ตอนที่ 6 : EP06 : แฟนเก่า
Kiss Me Slowly
(Sunggyu x Woohyun)
Genre: AU School-Life
Rate: PG-13
EP06 – แฟนเก่า
ฮวังมินฮยอนเดินผ่านบันไดกลางมาทางตึกเรียนของตัวเองพร้อมรอยยิ้มที่ยังติดอยู่บนใบหน้า เขาเพิ่งเดินไปส่งนัมอูฮยอนที่หน้าห้องเรียนของเด็กคนนั้นมา และพวกเขาจะเจอกันอีกครั้งในชมรมดนตรีเย็นนี้
ความสัมพันธ์ดี ๆ กำลังเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่ายและราบรื่น มินฮยอนประทับใจความร่าเริงและรอยยิ้มที่สดใสของนัมอูฮยอนเช่นเดียวกับที่คนอายุน้อยกว่าชื่นชมในความใจดีและเป็นมิตรของรุ่นพี่คนดังในโรงเรียน ทั้งสองคนเข้ากันได้ดีผ่านดนตรีและการพูดคุยอย่างถูกคอ นั่นดูเหมือนจะเพียงพอสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ให้ชัดเจนและมากกว่าการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมชมรมหรือร่วมโรงเรียน
แต่ก่อนจะเป็นแบบนั้น ดูเหมือนมีบางอย่างที่มินฮยอนยังต้องจัดการให้เรียบร้อย
“พี่ก็ยังเป็นฮวังมินฮยอนที่ใจดีกับทุกคนไม่เปลี่ยนเลยนะ” เสียงพูดที่ดังขึ้นทางด้านหลังทำให้มินฮยอนหันไปมอง สีหน้าเปลี่ยนไปชั่วครู่เมื่อเห็นว่าใครคือคนที่อยู่ตรงหน้า
“แจฮวาน”
เขาไม่เห็นหน้าอีกฝ่ายมานานมากแล้ว อย่างน้อยก็ในโรงเรียน
คิมแจฮวาน แฟนเก่าของมินฮยอนเอง …
“นายพูดเรื่องอะไร”
“ก็พูดเรื่องของพี่ไงล่ะ” แจฮวานพูดพร้อมกับยิ้มเยาะ ในดวงตาสีเข้มนั่นมีความเจ็บปวดจาง ๆ ปะปนอยู่กับความแค้นอย่างแยกกันไม่ออก “นิสัยของพี่ ทุกอย่างของพี่ ทุกสิ่งที่พี่เคยทำกับผม และพี่ก็กำลังจะทำแบบนั้นกับเด็กปีสองที่ชื่อนัมอูฮยอนนั่น”
“มันไม่ใช่เรื่องของนายนะ ลืมไปแล้วหรือไงว่าเราเลิกกันแล้ว” มินฮยอนพูดอย่างเย็นชา เขามองคนตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ใบหน้ากลม ๆ ของแจฮวานยังคงน่ารักน่ามองเหมือนเคย แต่ที่ไม่เหมือนเดิมเลยคือตอนนี้อีกฝ่ายดูจะจงเกลียดจงชังเขาไปเรียบร้อยแล้ว ต่างจากคิมแจฮวานคนเก่าที่มองมาทางเขาอย่างชื่นชมอยู่เสมอ
“มันต้องเกี่ยวแน่ถ้าผมไม่อยากให้เด็กคนนั้นรู้จักพี่เหมือนที่ผมรู้จัก”
“…”
“คนที่ใจดีกับทุกคนในโลก แต่ใจร้ายที่สุดกับแฟนตัวเอง”
“คิมแจฮวาน”
คนตัวสูงกว่าขยับเข้าไปใกล้ มือข้างหนึ่งของมินฮยอนยื่นไปข้างหน้าราวกับจะจับเข้าที่ข้อมือของคนเป็นน้อง แต่แจฮวานถอยหลังหนี
“ไม่ต้องเข้ามา แล้วก็ไม่ต้องมาโดนตัวผมด้วย”
เสียงตวาดดังออกมาจากริมฝีปาก สายตาที่มองมายังคงเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น มันไม่ใช่ความหึงหวงหรืออยากรื้อฟื้นความรักความหลังอะไรเลยที่ทำให้แจฮวานพาตัวเองเข้ามาวุ่นวายกับแฟนเก่าของตัวเองแบบนี้ แต่เขาก็ทนไม่ได้เหมือนกันที่เห็นมินฮยอนเป็นแบบนี้และยังคงทำแบบนี้อยู่ตั้งแต่คบกับเขา จนเลิกกัน และกำลังจะมีคนใหม่
