ตอนที่ 17 : EP17 : ระยะห่าง
Kiss Me Slowly
(Sunggyu x Woohyun)
Genre: AU School-Life
Rate: PG-13
EP17 – ระยะห่าง
ซองกยูกลับบ้านเมื่อค่ำมากแล้ว พอเห็นซองกยูเดินเข้าบ้านมาแม่ก็ถามว่าจะให้อุ่นกับข้าวให้ไหม แต่พอลูกชายหัวดื้อบอกว่าไม่หิวคุณนายคิมก็หน้าหงิก
“อุตส่าห์แบ่งไว้ให้ ดันไม่กินซะงั้น ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้แม่เอาไปให้อูฮยอนซะก็ดี จะได้ไม่ต้องเหลือให้ลูกไม่รักดีอย่างแก” แม่ตั้งท่าจะบ่นต่อไปอีกยืดยาว และซองกยูก็คร้านที่จะฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะชื่อของใครบางคนที่แม่เพิ่งพูดออกมา
ไอ้อ้วนนั่น มันกลับมาถึงบ้านก่อนเขาอีกหรือไงนะ
คิดว่าจะไปกับไอ้ตี๋ร้านข้าวมันไก่นั่นแล้วจะกลับมาช้ากว่านี้เสียอีก
“แม่เจอไอ้อ้วนนั่นแล้วเหรอ เย็นนี้น่ะ”
“เจอแล้ว แม่รดน้ำต้นไม้อยู่แล้วอูฮยอนกลับมาพอดี ยังถามเลยว่าทำไมแกไม่กลับมาพร้อมกัน ก็เลยรู้ว่าแกยังซ้อมบอลไม่เลิก”
ซองกยูเงียบไปเมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากคนเป็นแม่ ไอ้อ้วนนั่นคงรู้ดีพอกับที่ซองกยูรู้ว่าถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอมาอ้างว่าทำไมถึงกลับบ้านค่ำ แม่ก็จะบ่นเอา แล้วยิ่งถ้าแม่อารมณ์ไม่ดีแล้วจากที่บ่นก็จะอัพเลเวลเป็นด่า ไอ้อ้วนนั่นก็เลยช่วยหาขออ้างไว้ให้
อืมม… ต้องขอบคุณสินะ
“แล้วนี่แกจะไปไหน ไม่เอาเสื้อไปคืนน้องมันหรือไง เสื้อวอร์มที่ใส่อยู่นั่นน่ะ ของอูฮยอนไม่ใช่เหรอ” แม่ถามขึ้นมาเมื่อเห็นเสื้อวอร์มที่ซองกยูพาดบ่าไว้
“ก็ใช่ไง”
“งั้นก็เอาไปคืนน้อง ยืมของคนอื่นมาแล้วก็เอาไปคืนสิ ไอ้ลูกคนนี้”
“อะไรเนี่ยแม่ เดี๋ยวก็เอาไปคืนเองแหละน่า มันยังไม่ได้ทวงสักหน่อย เอาไว้ก่อน”
ซองกยูพูดอย่างเบื่อแม่ตัวเองขึ้นมาหน่อย ๆ อะไรที่เป็นของอูฮยอนหรือเกี่ยวกับอูฮยอนเป็นไม่ได้เลย แม่เขาจะเข้มงวดกวดขันอย่างกับไอ้อ้วนนั่นเป็นลูกที่ตัวเองคลอดมา ส่วนซองกยูก็เป็นคนที่แม่ด่าเช้าด่าเย็น
“ไม่ได้” คุณนายคิมตวาดแว้ด “ยืมของเขามาแล้วก็ต้องรีบเอาไปคืนสิ จะมาเอ้อระเหยลอยชายเก็บไว้ได้ยังไง ตอนน้องมันเอามาให้แกมันยังเอามาฝากแม่ไว้ไม่ลีลาท่ามากอย่างแกเลย เอาไปคืน”
“แม่อ่ะ…” ซองกยูทำเสียงโอดครวญ ที่จริงแล้วก็ไม่ได้อยากจะขัดคำสั่งแม่ให้โดนด่าเลย แต่มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่ซองกยูยังไม่อยากเจออูฮยอนตอนนี้
“ไม่ต้องมาแม่องแม่อ่ะ ไปเลย ไอ้ลูกเวร เอาของไปคืนน้อง ยังจะมาลีลาอยู่อีก ไปเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ไปแม่ก็จะด่าแกอยู่แบบนี้แหละ จะตามขึ้นไปด่าถึงบนห้องด้วย จะลองดีก็เอา”
