ตอนที่ 10 : EP10 : ระหว่างเรา
Kiss Me Slowly
(Sunggyu x Woohyun)
Genre: AU School-Life
Rate: PG-13
EP10 – ระหว่างเรา
“มึงไม่โกรธกูจริง ๆ เหรอ”
“…”
“ที่กูจูบมึง”
มันอาจดีกว่าถ้าซองกยูไม่พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก แต่อย่างไรก็ตามเขาก็พูดมันไปแล้ว แถมคำพูดของซองกยูยังมีผลเป็นอย่างยิ่งกับคนฟังเสียด้วย
เพียงแต่ว่าอูฮยอนแสดงมันออกมาไม่ได้ก็เท่านั้นเอง
“กูจะโกรธพี่มึงทำไมเล่า ก็มึงเมาอ่ะ”
อูฮยอนหันหน้ามาตอบ เสียงหัวเราะนั่นฟังดูเหมือนเด็กหนุ่มไม่รู้สึกอะไรเลยกับการที่จะมีใครสักคนที่สนิทสนมกันดีเมาเหล้าแล้วมาจูบเขาเข้า “แล้วอีกอย่าง มึงก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นไม่ใช่หรือไง”
คราวนี้เป็นซองกยูที่ต้องอึ้งไปบ้าง
แล้วเขาตอบอย่างอื่นได้ด้วยเหรอ
“ใครจะไปตั้งใจจูบมึ๊ง” คนอายุมากกว่าพยายามคลี่คลายสถานการณ์น่าอึดอัดระหว่างกันให้เป็นปกติ
“จูบมึงกูจูบดีดี้หมากูยังดีกว่า”
“ไอ้เหี้ยพี่กยู มึงเงียบไปเลย” คนพูดแทบเดินเอารีโมทแอร์ที่อยู่ในมือไปยัดปากไอ้คนปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด “แล้วนี่มึงมาบ้านกูทำไม”
“ก็บอกแล้วไงว่าเอาข้าวมาให้ แม่กูเขากลัวมึงไม่มีอะไรกินแล้วหิวตายมั้ง”
“คุณป้าเขาใจดีไง ไม่เหมือนมึงหรอก” อูฮยอนหันไปแขวะเอาอีก หนุ่มน้อยเดินไปนั่งบนขอบเตียง หากจะพูดกันตามความจริงแล้วอารมณ์ของอูฮยอนก็ยังไม่เป็นปกตินักหรอก แต่เขาก็จะพยายามทำให้ตัวเองเป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ว่าแต่เมื่อวานนี้อ่ะ มึงไปกินเหล้าทำไม มีเรื่องอะไรเหรอ”
“…”
จะบอกได้ยังไงล่ะ ว่าสาเหตุที่ซองกยูไปกินเหล้าน่ะ…
“ไม่เป็นไร ถ้าไม่อยากบอกกูก็ไม่อยากรู้ก็ได้”
“นิสัยดีนะเนี่ยมึงอ่ะ”
“ก็กูเห็นตัวอย่างคนนิสัยไม่ดีจากพี่มึงไง กูเลยไม่อยากเป็นแบบมึงอ่ะ พี่กยู”
“ไอ้อ้วน มึงนี่นะ…”
ซองกยูส่ายศีรษะอย่างนึกระอาคนที่ช่างหาเรื่องมาค่อนแคะเขาได้แทบทุกเรื่องที่คุยกัน ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งคู่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วหากดูจากการที่ต่างคนต่างไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอีก
แต่ลึก ๆ ลงไปในใจ ทั้งคิมซองกยูและนัมอูฮยอนต่างก็รู้ดีว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ไม่มีทางที่พวกเขาจะลืมมันไปได้เลย เพียงแค่ต้องเก็บไว้ ให้ลึกที่สุดในใจและแสดงอาการออกไปไม่ได้เป็นอันขาด
“ทำไม กูทำไม กูน่ารักล่ะสิ”
“น่ารักษาอ่ะใช่”
“ไอ้เหี้ยพี่กยู มึงด่ากูอีกแล้วนะ”
“ที่มึงพูด ๆ มานั่นมึงไม่ด่ากูเลยงั้นสิ แล้วก็เรื่องที่มึงถามกูเมื่อกี้อ่ะ กูยังไม่ทันตอบเลย มึงก็สรุปเองซะละ ทำไม กลัวโดนกูด่าว่าเสือกอีกเหรอ”
อูฮยอนทำหน้าบึ้ง จริง ๆ โดนด่าว่าเสือกอะมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องโกรธอะไรนักหนาหรอก เพราะทั้งเขาและคิมซองกยูก็ด่ากันด้วยคำนั้นอยู่บ่อยไป แต่เมื่อวานนี้มันเป็นเพราะว่าน้อยใจต่างหาก
