ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Boy band & Girl Yบอยแบนด์สุดฮอต มัดใจ สาววายสุดติ่ง

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 เกือบเสีย...ขอบคุณนะเสียงโทรศัพท์ (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 57






     

    "4"







    “อันนยองฮาเซโย นักศึกษาทุกคน วันนี้เราจะมาเรียนกันเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ เริ่มจากยุคแรกของเกาหลีใต้เลยนะคะ “ โหมาเรียนวันแรกก็เริ่มเรียนเรื่องประวัติศาสตร์ในยุคแรกของเกาหลีเลยหรอเนี่ย เฮ้อ~~~จะหลับไหมหนอเรา

    คุณนั่งหันหน้าตรงไปยังอาจารย์ที่กำลังสอนอย่างตั้งใจฟังและตั้งใจเรียนแต่ดูเหมือนว่าเพื่อนใหม่ที่นั่งข้างๆคุณจะไม่ได้ตั้งใจเรียนไปกับคุณด้วย เมื่อคุณหันไปเห็นว่าเพื่อนใหม่กำลังฟุบหน้าหลับลงกับโต๊ะ

    “นี่ ซอนแบ!!ตื่นได้แล้ว ตอนนี้มันเวลาเรียนนะไม่ใช่เวลามาฟุบโต๊ะแล้วหลับ”เมื่อคุณเห็นเพื่อนใหม่ของคุณกำลังฟุบหน้าหลับลงกับโต๊ะคุณก็รีบทำการปลุกซึ่งคุณก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคุณกำลังปลุกเพื่อนหรือกำลังบ่นเพื่อนกันแน่คุณพยายามเขย่าตัวเพื่อนอย่างแรง

    “เอาวะเป็นไงเป็นกันเวลานี้ต้องปลุกให้ตื่น โทษนะซอนแบแต่ฉันต้องทำ” คุณตัดสินใจเพิ่มแรงในการเขย่าให้มันเร็วและแรงมากกว่านี้ คุณจะกลัวไม่ได้เพราะถ้าคุณมัวแต่กลัวเพื่อนเจ็บ แล้วถ้าอาจารย์มาเห็นเพื่อนของคุณอาจจะซัวก็เป็นได้

    “อื้มม อย่ากวนดิ คนจะหลับจะนอน” ซอนแบเพื่อนคนใหม่ของคุณที่ดูจะขี้เซา และไม่รู้จักเวลั่มเวลาเอามากๆ

    “หึ โอเค ฉันไม่ปลุกนายแล้ว โด่ว คนอุสาหวังดี กลัวนายจะโดนอาจารย์ดุแต่นายกลับหาว่าฉันกวนซะงั้น ได้งั้นเชิญนอนให้สบายเลยนะยะคุณชายซอนแบ ชิ”คุณบ่นใส่ซอนแบด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความน้อยใจนิดๆ หลังจากนั้นคุณก็หันมาทางอาจารย์แล้วตั้งใจเรียนต่อไปปล่อยให้เพื่อนอย่างซอนแบที่กำลังฟุบหน้าหลับอยู่บนโต๊ะได้หลับดังที่ใจปราถนาซึ่งซอนแบไม่รู้เลยว่าภัยหนักกำลังจะมาเยือนแล้ว

     

    “นี่!!! นักศึกษาซอนแบตื่นมาฟังอาจารย์ก่อน!!!! อาจารย์มีคำถามจะถาม” นั่นไงภัยหนักมาหาผมแล้วแต่คิดหรอว่าผมจะกลัว หึ เชิญเรียกต่อเลยนะอาจารย์ผมจะหลับ

     

    ซอนแบไม่ตื่นมาตามที่อาจารย์สั่ง เป็นผลให้อาจารย์ต้องตะโกนให้ดังสุดเสียงเพื่อเรียกซอนแบ

     

    “นี่!!!!!!!!!!! เด็กกกกกกก ชายยยยยย ซอนนนนนน แบบบบบบบบบ “

     

    อาจารย์สอนประวัติศาสตร์พูดเรียกชื่อซอนแบแบบยานยานและก็ตะโกนอย่างดังจนนักศึกษาภายในห้องต่างก็ต้องเอามือขึ้นมาป้องปิดหู

     

    “ฮ้าวว~~~” ซอนแบลุกขึ้นมานั่งตัวตรงอย่างช้าๆแบบไม่สนใจโลก ก่อนจะบิดขี้เกียจไปมาทางซ้ายที ขวาที โดยไม่สนใจเลยว่าตอนนี้ใบหน้าของอาจารย์กำลังเป็นแบบไหน

    “อ้าว อาจารย์ อาจารย์ไปโกรธใครมาหรอครับดูหน้าอาจารย์สิขึ้นสีเลย ว่าแต่ผมได้ยินว่าอาจารย์จะถามคำถามผมไม่ใช่หรอครับ เชิญเลยครับอาจารย์” ผมป่าวกวนอาจารย์นะ ก็ผมเป็นแบบนี้ของผมอยู่แล้วอ่ะ

     

    เมื่ออาจารย์ได้ยินคำพูดที่แสนจะกวนและไม่เคารพผู้เป็นอาจารย์เลยแม้แต่น้อย จึงทำให้อาจารย์กำมือแน่นและพยายามละงับอารมณโกรธ

    “ได้งั้นเตรียมรับมือกับคำถามให้ดีละกัน”

     

    ซอนแบไม่โต้ตอบแต่กลับกลอกสายตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย

     

    “ยุค3ก๊กแบ่งออกเป็นกี่อาณาจักร  มีอาณาจักรได้บ้าง  และอาณาจักรแต่ละที่ตั้งอยู่ทางทิศใดบ้าง”

    เฮ้ย! เดี๋ยวนะฉันจำได้ว่าเรื่องนี้เรายังไม่ได้เรียนเลยนี่นาก่อนหน้านี้อาจารย์เพิ่งจะสอนถึงยุคเผ่าเองนี่ ยุค3ก๊กยังไม่ถึงเลย ตายแน่เลยไอแว่นเอ้ยยย บอกแล้วว่าอย่าหลับไม่เชื่อ

    “ยุค3ก๊ก มี 3 อาณาจักร มีอาณาจักรโคกูรยอ  อาณาจักรแพกเจ และอาณาจักรชิลลา อาณาจักรโคกูรยอตั้งอยู่ทางภาคเหนือ  อาณาจักรแพกเจเป็นเผ่าย่อยของเผ่าพูยอตั้งอยู่ทางตอนใต้ อาณาจักรชิลลาตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรเกาหลี คับ”