เพราะประกาศิตจากแม่ที่สั่งให้เอาของมาคืน ซองกยูก็เลยต้องเดินหน้าหงิกมาบ้านหลังติดกัน
“เอาวางไว้ในห้องแล้วให้มันมาเห็นเองดีป่ะวะ แต่ก็ไม่ได้อีกแหละ ขืนแม่รู้ว่าทำแบบนั้นก็โดนด่าตายห่า” ซองกยูพูดเองเออเอง เขาก้าวเท้าจะเดินขึ้นบันไดไปห้องอูฮยอนที่ชั้นสอง แต่คนเป็นน้องเดินลงบันไดมาเสียก่อน
“พี่กยู”
“เออ กูไง เอาเสื้อมาคืน” ซองกยูพูดพร้อมกับโยนเสื้อวอร์มที่ยืมมาให้อูฮยอนไป น้องชายรับไปโดยไม่พูดอะไร เพราะนับตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นหน้าพี่ชายข้างบ้าน คำที่พูดกับฮวังมินฮยอนไว้ก็ดังขึ้นมาในหัวแทบจะพร้อมกัน
‘ตั้งแต่วันนี้ไป อย่าอยู่ใกล้คิมซองกยูอีกได้ไหม’
‘ให้พี่เป็นคนเดียวที่อยู่ใกล้ชิดกับนายที่สุดทั้งในฐานะพี่ชายและในฐานะแฟน นายให้พี่ได้ไหม นัมอูฮยอน’
จะทำอย่างไรดี …
“พี่มึงถึงบ้านนานแล้วเหรอ คุณป้าบ่นหรือเปล่า”
“ก็นิดหน่อย” ซองกยูยักไหล่ “ขอบคุณมึงด้วยแล้วกันที่แก้ตัวแทน ถึงแม้ว่ากูจะซ้อมบอลเสร็จนานแล้ว แต่กลับบ้านช้าเพราะไปกินขนมกับแจฮวานมาก็เถอะ”
ชื่อของเพื่อนใหม่ที่ออกจากปากซองกยูทำให้อูฮยอนเม้มปากเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว
ไม่ชอบเลย
ไม่ชอบความรู้สึกของตัวเองตอนนี้เลย
เห็นแก่ตัวจริง ๆ เลยนะ นัมอูฮยอนน่ะ
“พี่มึงไปกินขนมกับเขา… เอ่อ กูหมายถึงแจฮวานมาเหรอ พวกพี่รู้จักกันมานานแล้วเหรอ ดูสนิทกันดีนี่”
คำพูดนั้นมีสำเนียงประชดประชันแฝงอยู่แต่คนความรู้สึกช้าอย่างคิมซองกยูจะรู้ตัวเสียก็ดี แล้วก็คงจะไม่รู้ตัวไปอีกนานเหมือนการที่ตัวเองไปจูบน้องชายข้างบ้านเข้าแล้วขอโทษง่าย ๆ ด้วยการบอกว่าเมาและไม่ตั้งใจนั่นแหละ
“ก็ไม่นานเท่าไร แต่ถามว่าสนิทกันไหม ก็มั้ง แจฮวานก็เป็นคนง่าย ๆ คุยด้วยก็สนุกดี”
“…”
เป็นครั้งที่เท่าไรของวันนี้แล้วก็ไม่รู้ที่อูฮยอนเม้มปากตอนที่ได้ยินชื่อ ‘คิมแจฮวาน’
“ก็ดีแล้วนี่ คนปากหมาอย่างพี่มีเพื่อนบ้างก็ดี ทุกวันนี้กูก็เป็นห่วงมึงว่าจะปากหมาจนไม่กล้ามีใครเข้าใกล้ มีเพื่อนใหม่ก็ดีแล้ว อย่าปากหมาใส่เขาเหมือนที่ทำกับกูก็แล้วกัน”
ไม่รู้ว่าอูฮยอนจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าคำพูดยืดยาวของตัวเองประกอบไปด้วยความประชดประชันมากแค่ไหน
“เออ ไม่ต้องห่วงกูหรอก กูไม่ทำกับคนอื่นเหมือนที่ทำกับมึงหรอก เพราะคนอื่นเขาไม่น่าเบื่อน่ารำคาญอย่างมึงไง”
