ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF: Yaoi The Star) Sassy Love (โน่กัน / อสรพิษ)

    ลำดับตอนที่ #33 : You're The One [NoGun] 2/3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 402
      4
      1 ก.ย. 59

    >2<

     

     

    “ พี่อยากจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง ”

     

     

                คำพูดของโตโน่เหมือนมีดแหลมที่กรีดลงกลางใจของคนฟัง หยาดน้ำสีใสที่เอ่อคลอมาพักหนึ่งแล้วนั้นเริ่มหลั่งรินลงรดแก้มเนียน ถึงแม้ว่าร่างสูงจะไม่ได้รับปากยอมกลับไปคบหาด้วยแต่การให้โอกาสก็เหมือนการเปิดใจให้อีกฝ่ายอีกครั้ง แล้วคนที่ไม่เคยอยู่ในหัวใจจะเอาอะไรไปสู้กับคนที่ไม่เคยออกไปจากใจของคนที่เรารัก

     

     

    ยังไม่ทันได้เริ่มสู้ คนมาทีหลังอย่างเขาก็แพ้ราบคาบแล้ว

     

     

                โตโน่หันมามองคนข้างกาย ดวงหน้าหล่อเหลาเจื่อนซีดลงเมื่อเห็นดวงหน้าหวานของเด็กน้อยข้างกายเต็มไปด้วยน้ำตาแต่ไม่นานก็อมยิ้มบางๆ มือหนาเอื้อมไปเกลี่ยเช็ดน้ำตาออกจากแก้มเนียนจากนั้นจึงรั้งร่างบอบบางของกันเข้ามาในอ้อมกอด ฝ่ามืออุ่นลูบเรือนผมนุ่มไปมาเพื่อปลอบโยนกัน 

     

     

    “ แต่ว่า...เมื่อคืนจนกระทั่งถึงเดี๋ยวนี้ พี่มาคิดอีกทีแล้วล่ะ โตโน่เอ่ยออกมาอีกครั้ง

     

    .....

     

    พี่คงไม่กลับไปอีกแล้ว ไม่อยากเป็นคนโง่ซ้ำสอง อย่างดีพวกเราก็คงเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น

     

     

                เมื่อเกือบสองปีก่อน โตโน่จับได้ว่าแอมป์คบคนอื่นนอกจากตัวเองซ้ำยังได้รู้ว่าเพราะอีกฝ่ายมีฐานะที่ดีกว่า แอมป์จึงเลือกที่จะไปแทนที่จะมั่นรักต่อเขาเหมือนดั่งที่เคยสัญญา ร่างสูงจึงจำเป็นต้องจบความสัมพันธ์ไว้แค่นั้น ช่วงที่เลิกกัน โตโน่น่าสงสารจนทุกคนต่างอ่อนใจที่จะช่วยเยียวยา กันเองก็สงสารโตโน่แต่ถ้าถามว่ารู้สึกยังไงกับการที่อีกฝ่ายเลิกกับแอมป์ บอกตรงๆว่า...มุมเล็กๆส่วนหนึ่งในใจ...เขาดีใจ

     

     

                ดีใจที่โตโน่เลิกกับแอมป์ เพราะนั่นทำให้เขามีโอกาสที่จะแทนที่แอมป์อีกครั้ง หลังจากที่หวังลมๆแร้งๆมานาน ทุกครั้งที่โตโน่มีแฟน วันเดียวที่กันเฝ้ารอ คือ วันที่ทั้งสองคนเลิกกัน เขารู้ว่ามันเป็นความคิดที่เลวร้ายมากและแน่นอนว่าเขาไม่ใช่นางเอกหรือพระเอกที่ต้องคอยเสียสละตลอดเวลา แต่กันก็ยังไม่เลวร้ายจนถึงขั้นพยายามที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายเลิกคบหากัน เขาทำได้แค่เฝ้าภาวนาให้วันที่ทั้งสองคนเลิกกันมาถึงเร็วๆเท่านั้น

     

     

    กันไม่น่าถามออกมาเลย ทำให้พี่เสียใจอีกแล้ว ขอโทษนะครับ ดวงหน้าหวานเศร้าสร้อยลง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกลับมามีสีหน้าเจ็บปวดอีกแล้ว

     

    จะขอโทษทำไมล่ะ กันไม่ได้ทำผิดสักหน่อย กันไม่เคยทำให้พี่เสียใจหรอกนะ แล้วมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วล่ะ เราไม่ควรมีความลับต่อกัน ต่อให้กันไม่ถาม วันนี้พี่ก็คิดจะเล่าให้ฟังอยู่ดีนั่นแหละ อีกอย่างพี่ไม่ได้เสียใจสักหน่อย แค่รู้สึกสมเพชตัวเองที่ปล่อยให้เขาหลอกมาได้ตั้งนาน

     

    พี่...กลับไปได้นะ...

