ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คูซูซางโพ...หัวใจลิขิตรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : ออกเดินทาง

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 58


    talk เรื่องนี้เป็นนิยายท่องเที่ยวภูฎานค่ะ มีลงตัวอย่างในเว็บ meb ด้วยค่ะ
    ที่นี่ก็ลงไม่จบนะคะ เพราะทำอีบุ๊คที่ Meb ไว้แล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่คลิกมาอ่านค่ะ

    1

    สัญญาณไฟจราจรที่กะพริบเหลืองแล้วกลายเป็นแดง ทำให้นิลนลินต้องเหยียบเบรกกะทันหัน แล้วถอนใจเฮือกอย่างอึดอัด เสียงเพลงโอเปร่าป๊อปจากอิล ดิโว่ที่กังวานก้องไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นแม้แต่น้อย

                ชีวิตนอกมหาวิทยาลัยช่างน่าเบื่ออะไรอย่างนี้!

                มือเรียวยกขึ้นเสยผมยาวสีน้ำตาลที่สยายยุ่งประบ่า เมื่อเช้าก็รวบเกล้าไว้ดีอยู่ แต่พอตกเย็น อาการปวดศีรษะก็รุมเร้าจนต้องปลดกิ๊บออกหมด และพอเข้ามาในรถได้ เธอก็รีบถอดเสื้อนอกสีชมพูออก เหลือไว้เพียงเสื้อตัวสีครีมกับกระโปรงเทา ไม่ได้คิดจะอวดลำแขนอวบเรียวผิวเนียนผ่องหรอก แต่เป็นเพราะความร้อนอบอ้าวที่แอร์ในรถช่วยอะไรไม่ได้ต่างหาก

                เท้าบอบบางในส้นสูงสีครีมเคาะพื้นรถเหมือนจะเร่งให้ไฟเขียวเสียเร็วๆ พอไม่ได้อย่างใจ ฟันขาวราวไข่มุกก็ขบลงบนริมฝีปากอิ่ม คิ้วเข้มเรียวพาดเหนือดวงตาสีน้ำตาลกลมโตขมวดมุ่น และจมูกรั้นๆ นั่นก็ดูเหมือนจะเชิดขึ้นอีก

                ถึงกระนั้น ชายหนุ่มสองคนในรถคันใกล้ก็ยังหันมามอง ซุบซิบแก่กันว่า น่ารัก

                สายตาจากคนรอบข้างที่จ้องมองนั้น ปกตินิลนลินก็ไม่ได้รำคาญอะไรหรอก เพราะชินเสียแล้ว แต่วันนี้ทุกอย่างขวางหูขวางตาไปหมด เธอจึงดีใจนักที่ไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวเสียที

                ทางด่วนช่วยให้รถเคลื่อนได้เร็วขึ้น...นิดหน่อย...แต่ในที่สุดรั้วบ้านสีฟ้าก็อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว หญิงสาวกดแตรเพียงครั้งเดียว ประตูก็เปิดออก เธอพุ่งรถเข้าโรงจอด คว้ากระเป๋าถือลงมาก่อน ส่วนแฟ้มเอกสารกองทิ้งไว้อย่างนั้น หันไปถามเด็กสาวที่ออกมารอรับว่า หนูแจ๋ว คุณแม่กลับมาหรือยัง

                คุณผู้หญิงกลับมาแล้วค่ะเด็กสาวตอบอย่างเรียบร้อย ก่อนจะพูดต่ออย่างคนช่างคุยว่า รอคุณมาทานข้าวด้วยกัน เห็นว่ามีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ

                หยิบแฟ้มมาให้ด้วยนะ

                หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปในห้องหน้า ซึ่งเป็นบริเวณเล็กๆ สำหรับเปลี่ยนรองเท้า มีกระจกบานใหญ่ในกรอบไม้สลัก กับโต๊ะตัวเล็ก ให้สำรวจความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน ที่ขาโต๊ะวางแจกันกระเบื้องใบใหญ่เสียบร่มไว้ด้วย เลยจากห้องนี้ขึ้นไป คือบันไดสู่ชั้นบน ใต้บันไดเป็นห้องน้ำเล็ก สำหรับรับแขก