ซองกยูสวนกลับไปบ้าง การปะทะคารมของสองพี่น้องกำลังจะเริ่มขึ้นอีกแล้วเหมือนที่เคยเกิดขึ้นนับครั้งไม่ได้ แต่ที่ต่างไปคือตอนนี้ทั้งอูฮยอนและซองกยูไม่ได้สาดคำพูดแรง ๆ ใส่กันเพราะต้องการแกล้งแหย่หรือกวนประสาทกันอย่างที่เคยทำ แต่ต่างคนต่างหาคำพูดร้าย ๆ มาพูดใส่กันเพราะอยากประชดประชันเนื่องจากความน้อยใจ
แต่ไม่มีใครสักคนจะกล้ายอมรับกับตัวเองว่ากำลังน้อยใจโดยมีความหวงแหนซึ่งกันและกันเป็นเหตุผล
“พี่รำคาญกูก็ไม่ต้องมายุ่งกับกู”
“ใครเขาจะอยากยุ่งกับมึง มีแต่มึงไม่ใช่หรือไงที่มายุ่งกับกู ถามเรื่องแจฮวานทำไม กูจะรู้จักเขามานานไม่นานสนิทกันหรือไม่แล้วยังไง สนใจเรื่องของมึงกับไอ้ตี๋ร้านข้าวมันไก่แฟนมึงไปสิ มันดีกับมึงนักไม่ใช่หรือไง”
“ใครก็ดีกับกูทั้งนั้นถ้าเทียบกับพี่ ไม่มีใครเขาใจร้ายกับกูเหมือนมึงหรอก ไอ้เหี้ยพี่กยู” คนเป็นน้องตะโกนใส่หน้าก่อนทำท่าจะวิ่งกลับขึ้นบันไดไปชั้นสอง แต่ซองกยูก้าวเท้าไปดึงแขนขาว ๆ นั่นเอาไว้เสียก่อน
“โอ๊ย พี่กยู กูเจ็บนะ!”
น้องชายหันมาแหวใส่ แต่ที่มันพูดน่ะ ซองกยูก็อยากจะบอกเหมือนกันว่าตัวเองก็เจ็บเหมือนกัน
ถึงไม่ใช่ที่แขนเหมือนมัน แต่ก็เป็นที่ใจ
ใช่สินะ เพราะซองกยูเป็นแบบนี้ ไอ้อ้วนนี่ก็พูดแบบนี้ตลอดมาอยู่แล้ว ซองกยูที่ปากร้าย ใจร้าย แล้วก็มีแต่ทำเรื่องแย่ ๆ กับมัน แต่นัมอูฮยอนจะรู้หรือเปล่าว่าคนที่ซองกยูทำแบบนี้ด้วยก็มีแค่มันคนเดียว
เพราะว่าเป็นนัมอูฮยอน …
“เรื่องของมึง กูก็เป็นของกูแบบนี้แหละ แล้วมึงก็ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะว่ากูจะทำกับเพื่อนใหม่กูเหมือนที่ทำกับมึง เพราะแจฮวานเขาไม่เหมือนมึง แล้วกูก็จะไม่ปากหมาใส่เขาเหมือนที่ทำกับมึงแน่นอน”
ใช่… เพราะคิมแจฮวานเป็นคนอื่นสำหรับคิมซองกยู คนที่ไม่มีความสำคัญอะไรเลย เทียบกันไม่ได้สักนิดกับคนที่ทำให้ซองกยูทั้งอารมณ์ดีที่สุดและหงุดหงิดได้ถึงที่สุดอย่างน้องชายข้างบ้านของเขา
“ก็ดีแล้ว” ดวงตาสีน้ำตาลมองคนพูดด้วยสายตาว่างเปล่า อูฮยอนแข็งใจสบตากับดวงตาแข็งกร้าวของพี่ชายข้างบ้านโดยที่กลั้นความน้อยใจของตัวเองเอาไว้ไม่ให้แสดงออกมา
“พี่มีเพื่อนใหม่ก็ดีแล้ว แล้วกูก็ดีใจมากด้วยที่พี่มึงรู้จักการทำดีกับคนอื่น ทีนี้พอใจหรือยัง ปล่อยกูได้ยัง”
คำพูดทั้งหมดนั้นมีความรู้สึกที่แท้จริงของคนพูดอยู่น้อยนิดเหลือเกิน อูฮยอนไม่เคยดีใจเลยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และเขาก็ยอมรับว่าตัวเองทั้งน้อยใจและอิจฉาที่เพื่อนใหม่อย่างคิมแจฮวานไม่ต้องเจอกับความใจร้าย ปากเสีย และกวนประสาทของซองกยูอย่างที่ตัวเองพบเจอตลอดมา
