ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic the prince of tennis u-17 คำตอบของความคิดถึง yaoi

    ลำดับตอนที่ #2 : ใครน่ะ? 100%

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 59


    แฮก แฮก เสียงหอบดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังไม่มีทีท่าจะหยุดในตอนนี้ที่สนามเทนนิสเซงาคุมีนักเรียนอยู่หลายคน

    กำลังวิ่งอย่างเบิกบาน(?)บางคนทรุดตัวลงไปนอนกับพื้นทั้งที่ยังวิ่งไม่ครบและไปเฝ้าพระอินตามระเบียบ  หลายคนวิ่ง

    จนครบแต่ก็ลาโลก(?)เพราะเหนื่อยเกินไป แต่ก็ยังเหลือผู้กล้าที่กลัวตาย(?) อยู่8คน และยังมีอีก1คนที่ทำหน้าที่เป็น

    กรรมการที่เป็นยมทูต(!?)  8คนนั้นคือตัวจริงชมรมเทนนิสเซงาคุ การฝึกจะยากยิ่งกว่าทหาร(?)ในชมรมคนอื่นถึง2เท่า

    แต่ยังคงวิ่งต่อไปอย่างผู้กล้ากลัวตาย ในขณะนั้นยมทูตเริ่มนับเส้นตายที่เหลืออยู่เพียง10วิ

    10

    9

    8

    7

    6

    5

    4

    3

    2

    "อ๊ากกกกกกกถึงแล้วโว้ยยยยย"เสียงตะโกนของผู้กล้าหัวตั้งดังขึ้น สรุปแล้วศึกในครั้งนี้ยมทูตเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เพราะ

    ผู้กล้าทุกคนรอดจากเส้นตายมาได้

    "รุ่นพี่โมโมะ อย่าหอนสิครับนี่ยังตอนเช้าอยู่เดี๋ยวคนอื่นก็รำคาญกันหมด"ผู้กล้าสวมหมวกแก๊ปอัศวินเอ่ยเตือน(หรือ

    กวน)ผู้กล้าโมโมะ

    "เเกว่าไงน้าาาาาาาาาาเอจิเซ็นนน"

    "น่าๆโมโมะ เรื่องที่เอจิเซ็นว่ามันเป็นเรื่องจริงนี่"ผู้กล้าหน้ายิ้มเอ่ยบอกและปล่อยรังศีสังหารออกมานิดหน่อย

    "แต่........ครับรุุ่นพี่ฟูจิ"ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็ส่งสายตาอัมหิตใส่เรียวมะ แต่คนถูกมองกลับทำไม่สนใจ

    "เนี้ยว โมโมะ เจ้าเปี๊ยกไปแต่งตัวแล้วเข้าเรียนกันเถอะ เย้ๆ"ผู้กล้าผมแดงหน้าแมวเอาแขนเกี่ยวคอผู้กล้าทั้ง2

    "คร้าบบๆ รุ่นพี่เอจิ"ผู้กล้าทั้งสองที่สงบศึกกันซักพักพูดพร้อมกัน  แล้วทั้ง3ก็เดินไปยังห้องลอกเกอร์ของชมรม

    "พวกเราก็ไปกันมั่งเถอะ ไคโด โออิชิ เท็ตสึกะ "ฟูจิ เอ่ยขึ้นแล้วเดินนำผู้กล้าหน้าตาย หัวไข่ และ ผ้าโพกหัวไป มัน

    เป็นการบังคับทางอ้อมเพราะไม่รอให้ตอบก็เดินไปเสียแล้ว

    ทีนี้ก็เหลือแต่ยมทูตที่กำลังตกอยู่ในพะวงความคิดของตัวเอง ว่าจะทำยังไงให้ผู้กล้าคนใดคนหนึ่งได้ลองเกมลงทันฑ์

    ของตนเอง

    ติ๊งต่อง ติงต๊อง

    เสียงประตูสวรรค์ของบางคนและเป็นประตูนรกของหลายคน(= =)

    ร่างบางที่เป็นผู้กล้าสวมหมวกแก๊ป(แต่ตอนนี้ไม่สวม) {เอ่อมันยาวไปขอเรียกชื่อย่อว่าเรียวมะนะ(ย่อตรงไหน- -)} นั่ง

    อยู่บนเก้าอี้เอาศอกเท้าคางแล้วหันไปทางหน้าต่างอย่างเหม่อลอย สายตาที่มาดมั่นตอนนี้กลับว่างเปล่าเสียจนใครๆ

