ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Legendary เปิดตำนานศึกพลิกโลก

    ลำดับตอนที่ #2 : Character Chapter : คาร์เดีย เอิร์ทิเนส

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 35
      0
      26 มี.ค. 57

    เวลา 16.30 น. สโตนเฮนจ์ ประเทศอังกฤษ

    หมู่ทุ่งหญ้าเขียวขจีกำลัง พริ้วไหวไปตามสายลมอ่อนๆ ควบคู่ไปกับพระอาทิตย์ที่เริ่มเข้าสู่แดนสนธยา ทำให้ต้นหญ้าเหล่านี้ยิ่งดูงดงามไปอีกมุมหนึ่ง นี่คือธรรมชาติรอบๆสถานที่แห่งนี้ กลุ่มหินปริศนา " สโตนเฮนจ์ " สถานที่ๆซึ่งอยู่ก่อนความเจริญก้าวหน้าทุกชนิด นั่นก็หมายความว่า มันถูกตั้งขึ้นมาแต่ยุคประวัติศาสตร์ การเรียงตัวออันแปลกประหลาดของหินเหล่านี้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไรหากไม่มีเครื่องมืออย่างในปัจจุบัน นั่นทำให้เกิดเป็นปัญหาที่ยังคงค้างคามาจนถึงปัจจุบัน แต่นั่น คงไม่สำคัญซักเท่าไหร่สำหรับตอนนี้ เมื่อชายหญิงคู่หนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ซึ่งมองโดยรวมแล้วคาดว่าเป็นพี่น้องกัน หญิงสาวผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้ม มาคู่กับดวงตาที่งดงามราวกับอัญมณีสีม่วง ริมฝีปากที่บางแต่เปี่ยมไปด้วยความสดใสของหญิงสาววัยรุ่น นั่นทำให้เธอดูสวยและเป็นจุดเด่นกว่าใครๆรวมถึงน้องชายของเธอเองด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ชายหนุ่มหน้าตาดีนัก แต่ก็ไม่ได้หน้าตาแย่ ผมสีน้ำตาลอ่อนนั้นแม้จะเหมือนพี่สาวของเขา แต่มันก็สั้นกว่า ดวงตาที่เป็นสีน้ำตาลละม้ายคล้ายกับสีผมนั้น ถือเป็นข้อแตกต่างอย่างใหญ่หลวงของพี่น้องคู่นี้ ทั้งคู่เดินมาเรื่อยๆจนถึงกลางสโตนเฮนจ์ หลังจากนั้นจึงได้นั่งลงไปโดยไม่ได้สนใจอะไร

        " ความจริงแล้วงานนี้พี่มาคนเดียวก็ได้นี่ครับ ไม่เห็นต้องขอตาให้ผมมาด้วยเลย เกะกะเปล่าๆ "

    บทสนทนาที่แสดงความน้อยเนื้อต่ำใจเริ่มขึ้น เมื่อผู้เป็นน้องรู้ดีอยู่แล้วว่า ตัวเองและพี่สาวนั้น มีพลังต่างกันมาก

       " ไม่หรอก พี่ต้องให้นายมีประสบการณ์บ้าง แล้วก็อีกอย่างนะ ไม่ต้องมาพูดแนวนี้ด้วย ไม่ชอบ "

       " ผมด้อยกว่าพี่ในทุกด้านเลยนะ ตั้งแต่ที่ผมยังไม่มีกระทั่งตำนานเป็นของตัวเองเลย แต่พี่กลับมีแล้ว แถมยังเป็นชั้นแนวหน้าอีก ส่วนเรื่องพลังธาตุ พี่ก็ทำได้มากกว่าผม..."

