เกร็ดความรู้ต่างๆจร้า

ลำดับตอนที่ #15 : เตือนสาวใส่สายเดี่ยว ระวังผิวเสียและไม่สวย

     อุ๊ย... “ผิวเนียน สวยใส” จังเลย เขาหรือเธอ จะภาคภูมิใจไม่น้อยหากมีคนมาทักคำๆ นี้ ยิ่งบรรดาสาวๆ ด้วยแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ให้ความใส่ใจกันค่อนข้างมาก แต่ทำอย่างไรถึงจะคงความใสเอาไว้ให้นานที่สุดนั้น ทำอย่างไรนั้น เรื่องนี้มีวิธี
     รศ.พญ.วรัญญา บุญชัย แห่งภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช ให้ข้อมูลว่า หลายปีมานี้มีคนมาปรึกษาเกี่ยวกับเคล็ดลับการทำให้หน้าใสเป็นจำนวนมาก เรียกว่ารับปรึกษาเป็นรายวันก็คงจะได้
     อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโดยธรรมชาติผิวพรรณของเราจะเสื่อมไปตามวัย นอกจากนี้ยังมีมลภาวะแวดล้อมอื่นๆ ยังเป็นตัวเร่งตัวกระตุ้นให้ผิวเสื่อมเพิ่มมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด การสูบบุหรี่ ความเครียด ซึ่งจะสังเกตได้จากผิวหนังมีรอยย่น ร่องลึกขึ้น กระ ฝ้า ฯลฯ
แล้วถามว่าจะทำอย่างไรให้ “ผิวสวยใส” ตลอดไป?
     รศ.พญ.วรัญญาบอกว่า ตามธรรมชาติเราไม่สามารถให้ผิวสวยใสเหมือนช่วงวัยรุ่น แต่เราสามารถชะลอความเหี่ยวย่นได้ระดับหนึ่ง อย่างใครที่ต้องทำงานอย่างกลางแจ้งก็ให้สวมหมวกใส่เสื้อผ้ามิดชิด ให้ถ้าทาครีมป้องกันแสงแดดสูง ส่วนคนทำงานในห้องแอร์ถึงแม้ว่าจะไม่โดดแดดจัด แต่ก็ต้องทาครีมเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหนัง ถ้าหากไม่ทาครีมผิวจะแห้งแตกได้เช่นเดียวกัน
     “การทาครีมบำรุงผิว นอกจากช่วยทำให้ผิวพรรณชุ่มชื่นแล้ว ยังลดปัญหาการสูญเสียน้ำใต้ผิวหนังได้บ้าง แล้วหากมีการทาครีมตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วัยรุ่น พอมีอายุมากขึ้นจะมีปัญหาผิวแห้งเป็นขุยน้อยกว่าผู้ที่มาทาครีมตอนอายุมากๆ แล้ว แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ ครีมแบบไหนถึงจะเหมาะกับตนเอง ดังนั้นก่อนซื้อจะต้องทดสอบผิวก่อนว่าเป็นมีผิวประเภทไหน ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม จากนั้นค่อยตัดสินใจซื้อ”
     ส่วนผู้ลอกผิวโดยใช้สารเคมี เช่น กรดฟีนอล เพื่อให้ผิวใสเนียน รศ.พญ.วรัญญา เล่าให้ฟังว่า การลอกผิวมีหลายระดับความลึก ตั้งแต่ระดับตื้นแค่ชั้นขี้ไคลจนลึกถึงชั้นหนังแท้ส่วนบน ซึ่งการลอกผิวควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านผิวหนังเท่านั้น โดยจะช่วยลอกผิวที่เสื่อมจากแสงอัลตราไวโอเลต กระตุ้นผิวใหม่ให้เกิดขึ้น เรียกว่า skin rejuvenation
     สำหรับการใช้ “พิษ” ของแบคทีเรียมาทำให้อ่อนฤทธิ์ รู้จักกันในนาม Botox ฉีดเพื่อลดรอยย่น รอยตีนกา ผลจะอยู่ได้เพียงชั่วคราวประมาณ 3-6 เดือน “หมอไม่อยากให้ทำ เนื่องเพราะอาจมีปัญหาตามมาภายหลังได้ โดยเฉพาะปัญหากล้ามเนื้อตาย หรือไร้ความรู้สึก แล้วอีกอย่างทำครั้งหนึ่งจะเต่งตึงไม่เกิน 6 เดือน ก็กลับมาเหี่ยวเหมือนเดิม”
