คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : Nothing Better [NoGun]
Nothing
Better
BMW สีขาวแล่นผ่านรั้วสูงเข้ามาภายในและจอดลงหน้าประตูไม้สักของคฤหาสน์หลังใหญ่ของรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง
แต่เขาไม่ได้มาพบบุคคลสำคัญระดับประเทศ
จุดหมายของเขาคือคุณหนูคนเล็กซึ่งเป็นอีกหนึ่งเจ้าของของบ้านทรงปราสาทโรมันหลังนี้
“ สวัสดีครับ คุณโตโน่ ” บอดี้การ์ดร่างบึกบึนก้าวออกมาต้อนรับแขกประจำของบ้านและอีกไม่เกินหกเดือนข้างหน้าก็จะกลายมาเป็นเจ้านายของเขาอีกคนอย่างเต็มรูปแบบ
“ กันอยู่หรือเปล่า ” โตโน่ถามหาคนรักที่พ่วงตำแหน่งคู่หมั้นและไม่อีกนานจะเกี่ยวมาเป็นภรรยา....หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ
กันยิ่งชอบพูดว่าเขาขาดประสิทธิภาพบางอย่างสำหรับคนที่จะเป็นเมะไป..... -*-
“
คุณหนูยังอยู่ในห้องนอนครับ คุณโตโน่จะให้ผมขึ้นไปเรียนว่าคุณขอพบหรือว่าจะขึ้นไปพบเองครับ
”
“
นายไปทำงานเถอะ เดี๋ยวฉันไปเอง ขอบใจนะ ”
ร่างสูงขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของกันซึ่งอยู่บริเวณปีกขวาของบ้าน ตั้งแต่มาที่นี่ เขาเคยเข้าไปทางปีกซ้ายซึ่งเป็นอาณาบริเวณของพี่ชายกันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
นั่นก็คือตอนที่ฮั่นรู้ว่าเขากำลังคบหาดูใจกับกันใหม่ๆ จำได้ว่าแทบเอาชีวิตรอดกลับออกมาหากันไม่ได้
สองพี่น้องมีพ่อเป็นถึงรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงซึ่งเป็นที่นับหน้าถือตาของประชาชนทั่วไป
ประวัติการทำงานใสสะอาด แต่ลูกชายกลับเป็นหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศซะงั้น
อยู่บ้านหลังนี้แล้วเหมือนสีขาวกับสีดำห่างกันเพียงแค่บันไดหินอ่อนกั้นเท่านั้น
“ เข้ามาได้ครับ ” เสียงอนุญาตเล็ดลอดออกมา
หลังจากที่โตโน่เคาะประตูห้องสองสามครั้ง
“ ทำไมวันนี้ยังไม่ลงไปข้างล่างอีกล่ะ
เราจะออกไปเที่ยวห้างไม่ใช่เหรอ ” เมื่อคืนกันโทรมาชวนไปเดินห้างด้วยกัน
เช้านี้เขาจึงรีบมาหา แต่ปรากฏว่าคนนัดยังอยู่บนห้องนอน
“ กันไม่อยากไปแล้วล่ะ แดดเปรี้ยงขนาดนี้ ”
เด็กหนุ่มที่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่างหันกลับมาพร้อมกับปล่อยลูกแมวสีเทาขนฟูตัวน้อยออกจากอ้อมแขน
พอเป็นอิสระ เจ้าตัวเล็กก็รีบวิ่งออกจากห้องนอนไปทันที
“ เดี๋ยวไปห้างก็เย็นแล้ว ”
“ แค่เดินออกไปนอกบ้านเท่านี้
เห็นแดดก็ขี้เกียจแล้ว ”
“ งั้นวันนี้จะทำอะไรล่ะ ”
“ เรื่อยเปื่อย พี่ยินดีจะอยู่บ้านกับกันทั้งวันไหมล่ะ
วันนี้พ่อแม่ไปงานเลี้ยง พี่ฮั่นก็ออกไปหาแกงส้ม ไม่มีใครอยู่บ้านสักคน ” แกงส้มเป็นน้องชายของเขาและเป็นคนที่ฮั่นกำลังตามจีบ
จะว่าไปก็ต้องขอบคุณแกงส้มที่ทำให้ฮั่นยอมสงบศึกกับเขาโดยแลกกับการที่เขาต้องยกแกงส้มให้
เขารักน้องชายมากนะ แต่ก็รักกันมากด้วยเหมือนกัน
มันไม่มีทางเลือกจริงๆนี่นา~
“ ต่อให้อยู่บ้านกับนายทั้งอาทิตย์
พี่ยังยอมเลย หึหึ ”
“ อย่าหัวเราะแบบนี้นะ
พี่ไม่มีวันทำอะไรกันได้หรอก เพราะถ้าทำ.........กันจับพี่โยนให้ทิกเกอร์จัดการแน่!
