ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Legendary เปิดตำนานศึกพลิกโลก

    ลำดับตอนที่ #4 : Character Chapter : ไวโอล่า เดอร์ เทมเพสต์มาแชร์

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 59


    ตึก ตึก ตึก

    เสียงฝีเท้าดังเป็นจังหวะไปตามลู่ทางที่มืดมนและเงียบสงัด ภายใต้ท้องฟ้าที่ราวกับหลับไหลอยู่ภายใต้แสงจันทร์นวล กลับมีสิ่งๆหนึ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ ... เธอคือหญิงสาวที่กำลังวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก แววตาที่เบิกกว้างนั้นสอดส่องไปมาในความมืด.... อะไรบางอย่าง ที่ซึ่งเธอหวาดกลัว  สิ่งๆนั้น ยังคงเฝ้ามองเธออยู่ในความมืดมิดนั้น 
          
              " ตะ ต้องการอะไรจากฉัน!! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!! "

     คำพูดที่ถูกเปล่งออกมาอย่างเกรี้ยวกราดเพราะความกลัว แม้เสียงของเธอจะฟังดูมีพลัง แต่ภายในน้ำดสียงที่มีพลังนั้นก็แฝงไปด้วยความสั่นเทาอยู่อย่างชัดเจน ... ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากอีกฝั่งหนึ่ง เธอไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไร และไม่รู้ว่ามันตามเธอมาเพราะอะไร แต่ที่แน่ๆคือ มันยังอยู่!! จุดๆเดิมที่แสงส่องไม่ถึง มันยังคงจ้องมองมาที่หญิงสาวอย่างไม่ละวางสายตา 

              " มะ ไม่ยอมออกมาใช่มั้ย!! งั้นต้องเจอนี่ "

    หญิงสาวตัดสินใจหยิบไฟฉายออกมาจากกระเป๋าเธอและส่องไปทางเงามืดอย่างไม่รอช้า แต่แล้วทันทีที่เธอส่องเข้าไปในเงามืดนั้น สิ่งที่ตามเธอมาก็หายไปในทันที 

              " อะไรกันนะ... ต้องอยู่ตรงนั้นไม่ใช่เหรอ!? " 

    หญิงสาวตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อส้่องเข้าไปในเงานั้น กลับไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทั้งๆที่เธอมั่นใจว่าต้องมีอะไรแน่ๆ เพราะเธอได้ยินทั้งเสียงฝีเท้า ทั้งเห็นแววตาอันดุดัน แล้วก็ได้ยินเสียงหายใจเบาๆอยู่ตลอดเวลา 

              " รึว่าเราจะคิดไปเอง.... อั่ก!? "

    ในขณะที่เธอกำลังมองไปในทางที่ไฟฉายส่องอยู่นั้น จู่ๆก็เหมือนมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและปักเข้าไปกลางหลังเธอจนทะลุลำตัว แต่ที่น่าแปลกคือ สิ่งๆนั้นโปร่งใสมาก และเช่นกัน มันก็ต้องคมมากแน่ๆ ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือ วัตถุโปร่งแสงที่มีความคมยิ่งกว่ามีดใดๆก็พุ่งลงมาทิ่มแทงร่างของเธอจนเละไม่มีชิ้นดี 

              " เชอะ ยัยนี่ก็ไม่ใช่งั้นเหรอ " 

     สายลมเริ่มก่อตัวเป็นร่างของผู้หญิงที่มีผมสีขาวมัดรวบไว้อย่างประณีต แววตาของเธอจ้องมองไปทางร่างของผู้ที่โดนทิ่มแทงด้วยความหงุดหงิด ก่อนร่างของเธอจะค่อยๆสลายไปตามสายลมอีกครัง อย่างไร้ร่องรอย 


