ตอนที่ 29 : EP29 : คนสำคัญ
Kiss Me Slowly
(Sunggyu x Woohyun)
Genre: AU School-Life
Rate: PG-13
EP29 – คนสำคัญ
“เพราะกูจะทำให้มึงเห็นหลังจากนี้ไปว่าสำหรับกูแล้วมึงสำคัญกับกูมากแค่ไหน และกูจะทำให้มึงชอบกูมากกว่าการเป็นพี่ชายข้างบ้านของมึงให้ได้ทั้งที่กูเป็นคนแบบนี้ มึงคอยดูได้เลย นัมอูฮยอน”
เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ได้ที่อูฮยอนยอมรับว่าตัวเองกำลังใจสั่นกับคำพูดของพี่ชายที่รู้จักกันมาตลอดชีวิต ซองกยูพูดกับเขาด้วยสีหน้าจริงจังและอูฮยอนก็รู้ดีว่าทุกครั้งที่ไอ้พี่กยูมันตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างจนออกปากพูดแบบนี้ มันก็จะต้องทำจนกว่าจะสำเร็จให้ได้ ซึ่งนั่นก็รวมถึงการทำให้อูฮยอนชอบมันอย่างที่มันประกาศอยู่นี่ก็ด้วย …
เขินฉิบหายเลย!
“มึงไม่ต้องมาพูดดีเลย” อูฮยอนระงับความเขินของตัวเองด้วยการทำหน้าบึ้ง เด็กหนุ่มแกล้งเอามือผลักไอ้พี่ชายตัวดีที่สถานะระหว่างกันกำลังจะเปลี่ยนไป แต่ดูเหมือนว่าแรงผลักของอูฮยอนจะแรงไป ซองกยูยืนอยู่อย่างไม่ระวัง หรือไอ้พี่เวรนี่จะตอแหลเองก็ไม่แน่ เพราะซองกยูที่โดนผลักล้มลงไปกองอยู่บนพื้นจนอูฮยอนอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“เฮ้ย! ไอ้พี่กยู”
คนเป็นน้องรีบกุลีกุจอไปฉุดแขนพี่ชายให้ลุกคนจากพื้นห้องในขณะที่ซองกยูทำหน้าตาเหยเกราวกับเจ็บปวดซะเต็มประดา
“เจ็บอ่ะ ผลักกูทำไมเนี่ยอูฮยอน ไม่ชอบกูแล้วต้องทำกูเจ็บด้วยเหรอ ใจร้ายจัง”
น้ำเสียงที่พูดว่า ‘ใจร้ายจัง’ แถมยังทำท่าทางตัดพ้อแบบนั้นมันน่าหมั่นไส้เสียจนอูฮยอนอยากจะถีบเข้าให้สักที
“มึงไม่ต้องมาตอแหลเลยพี่กยู กูบอกว่าชอบคนใจดี ไม่ได้ชอบคนตอแหล” น้องชายว่าเข้าให้อย่างไม่เกรงใจ แต่ซองกยูจะรู้สึกอะไรเสียก็ดี
“กูตอแหลที่ไหนกัน ก็บอกว่าเจ็บไงเล่า มึงผลักกูล้มซะขนาดนี้คิดว่ากูไม่เจ็บหรือไง หนังกูไม่ได้หนาเป็นหนังหมูอย่างมึงนะไอ้อ้วน”
“ไอ้เหี้ยพี่กยู มึงว่ากูอีกแล้วนะ” น้องชายหัวร้อนขึ้นมาเมื่อโดนสะกิดต่อมว่าอ้วน จริง ๆ อูฮยอนก็ไม่ได้อ้วนอย่างที่ซองกยูพูดเลย แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเวลาโดนแหย่เรื่องนี้ทีไร คนขี้โมโหอย่างอูฮยอนก็หัวร้อนทุกที
“ก็กูเจ็บนี่”
“มึงเจ็บอะไร ล้มแค่นี้มึงเจ็บอะไร พูดอย่างกับกูไปทำมึงเลือดตกยางออกอ่ะ ทีตอนไปตีกับคนอื่นมาหน้าแหกไม่เห็นร้องว่าเจ็บซักแอะ มารยาน่ะสิมึงอ่ะ”
“มึงทำกูเจ็บได้มากกว่าใครทั้งนั้นอ่ะ ไม่รู้เหรอ อูฮยอน”
“…”
น้องชายทำหน้างงคล้ายจะไม่เข้าใจ แล้วในนาทีต่อมาเมื่อไอ้เหี้ยพี่กยูที่ตัวเองเรียกจับมืออูฮยอนไปวางแหมะไว้ตรงหน้าอกข้างซ้ายพร้อมกับพูดอะไรบางอย่างออกมามันก็ทำให้คนที่คนที่ทำหน้างงด้วยความไม่เข้าใจกลายเป็นหน้าร้อนขึ้นมาแทน
“เนี่ย คนที่ทำกูเจ็บได้ก็มีแต่มึง เพราะเป็นมึง กูถึงเจ็บ ตรงนี้...”