”
“ อย่าขู่กันแบบนี้สิ
ถึงมันจะเชื่องแค่ไหน แต่พี่ก็กลัวนะ สัญชาตญาณสัตว์ป่ามันไว้ใจได้ที่ไหน ”
โตโน่บ่น
ถึงกันจะดูดื้อดึง
เอาแต่ใจ ร้ายกาจแค่ไหน คนรักของเขาก็รักสัตว์มาก ที่บ้านหลังนี้มีสัตว์เลี้ยงหลายตัวหลากชนิด
แต่ที่กันรักมากที่สุดมีเพียงแค่สี่ตัว ตัวแรกคือ ‘โรสลาลิน’
สุนัขตัวน้อยที่เพิ่งคลอดลูกมาให้เจ้าของดีใจหมาดๆ ตัวที่สอง คือ
เจ้าแมวตัวน้อยที่วิ่งออกไปเมื่อกี้...‘พีช’
ส่วนตัวที่สาม คือ ‘ติงเกล’....นกแก้วริงค์เน็คสีเหลืองสวย
และ
ตัวสุดท้ายที่โตโน่ไม่อยากเป็นมิตรเท่าไรแต่กันกับฮั่นรักที่สุด.........ทิกเกอร์.............ไม่ต้องถามว่าคือสัตว์ชนิดอะไร........ทิกเกอร์....ใน
Winnie The Pooh มันเป็นสัตว์ชนิดไหน
ไอ้ตัวนี้ก็ชนิดเดียวกันนั่นแหละ!!
ไม่รู้ว่าพ่อห้ามปรามลูกไม่ได้หรือเต็มใจให้เอาสัตว์ป่าตัวนี้มาเลี้ยงกันแน่
T^T
“ พ่อนายเอามันมาอยู่นี่ได้ยังไงเนี่ย ”
“ กันก็ไม่รู้เหมือนกัน
แค่บอกว่าอยากเลี้ยงสัตว์เหมือนที่เจ้าหญิงจัสมินในอาละดินเลี้ยงก็เท่านั้น ”
“ ดีนะที่มันกัดไม่เป็น แถมไม่กินเนื้ออีก
” บ้านหลังนี้คอยฝึกสอนเจ้าทิกเกอร์ตั้งแต่มันยังไม่ลืมตาจนกลายเป็นสัตว์เชื่องๆตัวหนึ่งที่กินเป็นแต่ผักกับข้าว...เสียชาติเกิดมากจริงๆ
“ อันที่จริงกันเคยคิดจะเอามันไปปล่อยหลายทีแล้วนะ
เห็นใครต่อใครมาบ้านก็หวาดหวั่นไปซะหมด แต่พ่อบอกว่าเอาไปปล่อยตอนนี้มันก็จะตาย
เพราะไม่เหลือสันชาตญาณของผู้ล่า หากินเองไม่เป็น จะไปไว้ในสวนสัตว์
สักวันมันก็คงโดนตัวอื่นกัดตายไม่ก็ซึมเศร้าจนตายเพราะเข้าพวกกับสัตว์ชนิดเดียวกันไม่ได้
”
“ งั้นเหรอ ”
“ พี่ฮั่นบอกว่า
ถ้าต้องให้มันตายน่าสมเพชแบบนั้น พี่เขาขอเป็นคนยิงมันเองเสียดีกว่า ”
“ พี่นายนี่โหดไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะ ”
“ แน่นอน แล้วถ้าพี่ยังไม่เลิกเอามือล้วงเข้ามาในเสื้อกัน
รับรองว่าพี่จะโดนยิงเหมือนกัน ” โตโน่รีบชักมือกลับทันที
ก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆให้คนรัก
