ตอนที่ 30 : EP30 : การตัดสินใจ
Kiss Me Slowly
(Sunggyu x Woohyun)
Genre: AU School-Life
Rate: PG-13
EP30 – การตัดสินใจ
อูฮยอนเดินกลับบ้านตามลำพังโดยไม่ได้รอซองกยู เส้นทางเดินระหว่าง โรงเรียน – บ้าน เป็นเป็นเส้นทางที่เขาคุ้นเคยมาหลายสิบปี ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาอะไรไม่ว่าอูฮยอนจะเดินไปกลับคนเดียวหรือว่าไปกลับกับพี่ชายข้างบ้านของตัวเอง หรือแม้จะมีช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่อูฮยอนเดินไปและกลับกับรุ่นพี่ที่เป็นที่ชื่นชมซึ่งตอนนี้อยู่ในฐานะแฟนเก่าอย่างฮวังมินฮยอน
มีเรื่องราวหลายอย่างอยู่ในความคิดของหนุ่มน้อย และทั้งหมดนั่นก็ล้วนเกี่ยวกับตัวเองและคิมซองกยู แน่นอนว่าการเห็นไอ้พี่บ้านั่นอยู่กับคิมแจฮวานไม่ใช่สิ่งที่อูฮยอนจะชอบใจนัก แต่เขาก็ไม่ได้ไร้เหตุผลถึงขนาดจะโกรธคิมซองกยูด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องทำนองว่า ‘มึงบอกว่ามึงชอบกูแล้วไปกับเพื่อนมึงทำไม’ ถึงแม้ว่าจะมีชั่ววูบของความคิดที่อูฮยอนนึกอยากทำแบบนั้น แต่ที่สำคัญมากกว่าการแสดงความหวงคือการที่ได้เห็นซองกยูอยู่กับคิมแจฮวานทำให้อูฮยอนนึกไปถึงช่วงที่ตัวเองคบกับฮวังมินฮยอนและไอ้พี่เวรนั่นก็คงเสียใจไม่น้อยกับการต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจอยู่ทุกวัน
ก็… น่าสงสารอยู่หรอกนะ น่าเห็นใจด้วย แต่ก็สมน้ำหน้ามันอยู่เหมือนกัน อยากงี่เง่าปอดแหกไม่เข้าท่าเอง อูฮยอนน่าจะคบกับรุ่นพี่คนดังนั่นไปอีกสักครึ่งปีนะ ไอ้พี่เวรนั่นจะได้อกแตกตายไปเลย – น้องชายของซองกยูพูดอย่างใจร้าย นี่ถ้าไอ้พี่บ้านั่นมารู้ความคิดของนัมอูฮยอนเข้า คนปากหมาอย่างมันจะต้องบอกว่าอูฮยอนเป็นโรคจิตแน่ ๆ
ทุกวันนี้กูก็จะเป็นโรคจิตอยู่แล้ว เพราะชอบมึงนั่นแหละ!
นั่นคือสิ่งที่หนุ่มน้อยคิดอยู่ในใจ ดวงหน้าเล็ก ๆ หันมองไปทางด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เด็กหนุ่มแอบหวังอยู่ในใจว่ามันอาจเป็นไอ้พี่บ้าของตัวเองที่อาจนึกได้ว่าควรจะรีบไปตามหาอูฮยอนที่ชมรมดนตรีแล้ววิ่งตาลีตาเหลือกตามมา แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อเสียงฝีเท้าที่ว่านั่นเป็นเด็กประถมปลายคนหนึ่งที่อยู่ในละแวกบ้านเดียวกันและตอนนี้วิ่งผ่านอูฮยอนไปแล้ว