    อุต้ะ!!! ตกใจแปป ไอแว่นมันรู้ได้ยังไงทั้งๆที่เรื่องนี้ยังไม่ได้เรียนเลย เอ๊ะ! หรือว่าซอนแบเคยกิดอยู่ในยุคนั้นแล้วจำเรื่องในอดีตได้ (ไรท์: ตายละ นางเอกของไรท์ คิดได้ยังไงเนี่ย อย่าไปบอกใครนะว่านั่นคือความคิดเธอ) (นางเอก: แหมเป็นความคิดที่แจ่มมากเลยใช่ม้า) (ไรท์: ป่าว เดี๋ยวเขาหาว่าเธอบ้าต่างหาก) (นางเอก: ไรท์ง่า!!! ชิ )

     

    เมื่อซอนแบพูดจบอาจารย์ก็ถึงกับเงิบด้วยความสงสัยว่านักศึกษาคนนี้สามารถตอบได้ยังไงทั้งที่ยังไม่ได้เรียน

     

    “ผมตอบจบแล้ว อาจารย์ให้ผมนั่งได้หรือยังคับ” ผมป่าวกวน ผมป่าวก้าวร้าว ก็อย่างที่บอกคับว่าผมเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว

    “ได้ เชิญนั่งได้”

     

    ซอนแบรีบนั่งลงก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะอีกครั้งอย่างไม่สนใจใครเลยสักนิดแม้กระทั่งอาจารย์

     

    เฮ้ออออ อยากรู้จริงๆว่าพ่อแม่ของซอนแบใหญ่โตมาจากไหน ทำไมซอนแบถึงกล้าทำนิสัยแบบนี้กับคนที่เป็นอาจารย์ได้

     

     


    ตอนนี้ก็เป็นเวลาเลิกเรียนประวัติศาสตร์แล้ว อยากรู้จริงๆเล้ยยย ว่าไอแว่นมันไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา บอกเลยนะว่ามันหลับตั้งแต่หลังจากที่มันตอบคำถามเสร็จจนกระทั่งเลิกเรียนมันถึงตื่นถ้าเกิดว่ามันทำแบบนี้บ่อยๆความรู้จะเข้าหัวมันบ้างไหมหนอเฮ้อออ เป็นห่วงมันจริงๆ

    “นี่  ซอนแบ คาบต่อไปนายจะหลับอีกป้ะเนี่ย" หันไปหาเพื่อนใหม่ตรงหน้าอย่างซอนแบแล้วตัดสินใจถาม ในใจคุณหวังว่าเพื่อนคนนี้คงจะไม่หลับอีกนะในคาบต่อไปเพราะถ้าหลับอีกแสดงว่ามันคงเป็นโรคลมหลับแน่ๆอ่ะ

    "คาบต่อไปเรียนอะไรอ่ะ" แทนที่ผมจะหันไปแล้วตอบ แต่ไม่ ผมกลับหันไปแล้วย้อนคำถามใส่

    "ไม่รู้ดิ่ เรียนคณิตมั้ง" คุณหันไปตอบด้วยความไม่รู้ และในใจคุณก็ยังหวังว่ามันจะไม่หลับนะ


    "อ่อ คงไม่หลับแหละ" และแล้วคำตอบของซอนแบ ก็เป็นไปดังที่ใจคุณต้องการ

    "อะ อาจารย์มาแล้ว" คุณหันไปนั่งตัวตรงเพื่อที่จะตั้งใจเรียนคณิต

     

    20%

     

    ทางฝ่ายหนุ่มๆเอ็กโซ

    แบคฮยอน : “ฮยอง ฮยองว่าเดี๋ยวนี้ชานยอลดูแปลกๆไปป้ะ”

     

    จงแด : “ไม่รู้ดิ่ นายสนิทกับชานยอลที่สุด ฉันว่านายน่าจะรู้ดีกว่าพวกฉันนะ”

     

    อี้ชิง : “แต่...ฉันว่าช่วงนี้ชานยอลก็ดูแปลกๆนะ”

     

    ซิ่วหมิน : “นั่นดิ่ เห็นเมื่อก่อนยังหงอยๆ ซึมๆ ถามไรก็ตอบอืมอย่างเดียว แต่ทำไมช่วงนี้อาการหงอยๆซึมๆถึงไม่ค่อยปรากฏ แก่ชานยอล”

     

    คริส : “นับว่าเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรอที่ชานยอลไม่หงอยไม่ซึม”

     

    เซฮุน : “มันก็จริง แต่ที่ผมสงสัยคือ เมื่อคืนชานยอลฮยองไปไหน”

     

    วันนี้ทุกคนอยู่ที่หอพักกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาสาเหตุเพราะวันนี้ไม่มีคิวงาน ดังนั้นทุกคนจึงนั่งจับเข่าคุยกันถึงเรื่องพฤติกรรมของชานยอลที่ดูเปลี่ยนไป แต่ ยกเว้นซูโฮที่ไม่ได้อยู่ในการสนทนาของเช้านี้

    “เซฮุน เมื่อกี้นายบอกว่า เมื่อคืนชานยอลไปไหนนี่หมายความว่าไง” หลังจากที่คยองซูได้ฟังเซฮุนตั้งข้อสงสัยขึ้น คยองซูเลยเอ่ยปากถามเซฮุนว่าที่มันพูดเมื่อกี้หมายความว่าไง ด้วยความตกใจ

    “ก็หมายความว่าเมื่อคืนชานยอลแอบออกไปนอกหอตอนดึกๆไง”จงแดหันไปตอบผู้ชายร่างเล็กที่ตอนนี้กำลังยืนนิ่งทำตาโตเยี่ยงนกฮูก

    “ตาย ตาย ตาย เรื่องนี้ห้ามให้ซูโฮรู้เป็นอันขาด ไม่งั้นชานยอลโดนสอบสวนพร้อมกับโดนเทศน์ยันหูชาแน่ “ จื่อเทาเสริมขึ้น และมันก็จริงเรื่องนี้ซูโฮจะรู้ไม่ได้เพราะถ้ารู้นี่มีหวังชานยอลคงโดนเทศน์ทุกวันแน่ๆ จื่อเทาคนนี้ขอเอาหัวเป็นประกันเลย
     

    ทุกคนมานั่งตั้งวงมั่วสุมสนทนากันตั้งแต่เช้าเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ดูเปลี่ยนแปลงไปของHappy virus หรือ เจ้าชายรีแอ็คชั่นของวงอย่างชานยอล โดยที่ทุกคนนั้นไม่ได้สนใจเลยว่า จะมีใครเข้ามาได้ยินหรือไม่ ตอนนี้ทุกคนคุยกันด้วยความประมาทและประหม่า พวกเขาทุกคนไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาที่พวกเขาอยู่