       " ถ้านายยังไม่หยุดเพ้อร่ำไร พี่จะจับนายยัดลงไปใต้สโตนเฮนจ์ แล้วพอเคลียร์เสร็จค่อยขุดขึ้นมา "

    บท สนทนาหยุดลงทันใด เมื่อหญิงสาวเกิดอาการรำคาญขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งนั่น เป็นจังหวะเดียวกับที่ท้องฟ้าจู่ๆก็มืดลงอย่างรวดเร็ว เมฆดำน้อยใหญ่พากันจับตัวราวกับฝนจะตก แต่สิ่งที่มาคู่กับเมฆดำเหล่านั้น กลับกลายเป็นวงเวทย์สีม่วงขนาดใหญ่เท่าๆกับสโตนเฮนจ์ มันเรืองแสง และหมุนอย่างช้าๆ

        " นายบ่นใช่มั้ยว่าอยากได้ตำนาน.... "

    หญิงสาวหันมาถามผู้เป็นน้องชาย ระหว่างที่ต้วน้องชายเองกำลังตกตะลึงกับขนาดของวงเวทย์อยู่

        " ทะ ทำไมเหรอครับ ...  รึว่า!? "

        " ทำใจให้สบายล่ะ "

    หญิงสาวผู้เป็นพี่ตอบแบบรวบรัดแล้วก็กระโจนขึ้นไปท่ามกลางวงเวทย์สีม่วงนั้น เธอใช้มือขวาของเธอวาดวงกลมขึ้นภายหน้า

        " ผืนดินเอ๋ย..จงฟังคำบัญชาจากข้า!!! ดินแดนจองจำ • อ้อมกอดไอดิน!!! "

    ทันที ที่หญิงสาวร่ายเวทย์เสร็จ วงกลมที่เธอวาดไว้ก็ขยายใหญ่ขึ้น และปรากฏมืดสีขาวจำนานมากออกมาจากวงกลมนั้น และเข้าไปดึงบางสิ่งบางอย่างออกมาจากวงเวทย์สีม่วงนั้น  สิ่งมีชีวิตยักษ์รูปร่างคล้ายงูแต่ครึ่งตัวบนกลับเป็นมนุษย์ผู้หญิง ถูกกระชากให้ล่วงลงมาบนพื้นดิน  มันรีบกลับตัวอย่างว่องไวและเลื้อยไปรอบๆตัวทั้งสองอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีแดงฉานที่โบ๋กลวงของมัน หลั่งเลือดสีแดงออกมาเป็นระยะๆ

        " คาร์เดีย... พี่ว่าปลาคราวนี้ใหญ่ใช่เล่นเลยล่ะ "

        " พี่ครับ  ผมว่าพี่จริงจังหน่อยก็ดีนะครับ เจ้านี่น่ะ ' ลามิอา ' นะครับ เป็นปีศาจที่เกิดจากคำสาปของเทพีฮีร่า ที่หึงเพราะเธอไปยุ่งกับซีอุส ซึ่งเป็นสามีของเธอ ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ลามิอาถูกสาปให้มีรูปร่างเป็นอย่างนี้แล้วก็ทำให้ต้องฆ่าแล้วกินลูกตัวเอง เธอทนเห็นภาพไม่ได้จึงควักลูกตาเธอทิ้งนับแต่นั้นมา "

         " โธ่ แค่นั้นเอง ตาบอดนี่สิยิ่งเก็บง่าย "
     
         " เดี๋ยวพี่ลินด์ซี!! ฟังผมก่อน.. "

    ผู่้เป็นพี่สาวไม่รอช้าที่จะบุกโจมตีก่อนด้วยเวทย์ดินของเธอ
     
         " เขตจองจำสู่แดนสังหาร • ผู้ลงทัณฑ์แห่งความเที่ยงตรง "