“ พี่ก็แค่อยากกอดนายเท่านั้นเองนี่นา ”
โตโน่ออดอ้อน
“ กอดเฉยๆสิ จะล้วงเข้ามาในเสื้อทำไม ”
“ มันลื่นๆ ลูบเพลินดี ”
“ หน้าด้านที่สุดเลยพี่เนี่ย ” กันต่อว่าพลางหันกลับไปมองนอกหน้าต่างเพื่อซ่อนอาการเขินอาย
“ ด้านแค่ไหนก็รักนายคนเดียวแล้วกัน ”
โตโน่โอบกอดเอวบางจากด้านหลัง
คางมนเกยอยู่กับบ่าเล็ก ดวงตากลมของกันกำลังมองสัตว์เลี้ยงตัวเล็กตัวน้อยของตนเองวิ่งเล่นกับเจ้าทิกเกอร์ในสนามหญ้ากว้างใหญ่อย่างเพลิดเพลิน
แต่โตโน่กลับมองหน้ากันไม่วางตาแทน ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไร
เขาก็ละสายตาจากเด็กคนนี้ไม่ได้เลย ยิ่งนานยิ่งรักมากขึ้นทุกวินาที
รักตั้งแต่วันแรกที่เราได้พบกัน
.
.
.
.
.
สี่ปีก่อน
“ เฮ้ยๆ กัน พี่คนนั้นเขาชอบนายแน่เลยอะ
มองตามไม่วางตาเลย ดูดิ ” กันหันไปมองตามที่เพื่อนสนิทพูด
แล้วก็พบว่ามีรุ่นพี่คนหนึ่งกำลังมองเขาอยู่จริงๆ
“ ปล่อยให้มองๆไปเถอะ
เดี๋ยวเบื่อก็เลิกเองแหละ ” เด็กหนุ่มยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
แต่มันไม่เป็นแบบนั้น
ตั้งแต่วันที่เพื่อนสะกิดเรียกจนผ่านมาเกือบเดือน เขาก็สังเกตได้ว่ารุ่นพี่คนนั้นยังมองตามและเดินตามไม่เลิก
หากเป็นผู้หญิงคงขวัญหนีตีฝ่อเพราะคิดว่าเป็นคนโรคจิต แต่ไม่ใช่กับกันแน่
เขาเป็นผู้ชายและยังเป็นนายน้อยของแก๊งค์มาเฟียอีกด้วย มีหรือจะกลัว ตามได้ก็ตามไป
“ กันๆๆๆ ดูนี่สิ วันนี้ช่อดอกไม้อีกแล้ว ”
กันรับช่อดอกไม้มาถือไว้
ทุกๆเช้า
ที่ล็อกเกอร์ของเขามักจะมีทั้ง จดหมาย การ์ดกลิ่นหอม ขนม ของขวัญ มาใส่เต็มไปหมด
บางวันก็เป็นดอกไม้ช่อเล็กๆ ถ้าเป็นขนมกับของขวัญก็จะเก็บไว้ แต่พอเป็นช่อดอกไม้
“ พี่โตโน่ ” กันถือช่อดอกไม้เดินเข้ามาในโรงอาหารและเรียกชื่อร่างสูงที่กำลังนั่งคุยอยู่ในกลุ่มเพื่อน
“ กัน ” ชายหนุ่มรุ่นพี่ยิ้มหวานให้เมื่อเห็นอีกฝ่ายส่งยิ้มมา
ไม่ต้องแปลกใจที่รู้จักชื่อกันแล้ว เพราะทุกครั้งที่ส่งการ์ดไป โตโน่มักจะลงชื่อตัวเองไว้เสมอ
...พลั่ก!...
