[OS] Sunggyu X Woohyun ★ However
เหนื่อยพอแล้วที่พยายามทำให้เธอรัก แต่ไม่ได้ ให้รักเธอทั้งหัวใจคงไม่พอ รู้แล้วว่ารักไม่มีความหมาย เพิ่งเข้าใจ ว่าคนมันไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่อยู่ดี
ผู้เข้าชมรวม
773
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เหนื่อยพอแล้วที่พยายามทำให้เธอรัก
แต่ไม่ได้
ให้รักเธอทั้งหัวใจคงไม่พอ
รู้แล้วว่ารักไม่มีความหมาย
เพิ่งเข้าใจ
ว่าคนมันไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่อยู่ดี
ผมเคยเชื่อว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด
“อูฮยอนอา คืนนี้พี่จะโทรไปหานะ” พี่ซองกยูพูดกับผมหลังจากเลิกงาน เขายกกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์แบบพกพาขึ้นสะพายบ่า
เตรียมพร้อมที่จะกลับบ้าน ส่วนผมยังต้องอยู่เคลียร์งานที่คั่งค้างอยู่ให้เสร็จก่อน
“ได้สิครับ”
ผมส่งยิ้มให้เขาและก้มหน้าทำงานที่อยู่ตรงหน้าต่อ
ความจริงพี่ซองกยูไม่ต้องบอกผมก็ได้ว่าเขาจะโทรมาหา ในเมื่อเกือบทุกคืนที่ผ่านมาเขาก็โทรมาหาผมแล้วเราก็ใช้เวลาคุยโทรศัพท์กันจนมันเป็นชีวิตประจำวันของเราสองคนไปแล้ว
อาจเป็นเพราะเรามีความสนใจในเรื่องเดียวกัน
อาจเป็นเพราะเรามีนิสัยคล้ายกัน
อาจเป็นเพราะผมเป็นคนที่เขาจะพูดด้วยได้ทุกเรื่อง
หรืออาจเป็นเพราะผมเป็นคนที่เขาไว้ใจ
อาจเป็นเพราะด้วยเหตุผลอื่นใดก็แล้วแต่ที่ทำให้เราใกล้ชิดและสนิทสนมกันมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องในที่ทำงานเดียวกัน พี่ซองกยูอาจชอบอยู่ใกล้ชิดกับผมเพราะผมเป็นคนที่เขาจะพูดคุยด้วยได้อย่างสบายใจ
แต่สำหรับผม พี่ซองกยูเป็นคนที่ผมรัก และที่ผมอยู่ใกล้ชิดกับเขาก็เพราะผมรักเขา
ผมรักพี่ชายคนนั้น
คืนนี้ก็เป็นเหมือนกับทุกคืน ผมนอนอยู่บนเตียง
แนบหูข้างหนึ่งเข้ากับโทรศัพท์ ฟังเสียงนุ่ม ๆ ของพี่ซองกยูเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของเขาให้ผมฟัง บางเรื่องมันเป็นเรื่องส่วนตัวมากเสียจนผมเกรงใจที่จะรับฟัง
มีบางครั้งที่ผมเคยท้วงว่าเขาไม่ต้องเล่าเรื่องส่วนตัวแบบนี้ให้ผมฟังก็ได้
‘ไม่เป็นไรหรอก พี่ไว้ใจนาย
เราคุยกันได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว’ เขาเคยบอกกับผมแบบนั้นและแน่นอนว่ามันทำให้ผมดีใจที่ตัวเองได้รับรู้เรื่องราวของคนที่ผมรัก
แง่มุมต่าง ๆ ที่มีแต่ผมเท่านั้นที่ได้รู้ เพราะผมเป็นคนที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขาที่สุด
… เพราะผมเป็นคนที่เขาไว้ใจ …
(ง่วงเหรออูฮยอนอา?) พี่ซองกยูคงจะได้ยินเสียงหาว
“นิดหน่อยครับ
ก็นี่มันจะตีสี่แล้วนี่” ผมพูดปนเสียงหัวเราะ