     

    หือ?

     

    ไม่ต้องห่วงกันหรอก มันอาจจะเจ็บปวด แต่สักวันก็จะทำใจได้ กันอยากเห็นพี่มีความสุขมากกว่า คนรักกันต้องเชื่อใจกันใช่ไหม พี่แอมป์อาจจะอยากกลับมาคบกับพี่จริงๆไม่ใช่มาเพื่อผลประโยชน์ก็ได้ ดังนั้น...ถ้าพี่รักเขา พี่ก็ไม่ควรปล่อยความรักของพี่ไปนะ

     

    กัน...พี่...

     

    กันรับได้จริงๆนะ ถ้าเราจะเลิกกัน... กันระบายรอยยิ้มที่ดูก็รู้ว่าฝืนแค่ไหน

     

    กัน...คือว่า... โตโน่พยายามจะอธิบายแต่กันก็ไม่เว้นช่องไฟให้เขาได้ทำแบบนั้นเลย

     

    วันนี้เรามาเที่ยวทะเลกันนี่นา งั้นมาสนุกให้เต็มที่เลยดีกว่านะ อย่ามาดราม่าตอนนี้เลย เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคักก่อนจะวิ่งลงทะเลโดยไม่เว้นจังหวะให้โตโน่พูดอะไรได้อีก   

     

     

    -_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-

     

     

    ตะวันเริ่มลับขอบฟ้า กันยังคงเล่นน้ำตามลำพัง ผู้คนเริ่มมาที่ชายหาดบ้างแล้วแต่ก็ยังคงดูบางตากว่าวันหยุดหลายเท่าตัวนัก โตโน่นั่งอยู่ริมชายหาดพลางฟังเพลงจากโทรศัพท์ แววตาคมทอดมองไปเบื้องหน้าอย่างไม่รู้ว่าจะจบลงที่ใด เด็กหนุ่มมองอีกฝ่ายอย่างเริ่มขัดใจ เขาชวนเล่นน้ำหลายรอบแล้วแต่โตโน่ก็ผัดอยู่เรื่อยจนตะวันจะตกดินอยู่แล้ว ยังจะเล่นบทบาทเป็นพระเอกมิวสิกวีดีโออยู่อีก!

     

     

    เลิกฟังเพลงได้แล้วครับ เรามาเที่ยวทะเลนะ ไม่ได้มาถ่ายเอ็มวี ลุกขึ้นเลยๆ กันถือวิสาสะถอดหูฟังออกและออกแรงลากคนตัวโตให้ลงไปเล่นน้ำ แต่โตโน่ก็ยังคงขืนตัวไว้

     

    พี่ไม่เล่น กันลงไปเล่นเถอะ การกระทำของกัน ทำให้โตโน่หลุดจากภวังค์

     

    ไม่เอา มาด้วยกันก็ต้องเล่นด้วยกันสิ ไม่งั้นจะมาทะเลทำไม อยู่บ้านนอนฟังเพลงเฉยๆดีกว่ามั้ง

     

    ปล่อยพี่น่า พี่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่นะ แน่ล่ะ...ถ้าไม่คิดอยู่ คิ้วคงไม่พันกันยุ่งเหยิงแบบนี้

     

    เลิกคิดได้แล้ว ไปกันเถอะๆ

     

    ไม่ไป~

     

    ไปเล่นน้ำกัน กันยอมปล่อยแขน แต่ไม่ยอมลดความพยายามที่จะชวนอีกฝ่ายลงน้ำ

     

    “  ไม่! ” เสียงดังชัดถ้อยชัดคำ

     

    ก็ได้!! ตามใจ!! ”

     

     

