คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1
"ฆาตกรรมบุคคลสำคัญสามรายซ้อนในเดือนเดียว แถมยังจับคนร้ายไม่ได้ เดี๋ยวนี้เมืองลีฟบัดไม่มีขื่อมีแปกันแล้วหรือไง" สีหนาทดังก้องเสียจนท้องพระโรงสะเทือน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพระราชาทรงพิโรธเพียงใด
ข้าแปลกใจจริงๆ ที่ครีอุสยังคงรักษารอยยิ้มสว่างไสวอยู่ได้ ถึงจะเป็นหน้าที่ของเขาก็ตาม
แต่นั่นแหละ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของอมนุษย์ เขาก็ยังไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ คงพอจะมีเวลาหายใจหายคออยู่บ้าง
ต่างจากข้า หัวหน้าเทพอัศวินเทอร์มิส ผู้รับผิดชอบเรื่องการจับกุมและลงทัณฑ์ผู้กระทำผิดโดยตรง
"ด้วยความเฉียบขาดของเทพแห่งแสงสว่าง ข้าจะจับตัวผู้กระทำผิดให้เร็วที่สุด และลงทัณฑ์มันผู้นั้นอย่างสาสมที่สุดพะยะค่ะ" ข้ารับพระราชบัญชาเช่นนั้น
แม้จะยังไม่แน่ใจว่า "เร็วที่สุด" ของข้า จะเร็วพอกับความต้องการของพระราชาหรือไม่
*****************
ไม่จำเป็นต้องมีเสียงบริภาษของพระราชามาเข้าหู ข้าก็รู้สึกแย่เกินพอ
สี่ปีที่ข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าเทพอัศวินเทอร์มิสมา อัตราการเกิดอาชญากรรมในเมืองลีฟบัดแทบจะเหลือเท่ากับศูนย์ แต่อยู่ดีๆ ก็กลับเกิดคดีอุกฉกรรจ์ขึ้นถึงสามครั้งในหนึ่งเดือน
เบาะแสเพียงอย่างเดียวที่มีในตอนนี้คือดอกไม้ทรงกรวยสีขาวบริสุทธิ์ มันถูกวางอย่างบรรจงข้างศพทั้งสามคดี บ่งบอกว่าถ้าฆาตกรไม่ใช่คนเดียวกัน ก็ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกัน
ซ้ำผู้ตายทั้งสาม ล้วนแต่เป็นผู้มีชื่อเสียงทั้งในทางดี...และทางร้าย
ตั้งแต่อัศวินผู้จงรักภักดี ลอบกำจัดเสี้ยนหนามให้เจ้านายมาแล้วนับไม่ถ้วน
ขุนนางเชื้อพระวงศ์เจ้าเสน่ห์ เล่าลือกันว่าผู้หญิงครึ่งนึงของเขาได้มาจากการฉุดคร่า
พ่อค้าใจบุญ ผู้ร่ำรวยมาได้ด้วยเส้นสายและเงินใต้โต๊ะ
ทว่า พูดถึงความเกี่ยวข้อง ทั้งสามกลับไม่มีอะไรเกี่ยวพันกันมากกว่าเป็นแค่คนรู้จักในวงสังคมชั้นสูง นั่นยิ่งทำให้การสืบสวนมืดแปดด้านลงไปอีก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ตามด้วยเสียงก้องกังวานจากปากผู้มาเยือน
"ท่านเทพอัศวินเทอร์มิสขอรับ ข้า เวด เองขอรับ"
รองหัวหน้าหน่วยของข้ามา แปลว่าได้เวลาออกตระเวนตรวจตรารอบเมืองแล้วสินะ
ข้าปิดแฟ้มข้อมูลที่เกือบจะว่างเปล่า แล้วลุกเดินออกจากห้อง
*****************
เมืองลีฟบัดในวันนี้ยังคงเงียบสงบเช่นเคย ซึ่งก็ดี เพราะข้ายังไม่มีสมองจะคิดอะไรอื่นนอกจากพยายามเชื่อมโยงรายละเอียดทั้งหมดของคดีเข้าด้วยกัน