      วงเวทย์วงเดิมที่ลากลามิอาออกมาจากมิติมืด ย้ายที่กลับลงมาตรงบริเวณพื้นที่ลามิอาอยู่ มันเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีน้ำตาล และปรากฏอาวุธสีน้ำตาลที่ทำจากดินจำนวนมากพุ่งออกมา เชือดเฉือนร่างของลามิอาที่อยู่ในอาณาบริเวณ ลินด์ซียังคงไม่หยุดแค่นั้น เพราะนิสัยของเธอนั้น เป็นพวกต้องทำให้ชัวร์ 100% นั่นทำให้วงเวทย์ถูกเรียกขึ้นมาอีกจำนวนมาก
      ลามิอาที่กระอักกระอ่วมจากการโจมตีเซ็ตเเรก หันไปมองเหล่าวงเวทย์ชุดใหม่ที่โผล่ขึ้นมาอีก 5 วง พวกมันกำลังเตรียมพร้อมที่จะโจมตีระลอกต่อไป แต่คราวนี้ราวกับว่าลามิอาจะไม่ยอมให้เป็นฝ่ายถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว มันมองเหล่าวงเวทย์ทั้ง 5 และทันใดนั้น วงเวทย์ของลินด์ซีก็เปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่เธอเองก็ยังคงไม่ได้เอะใจอะไร

         " ปิดฉากเลยนะน้องงูน้อย!! ดิน • พิภพสมสู่!! "

       วงเวทย์ทั้ง 5 เปล่งแสงสว่างจ้าก่อนจะกลายเป็นสีม่วง แล้วทันใดนั้นดินก็ออกมาจากข้างหลังวงเวทย์แล้วเข้าโโ๗มตีพวกคาร์เดียแทนที่ จะเป็นลามิอา

         " ฮะ เฮ้ย!? "

         " ผมจะบอกพี่แล้วนะ!! แต่พี่เล่นไม่ฟังผมเลย ลามิอานั่นน่ะ เป็นปีศาจที่สลับการปรากฏของมนต์ทุกบทบนโลกได้ "

         " งั้นวันหลังก็บอกให้เร็วขึ้นกว่านี้อีกสิยะ!! "

         " พี่ก็หัดใช้สมองมากกว่าใช้พลังสิครับ!! ผมชักจะทนไม่ไหวกับนิสัยของพี่แบบนี้แล้วนะ เป็นถึงผู้ครองไกอาแท้ๆ แต่กลับทำตัวแบบนี้พ่อแม่ไม่ภูมิใจหรอกนะครับ!! "

        คาร์เดียตะโกนต่อว่าอย่างรุนแรงในขณะที่เขากำลังโดนดินที่มีแรงดึงมหาศาลของ ลินด์ซีที่สะท้อนกลับมาหาพวกเขา  ส่วนทางลินด์ซี เธอกลับเงียบไปอย่างผิดสังกตุ ซึ่งทำให้คาร์เดียเริ่มเอะใจ  มนต์ป้องกันของสายดินถูกร่ายออกมาเป็นระยะๆโดยคารืเดียเพื่อคุ้มครองทั้งตัว เขาเองและตัวลินด์ซีด้วย จนกระทั่ง...หยดน้ำตาสีแดงไหลอาบใบหน้าของหญิงสาว ลินด์ซีเงยหน้าขึ้นในสภาพหลับตาและหันไปทางคาร์เดียด้วยรอยยิ้มปนความเศร้า เธอเดินเข้าไปหาน้องชายของเธออย่างช้าๆเป็นจังหวะเดียวกลับที่มนต์ป้องกัน ของคาร์เดียเริ่มสลายไปทีละนิด เมื่อเธอถึงตัวคาร์เดียมนต์ป้องกันก็หมดฤทธิ์พอดี คาร์เดียจึงเตรียมพร้อมจะร่ายใหม่หากแต่ลินด์ซีห้ามมือของเขาไว้
        ดวงตาที่เคยเป็นสีม่วงสดใสราวกับอัญมณี บัดนี้มันกลับหายไป เหลือเพียงเบ้าตาที่โบ๋กลวงไร้ซึ่งดวงตา!! คาร์เดียตกใจเป้นอย่างมาก แต่แล้วทันใดนั้นอ้อมกอดของแขนสีขาวก็โผล่ขึ้นมากอดร่างของคาร์เดียไว้และ แยกเขาออกมาจากการโจมตีทั้งหมด

         " นะ นี่มัน...ไกอา!! "

       คาร์เดียแหงนหน้ามองไปข้างบน ก็พบใบหน้าของหญิงสาวภายใต้หน้ากากที่แตกไปซีกหนึ่ง ทำให้เห็นซีกหน้าภายในที่ขาวซีดของตำนานพระแม่แห่งสรรพสิ่งบนโลก