    กันทำหน้างอง้ำ ก่อนจะวิ่งกลับลงไปในทะเล เกลียวคลื่นซัดสาดเข้ามากระทบเรือนร่างบอบบางเป็นระลอก ริมฝีปากสัมผัสได้ถึงรสชาติเค็มๆของสายน้ำ

     

     

    รสชาติของน้ำทะเลมันเค็มไม่ต่างไปจากน้ำตาสักนิด

     

     

    ดวงตาคู่สวยแดงก่ำทั้งจากหยดน้ำที่กระเซ็น

     

     

    หากแต่ภายในหัวใจ น้ำตากำลังรินเป็นสายด้วยความเจ็บปวด

     

     

    ร่างบางพยายามที่จะสนุกสนานกับการโต้คลื่นแรงๆเผื่อว่ามันจะทำให้เขาลืมความเจ็บปวดที่ได้รับรู้จากคนที่รัก พยายามทำเป็นเมินเฉยต่อคนที่ทำตัวเฉยชาอยู่บนฝั่ง ทั้งที่ปากบอกว่าไม่เป็นไรหากเราจะเลิกกัน แต่เขาไม่มีทางทำอย่างที่พูดได้หรอก แอบรักอีกฝ่ายมาตั้งหลายปี หากต้องเลิกกัน ใครจะทำใจได้ง่ายๆ ทั้งที่อยากฉุดรั้งไม่ให้ไป แต่เขาไม่มีสิทธิที่จะทำแบบนั้นได้ เขาไม่อาจเห็นแก่ตัวรั้งโตโน่ไว้ได้

     

     

    ไม่อยากได้เพียงแค่ร่างกายที่ไร้หัวใจ  

     

     

    ดวงตะวันพ้นขอบฟ้าไปเสียแล้ว แต่ยังคงมีแสงสีทองรำไรอยู่บ้าง ผืนน้ำเปล่งประกายระยิบระยับสวยจับใจ กันขึ้นจากน้ำและนั่งมองพระอาทิตย์ซึ่งกำลังลาลับอยู่บนผ้าปูที่โตโน่หยิบติดมือมาด้วยตั้งแต่ออกจากบ้าน ตอนนี้ไม่รู้ว่าเจ้าของมันหายไปไหน พอเขาขึ้นมานั่งก็ไม่พบโตโน่เสียแล้ว

     

     

    ร่างบางมองหาซ้ายขวาอยู่พักหนึ่ง พอไม่เห็นก็พยายามเลิกสนใจ เขาตั้งมั่นกับตัวเองแล้วว่า...ต่อไปนี้จะไม่เป็นฝ่ายมองหาโตโน่อีก เพราะหากวันใดที่ต้องเลิกรากัน เขาจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดมากนัก หากอยู่ห่างๆ เว้นระยะความใกล้ชิด บางทีหัวใจอาจจะค่อยๆด้านชาจนลืมความรักที่มีต่ออีกฝ่ายไปเอง

     

     

    กันเอนกายลงนอนราบไปกับพื้นทราย มองผืนฟ้ากว้างไกลที่เริ่มเปลี่ยนสีทีละเล็กทีละน้อย จนในที่สุดก็ถูกที่ดำกลืนจนมืดมิด...ไม่สิ...มันยังคงมีแสงสว่างจากดวงดาวสุกสกาวเต็มผืนฟ้า สำหรับกัน...สีดำนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่แสนลึกลับ ชวนให้ค้นหา พอมีดาวประดับบนท้องฟ้าสีดำ มันดูสวยงามเหลือเกิน

     

     

    ครู่ต่อมา กันก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนมานั่งข้างกาย เขาจึงละความสนใจจากท้องฟ้ามายังพื้นที่ด้านข้าง โตโน่กำลังก้มลงมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานในแบบที่กันชอบ ร่างบางขมวดคิ้วพลางยันกายลุกขึ้นนั่ง ระหว่างกลางของพวกเขาถูกขั้นด้วยถุงจากร้านสะดวกซื้อ แต่ก่อนที่กันจะได้พูดอะไร โตโน่ก็โน้มใบหน้าเข้ามาประกบปิดริมฝีปากของเขาเสียก่อน จากนั้นจึงถอนออก

     

     

    ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ อากาศเริ่มเย็นแล้ว อยู่แบบนี้นานๆเดี๋ยวจะไม่สบาย เปลี่ยนเสร็จแล้วค่อยมากินข้าวด้วยกันนะ โตโน่ยิ้มบางๆ

     

    เอ่อ...ครับ กันที่ปรับอารมณ์ไม่ถูกรับคำอย่างงุนงง แล้วเดินไปที่รถเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า

                          

         

                มื้อเย็นแบบเรียบง่ายด้วยข้าวกล่องและน้ำเปล่าถูกวางลงบนผ้าปู มีอาหารทะเลสดๆเพียงแค่สองชนิดคือกุ้งและปลาหมึกเท่านั้น ทั้งคู่ทานไปพลางหยอกเย้ากันไปพลาง สร้างเสียงหัวเราะเป็นระยะ ทำให้บรรยากาศไม่เงียบเหงาและทำลายความอึดอัดที่เกิดจากเหตุการณ์เมื่อสองชั่วโมงกว่าๆนั้นไปหมดสิ้น หลังจากที่จัดการอาหารเบื้องหน้าจนหมด โตโน่ก็นำเศษอาหารใส่ถุงและทิ้งถังขยะซึ่งอยู่ไม่ห่างจากรถมากนัก แล้วกลับมานั่งข้างกันที่กำลังดื่มด่ำไปกับแสงดาวเหมือนเดิม

     

     

    พี่โทรไปคุยกับแอมป์แล้วนะ จู่ๆโตโน่ก็เปิดบทสนทนาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

     

    เอ๋??...งั้นเหรอครับ

     

    หลังจากคุยกับกันจบ พี่คิดว่าดีแล้ว ยังไงพี่ก็ยังยืนยันคำตอบเดิม ค้นยังไงก็เจอเพียงคำตอบเดิมเท่านั้น

     

    .....

     

    พี่คงกลับไปรักเขาไม่ได้อีกแล้ว เราเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้นแหละ พี่ไม่ได้ตื่นเต้นหรือเจ็บปวดเพราะเขาอีกแล้ว เพิ่งมารู้สึกตัวก็ตอนที่ลองค้นหัวใจตัวเองจริงๆนี่แหละนะ ตลอดเวลาพี่เอาแต่จมปลักหลอกตัวเองว่ายังทำใจไม่ได้ ทั้งๆที่พอค้นลงไปดีๆแล้วกลับพบว่า...ความรู้สึกที่ว่ายังทำใจไม่ได้เนี่ย...มันไม่มีจริงสักหน่อย

     

    .....

     

    ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่พี่ทำใจเรื่องแอมป์ได้มากจนลืมทุกความรู้สึกที่เคยมีต่อเขาไปทั้งหมดแบบนี้ มันกลายเป็นความรู้สึกที่เพื่อนมีให้เพื่อนเท่านั้น แม้จะรู้สึกใจหาย แต่พี่ก็ดีใจนะที่ขจัดความรู้สึกแบบนั้นไปได้ มันไม่ควรมีอยู่เลยจริงๆ โดยเฉพาะเวลาที่พี่มีกันอย่างเช่นตอนนี้

     

    เอ๋? กันหันกลับมามองโตโน่อีกครั้ง รู้สึกเหมือนตัวเองหูฝาด

     

    พี่ขอโทษนะกัน พี่ทำให้กันเสียใจมามากเหลือเกิน ต่อไปนี้พี่จะพยายามปรับปรุงตัวเองใหม่ จะเป็นโตโน่คนใหม่ที่ไม่ทำให้คนที่รักพี่เสียใจอีก ตอนนี้พี่อาจจะยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พี่รู้สึกกับกันคืออะไร แต่สักวันพี่เชื่อว่าเราต้องมีความรู้สึกที่ตรงกันได้แน่นอน

     

    .....

     

    อาจจะฟังแล้วดูเห็นแก่ตัว แต่ขอร้องล่ะนะกัน.... ช่วยรอพี่อีกหน่อยได้ไหม พี่อยากเป็นคนที่ดีมากกว่านี้ ให้สมกับความรักของกันที่มีให้พี่ พี่อยากเริ่มต้นความรักของเราใหม่อีกครั้งในวันที่พี่ดีพร้อมจริงๆ ดังนั้นช่วยรอได้ไหม

     

    .....

     

    .....