…ตุบ!...
ดอกไม้ช่อสวยถูกปาใส่หน้าเจ้าของที่ซื้อมาให้อย่างไม่ปราณีปราศรัย
ก่อนจะตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงสู่พื้นโรงอาหาร คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึง
แต่สำหรับเพื่อนของโตโน่เองต่างไม่แปลกใจ มันเป็นเหตุการณ์ปกติและเกิดขึ้นทุกครั้งยามที่โตโน่ซื้อดอกไม้ให้กัน
สายตาทุกคนมองเพื่อนรักอย่างระอาใจ
...กูเตือนมึงแล้ว...
“ กันเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ อยากให้อะไรก็ได้ แต่ไม่เอาดอกไม้
ไม่เข็ดสักทีนะ ดอกไม้มันทำประโยชน์ได้ที่ไหน นานวันไปก็เหี่ยว ไม่มีความสวยงามแล้ว
วันหลังไม่ต้องเอามาอีก ถ้ากันยังเห็นมัน เราก็ไม่ต้องมายุ่งกันเลย
เลิกความคิดจะจีบกันเป็นแฟนไปซะ หัดหาอะไรที่มันใช้ประโยชน์ได้หน่อยสิ
เช่น ดอกไม้เงิน อะไรพวกนั้น สมองมันไม่ได้มีไว้คั่นหูอย่างเดียวนะ
มันมีไว้คิดด้วย ” พูดรัวแล้วก็เดินหนีไปโดยไม่เปิดโอกาสให้โตโน่ได้โต้ตอบสักคำ
“ สมน้ำหน้าว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ” เพื่อนๆพากันหัวเราะร่วน
ส่วนโตโน่ทำได้แค่เจ็บใจและโอดครวญเพราะโดนหนามกุหลาบทิ่มหน้า
เขาควรจะเข็ดใช่ไหม?......ไม่เลย......มันตื่นเต้นดีออก
.
.
.
.
สามปีก่อน
“ เฮ้ย ไอ้โน่ หน้าแกไปโดนอะไรมาวะ ” เพื่อนของโตโน่ร้องถามขึ้น
เมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามานั่งในโรงอาหารกำลังเอาน้ำแข็งประคบโหนกแก้ม
“ โดนกันต่อยไง แค่กำลังเข้าไปคุยเรื่องรายงานกับแกรนด์นิดเดียวเอง
ขี้หึงชะมัด ซวยชิบ! ” โตโน่บ่นเป็นหมีกินผึ้ง
ตั้งแต่ยอมคบเป็นแฟนกัน นับวันยิ่งโหด
“ ซวยมากใช่ไหมครับ ” น้ำเสียงเยียบเย็นที่ดังขึ้นด้านหลัง
ทำเอาคนกำลังนินทาสะดุ้งโหยง
“ กะ.............. ”
“ เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ” เพื่อนของโตโน่ร้องลั่นด้วยความตกใจ เมื่อมือเล็กๆของกันที่ถือชามบะหมี่อยู่ยกขึ้นสูงและคว่ำมันลงบนศีรษะของโตโน่!!!