“อ่ะ ไอ้ ไอ้…”
คนที่ปกติแล้วจะสรรหาคำพูดสารพัดอย่างมาทั้งด่าทั้งเถียงพี่ชายตัวเองตอนที่ทะเลาะกัน ตอนนี้กลับเขินจนพูดอะไรไม่ออกเมื่อเจอคำพูดที่แสนจะปากดีของไอ้พี่เวรนี่เข้าไป
บ้าเอ้ย… ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันมันยังทำให้อูฮยอนเขินได้ขนาดนี้ แล้วหลังจากนี้ อูฮยอนจะไม่เขินตายวันละสามรอบเพราะมันเหรอ ทำไมไม่เคยมีใครเคยเตือนบ้างว่าคนปากหมาเวลาพูดจาหวาน ๆ ขึ้นมาแล้วมันจะชวนให้เขินขนาดนี้
“ทำไม เขินเหรอ”
“ใครเขินมึง” น้องชายตีหน้ายักษ์ใส่ มือที่ถูกซองกยูกุมไว้ร้อนวูบวาบไม่ต่างไปจากสองข้างแก้มเลย “ปล่อยมือกูได้แล้ว ไม่ต้องมาจับ”
“ไม่ให้กูจับแล้วให้กูจูบเหรอ ได้นะ”
“ไอ้เหี้ย!”
“ด่ากูจังเลย คำกูเหี้ยสองคำก็เหี้ย เขินก็บอกว่าเขินสิ ปากไม่ตรงกับใจเลยนะมึงอ่ะ กูชอบมึงกูยังบอกว่ากูชอบเลย”
“มึงเงียบไปเลยไอ้พี่กยู ก่อนที่กูจะด่ามึงอีกอ่ะ”
“ถ้ามึงด่ากูอีกรอบนะ…” ซองกยูพูดพร้อมกับยื่นหน้าไปใกล้น้องชายข้างบ้านจนอูฮยอนทำตาโต เบือนหน้าหนี เพราะเดาไม่ถูกว่าไอ้พี่ชายตัวดีของตัวเองจะมาไม้ไหนอีก
“กูจูบ”
“ไอ้…” อูฮยอนอ้าปากเตรียมจะด่า แต่เพราะคำพูดของซองกยูน่ากลัวเกินกว่าจะคิดว่ามันเป็นแค่คำขู่ คนเป็นน้องก็เลยต้องหุบปากได้แค่ตรงคำว่าไอ้ แล้วต่อคำพูดที่เคยปากได้แค่เพียงในใจ
บ้าเอ๊ย! นี่มันอะไรวะเนี่ย ทั้งที่ก็ทั้งพูดทั้งเถียงกันเป็นปกติทุกอย่างแต่กลับไม่เหมือนเดิมเลยเมื่อไม่มีกำแพงของการเป็นพี่น้องมาขวางกั้นเราสองคนไว้อย่างที่เคยเป็น การได้เปิดเผยความรู้สึกกับคนที่อยู่ในใจเราตลอดมาโดยไม่ต้องกลัวหรือพะวงอะไรอีกมันดีแบบนี้เองสินะ
“ไอ้อะไร แน่จริงก็ด่ากูดิ อ่ะ ด่ามา”
“…”
“แต่กูก็จูบจริงนะ บอกไว้ก่อน หรือจะลอง” ซองกยูแกล้งแหย่ด้วยการยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนอูฮยอนต้องเอามือยันหน้ามันไว้
“พอเลย ไม่ต้องมาปากดีใส่กูเลย ไอ้พี่กยู พอ!”