         " ...นายพูดถูกคาร์เดีย...พี่เป็นพวกชอบใจร้อน เห็นว่าใช้พลังของตัวเองอัดๆเข้าไปก็จบแล้ว ... และพอมาวันนี้ นายทำให้พี่ได้รู้ว่า พลังของพี่กำลังทำร้ายนาย... "

       เสียงของลินด์ซีดังก้องขึ้นมาภายใต้อ้อมกอดของไกอา น้ำเสียงที่ฟังดูเรียบ แต่กลับแฝงไปด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมของลินด์ซี

          " พี่ลินด์ซี!! พี่คิดจะทำอะไรน่ะ!! "

          " ...เอิร์ทธิเนสรุ่นที่แล้ว...ท่านพ่อของพวกเราได้บอกไว้ว่า คนที่จะรับช่วงต่อจากท่าน จะต้องเป็นผู้ที่ควบคุมไกอาเท่านั้น เพราะจะทำให้ความสมดุลย์ของธาตุดินกลับมาปกติ ... "

          " ก็ใช่ไง พี่ก็รู้นี่ว่าทั้งครอบครัวมีพี่คนเดียวที่เรียกไกอาออกมาได้ เพราะฉะนั้นพี่นั่นแหละที่จะทำให้โลกของธาตุดินสมดุลย์ได้ "

          " ไม่หรอกคาร์เดีย... นายชมพี่เกินไป... อย่างที่นายบอก พี่มันใจร้อน ขนาดทำให้หน้ากากของไกอาแตกออกมาถึงซีกนึงเลยนะ แบบนี้คิดว่าพี่จะดูแลอนาคตของพวกเราได้เหรอ? "

          " มันไม่เห็นเกี่ยวเลยนี่พี่ลินด์ซี!! เรื่องแค่นี้เอากาวหยอดก็หาย ตอนนี้พี่เรียกไกอาให้ไปอยู่ข้างตัวพี่เลย!! "

          " ฮ่ะๆๆ พี่รู้ว่านายรู้ถึงสิ่งที่พี่กำลังทำ... "
      
        ลินด์ซีหหันหน้าไปทางคาร์เดียที่อยู่บนฟ้าในขณะที่ร่างของเธอกำลังถูกดิน ทั้งหลายบดละเอียด ตั้งแต่ขาขึ้นมาเรื่อยๆ จนเธอเหลือครึ่งตัว ผลของเวทย์มนต์พิภพสมสู่จึงหมดลง คาร์เดียเมื่อเห็นว่าผลมนต์หยุดทำงานแล้วเขาจึงพยายามที่จะลงมาช่วยรักษาพี่ ของเขา แต่กระนั้นไกอากับกอดเขาเอาไว้แน่นขึ้น ในขณะที่ลามิอาก็เลื้อยไปรัดตัวของลินด์ซีไว้

          " ...พี่อาจจะเป็นพี่ที่ชอบโชว์ในสายตานายนะ... แต่ยังไงซะคนที่โดดเด่นในสายตาพี่เสมอคือนายนะ...คาร์เดีย ...ฝาก.. ที่เหลือ.. ด้วย .. "