“ อะ...อ้าว ขอโทษนะพี่โน่ เผอิญว่ามือมันลื่น
ชามเลยไถลไปรดหัวพี่เลย เดี๋ยวกันไปหาผ้ามาเช็ดให้แล้วกัน รอแป๊บนะ ” น้ำเสียงเหมือนจะสำนึกผิด แต่ดวงตากับริมฝีปากนี่มันเยาะเย้ยชัดๆ
“ มาแล้วๆ ” เด็กหนุ่มใช้ผ้าสีตุ่นเช็ดไปตามศีรษะใบหน้าและลำตัวของโตโน่
จนตอนนี้เส้นบะหมี่มันหายเกลี้ยงไปหมดแล้ว แต่กลิ่นคงกำจัดไปไม่ได้
“ ข...ขอบใจนะ ” โตโน่พยายามพูดกับคนรักพลางมองดวงหน้าหวานนั้นด้วยดวงตาที่แอ๊บแบ๊วเต็มที่
อยากได้ยินคำขอโทษเหมือนกันนะ
แต่พอคิดถึงความผิดตัวเอง และ ความโหดของกัน
เขาตัดสินใจก้มหน้ายอมรับผิดว่าปากพล่อยเองดีกว่า
มันคงดีที่สุด
“ กัน ป้าร้านบะหมี่เขาถามหาผ้าขี้ริ้วกับกะละมังล้างตะเกียบอะ
นายใช้เสร็จหรือยัง ”
เพื่อนของกันวิ่งมาตาม
ถ้อยคำของเด็กอีกคน ทำให้โตโน่กับผองเพื่อนก้มลงไปมองผ้าและกะละมังสลับกับรอยยิ้มหวานๆของกันอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
อยากให้มันเป็นแค่การได้ยินผิดพลาดมากกว่าความจริงที่ว่ากันเอาผ้าสกปรกและน้ำที่สกปรกยิ่งกว่ามาเช็ดหน้าโตโน่
“ ว้า~ ความลับแตกซะแล้ว
แย่จังเลยนะ ” เด็กน้อยแลบลิ้นเล็กๆพอน่ารัก
ก่อนจะลากเพื่อนวิ่งหนีไป
ปีศาจชัดๆ!
.
.
.
.
สองปีก่อน
“ แวะร้านนี้กันพี่โน่ กันอยากกินสปาเก็ตตี้ ” กันชี้ไปทางร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน
“ เอาสิ พี่ก็อยากกินเหมือนกัน ” ร่างสูงยิ้ม พร้อมกับจูงมือกันเดินเข้าไปในร้านโดยพยายามเลือกมุมที่สงบที่สุด
เพราะคนตรงหน้าไม่ชอบเสียงอึกทึกมากนัก
“ โตโน่ขา~ ” เสียงแสบแก้วหูดังมาแต่ไกล
ทำให้โตโน่กับกันที่กำลังคุยกันอย่างออกรสระหว่างรออาหารหันมามองด้วยความสงสัย
“ เกด! ” โตโน่มองคนตรงหน้าอย่างตกใจ
เขาไม่คิดว่าจะมาเจอผู้หญิงคนนี้ถึงนี่ เธอมีแฟนอยู่แล้วแถมยังเป็นผู้หญิงอีกด้วยแต่ก็เที่ยวตามตื้อเขาไม่เลิกราสักที
ทั้งที่เขาบอกว่ามีแฟนแล้วไปเกือบร้อยรอบ
“ ใครครับ ” กันถามโตโน่ด้วยสายตาขุ่นเคือง
“ หือ? น้องชายเหรอคะ น่ารักจังเลย ” หญิงสาวบีบเสียงทั้งที่นัยน์ตาเสแสร้งเหลือเกินพลางนั่งลงบนตักโตโน่
“ แฟนต่างหากป้า รู้แล้วก็ลงจากตักพี่โน่ด้วย
เดี๋ยวกางเกงเขาเปื้อนก้นบานๆของป้าหมด มันแพง ”
“ อ้ายยยย ไอ้เด็กบ้า ปากเสีย โตโน่คะ
คุณไปคว้าเด็กกะโปโลนี่มาเป็นแฟนอย่างนั้นเหรอ ทำไมตาต่ำแบบนี้ล่ะ ”
“ พี่โน่เขาอาจจะแค่ตาต่ำ แต่ป้าน่ะ ต่ำไปหมด
หน้าตาต่ำ หัวคิดต่ำ แล้วยังจะทำตัวต่ำๆด้วย ”
“ กรี๊ดดดด แก!!! ”
“ พอได้แล้วเกด คุณไม่ควรพูดจาแบบนั้นกับกันนะ
ควรให้เกียรติคนที่ผมรักมากที่สุดด้วย ”
“ ก็ดูมันพูดจาสิคะ มันว่าเกดต่ำ
แถมยังมองแบบดูถูกด้วย เกดไม่ยอม!!! ”
“ นี่มันร้านอาหารนะ จิณภัค อย่าโวยวายนักได้ไหม ” โตโน่ใช้น้ำเสียงดุดันกว่าเดิมและเรียกย้ำชื่อจริงของหญิงตรงหน้า