                นิลนลินแวะล้างมือล้างหน้าลวกๆ ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในห้องทางขวา ซึ่งใช้สารพัดประโยชน์ ทั้งนั่งเล่น ดูโทรทัศน์ รับแขก และบางทีก็รับประทานอาหารกันด้วย เพราะเธออยู่กับมารดาแค่สองคน

                กลับมาแล้วหรือ!คุณนารีที่นั่งรออย่างใจจดจ่อร้องทักขึ้นทันที

                ค่ะ แม่ลูกสาวยิ้มจนตาหยี วันนี้ไม่มีสอนพิเศษหรือคะ

                คุณนารีเป็นสตรีวัยห้าสิบเศษที่ปล่อยตัวเองให้งามตามวัย ไม่ได้พยายามจะสาวสวย อาจเพราะอาชีพครูสอนภาษาอังกฤษทำให้ไม่มีเวลาอบนวดเนื้อตัวอย่างเพื่อนคนอื่นๆ แต่เธอก็ยังดูดีอยู่มาก

                โรงเรียนปิดเทอมแล้ว ไม่รู้หรือลูก  อีกอย่าง แม่ตั้งใจอยู่บ้าน เพราะมีเรื่องจะพูดกับนิล ว่าแต่ทำไมหนูดูเหนื่อยอย่างนี้ล่ะ?”

                คนเป็นลูกสาวลงนั่งที่เก้าอี้นวม ตามองโทรทัศน์ที่พระเอกกับนางเอกกำลังทะเลาะกันอย่างเข้มข้น มือเอื้อมไปหยิบหมอนปักลายสวยมากอดไว้ ซบหน้าลงกับท่อนแขน ก่อนจะตอบเสียงเพลียว่า งานหนักค่ะ บอสส์ใช้นิลทั้งวันเลย เป็นเลขาก็แย่อย่างนี้แหละ แถมได้บอสส์จู้จี้อีก นิลอยากกลับไปเรียนหนังสือจัง

                เพิ่งทำงานมาได้สองเดือนกว่าก็บ่นเสียแล้วคุณนารีถอนใจ นี่ขนาดบริษัทของญาติเราเองนะ แต่ถ้านิลจะเรียนต่อ แม่ก็ไม่ว่าหรอก

                อะไรนะคะ?” หญิงสาวเงยหน้า เผยอริมฝีปากค้าง แม่ไม่ทัดทานสักคำเลยหรือที่เธอจะลาออก?

                ลาออกได้เลย ยังไม่พ้นโพรเบชั่น แม่จะพูดกับคุณลุงให้คุณนารีย้ำ แล้วลุกขึ้นเดินนำไปทางห้องครัวซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทำให้นิลนลินต้องตามไปอย่างงุนงง และยิ่งสงสัยหนักขึ้นเมื่อกวาดตามองกับข้าวที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ

                หมี่กรอบ ต้มยำกุ้ง ผัดผัก...ของโปรดเธอทั้งนั้น

                ชอบใช่ไหมล่ะ?” คุณนารีถาม นั่งลงก่อนซี แม่มีเรื่องต้องพูดกับหนู

                อะไรคะนิลนลินยกแก้วน้ำขึ้นจิบ

                ถ้านิลจะลาออกจริงๆ ก็ได้นะ แม่เข้าใจ เด็กทำงานใหม่ๆ ก็แบบนี้แหละยังค้นหาตัวเองไม่เจอ

                นิลเหนื่อย เบื่อ อึดอัดแต่ก็ไม่ควรทิ้งงานตั้งแต่ทำได้ไม่ถึงสามเดือนนะแม่

                แม่ไม่ได้สนับสนุนให้นิลจับจด แต่ถ้านิลต้องทำงานที่ไม่ชอบ อยู่ไปก็เสียเวลาเปล่า เงินทองก็ใช่ว่าจะได้มากมายคุ้มกัน แล้วอีกอย่าง แม่อยากชวนนิลไปเที่ยวคุณนารียิ้มกว้าง พยักหน้าเหมือนจะย้ำคำชวน

                เที่ยวที่ไหนคะ?”