    “อะแฮ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม” มีเสียงของใครบางคนอะแฮ่มออกมาทำให้สามารถดึงความสนใจของทุกคนได้เป็นอย่างดี และเมื่อทุกคนหันไปหาบุคคลดังกล่าว เป็นผลให้ทุกคนนั้นอยากจะมุดดินหนีลงพิภพไปเสียให้ได้ เพราะบุคคลนี้เป็นคนที่น่าเกรงขามและน่ากลัวอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวลองจากเมเนเจอร์ของวง

    “ขอโทษนะ เมื่อตะกี้คุยเรื่องอะไรกัน แล้วทำไมฮยองถึงจะรู้ไม่ได้”และแน่นอน บุคคลดังกล่าวที่บอกไปว่าน่าเกรงขามและน่ากลัวลองจากเมเนเจอร์ของวงก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากซูโฮ

    “อะจ๊ากกกก!!!! เตรียมเผ่นกันเถอะพวก!!” แบคฮยอนที่ตอนนี้มีอาการเหมือนกระต่ายตื่นตูมเต็มที่หลังจากที่เจอซูโฮ ใครก็ได้พาผมหนีไปทีตอนนี้เท้าผมไม่เคลื่อนไหวแล้ว บอกเลยว่าคนนี้น่ากลัวจริงๆแง่ๆๆๆ ชานยอลเค้าขอโทษษษษ

    เมื่อซูโฮเห็นว่าแบคฮยอนกำลังจะติดเกียร์300 สไตร์หมาแบคเพื่อกำลังจะหนี ซูโฮเลยเงื้อมมือไปดึงคอเสื้อของแบคฮยอนจากทางข้างหลังไว้เพื่อที่แบคฮยอนจะไดหนีไปไหนไม่ได้

    “เดี๋ยวก่อน แบคฮยอน จะหนีไปไหน มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนเลย” ซูโฮพูดกับแบคฮยอนในขณะที่มือยังไม่ปล่อยออกจากคอเสื้อแบคฮยอน

     

    “เคคับฮยอง ฮยองปล่อยมือออกจากข้อเสื้อผมก่อนได้ไหมครับ” แบคฮยอนเริ่มควบคุมสติสตังได้นิดหน่อยก่อนจะขอร้องให้ซูโฮปล่อยมือออกจากคอเสื้อ
     

    25%


    หลังจากที่ซูโฮปล่อยแบคฮยอนให้เป็นอิสละ ซูโฮก็เดินตรงไปที่โซฟาก่อนจะเรียกทุกคนให้ไปนั่งร่วมด้วยเพื่อทีจะไต่ถามถึงเรื่องที่ทุกคนปิดบังไว้เกี่ยวกับชานยอล และเมื่อทุกคนหย่อนก้นลงที่โซฟาเรียบร้อย ซูโฮก็นั่งจ้องหน้าทุกคนด้วยสายตาจับผิด  ตอนนี้ความเงียบเริ่มที่จะปกคลุมไปทั่วทั้งห้องเนื่องจากซูโฮไม่ย่อมปริปากเริ่มคำถามและยังส่งสายตาที่ดูจริงจังและหน้ากลัวมาให้ทุกคนทั้ง10คนอีกตางหากดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าแถออกนอกเรื่องเลยแม้แต่คนเดียว

    "นี่ ซูโฮ นายมีอะไรจะถามก็ถามมา มัวแต่นั่งจ้องหน้าทุกคนแบบนี้ นายจะรู้คำตอบไหมล่ะ" คริสเมื่อเห็นว่าตอนนี้บรรยากาศภายในห้องช่างอึดอัดและน่าเบื่อนอกจากนั้นยังมีแต่ความเงียบไม่มีเสียงใดเลยนอกจากเสียงเครื่องทำความร้อนภายในห้องเท่านั้น ดังนั้นคริสจึงเริ่มเปิดบทสนทนา ด้วยบุคลิกที่ดูจะออกเย็นชานิดๆเพื่อทำลายความเงียบ

    "พวกนายมีอะไรปิดบังฉัน" ซูโฮเริ่มตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

    "ปิดบังเรื่องอะไรล่ะ ไม่มี้ ไม่มี" เทาปฏิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงทีสูงปรี้ดด ซึงเป็นผลให้ซูโฮเริ่มมั่นใจมากขึ้น ว่าทุกคนต้องปิดบังอะไรอยู่แน่นอน

    "ก็เรื่องชานยอลไง" เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ต่างก็สดุ้งโหยง ยกเว้นคริสที่ีสามารถควบคุมตัวเองให้อยู่ในโมดเย็นชาได้ดี


     ' ตายละหว่า เอาไงดีวะเนี่ย จะแถออกนอกเรื่องยังไง' แบคฮยอนนั่งก้มหน้าแล้วก็คิด คิด คิด คิดว่าจะหาทางแถออกนอกเรื่องยังไง แต่ยิ่งเห็นใบหน้าที่หน้ากลัวของซูโฮ ทีไรนึกไม่ออกทุกที


     ' โอ้ยเอาไงดีวะเนี่ย จะช่วยชานยอลยังไงดี ถ้าซูโฮรู้มีหวังชานยอลตายแน่ๆ'จงแดนั่งก้มหน้าเหมือนแบคฮยอนและก็กำลังคิดหาทางออกที่ดีที่สุด เพื่อช่วยชานยอล


    ' กฏของวงที่ซูโฮตั้งไว้ หนึ่งในนั้นคือ  หลังห้าทุ่ม ทุกคนห้ามออกไปนอกหอเด็ดขาด แต่นี่ขานยอลออกไปนอกหอถือว่าแหกกฏ ดังนั้นชานยอลก็ต้องยอมรับกับผลของการแหกกฏของวงให้ได้ เรื่องนี้ดีโอขอไม่ยุ่งด้วยจะดีกว่า' คนตัวเล็กอย่างคยองซูจึงนั่งทำสีหน้าเหมือนไม่รู้ไม่เห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้


    ' โห ลีดของเราก็น่ากลัวไม่ใช่เล่นๆนะเนี่ย จะเอายังไงดีล่ะ จะข่วยชานยอลยังไงดี แต่...ช่างเถอะ เรื่องนี้จงอินขอไม่ยุ่งละกัน'


    ' โอ้ยยย ไอจื่อเทาเอ้ยย คิดสิคิด จะช่วยชานยอลยังไง' เทานั่งก้มหน้าคุมขมับอย่าเคร่งเครียด และพยายามคิดหาทางออก