“ ใช่ ไร้มารยาท ” กันสำทับ
“ พอได้แล้วกัน
เฮ้อ.........พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วกัน ” โตโน่ปรามกันแต่พอเห็นสายตาดุๆ
เขาก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแทน ขืนอยู่ต่อนานกว่านี้ มีสิทธิเละได้
“ ไปได้แล้วป้า นั่งนานเกินไปแล้ว ไปหาสามีที่อื่นไป
”
“ แก...!!! ”
“ อ๊ะๆ อย่ามาชี้หน้านะ ไม่งั้น.............. ”
กันหยิบมีดพกด้ามเล็กมาวางไว้บนโต๊ะเป็นเชิงขู่
“ ฮึย!!!! ” หญิงสาวหน้าซีด
รีบลุกออกจากโต๊ะ แต่ไม่วายหันมามองกันอย่างเจ็บใจ
“ น่ารำคาญจริงๆเลย พี่ครับ..ขอสั่งอาหารหน่อย ”
กันสบถ ก่อนจะร้องเรียกพนักงานให้จดรายการเพิ่ม
ค่าอาหารมือนั้น
โตโน่จ่ายเงินไปเกือบแปดพันบาท กันสั่งมาแกล้งเขาจนเต็มโต๊ะแต่ไม่กินสักอย่าง
สุดท้ายก็ต้องใส่ถุงกลับบ้าน ค่าข้าวของที่กันซื้ออีกเกือบสามหมื่น
ร่างสูงเซ็นบัตรไปก็แทบอยากร้องไห้ไป
มันเป็นความผิดของเขาหรือไงที่เสน่ห์แรงจนมีผู้หญิงเข้ามาไม่ขาดสาย
“ พี่โน่ เข้าไปดูกระเป๋ากันเถอะ
มันมีลายใหม่ออกเมื่อวานนี้ กันอยากได้ทุกสีเลย ” กันลากแขนโตโน่เข้าไปในร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมสำหรับผู้ชาย
ราคาของมันทำให้โตโน่ตาค้าง
“ ใบละหมื่นห้า!!! ”
ไม่ถอนเงินของเขาในธนาคารไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาเลยล่ะ
ทำแบบเนี้ย!!!
.
.
.
.
หนึ่งปีก่อน
“ นายแน่ใจแล้วเหรอว่าอยากแนะนำพี่อย่างเป็นทางการให้คนที่บ้านนายรู้จัก
”
โตโน่ถาม
หลังจากที่เขาขับรถมาจอดในคฤหาสน์หลังใหญ่ แต่ยังไม่กล้าลงจากรถ วันนี้กันจะพาเขามาแนะนำให้ที่บ้านรู้จักในฐานะคนรัก
ปกติเขาจะมาส่งกันแค่หน้าประตูบ้านและกลับไป แต่วันนี้กันขอให้เขาเข้าไปด้วยกัน
“ แล้วพี่แน่ใจไหมล่ะว่ารักกัน อยากให้กันอยู่กับพี่ตลอดไป
”
“ แน่ใจสิ นี่เป็นเรื่องเดียวที่พี่ไม่มีวันลังเล ”
“ กันก็แน่ใจเหมือนกันว่ารักพี่และอยากให้พี่อยู่กับกันตลอดไป
ขอแค่เรารักกัน มันก็ไม่มีอะไรให้กลัวแล้วล่ะครับ ” กันยิ้มหวาน
เขารู้ว่าโตโน่ประหม่าที่จะเข้าไปพบกับพ่อแม่และพี่ชายของตนเอง
“ อืม ” โตโน่ส่งยิ้มตอบกลับให้กัน
ก่อนจะเดินลงจากรถและอ้อมไปเปิดประตูให้ร่างบาง
แต่แล้วร่างสูงก็ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างซอยฝีเท้าถี่ๆวิ่งเข้ามาใกล้
“ อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก ” ร่างสูงร้องลั่น
เสียงหลักล้มลงกับพื้นโดยมีสัตว์สี่เท้าขึ้นคร่อม แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องให้เห็นเขี้ยวสีขาวที่พร้อมขย้ำศัตรูได้ทุกเมื่อ
“ สะ...เสือ....เสือ....เสือออออออออ!!!!!!!!