        คำพูดของลินด์ซีถูกตัดบทไปด้วยลมหายใจสุดท้ายของเธอ ที่หายไปเพราะการโจมตีของลามิอา ลินด์ซีถูกลามิอาใช้มือถ่างปากของลินด์ซีออก ทำให้หัวส่วนริมฝีปากบนของเธอกระเด็นออกไปพร้อมๆกับเลือดสีแดงฉานที่ สาดกระเซ็นออกมา ลามิอายังคงไม่หยุดแค่นั้นมันค่อยๆเทาะเล็มร่างอันไร้วิญญาณของลินด์ซีต่อ ไป 
        คาร์เดียที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ภายในอ้อมกอดของไกอานั้นได้แต่กรีด ร้องออกมาอย่างเดียว เพราะเขาไม่สามารถช่วยคนที่เป็นสิ่งสุดท้ายที่แสดงให้เห็นว่าครอบครัวของเขา ยังมีตัวตนอยู่ได้ น้ำตาแห่งความโศกเศร้าไหลรินอาบหน้าคารืเดีย ไกอาเองก็เหมือนจะรับรู้ได้เช่นกัน เธอใช้มือที่กอดคาร์เดียไว้ข้างหนึ่งขึ้นมาปาดน้ำตาของคาร์เดีย และน้ำตานั้นก็กลายเป็นดอกกล็อกซิเนียสีม่วงสดใส มันเบ่งบานสวยงามท่ามกลางมือขาวซีด ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของลินด์ซีที่ไม่ว่าจะที่ไหนเมื่อไหร่เธอก็ยังคงโดดเด่นอยู่เสมอนั่นเอง คาร์เดียหยุดร่ำร้องและค่อยๆบรรจงหยิบดอกไม้ดอกนั้นขึ้นมาเชยชม เช่นเดียวกันกับไกอา ที่มองดูคาร์เดียอยู่เงียบๆแต่แฝงไปด้วยความรู้สึก 'เอ็นดู'

          " ... ไกอา... ถ้านี่เป็นประสงค์ของพี่ล่ะก็.. ฉันจะเดินต่อไปเอง... "

        ตาของคาร์เดียเปลี่ยนเป็นสีม่วงสดเหมือนกับที่ลินด์ซีเคยเป็น เขามองร่างไร้วิญญาณของลินด์ซีเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ไกอาจะพาเขาไปที่แห่งหนึ่งซึ่งลินด์ซีน่าจะสั่งไว้ตั้งแต่ก่อนจะถึง วันนี้
        เพียงไม่นานหลังจากที่ไกอาพาคาร์เดียออกมา พวกเขาก็ได้มาถึงถ้ำแห่งหนึ่งท่ามกลางป่าไม้ที่ยังคงสมบูรณ์อยู่ ภายในถ้ำประกอบไปด้วยอะเมทิสต์มากมายรวมถึงมีดอกกล็อกซิเนียด้วย ไกอาปล่อยให้คาร์เดียลงไปและเดินเข้าถ้ำส่วนตัวเธอเองก็ย่อร่างให้เหลือขนาด เท่ากับมนุษย์ทั่วไปแล้วจึงเดินตามเข้าไปทีหลัง
         ภายในถ้ำเมื่อผ่านทางเข้ามาแล้วข้างในจะถูกทำเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีเหล่าเฟอร์นิเจอร์มากมายและที่สำคัญ แต่ล่ะอย่างล้วนเป็นของชิ้นโปรดของคาร์เดียที่พังไป ทันทีที่เขาเห็นเขาก็รับรู้ได้ทันทีว่า เหตุใดทำไมลินด์ซีจะหายไปเมื่อของรักของโปรดของคาร์เดียพังไปสักชิ้น ลินด์ซีเมื่อรู้ว่าของอะไรที่คาร์เดียรักและมันพัง เธอจะรีบเก็บก่อนจะโดนเอาไปทิ้งและมารวมไว้ที่ถ้ำแห่งนี้พร้อมๆกับซ่อมไป ด้วย ทำให้ทุกอย่างอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป้นเตียงที่คาร์เดียนอนสมัยเด็ก โต๊ะไม้ที่เขาชอบนั่งและเอาตัวต่อมานั่งต่อ เสื้อผ้าเก่าๆของคาร์เดีย รวมไปถึงรถบังคับวิทยุคันโปรดของเขาด้วย ทุกอย่างถูกซ่อมไว้หมดแล้ว แล้วถูกจัดวางไว้อย่างเรียบร้อยถ่านจำนวนมากถูกเก็บไว้ในลิ้นชักบริเวณนั้น เพื่อรอวันที่เจ้าของรถคันนี้จะกลับมาเล่น...