เห็นน้องชายเขินจนหูแดงแบบนั้นซองกยูก็หัวเราะออกมา ไอ้อ้วนนี่เวลามันเขินก็น่ารักเหมือนกันแฮะ ทุกทีเคยเห็นแต่เวลามันโมโหที่โดนแกล้งแล้วทำหน้าบึ้งหน้างอที่เห็นทีไรแล้วซองกยูก็อดไม่ได้สักคราวที่จะทำให้มันยิ่งโกรธมากขึ้น เพิ่งรู้วันนี้นี่เองว่าเวลาแกล้งให้มันเขินก็สนุกไม่น้อยไปกว่าตอนที่แกล้งแหย่ให้มันโกรธแล้วตามง้อทีหลังเลย
เวลาอยู่กับมึงสองคน อะไรก็ดีไปหมดทั้งนั้นแหละนะ
“แล้วนี่มึงมีอะไรอีกไหม กลับไปได้แล้ว กูจะทำการบ้าน มากวนอยู่ได้ ไป!” น้องชายออกไปไล่หลังจากตั้งสติแล้วลุกขึ้นยืนได้ ผู้เป็นเจ้าของห้องเดินกลับไปที่โต๊ะเขียนหนังสือที่นั่งอยู่เมื่อหลายนาทีก่อนพร้อมกับพยายามควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ
“ไล่กูจังเลย”
“ก็กูจะทำการบ้านมะ พี่มึงไม่ต้องทำหรือไง”
“เออ กูก็มีการบ้านนี่หว่า ไปก็ได้”
“ดี ไปเร็ว ๆ เลยมึงอะ ไป๊!” อูฮยอนแกล้งไล่เมื่อเห็นว่าซองกยูลุกขึ้นเตรียมตัวจะเดินกลับบ้านอย่างที่บอก แต่หนุ่มน้อยไม่คิดเลยว่าทั้งที่จะออกไปอยู่แล้วแท้ ๆ แต่ไอ้พี่เวรนี่ก็ยังจะอุตส่าห์หยอดคำพูดชวนเขินให้อูฮยอนใจสั่นต่อไปอีกหลายนาทีอย่างช่วยไม่ได้
“กูไปก็ได้ มึงก็ทำการบ้านไปแล้วกัน แล้วก็คืนนี้อ่ะ…”
“…”
“ฝันถึงกูบ้างก็ได้นะ เพราะว่ากูก็จะฝันถึงมึง”
ไอ้เหี้ยพี่กยู ไอ้บ้าเอ๊ย! หน้ากูร้อนกว่าฤดูร้อนทั้งปีของประเทศเกาหลีแล้วเนี่ย!
“แหม มีความสุขจังนะครับมึง หน้างี้บานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทำไม อูฮยอนรับรักมึงแล้วไง๊”
“เรื่องกูเหอะไอ้แอล เสือกจังอ่ะมึงอ่ะ” ซองกยูใช้เท้ายันเข้าไปที่ต้นขาของไอ้แอลเพื่อนรักที่นั่งพักอยู่หลังเสร็จจากการซ้อมบอลด้วยกัน ดูเหมือนว่าวันนี้ทั้งวันความอารมณ์ดีของซองกยูมันจะแสดงออกมานอกหน้าไปหน่อยพอได้จังหวะเหมาะมีเวลานั่งคุยกัน คิมมยองซูก็เลยจะมาจัดการ “ซักฟอก” สักหน่อย
“เขาไม่ได้เรียกว่าเสือกครับมึงเพื่อน อย่างกูเขาเรียกว่าหวังดีและมีความอยากรู้”
“แถวบ้านกูเรียกเสือกอ่ะ ง่าย ๆ”
“อ่ะ มึงจะเรียกอะไรก็ได้ แค่เล่ามาก็พอ ยังไง น้องมึงอ่ะ อูฮยอนกับมึง เคลียร์กันรู้เรื่องแล้วดิ”
“ยัง กูกับมันก็ยังเป็นพี่น้องกันอยู่”
“โถ่ไอ้ควาย คิดว่าจะแน่ ที่แท้ก็ยังป๊อด” มยองซูที่ทำหน้าลุ้นอยู่ถึงกับเซ็งเมื่อซองกยูเล่าเรื่องให้ฟัง “ตั้งแต่วันนั้นละ เห็นลากกันไปขนาดนั้นกูคิดว่าคืนนั้นยังไงต้องมีอะไรแน่นอนอ่ะ ที่แท้ก็แห้วแดก แอบชอบน้องมึงต่อไปเหอะ ไม่ทำไรสักอย่างก็รอหมาคาบไปแดกอีกรอบแล้วกัน”