แต่นัมอูฮยอนก็คงไม่รู้ว่าตัวเองน่าอิจฉาแค่ไหนสำหรับคิมแจฮวานด้วยเช่นกัน ที่มีคนเจ็บปวดร้อนหนาวกับทุกเรื่องของเราอย่างที่คิมซองกยูเป็น
พวกเขาจ้องหน้ากันด้วยสายตาว่างเปล่า ดูเหมือนระยะห่างระหว่างเราจะมากขึ้นทุกที และหากทำได้ทั้งอูฮยอนและซองกยูก็คงเลือกที่จะกลับไปเป็นแบบเดิมที่พวกเขาเป็นพี่น้องที่สนิทใจต่อกันโดยไม่มีความรู้สึกชวนสับสนหลายต่อหลายอย่างเกิดขึ้นอย่างทุกวันนี้ แต่มันก็คงไม่มีทางที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
ไม่มีอะไรเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว นับตั้งแต่วันที่เส้นกั้นบางอย่างระหว่างเราพังลง และตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่กำแพงผุพังที่ทั้งอูฮยอนและซองกยูพยายามยื้อไว้เพื่อปกป้องหัวใจตัวเอง
ซองกยูปล่อยแขนคนเป็นน้องออก ความรู้สึกบางอย่างยิ่งตอกย้ำให้ใจเจ็บเมื่อดูเหมือนไอ้อ้วนนี่จะไม่เคยรู้ตัวเลยว่ามันมีความสำคัญกับซองกยูแค่ไหนและสิ่งที่นัมอูฮยอนต้องการไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างคิมซองกยูเป็น มีแต่คนอย่างฮวังมินฮยอนเท่านั้นที่จะให้มันได้ แต่ความเจ็บในใจตอนนี้ของซองกยูเทียบกันไม่ได้เลยกับประโยคสุดท้ายที่อูฮยอนพูดทิ้งไว้ก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง หลังจบคำเรียกคำเรียกห่างเหินที่ซองกยูแทบจำไม่ได้แล้วว่าอูฮยอนเรียกเขาแบบนี้ครั้งล่าสุดเมื่อไร
“พี่มีเพื่อนใหม่ ผมมีแฟน ก็ดีแล้ว เราจะได้ไม่ต้องเจอหน้ากันบ่อยแล้วเถียงกันด้วยเรื่องไม่เข้าท่าอีก จากนี้ไปพี่ก็อยู่กับเพื่อนใหม่ ส่วนผมก็จะอยู่กับแฟน เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนะ พี่ซองกยู”
ระยะห่างของเราสองคนมากขึ้นทุกวันแล้ว และตอนนี้มันก็อาจจะถึงที่สุดของความห่างเหินนั่นแล้วก็ว่าได้ เมื่อ ‘ไอ้พี่กยู’ คนที่เคยอยู่ใกล้ชิดอูฮยอนที่สุด จะกลายเป็น ‘พี่ซองกยู’ ที่เป็นได้เพียงพี่ชายข้างบ้านที่ความสำคัญลดน้อยลงไปทุกที
TBC
วันนี้วงผัวชนะด้วยโอ้ยยย ดีใจจนแทบลงไปดิ้นบนพื้นเลยค่ะ ดีใจมาก ๆ ทุกคนเก่งมาก นี่อยากฉลองด้วยการอัพฟิคสองตอนเลย แต่ก็กลัวตัวเองจะตายซะก่อน เอาเปนว่าพะนี้ก็มาลุ้นถ้วยด้วยกันอีกนะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกัน ฝาก #ข้างบ้านกยูอู ต่อไปเรื่อยๆเลยนะคะ ขอบคุณมากค่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เเต่ก็เข้าใจว่าน้อยใจ เเถมคิดว่าจูบกับมินฮยอนไปอีก สู้นะคะพี่
รักความเกรี้ยวกราดของคุณนายคิมจุง5555