แต่ก็จะไม่บอกไอ้พี่เวรนี่หรอกว่าน้อยใจ
“มึงจะด่ากูว่าอะไรก็เรื่องของมึงเหอะ” น้องชายตัดบท แต่ดูเหมือนเรื่องที่อยากพูดกับซองกยูจะยังไม่หมดแค่นี้ “แต่กูขออะไรอย่างได้ไหมอ่ะ”
“อะไร”
“มึงก็บอกมาก่อนดิว่าได้”
“เอ้า ไอ้อ้วน ถ้ามึงขอให้กูไปตายแล้วกูบอกมึงว่าได้กูก็แย่อ่ะดิ มึงบอกมาก่อนดิว่ามึงจะขออะไรแล้วกูจะบอกเองว่าได้หรือไม่ได้”
ซองกยูหลบเลี่ยงอย่างคนฉลาด แต่คำพูดของเขาทำให้คนเป็นน้องหน้าบึ้งเพราะดูเหมือนว่าเรื่องที่กำลังจะขอจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว
แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ อูฮยอนก็ยังอยากจะพูดอยู่ดี ถึงแม้ว่าเมื่อมาคิดดูดี ๆ แล้ว เรื่องที่กำลังจะพูดไป มันจะไม่ใช่เรื่องของตัวเองเลยก็ตาม
“กูไม่ชอบให้มึงไปกินเหล้าเลย”
“…”
นั่นเป็นสิ่งที่ซองกยูรู้ดีและก็รู้มาโดยตลอดด้วย
“มึงอย่ากินเหล้าอีก ได้ไหมอ่ะ พี่กยู”
“…”
“กูขอ”
หากซองกยูจะมีความกล้ามากกว่านี้อีกนิด หรือถ้าหากว่าเมื่อคืนนี้เขาไม่ได้จูบอูฮยอนไป บางทีพี่ชายข้างบ้านของอูฮยอนอาจกล้าเปิดปากถามไปแล้วว่าสิ่งที่อีกฝ่ายขอคือการขอในฐานะอะไร แต่เมื่อเป็นแบบนี้ซองกยูก็คงไม่กล้าพอแม้แต่จะตั้งคำถามนั้นในใจตัวเองด้วยซ้ำ
“ถ้ามึงบอกว่ามึงขอ กูก็ให้”
“…”
“กูจะไม่ไปกินเหล้าอีก”
“…”
“กูสัญญา”
เพียงเท่านี้อูฮยอนก็ยิ้มออกมาได้ แม้ว่าคนขอเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่า ทำไมถึงได้กล้าขอให้คนที่อยู่ในฐานะ ‘พี่ชายข้างบ้าน’ ทำอะไรแบบนี้ให้
“แต่กูไม่ได้ทำให้มึงหรอกนะ อย่าเข้าใจผิด” ซองกยูพูดหน้าตาย “กูจะไม่ไปกินเหล้าอีกเพราะว่ากูไม่อยากโดนแม่ด่าไม่ใช่เพราะว่าคำขอร้องของมึงหรอก อย่าคิดว่ากูยอมเพราะจะตามใจมึงล่ะ ไอ้อ้วน”
“คิมซองกยู พี่มึงอย่ากวนตีนกูได้มะ” อูฮยอนแทบจะยกเท้าถีบไอ้พี่เวรนี่เข้าให้สักที ก็มันเป็นคนพูดเองอยู่เมื่อกี้ว่าถ้าอูฮยอนขอมันก็จะทำให้ แล้วนี่ยังจะมาอ้างไม่อยากโดนแม่ด่าอะไรได้อีก
ไม่เนียนเลยนะมึงอะ
แต่มึงยอมทำตามที่กูขอก็พอแล้ว
ขอบคุณนะ …
น้องชายยิ้มกริ่มเมื่อได้ในสิ่งที่ขอ ดูเหมือนความสัมพันธ์ดี ๆ ระหว่างพวกเขาสองคนจะกลับมาเกือบเป็นปกติแล้วเมื่อต่างฝ่ายต่างพยายามทำตัวเป็นปกติ อูฮยอนนั่งท่องหนังสืออยู่เงียบ ๆ ที่โต๊ะ ในขณะที่ซองกยูก็เลือกจะเล่นเกมในโทรศัพท์แล้วนอนอยู่บนเตียงของอูฮยอน พวกเขาคุยกันเป็นครั้งคราวด้วยเรื่องราวสัพเพเหระต่าง ๆ สลับกับที่ซองกยูแกล้งแหย่อูฮยอนให้โมโหขึ้นมาเป็นระยะ แต่มีอย่างหนึ่งที่อูฮยอนไม่รู้ก็คือตลอดเวลาที่ตัวเองหันหลังให้ซองกยูและอีกฝ่ายถือโทรศัพท์ไว้ในระดับสายตาแบบนั้น แท้ที่จริงแล้วซองกยูแอบมองคนที่นั่งหันหลังให้เขาอยู่แทบตลอดเวลา
พร้อมกับคำถามที่ยังคงดังอยู่ในความคิดของคิมซองกยูมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้
เขาชอบนัมอูฮยอนเกินกว่าคำว่าน้องชาย อย่างนั้นหรือ
“พี่กยู”
“…”
“ไอ้พี่กยู!”
