ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mystic potency [Exo Infinite Shinee Kara Miss a F(x) A-Pink]

    ลำดับตอนที่ #7 : Part 5 Lightning element

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 56




     
       "ซูจี ซูจี !!!! นังซูจี !!!! ฉันเรียกแกไม่ได้ยินหรือไง !!!!" เสียงตะโกนของสาววัยแรกรุ่นดังขึ้นในบ้านหรูหลังงาม แต่หาได้มีความสุขไม่
       "ทำไม เธอจะใช้อะไรฉันอีก" ซูจีเดินออกมาจากครัวพร้อมยืนท้าวสะเอวจ้องหน้าน้องสาวบุญธรรมของเธออย่างเอาเรื่อง
       "ฉันไปซื้อของมา แต่ว่าขี้เกียจยกลงมาจากรถ แกไปยกลงมาให้ฉันหน่อยสิ แล้วอย่าทำตกนะ เพราะของมันแพง คนอย่างแกไม่มีปัญญาซื้อหรอก" เธอกอดอกพูดกับซูจี และมองซูจีด้วยสายตาดูถูก
       "ฉันไม่ว่าง ทำกับข้าวอยู่ ถ้าไม่มีปัญญาจะยกลงมาก็ไม่ต้องใส่ไม่ต้องใช้มันหรอก" เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแล้วเดินเข้าไปทำกับข้าวต่อ
       "กรี๊ดดดดดด !!! นังบ้า ฉันจะฟ้องคุณแม่ !!!!" สาวน้อยดีดดิ้นอยู่กลางบ้านและมองไปในครัวอย่างแค้นใจ
       "มีอะไรฮยอนอาลูกรัก เป็นอะไรคะ" สาววัยกลางคนเดินลงมาจากข้างบน เดินมากอดลูกสาวสุดที่รักของเธอ
       "ก็นังซูจีหน่ะสิคะ มันด่าฮยอนอาอ่ะค่ะคุณแม่" เมื่อเห็นหน้าแม่ของเธอ เธอจึงรีบฟ้องทันที
       "นังซูจี !! แกออกมานี่ซิ แกมีสิทธิอะไรมาด่าลูกฉันฮะ !!!" เธอไม่รอให้ซูจีเดินออกมา เพราะเธอทั้งสองคนบุกเข้าไปในครัวเพื่อไปจัดการกับซูจี
       "ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรฮยอนอาเลยนะคะคุณน้า" เธอหันมาปฏิเสธกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้มีพระคุณเลี้ยงดูเธอมา
       "โกหก !!!! แม่คะ แม่ต้องเชื่อฮยอนอานะคะ" ฮยอนอายังคงใส่ความซูจีอยู่
       "วันนี้แกไม่ต้องกินข้าว แล้วเป็นแค่เด็กข้างถนนที่ถูกฉันเก็บมาเลี้ยง ก็อย่าริอาจมากำเริบเสิบสานกับลูกสาวฉันอีกจำใส่หัวแกไว้ด้วย !!!" สาววัยกลางคนใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หัวของซูจีย้ำๆ เพื่อจะทำให้รู้ว่าเธอควรทำตัวยังไง
       
       ตั้งแต่จำความได้เธอก็เติบโตมากับครอบครัวนี้ ที่มีคุณพ่อบุญธรรมผู้แสนใจดี คุณแม่บุญธรรมที่ใจยักษ์ใจมาร น้องสาวบุญธรรมที่คอยหาเรื่องเธออยู่ตลอดเวลา ที่เธอทนอยู่มาทุกวันนี้ก็เพราะเธอรักคุณพ่อบุญธรรมของเธอ และท่านก็ดีกับเธอมากๆ เธอจึงไม่สามารถไปไหนได้