“มึงนี่ก็ดูถูกกูจังอะ สัดแอล ไม่ได้แอบโว้ย กูสองคนก็เคลียร์กันแล้วมะ แค่ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน”
“ร้ายกาจ” มยองซูทำเสียงเลียนแบบตัวละครในภาพยนตร์เรื่องดัง “ไม่ได้เป็นแฟนแต่ข้ามขั้นไปเลยแบบนั้นป๊าว ได้กันยัง”
“สัดแอล มึงกวนตีนมากไปละ เดี๋ยวโดน” ซองกยูขยับเท้าอีกรอบ แต่เขาก็หัวเราะออกมาอย่างนึกขำกับคำพูดนั้น เออ จะว่าไปแล้วความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนัมอูฮยอนก็จัดอยู่ในประเภทที่เรียกว่าข้ามขั้นได้เหมือนกันนะ เพราะจากที่เป็นพี่น้องกันมาตลอดชีวิตอยู่ ๆ วันหนึ่งต่างคนต่างเปิดเผยความรู้สึกว่าคิดเกินเลยคำว่าเป็นพี่น้องตลอดมาแล้วตอนนี้ก็เหมือนจะกำลังก้าวไปสู่สถานะของการเป็นคนรักโดยที่ไม่เคยแม้แต่จะคบหาดูใจกันมาก่อนด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นซองกยูคนเดียวที่บอกว่าชอบไอ้อ้วนนั่นก็เถอะ
“แล้วฮวังมินฮยอนอ่ะ”
“มันก็อยู่ส่วนมันไง มึงไปพูดถึงมันทำไมเนี่ย”
“แต่มินฮยอนคบกับอูฮยอนอยู่ไม่ใช่เหรอ วันนี้กูเดินสวนกับมันบนตึก ก็เห็นหน้าตาปกติดี ไม่ได้จะมีท่าทางอกหักอะไร ยังคิดอยู่เลยว่าคนที่ดูเป็นคนอกหักเพราะน้องชายข้างบ้านไม่รับรักก็คงมีแต่มึงอ่ะ”
“นี่กูเพื่อนมึงไง เข้าข้างกูบ้างก็ได้ไอ้แอล”
“ให้กูเข้าข้างไหนมึงอ่ะ ข้างหลังอ่อ ไม่เอาอ่ะ กูไม่อยากเป็นรุก เกรงใจเพื่อน”
“จัญไรละไอ้ควาย พอเลย พอ ๆ กูไม่พูดเรื่องนี้กับมึงแล้ว”
“ไม่พูดกับกูเพราะไม่อยากพูดหรือจะรีบกลับบ้านพร้อมน้องชายสุดที่รักกันแน่ครับเพื่อน ชมรมดนตรีเลิกหกโมงเย็นนะครับเผื่อจะลืม”
“กูไม่ลืมอ่ะ มึงไม่ต้องมาเสือก ไปเลยไป กูจะกลับบ้านแล้ว”
ซองกยูพูดพร้อมกับแยกย้ายจากเพื่อนรักที่ข้างสนามบอล เด็กหนุ่มเดินไปที่ล็อกเกอร์เก็บของเพื่อจัดการกับสัมภาระของตัวเองหลังจากนั้นจึงตั้งใจว่าจะเดินไปรอนัมอูฮยอนที่ชมรมดนตรีเพื่อเดินกลับบ้านพร้อมกัน เพราะอูฮยอนจะซ้อมดนตรีเสร็จตอนหกโมงเย็น ซึ่งมันก็หลังจากนี้อีกเกือบครึ่งชั่วโมง
แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความบังเอิญที่แฝงไปด้วยโชคร้ายสำหรับซองกยูอยู่สักหน่อย เมื่อตอนที่เขาเดินออกมาจากห้องเก็บของของชมรมฟุตบอลแล้ว ซองกยูเจอกับแจฮวานเข้าพอดี
“แจฮวาน ไปไหนอ่ะ”
“ไม่ได้ไปไหนอ่ะ ตั้งใจจะมาหานาย มีเรื่องจะคุยด้วย”
