ ไม่มี ทำไมเหรอ พี่เกดจะชวนเที่ยวเหรอ ผมก็กำลังคิดอยู่ว่าจะหนีแม่ไปเที่ยว
แม่ห้ามกินขนม ใจโหดมาก งอนๆ ”
“ 55555 อาทิตย์หน้าว่าจะชวนไปเที่ยวสักสี่
– ห้าวัน พอว่างไหม ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นนอกจากค่าเที่ยวค่ากิน
”
“ ได้ ยิ่งฟรี ยิ่งได้ 5555555
”
“ โอเค งั้นเจอกันวันจันทร์ตอนแปดโมงครึ่ง ”
“ เร็วจัง วันนี้วันศุกร์แล้วนะ ”
“ เพิ่งหาตั๋วได้น่ะ มันกะทันหัน ”
“ หือ ตั๋ว? เราจะไปไหน ”
“ ญี่ปุ่น!! เตรียมตัวให้พร้อมนะน้องชาย~~ ^O^ ”
“ หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ”
...เขาคิดยังไงชวนไปต่างประเทศเนี่ยยยยยยยยยยยยยย!!!!...
.......................................................................................................................
สนามบินสุวรรณภูมิ
“ เร็วๆสิกัน เดี๋ยวไม่ทัน ” เสียงเออาร์สาวคนสนิทของนักร้องหนุ่มเร่ง
“ โห พี่เมษ์ อีกสองชั่วโมงกว่าเครื่องจะออก
รับงานก็กะทันหันแล้วตัวเองก็เช็คอินไปก่อนไม่รู้จักรอน้องรอนุ่งยังจะบ่นอีก ”
“ ก็ก่อนเช็คอิน กันต้องไปทำอย่างอื่นก่อน
ถ้าชักช้าจะไม่ทันไง ”
“ ทำอะไร ”
“ ตามมาสิ เดี๋ยวก็รู้ ”
กันเดินเข็นรถตามเออาร์สาวไป
ระหว่างทางก็มีแฟนคลับเข้ามาทักทายบ้าง
แม้ว่าเขาจะมีแฟนคลับขาประจำล้อมหน้าล้อมหลังอยู่แล้วแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อคนอื่นที่ต้องการทักทายขวัญใจของตนเองบ้าง
กันยิ้มให้ทุกคนเพราะไม่อยากให้แฟนคลับห่วง เขารู้ดีว่าอาการป่วยทางใจของตัวเองทำให้แฟนคลับกังวลมากแค่ไหน
ในขณะที่เดินเข้าไปใกล้เคาน์เตอร์เช็คอิน
เขาก็ได้ยินเสียงผู้คนกรีดร้องผสมผสานไปกับความวุ่นวายจากการวิ่งของเด็กวัยรุ่นแถวนั้น
หลายคนพูดคุยเสียงดังจนจับใจความไม่ได้
เขาจึงเดาว่าแถวนั้นคงมีดาราหรือนักร้องคนใดคนหนึ่งมา คิ้วเรียวขมวดด้วยความสงสัยเมื่อเข้าไปใกล้กลุ่มคนแล้วพบว่าบางคนเป็นแฟนคลับที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี
แล้วยังไม่ทันจะได้ซักถามตามข้อสงสัย
แฟนคลับของเขาก็ตะโกนขอทางและชี้มาทางที่เขายืนอยู่
ทันใดนั้นกลุ่มคนก็เปิดทางออกด้วยรอยยิ้ม นั่นเองที่ทำให้เขาได้เห็นกลุ่มคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้
ทั้งสามกำลังยืนกอดคอกันและหันมายิ้มกว้างให้เขาพร้อมแขนข้างหนึ่งของพี่ชายที่อ้าออกมาข้างหน้า
“ พี่เมษ์... ” กันหันไปมองเออาร์สาวด้วยความไม่เข้าใจระคนดีใจจนแทบกลั้นน้ำตาไม่ได้
“ งานของกันไง มันเป็นของขวัญพิเศษจากแฟนคลับอสรพิษ
” เธอตอบข้อสงสัยของคนข้างกายด้วยรอยยิ้ม
“ กัน...ได้ไปกับพี่โน่ ริท แล้วก็ไอซ์เหรอ ”
“ ใช่ ไปสิ พวกนั้นรอนานแล้วนะ ”
เธอยิ้มให้กันอีกครั้งก่อนจะดันกันไปด้านหน้า
ดวงตากลมมองไปรอบๆ
เขาเห็นแฟนคลับทุกคนกำลังยิ้มให้ บางคนร้องไห้แต่ก็รู้ว่าเป็นน้ำตาจากความดีใจ
เขาก้มหัวขอบคุณทุกคน จากนั้นจึงหันไปทางเพื่อนของเขา น้ำตาที่กลั้นไว้มานานเอ่อคลอและรินรดสองข้างแก้มทันที
บัดนี้เขาไม่อายที่จะอ่อนแอ เพราะหนทางข้างหน้ามีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะรับทุกสิ่งที่เขาเป็นอยู่ตรงนั้น
“ พี่โน่! ริท! ไอซ์! ” กันวิ่งไปหาพี่ชาย เพื่อนสนิท และ น้องชาย
อย่างรวดเร็ว เขาโผเข้าสู่อ้อมกอดของคนสำคัญเต็มแรงโดยมีอีกสามคนที่เหลือกอดตอบอย่างแนบแน่นเช่นกัน
“ ครบสักทีนะ...อสรพิษ ”
…ได้รู้ว่า ‘เรา’
ไม่อยู่เพียงลำพัง…
To Be Continue
:::Writer Talk:::
กลับมาแล้วววว กลับมาพร้อมอสรพิษที่ทุกคนรอคอย ใครคอยไม่รู้ รู้แต่เราคอย มีใครจะรอคอยเป็นเพื่อนเราไหม 555555
ฟิคตอนนี้จะไม่เน้นจิ้นนะคะ แต่ถ้าคนอ่านอยากจิ้นคู่ไหนก็จิ้นได้ตามสบาย เราจะเน้นอสรพิษมากกว่า
ด้วยความที่ฟังเพลง 'เรา' ที่อสรพิษเคยร้องในคอนเสิร์ตของริทบวกกับอะไรหลายๆอย่างทำให้เราโคตรคิดถึงอสรพิษเลย จนผุดฟิคเรื่องนี้ขึ้นมา T^T มันอาจไม่ได้ดีมากแต่จะพยายามให้เต็มที่นะคะ ติชมเข้ามาได้เสมอ
ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ รักนะจุ๊บๆ ><
ความคิดเห็น