“…”
“ไอ้เวรพี่กยู หูมึงแตกไงเนี่ย”
“อูฮยอน มึงตะโกนทำไมเนี่ย” ซองกยูที่เพิ่งได้ยินหลังน้องชายตะเบ็งเสียงเรียกมาเกือบนาทีถามเสียงขุ่นจนอูฮยอนต้องลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือมายืนอยู่ตรงหน้า
“กูมากกว่าที่ต้องพูดว่าถ้าไม่ตะโกนมึงก็ไม่ได้ยินที่กูเรียกใช่มะ เล่นเกมอยู่ได้ กูเรียกมึงมาสามสี่พี่กยูแล้วเนี่ย”
“แล้วมีอะไร เรียกกูทำไม”
“งานกูเสร็จแล้วอ่ะ”
“แล้วไง” ซองกยูถามพร้อมกับเลิกคิ้วข้างนึงขึ้น ไม่เข้าใจจริง ๆ งานมึงเสร็จแล้วเกี่ยวอะไรกับกูด้วยวะ
“กูอยากกินเนื้อย่างอะ ไปกินกันเหอะ”
“เนื้อย่างอะไรของมึง ไอ้อ้วน นี่มันเพิ่งสิบโมงเช้าเองนะ มึงจะแดกเนื้อแต่เช้าเลยหรือไง”
“ถ้าร้านเนื้อย่างมันเปิดหกโมงเช้าแล้วกูอยากกินกูก็จะไปกินอ่ะ” อูฮยอนพูดหน้าตาเฉย
“กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นมะ มึงจะไปกินข้าวข้างนอกทำไม ข้าวกลางวันแม่กูก็ทำมาให้แล้วไง แถมแม่ไปจิกหัวกูบังคับให้กูเดินเอามาให้มึงด้วยเนี่ย”
“อันนั้นก็แช่เย็นเก็บไว้กินตอนมื้อเย็นก็ได้นี่ ตอนนี้กูอยากออกไปกินเนื้อย่างอ่ะ”
“แต่กูไม่อยากอ่ะ”
“ไอ้พี่กยู ทำไมมึงต้องขัดใจกูด้วย”
“ก็แล้วทำไมกูต้องตามใจมึงด้วยอ่ะ หน้าเหมือนแม่กูรึไง” ซองกยูย้อนถามกลับไปบ้าง
“เออ สรุปว่ามึงจะไม่พากูไปใช่มะ นี่กูอุตส่าห์ชวนแล้วนะ”
“มึงอุตส่าห์ชวนหรือมึงอยากกินเนื้อย่าง ไอ้อ้วน มึงพูดให้ตรงประเด็นด้วย”
“ก็เหมือนกันนั่นแหละ แต่มึงไม่พาไปกูก็ไม่เห็นจะง้อเลย เหอะ ไอ้พี่เวร ใจดำนะมึงอ่ะ”
อูฮยอนด่าคนเป็นพี่ชายไปแล้วก็กระแทกเท้าปึง ๆ เดินกลับไปที่โต๊ะเขียนหนังสือเพราะจะปิดคอม แต่ก็ยังไม่วายหันมาว้ากใส่ซองกยูอีกรอบ
“แล้วนี่มึงมานั่งอยู่ในห้องกูทำไม แย่งอากาศหายใจกู กลับบ้านมึงไปเลย ไม่พากูไปกินเนื้อย่างก็ไม่ต้องมาพูดกัน”
“นี่มึงโกรธที่กูไม่พาไปกินเนื้อมากกว่าโกรธที่กูด่ามึงว่าเสือกอีกนะเนี่ยมึงรู้ตัวไหม อูฮยอน”
“เรื่องกู”