                                                        - วันรุ่งขึ้น - 

    ข่าวการตายของหญิงสาวที่ตายอย่างโหดเหี้ยมแพร่สะพรัดไปทั่วกรุงเบอร์ลิน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คดีที่น่าสยดสยองแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง และทุกๆครั้งผู้ตายจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้ส่งออกรถไปทั่วโลกอย่าง Merceraries Bones ทั้งสิ้น ทางตำรวจให้ความเห็นไว้ว่า อาจจะเป็นผู้ไม่หวังดีที่ต้องการทำลายบริษัทจากระดับพนักงานและค่อยๆขยายขึ้นไปเรือยๆจนในที่สุดก็ทำลายทั้งบริษัท แต่นั่นก็เป็นได้แค่ความเห็น เพราะว่าในความเป็นจริง มีแต่ผู้หญิงเท่านั้น ที่โดนฆ่า ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงกว่าว่าผู้ลงมือทำต้องการจะหาอะไรบางอย่างจากตัวผู้หญิงเหล่านี้ 

             " นี่ วิโอล่า เป็นอะไรของเธอเนี่ย ดูซึมๆตั้งแต่เช้าเลยะน " 

             " อ๊ะ เปล่านี้ ฉันคงนอนน้อยไปหน่อยน่ะ "

             " ระวังน้าา ถ้าเธอกลายเป็นแพนด้าขอบตาดำล่ะก็ ความสวยที่มีจะหายไปหมดเกลี้ยงเลยน้า " 
      
             " โฮ่ะๆ ถึงยังไงฉันก็เป็นแพนด้าที่สวยกว่ามนุษย์อย่างเธออยู่แล้วล่ะย่ะ ฮ่ะๆๆๆ "

    เด็กสาว 2 คนซึ่งอยู่ในวัย ม.ปลาย เดินคุยกันอย่างสนิทสนมขณะที่กำลังผ่านจุดเกิดเหตุ ซึ่งจุดๆนั้นมีตำรวจและผู้คนมากมายต่างมุงดูศพกันอยู่ ทันทีที่พวกเขาเห็นเธอทั้งสอง เหล่าตำรวจก็มากันพวกเธอทั้งสองเพื่อออกจากสถานที่เกิดเหุนั้นอย่างรวดเร็ว  

             " เอ๋ เกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะ " 

             " อ๋อ ตรงนี้มันเพิ่งเกิดฆาตรกรรมขึ้นน่ะ พวกหนูรีบเดินต่อเถอะนะ อย่าดูเลยนะ " 

    ตำรวจที่เข้ามาคุยกับพวกเธอพูดด้วยความสุภาพ และคอยเอาตัวบังสายตาของพวกเธอเพื่อไม่ให้เห็นสภาพศพจนเดินพ้นจุดเกิดเหตุไป เมื่อหน้าที่ของเขาจบแล้วจึงกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ 

             " ท่าทางจะต้องน่ากลัวมากแน่ๆเลยเนอะ วิโอล่า " 

             " พวกตำรวจก็เงี้ยแหละ ชอบพูดอะไรเกินจริง " 

    วิโอล่า หรือ ไวโอล่า เดอร์ เทมเพสต์มาแชร์ 1 ในตระกลูผู้ใช้ธาตุลมบริสุทธิ์มาแต่อดีตกาล เคยโด่งดังมากในยุคที่เยอรมันก่อสงครามโ,กครั้งที่ 2 แต่กลังจากนั้นชื่อของตระกลูก็ถูกหน้าของประวัติศาสตร์บังคับให้ลบไป เพื่อไม่ให้คนทั้งโลกรู้ว่าทางเยอรมันใช้ผู้ควบคุมธาตุในการทำสงคราม นั่นจึงทำให้วิโอล่าปกปิดนามสกุลของเธอมาโดยตลอด วิโอล่าถูกผู้อื่นรู้เพียงแค่ว่า มาจากครอบครัวเล็กๆแห่งหนึ่งในชานเมืองเบอร์ลิน ซึ่งนอกเหนือจากนั้นก็เป็นปริศนาทั้งหมด แต่ถึงกระนั้น ด้วยความสามารถในการปรับตัวเเละเข้ากับผู้อื่นได้ดีของวิโอล่า ทำให้เธอสามารถหาเพื่อนได้ในเวลาไม่นาน 