บางทีอูฮยอนอาจเคยชินกับการมองไปข้างหลัง ข้างหน้า ข้าง ๆ หรือแม้แต่ข้างไหนก็ตามแล้วพบคิมซองกยูเสมอจนพวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกันและกันตั้งแต่เด็กจนโต ถึงจะทะเลาะกันบ้างดีกันบ้าง แล้วก็มีหลายครั้งที่มีเรื่องกันหนักหนาจนลงมือลงไม้กัน แต่ทั้งเขาและซองกยูก็ยังอยู่ข้างกันไม่ไปไหน จนอูฮยอนแน่ใจว่าไม่ว่าจะเมื่อไรพวกเขาก็ยังคงเห็นกันและกันในสายตาเสมอ และเมื่อสถานะระหว่างเรากำลังจะเปลี่ยนไปอูฮยอนจึงอดกังวลไม่ได้ว่ามันจะเป็นผลดีหรือร้ายกับตัวเองกันแน่
ถ้ากูกับมึงเป็นมากกว่าพี่น้องข้างบ้านกันมันจะเป็นยังไงนะ เด็กหนุ่มถามตัวเองอยู่ในใจ ฝีเท้าที่กำลังเดินอยู่ชะงักไปราวกับอูฮยอนกำลังใช้ความคิด แล้วสุดท้ายอูฮยอนก็ถอนหายใจออกมาอีกรอบ ร่างเล็ก ๆ ในเครื่องแบบเด็กมัธยมปลายยืนพิงกำแพงบ้านที่เดินผ่าน หลับตา พลางพ่นลมออกจากปาก
บ้าชะมัด การมีความรักมันต้องวุ่นวายใจขนาดนี้เลยเหรอวะ ทำไมตอนคบกับฮวังมินฮยอนอูฮยอนถึงไม่เคยเป็นบ้าเป็นบอแบบนี้สักนิด จะมีก็แต่ความรู้สึกมีความสุขเหมือนอยู่ในความฝันที่สวยงามและสงบสุข ไม่เห็นเหมือนความรู้สึกตอนนี้เลยที่ทั้งสับสน กลัว และวุ่นวายใจไปหมด
มีแต่มึงเท่านั้นแหละคิมซองกยู ที่ทำกูเป็นบ้าเป็นบอได้แบบนี้
มีแค่มึงคนเดียวเลย
“ฉันกลับไปคืนดีกับพี่มินฮยอนแล้ว”
“ห๊ะ!” เสียงอุทานด้วยความแปลกใจของคิมซองกยูเกือบจะเรียกว่าเสียงตะโกนได้เลยทีเดียว “นายว่าไงนะ กับไอ้ตี๋ร้านข้าวมันไก่นั่นอ่ะนะ”
“เรียกแฟนคนอื่นให้มันดี ๆ หน่อย รุ่นพี่ซองกยู” แจฮวานพูดพลางทำหน้าบึ้ง เด็กหนุ่มยกแก้วน้ำอัดลมที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นดื่ม “พี่มินฮยอนเขาไม่ได้เป็นอะไรกับอูฮยอนแล้ว เลิกเหม็นขี้หน้าเขาสักที”
“ใครที่มาเข้าใกล้ไอ้อ้วนนั่นกูก็ไม่ชอบหน้ามันทั้งนั้นนั่นแหละ” ซองกยูพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น “ต่อให้เป็นคนที่เคยเอาสติกเกอร์รูปหัวใจแปะเสื้อนักเรียนให้มันตอนอนุบาลกูก็ไม่ชอบหน้า ไอ้อ้วนนั่นไม่ควรได้สติกเกอร์หัวใจจากใครหรือเป็นแฟนกับใครทั้งนั้นนอกจากกู”
“ขี้หวงชะมัดเลย”
“เออ กูขี้หวงกูรู้ตัว รู้มานานแล้วด้วย ว่าแต่เรื่องฮวังมินฮยอนเถอะ มันยอมคืนดีด้วยง่าย ๆ หรือไง แล้วไหนใครวะที่เคยบอกว่าไม่ได้อยากได้แฟนเก่าคืนอ่ะ”
“นั่นมันที่พูดตอนนั้น ส่วนนี่มันเรื่องตอนนี้” แจฮวานยักไหล่ ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะกลับมาเป็นคิมแจฮวานที่ยิ้มเย็นเวลาพูดกับคนอื่นอีกแล้ว จะมีที่ต่างไปจากเดิมก็ตรงที่ดวงตาของเขามีประกายแห่งความสุขและ ไม่ได้เต็มไปด้วยความเจ็บแค้นชิงชังเวลาพูดถึงชื่อฮวังมินฮยอนอีกแล้ว
“ส่วนเรื่องยอมกลับมาคืนดีง่าย ๆ ไหม ก็ไม่หรอก พี่มินฮยอนโกรธฉันอยู่ไม่น้อยเหมือนกันที่ทำกับเขาแบบนั้น”
“แล้วทำไง”