    'โอ้ยยย แบคเอ้ยยย ถ้านายไม่กระต่ายตื่นตูม ป่านนี้ซูโฮไม่มานั่งจับผิดอย่างงี้หรอก 'อี้ชิงคิด

     



    ' เฮ้อ... เทาหนอเทา ถ้านายไม่ตอบเสียงสูงแบบนั้น ซูโฮคงไม่สงสัยอะไรมากหรอก ส่วนแบคฮยอนก็อีกคนทำไมไม่รู้จักควบคุมสติบ้างนะ ' คริสนั่งถอนหายใจเมื่อนึกถึงการกระทำที่ชวนให้ซูโฮสงสัยของเทาและแบคฮยอน


    '....' ซิ่วหมินเงียบไม่ได้คิดอะไรเลย


    '....'เซฮุนก็เงียบ


    '....'ลูห่านก็เงียบไม่ได้คิดอะไร


    "ตกลงวันนี้ พวกนายจะตอบไหม ถ้าไม่ตอบฮยองจะไปคุยกับชานยอลให้รู้แล้วรู้รอด" ซูโฮเอ่ยปากขู่ทุกคนเป็นผลให้ทุกคนนั้นต้องสดุ้งอีกครั้ง ซูโฮเริ่มย่างเท้าตรงไปยังห้องนอนของชานยอล


    "เมื่อคืนชานยอลออกไปนอกหอหลังจากห้าทุ่มครับ" ทุกคนรับหันขวับไปทางเซฮุน เมื่อได้ยินประโยคทีจะทำให้ชานยอลซวย


    "นี่ เซฮุนทำไมนายบอกแบบนั้นอะ เดี๋ยวชานยอลก็ซวยหรอก" จงแดหันมาพูดกับเซฮุน


    " ไม่หรอก ผมรู้ว่ายังไง ชานยอลฮยองก็สามารถเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว" เซฮุนตอบกลับ


    หลังจากที่ซูโฮได้ยินคำพูดของเซฮุน ซูโฮก็หยุดเดินไปพักหนึ่ง ก่อนจะเดินตรงไปหาชานยอลที่ห้องอีกครั้ง  เมื่อมาถึงห้องซูโฮก็จัดการเคาะประตูเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท ก่อนจะบิดลูกบิดที่ประตูและเมื่อพบว่าประตูไม่ไดล๊อกดังนั้นซูโฮจึงเปิดประตูเข้าไปหาชานยอลเลย
    เมื่อประตูห้องของชานยอลถูกเปิดออกโดยซูโฮเป็นผลให้ชานยอลค่อยปรือตาขึ้นด้วยความง่วงก่อนจะพบซูโฮที่ยืนอยู่ตรงประตู


    "อ้าวชานยอล ฮยองไม่ได้มากวนเวลานอนของนายใช่ไหม"ซูโฮถามออกไปตามมารยาท 


    "กวนอะไรกันฮยอง ไม่กวนหรอก ผมก็กะจะตื่นอยู่พอดี" ชานยอลลุกขึ้นมานั่งบนเตียงก่อนจะเอามือลูบผมสองสามครั้งเป็นการปลุกให้ตื่น แล้วจึงตอบคำถามซูโฮ


    "ว่าแต่ทำไมวันนี้นายตื่นสายล่ะ เห็นทุกๆเช้านายจะตื่นก่อนแบคไม่ใช่หรอ" ซูโฮเริ่มถามคำถามทีละนิดเพราะไม่อยากจะเข้าประเด็นแบบตรงๆ ค่อยๆถามค่อยๆเป็นค่อยๆไปนี่ยแหละเดี๋ยวมันก็เข้าประเด็นของมันเอง หลังจากนั้นซูโฮก็เดินตรงไปที่เก้าอี้ภายในห้องก่อนจะหย่อนก้นลงไปนั่งที่เก้าอี้


    "อ่อจริงๆแล้วผมก็ตื่นก่อนแบคนั่นแหละแต่พอดีวันนี้มันง่วงน่ะเลยอยากนอนต่อให้เต็มอิ่ม" ชานยอลเริ่มโกหกซูโฮว่าวันนี้เขาตื่นก่อนแบคเพราะทุกๆเช้าส่วนใหญ่ชานยอลจะตื่นก่อนแบคเสมอแต่วันนี้ขอยอมรับเลยว่าเขาตื่นสายถ้าจะให้บอกความจริงไปว่าเมื่อคืนผมนอนดึก ผมคงโดนไต่ถามอีกยาว

                            'ขอโทษนะฮยองแต่ผมจำเป็น'


    " อ๋อ งั้น เมื่อคืนนายก็นอนดึกสินะ ว่าแต่นายไปไหนมาหรอ หรือนายไปทำอะไรถึงได้นอนดึก" ซูโฮเริ่มหาคำพูดเพื่อที่จะเชื่อมโยงให้เข้าประเด็นง่ายๆ ด้วยสายตาที่ดูจับผิดนิดๆ



    เมื่อชานยอลได้ยินคำถามของซูโฮก็ทำให้ตัวสดุ้งโหยงอย่างแรงจนซูโฮรู้สึกได้ เป็นผลให้ชายหนุ่มที่พึ่งตื่นต้องปวดหัวแต่เช้าเนื่องจากต้องมานั่งคิดหาข้อแก้ตัว เฮ้อ... ฮยองหนาฮยอง คนอุสาโกหกไปว่าตื่นเช้า นี่ยังจะหาจุดจับผิดได้อีกหรอเนี่ย แต่ไม่เป็นไร เพราะเรื่องแค่นี้สำหรับชายหนุ่มปาร์คชานยอล สบายมากกกก เนื่องจากได้รับวิชาการแถของแบคมาเยอะ



    " อ๋อ ผมไปร้านสะดวกซื้อน่ะ พอดีผมหิวตอนดึก ผมเลยออกไปหาอะไรกิน ว่าแต่ฮยองรู้ป้ะว่าของกินอร่อยมากกกก แถมผมเข้าไปในร้านนะ ผมยังได้ยินเพลง overdoes ที่พนักงานในร้านเปิดฟังอีกด้วย ผมนะดีใจมากเลยที่มีคนคอยติดตามผลงานของพวกเรา ว่าแต่ฮยองถามผมทำไมอ่า" ชานยอลเริ่มโกหกอีกครั้ง ก่อนที่จะแถๆๆไปเรื่อยๆจนใบหน้าจะถลอกเป็นแผล ทั้งทำท่าทำทางประกอบเพื่อให้เหมือนจริง แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อกี้เขากำลังถามคำถามที่ทำให้ซูโฮเข้าประเด็นได้อีกครั้ง