             " เอ๋ ทำไมเหรอ ? เธอไม่ถูกกับตำรวจเหรอ " 

             " ป เปล่าหรอก ก็แค่พูดไปเรื่อยน่ะ " 

    ทั้งสองยังคงเดินต่อมาเรื่อยๆจนถึงบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่โต วิโอล่ามองบ้านหลังนั้นโดยไม่วางตา หรือถ้าจะให้พูดให้ถูก เป้าหมายของเธอคือคนที่อยู่ข้างในมากกว่า หญิงสาวในชุดพนักงานบริษัท Merceraries Bones 

             " นี่ มองอะไรของเธอน่ะ วิโอล่า คนรู้จักเหรอ " 

             " .... " 

             " วิโอล่า? "

             " ..... " 

             " ยัยวิโอล่า!!! " 

             " หวะ เหวอ!!! อะไรเล่าไอน์ เรียกเบาๆก็ได้นิ ตกใจหมดเลย " 

             " ก็ฉันเรียกเธอเบาๆแล้วเธอไม่ได้ยินเองนี่ แล้วว่าแต่เธอมองอะไรเนี่ย " 
        
             " ช ช่างเถอะ นี่ ฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะ รู้สึกไม่ค่อนสบายน่ะ " 

             " อ อืม หายไวๆนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน " 

    วิโอล่ารีบปลีกตัวออกจากเพื่อนของเธออย่างรวดเร็ว แล้วตรงดิ่งเข้าไปในซอกตึกที่อยู่ลับตาคนและใกล้ที่สุดในละแวกนั้น ผมยาวสีขาวของเธอที่ถูกมัดไว้อย่างประณีต ตอนนี้มันถูกแกะออกมาให้สยายแผ่เผยให้เห็นถึงสุขภาพของผมที่ได้รับการดูแลอย่างดีเพราะไม่ว่าจะถูกมัดมานานแค่ไหน แต่เมื่อเเกะออกก็จะคืนทรงได้เหมือนเดิม ดวงตาสีขาวที่เหมือนกับสีผมนั้นค่อยๆเปล่งแสงออกมาในที่มืด 

             " จะให้รู้.. ไม่ได้เด็ดขาด... " 

    วิโอล่าค่อยๆปลดชุดนักเรียนออก ซึ่งภายในนั้นมีชุดรัดรูปสีดำใส่ซ้อนไว้อยู่แล้ว เธอดึงเนื้อผ้าตรงคอขึ้นมาปิดปากเพื่อพรางหน้า 

             " พร้อมนะ รุคส์ ครั้งนี้จะรีบทำหน่อยล่ะกัน เพราะเพื่อนฉันน่าจะพักอยู่แถวนี้ " 

            " ... เจ้าแคร์เพื่อนด้วยงั้นเหรอเนี่ย ข้าไม่ยักรู้มาก่อนเลย... 

    เงาสีดำขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นข้างหลังวิโอล่า มันดูเหมือนนกเหยี่ยว แต่ถ้ามันคือเหยี่ยว มันก็คงจะเป็นเหยี่ยวที่ตัวใหญ่มาก ดวงตาสีขาวของมันจับจ้องมายังวิโอล่าแบบไม่วางตา 

             " หุบปากไปเถอะน่า ฉันน่ะ... ไม่เหมือนกับท่านพ่อและท่านแม่หรอกนะ... "

    วิโอล่ากำหมัดแน่นเมื่อนึกย้อนกลับไปในอดีต กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นอายแห่งการหลอกลวงนั้นเริ่มทำให้เธอสั่นเทา 

            " เอาเถอะๆ ถือว่าข้าไม่ได้พูดอะไรล่ะกัน ยังไงซะตอนนี้เจ้าก็รีบเตรียมตัวก่อนเถอะ เพราะอีกไม่กี่นาทีพระอาทิตย์ก็จะตกแล้ว "