“ผมเกลียดพี่ที่สุด และผมก็จะทำให้เด็กคนนั้นรู้ด้วยว่าพี่ไม่ได้ดีเป็นเทพบุตรอย่างที่ใคร ๆ เห็นว่าพี่เป็นเลย” คิมแจฮวานพูดอย่างอาฆาต สายตาที่มองมาทางมินฮยอนแม้จะไม่ได้หวังมุ่งร้ายให้อีกฝ่ายไร้ความสุข แต่มันก็ประกอบไปด้วยความเจ็บแค้นที่ยากจะลบเลือนเช่นกัน
“เรื่องของพี่กับเด็กปีสองคนนั้นมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นง่าย ๆ หรอกนะฮวังมินฮยอน”
“แจฮวาน นายจะทำอะไร อย่ายุ่งเรื่องของพี่”
“ขอโทษทีที่ผมทำแบบนั้นให้ไม่ได้” แจฮวานพูดพร้อมยิ้มหยันที่มุมปาก
“เพราะผมอยากให้คนอื่นรู้เหมือนกับที่ผมรู้เหมือนกัน ว่าฮวังมินฮยอนคนที่ใจดีเหมือนเทพบุตรแต่ใจร้ายที่สุดในโลกกับแฟนตัวเองน่ะ มันเป็นยังไง”
ซองกยูไม่เคยกินข้าวกลางวันมื้อไหนแล้วรู้สึกซังกะตายเท่านี้มาก่อน
มือเรียวยาวเขี่ยอาหารในจานตรงหน้าอย่างนึกเซ็ง แต่เซ็งเพราะอะไร ทำไม และเพราะใคร เด็กหนุ่มก็อธิบายความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ รู้แค่ว่าเบื่อ และทุกอย่างก็เหมือนจะน่ารำคาญไปหมด
“เป็นไรวะ เอาช้อนเขี่ยข้าวอยู่ได้ กินไม่ลงอ่อ มากูกินให้เอง” คิมมยองซู หรือแอล เพื่อนสนิทของซองกยูชะโงกหน้ามาจากโต๊ะฝั่งตรงข้ามแล้วก็ทำท่าจะตักอาหารในจานเพื่อนรักไปกิน แต่โดนซองกยูดึงจานหนีเสียก่อน
“มึงไม่ต้องมาเสือกกับจานข้าวกูเลยไอ้แอล กูจะกินหรือกินไม่ลงอะไรก็ไม่เกี่ยวกับมึง กินไป ข้าวมึงอ่ะ อย่ามายุ่งกับกู ถึงกูกินไม่ลงกูก็จะเอาข้าวในจานที่เหลือนี่ไปเทให้หมายังดีกว่าให้มึง”
“ขี้งกฉิบหาย นี่มึงเป็นเพื่อนกูป่ะวะเนี่ย”
“เพราะกูเป็นเพื่อนมึงไงกูถึงคิดว่าเอาข้าวนี่เทให้หมากินยังดีกว่า”
“ไอ้เหี้ยซองกยู”
แอลด่าเข้าให้ แต่เขาก็ยังสงสัยในท่าทางซังกะตายของเพื่อนรักตัวเองอยู่ “เออ ว่าแต่มึงอ่ะ เป็นอะไร วันนี้ดูหงุดหงิดพิกลนะ ปวดท้องเมนส์หรือไง”
ซองกยูเตรียมจะง้างปากด่าแอลว่าไอ้เวร แต่ประโยคต่อมาของเพื่อนรักทำให้ชะงักไปเสียก่อน
“หรือว่า ทะเลาะกับเมีย”
“เมียบ้าเมียบออะไรของมึง คิมมยองซู มึงอย่ามากวนส้นตีนกู เดี๋ยวก็ได้กินตีนสมใจหรอกมึง”
“ก็น้องชายคนสนิทของมึงที่ตัวติดกันยิ่งกว่าเมียนั่นไง หรือไม่ใช่ ทะเลาะกันอีกแล้วหรือไง”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับไอ้อ้วนนั่นเลยมึงอย่าลาก ไอ้แอล แล้วมึงกำลังเสือกเรื่องกูอยู่ด้วยเนี่ย เอาดี ๆ”
“เอ้า ด่ากูเสือกอีก แล้วที่กูพูดเนี่ยไม่จริงหรือไง มึงกับเด็กคนนั้นน่ะ สนิทกันจนกูเคยคิดว่าเป็นแฟนกันด้วยซ้ำเหอะ”