                ภูฏาน

                อะไรนะคะ?” นิลนลินวางช้อนเมื่อได้ยินคำนั้น ภูฏาน...ดินแดนลึกลับกลางเทือกเขาหิมาลัย ที่เล่าลือกันว่าสวยงามบริสุทธิ์หนักหนา เธอเองก็เคยฝันว่าจะไปเยือนสักครั้ง แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่จะไปกันได้ง่ายๆ และตอนนี้เธอก็วุ่นวายกับการงานอยู่ด้วย

                นิล...รอยยิ้มสดใสในแววตาของคุณนารีเฝื่อนไปเล็กน้อย ตั้งแต่พ่อ...จากไป...ให้อย่างไรเธอก็ไม่เคยกล้าใช้คำว่า ตาย กับคนเป็นสามี “...เราก็แทบไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน หนูตั้งใจเรียนจนจบ แล้วก็ทำงานเลย แม่เห็นหนูเครียดจะแย่อย่างนี้ ก็อยากให้พักผ่อนบ้าง

                ค่ะนิลนลินใจอ่อนยวบ แม่เองก็ไม่ได้พักเหมือนกัน

                ทีนี้ ถ้าถามว่าทำไมต้องไปภูฏาน ไม่ไปยุโรป ญี่ปุ่น หรือว่าเกาหลี ก็เพราะที่นี่เขามีโควตานักท่องเที่ยวจำกัดในแต่ละปี แล้วแม่ก็โชคดีที่ป้าพิมเขามีจดหมายเชิญจากคนที่นั่น

                ป้าพิม? ทำไมป้าพิมมีจดหมายได้ล่ะคะ?” ป้าพิมเป็นครูรุ่นพี่ของคุณนารี และคุ้นเคยกันดีกับครอบครัวนี้ แต่นิลนลินก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าป้าพิมจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับอาณาจักรมังกรสายฟ้ากลางเทือกเขาหิมาลัยได้

                คืออย่างนี้ ป้าพิมเขารู้จักกับภรรยาข้าราชการภูฏาน ที่เคยมาประจำเมืองไทย พอกลับไปก็ยังแชทกันเสมอคุณนารีจิบน้ำ แล้วตักข้าว เหมือนไม่สนใจว่าลูกสาวรอฟังอยู่

                แม่ขา...แล้วยังไงอีกคะนิลนลินซัก ทำให้คุณแม่รู้ว่าตอนนี้ถือไพ่เหนือกว่าแล้ว

                ก็...ป้าพิมวางแผนจะพาลูกสาว ลูกเขยไปเที่ยว แล้วก็ติดต่อทุกอย่างไว้เรียบร้อย จู่ๆ ลูกสาวเกิดจะมีหลานให้ เดินทางไปไม่ได้ แม่ก็เลยตอบตกลง ว่าจะพาป้าพิมไป

                ตอบ...ตก...ลง!หมี่กรอบที่เคี้ยวอยู่แทบจะติดคอ

                ฮื่อคุณนารีพยักหน้า แม่จองทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ที่นี่ไม่ได้ไปกันง่ายๆ  นะ ถ้าไม่มีคนเชิญต้องจ่ายค่าเข้าเมืองวันละตั้งสองร้อยกว่าดอลล่าร์ คนที่เชิญเรา ต้องเคยประจำในเมืองไทยมาก่อนด้วย โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ

                เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนค่ะ อะไรกัน?”

                ไม่อะไรละ อีกสิบวันเดินทาง พรุ่งนี้ไปบอกบอส  แม่พูดกับผู้จัดการให้หนูแล้วด้วย จะลาพักก่อน กลับมาค่อยลาออกก็ได้ ถ้าไม่มีใครแทน ก็ลองคุยกับลูกโซ่ ให้ไปช่วยเขาก่อน งานแบบนี้ ลูกโซ่ทำได้ แม่รู้

                ฮ้า!นิลนลินวางช้อนกระทบจานดังกริ๋ง

                นิล...สีหน้าคุณนารีจริงจังอย่างยิ่ง แม่แก่ลงไปทุกวัน หนูจะมาเสียเวลาทำงานที่ไม่ชอบอยู่ทำไม ไม่ออกวันนี้ วันหน้าก็ต้องไปเรียนต่ออยู่แล้ว เที่ยวกันก่อนดีกว่า

                คำพูดนั้นทำให้ลูกสาวไม่มีทางเถียง

                และอีกอย่าง...ภูฏาน... ก็ฟังดูน่าสนใจไม่ใช่น้อย!

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×