“ก็ไม่ทำไง ก็ขนเสื้อผ้าไปอยู่ด้วยอย่างที่เคยทำ เพราะยังไงคนอย่างหมอนั่นก็ไม่ใจร้ายกับคนอื่นอยู่ดี ง้ออยู่สองสามวัน แล้วก็กลับไปเป็นแฟนกันอีกรอบ”
“เอาแต่ใจฉิบหาย” ซองกยูหัวเราะการกระทำของเพื่อนรุ่นน้องที่ตอนนี้ความรักของทั้งซองกยูและอีกฝ่ายกำลังเป็นไปในทิศทางที่ดี “น่าสงสารฮวังมินฮยอน มีแฟนเหมือนคนเป็นโรคประสาท”
“เออ จริง ๆ ฉันอาจจะเป็นโรคประสาทอย่างที่ว่าก็ได้ เพราะแบบนี้ ฉันถึงต้องอยู่กับคนอย่างพี่มินฮยอนไง” แจฮวานพูดอย่างรู้จักตัวเองดี “แล้วนี่เรื่องอูฮยอนว่าไง”
“ก็ไม่ว่าไง”
“ไม่ว่าไงคือแห้วเหรอ เสียใจด้วยนะ รุ่นพี่ซองกยู”
“กวนตีนละคิมแจฮวาน ยังอยากมีชีวิตกลับไปหาแฟนเก่าที่เพิ่งกลับมาเป็นแฟนใหม่มึงอยู่ไหม”
“โหดเป็นบ้าเลย” แจฮวานหัวเราะเบา ๆ “ไปดีกว่า มาคุยด้วยแค่นี้แหละ จะบอกว่าฉันกับพี่มินฮยอนกลับไปคืนดีกันแล้วไม่ต้องกลัวว่าอูฮยอนกับแฟนเก่าจะรีเทิร์น เพราะฉันไม่มีทางยอมเสียฮวังมินฮยอนไปอีกครั้งแน่นอน”
“เออ เอาโซ่ล่ามไว้ด้วยก็ดี อย่าให้มันมาใกล้น้องกูอีก” ซองกยูพูดพร้อมกับทำหน้าหงิกจนแจฮวานหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน เด็กหนุ่มทำท่าจะเดินจากไป แต่แล้วก็ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และคำพูดที่แจฮวานทิ้งท้ายไว้ก็ทำให้คิมซองกยูรู้ว่า ตัวเองไม่ได้รู้ทุกเรื่องของนัมอูฮยอนเลย แถมเรื่องบางอย่างที่คิดว่ารู้ ยังเป็นเรื่องที่เขางี่เง่าคิดไปเองทั้งหมดอีกต่างหาก
“อ้อ มีเรื่องจะบอก ฉันคุยกับพี่มินฮยอนเรื่องเกมตอนงานวันเกิด แล้วก็รู้ว่าสองคนนั้น แฟนฉันกับน้องชายนาย ไม่เคยจูบกัน อูฮยอนโกหกเรื่องนั้นเพราะอะไรจนถึงตอนนี้พี่มินฮยอนก็ยังไม่รู้ แต่ฉันคิดว่านายน่าจะรู้คำตอบดีนะ รุ่นพี่ซองกยู”
“มึงเป็นอะไรของมึงน่ะ เดิน ๆ หยุด ๆ อยู่ได้ เป็นบ้าหรือไง”
เสียงที่ดังขึ้นทางด้านหลังพร้อมมือที่ยื่นมาผลักหัวอูฮยอนจนหน้าคะมำแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร
“ไอ้พี่กยู มึงตบหัวกูอีกแล้วนะ” น้องชายหันไปแว้ดใส่ เขาเดินมาตั้งนานจนเกือบจะถึงบ้านอยู่แล้ว ก็เจอกับคิมซองกยูที่เดินกลับมาจากโรงเรียนอีกทางพอดี
“หรือมึงจะให้กูทำอย่างอื่นอ่ะ” ซองกยูถามด้วยสีหน้ายิ้มแบบมีเลศนัย แล้วพอไอ้พี่เวรนี่มาไม้นี้ อูฮยอนก็รับมือไม่ค่อยจะได้เลย
“พอเลย ไอ้พี่กยูมึงไม่ต้องมาพูดกับกูแบบนี้เลย ปากดีนะมึงอ่ะ”
“กูก็ปากดีแค่กับมึงอ่ะ” พี่ชายสวนกลับมาทันควัน แล้วนี่ทำไมไม่รอกลับบ้านพร้อมกู”
