ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic LSK : Calla Lily

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 53


    ข้ากลับมาถึงตำหนักเทพอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ในเวลาที่แสงสุดท้ายของวันฉายส่อง ย้อมทุกสิ่งให้กลายเป็นสีแดงอมส้มแปลกตา


    ครีอุสนั่ง... หรือพูดให้ถูกกว่านั้น 'เกลือกกลิ้ง' อยู่บนเตียงนอนของข้า


    ทันทีที่ข้าก้าวเข้าห้อง เจ้านั่นก็ลุกขึ้นมาชี้หน้าข้าอย่างขัดเคือง


    "แลนซ์ เทอร์มิส เจ้ามันขี้โกงที่สุด!!"


    ข้าปิดประตูห้องดังปัง ไม่ลืมที่จะลงกลอนไว้ด้วย ข้าไม่อยากให้เทพอัศวินในตำหนักมาเห็นการทะเลาะกันแบบหลุดมาดของข้ากับเจ้าเกรเซียสนักหรอก


    "อะไรของเจ้า ห้องข้าเละเทะไปหมดแล้ว" ข้าส่ายหน้าไปมาอย่างอิดหนาระอาใจกับพฤติกรรมของบุรุษผู้เป็นที่นับถือทั่วทั้งแผ่นดิน แต่เบื้องหลังกลับไม่มีความน่านับถือสักนิด


    "อย่านึกว่าข้าไม่รู้นะ พวกลูกน้องของเจ้าบอกข้าหมดแล้ว ว่าเจ้ากลับมาช้าเพราะไปส่งสาวงามกลับบ้าน" ครีอุสเด้งตัวขึ้นมากระชากคอเสื้อข้า "บอกข้ามาเดี๋ยวนี้ เจ้ากับสาวคนนั้นไปกันถึงไหนแล้ว!!"


    "ข้าเพิ่งจะขอคบกับนาง แล้วก็...จูบ"


    คำตอบของข้าทำให้คนฟังร่วงลงไปเกลือกกลิ้งต่อบนเตียง


    "ไม่ยุติธรรมๆๆๆๆๆ" เสียงแหลมกรีดร้องโวยวาย "เทอร์มิสผู้โหดเหี้ยมไร้ปรานี ยังอุตส่าห์หาคนรักกับเขาได้ แล้วทำไมครีอุสผู้งดงามดุจอรุณรุ่ง เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา ถึงได้ไม่มีสาวไหนมารักมาชอบ มหาเทพลำเอียง ข้าไม่ยอม ไม่ย๊อมมมมมมมมมมม" เพื่อนสนิทไม่ได้เรื่องของข้าไม่เพียงแต่เกลือกกลิ้ง ยังดีดดิ้นเสียจนเตียงไม้เริ่มส่งเสียงลั่นกราว น่ากลัวข้าคงต้องอุทิศเวลาตลอดคืนเพื่อซ่อมเตียงแทนที่จะได้นอนหลับอย่างปกติสุข


    "พอทีเถอะ ถ้าเตียงข้าพัง ข้าจะให้เจ้าซ่อม" ข้ารีบงัดไม้ตายขึ้นมาขู่เพื่อให้อีกฝ่ายหยุดยั้งความพยายามในการพังข้าวของภายในห้องข้า


    เห็นมันเป็นแบบนี้ ข้าก็ไม่อยากจะบอกความจริงนักหรอกว่า


    ...มหาเทพกลัวผู้หญิงช้ำใจตายเพราะพฤติกรรมงี่เง่าของเจ้าไง ครีอุส...


    ขืนบอกไปสิ ห้องข้าคงกลายเป็นตอตะโก!!!!


    "ไม่ได้การละ ข้าต้องพยายามหาสาวใดมาข้างกายบ้างล่ะ" ยังดีที่ครีอุสยอมฟังข้า ลุกขึ้นมานั่งดีๆ ที่ขอบเตียง สีหน้าเปลี่ยนกลับมาเป็นเคร่งขรึมคล้ายครุ่นคิดอะไรบางอย่าง


    "ว่าแต่ คดีดอกแคลล่าลิลลี่สีขาวไปถึงไหนแล้ว" เขาเอ่ยถาม


    ข้าทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงาน "ไม่ไปถึงไหนหรอก ข้าก็รู้แต่ว่า อาวุธที่ใช้เป็นมีดบางคมกริบ"


    "นักฆ่าที่ไหนก็ใช้มีดแบบนั้น"


    "คนร้ายมีความสามารถในการต่อสู้สูงมาก ถึงขั้นล้มอัศวินระดับสูงได้"


    "เจ้ารู้ได้ไงว่าความสามารถในการต่อสู้สูง เรื่องฆ่าคน ความจริงขอแค่มีจังหวะลอบโจมตีก็พอ"


    "มีร่องรอยการต่อสู้ในที่เกิดเหตุ"


    "นักฆ่าฝีมือดีล้วนแต่มีความสามารถในการต่อสู้สูง"


    "เฮ้อ" ข้ากุมขมับ ยอมจำนนด้วยสาเหตุเดิม เบาะแสที่คนร้ายทิ้งไว้กว้างเกินไปจนไม่อาจระบุตัวชัดเจนได้