    ต่างก็้ต้องหวาดเสียว.......ใช่ ต่อหน้ารุ่นพี่หรือเพื่อนที่ชมรมเขาทำตัวเป็นปกติ ทั้งที่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย ในสมอง

    ว่างเปล่าไม่ได้สนใจฟังเรื่องที่ครูสอนแม้สักนิด ใบหน้าเรียวสวยน่ารักแบบผู้หญิงบางคนยังต้องอายแน่นิ่งกว่าปกติ

    หลายเท่า สาเหตุที่ทำให้ร่างบางเป็นแบบนี้คือสิ่งที่ผู้เป็นพ่อของร่างบางพูดเมื่อวาน


    "นี่เรียวมะพรุ่งนี้แกต้องไปอเมริกาน้าาาเตรียมของไว้ด้วยล่ะ เดี๋ยวจะมีคนไปรับแกตอนเย็นกระเป๋าข้าวของ


    เครื่องใช้เดี๋ยวแม่แกเตรียมไว้ให้ 555 ดีใจเป็นบ้าไม่ต้องฟังเสียงกวนๆของแก"


    "นี่คุณคะ พูดแบบนั้นได้ไง ดีใจด้วยนะลูก เรียวมะชนะให้ได้นะ แม่จะเป็นกำลังใจให้ที่หน้าทีวี.....อะอ้าว


    เป็นไรไปน่ะ"เสียงของเอจิเซ็น  รินโกะ ผู้เป็นแม่ของเรียวมะเอ่ยเตือนนันจิโร่ และจะหันไปแสดงความยินดี


    ให้เรียวมะที่นิ่งค้างไปแล้ว


    อะไรกัน? พูดเรื่องอะไรน่ะ? อเมริกา?ใครจะไป? แล้วแสดงความยินดีอะไร?ทำไม?เกี่ยวอะไรกับเขา?


    คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัว


    "เอ่อ..ใครจะไปอเมริกาฮะ"เรียวมะที่เข้าสิงวิญญาณผู้กล้าอีกครั้งกลั้นใจถามไป ทุกอย่างนิ่งไม่มีการ


    เคลื่อนไหว 


    "เอ๋...ก็ลูกจะไปแข่งออลอเมริกันโอเพ่นที่อเมริกาไม่ใช่หรอ ทางนั้นเค้าส่งตั๋วมาแล้วบอกว่าลูกตอบรับไป


    แล้วนี่"


    "ผมไม่เคยได้ใบอะไรนั่นเลยนะ! แล้วจะไปตอบรับได้ไง!"ร่างบางเอ่ยท้วง


    "จะอะไรนักหนาแค่ไปก็จบแล้ว สองเดือนเองกลัวอะไร"นันจิโร่เอ่ยอย่างรำคาญ


    "พ่อ! พ่อเป็นคนตอบรับไปใช่มั้ย!"


    "เออ!ใช่ใบเชิญส่งมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วเห็นแกไม่ตอบรับซักทีเลยตอบแทนไง ง่ายจะตาย"


    "ง่ายบ้าอะไรทำไมทำอะไรไม่ปรึกษาซักคำ"


    "น่าๆ ยังไงศึกระดับประเทศก็จบแล้วนี่ แกยังมีอะไรติดค้างอีก ไปแป๊ปเดียวเองนิดๆหน่อยๆน่า"


    "แต่ยังไงมันก็กะทันหันไปนี่  แล้วทีนี้จะบอกรุ่นพี่ในชมรมยังไงดี"


    "แกก็ไปบอกพรุ่งนี้สิฟะ กลัวอะไรนักหนาไปนอนได้แล้วไป๊!"


    "อึก! ไอพ่อบ้า นิสัยเสียที่สุด!"


    เพราะเหตุฉันนี้แหละ  แต่สงสัยว่าเจ้าตัวจะลืมไปว่าในห้องนี้ยังมีอีกสามหน่อไม้(?) อยู่ด้วย 

    "นี่พวกนายว่าเอจิเซ็นแปลกไปมั้ย"หนึ่งในสามหน่อไม้พูดขึ้น

    "คิดเหมือนกันงั้นเหรอโฮริโอะคุง ผมว่าเรียวมะคุงดูจะมีเรื่องที่ไม่สบายใจอยู่แน่ๆเลย" (ไปเป็นหมอดูเถอะ- -)

    "แต่ผมว่า..."

    "นี่พวกเธอสามคนจะคุยกันอีกนานมั้ย รู้รึเปล่าว่ามันรบกวนคนอื่นเค้าน่ะ!"

