ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คูซูซางโพ...หัวใจลิขิตรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : คุณไกด์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 63
      1
      14 มี.ค. 58

    2.

                สิบวันผ่านไปเร็วราวกับฝัน จู่ๆ นิลนลินก็พบว่าเธอมาอยู่ที่สนามบินดอนเมือง เตรียมขึ้นเครื่องไปสู่เทือกเขาหิมาลัย พร้อมกับคุณป้าพิม ที่ตื่นเต้นกับการท่องเที่ยวครั้งนี้อย่างที่สุด ถึงขนาดมารอรับหน้าบ้านของเพื่อนรักตั้งแต่ตีสี่ เพื่อจะได้ไปลงทะเบียนตอนตีห้า

                ในแถว เช็คอิน มีคนไทยไม่มากนัก นอกจากกลุ่มของนิลนลิน ซึ่งมากันเพียงสาม ก็มีข้าราชการไทยที่ไปติดต่อเรื่องงานอีกเพียงห้าท่าน แต่ผู้โดยสารก็เต็มลำ เพราะมีทั้งชาวอินเดียที่จะไปแวะลงตรงกัลกัตตา กับชาวภูฏานที่นิยมเดินทางมาช้อปปิ้งและตรวจสุขภาพที่เมืองไทย นอกจากนั้น ดอนเมืองยังเปรียบเสมือนจุดแวะพัก ก่อนเดินทางข้ามไปยังทวีปอื่นๆ อีกด้วย

                แถวขยับไปอย่างเชื่องช้า เพราะผู้โดยสารแต่ละคนมีสัมภาระต้องชั่งน้ำหนักมากมาย จนนิลนลินนึกอยากหลบไปงีบต่ออีกสักพัก เธอขยับแจ็คเก็ตสีชมพูจางที่สวมทับเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์เนื้อนุ่ม หันไปมองหาเก้าอี้ แต่ยังไม่ทันเดินไปก็ถึงคิวของเธอพอดี

                เจ้าหน้าที่บอกให้เธอวางกระเป๋าสะพายในกล่องเหล็กใบเล็ก เพื่อวัดขนาด วิธีนี้อาจดูแปลกแต่ก็ได้ผล ไม่มีการโต้เถียงต่อรองกันได้อย่างแน่นอน

                พอผ่านด่านตรวจหนังสือเดินทางเข้าไปแล้ว ทั้งสามก็รีบเดินต่อไปที่ เกท ไม่มีการโอ้เอ้นั่งพักหรือแวะเวียนดูสินค้าปลอดภาษี เพราะจะต้องขึ้นรถ แล่นต่อไปยังเครื่องบินที่จอดค่อนข้างไกล

                ดรุกแอร์ สายการบินแห่งชาติภูฎาน ใช้เครื่องแอร์บัสขนาดเล็ก แต่ก็ใหม่เอี่ยม ทาสีขาวสะอาดทั้งลำ เว้นแต่แพนหางที่เป็นสีเหลืองกับส้ม มีรูปมังกรตรงกลาง เหมือนธงชาติ มองดูสวยเด่น

                ไม่นึกเลยว่าเขามีแอร์โฮสเตสกับสจ๊วร์ตด้วย คุณนารีกระซิบกับเพื่อน เมื่อมองเห็นพนักงานต้อนรับสาวสวยในชุดคีรา แบบประยุกต์ ชุดของแอร์เป็นสีน้ำเงินเข้ม ส่วนผมรวบไว้เป็นหางม้า เปิดวงหน้ากลมแป้นนวลผ่อง เน้นนัยนต์ตาเรียวคม ในขณะที่สจ๊วร์ตใส่เสื้อคลุมสั้นแค่เข่า สวมทับเชิ้ต และมีถุงน่องรองเท้า แขนเสื้อที่ดูกว้างทำให้คิดว่าอาจปฏิบัติงานไม่สะดวก แต่ทุกคนก็คล่องแคล่วดี

                พอเครื่องปรับระดับบินเรียบ นิลนลินก็ขดตัวหลับไปจนถึงเวลาอาหาร ที่เป็นมื้อเช้าแบบตะวันตก หลังจากนั้นเครื่องจอดส่งผู้โดยสารที่กัลกัตตา ก่อนจะบินต่อไปยังจุดหมายปลายทาง

                นิล...ตื่น... เสียงแม่กระซิบปลุกพร้อมกับเขย่าแขนอย่างเร่งร้อนทำให้หญิงสาวสะดุ้ง

                อะไร อะไรคะ แม่!” ยิ่งกลัวเครื่องบินอยู่ด้วย!’