ซองกยูโคลงศีรษะด้วยความเอือมระอาในความเอาแต่ใจของไอ้ตัวแสบที่หน้าบึ้งหน้างอเวลาโดนขัดใจเหมือนทุกครั้งไม่มีผิด แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันที่ซองกยูรู้สึกดีที่อูฮยอนยังเป็นแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาสองคนเพิ่งจะผ่านเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มาก็ตาม และที่ยิ่งดีใจกว่าก็คือการที่อูฮยอนยังอยากใช้ช่วงเวลาที่ตัวเองโปรดปรานที่สุดอย่างการกินเนื้อย่างกับพี่ชายคนสนิทอย่างเขา มากกว่าที่จะอยากไปกับไอ้รุ่นพี่เจ้าของผ้าเช็ดหน้าฉุนกลิ่นน้ำหอมดัดจริตนั่น
ก็คงต้องตามใจกันสักหน่อยล่ะมั้ง แต่คนแบบซองกยูน่ะ ไม่ใจดีตามใจน้องชายข้างบ้านของตัวเองให้มันได้ใจหรอก
อย่าลืมสิว่าเขามันพี่ชายใจร้าย ไม่ใช่พี่ชายใจดีในการ์ตูนตาหวานสักหน่อย
“อยากกินเนื้อย่างจริงอ่ะ” ซองกยูแกล้งถาม
“ชวนไปกินเนื้อย่างกูคงอยากกินไอติมมั้ง”
“ดี งั้นกูจะพามึงไปกินไอติม” คิมซองกยูพูดด้วยท่าทางกวนประสาท แต่ว่าพอพูดแบบนี้น่ะมันก็ไม่ต่างจากการยอมพาอูฮยอนไปข้างนอกด้วยกันอยู่ดี คนที่หน้าหงิกอยู่นานยิ้มออกมาได้เมื่อสุดท้ายแล้วก็สามารถทำให้ซองกยูยอมไปกินเนื้อย่างด้วยกันจนได้
แต่ว่าประโยคต่อมาที่ไอ้พี่ซองกยูพูดเนี่ยสิ อูฮยอนชักไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองคิดผิดหรือคิดถูกที่ชวนมัน
“แต่เดือนนี้อ่ะ เงินกูเอาไปจ่ายค่าสมัครสอบหมดแล้ว กูพามึงไปกินเนื้อย่างก็ได้ แต่มึงต้องเป็นเจ้ามือนะ เพราะว่า กู ไม่ มีตังค์ โอเคมั้ย ไอ้อ้วน!”
แล้วนี่ทำไมอูฮยอนจะต้องเป็นคนออกเงินเลี้ยงค่าเนื้อย่างไอ้พี่เวรนี่ด้วยวะ ให้ตายสิ อยู่เฉย ๆ ก็ดีอยู่แล้ว
ไม่น่าเลยกู …
TBC
ทายสิว่าเขาจะได้ไปกินเนื้อย่างกันไหม แล้วจะเจอใครที่ร้านเนื้อย่าง5555 ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ฝาก #ข้างบ้านกยูอู ด้วยค่ะ เจอกันใหม่พะนี้เน้อ ขอให้อ่านกันอย่างมีความสุขนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอตอนต่อไปเลย มาแล้วตอนที่ทำให้ใจเต้นแรง 555
ชอบตอนเขางอนกันอ่ะนะ เข้าใจเราหน่อยเราอินมาก
ขอบคุณไรท์ค่ะ ถึงตอนนี้เราก็ยังอยู่ทีม
จนกว่า
ที่ร้านเนื้อย่างนี่คงไม่พ้นเจอแฟนใหม่ ไม่ก็แฟนเก่าของแฟนใหม่ใช่ไหมคะ
อยากรู้จังว่าถ่านในเตากับไฟในตาของ
รออ่านนะคะไรท์ ขอบคุณมากจ้าาาาาา
ยังเหมือนเดิม อีกใจก็เจ็บที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรที่ทำไป ฮรือ
เเต่ดูจากทอล์คไรท์เเล้วตอนหน้าอาจจะได้กินมาม่าเเทน
เนื้อย่างอ่ะค่ะ55555