    "เอาน่า" ครีอุสลุกขึ้นมาตบบ่าข้าอย่างเห็นใจ "เทมเพสส่งสายสืบออกไปนอกแคว้นแล้ว คงได้เบาะแสเพิ่มขึ้นบ้างแหละ ไม่แน่ มันอาจจะเป็นคนของแคว้นโยแลนด์ หรือราชอาณาจักรกัลซินก์ก็ได้"


    "หวังว่าอย่างนั้นนะ" ข้ารับคำเสียงทุ้มต่ำไร้อารมณ์


    ******************


    ผิดกับเรื่องงานที่ไม่มีความคืบหน้า ความรักของข้ากลับรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว


    ข้าไปถึงบ้านของนางเวลาบ่ายสามตามนัด ทันทีที่เปิดประตู กลิ่นหอมกรุ่นของชาคาโมมายล์ก็ลอยมาแตะจมูก ตามมาด้วยเสียงดนตรีไพเราะเสนาะหู


    ข้าหยุดยืนอยู่ที่ประตู ลอบมองเข้าไปภายในบ้าน


    เครื่องเรือนที่ข้าเข้าใจว่าเป็นตู้เก็บของสำคัญ แท้จริงคือเปียโนหลังหนึ่ง


    ร่างน้อยน่าทะนุถนอมนั่งอยู่หน้าเปียโน ปลายนิ้วเรียวพร่างพรมลงบนคีย์


    กลีบปากสีชมพูเอื้อนเอ่ยท่วงทำนองหวาน คล้ายเสียงเปียโนแก้วดีดคลอประสานกับเปียโนไม้

    "Your presence, your movements

    Makes me feel alive

    Your thoughtfullness, your tenderness

    Makes me warm inside


    You've earned my trust

    And for that I must be strong in return

    'Cause of you I've found a steady ground


    You are my all my everything

    You are the lights when the dark closes in

    When I reach for you then you are there

    To lift me up when I'm down


    Never have I had so much faith

    Now I feel like my life begins I can hardly wait

    Till I see you standing next to me

    Then I know that you'll be there..."


    (เนื้อเพลงจาก My Everything : Maria Hogard Storeng)


    ข้าฉวยโอกาสที่แคลล่ายังคงเพลิดเพลินอยู่กับบทเพลง เดินเข้าไปด้านหลัง โอบเอวบางไว้ในอ้อมแขน


    เสียงเปียโนไม้ชะงักลง หากเสียงเปียโนแก้วยังคงกังวานใส


    "ท่านเทพอัศวินเทอร์มิส....ไม่สิ แลนซ์"


    "เล่นต่อไปสิ" ข้ากระซิบเสียงทุ้มข้างใบหูที่เริ่มแดงระเรื่อ "ข้าอยากฟังเพลงของเจ้าต่อ"


    นางตามใจข้า เสียงเปียโนไม้กลับมากังวานต่อด้วยฝีมือแต่งแต้มของปลายนิ้วเรียว


    ข้าผละจากข้างกายนางไปนั่งรอบนโซฟา พลางจิบน้ำชาคาโมมายล์ สองหูสดับท่วงทำนองอันงดงามคล้ายบทเพลงจากสวรรค์


    "Forever , say you'll never

    Turn away from me

    Say you'll be there

    Say you'll need me

    And I'll be there for you


    You have more to show and I want to know

    all your thoughts and all your dreams

    With me you'll find your peace of mind


    You are my all my everything

    You are the lights when the dark closes in

    When I reach for you then you are there

    To lift me up when I'm down


    Never have I had so much faith

    Now I feel like my life begins I can hardly wait

    Till I see you standing next to me

    Then I know that you'll be there

    And you always be my all...my everything"


    บทเพลงจบลง เสียงเปียโนทั้งสองค่อยๆ แผ่วเบา จนในที่สุดก็เลือนหายไป


    ข้าลุกขึ้นจากโซฟา รั้งร่างบอบบางเข้ามาในอ้อมกอด มอบจุมพิตให้กลีบปากหวานละมุนอย่างนุ่มนวล


    "แด่บทเพลงของเจ้า"


    ******************


    ยามบ่ายสามโมงของทุกวัน แคลล่าจะรอต้อนรับข้าด้วยดอกแคลล่าลิลลี่สีขาว รอยยิ้มสดใส ชาคาโมมายล์หอมกรุ่น และบทเพลงหวานซึ้ง


    สองชั่วโมงที่นั่นเป็นสองชั่วโมงที่ข้าได้พักผ่อนทั้งกายและใจอย่างแท้จริง


    และถึงคดีดอกแคลล่าลิลลี่สีขาวจะยังไม่มีความคืบหน้าก็จริง แต่ก็ยังไม่มีเหยื่อฆาตกรรมรายใหม่ ซ้ำพระราชาก็ทรงยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมงานเฉลิมฉลองฤดูร้อนจนละความสนใจจากเรื่องคดีไปชั่วคราว


    ยากยิ่งนักที่ข้าจะมีความสุขไปมากกว่านี้


    ...กระทั่งลืมเลือนไปว่า ท้องทะเลสงบนิ่ง คือเค้าลางที่บ่งบอกว่า พายุใหญ่จะตามมาในไม่ช้า...









    My Everything เพลงประกอบสำหรับตอนนี้ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×