    นกยักษ์ค่อยๆสลายไปในความมืด เช่นเดียวกับวิโอล่าที่ค่อยๆหายตัวไปในความมืดนั้น  เมื่อเวลายามเย็นต้องจากไป และเวลาพลบค่ำต้องเข้ามาทำหน้าที่เเทน เนื่องด้วยคืนนี้เป็นคืนเดือนดับ ทำให้ไม่มีแสงอันใดที่จะมาช่วยนำทางให้ผู้คนที่ใช้ชีวิตกลางคืนได้เดินทางสะดวก วิโอล่ายังคงรอเหยื่อของเธออย่างเงียบเชียบในซอยที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง สายลมอ่อนที่ออกมาจากซอยนั้น กำลังทำหน้าที่เหมือนผู้ตรวจตา เพราะมันจะลอยสวนกระแสกับลมทั่วไปเพื่อไปหาตัวเหยื่อของวิโอล่า

            " ไวโอล่า... คืนนี้เป็นคืนเดือนดับนะ "
      
            " ....แล้วทำไมล่ะ นายกลัวความมืดรึไง? " 

            " ไปกับข้าหน่อยสิ... ข้าอยากให้เจ้าดูอะไรหน่อย "

            " มาแปลกนะนายเนี่ย จะให้ฉันไปด้วยก็ได้นะ แต่ก็รอฉันจัดการกับเหยื่อแปปนึงล่ะกัน " 

            " ไม่... ต้องไปตอนนี้เท่านั้น!!  "

    เสียงของรุคส์แข็งขึ้นจนทำให้ไวโอล่าสงสัย ว่ารุคส์จะพาตนไปที่ใด จึงล้มเลิกเป้าหมายไป และยอมขึ้นไปบนหลังรุคส์โดยดี หลังจากที่รุคส์เห็นว่าไวโอล่านั่งเรียบร้อยแล้วจึงค่อยๆลอยตัวขึ้นอย่างช้าๆด้วยพลังลมของตนที่มีมากมายมหาศาล มันพาไวโอล่าบินขึ้นไปสูงจนอยู่เทียบชั้นเมฆ ซึ่งสิ่งที่อยู่เบื้องหลังเหล่ามวลเมฆเหล่านั้น คือดวงดาวแห่งทางช้างเผือกที่ำลังเปล่งแสงระยิบระยับแทนดวงจันทร์ในคืนเดือนดับนี้อยู่ ซึ่งภาพข้างหน้าไวโอล่านั้น เป็นภาพทีเธอไฝ่หามาตลอด และเป็นภาพที่น้อยคนนักจะได้เห็นมัน 

             " ว ว้าว สวยจัง " 

             " เพราะเป็นคืนเดือนดับ.... ข้าถึงได้ชวนเจ้ามา และเพราะต้องเป็นเวลานี้เท่านั้น 

             " เจ้าบ้า นายหลอกฉันไม่ได้หรอก ฉันรู้นะว่าดวงดาวน่ะระยิบระยับตลอดทั้งคืน ไม่ใช่แค่ช่วงเวลานี้ จริงๆนายจะพาฉันมาดูหลังจากที่จัดการเหยื่อเสร็จก็ได้นี่ " 

             " ...เจ้ารู้มั้ยว่าดาวดวงที่สว่างที่สุดที่อยู่ข้างหน้าเจ้านัั้นชื่ออะไร... 