     

    พี่ไม่กลับไปหาพี่แอมป์จริงๆเหรอ

     

    อือ

     

    ทั้งที่พี่ทำหน้าเศร้าเสมอๆนั่นน่ะเหรอ วันนี้พี่ก็ไม่สนุกเพราะเรื่องพี่แอมป์ไม่ใช่เหรอ พี่แน่ใจเหรอว่าจะขจัดความรู้สึกที่รักเขาไปจนหมดได้น่ะ

     

    แน่ใจสิ วันนี้พี่ไม่ค่อยสนุกเพราะเรื่องของแอมป์ก็จริงแต่ตอนที่ลงเล่นน้ำแล้วพี่ไม่ไป มันไม่ใช่เพราะเรื่องแอมป์หรอกนะ มันเป็นเพราะจู่ๆกันก็พูดทำนองว่าเราจะเลิกกันนั่นแหละ พี่เลยต้องคิดหนักว่าควรทำยังไงดี พี่ยังแก้ปัญหาเรื่องแอมป์ไม่ได้ ยังเป็นคนที่พร้อมสำหรับกันไม่ได้ แต่พี่ก็ไม่อยากเสียกันไป กว่าจะคิดตกตะวันก็เกือบพ้นขอบฟ้าไปแล้ว

     

    สรุปว่ากันผิดเหรอที่ทำให้พี่ไม่มีอารมณ์เล่นน้ำทะเลน่ะ! กันทำหน้าบึ้ง

     

    มันก็ครึ่งต่อครึ่งนั่นแหละ กันก็รู้ว่าพี่ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย โดยเฉพาะเรื่องหัวใจเนี่ย กว่าจะฉลาดต้องให้เกรซตบหัวทิ่มไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง พอกันทิ้งระเบิดไว้โดยไม่ฟังพี่เลย มันทำให้พี่ต้องใช้สมองอย่างหนัก สมองพี่มันก็คิดได้เร็วสุดแค่นั้นแหละ

     

     

    สมองหมีชัดๆ 

     

     

    ชิ...แล้วทำไมพี่ชอบทำหน้าเศร้าเวลาเห็นพี่แอมป์ด้วยล่ะ ทำไมต้องมีพี่เขาในแววตาด้วย มันทำให้กันไม่มั่นใจว่าความรักของเราจะไปรอดเลยสักครั้ง กันยังคงขุดเรื่องเดิมมาพูดได้อย่างต่อเนื่อง

     

    พี่ก็แค่เสียดายเวลาดีๆ แต่ก็ไม่ได้คิดจะกลับไปรักกันนะ มันก็เหมือนเวลาที่กันชอบนักร้องคนหนึ่งมากๆ แล้ววันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกอย่างพลิกจากขาวเป็นดำ กันรู้สึกว่าถูกเขาทรยศแต่ในความโกรธความเกลียด มันก็น่าจะยังมีนี่ ความรู้สึกที่เรียกว่าเสียดายน่ะ แต่ความเสียดายก็ไม่อาจลบความผิดหวังที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น...กันก็ไม่สามารถกลับไปรักนักร้องคนนั้นได้มากเท่าเดิมอีก ความรู้สึกของพี่ตอนนี้มันก็เป็นแบบนั้นแหละ

     

    .....

     

    ส่วนไอ้เรื่องในแววตา ถามจริงเถอะ นายอ่านหนังสือนิยายมากไปหรือเปล่า มันมีด้วยเหรอ แววตาของคนที่มองหน้าเราแล้วมันสะท้อนเป็นภาพของอีกคนน่ะ

     

    ก็........

     

    .....

     

    เออ!! ไม่มีหรอก กันยอมพูดออกมา หลังจากเจอสายตาบีบคั้นของโตโน่

     

    เอ่อ....พี่ขอโทษ... โตโน่พูดเสียงอ่อยเมื่อรู้สึกตัวว่าเขากำลังหาเรื่องกันมากกว่ากำลังปรับความเข้าใจกัน

     

    .....

     

    .....

     

    ตกลงก็ได้

     

    หือ?