                “ดูวิวสิ สวยจัง

                ภาพที่มองเห็นผ่านหน้าต่างเครื่องบินนั้นสวยเหมือนฝัน ทิวเขาสลับสล้างสูงเสียดฟ้าอยู่ท่ามกลางปุยเมฆ ยอดภูผาปกคลุมด้วยหิมะที่เป็นประกายระยิบราวเกล็ดเพชร ลาดลงสู่หมู่ไม้เขียวขจี และเรือกสวนไร่นา ที่เรียงรายไปด้วยบ้านหลังเล็กรูปร่างแปลกตา อยู่ริมแม่น้ำสายกว้าง ที่ชื่อว่าแม่น้ำพาโร

                เครื่องลดระดับลงสู่สนามบิน มองเห็นหลังคาสีเขียววางซ้อนลดหลั่น ตัวอาคารสามชั้นเล่นระดับตามแบบสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ชั้นล่างกว้างใหญ่ ซ้อนด้วยชั้นสองและสามที่เล็กลงตามลำดับ แต่ละชั้นมีหลังคากันสาด  ผนังตึกทาสีขาว ตัดขอบด้วยไม้สีน้ำตาลแดง ตกแต่งด้วยลวดลายแกะสลักเขียนสีตลอดแนวขอบบนของอาคาร เสา และกรอบหน้าต่าง สวยกลมกลืนไปกับภูมิประเทศ

                นักบินต้องเก่งมากเลยนะ คุณป้าพิมพึมพำพร้อมกับสูดยาดม และนิลนลินก็เห็นด้วย เพราะสนามบินนี้อยู่กลางหุบเขา แทบจะล้อมด้วยหน้าผา รันเวย์แคบและสั้นมาก แต่การลงจอดก็ราบรื่น ไม่มีจุดสะดุด

                ทันทีที่ออกจากตัวเครื่อง สายลมเย็นจัดก็ปะทะผิวหน้า จนนิลนลินชะงักไปครู่หนึ่ง อากาศที่นี่ค่อนข้างเบาบาง แต่ก็บริสุทธิ์สดชื่น คล้ายมีสายน้ำฉ่ำเย็นรินไหลเข้าสู่ปอด

                หญิงสาวกวาดตามองรอบข้าง พร้อมกับก้าวลงจากบันได ทันทีที่สัมผัสกับแผ่นดิน หัวใจก็วูบไหวแปลกๆ

                รู้สึกคล้ายมาพบสิ่งพิเศษที่เธอเฝ้ารอคอย เหมือนกับการค้นหาสิ้นสุดลงแล้ว...

                ทั้งสามผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองไปได้ง่ายดาย เพราะเจ้าหน้าที่เป็นมิตรดี และมีจดหมายเชิญมาด้วย แต่พอออกมาถึงจุดนัดพบผู้โดยสารขาออก ก็เริ่มงงไม่รู้จะไปทางไหนดี

                คุณป้าบอกว่าจะมีคนมารับใช่ไหมคะ? นิลนลินหันไปถาม

                ใช่ ป้าพิมชะเง้อมอง ที่จริงสนามบินนี้ผู้คนไม่ได้พลุกพล่านอะไรนัก และผู้หญิงสูงวัยสองคนกับสาวน้อยอีกหนึ่งก็เป็นจุดเด่นที่คนมารับน่าจะเห็นได้ไม่ยาก

                “หนาวนะ ป้าพิมบอก

                นั่นสิ คุณนารีพยักหน้า ใส่สเว็ตเตอร์หน่อยดีไหม คงสักสิบองศานิดๆ ละนี่ เดี๋ยวถ้าขึ้นไปสูง จะต้องหนาวกว่านี้อีก

                รื้อกระเป๋าหยิบเสื้อใส่อีกชั้นแล้ว คนรับก็ยังไม่มา

                นิลนลินเริ่มจะกังวล หนูไปถามเจ้าหน้าที่ดีไหมคะ เพื่อไกด์ของคุณป้าไม่มา เราจะได้หาทางไปโรงแรม แล้วค่อยคิดว่าจะทำยังไงต่อไป

                คุณนารีพยักหน้า แต่คุณป้าพิมบอกว่า มาสิ ป้าโทร.คุยกับเพื่อนไว้เรียบร้อยแล้ว

                คุณป้าพูดยังไม่ทันขาดคำ นิลนลินก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งในชุดกางเกงสีกากี เสื้อยืดสีเทาทับด้วยแจ็คเก็ตยีนส์ก้าวเร็วเกือบเป็นวิ่งเข้ามาในอาคาร

                แต่ถึงจะแต่งชุดประจำชาติอย่างคนรอบข้าง เขาก็คงโดดเด่นกว่าใคร ด้วยท่าทางที่สง่างามโดยไม่หยิ่งยะโส ผิวพรรณนวลสะอาด เครื่องหน้าคมคายจมูกโด่งสวย ริมฝีปากบางหยักแบบคันศร และดวงตาดำเรียวยาว ฉายแววแจ่มใสเจือด้วยความอ่อนโยนนุ่มนวล

                คนนั้นใช่ไหมคะ ไกด์ของเรา? นิลจะต้องต่อว่าสักหน่อย ปล่อยลูกทัวร์รอตั้งนาน นิลนลินถามแล้วรีบเดินออกไป ไม่ได้ยินคุณป้าพึมพำว่า ...มารับเองเลยหรือนี่...นิล...เอ่อ...เขา...ไม่ใช่ไกด์...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×