ได้ยินคำถามนี้อูฮยอนก็เงียบไป จะให้บอกได้ยังไงล่ะว่าอยู่ ๆ ก็น้อยใจขึ้นมาที่เห็นพี่ชายไปกับคิมแจฮวาน ถึงตอนนี้จะคิดได้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นการทำให้อูฮยอนเข้าใจความรู้สึกที่ผ่านมาของซองกยูขึ้นบ้าง แต่ถึงยังไงก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดีนั่นแหละ
“…” อูฮยอนไม่ตอบ หนุ่มน้อยหยุดเดินเสียเฉย ๆ แถมยังหันหน้ามองซองกยู แล้วก็ทำหน้านิ่ง ดวงตาสีน้ำตาลที่มองมาแบบนั้นซองกยูรู้ดีเสียยิ่งกว่ารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังงอน แต่ก็นั่นแหละ คนอย่างไอ้อ้วนนี่เวลางอนเคยพูดอะไรเสียที่ไหน
“โกรธอะไรกูอีกอ่ะ หน้าย่นเป็นไอ้ดีดี้เลย”
“ไอ้เหี้ยพี่กยู กูไม่ใช่หมา” อูฮยอนแทบจะดึงเป้ที่สะพายหลังอยู่ออกมาฟาดไอ้พี่บ้านี่เข้าให้สักที มันจะมีใครในโลกนี้ที่ด่าว่าคนที่ตัวเองชอบหน้าเหมือนหมาได้เหมือนอย่างที่คิมซองกยูทำอีกไหมนะ
“แล้วถ้ามึงยังไม่หยุดพูดจากวนตีนกูอีกนะ กูจะไม่พูดกับมึงแล้ว”
“ตั้งแต่เด็กจนโตมึงบอกว่ามึงจะไม่พูดกับกูอีกแล้วมาเป็นพันครั้งแล้วอ่ะ มึงจะทำได้เหรอ”
“ไอ้..”
“…เหี้ยพี่กยู กูเกลียดมึง” ซองกยูต่อให้อย่างรู้ทัน “ครบยัง แต่กูว่าครบแล้วนะ มีอะไรจะด่ากูอีกมั้ย”
“กูไม่อยากพูดกับมึงแล้ว ไปไหนก็ไปเลยไป”
“จะให้กูไปไหนอะ ก็ทางเดินกลับบ้านกูอยู่ทางนี้เนี่ย” ซองกยูหัวเราะ แล้วพอเห็นน้องชายกระทืบเท้าทำท่าจะเดินหนีเขาก็รีบดึงสายเป้มันไว้ซะก่อน มือที่ตบหัวอูฮยอนจนหน้าทิ่มเมื่อครู่ก่อนก็เป็นมือข้างเดียวกับที่ยื่นไปจับหัวน้องชายแล้วโยกไปมาก่อนที่จะกอดคอมันไว้
“กูขอโทษก็ได้ หายโกรธหรือยัง ทีหลังจะไม่ด่ามึงเป็นหมาแล้ว”
“…”
“หมายถึงหมาตัวอื่นที่ไม่ใช่ไอ้ดีดี้อ่ะนะ เพราะว่ากูชอบมึง เท่าที่กับกูรักหมากูเลย”
ซองกยูเล่นมุกเพราะหวังจะให้คนเป็นน้องหัวเราะออกมาแต่ ดวงตาสีน้ำตาลก็ยังมองหน้าซองกยูแล้วทำหน้านิ่ง ไม่อยากยกโทษให้มันหรอก ไอ้พี่เวรนี่ก็เป็นแบบนี้ตลอด พอแกล้งให้โกรธแล้วก็มาง้อ ไอ้คำว่าขอโทษก็ได้ของมันน่ะ มันคำพูดของพี่ชายใจร้ายชอบแกล้งน้องชัด ๆ
แต่น้องชายที่โดนซองกยูแกล้งให้โกรธแล้วง้อทีหลังน่ะ ก็มีแต่นัมอูฮยอนคนเดียวในโลกไม่ใช่หรอกหรือ
“ไม่ด่ามึงเป็นหมูด้วยก็ได้เอ้า แล้วก็เดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นกูเลี้ยงไอติมแท่งนึง”
คนที่ตีหน้าบึ้งอยู่นานหลุดเสียงหัวเราะออกมาจนได้เมื่อได้ยินคำว่าไอ้ติม รู้ก็รู้อยู่หรอกว่าถูกซองกยูแกล้งแหย่และหลอกล่อด้วยของกิน และสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันก็เหมือนที่พวกเขาสองคนแสดงออกต่อกันตลอดมา ความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายกับน้องชายข้างบ้านที่สนิทสนมและไว้วางใจกันที่สุดคือสถานะที่มั่นคงที่สุดระหว่างเรา และมันก็เป็นเหตุผลของความยุ่งยากใจของนัมอูฮยอนอยู่ในขณะนี้ด้วยเช่นกัน