       "ซูจีทำไมไม่ไปทานข้าวด้วยกันหล่ะลูก ไม่หิวรึไงหน่ะเรา" เสียงทุ้มนุ่นฟังดูใจดี อบอุ่น ดังขึ้นด้านหลังของซูจี เธอหันกลับไปตามเสียงที่ได้ยินก็พบกับคุณพ่อที่เดินมาพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่น
       "คือซูจีไม่หิวหน่ะค่ะ คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ" เธอลุกขึ้นเดินไปหาท่านและพยุงท่านมานั่งตรงม้านั่งริมสระว่ายน้ำ
       "ก็พ่อเห็นซูจีไม่ไปทานข้าว มีอะไรหรือเปล่าลูก" ซูจีได้แต่นั่งเงียบ ไม่ตอบอะไรท่านไป และเธอค่อยๆเอื้อมมือไปกอดท่านอย่างหาที่พึ่งพิงและท่านเองก็ไม่ได้รังเกียจ โอบกอดเธอด้วยความรักเช่นกัน
       "ขอบคุณนะคะที่ยังเป็นห่วง ยังรัก ลูกสาวคนนี้อยู่" เธอพูดเสียงเบาแต่คนฟังได้ยินมันชัดเจน
       "ทำไมหล่ะ ซูจีก็เป็นลูกสาวของพ่อนี่นา พ่อจะไม่รัก ไม่ห่วงซูจีได้ยังไงหล่ะ" ชายวัยกลางคนพูดพร้อมกับลูบหัวของซูจีอย่างทะนุถนอม
       "แต่ซูจีไม่ใช่ลูกแท้ๆนะคะ" 
       "ไม่เอานะซูจี อย่าคิดแบบนี้นะลูก พ่อบอกแล้วไง ว่าลูกคือลูกของพ่อ ใครจะว่ายังไงก็ช่างเขา ใครจะรังเกียจหรือรังแกลูกยังไงก็ตามแต่พ่อขอให้ซูจีจำไว้นะว่าพ่อรักลูกที่สุด" 
       "ค่ะ ซูจีก็รักคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ" หลังจากที่เธอเศร้ามาแทบทั้งวันตอนนี้หล่ะมั้งที่เธอสามารถยิ้มได้อย่างเต็มที่ มีความสุขที่สุดในรอบปี
       "พ่อไปนอนก่อนนะ แล้วอย่านอนดึกหล่ะ พรุ่งนี้ลูกต้องไปเรียน" 
       "ค่ะ" เธอพยักหน้าตอบรับคำสั่งของผู้เป็นพ่อและชายวัยกลางคนก็เดินเข้าบ้านไปทิ้งให้เธอนอนดูดาวเพียงลำพัง
       
       "ซูจีแกว่าพี่แอลหล่อป่ะ" เพื่อนของเธอสะกิดถามถึงชายหนุ่มสุดหล่อ ที่ตอนนี้กำลังฮอตในหมู่สาวๆ แต่มันไม่ใช่สำหรับซูจี
       "หล่อ แต่เก๊ก หยิ่ง ซึ่งสองข้อนี้ทำให้ความหล่อติดลบ" เธอเงยหน้าจากกองชีสงานมาตอบเพื่อนสาวของเธอ
       "ตลอดอ่ะแก แกอคติกับพี่เค้าเกินไปป่าววะ" มินเพื่อนสาวคนสนิทของเธอพูดขึ้น
       "รึแกคิดว่าไม่จริง ตาบ้านั่นนอกจากความหล่อแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรดี" ซูจีพูดอย่างหมั่นไส้โดยไม่ทันสังเกตุว่าคนที่เธอกำลังนินทาได้นั่งฟังเธออยู่นานแล้ว
       "ฉันเป็นแบบนี้แล้วเธอจะทำไม" แอลชายหนุ่มที่่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนคนฟังยังต้องเสียวสันหลังวาบ
       "แอบฟังคนอื่นพูด เสียมารยาท !!!" ซูจีกระแทกเสียงใส่ทันทีที่เขาพูดจบ
       "แล้วที่นินทาคนอื่นนี่ มารยาทงามจังเลยนะ" แอลเองก็ตอกกลับได้เจ็บแสบไม่แพ้กัน เพื่อนๆของซูจีแต่คนได้แต่นั่งเงียบ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
       "มันก็เรื่องของฉัน" พูดจบเธอก็รีบคว้ามือของเพื่อนๆลุกออกจากโต๊ะม้าหินอ่อนแล้วเดินเข้าห้องเรียนไป

       "แกรู้จักกับพี่แอลด้วยหรอ" มินเอ่ยถามซูจีหลังจากที่นั่งเงียบมานาน
       "รู้จักกะผีอะไรหล่ะ" เธอตอบอย่างเซ็งๆ
       "อ่าว ... ก็เห็นคุยกันฉันก็เลยนึกว่าเธอรู้จักกับพี่เขาเป็นการส่วนตัว" เฟียพูดขึ้นอย่างสงสัย
       "แกแน่ใจนะว่าเมื่อกี้เขาเรียกว่าคุยอ่ะเฟีย" ซูจีถามขึ้น
       "อ่า ... ที่ทะเลาะกันอ่ะ" เฟียรีบแก้คำพูดที่ผิดทันที 
       "ก็มันน่าไหมหล่ะ โอ๊ย !! หยุดพูดเถอะยิ่งพูดก็อารมณ์ขึ้น" ซูจีนั่งกอดอกมองออกไปหน้าห้องอย่างอารมณ์เสีย