”
“ นี่ ทิกเกอร์! ทิกเกอร์!
พอได้แล้วๆ ทิกเกอร์!! บอกให้หยุดไง
เลียแบบนั้นเดี๋ยวหน้าพี่โน่ขึ้นสิวพอดี ” กันผลักเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวโตที่ทำจมูกฟุดฟิดและเลียไปตามใบหน้าของโตโน่ออก
ซึ่งมันก็ยินยอมแต่โดยดี
“ พี่โตโน่เป็นงะ....อ้าว!!!??? ” ภาพที่กันเห็น คือ คนรักเป็นลมไปเสียแล้ว
“ พี่เนี่ย ไม่ได้เรื่องเลย
แล้วอย่างนี้เหรอจะเป็นเมะให้กันน่ะ ดูยังไงก็ไม่ผ่านหลักสูตรขั้นพื้นฐาน ”
กันบ่น หลังจากอีกฝ่ายฟื้นขึ้นมาภายในห้องรับรอง
“ มันเสือนะ เมะที่ไหนก็ขอบายทั้งนั้นแหละ ” โตโน่ทำหน้ามุ่ย
“ มันเชื่องจะตาย เมื่อกี้มันแค่ทำความรู้จักกับพี่เฉยๆ
ไม่กัดสักหน่อย เพื่อนกันไม่มีใครกลัวมันสักคน เนี่ย...ดูดิ
พี่เลยทำให้มันเศร้าไปด้วย พอเห็นพี่เป็นลม มันก็เข้าไปทำตัวซึมๆอยู่ในกรง ”
“ ช่างมันเถอะ พี่ไม่ชินนี่นา
ต่อให้เชื่องก็น่ากลัวอยู่ดี ”
“ สงสัยกันต้องพาพี่มาบ่อยๆจนกว่าจะชินซะแล้ว
เพราะถ้าคิดจะแต่งงานกับกัน พี่ก็ต้องเจอมันไปอีกนาน ”
“ จริงเหรอ TT ”
“ หรือพี่ไม่อยากแต่ง? ”
“ แต่งสิ!!! เรื่องอะไรพี่จะปล่อยให้คนอื่นชุบมือเปิบไปล่ะ
น่ารักๆนุ่มนิ่มแบบนี้มีคนเดียวในโลก ~~~ ” โตโน่โผเข้าไปกอดกันพร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่
แค่เสือ โธ่เอ๊ย เด็กๆ โตโน่สู้ตาย TOT
.
.
.
.