    " อ๋อเปล่าหรอก ก็เห็นเซฮุนบอกฉันว่าเมื่อคืนนายแอบออกไปนอกหอตอนดึกๆ ฉันเลยอยากรู้น่ะว่านายแอบออกไปไหน" 

    อ๋อเรื่องราวและคำถามทั้งหมดมันเกิดจากเซฮุนที่เป็นตัวต้นเหตุให้ซูโฮมาถามคำถามมากมายเหล่านี้กับเขานี่เอง หึหึ เซฮุนวันนี้นายไม่รอดแน่ ฉันจะอัดนายให้ตายเลยคอยดู

    "อ๋อ ฮยองคิดว่านายแอบออกไปหาใครซะอีก 5555 เฮ้อ... แต่ระวังตัวไว้บ้างนะชานยอล เดี๋ยวดีไม่ดีวันนึงนายอาจจะเจอพวกซาแซงก็ได้ ฮยองไปล่ะนะ" ซูโฮพูดกับชานยอลด้วยน้ำเสียงที่ติดตลกนิดๆ แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดนั้นมันทำให้ชานยอลถึงกับสะดุ้งโหยงและคิดมากอีกครั้ง หลังจากนั้นซูโฮก็ตีไหล่ชานยอลสองสามครั้งก่อนจะเดินตรงไปยังประตู


    "อ่อแล้วอย่าแหกกฏให้มันบ่อยนะ เพราะกฏสร้างขึ้นมาให้ปฏิบัติไม่ได้สร้างขึ้นมาไว้ให้แหกเข้าใจไหมชานยอล" ซูโฮเดินไปที่ประตูก่อนจะหันมาเตือนชานยอลอีกครั้ง


    "อ่อ คับฮยอง" ชานยอลตอบซูโฮไป ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งใจอีกครั้ง 


                     ' ดีนะที่ฮยองไม่รู้ ถ้ารู้นี่มีหวังโดนบ่นยาวแน่ๆอ่ะ'


    "ป่านนี้ยัยแฟนคลับจะเป็นไงบ้างเนี่ย" จะว่าไปเมื่อคืนผมยังไม่หายสงสัยเลยว่าเมื่อคืนยัยแฟนคลับเป็นอะไร ผมรู้ว่าเธอร้องให้เพราะผมเรียกเธอว่ามีโซแต่มันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องนะแค่คำว่ามีโซเองเนี่ยนะที่จะทำให้เธอร้องให้ ผมว่ามันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นแน่นอน เพราะเธอดูออกจะเป็นคนร้องให้ยากจะตาย คงไม่ร้องให้กะอีแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆหรอก โอ้ยยยจะคิดทำไมให้ปวดหัวเนี่ย โว้ะ!ไปอาบน้ำดีกว่า





    ผ่านไปเกือบๆ10นาทีชานยอลก็เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะเดินไปแต่งตัวที่ห้อง และเดินไปหาอะไรกินที่ห้องครัว ชานยอลจัดการเปิดตู้เย็นเพื่อหาของกินในมื้อสาย แต่ในขณะที่ตู้เย็นยังไม่ได้เปิดออกเต็มที่แค่แง้มๆไว้นิดหน่อย ชานยอลก็ได้ยินเสียงของใครบางคนดังขึ้นมาจากทางข้างหลัง





    "อ้าวชานยอลมาหาไรกินหรอ" อี้ชิงเดินเข้ามาหาน้ำดื่มในห้องครัวก่อนจะเห็นชานยอลกำลังเปิดตู้เย็น เขาจึงทักขึ้น

    "คับฮยอง" และเมื่อชานยอลได้ยินคำทักทายของคนๆนั้นเป็นผลให้ชานยอลหันไปมองและเมื่อรู้ว่าเป็นอี้ชิงเขาจึงตอบว่า"คับ"

    "อ้าว อี้ชิง มาทำไรที่ห้องครัวอ่ะ อ้าวชานยอล เพิ่งตื่นหรอทำไมวันนี้นายนอนกินบ้านกินเมืองจังอ่ะ" จงแดที่เพิ่งเดินเข้ามาในเหตุการณ์เมื่อเจออี้ชิงก็ทักทาย และก็หันไปก็เห็นชานยอลเลยทักทายแบบกวนๆสไตร์จงแด 

    "อืม" บอกเลยนะว่าวันนี้ผมเป็นไรไม่รู้เซ็งสุดๆ อยู่ๆก็รู้สึกเบื่อขึ้นมา

    "นี่นายเป็นไรของนายเนี่ย " จงแดถามชานยอลด้วยความเป็นห่วง

    "ป่าว" ชานยอลตอบสั้นๆง่ายๆ

    "อ้าว ชานยอล แหมนอนกินบ้านกินเมืองเชียวนะวันนี้ มาหาไรกินอ่ะดิ่ ของกินอ่ะไม่มีหรอก ถ้านายหิวก็ออกไปหาไรกินนอกหอเถอะ " เสียงแบคฮยอนดังขึ้นก่อนที่ผู้ชายร่างเล็กเจ้าของเสียงจะเดินมาหาชานยอล

    " หรอ อืม งั้นไปล่ะ" บอกแล้วไงล่ะว่าเซ็ง 


    หลังจากที่สิ้นสุดคำพูของชานยอล ชานยอลก็เดินออกมาจากห้องครัว ก่อนที่จะเดินตรงไปยังประตูเพื่อออกไปหาของกิน


    "นี่วันนี้ชานยอลเป็นไรอ่ะ" แบคฮยอนถามเมื่อเห็นว่าวันนี้ชานยอลดูพูดน้อยผิดปกติ


    " ไม่รู้ดิ่ สงสัยโดนซูโฮดุเรื่องออกไปนอกหอเมื่อคืนยาวเลยหงอยมั้ง" อี้ชิงตอบ

    "เฮ้อ...เซฮุนหนาเซฮุน จะบอกทำไมก็ไม่รู้ว่าเมื่อคืนชานยอลแอบออกไปนอกหอ" จงแดพูดบ้าง



    ตอนนี้ผมออกมานอกหอเพื่อมาหาของกิน และผมก็ไม่ได้ปลอมตัวดังนั้นถ้าถามว่าเสี่ยงไหมที่จะเจอซาแซงผมบอกเลยนะว่าเสี่ยงมากกกกก แต่ทำไงได้อ่ะ ก็ผมลืมหยิบแว่นมาหนิ เอาวะช่างเถอะถ้าเจอก็แค่วิ่งหนีสถานเดียว

    ระหว่างทางที่ผมเดินหาของกินอยู่นั้นผมก็ไปเจอเซฮุนที่กำลังจะเดินสวนทางกัน แหมเจอตัวซักทีนะไอตัวดี