       "วันนี้จะมีแขกมาที่บ้าน แกไม่ต้องเสล่อออกมานะเข้าใจมั๊ย" หญิงวัยกลางคนพูดด้วยสายตาเหยียดๆใส่ซูจี
       "ค่ะ" เธอรับคำและกำลังจะเดินเข้าครัวเพื่อไปเตรียมอาหาร
       "นั่นเธอจะไปไหน" เสียงของหญิงวัยกลางคนตวาดขึ้นอีกครั้ง ทำให้ซูจีที่กำลังเดินเข้าต้องชงักเท้าทันที
       "ไปเตรียมอาหารค่ะ" 
       "ไม่ต้อง !! ฉันสั่งอาหารจากทางโรงแรมเอาไว้แล้ว เธออยากไปไหนก็ไป แล้วจำไว้ว่าอย่าออกมาเป็นอันขาด" เธอย้ำกับซูจีอีกครั้ง
       "ค่ะ" ซูจีได้แต่เดินไปที่ห้องนอนของเธอและทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหน็ดเหนื่อย

       "ก็ดี วันนี้ถือซะว่าพักงานซักวัน" เธอพูดพร้อมกับหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย

       ก๊อก ก๊อก ก๊อก

       เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นมันปลุกให้เธอตื่นขึ้นมา ซูจีเดินไปเปิดประตู และเธอก็พบกับคุณพ่อบุญธรรมของเธอยืนยิ้มพร้อมกับกล่องของขวัญ
       "สุขสันต์วันเกิดลูกรัก จำได้มั๊ยว่าวันนี้วันเกิดลูก" ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญให้กับเธอ
       "คุณพ่อจำได้" เธอพูดอย่างเหลือเชื่อ เพราะท่านไม่ค่อยมีเวลาที่จะสนใจเรื่องพวกนี้แต่ท่านก็ยังจำมันได้
       "จำได้สิ ลูกของพ่อทั้งคนจริงมั๊ย ไปแต่งตัวได้แล้วลูก แขกเริ่มทยอยมาแล้ว" 
       "เอ่อ ... คือว่า" เธอไม่กล้าที่จะพูดว่าแม่บุญธรรมของเธอได้สั่งห้าม เธอจึงได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง จนชายวัยกลางคนจับสังเกตุได้
       "มีอะไรหรือเปล่าลูก" 
       "คือ ... ซูจีปวดหัวนิดหน่อยหน่ะค่ะคุณพ่อ ซูจีไม่ไปได้มั๊ยคะ ขอพักผ่อนอยู่ในห้องดีกว่า" เธอพยายามปฏิเสธอย่างนิ่มนวลเพื่อไม่ให้ท่านสามารถจับผิดได้
       "ไปเถอะลูก แค่แป็บเดียวก็ได้" เธอไม่สามารถหลบเลี่ยงได้จึงยอมไปแต่งตัว