     รุคส์ที่มาแปลกไปจากทุกทีเริ่มยิงคำถามใส่ไวโอล่าผู้ที่ชีวิตในวัยเด็กอยู่กับการเรียนทุกๆอย่างเพื่อให้ควบคุมธาตุลมได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงดาราศาตร์ที่เรียนเพื่อช่วยให้เข้าใจปรากฏการณ์ต่างๆได้ เธอไม่รอช้าที่จะตอบรุคส์ไปอย่างรวดเร็วและมั่นใจ 

              " หัวใจแมงป่องไง นายกลัวฉันลืมรึไง "

              " ผิด...ตรงนั้นน่ะ มันปลายศรของนายพรานต่างหาก 

              " อ อ้าวเหรอ งั้นฉันคงจะเข้าใจผิดไปเอง แต่ก็นะ ดวงดาวเนี่ย ทุกดวงก็คล้ายๆกันหมดเลยนะ ถ้าไม่มองด้วยกล้องโทรทรรศน์ก็แยกแทบไม่ออกเลยนะ " 

    ไวโอล่ายังคงยิ้มร่าโดยที่ยังไม่เข้าใจถึงเรื่องที่รุคส์จะสื่อ 

              " ...ดาวพวกนี้ก็เหมือนมนุษย์นั่นแหละ เจ้าไม่มีวันรู้หรอกว่าคนๆนั้นทำอะไรมาบ้าง แล้วก็ดีไม่ดีเจ้าจะไม่รู้ด้วยว่าคนๆนั้นเป็นใคร หากเจ้าตัดสินคนอื่นด้วยความรู้สึกของเจ้าน่ะ มันก็ไม่ต่างกับการที่เจ้าบอกชื่อดาวผิดหรอก "

               " น นายตั้งใจจะบอกอะไรฉัน ? "

    ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นมาในหัวของไวโอล่า รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มเบือนหายไป แทนที่ด้วยสีหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ 

               " ข้าก็แค่จะบอกว่า ต่อให้เจ้าเดาและฆ่าคนหมดบริษัทนั้น บางทีเจ้าก็อาจจะไม่เจอคนที่เจ้าตามหาก็ได้นะ แล้วอย่าลืมด้วยว่าเจ้ากำลังจะฆ่าคน ไม่ใช่เดาชื่อดวงดาว ถ้าแค่เดาชื่อดวงดาวน่ะ เจ้าผิดข้าบอก ดวงดาวก็ยังคงอยู่ในที่ของมัน แต่เมื่อไหร่ที่เจ้าฆ่าคน คนๆนั้นจะหายไปจากห้วงเวลาทันที...ข้าเองก็เกือบเป็นเช่นนั้น...  
            
               " พูดเหมือนนายเพิ่งไปโดนเล่นงานมาซะงั้นแหละ " 

    หน้าของเธอค่อยๆแสดงรอยยิ้มอ่อนๆออกมาอีกครั้งเพราะคิดว่ารุ๊คส์คงจะแกล้งพูดขู่ให้เธอหยุดทำลายชีวิตผู้อื่น แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น...

              " ... ณ ตอนนี้น่ะ เจ้าไม่ได้มีฝีมือเก่งกล้าเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ทั้งการเคลื่อนไหวเองก็ม มีช่องโหว่ รวมถึงการใช้พลังก็ไม่เสถียร เพราะถ้าเป็นเจ้าสมัยก่อนล่ะก็ เจ้าน่าจะรับรู้แล้วว่าอันตรายอยู่ใกล้ตัวแค่ไหน  "

    เป็นอีกครั้งและหนำซ้ำยังติดๆกันอีก รุ๊คส์พูดเหมือนเขาไปเจออะไรบางอย่างมาจริงๆ แต่ยังคงไม่บอกไวโอล่า เขาทำเพียงแค่เตือนเธอเท่านั้น 
     
              " หึ พูดงี้ก็สวยสิ เดี๋ยวฉันจะทำให้ดู พลังที่ฉันเก็บมาตลอด 5 ปีน่ะ... " 

    แม้จะยังสงสัยในเรื่องที่รุ๊คส์พูด แต่ไวโอล่าก็ได้แสยะยิ้มออกมาอีกครั้ง รุ๊คส์เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เพียงแค่หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนทั้งสองจะบินลับไปในท้องฟ้าอันมืดมิดของราตรียามไร้จันทรา  



                
                                                 Character Chapter 4 : Viola the Tempestmashare ------> Finish 

        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×