ปัจจุบัน
“ พี่จะลงไปเล่นกับทิกเกอร์หน่อยไหม ” กันถามขึ้น หลังจากรำลึกความหลังกับโตโน่จบ มานึกๆดู
ตอนนั้นเขาก็ร้ายไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะเนี่ย
“ ไม่ล่ะจ๊ะ อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆมันดีที่สุดเลย~~~~
” เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคักเมื่อได้ฟังคำตอบ
“ ขอบคุณนะครับ ” กันหมุนตัวมากอดโตโน่เอาไว้
“ เรื่องอะไรเหรอ ” ร่างสูงกอดตอบพลางซุกไซ้ไปตามซอกคอหอมกรุ่น
“ ทุกเรื่องเลย ขอบคุณที่อดทนทำเพื่อกันมาตลอดทั้งที่กันร้ายกาจกลั่นแกล้งพี่สารพัด
แต่พี่ก็ยังรัก ยังเลือกที่จะอยู่เคียงข้างกันมาจนถึงตอนนี้ ”
“ ช่างมันเถอะ มันผ่านไปแล้ว
อีกอย่างต่อให้นายร้ายกว่านี้ พี่ก็มั่นใจว่าจะยังรักนายเหมือนเดิม
ความรักของพี่มันมีไว้เพื่อนาย เพียงคนเดียว ”
“ กันรักพี่ที่สุดเลย ” กันเงยหน้าจากบ่าแกร่งมายิ้มหวานให้คนรัก
“ พี่ก็รักกันที่สุดเช่นกัน ”
โตโน่ยิ้มพลางเช็ดน้ำตาที่เอ่อคลอดวงตากลมโต
ริมฝีปากหยักกดจูบบนหน้าผากเนียน ก่อนจะไล่ลงมายังจมูกโด่งเป็นสันเรื่อยๆ กันหลับตาพริ้มรอรับสัมผัสอ่อนโยนจากอีกฝ่าย
ริมฝีปากนุ่มถูกประกบปิดอย่างนุ่มนวล
รสจุมพิตอ่อนหวานทำให้ใจดวงน้อยเต้นถี่รัวราวกับเสียงกลอง เหมือนจะหลุดออกจากอก
ไม่สิ มันคงหลุดมาแล้วล่ะ เพราะรู้สึกจิตใจจะล่องลอยไปไกลแสนไกล
ร่างกายเบาหวิวเหมือนอยู่ในอากาศ สติสัมปชัญญะดูเหมือนจะหยุดสั่งการ
ไม่รับรู้สิ่งใดหรือแม้ว่าใครเข้ามาในห้องนอน
“ หึหึ
ดูนายมั่นใจมากนะที่จะลวนลามน้องฉันภายในบ้านหลังนี้ ” เสียงเยียบเย็นที่ดังขึ้น
ทำให้สองร่างที่มาอยู่บนเตียงตั้งแต่เมื่อไรรู้สะดุ้งเฮือกรีบผละออกจากกัน
“ พะ...พี่ฮั่น ” กันเรียกพี่ชายเสียงสั่น
สายตาของฮั่นดูขัดเคืองโตโน่มากทีเดียว
“ เอ่อ...คือ... ”
“ ฉันบอกแล้วไงว่าก่อนแต่งงาน ห้ามทำอะไรกันมากกว่ากอด
”
“ คะ...คือ...ฉะ.......ฉัน...... ”
“ หึ อย่าอยู่เลย!!! ”
“ อย่านะ พี่ฮั่น!!! ”
ปัง!!!
“ พี่โน่...!!! ”
“ บ้าไปแล้วเหรอ พี่ฮั่น!!! ” กันขึ้นเสียงใส่พี่ชายอย่างโกรธจัด
“ พี่แค่ล้อเล่นเอง หมอนี่มันเหมือนเดิมจริงๆ
ขวัญอ่อนชะมัด ” ฮั่นมองโตโน่อย่างเซ็งๆและเดินออกจากห้องนอนของน้องชายไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด
“ เฮ้อ...................... ”
กันถอนหายใจพลางหันไปมองคนที่นอนสลบอยู่ข้างตัว
บนที่นอนนุ่มใกล้กับเป้ากางเกงของโตโน่มีเม็ดพลาสติกกลมๆตกอยู่
มันคือกระสุนของเล่นที่ออกมาจากปลายกระบอกปืนเด็กเล่นของฮั่นนั่นเอง
แต่ก็ทำให้โตโน่ตกใจเสียงปืนจนเป็นลมได้ซะงั้น
มือเรียวต่อโทรศัพท์ภายในเรียกสาวใช้
“ เอายาดมขึ้นมาให้หน่อย
ไม่สิ ยกกล่องปฐมพยาบาลมาทั้งหมดเลยดีกว่า ”
พอวางสาย ดวงตากลมก็ปรายมองไปที่โตโน่อีกครั้ง.....
ยิ่งมองก็ยิ่งทั้งรักทั้งเอือมระอา
“ จะไหวไหมเนี่ย พี่โน่ ”
END
ความคิดเห็น