       เธอเดินเข้ามาในงานคนเดียวเพราะคุณพ่อของเธอต้องออกมาต้อนรับแขกก่อน และเธอก็ตามออกมาทีหลัง ระหว่างที่เธอเดินเข้ามาผ่านทั้งนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง นักธุกิจแก่ที่หัวงู ซึ่งแต่ละคนมองเธออย่างให้ความสนใจ แต่เธอหาได้แคร์ในสายตาพวกนั้นไม่ 
       "ฉันบอกแล้วใช่มั๊ย นังซูจีว่าไม่ให้ออกมาแล้วทำไมแกยังเสล่อออกมาเชิดหน้าอยู่ในงานได้อีก ฮะ !!!" คุณแม่บุญธรรมเดินเข้ามาบีบแขนของซูจีจนเป็นรอยแดงด้วยความโมโห
       "คือ คุณพ่อให้ซูจีออกมาหน่ะค่ะ" เธอพูดพร้อมค่อยๆแกะมือของแม่บุญธรรมออกจากแขน
       "เข้าไปเลยนะ แกมันก็แค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยง อย่าสะเออะ" ซูจีเงยหน้ามองอย่างโกรธแค้น 
       "มองแบบนี้แกอยากโดนตบใช่มั๊ย !!!" เธอพูดพร้อมกับบีบแขนของซูจีแรงขึ้น ซูจีได้แต่นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
       "ทำไมหล่ะคะ ทำไมคุณถึงรังเกียจัน ฉันไปทำอะไรให้คุณนักหนา" เธอระบายออกมาหลังจากที่อัดอั้นอยู่ในใจมานาน
       "แกอยากจะรู้ไปทำไม รู้แค่ว่าฉันเกลียดแกเป็นพอ" 
       "อย่าคิดว่าคุณเกลียดฉันเป็นคนเดียว ฉันก็เกลียดคุณ" ซูจีเองก็ไม่ยอมแพ้ จ้องหน้าแม่บุญธรรมของเธออย่างเอาเรื่อง หญิงวัยกลางคนเองก็จ้องตอบ แต่แล้วดวงตาของซูจีที่เป็นสีน้ำตาลอยู่ๆมันก็กลายเป็นสีเหลืองทันที และมันก็กลับมาเป็นสีน้ำตาลอีกครั้ง หญิงวัยกลางคนถอยหลังออกอย่างตกใจ และมองหน้าซูจีค้างอยู่นาน
       "คุณแม่คะ" เสียงเรียกของฮยอนอาทำให้หญิงวัยกลางคนรู้สึกตัวขึ้นมา
       "วะ ... ว่าไงจ๊ะฮยอนอา" เธอรีบหันไปหาลูกสาวสุดที่รักทันที
       "พี่แอลคะนี่คุณแม่ของฮยอนอาเองค่ะ แม่คะ นี่พี่ีแอลแฟนฮยอนอาค่ะ" ซูจีมองหน้าแอล อย่างตกใจ แอลเองก็แปลกใจไม่น้อยที่มาเจอซูจีอยู่ที่นี่
       "สวัสดีครับ" แอลก้มหัวสวัสดีคุณแม่ของฮยอนอาอย่างนอบน้อม
       "ฮยอนอาลืมแนะนำคนนี้ค่ะพี่แอล คนที่ยืนด้านหลังคุณแม่เค้าชื่อซูจีเป็น คนรับใช้ !! ของบ้านฮยอนอาเองค่ะ" ฮยอนอาอาศัยจังหวะที่แอลหันมามองซูจีเบะปากให้กับซูจี
       "ที่แท้ก็แค่คนรับใช้" แอลมองซูจีอย่างเหยียดๆ แต่ใครจะรู้ว่าถึงแม้ภายนอกจะแสดงออกไปแบบนั้นแต่ภายในมันคนละเรื่องกัน
       
       ซูจีเดินเล่นอยู่ในสนามหน้าบ้านหลีกหนีจากผู้คนที่รายล้อมอยู่เต็มสระว่ายน้ำ เธอนึกถึงสายตาที่แอลมองเธอขึ้นมาอารมณ์ที่กำลังดีๆ พลันกลายเป็นโมโหแทน
       "แกมันก็แค่คนรับใช้ อย่าคิดมาสู้กับคนอย่างฉัน" เสียงของฮยอนอาดังขึ้นด้านหลังของเธอ ซูจีหันขวับไปจ้องหน้าของน้องสาวบุญธรรมอย่างเอาเรื่อง
       "เธอมากกว่าหล่ะมั้งที่กลัวว่าฉันจะเหนือกว่าเลยพยายามจะยกระดับตัวเองให้สูง แล้วเหยียบคนอื่นให้ตกต่ำ" ซูจีพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 
       "แล้วแกจะทำไม การที่ฉันได้เหยียบแกทีละนิดให้ค่อยๆจมดินมันสนุกดีนะ" ฮยอนอายังคงหน้าระรื่นที่ได้เหยียบย่ำซูจีจนตัวเองดูดีในสายตาของคนอื่น
       "ความคิดเด็กๆ ถามหน่อยเถอะการศึกษาไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลยใช่มั๊ย เธอจึงมีความคิดสกปรกแบบนี้ ไม่น่าเกิดมาเป็นคนเลยเนาะ หมามันคิดได้ดีกว่าเธอเลย" ซูจีพยายามเน้นย้ำตรงคำว่าหมาให้ฮยอนอาได้ยินชัดๆ และมันก็ทำให้ฮยอนอาที่ตั้งใจจะมากวนประสาทซูจีกลับกลายเป็นเธอเองที่สติแตก ตรงเข้ามาตบหน้าซูจีฉาดใหญ่
       