    "นี่เซฮุน มาเครียให้รู้เรื่องเลย นายไปบอกซูโฮทำไมว่าฉันออกไปนอกหอ" ชานยอลรีบเรียกเซฮุนก่อนจะเดินตรงไปหาเพื่อเครียเรื่องบางเรื่อง

    "อ้าวฮยอง เป็นไงห้ะ แก้ตัวรอดไหม" เซฮุนตอบไปแบบกวนๆ

    "ยังจะมากวนอีก นายรู้ไหมว่าฉันโดนหลีดว่าจนหูเกือบชาแถมฉี่แทบลาด"

    "แหมแต่ฮยองก็แก้ตัวได้หนิ"

    "เอางี้ไหม วันนี้ฮยองก็ไปหานูน่าที่ห้องสิจะได้อารมณ์ดี" เซฮุนเสนอความคิดแจ่มๆไปให้ชานยอล

    "วันนี้ <ชื่อคุณ>ไปมหาลัย" ชานยอลตอบด้วยใบหน้าเซ็งสุดสุด

    "ฮยองก็ไปรับนูน่าไง"

    "ไปรับที่มหาลัยแล้วก็พาไปทีที่นึง" ชานยอลได้ไอเดียแจ่มๆ

    "ดีเลย ว่าแต่ฮยองต้องพานูน่าไปสถานที่ที่มันดีนะเข้าใจไหม"

    "เออ น่า ไม่พาไปม่านรูดหรอก นายก็รู้ว่าฮยองไม่ใช่คนแบบนั้น"

    "งั้นนายก็มากลับฮยองเนื่ยแหละ"

    ชานยอลลากเซฮุนให้ไปสถานที่ที่นึงเพื่อไปเอารถ และหลังจากนั้นชานยอลก็ขับมอไซต์แล้วให้เซฮุนนั่งซ้อนท้ายมาจนถึงน่ามหาลัยของคุณ ซึ่งตอนนี้ชานยอลดูตื่นเต้นมากที่จะได้เจอคุณ แต่เซฮุนกลับเบื่อและเซ็งเพราะตัวเองนั้นต้องถูกชานยอลลากให้มาเป็นเพื่อน  




    มาทางด้านคุณ


    "นี่<ชื่อคุณ>เลิกเรียนแล้วเธอจะไปไหนต่อล่ะ" เลิฟ เพื่อคนไทยที่ได้ทุนมาเรียนที่เกาหลีเหมือนกับคุณและเป็นเพื่อนห้องเดียวกันกับคุณก็ทักขึ้น

    "อ่อ ก็อาจจะกลับหอน่ะ" คุณตอบกลับ

    "หรอ" เลิฟพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้านิดๆ

    "ว่าแต่เธอจะไปไหนหรอ" คุณถามกลับเมื่อเห็นเลิฟสีหน้าดูเศร้าๆ

    "อ่อไปเมียงดงน่ะ แต่ฉันแค่ไม่มีเพื่อนไปด้วย" เลิฟตอบด้วยน้ำเสียงที่เศร้าเหมือนเคย 

    "อ่าวแล้ว ชเวซอนไม่ไปด้วยหรอ" คุณถามเมื่อไม่เห็นชเวซอนเพื่อนซี้ของเลิฟ

    "ชเวซอนหรอ เห็นบอกว่าไม่ไปอ่ะ เธอมีนัดกับรุ่นพี่ยุนกิน่ะ" เลิฟตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าเช่นเคย

    "มีนัดกับรุ่นพี่ที่เป็นคนญี่ปุ่นอะหรอ" คุณตกใจนิดหน่อยเพราะเห็นว่าสองคนนี้ตัวติดกันมากแถมชเวซอนยังบอกคุณว่าเธอเป็นเพื่อนซี้เพื่อนตายของเลิฟ ไม่ว่าเลิฟอยู่ไหนชเวซอนก็จะไปด้วยทุกที่ไหงมาเห็นหนุ่มรุ่นพี่ดีกว่าเพื่อนซะงั้น

    "หึ บ้าผู้ชาย ผู้หญิงนี่จะเป็นแบบนี้เหมือนกันหมดเลยรึไง เห็นผู้ชายหล่อๆเข้ามาจีบ ก็ง่ายยอมให้จีบ ทำตัวไร้ค่า" ซอนแบในขณะที่นั่งฟุบหน้าหลับอยู่ๆก็ลุกมานั่งตรงๆ ก่อนจะว่าชเวซอน

    "นี่แค่ผู้หญิงคนเดียว นายอย่าเหมารวมดิ่"เมื่อคุณเห็นซอนแบพูดประโยคที่ดูถูกผู้หญิงคุณก็เกิดอาการรับไม่ได้อย่างมากกก

    "หรือเธอจะบอกว่าไม่จริงห้ะ" ซอนแบกับคุณเริ่มต่อล้อต่อเถียงกัน

    "จริงน่ะมันก็จริงแต่นายอย่าเหมาหมดดิ่ อ๋อ ที่นายอ่ะดีนักหรอไงห้ะ ผู้ชายอะไรดูถูกผู้หญิง เหอะไม่เคยเจอ "คุณกับซอนแบเริ่มเปิดศึกกัน

    "นี่!!! ยัย"ซอนแบกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ  โอ้ยยย ถ้ายัยนี่เป็นผู้ชายนะป่านนี้ได้เจอมัดไปแล้ว แม่งเอ้ยทำไมมันไม่เป็นผู้ชายวะ 

    "ทำไม กำหมัดทำไมจะต่อยฉันหรือไงห้ะ อยากต่อยก็ต่อยเลย ต่อยดิ"คุณเริ่มท้าทายซอนแบ  เหอะไหนดูดิ่ว่าจะกล้าต่อยไหม ถ้านายคิดว่าแน่ก็ต่อยมาเลยสิซอนแบ


    ซอนแบพยายามควบคุมอารมณ์และสติให้เป็ปกติก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก

    "ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อย"เมื่อซอนแบพูดจบซอนแบก็ไม่รอช้าให้คนตัวเล็กตรงหน้าตอบแต่จัดการจับมือคุณก่อนจะลากให้มาห้องน้ำเป็นเพื่อนในทันที

    "ซอนแบ เดี๋ยวก่อน" คุณเดินตามแรงดึงของซอนแบโดยที่คุณไม่ค่อยแน่ใจนักว่าตอนนี้คุณกำลังเดินตามแรงดึงหรือวิ่งตามแรงดึงกันแน่