          " คาร์เดีย.. ลินด์ซีบอกให้ข้าพาเจ้ามาหลังจากที่ถ่ายโอนเสร็จแล้ว แล้วก็ฝากข้อความนี้ให้เจ้าด้วย "
     
         ไกอาเดินเข้ามาทางด้านหลังของคาร์เดียและพูดกับเขา นี่จึงเป็นครั้งแรกที่คาร์เดียรับรู้ได้ว่าไกอาพูดได้ เธอยกมือขวาขึ้นและหันไปทางอะเมทิสต์ตรงกำแพง พร้อมๆกับฉายภาพคล้ายคลิปวีดีโอขึ้นมา

          " ฮัลโหล คาร์เดีย ได้ยินพี่ป่ะ อัดแล้วแน่นะไกอา ... เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยดีกว่า ฮ่ะๆ คาร์เดีย ถ้านายได้ดูคลิปนี้แสดงว่าไกอาคงพานายไป 'ที่นั่น ' แล้ว ที่ๆนายยืนอยู่ตรงนี้พี่ตั้งใจจะให้นายได้เห็นตอนที่นายรู้สึกอ้างว้างหรือโดดเดียว เป็นที่ๆรวมของที่นายเคยมีและมันสูญสลายหรือพังไปแล้ว แล้วก็ไว้ให้นายได้พักผ่อนหย่อนใจเวลาเหนื่อย ตลอดเวลา 16 ปีนับตั้งแต่นายเกิด พี่ไม่เคยทำอะไรดีๆให้นายเลย ไม่เคยบอกว่ารักมากแค่ไหน ไม่เคยโอ๋เวลานายเจ็บ แถมยังชวนทะเลาะบ่อยๆด้วย ฮ่ะๆ ฟังดูแล้วก็งี่เง่าดีเนอะพี่เนี่ย.. เรื่องทุกเรื่องที่พี่ต้องทำอย่างนั้นเพราะกลัวนายจะเสียใจตอนที่เหตุการณ์นี้มาถึงน่ะ พี่คิดจะหยุดชีวิตของพี่ไว้ตั้งแต่รู้ว่าได้นายเป็นน้องแล้วล่ะ เหตุผลน่ะเหรอ เพราะกฏของตระกูลที่ต้องมีผู้สืบทอดเพียงคนเดียว แล้วก็เพราะนายเป็นคนเดียวที่ทำให้พี่มีรอยยิ้ม พี่เลยเลือกที่จะให้นายเป็นผู้สืบทอดคนต่อไป อืมมม พี่ก็พูดพวกคำซึ้งๆไม่เก่งด้วยแฮะ เอาเป็นว่า ของขวัญวันเกิดทั้ง 16 ปีของนายอยู่ที่นี่หมดแล้ว ถ้านายหาเจอทั้งหมดอ่ะนะ แล้วก็อีกเรื่องนึง ถ้านายเกลียดพี่มากล่ะก็ของขวัญทั้งหมดไม่ต้องหาก็ได้ รึว่านายจะทำลายที่นี่ทิ้งไปเลยก็ได้ พี่ไม่โกรธนายหรอกถ้ามันเป็นความต้องการของนายล่ะนะ อ้อ อีกเรื่องนึงยาวหน่อยนะ ความจริงพี่ก็อยากอยู่กับนายไปอีกนานๆนะ แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เลยอยู่ไม่ได้ พี่ไม่เสียใจที่ได้เห็นนายเป็น เอิร์ทธิเนสที่แข็งแกร่งที่สุด ดีใจด้วยซ้ำ พี่ไม่เคยอิจฉานายหรอกนะที่เวลาร้องไห้แล้วจะมีแม่โอ๋ตลอด แค่แกล้งวีนใส่ไปแบบนั้นแหละ พอหลังจากแม่เสีีย พี่อยากจะบอกนายตลอด แต่เพราะเป็นนิสัยไปแล้วเลยไม่กล้า.. มาถึงตรงนี้หากไม่บอก เดี๋ยวก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว ช่วยฟังคำพูดหลุดโลกของพี่ได้มัย ? แต่ถึงไม่ฟังก็ไม่มีให้กดข้ามเหมือนกับเครื่องเล่นแผ่นหรอกนะ ฮ่ะๆ เอาล่ะฟังดีๆนะ สิ่งที่พี่อยากจะบอกมาตลอดหลังจากแม่เสีย ' นายไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก เพราะพี่จะคอยดูแลนายไปตลอดเอง'  อาาาาา รู้สึกเขินจังเลย แต่ก็นะ.. คาร์เดีย ถ้าพี่ไม่อยู่แล้ว ช่วยดูแลไกอาต่อด้วยนะ แล้วก็ดูแลตัวเองให้ดีล่ะ อย่าเอาแต่งอแงเพราะไกอาไม่ใจดีเหมือนพี่จ๋าคนนี้หรอกนะ ฮ่าๆๆ ลาก่อนคาร์เดีย ลาก่อนไกอา และลาก่อน..ความทรงจำที่สุกสกาวที่สุดของฉัน... "