     

    อันที่จริงสำหรับกัน พี่ดีพร้อมทุกอย่างนั่นแหละ

     

    แต่พี่อยากดีกว่านี้เพื่อให้กันมั่นใจในความรักของเราสองคน

     

    ถ้าพี่ต้องการแบบนั้นจริงๆกันจะให้โอกาสพี่ปรับปรุงตัวเองอีกนิดแล้วกัน จะยอมรอพี่ต่อไปอีกก็ได้ แต่อย่านานนักนะ

     

    อื้อ แน่นอน!! ”

     

     

    โตโน่ยิ้มกว้างพลางโอบกอดกันเอาไว้อย่างมีความสุข แม้วันนี้ความรักของเขาจะยังลุ่มๆดอนๆ แต่เขาเชื่อว่าสักวัน หัวใจของเขาต้องหยุดอยู่ที่คนในอ้อมกอดคนนี้อย่างแน่นอน

     

     

    -_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-

     

     

    มหาวิทยาลัย

     

     

    ให้ตายเถอะ ไปเที่ยวทะเลสองวันกับอีกหนึ่งคืน กลับมาแทนที่จะเลิกกัน ดันผิดคาดซะงั้น ริทบ่น มือเรียวก็คอยปัดมือไอซ์ออกจากไหล่

     

    ริทนี่ปากเสียจริงๆ อย่างนี้ต้องโดนซ่อมแซมนะ

     

    อื้อ!! ” แล้วริมฝีปากของไอซ์ก็ทาบทับปิดปากริทอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กขัดขืนสุดแรงแต่เมื่อสู้แรงไม่ได้เลยต้องยอมให้อีกฝ่ายตักตวงตามใจชอบ

     

    ไวไฟชะมัดเลย เซนบ่นอย่างเอือมระอา ก่อนจะเมินไปมองทางอื่น ไม่อยากมองเพื่อนตัวเองกอดจูบกันแบบโจ่งแจ้งนักหรอก เสียสายตา กว่าจะยอมกลับมามองก็ตอนที่สองคนนั้นเลิกจูบกันนั่นแหละ  

     

    กลับมาแล้วพี่โน่เอาใจใส่กันมากขึ้นมันก็ดีหรอก แต่ทำไมต้องเอาเฝือกกับรถเข็นมาด้วยล่ะ ริทมองเพื่อนรักที่บัดนี้นั่งอยู่บนรถเข็นโดยขาซ้ายมีเฝือกอันโตและมีโตโน่คอยประคบประหงมตลอดเวลา

     

    เหอะ! อยากขี่ม้าก่อนกลับ เป็นไงล่ะ โดนม้าสะบัดตกลงมาขาเดี้ยง ไม่เจียมตัวจริงๆ เกรซบ่น เธอตกใจแทบแย่ที่เมื่ออาทิตย์ก่อนพี่ชายพาเพื่อนรักมาส่งบ้านในสภาพขาเดี้ยงไปข้างหนึ่ง

     

    มันใช่ความผิดกันที่ไหนกัน ม้ามันดื้อด้านเองต่างหาก กะอีแค่เสียงพลุทำเป็นตกอกตกใจ กระแดะ! ” จะมีใครด่าม้าได้อย่างกันคงไม่มีอีกแล้ว

     

     

                โตโน่อยู่กับกันอีกพักใหญ่ก็ถูกเก่งมาตามเขาให้ขึ้นเรียน กันก้มหน้าพยายามหลบสายตาของเก่งเนื่องจากรู้สึกผิดที่ตัวเองอาจจะทำให้อีกฝ่ายผิดหวังอีกแล้ว แต่เสียงเรียกของเก่งทำให้กันต้องเงยหน้าขึ้นมอง ร่างโปร่งส่งสัญญาณเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร นั่นทำให้โตโน่หงุดหงิดรีบลากเพื่อนกลับห้อง กันจึงอมยิ้มออกมา

     

     

    พวกเราก็ไปรอเรียนวิชาต่อไปบนตึกดีกว่า อีกสามสิบนาทีกว่าจะเข้าเรียน แต่นั่งตรงนี้มันก็ไม่มีไรทำ ไปงีบบนห้องน่าจะดีที่สุดเนอะ เซนเอ่ยชวนพลางเก็บข้าวของบนโต๊ะ

     

    อื้อ เห็นด้วย ไอซ์โคตรง่วงเลย ไอซ์อ้าปากหาวและเดินมาเข็นรถเข็นของกันไปยังลิฟต์ของอาคารเรียนโดยมีเพื่อนอีกสามคนเดินตามมาติดๆ