    "ซอนแบ ปล่อยมือฉันก่อน ฉันเจ็บ" แม้ว่าคุณจะตะโกนดังเท่าไรซอนแบก็ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมือคุณเลยสักนิด


    เมื่อซอนแบลากคุณมาถึงห้องน้ำ ซอนแบก็จัดการปล่อยมือคุณให้เป็นอิสระ


    "นี่ นายโลกจิตหรอไงห้ะซอนแบ อ๋อ นี่นายอย่าบอกนะว่านายจะต่อยฉันที่หน้าห้องน้ำอ่ะ  หึ ทำไมไม่ต่อยให้คนเห็นล่ะ"เมื่อซอนแบปล่อยคุณปุ๊บคุณก็จัดการกวนประสาทและท้าทายอีกครั้ง

    "หึ ปากดีนักใช่ไหม"ซอนแบเดินเข้าไปประชิดร่างคุณก่อนจะนำมือของเขาข้างหนึ่งไปดันไว้กับกำแพงเพื่อเป็นการปิดทางไม่ให้คุณหนีไปไหนได้

    "นี่นายคิดจะทำอะไรอ่ะซอนแบ" คุณถามซอนแบเมื่อเห็นว่าซอนแบเริ่มที่จะขังคุณไว้ในช่องระหว่างกลางของแขนทั้งสองข้างเพื่อไม่ให้คุณหนีไปไหนได้

    "หึ ปากดีต่อสิ เงียบทำไมล่ะ" ซอนแบตะคอกใส่หน้าคุณเมื่อเห็นว่าคุณเริ่มเงียบ


    คุณไม่พูด ซอนแบไม่พูด ต่างคนต่างเงียบ จนตอนนี้ความเงียบได้เข้ามาปกคลุมคุณทั้งสองเรียบร้อย ตอนนี้ภายในมหาลัยแทบจะไม่มีใครอยู่นอกจากเด็กมหาลัยที่นั่งทำงานค้าง และตอนนี้สถานที่ที่ซอนแบกับคุณอยู่นั้นคือหน้าห้องน้ำซึ่งมีน้อยคนที่จะเดินผ่าน ซอนแบมองใบหน้าอันขาวผ่องและมองลำคอที่ขาวนวลเนียนของคุณก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งเอื้อกใหญ่ และยิ่งตอนนี้คุณกำลังหันหน้าหนีไปทางอื่น มันยิ่งทำให้ซอนแบเห็นลำคออันขาวนวลเนียนของคุณมากขึ้น ซอนแบนำมือข้างนึงไปจับคางของคุณให้เชยขึ้นมาสบตากัน ตอนนี้สายตาคุณสบเข้ากับสายตาของซอนแบอย่างจัง ซอนแบค่อยๆเลื่อนใบหน้าของเขาเข้าไปใกล้ใบหน้าของคุณ ตอนแรกเขาไม่ได้ทำเพราะหวังที่จะจูบคุณแต่เขาแค่ทำเพราะอยากแกล้งคุณเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเริ่มเปลี่ยนใจแล้ว เพราะใบหน้าของคุณนั้นน่ารักเกินไปทำให้เขาอยากขโมยจูบคุณ


             'ขอร้องล่ะ อย่าเพิ่งมีใครหรืออะไรมากวนผมในเวลานี้เลย' 


    xoxo~xoxo~xoxo


              'โอ้ย ไอบ้าเอ้ย'
    ซอนแบนึกโมโหอยู่ในใจ  โทรศัพท์ใครมาดังตอนนี้วะ กำลังจะได้สั่งสอนยัยปากร้ายนี่อยู่แล้วเชียว
    หลังจากที่เจ้าของโทรศัพท์รู้ตัวว่าทีคนโทรมาส่งผลให้คุณนั้นล้วงมือไปหยิบโทรศัพท์ที่กระเป๋ากางเกงยีนแต่เมื่อคุณเห็นเบอร์ที่โชบนหน้าจอไอโฟน6 คุณก็ต้องลังเลใจอยู่นานว่าจะรับดีไหมแต่แล้วคุณก็ตัดสินใจรับสาย
    " ยอโบเซโย !"หลังจากที่คุณลังเลใจอยู่นานว่าจะรับดีไหม เพราะเบอร์ที่โทรเข้ามาคือเบอร์แปลก มันไม่ใช่เบอร์ของคนไทย แต่มันเป็นเบอร์ของเกาหลีและคุณก็ยังไม่ได้ให้เบอร์ใครที่ไหนเลย คุณจึงตัดสินใจรับสายอย่างกล้าๆกลัวๆ


    "อ่ะฮยองเธอรับสายแล้ว  ไม่เอาหน่า ฮยองอยากคุยกับเธอก็คุยเองสิ อย่าปอดแหกได้ป้ะฮยอง" เมื่อคุณรับสายคุณก็ต้องอึ้งเพราะเสียงต้นสายที่โทรมาหาคุณเขากับหันไปพูดกับคนอีกคน

    "เอ่อ... ยอโบเซโย <ชื่อคุณ>ใช่ไหม "


    "เอ่อ... ชะ ใช่ ค่ะ นี่ใครโทรมาหรอคะ"


    "น่าน้อยใจจัง ที่เธอจำเสียงฉันไม่ได้หรอ"


    "ห้ะ เอ่อ... ใครหว่า เอ่อ...จำไม่ได้ค่ะ"


    "ใบ้ให้คนที่ไปหาเธอเมื่อคืน" 


    "คนที่มาหาฉันเมื่อคืน  เอ่อ.....  ชานยอล" คุณตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพราะไม่มั่นใจเท่าไร กลัวหน้าแตก


    "ดีนะที่เธอยังจำได้ว่าใครไปหาเมื่อคืน ว่าแต่วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง เข้ากับเพื่อนได้ไหม"


    "นี่ชานยอลจริงๆหรอ" คุณถามไปเพราะไม่อยากเชื่อว่าชานยอลจะโทรมาหาคุณ  คุณไม่ได้ให้เบอร์เขาแล้วเขาไปเอาเบอร์คุณมาได้ยังไง


    "ใช่คับผมเอง ว่าแต่ตอนนี้คุณเลิกเรียนแล้วใช่ไหม ถ้าใช่ ผมรออยู่หน้ามหาลัยนะ รีบมาล่ะ ผมจะพาคุณไปทีที่นึง" 


    "ห้ะ ฮัลโหล ชานยอล ชานยอล" เมื่อสิ้นเสียงชานยอล ชานยอลก็กดวางสายทันที่  โอ้ยจะรีบไปไหนเนี่ยชานยอล


    คุณจัดการเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะหันไปมองซอนแบที่ยืนกอดอกมองคุณอยู่ข้างหน้า