         คลิปวีดีโอค่อยๆดับลงความเงียบสงัดค่อยๆเข้ามาอีกครั้ง คาร์เดียที่ยืนดูจนจบไม่สามารถพูดอะไรได้ เขาเดินไปรอบๆถ้ำและหยิบนู่นหยิบนี่มาดูมากมาย พร้อมๆกับความทรงจำเก่าๆที่ไหลกลับออกมามากมาย เสียงของลินด์ซีที่ยังคงดังวนเวียนอยู่ในหัวทำให้น้ำตาของคาร์เดียไหลออกมา อีกครั้ง เขาเดินสำรวจทั้งน้ำตาจนมาถึงตู้ใบเก่าไบหนึ่งซึ่งเขาจำได้ว่ามันเคยอยู่ใน ห้องนอนเขาจนถึงอายุ 7 ขวบ มันก็หายไป และพามาวันนี้มันก็กลับมาอยู่ข้างหน้าเขาอีกครั้ง คาร์เดียค่อยๆเปิดตู้ออกช้าๆ เมื่อประตูตู้เปิดออก ภายในมีเสื้อโค้ทสีดำตัวหนึ่ง ข้างหลังถูกปักด้วยฝีมือเย็บผ้าของลินด์ซีที่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เป็นคำว่า " Earthiness # 41 'Kardia' " ภายในเสื้อมีกระดาษเก่าๆแผ่นหนึ่งถูกทาบไว้และมีตัวหนังสือเขียนไว้ว่า

         " ยินดีด้วยนะคาร์เดีย นายได้เป็นผู้สืบทอดเต็มตัวแล้วล่ะ ไม่ต้องเกร็งนะ นี่เป็นของแสดงความยินดีด้วยน่ะ พี่คงไม่สามารถให้นายเองกับมือได้ บวกกับไม่กล้าให้เพราะกลัวนายจะไม่ชอบ บอกตามตรงว่ากว่าจะปักเสร็จ นิ้วพี่ได้รูระบายเลือดเพิ่มขึ้นเยอะเลยล่ะ ฮ่าๆ แต่ลึกๆก็ยังอยากเห็ฆนนายใส่ซักครั้งนะ ^ ^ "

         คาร์เดียพับกระดาษนั้นและเก็บเข้าไปที่ลิ้นชักของตู้ จกานั้นก็ค่อยๆบรรจงใส่เสื้อโค้ทตัวนั้นและจัดทรงให้สวยงาม เขาเดินไปที่ข้างตู้เพราะจำได้ว่ามันยังมีกระจกบานเท่าตัวเขาอยู่ และมันก็เป็นจริง แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานซักเท่าไหร่ กระจกบานนั้นก็ยังคงได้รับการดดูแลรักษามาตลอด ทำให้มันยังคงใสและสะท้อนภาพมาได้เหมือนเดิม คาร์เดียยืนส่องกระจกบานนั้นพร้อมกับเสื้อโค้ทที่ลิน์ซีหวังจะเห็น ทันใดนั้นบนกระจกก็เกิดเงาจางๆราวกับมีมือที่เรียวเล็กมาจัดคอเสื้อให้คาร์เดีย ก่อนจะค่อยๆจางหายไป คาร์เดียมองกระจกต่ออีกครู่หนึ่งก่อนจะหันไปหาไกอา