    "อึ๋ย ขอโทษครับ"

    กริ๊งงงงงง

    "เย่!ไปกินข้าวกันโว้ยยยยย"เสียงคนใดคนอื่นในห้องดังขึ้น

    "เอาจิเซ็น ไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวไปชมรมด้วยเห็นมีคนมาบอกว่าอาจาร์ยริวซากเรียกประชุม"

    "อือ"ยายแก่จะเรียกทำไมวะกำลังหาทางคิดอยู่เนี่ยน่ารำคาญจริง 

    ระหว่างกินข้าว

    "เรียวมะคุง วันนี้ดูแปลกไปนะเป็นอะไรรึเปล่า"หนึ่งในสามหน่อ

    "..."ก้มหน้าก้มตากินอย่างมีความเรียบร้อยที่รวดเร็ว'w'?

    "อย่างเอจิเซ็นน่ะไม่เป็นไรร๊อกก คงง่วงมากกว่า เชื่อฝีมือ(แท้จริงคือฝีปาก?)ของท่านโฮริโอะผู้มีประสบการ

    เทนนิส2ปีได้เลย~"ใครเชื่อก็โง่แล้ว!

    "อ๋ออย่างนี้นี่เองนั่นสินะเรียวมะคุงเก่งขนาดนั้นคงไม่เป็นไรหรอก"

    ซะงั้น!

    "........"ปัญญาอ่อนชะมัด

    "พวกเรารีบกินเร็วๆเถอะ เดี๋ยวต้องไปชมรมต่อเห็นวันนี้มีคนบอกว่าอาจารย์ริวซากิจะมาบอกอะไรเราด้วยนะ ต้องเป็น

    เรื่องดีแน่เลย"โฮริโอะหนึ่งในสามหน่อไม้พูด

    "เค้ารอโฮริโอะคุงอยู่นั่นแหละครับมัวแต่พูดมาก"น่าน โดนเข้าไป

    "เอ๋!เสร็จแล้วเหรอเร็วชะมัด    ง่ำๆๆๆ...................โฮ่หมดแล้วไปๆๆ รีบไปกัน"

    สามคนที่เหลือได้แต่

    "เฮ้อ"นั่นแหละ

    คอร์ดเทนนิส

    "เอ้า!ทุกคนรวมตัวเร็วๆ"อาจารย์ริวซากิพูด

    ตึกๆๆๆ  พรึ่บ! พร้อมหน้าพร้อมตา ชมรมเทนนิสเซงคุทุกคนในตอนนี้ไม่พร้อมจะเจอกับพญาซาตานซักนิด

    "อาจารย์ครับเรียกพวกเรามาทำไมหรอครับ" กัปตันหนุ่ม?ถามอย่างสงสัย 'วันนี้ไม่น่ามีประชุมนี่ เรื่องด่วนอะไรรึเปล่า

    นะ'

    "กำลังสงสัยล่ะสิว่ามีเรื่องด่วนอะไร" อาจารย์เป็นรีบอร์นหรอครับ!!!!? เหล่าทหารและผู้กล้าคิดพร้อมกันอย่างไม่ได้

    นัดหมาย

    "อืม...จะเรียกว่าไม่ด่วนก็ไม่เชิงหรอกนะ ความจริงครูอยากให้เจ้าตัวพูดเองมากกว่า แต่ดูจากท่าทางแล้วคงพูดไม่

    ออกหรอก ใช่มั้ยเรียวมะ?" ณ ตอนนี้สายตาทุกคู่มองมาตรงที่ร่างบางยืนอยู่ เขาทำเพียงก้มหน้า ไม่มีใครรู้ว่าสีหน้า

    ใต้หมวกของเขาเป็นอย่างไร

    "มีอะไรหรอเอจิเซน  เป็นอะไรรึเปล่า"

    "เจ้าเปี๊ยกมีเรื่องอะไรหรอเนี๊ยว"

    "นั่นสิเรียวมะคุงมีเรื่องอะไรหรอครับ"

    "เอจิเซน......"ทำไม

    "เอจิเซน......"ถึงเป็นแบบนี้

    "เอจิเซน......"ขอร้อง

    "เรียวมะ......"ขอร้อง

    "เรียวมะคุง.."หยุดทีเถอะ!

    "เอาล่ะพอแล้ว อย่าไปรุมเจ้าเรียวมะสิ  เดี๋ยวครูบอกเอง เรียวมะเธอกลับห้องไปก่อนก็ได้นะ"

    "ครับ"

    หลังจากที่ร่างบางเดินออกจากคอร์ดไป

    "เรื่องมันเป็นอย่างนี้.............."