แฟนกัน … อย่างนั้นเหรอ
บ้าบอคอแตกน่า เขากับนัมอูฮยอนน่ะนะ
เป็นไปไม่ได้หรอก
“มึงอย่ามาเพ้อเจ้อ นี่ชีวิตจริงมั้ย ไม่ใช่ละครหลังข่าวอย่างที่มึงชอบดูนะ”
“ละครก็สร้างมาจากเรื่องจริงไม่ใช่หรือไงวะ แล้วกูก็ไม่ได้บอกว่ามึงกับน้องเขาเป็นแฟนกันสักหน่อย กูก็แค่คิด คิดน่ะมึงเข้าใจมั้ย หรือมึงจะห้ามไม่ให้กูคิด พวกมึงก็อย่าทำตัวเหมือนเป็นแฟนกันให้กูคิดดิ”
“กูทำอะไร ไอ้แอล มึงอย่ามาหาเรื่อง”
“ก็ที่มึงนั่งหน้าหงิกอยู่นี่ไง อย่าบอกนะว่าไม่เกี่ยวกับนัมอูฮยอนของมึงน่ะ”
“ไอ้อ้วนนั่นมันไม่ใช่ของกู มึงพูดดี ๆ หน่อยเหี้ยแอล”
“อ่ะ ไม่ใช่ของมึงก็ได้ แต่กูพูดผิดหรือเปล่าล่ะที่บอกว่าวันนี้มึงหน้าหงิกไม่สบอารมณ์อยู่เนี่ยเพราะน้องเขา”
ซองกยูเงียบ พูดไม่ออก
“เห็นมะ มึงก็เถียงไม่ได้ไง”
“เรื่องกูเหอะ ไอ้เหี้ยแอล”
“เออ เรื่องของมึงก็เรื่องของมึง กูก็ไม่อยากจะเสือกเรื่องมึงหรอก แต่กูบอกไว้อย่างนะ”
“บอกเหี้ยไร” ซองกยูกระชากเสียงถาม
“มึงจะคิดอะไรหรือไม่คิดอะไรกับนัมอูฮยอนก็เรื่องของมึง กูไม่อยากรู้อะไรด้วย แต่กูแค่อยากอยากบอกไว้อย่างที่มันเป็นความคิดของกูก็แค่นั้น”
“…”
“เด็กคนนั้น นัมอูฮยอน กับมึงอ่ะ ไม่ได้เป็นแค่พี่ชายน้องชายข้างบ้านที่โตมาด้วยกัน กูรู้สึกแบบนั้นทุกครั้งเวลาที่เห็นมึงกับน้องเขา กูจะบอกเรื่องที่กูคิดไว้แค่นี้แหละ ส่วนเรื่องจริงของมึงจะเป็นยังไงก็แล้วเต่มึงก็แล้วกัน ซองกยู”
วันนี้อูฮยอนอยู่ซ้อมดนตรีถึงห้าโมงเย็น งานฉลองวันครบรอบโรงเรียนใกล้เข้ามาเต็มที ทุกคนในชมรมก็เลยต้องซ้อมกันหนักเหมือนกันหมด กว่าจะเลิกชมรมเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ในโรงเรียนก็แทบจะกลับกันไปหมดแล้ว
“พี่ว่าช่วงท้ายของเพลงมันยังแปร่ง ๆ อยู่นะ หรือเพราะว่าเราปรับจังหวะให้มันช้าลงก็ไม่รู้สิ ว่าไหม” ฮวังมินฮยอนพูดกับรุ่นน้องร่วมชมรมหลังจากที่พวกเขาเสร็จจากการซ้อมดนตรีและเดินออกมาด้วยกัน อูฮยอนถามความเห็นเกี่ยวกับเพลงที่ซ้อมกันวันนี้ มันเกือบจะดีแล้ว แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องแก้ไขอยู่อีกเล็กน้อย
“ผมก็คิดเหมือนรุ่นพี่นะ แล้วก็คิดว่าเราน่าจะแก้ได้ตอนซ้อมคราวหน้าน่ะครับ”
“พี่ก็ว่ายังงั้น เออ อูฮยอน ไหน ๆ วันนี้เราก็จะกลับด้วยกันแล้ว แวะไปกินขนมกันก่อนกลับบ้านไหม เลยโรงเรียนไปหน่อยมีร้านขนมน่าอร่อยดี เราน่าจะชอบ”
“วะ— วันนี้ หมายถึงเย็นนี้เลยเหรอครับ” อูฮยอนอึกอัก เขาพูดเรื่องนี้กับไอ้พี่บ้าซองกยูไว้แล้วก็จริง แต่หนุ่มน้อยก็ยังไม่คิดว่ามันจะปุบปับแบบนี้ แต่การจะปฏิเสธคำชวนของฮวังมินฮยอนก็ไม่ใช่สิ่งที่อูฮยอนอยากทำเหมือนกัน