         " ไกอา ฉันต้องการที่นีเป็นบ้านใหญ่ "

         " ถ้าเจ้าต้องการก็เอาไปเถอะ ลินด์ซีหวังอยู่แล้วล่ะ "

         " ..ฉันอยากให้เธอช่วยฉัน "

         " เจ้าจะให้ข้าช่วยอะไร "

         " ไปพาพี่ลินด์ซีกลับมาอยู่ด้วยกัน.. "

         " ...ไม่มีประโยชน์หรอกน่า ลินด์ซีน่ะจากเจ้าไปแล้วนะ... "

          " ถึงจะไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าทิ้งไว้แบบนั้น ฉันก็รับไม่ได้อยู่ดี ขอร้องเถอะนะไกอา... "

          " ...ผืนดินของข้า จงฟังบัญชา ข้าในนามไกอา จงนำร่างของลินด์ซี เอิร์ทธิเนส มาไว้ตรงหน้าข้า ณ บัดนี้... "

       ไกอานั่งชันเข่าและเอามือซ้ายแตะพื้น เพียงไม่นาน แผ่นดินก็เกิดการสั่นสะเทือน ทำให้พื้นบริเวณหน้าไกอาแยกออกแต่กลับไม่มีสิ่งใดพัง หนำซ้ำใต้ดินนั้น ยังมีสภาพร่างไร้วิญญาณของลินด์ซีอยู่ด้วย ดินเหล่านี้ช่วยจัดสภาพที่เหลืออยู่ของลินด์ซีให้ดีที่สุด แต่ไม่ว่าจะจัดยังไง ก็ไม่ต่างจาก "ซากศพ" เพราะลินด์ซีในตอนนี้ไม่มีลูกตา และปากซีกล่างก็หายไปบางส่วนจากผลของการกัดกิน แขนซ้ายที่ถูกกัดแหว่งจนเห็นกระดูก เครื่องในที่ถูกกัดจนพังทะลาย สมองที่อยู่ที่หัวส่วนบนก็ถูกควักออกไปกินทำให้กะโหลกด้านหลังเปิดเหวอะหวะ
     
           " ...ลามิอา... ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้ "

        คาเดียร์ร่ายมนต์ให้ดินค่อยๆห่อหุ้มร่างของลินด์ซีแล้วพาเธอลงไปสู่ใต้ดิน อย่างสงบ จากนั้นเขาก็เดินไปเด็ดดอกกล็อกซิเนียที่อยู่รอบๆถ้ำเป็นจำนวนมาก มาวางไว้บริเวณที่ลินด์ซีถูกฝังไว้

           " หลับให้สบายนะครับ... ด้วยเกียรติที่พี่มอบให้ ผมจะทำหน้าที่ต่อเอง "

           " ....มีเกทเปิดบริเวณ 10 กิโลเมตรจากที่นี่...ขนาดไม่ใหญ่คาดว่าไม่ใช่ลามิอา "

        ไกอาแจ้งเตือนถึงการมาของตำนานชั่วร้ายเรื่องใหม่ที่กำลังจะเล็ดลอดออกมาสู่ โลกมนุษย์ คาร์เดียเดินออกมาจากถ้ำอย่างสุขุมพร้อมกับไกอา เขาหันไปและใช้มนต์ดินคลุมถ้ำไว้อย่างแน่นหนา ก่อนจะหันไปทางที่เกทปรากฏ

            " ไปทำหน้าที่กันเถอะ ไกอา...ฉันจะขยี้ให้เละเลย!! "

             " ให้มันได้อย่างงี้สิ เจ้าหนู ... "

          ทั้ง 2 ออกจากบริเวณที่ยืนอยู่และไปยังที่ๆเกทเปิดอย่างรวดเร็ว นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้น ของนักล่าตำนานรุ่นใหม่ภายใต้นามแห่ง " เอิร์ทธิเนส " ...

       

                                                                  Character Profile 2 : "Kardia" → Finish   
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×