“หายโกรธกูแล้วดิ”
“กูไม่ได้โกรธพี่มึงสักหน่อยเลยเหอะ”
“ไม่ได้โกรธแต่หน้าหงิกขนาดนี้เนี่ยเหรอ”
“ใครจะหน้าบานเหมือนมึงตอนเดินไปโรงอาหารกับแจฮวานอะ” น้องชายหลุดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาจนได้ แล้วพอได้ยินแบบนี้ ซองกยูก็คิดว่าตัวเองพอจะรู้แล้วว่าสาเหตุที่ไอ้อ้วนนี่เดินกลับบ้านมาก่อนมันเป็นเพราะอะไร เด็กหนุ่มอมยิ้มมองหน้าคนที่เดินอยู่ข้างกันจนอูฮยอนถลึงตาใส่
“มึงยิ้มอะไร”
“ก็…” ซองกยูเดาะลิ้นอย่างกวนประสาท จะบอกว่ามั่นหน้าก็คงได้ที่คิดว่าคนเป็นน้องกำลังหึง
“ยิ้มเพราะคนขี้หวงแถว ๆ นี้มั้ง”
ไอ้เหี้ยพี่กยู มึง…
“ใครหวงมึง”
“ไม่รู้สิ คงมึงมั้ง”
“ไอ้…”
“จะด่าอะไรกูอีก อ่ะ ด่ามา กูตั้งใจฟังอยู่ ไม่เถียงด้วยอ่ะ”
“…”
“ตอบแทนที่วันนี้มึงทำตัวน่ารัก เพราะหึงกู”
“…”
เจอไม้นี่เข้าอูฮยอนก็ไปไม่เป็น จากที่เถียงซองกยูฉอด ๆ ไม่หยุดปากหนุ่มน้อยก็อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกจนคนเป็นพี่หัวเราะออกมาอีกครั้งจนได้
ไอ้อ้วนนี่มันน่ารักขนาดนี้ได้ยังไงนะ
“ทีหลังหวงก็บอกว่าหวงนะ ไอ้อ้วน จะได้ไม่ต้องเถียงกัน แล้วมึงก็จะได้ไม่ต้องทำหน้าย่นเป็นไอ้ดีดี้ให้กูล้อด้วย พี่กยู กูหวงมึงอ่ะ พูดแบบนี้ก็จบแล้ว”
“ใครเขาหวงพี่มึง หลงตัวเองนะมึงอ่ะ”
“หรือมึงอยากให้กูหลงมึง ก็ได้นะ มึงก็ทำตัวน่ารัก ๆ ดิ กูจะได้หลงไง” พี่ชายยังไม่วายวกกลับมาทำให้เขินอีกรอบ เรื่องที่ได้ยินมาจากแจฮวานทำให้ซองกยูอารมณ์ดีเสียจนอยากจะแกล้งแหย่ให้อีกคนเขินอีกหลาย ๆ รอบ
แต่เรื่องที่ซองกยูพูดมากลับเป็นสิ่งที่นัมอูฮยอนกำลังกังวลใจอยู่พอดี
“พี่กยู” น้องชายเรียกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่มีวี่แววของการต่อล้อต่อเถียงชวนทะเลาะอยู่ในดวงตาคู่นั้นของนัมอูฮยอนในตอนนี้จะมีก็แต่ความกังวลใจบางอย่างที่อูฮยอนยังไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้
แม้จะยังไม่เคยบอกว่าชอบคิมซองกยูอย่างตรงไปตรงมาสักครั้ง แต่หนุ่มน้อยก็รู้ดีว่าตัวเองรู้สึกเช่นไร และคิดว่าไอ้พี่บ้านี่มันก็ต้องรู้เหมือนกัน ช่วงนี้มันถึงได้ขยันแกล้งหาเรื่องมาพูดให้เขินแบบนี้
และก็เพราะว่าชอบ อูฮยอนถึงได้กลัว …
ว่าหลังจากนี้ เราสองคนจะเป็นอย่างไร
“อะไร”