“อือ ก็วันนี้น่ะสิ ทำไมเหรอ หรือว่าเรากลับบ้านเย็นแล้วจะโดนดุ เอาไว้วันหลังก็ได้”
“มะ— ไม่ใช่หรอกครับ พ่อกับแม่กลับบ้านค่ำน่ะ ไม่มีใครบ่นหรอก แต่…”
อูฮยอนควรจะบอกไปตามตรงดีไหมนะ
เขาพูดเรื่องนี้กับรุ่นพี่มินฮยอนได้หรือเปล่า
“คือตอนเย็นผมจะไปกินข้าวบ้านไอ้พี่ซอง— เอ่อ บ้านพี่ซองกยูน่ะครับ แล้วถ้ากลับเย็นก็กลัวจะรอกัน ถ้ายังไง…”
อูฮยอนกัดปาก ทางออกที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ คงเป็นการบอกไอ้พี่ซองกยูให้รู้ล่ะมั้งว่าอูฮยอนจะกลับเย็น
“ผมแวะไปหาไอ้พี่บ้านั่นที่ชมรมฟุตบอลก่อนได้ไหมอ่ะครับรุ่นพี่ จะได้บอกว่าไม่ต้องรอกินข้าวเย็น เกรงใจที่บ้าน”
“อือ ก็โอเค ไม่เห็นเป็นไรนี่ ไปบอกซองกยูก่อนก็ได้ แต่แน่ใจนะว่าเขาไม่ได้กลับไปแล้ว”
“ยังไม่กลับหรอกครับ ช่วงนี้มันก็ซ้อมหนักเหมือนกัน ยังไงก็เจอ”
อูฮยอนพูดกับฮวังมินฮยอนอย่างมั่นใจ พวกเขาเดินผ่านมุมห้องชมรมไปโดยไม่รู้เลยว่า ที่มุมนั้น สายตาของคิมซองกยูมองตามมาด้วยแววตาที่อธิบายไม่ได้ และเด็กหนุ่มปากร้ายก็ยังยืนอยู่ตรงนั้นอีกหลายนาทีเพื่อที่จะให้แน่ใจว่านัมอูฮยอนที่เดินไปหาที่ชมรมจะไม่เจอเขา อูฮยอนจะได้เข้าใจว่าซองกยูกลับบ้านไปก่อนแล้ว ทั้งที่ความเป็นจริง ทางที่ซองกยูมุ่งหน้าไปในเย็นวันนี้ ไม่ใช่ทางเดียวกับที่เขาเดินกลับไปพร้อมกับนัมอูฮยอนในทุกเย็นวันธรรมดา
ซองกยูยังไม่พร้อมที่กลับบ้าน ยังไม่พร้อมที่จะทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น และหากจะพูดจากใจจริงเขาก็ยังไม่พร้อมที่จะยอมรับว่าตอนนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นเมื่อนัมอูฮยอนเลือกที่จะเดินไปในทางเดิมกับที่เคยเดินในทุกวัน เพียงแต่ว่าคนที่เดินไปด้วยกันบนเส้นทางนั้น ไม่ใช่คิมซองกยู คนที่เคยเดินอยู่ด้วยกันตลอดมาอีกแล้ว
TBC
มีแท็กแล้วค่ะ คิดออกแล้ว หลังผ่านไปห้าตอน 5555 ใครอ่านแล้วมีอะไรอยากบอก ชอบไม่ชอบยังไง ติดแท็ก #ข้างบ้านกยูอู บอกได้นะ ทุกความเห็นของทุกท่านจะมีส่วนช่วยในการปรับปรุงการทำงานของเราให้ดีขึ้น #ไม่ใช่ 555 ขอบคุณมาก ๆ สำหรับทุกคอมเมนต์และการแท็กในตอนที่แล้วและตอนต่อไปนะคะ หวังว่าฟิคเรื่องนี้คงทำให้คนอ่านสนุกได้ไม่มากก็น้อยเนาะ จะพยายามทำให้ดียิ่งๆขึ้นไปค่ะ ขอฝากพี่โคจังและฟิคปี2018 ไว้กับทุกคนด้วย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกัน เจอกันใหม่ตอนเจ็ดเน่อ ฝาก #ข้างบ้านกยูอู ไปจนจบด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ รักซ์ <3
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แบบนี้ก็ดีแล้วค่ะ ชอบความหน่วงแบบนี้จัง ขอบคุณนะคะ