     จากนั้น รศ.พญ.วรัญญา กล่าวแสดงความห่วงใยวัยรุ่นที่นิยมใส่เสื้อสายเดี่ยวโชว์สะดือว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้อีก 10 ปี 20 ปี ข้างหน้าเชื่อว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณมากกว่าผู้ที่ใส่เสื้อปกปิดมิดชิด โดยเฉพาะเป็นฝ้าแดดบริเวณบ่าไหล่ ซึ่งเป็นจุดที่ถูกแดดเต็มๆ โดยไม่มีเสื้อผ้ากรองแสง
     “ถ้าเตือนวัยรุ่นว่าเลิกใส่สายเดี่ยวเถอะเดี๋ยวผิวจะเสียนะ เชื่อว่าไม่มีวัยรุ่นคนไหนเชื่อ เพราะผิวไม่ได้ถูกทำลายแล้วเห็นชัดเจนในวันสองวัน นอกจากคนที่แพ้แสงแดดจะเริ่มเห็นปัญหาผิวพรรณชัดเจน เมื่อผ่านเวลาไปเป็นเดือนเป็นปี หรือว่ารอให้เกิดฝ้าบนแผ่นหลังแล้วค่อยมารักษาดูแล ถึงเวลานั้นอาจสายเกินไป ขณะนี้มีผลวิจัยของต่างประเทศระบุว่าแสงแดดเป็นตัวการหนึ่งในการทำลายผิว และเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นจะสังเกตได้ว่าฝรั่งรุ่นใหม่ไม่ค่อยนิยมอาบแดดเหมือนสมัยก่อน”
     สำหรับเทคนิคเลือกเครื่องสำอาง รศ.พญ.วรัญญาบอกว่า ควรเลือกที่มีกรด vitamin A acid (retinoic acid) เป็นสารอยู่ในตระกูลวิตามินเอ ซึ่งมีทั้งที่มาจากธรรมชาติและสารสังเคราะห์ เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าช่วยลดความหยาบกร้านของผิว ลดรอยย่น รวมทั้งช่วยปรับสีผิวให้ดีขึ้น
     อย่างไรก็ตาม ผลเหล่านี้ขึ้นอยู่กับขนาดความเข้มข้นและระยะเวลาที่ใช้ ซึ่งสารนี้จะอยู่ในรูปครีมหรือเจล 0-25% และ 0-05% และจดทะเบียนเป็น “ยา” ใช้รักษาสิว ฝ้า มิใช่เครื่องสำอาง ส่วนในเครื่องสำอางจะใช้ในรูป vitamin A alcohol (retinol) ที่ให้ผลและการระคายเคืองน้อยกว่า retinoic acid
     ขณะที่กรดผลไม้ ถ้าใช้เป็นประจำจะสามารถช่วยลดริ้วรอย ความกร้านของสีผิวได้บ้างเล็กน้อย เราสามารถพบครีม โลชั่นที่มีส่วนผสมของ AHA ได้ตามท้องตลาดทั่วไป หรืออาจผสมร่วมอยู่กับ retinol, moisturizer ได้
     รศ.พญ.วรัญญา แนะวิธีการเลือกซื้อครีมที่วางจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดว่า เลือกที่มี SPF ตั้งแต่น้อยไปมาก การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับสีผิวของผู้ใช้ สภาพการทำงานที่ต้องสัมผัสกับแสงแดดมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม หากคุณมีความประสงค์ต้องการชะลอความชราล่ะก็ควรเลือกใช้ broad spectrum sunscreen ที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB พร้อมกันนี้ยังต้องพิจารณาถึงความเข้มข้นของเนื้อครีม และประการสำคัญควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพราะผู้ใช้มีโอกาสแพ้ได้สูงโดยเฉพาะคนที่ผิวแพ้ง่าย
     ต่อจากนั้น รศ.พญ.วรัญญา กล่าวถึงผู้หญิงวัยทองว่า ผู้หญิงวัยที่เข้าสู่วัยนี้ควรรับประทานหรือทาฮอร์โมนเอสโตรเจน เพราะจะช่วยสร้างคอลลาเจนเพิ่ม ทำให้ผิวแน่นกระชับและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพราะอาจก่อให้เกิดมะเร็งเต้านมได้
     “ผู้หญิงเข้าสู่วัยทองไม่ควรซื้อฮอร์โมนมากินเอง ควรมีการตรวจสภาพร่างกายว่าเหมาะสมที่จะกินรึยัง หากแพทย์วินิจฉัยว่าสมควรกิน ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงโดยเฉพาะมะเร็งเต้านม ซึ่งเกิดจากการสะสมของสารซึ่งอยู่ในยาที่กิน” รศ.พญ.วรัญญาสรุป

+ +
si nd