       เพี๊ยะ เพี๊ยะ 

       เสียงมือของฮยอนอาปะทะเข้าที่ใบหน้าของซูจีดังสนั่นในโสตประสาทของซูจี มันทำให้ซูจีที่อารมณ์เสียเป็นทุนเดิมอยู่แล้วโมโหขึ้นมาอย่างสุดจะกลั้น เธอออกแรงผลักฮยอนอาออกไปอย่างสุดแรงทำให้ร่างบางของฮยอนอาถอยหลังล้มลงไปอย่างไม่เป็นท่า
       "กรี๊ดดดดดดด นังบ้าแกผลักฉัน !!!" ฮยอนอาลุกขึ้นมาอีกครั้งและเดินเข้าหาซูจีเพื่อจะตบเธออีกครั้ง
       
       เพี๊ยะ
     
       ซูจีตบสวนกลับไป แรงตบที่มหาศาลส่งผลให้ร่างบางของฮยอนอาล้มลงไปอีกครั้ง

       "ช่วยไม่ได้ฉันต้องป้องกันตัว" ซูจีพูดขึ้นอย่างไม่หยี่ระต่อสิ่งใด
       "กรี๊ดดดดดดด คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า อย่างแกบังอาจมากเลยนะที่มาตบฉัน แกคิดว่าแกเป็นใคร แกมันก็แค่ไอ้ลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ อาศัยบ้านคนอื่นเค้าอยู่ยังไม่สำนึกในบุญคุณมาตบลูกสาวเค้าแบบนี้ระวังจะไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน" คำพูดของฮยอนอาทำให้อารมณ์โกธของซูจีแรงขึ้นอีกครั้งจนตอนี้ซูจีไม่สามารถบังคับอารมณ์ได้อีกแล้ว 

       ซูจีจ้องหน้าของฮยอนอาอย่างโกรธจัด จู่ๆสายฟ้าก็ผ่าลงมาตรงหน้าเธอและฮยอนอา ซูจีที่โกธจนไม่ได้สติไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นแต่ฮยอนอากลัวจนจะบ้าอยู่แล้วเพราะไม่ใช่แค่ครั้งเดียวมันยังผ่าลงมาไม่ขาดสาย ผ่าลงมารอบตัวของฮยอนอา เธอได้แต่นั่งกอดเขาร้องไห้ด้วยความกลัว

       "หยุดได้แล้ว" เสียงหวานใสดังขึ้นทำให้ซูจีค่อยๆได้สติ หันไปมองก็พบกับหญิงสาวร่างเล็กอยู่ในชุดราตรีสีครีม 
       "คุณเป็นใคร แล้วฉันทำอะไรทำไมต้องหยุด" ซูจีถามกลับอย่างมึนงง
       "ฉันชื่อซันนี่ ที่บอกให้หยุดก็พลังสายฟ้าของเธอนั่นแหละ เห็นมั๊ยนั่น" ซันนี่ชี้ไปที่ฮยอนอาที่นอนสลบอยู่ รอบข้างของเธอเป็นหลุมดำใหญ่อยู่ล้อมรอบ
       "พลังของฉันหรอ" ซูจีชี้มาที่ตัวเธออย่างมึนงง
       "ใช่เธอนั่นแหละ อยากรู้อะไรอีกมั๊ย" ซันนี่ถามกลับ
       "ค่ะ" 
       "มากับฉันสิแล้วจะรู้ทุกอย่าง มากับฉันแล้วเธอจะได้ไม่ต้องทุกทรมานแบบนี้อีก" ซันนี่ยื่นมือให้กับซูจี
       "แล้วคุณพ่อของฉันหล่ะคะ" 
       "ไม่ต้องห่วงมากับฉันก่อนเถอะ" ซันนี่เร่งซูจีอีกครั้ง
       "ฉันเชื่อใจคุณได้มากแค่ไหน" ซูจียังคงไม่แน่ใจ
       "พูดมากจัง งั้นฉันจะไม่รอละ" พูดจบซันนี่ก็พาซูจีหายแวบไปพร้อมกับควันที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ โดยทิ้งให้ฮยอนอานอนสลบอยู่ตรงนั้นเพียงคนเดียว


    __________________________________________________________
    #อัพของป๋าเบแล้วนะคะ ขอบคุณในทุกๆคอมเม้นท์นะคะ ชอบหรือไม่ชอบเม้นท์บอกกันด้วยนะคะ แล้วจะกลับมาอัพใหม่ค่ะ จุ๊บๆ (แก้ไขคำผิดให้แล้วนะคะ ขอบคุณในทุกคำติชมค่ะ) ^^

     
    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×