“ตอนนี้อ่ะเหรอ” ซองกยูเงยหน้ามองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่หน้าตึก ดูจากเวลาแล้วเขายังมีเวลาอีกพอสมควรในการพูดคุยกับคิมแจฮวาน ไม่ว่าเพื่อนของเขาจะมีอะไรอยากพูดด้วยก็ตาม
“ตอนนี้อ่ะเหรอ”
“อือ ไม่นานหรอก มีเรื่องจะถามหน่อย”
“ได้ งั้นไปคุยกันที่โรงอาหารแล้วกัน ร้านขายเครื่องดื่มน่าจะยังเปิดอยู่”
ซองกยูบอกกับแจฮวานแบบนั้นก่อนที่พวกเขาสองคนจะเดินไปที่โรงอาหาร แต่ซองกยูคงไม่รู้ว่าที่มุมหนึ่งหน้าบันไดตึกกลางน้องชายข้างบ้านของเขา นัมอูฮยอน ที่วันนี้เสร็จจากการซ้อมดนตรีเร็วกว่าปกติเกือบครึ่งชั่วโมง เดินลงบันไดมาแล้วเห็นซองกยูกับแจฮวานเดินไปหลังโรงเรียนด้วยกันเข้าพอดี …
ใบหน้าที่เพิ่งมีรอยยิ้มเกิดขึ้นและเสียงเรียก ‘ไอ้พี่กยู’ ที่กำลังจะออกมาจากปากกลับหายไปในทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ข้างซองกยูคือใคร
อูฮยอนเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้เองว่าการที่คนที่ตัวเองชอบอยู่กับคนอื่นโดยที่มองไม่เห็นเราอยู่ในสายตามันเป็นเช่นไร และอาจจะเป็นเพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้เองก็ได้ที่ทำให้อูฮยอนเลือกที่จะเดินกลับบ้านคนเดียวโดยไม่รอพี่ชายข้างบ้านของตัวเองเดินกลับด้วยกันอย่างที่ตั้งใจไว้ …
TBC
ดราม่าส่งท้ายดีรึมั่ย ดราม่ากันอีกรอบดีไม่ดี ให้คุ้กกี้ทำนายกัน #อะไร อยากจะเขียนเขามุ้งมิ้งๆกันอีกเยอะๆเลยค่ะ แต่เนื่องจากว่าเนื้อเรื่องมันปูมาตั้งแต่แรกให้เขาเป็นคู่กัดกันมาตลอดชีวิต จะมาหวานเว่อก็จะหลุดคาแรกเท่อไปหน่อย แล้วก็เลยออกมาเป็นหวานแบบด่ากันไปมา 555 ชอบคสพ.แบบนี้จังเลยค่ะ อยากมีสักคน ขอสักคนที่หน้าเหมือนพี่กยูและปากเสียแบบนี้ อิ้ รักพี่เขาจังเลยค่ะ จะปากเสียปากหมายังไงก็รัก อิจฉานังลูกเราละเกินชาติก่อนสงสัยไปรบกู้ชาติมา ชาตินี้เลยมีพี่เขาเปนของตัวเอง อยากจะได้ไว้เองสักคนนะคะ พะนี้มาดูกันค่ะว่าจะเป็นยังไงต่อ และเขาจะได้รักกันดีๆหรือตีกันไปยันตอนจบ ให้คุ้กกี้ทำนายกัน #พอ ฝากแท็ก #ข้างบ้านกยูอู ด้วยเด้อ ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาถึงตอนนี้นะคะ อีกสองตอนก็จบแล้ว อยู่ด้วยกันไปถึงตอนจบเลยเน่อ ขอบคุณมากค่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อีก2วันจะจบแล้วยังแกล้งให้น้องเสียใจอีก เด่วเถอะ!!!!
-พี่กยูต้องรีบไปง้อนะ อย่าให้น้องเสียใจนาน เข้าใจไหมมมมมมมมมมม!!!!