    ตัดกลับมาที่ร่างบาง

    น่าเบื่อ เป็นคำที่ร่างบางคิดได้คำเดียวในตอนนี้หลังจากตอนนั้นร่างบางก็กลับมาที่ห้องเรียน แต่อยู่ๆเพื่อนในห้องก็

    บอกว่าคาบบ่ายไม่เรียนเพราะอาจารย์ทุกคนมีประชุมด่วนตั้งแต่คาบพักแล้ว  แล้วยัยแก่ริวซากิไม่ไปประชุมหรอ?

    ร่างบางที่ตอนนี้กำลังนอนมองท้องฟ้าบนดาดฟ้าของโรงเรียนคิดถึงเรื่องต่างๆไปเรื่อยๆ
           'ในวันที่ท้องฟ้าสดใส     ในใจฉันกลับมืดมน
       
       ก้อนเมฆที่ไม่มีใครสน    รวมกันจนเป็นร่างใหญ่
       
          ตัวฉันที่ได้แต่เงยหน้า    มองท้องฟ้าสีครามสดใส
     
      ความทุกข์มลายสูญสิ้นไป  เมื่อเธอนั้นได้เดินเข้ามา '  เสียงร้องเพลงของใครบางคนที่ดั่งขึ้นในหัว ภาพในความ

    ทรงจำที่จู่ๆก็ออกมา    ภาพของเด็กชายที่อายุมากกว่าตนราว 5-6ปี เรือนผมสีรัตติกาลดำสนิทหากแต่พอต้อง

    แสงจันทร์กลับสว่างไสวอย่างไม่มีสาเหตุ ใบหน้าที่ร่างบางจำแทบจะไม่ได้แต่น่าจะดูหล่อเหลาด้วยวัยแค่นั้น หันมา

    หาเด็กชายตัวเล็กที่มองดูอยู่
        
    "เธอเป็นใคร?"เขาเอ่ยปากถามเด็กผู้ชายตัวเล็กที่อ้อมอกเต็มไปด้วยผลส้ม

    "เทียร์! ผมชื่อเทียร์เช่ฮะ  แล้วพี่ชายล่ะ"เด็กชายตัวน้อยตอบเสียงใส ใบหน้ายิ้มแย้ม

    "พี่หรอ? ก็ไม่รู้สิ ชื่ออะไรน้า"เขาทำเสียงเย้าหยอกเด็กชาย และทำถ้าทางราวกับกำลังคิดอยู่

    "เห  ขี้โกงอ่ะ" เด็กชายทำแก้มป่อง และเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ

    "ฮะๆ เรียกพี่ว่า  บราเทอร์ ก็ได้ นี่ดึกแล้วนะกลับไปเถอะ เดี๋ยวคุณพ่อ คุณแม่เป็นห่วงเอา"เขายื่นมือมายีหัวเด็กชาย

    เล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มให้

    "งืม งั้นเอ้านี่ ผมให้ ไปแล้วนะครับ"เด็กชายที่ตอนแรกทำหน้างอเล็กน้อย แล้วก็กลับมายิ้มสดใสเหมือนเดิม จากนั้นก็

    หยิบส้มส่งให้ชายตรงหน้าหนึ่งลูกแล้วก็หันหลังวิ่งกลับไป  วิ่งไปสักพักก็หันกลับมามองข้างหลัง แต่ก็ไม่พบอะไรเลย

    เด็กชายทำหน้างุนงงจากนั้นก็กลับมายิ้ม แล้ววิ่งต่อไป พร้อมกลับส่งคำพูดเล็กๆให้

        "แล้วสักวันจะเจอกันนะครับ  บราเทอร์"

    ..............................................................................

         "ต้องได้เจอกันแน่ เทียร์เช่"


    จากวันนั้นก็ผ่านมาได้ห้าปีแล้ว ทั้งสองไม่เคยได้พบกันอีกเลย สิ่งที่เหลืออยู่ก็แค่ความทรงจำและความรู้สึก

    "คุณเป็นใครกันแน่นะ บราเทอร์"เสียงที่เปล่งออกมาแผ่วเบาราวกลับเสียงกระซิบเล็กๆ จากนั้นเขาก็เผลอหลับไปทั้ง

    อย่างนั้น





    __________________________________________________________________________


    ขอโทษค่ะที่หายไปนานมากอย่างไม่น่าให้อภัย เราไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ขอโทษนะคะ><!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×