(แต่ทุกทีเราเคยคุยกันถึงตอนเช้านายยังไม่เคยหาวเลยนี่นา)
“ก็ผมฟังพี่พูดอยู่คนเดียวมันก็ต้องง่วงบ้างสิครับ
ผมเคยบอกแล้วนี่ว่าถ้าให้ผมเป็นฝ่ายพูดล่ะก็ผมไม่หาวหรอก”
(งั้นนายก็พูดมาสิ พี่จะฟัง นายเล่าเรื่องนายให้พี่ฟังบ้างสิ พี่อยากรู้)
“อืมม เรื่องของผมเหรอครับ”
ผมลากเสียงยาวก่อนจะพูดเรื่องโน้นเรื่องนี้กับเขาไปเรื่อยๆ
กว่าจะรู้ตัวว่าควรจะวางสายก็เมื่อเป็นเวลาเกือบจะรุ่งเช้าเต็มที
เป็นแบบนี้ทุกวัน เป็นแบบนี้ทุกคืนที่ทั้งผมกับเขาอยู่ใกล้ชิดกัน
มากจนแทบจะเกินขีดคำว่าพี่น้องที่ผมกับเขาตกลงกันไว้ มีหลายครั้งที่ผมกลัวว่าความรู้สึกที่ผมมีจะทำให้พี่ซองกยูนึกอึดอัดหรือรำคาญ
แต่เมื่อผมพูดเรื่องนี้กับเขา พี่ซองกยูก็เพียงแต่ยิ้มและยกมือขึ้นลูบศีรษะผม
‘ไม่เป็นไรหรอกน่ะ
พี่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ พี่ไม่เคยรำคาญนายหรอก นายก็รู้นี่
คนอย่างพี่ถ้ารำคาญใครก็ไม่เฉียดเข้าไปใกล้หรอก’
ผมรู้สึกดีกับคำพูดและการแสดงออกของพี่ซองกยู
ทุกคำของเขามันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ เป็นคนที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขา
เป็นคนที่เขาไว้ใจ
เราสองคนยังคงพูดคุยกันเป็นประจำ ทั้งที่ทำงานและทางโทรศัพท์ ทุกคืนเวลาเดิมของเราในตอนสี่ทุ่มตรงเสียงโทรศัพท์ของผมจะดังขึ้นด้วยสายเรียกเข้าจากพี่ซองกยู
มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน จนผมเคยชิน จนผมไม่คิดว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลง
จนผมไม่เคยเตรียมใจว่าวันหนึ่งมันจะเปลี่ยนไป
ช่วงนี้แผนกมีงานมากกว่าปกติเนื่องจากมีออเดอร์สินค้าจากต่างประเทศที่มีปัญหา
หลายครั้งที่ผมต้องทำงานนอกเวลางานต่อไปอีกหลายชั่วโมง หรือไม่ก็ออกไปนอกสถานที่บ่อย
ๆ มันทำให้ผมกับพี่ซองกยูไม่ค่อยได้พูดคุยกันเหมือนเคย
เขายังคงติดต่อมาเหมือนที่เคยทำแต่มันคงผิดที่ผมเองที่ไม่ได้รับโทรศัพท์หรือไม่แม้จะตอบข้อความเขา
เพราะผมเหนื่อย และบางทีผมก็ปวดหัวกับงานจนไม่มีอารมณ์อยากจะคุยกับใคร แม้แต่กับคนที่ผมรัก
มีหลายครั้งที่ผมปล่อยให้โทรศัพท์ดังอยู่แบบนั้นโดยไม่คิดที่จะรับ
แต่ผมก็มอง 5
missed call ที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่สบายใจนัก ผมไม่ได้อยากทำให้พี่ซองกยูต้องหงุดหงิดกับการโทรหาผมโดยไม่มีการตอบรับ
แต่ผมเพียงแค่อยากจะทำงานให้เสร็จ เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย เมื่อไม่มีงานมากมายที่ต้องทำแล้ว
ผมจะได้กลับไปใช้เวลากับเขามาก ๆ เหมือนเดิม
แต่มันกลับกลายเป็นว่าผมกับเขาต้องทะเลาะกันรุนแรงเพราะเรื่องนี้
“ถ้านายไม่อยากคุยกับพี่ก็บอกมาตรงๆแล้วพี่จะไม่ไปวุ่นวายกับนายอีก!”
“ผมบอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้น พี่ก็รู้ว่าผมยุ่งกับงาน!”
“นายไม่แม้แต่จะมีเวลารับโทรศัพท์พี่เลยหรือไงนัมอูฮยอน!”
“ผมเหนื่อย!
พี่เข้าใจไหมว่าบางทีผมก็อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียวบ้าง!”
พี่ซองกยูวางสายไปหลังจากนั้นแล้วเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย เป็นเวลาสองสัปดาห์ ไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในเวลาที่มันเคยดัง ไม่มีข้อความทักทายในตอนเช้าหรือข้อความบอกฝันดีจากเขาในโปรแกรมแชทของผม
จนผมทนไม่ไหวส่งข้อความไปหาพี่ซองกยูว่าผมคิดถึงและผมขอโทษที่ผมพูดไม่ดีกับเขาไปเมื่อคราวก่อน
“พี่ไม่อยากให้นายห่างเหินกับพี่แบบนั้น
พี่อาจจะไม่เคยพูดอะไร แต่พี่ก็อยากให้นายรู้ว่าพี่เองก็น้อยใจ
เราเคยคุยกันได้ทุกวัน ทุกเรื่อง
แล้วนายก็รู้ว่านายเป็นคนเดียวที่อยู่ใกล้ชิดพี่ที่สุด” คำพูดของพี่ซองกยูทำให้ผมรู้สึกเสียใจที่เอาแต่สนใจเรื่องตัวเองและละเลยเขา
ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีก
หลังจากนั้นเสียงโทรศัพท์กลับมาดังเหมือนเคยในเวลาสี่ทุ่มของทุกวัน
เพียงแต่ว่าระยะเวลาที่เราคุยกันมันไม่นานเหมือนเมื่อก่อนอีก
และผมรู้สึกได้ว่าพี่ซองกยูมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
ภายใต้เสียงหัวเราะเสียงเดิมกับทุกเรื่องราวที่เขาถ่ายทอดให้ผมฟังยังไม่มีอะไรที่ต่างจากเคย
แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันไม่เหมือนเดิม
เราใช้เวลาด้วยกันน้อยลง
เช่นเดียวกับเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่เริ่มดังขึ้นน้อยลง
แต่เขาก็ยังคงเป็นคิมซองกยูคนเดิม และผมก็ยังคงเป็นนัมอูฮยอนคนเดิม คนที่อยู่ใกล้ชิดเขาที่สุด
คนที่เขาไว้ใจที่สุดเพียงแต่ว่าผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะสูญเสียพี่ซองกยูไป
สูญเสียทั้งๆที่เขาไม่เคยได้เป็นของผม
ผมรู้สึกแบบนั้นมากขึ้นทุกครั้งที่คุยกับเขา
จนกระทั่ง . . .
ผมรู้จากรุ่นพี่คนหนึ่งในบริษัทว่าตอนนี้พี่ซองกยูกำลังคบกับพี่ซองยอล
รุ่นพี่ในบริษัทเดียวกันกับพวกเรา มันไม่เคยมีวี่แววมาก่อนเลยว่าพี่ซองกยูจะมีแฟน มันไม่เคยมีท่าทางมาก่อนเลยว่าพี่ซองกยูจะรักใคร
มันไม่มีอะไรที่จะบอกให้ผมรู้ล่วงหน้ามาก่อนเลยว่าคนที่ผมรักและคนที่ผมได้อยู่ใกล้ชิดเขาที่สุด
กำลังมีความรักกับคนอื่น
คนอื่นที่ไม่ใช่ผม คนที่ไม่ใช่นัมอูฮยอน
นัมอูฮยอน คนที่เขาใกล้ชิดด้วยและไว้วางใจมากที่สุด
“ทำไมพี่ไม่บอกผมบ้าง ”
“เพราะพี่ไม่อยากให้นายสบายใจ
พี่รู้ว่านายคิดยังไงแล้วพี่ก็แคร์นายจนไม่ยากทำให้นายต้องเสียใจเพราะเรื่องของพี่”
“แคร์?” ผมทวนคำพูดของเขา ขอบตาร้อนผ่าวเพราะน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา
“แคร์ผม? แต่พี่ก็รักพี่ซองยอล
แล้วพี่จะบอกว่าพี่แคร์ผมเหรอครับ?”