ซองกยูถามพร้อมกับชะลอฝีเท้าลงจนเป็นหยุดเดิน พวกเขาสองคนยืนอยู่ไม่ระยะทางที่อีกไม่กี่นาทีจะถึงบ้าน บรรยากาศยามเย็นที่คุ้นเคยปกคลุมอยู่รอบตัวท่ามกลางสภาพแวดล้อมในละแวกบ้านที่คุ้นชิน ท้องฟ้าทวีความเข้มขึ้นเมื่อแสงสุดท้ายของวันกำลังจะลับไป ฝูงนกกำลังบินกลับรัง ราวกับเป็นการสิ้นสุดเรื่องราวในวันนี้เพื่อเริ่มต้นอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ความรู้สึกของคิมซองกยูและนัมอูฮยอนก็คงไม่ต่างจากการเริ่มต้นใหม่ แต่เพราะมันเป็นการเริ่มต้นในสิ่งที่ต่างออกไปจากที่เคย นั่นจึงทำให้อูฮยอนไม่มั่นใจเลยว่ามันจะดีสำหรับพวกเขาทั้งสองคน
“หลังจากนี้ มันจะเป็นยังไงเหรอ”
“มึงถามถึงเรื่องอะไรล่ะ”
“เรื่องของกูกับมึง” น้องชายพูดอย่างตรงไปตรงมา “ถ้าเราสองคน ไม่ได้เป็นแค่พี่ชายกับน้องชายข้างบ้านกัน”
“…”
“กูคิดมาตลอดสองสามวันนี้ว่าถ้าเราสองคนคบกัน เป็นมากกว่าที่เราเคยเป็น มันจะมีอะไรระหว่างเราบ้างที่เปลี่ยนไป กูคิดตั้งแต่เรื่องใหญ่อย่างจะบอกพ่อแม่ว่ายังไง ไปจนถึงเรื่องบ้าบอคอแตกอย่างกูจะเรียกมึงว่าไอ้เหี้ยพี่กยูต่อไปได้หรือเปล่า”
น้ำเสียงของนัมอูฮยอนสั่นสะท้านด้วยความหวั่นไหว มันไม่ง่ายเลยสำหรับการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่คุ้นเคยมาทั้งชีวิต และตอนนี้อูฮยอนก็กำลังกลัว และต้องการความมั่นใจ
และก็คงมีแต่คิมซองกยูเท่านั้น ที่จะตอบคำถามนี้ของนัมอูฮยอนได้
“ถ้ากูกับมึงเป็นมากกว่าพี่น้องกัน ถ้าเราเปลี่ยนไปจากคนที่เคยเอาแต่เถียงกัน ทะเลาะกัน ปากหมาใส่กัน ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้ว มันจะดีกับเราสองคนจริงเหรอ ไอ้พี่กยู”
TBC
โถดาวลูกกกกก ยังจำไม่มั่นใจอะไรอีก ถ้าเปนแม่มีคนกร๊าวใจขนาดพี่กยูมาชอบ แม่จะยอมเปนแฟนด้วยไปนานละ ไม่ๆ ไม่สิ ยอมเปนเมียเลยก็ได้ นี่ยังมาไม่มั่นใจอะไรอีก พะนี้ฟิคจะจบแล้ว อย่าเล่นตัวมากดาว เด่ะยาวจบไม่ลง 5555 พรุ่งนี้ฟิคจะจบแลวนะคะ โปรเจ๊กเดือนนึงอัพฟิคของเราก็จะจบแล้วเช่นกัน แล้วพอจบแล้วเราก็จะได้ขายของ อิอิ้ #พี่โคจังมึง ตามอ่านและรอดูกันนะคะว่า #ข้างบ้านกยูอู จะจบยังไง สุดท้ายแล้วเขาจะรักกันไหม หรือว่าเขาจะกลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม พะนี้จะมาอัพให้ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาทั้งเดือนแล้วก็ดีใจมากๆที่รออ่านกันทุกวัน พรุ่งนี้ก็ฝากตอนจบไว้แล้วก็ฝากเล่มที่จะทำไว้ในอ้อมอกอ้อมใจอ้อมกระเป๋าตังค์ด้วยค่ะอิ้อิ้ เจอกันพะนี้เด้อ ขอบคุณมากนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่กยูทำให้น้องมั่นใจด่วนๆ