    "กลับบ้านดีดีนะซอนแบ "คุณหันไปโบกมือให้ซอนแบก่อนจะรีบวิ่งมาเอากระเป๋าที่ห้อง ซึ่งการกระทำของคุณมันทำให้ซอนแบงง เพราะเมื่อตะกี้ซอนแบเขากำลังล่วงเกินคุณแต่คุณกับโบกมือลาเขาโดยไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธเลยสักนิด


                       'ทำไมยัยนี่ไม่โกรธเขาเลยล่ะ นี่ตกลงเธอเป็นคนยังไงกันแน่นะ<ชื่อคุณ>'

    เมื่อคุณวิ่งมาเอากระเป๋าที่ห้องปุ้บคุณก็ต้องรีบวิ่งลงไปข้างล่างก่อนจะรีบตรงไม่ยังหน้ามหาลัย เมื่อคุณวิ่งมาถึงหน้ามหาลัยคุณก็ใช้สายตามองหาชานยอลแต่ก็ไม่เจอโยกตัวแล้วเขย่งตัวแล้วมองซ้ายมองขวาก็แล้ว แต่กลับไม่เจอผู้ชายที่มีนามว่าปาร์คชานยอลเลย

                        'โดนหลอกซะแล้วเรา'

    คุณถอนหายใจเฮือกใหญ่และเหนื่อยใจกับความเชื่อคนง่ายของตัวเอง
    ตอนนี้คุณก็ไม่เจอใครแล้ว คุณเลยก้าวขาเพื่อจะตรงไปยังป้ายรถเมร์แต่คุณก้าวได้แค่ก้าวเดียวเท่านั้น คุณก็ต้องชะงักเพราะ ตอนนี้คุณกลับมองไม่เห็นอะไรเลย มันมืดไปหมด

    "เดาซิ ใครเอ่ย" มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลังคุณ และแน่นอนว่าต้องเป็นเขาที่เอามือมาปิดตาทั้งสองข้างของคุณ

    "ชานยอล"คุณนำมือไปสัมผัสกับมือของคนที่ปิดตาคุณ และคนๆแรกที่หัวสมองคุณคิดนั่นก็คือชานยอล

    "ถูกต้อง"ชานยอลเอามือออกจากตาคุณก่อนจะจับให้ตัวคุณหันมาทางเขาอย่างรวดเร็ว

    "อย่างนี้ต้องให้รางวัล"ชานยอลรีบเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้คุณเพื่อหวังจะหอมแก้วอันขาวผ่องของคุณ

    แต่ ฝันไปเถอะว่าคุณจะให้เขาหอม แม้ว่าครั้งนี้เหตุการณ์มันจะมาอย่างเร็วโดยคุณไม่ได้ตั้งตัว แต่คุณก็สามารถเอามือปิดหน้าตัวเอง ปิดทุกที่ทุกมุมเพื่อไม่ให้ร่างสูงตรงหน้าได้ชมมความหอมของแก้มคุณ

    "5555แหม แกล้งนิดเดียวเอง ฉันไม่หอมแก้มเธอหรอกน่า "

    คุณค่อยๆคลายมืออกจากหน้าแล้วหวังว่าเขาคงจะไม่เผลอมาหอมแก้มคุณนะ

    "ไปกันเถอะ ผมมีที่นึงที่อยากพาคุณไป"

    "ชานยอลนายมาคนเดียวหรอ"

    "ป่าวหรอก ตอนแรกเซฮุนมาด้วย แต่อยู่ดีๆมันก็บอกว่ามีธุระขอไปทำธุระก่อน ฉันจึงรอเธออยู่คนเดียว"

    "ว่าแต่นายไม่ปลอมตัวหรือไงเดี๋ยวคนก็จำได้หรอก"

    "ไม่อ่ะ ขี้เกียจ "

    คุณและชานยอลเดินคุยกันไปเรื่อยๆจนมาถึงรถมอไซต์คันนึงตอนแรกคุณก็ไม่คิดหรอกว่าเป็นมอไซต์ของชานยอลแต่พอชานยอลหยิบหมวกกันน๊อกให้คุณคุณก็ตกใจนิดหน่อยเพราะมอไซต์ที่ชานยอลจะขับคือมอเตอร์ไซต์ยี่ห้อhyosung gv 650 ถือว่าเป็นมอไซต์ที่ดูเท่และไฮโซมากกกกชานยอลเดินไปขึ้นนั่งบนมอไซต์ก่อนจะสตาทรถ

    "นี่ เป็นไรป่าว ยืนอึ้งอะไรอยู่มาซ้อนเร็ว" เมื่อชานยอลเห็นว่าคุณกำลังยืนอึ้งอยู่ชานยอลเลยบอกให้คุณรีบขึ้นค่อมมอไซต์

    คุณสวมหมวกกันน๊อกก่อนจะเดินไปที่มอไซต์แล้วจัดการค่อมมอไซต์ซ้ะ 

       
    'หยอยมันจะพาฉันไปไหนเนี่ย'


     

    100%
     

    เย้!!!!ครบ100%แล้วน้า

    ช่วงนี้ไรท์ยุ่งมากกกไม่ว่างเลยจริงๆ
    และอีกอย่างช่วงนี้ก็ใกล้ถึงเวลาสอบแล้วด้วย
    ไรท์เลยต้องอ่านหนังสือ
    แต่ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน
    ไรท์ก็จะไม่ทิ้งนิยายเรื่องนี้เด็ดขาดไรท์จะแต่งให้จบ
    และไรท์จะพยายามไม่ดองนะ 
     ว่าแต่ชานยอลกำลังจะพานางเอกของไรท์ไปไหน
    บอกเลยว่าตอนหน้าจะมีตัวละครเพิ่มมา
    แต่ไรท์ยังไม่บอกตอนนี้นะว่าใครถ้าอยากรู้ต้องติดตาม
    คิดถึงนางเอกทุกคนเลยน้าาาา  
    และสุดท้ายนี้ไรท์อยากจะบอกว่า
    คอมเม้นได้น้าไรท์ไม่ว่า ไม่กัด ไม่เวี่ยง เพราะคอมเม้นของแต่ละคน
    คือพลังที่สำคัญของนิยายเรื่องนี้รวมถึงไรท์ด้วย
    จะติจะชมอะไรยังไงเชิญตามสบายเลยน้าอยากเม้นเม้นโลด



     



    และนี่ก็คือมอเตอร์ไซต์  hyosung gv650 ของชานยอลนั่นเองเป็นไงล่ะเท่ห์ไหม
    ไหนใครอยากซ้อนท้ายชานยอลบ้างขอเสียงหน่อย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×