     

    อ้าว กระเป๋าของริทล่ะ ริทเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเดินเข้าลิฟต์มาโดยปราศจากกระเป๋าสะพาย

     

    เออ ฉันลืมหยิบขึ้นมาให้แน่ะ ไอซ์พูดพลางทำหน้าตาย 

     

    เวร!! ต้องกลับไปโรงอาหารอีกรอบเหรอเนี่ย ขี้เกียจเดิน~ ” ริทอิดออด กดหมายเลขชั้นต่อไปเพื่อออกจากลิฟต์แล้วไปลงบันไดที่อยู่สุดทางเดินแทน

     

    อ๊ะ!! เดี๋ยวสิ ริท กันร้องเรียก แต่ก็ไม่ทันเจ้าเพื่อนตัวดีที่วิ่งออกไปด้วยความร้อนใจ

     

    มีอะไรเหรอกัน

     

    เมื่ออาทิตย์ที่แล้วกันยืมหนังสือจากห้องสมุดมา ลืมคืนเลย กันหยิบหนังสือออกจากกระเป๋า เนื่องจากเป็นหนังสือใหม่ มีกำหนดส่งคืนแค่วันเดียวเท่านั้น นี่ผ่านมาหลายวันคงเสียค่าปรับบาน

     

    เฮ้อ....งั้นเซนเอาไปคืนให้เองก็แล้วกัน ขืนรอไปคืนตอนเลิกเรียน คงนับเป็นวันใหม่แน่ๆ

     

     

    เซนถอนหายใจ แล้วคว้าหนังสือมาจากกัน มหาวิทยาลัยของเขาสวยเหมือนพระราชวังยุโรปก็ไม่ปาน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ระบบการเรียนการสอนอยู่ในระดับต้นของมหาวิทยาลัยนานาชาติทั่วประเทศ ใครๆต่างใฝ่ฝันที่จะเข้าเรียนที่นี่ สิ่งแวดล้อมยังน่าอยู่มากอีกด้วย แต่เสียอย่างเดียวคือค่าใช้จ่ายแพงหูฉี่  

     

     

    ขอบใจนะ กันเอ่ย เซนยักไหล่ให้เพื่อนรัก ก่อนจะเดินออกไปจากลิฟต์เมื่อมันขึ้นมาถึงชั้นที่พวกเขาต้องเข้าเรียนในวิชาถัดไปแต่เซนเดินแยกไปลงบันได

     

    อ้าว.....พวกนายมากันพอดีเลย ฉันรออยู่ตั้งนานแน่ะ  เสียงสดใสแต่สำเนียงแปร่งไปนิดทักขึ้นทันทีที่เหลือแค่เกรซ ไอซ์และกันอยู่บริเวณนั้น

     

    มีอะไรเหรอเกต เกรซทักเพื่อนร่วมชั้นที่เคยเห็นหน้ากันมาบ้างแต่ไม่สนิทสนมเป็นพิเศษ

     

    อาจารย์จณิสตาเรียกเกรซกับไอซ์น่ะสิ ฉันไม่มีเบอร์พวกนายเลยต้องมานั่งรอหน้าลิฟต์แบบนี้

     

    เอ๋? อาจารย์เรียกเราสองคนงั้นเหรอ

     

    อื้อ รีบๆไปเถอะ พวกนายก็รู้ว่าอาจารย์เฮี้ยบแค่ไหน ไม่รีบไปเดี๋ยวก็โดนเล่นงานพอดี   

     

    อืมๆ งั้นฝากเกตช่วยดูแลกันหน่อยนะ พาเขาเข้าไปในห้องที เดี๋ยวพวกเกรซมา

     

    ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะดูแลกันอย่างดีเลย พวกเธอรีบไปเถอะ

     

    ขอบใจมากนะ ไอซ์กับเกรซรีบลงลิฟต์ไปที่ห้องพักอาจารย์อย่างรวดเร็ว

     

     “ เอาล่ะ...เราไปกันเถอะ...กัน...

     

     

    ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่กันรู้สึกว่าน้ำเสียงของหญิงสาวช่างเย็นยะเยือกเหลือเกิน

     

     


    =-=-=-=-=-=-=-= TBC =-=-=-=-=-=-=-=

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×