ข้าครุ่นคิดเสียจนแทบไม่ได้มองทางเดินเบื้องหน้า จนถึงตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งมีผู้คนคลาคล่ำ ข้าก็เดินชนเข้ากับอะไรบางอย่าง
หรือ...ใครบางคน
หญิงสาวร่างบอบบางในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายแบบชาวบ้านทรุดตัวนั่งบนพื้น ตะกร้าใบใหญ่ล้มตะแคงข้างตัวนาง ดอกไม้นานาชนิดที่ควรจะอยู่ในตะกร้าหล่นเกลื่อนกระจายเต็มพื้นตรอก
"ข้า..ข้า ขอโทษค่ะ ท่านเทพอัศวินเทอร์มิส ยะ..อย่า ลงทัณฑ์ข้าเลยนะคะ" นางช้อนนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มขึ้นมาสบตาข้าด้วยแววหวาดผวา ใบหน้าหวานซีดเผือดไร้สีเลือด หากยังคงเค้าความงดงามจับใจอย่างยากถอนสายตา
ข้าตอบนางด้วยเสียงทุ้มต่ำตามปกติ
"เทพเจ้าแห่งแสงสว่างไม่ประสงค์จะลงทัณฑ์ผู้ใดด้วยเรื่องแค่นี้หรอก" ซ้ำข้ายังเป็นฝ่ายเดินชนนางก่อนอีกต่างหาก
ข้าคุกเข่าลงไปช่วยเก็บดอกไม้ที่กระจัดกระจายกลับใส่ตะกร้า มีทั้งดอกไม้ที่ข้ารู้จักเช่นกุหลาบ ลิลลี่ ทิวลิป ลาเวนเดอร์ และดอกไม้ที่ข้าไม่รู้จักอีกหลายชนิด
จนถึงดอกสุดท้าย ดอกไม้ทรงกรวยสีขาวที่ข้าไม่รู้จักชื่อ แต่กลับคุ้นตาอย่างน่าประหลาด...
มือที่ถือดอกไม้ดอกนั้นพลันยกค้าง
...ถ้าข้าจำไม่ผิด นี่คือดอกไม้ที่วางอยู่ข้างศพเหยื่อสังหารทั้งสามราย!!
"ดอกอะไรน่ะ"
"แคลล่าลิลลี่ค่ะ" เมื่อรู้ว่าข้าไม่คิดจะเอาเรื่องเอาราวต่อ น้ำเสียงที่เคยสั่นเครือของนางก็เปลี่ยนเป็นกังวานใสคล้ายเปียโนแก้ว บ่งบอกถึงอุปนิสัยอันร่าเริง
ครั้นเมื่อข้าได้คำตอบ และกำลังจะวางดอกแคลล่าลิลลี่ลง นางก็เอ่ยต่อว่า
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ข้าให้ท่าน"
ข้าขมวดคิ้ว
กลีบปากสีชมพูระเรื่อแย้มยิ้ม สวยสดงดงามยิ่งกว่าแคลล่าลิลลี่ในมือข้า
"ข้าอยากขอบคุณท่านค่ะ หากไม่มีท่าน และหน่วยเทพอัศวินของท่าน คนหาเช้ากินค่ำอย่างพวกข้าคงไม่อาจข่มตาหลับได้สนิท รับดอกไม้ดอกนี้แทนคำขอบคุณของข้านะคะ"
ข้านึกแปลกใจ อย่าว่าแต่มอบดอกไม้เลย ขนาดจะมองหน้าข้าตรงๆ ยังมีน้อยยิ่งกว่าน้อยคนที่กล้าทำ
แต่ในที่สุด ข้าก็รับดอกแคลล่าลิลลี่ของนางมาจนได้ ร่างบอบบางโค้งให้ข้าครั้งหนึ่ง สายลมไร้ที่มาพัดเรือนผมยาวสยายสีน้ำตาลแดงปลิวสะบัดผ่านหน้า
ก่อนนางจะจากไป ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมรวยรินติดตรึงในความทรงจำ
*****************
ทั้งวันที่เหลือ ข้าครุ่นคิดถึงแต่ดอกแคลล่าลิลลี่สีขาว
หากไม่รู้ว่าเป็นดอกไหนกันแน่ ระหว่างดอกไม้ข้างศพเมื่อวันก่อน
หรือดอกไม้ที่ข้าเพิ่งได้รับในวันนี้.........
ความคิดเห็น