“นายเป็นคนสำคัญของพี่นะอูฮยอนอา นายสำคัญกับพี่มากและนายก็เป็นคนที่พี่อยู่ใกล้ชิดด้วยมากที่สุด
แต่นายไม่ใช่คนที่พี่รัก” พี่ซองกยูมองผม
ดวงตาของเขายังคงอบอุ่นเหมือนเช่นที่เคยเป็น
มือของเขาที่ลูบศีรษะผมยังคงอ่อนโยนเหมือนเช่นที่เคยทำ แต่ในตอนนี้มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีกับการกระทำนั้นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นอีกแล้ว
ผมเพิ่งได้รู้ว่าการที่เราได้อยู่ใกล้ชิดกับใครสักคนมันไม่ได้หมายความว่าเราจะได้อยู่ในกับหัวใจของเขา
เหมือนผมกับพี่ซองกยู การที่เขาไว้ใจผมมันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะให้ใจเขากับผม
ผมเป็นคนสำคัญของเขาแต่มันไม่ได้หมายความว่าผมจะเป็นคนที่เขารัก
ผมเป็นได้แค่คนที่อยู่ใกล้ชิดกับเขาในฐานะน้องชายคนสำคัญที่เขารักและไว้ใจ
ส่วนคนที่ได้อยู่ในหัวใจพี่ซองกยูคือพี่ซองยอล
นั่นคือสิ่งที่ผมต้องยอมรับและเข้าใจ
เสียงโทรศัพท์ยังคงดังขึ้นเหมือนที่เคย เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันไม่ได้ดังขึ้นในเวลาสี่ทุ่มของทุกคืนเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ผมมองชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอด้วยสายตาว่างเปล่า แม้ว่าผมจะยังรู้สึกเจ็บในหัวใจด้วยความคิดถึงและอยากคุยกับเขา แต่ผมก็จะไม่รับโทรศัพท์สายนี้ พี่ซองกยูมีคนรักแล้ว ส่วนน้องชายอย่างผมถึงจะใกล้ชิดกับเขามากแค่ไหน แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าความใกล้ชิดที่มีคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เขารักผมได้ ดังนั้นสิ่งที่ดีที่ผมจะต้องทำก็ควรเป็นการห่างออกมาเพื่อปกป้องหัวใจตัวเองไม่ให้ถลำลึกรักเขาไปมากกว่านี้ และเพื่อไม่ให้ความรักของพี่ซองกยูกับพี่ซองยอลจะต้องมีปัญหาเพราะความใกล้ชิดที่มีมากจนเกินไประหว่างผมกับพี่ชายคนนั้น และแม่ว่าผมจะเสียใจสักแค่ไหนผมก็จะพยายามลืมผู้ชายคนนั้นให้ได้แม้ว่าผมจะรักเขามากสักเพียงไหนหรือจะต้องใช้เวลานานสักเพียงใดก็ตาม
// end //
starholicxx
talk >> ฟิคเรื่องนี้เราเขียนไว้นานมากแล้วในอีกคู่หนึ่งที่ไม่ใช่พี่กยูกับน้องดาว
วันนี้ไปเจอไฟล์เก่า ๆ มาก็เลยเอามาแก้ ๆ ปรับ ๆ
ให้เป็นคู่นี้เพราะชีวิตตอนนี้กำลังหน่วงนอยด์ตามอารมณ์เพลงและฟิคเรื่องนี้เป๊ะเลยค่ะ
ก็… อย่างที่อ่านละคะ คนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่และก็ไม่ใช่ต่อไป #น้ำตามา เป็นฟิคอีกเรื่องที่เขียนมาจากประสบการณ์จริงที่ยากจะลืม 555
ฝากไว้ด้วยค่ะ แล้วก็.. ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ starholicxx_ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ starholicxx_
ความคิดเห็น